ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 19:41
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  แผ่นดินที่ไม่มี พรหมวิหาร..(นิธิ เอียวศรีวงศ์) 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
แผ่นดินที่ไม่มี พรหมวิหาร..(นิธิ เอียวศรีวงศ์)  (อ่าน 1719 ครั้ง)
morning star
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,119


don't let them make up your mind


« เมื่อ: 30-07-2006, 22:41 »

เก่าหน่อยนะครับแต่เห็นความขัดแย้งที่ทำท่าจะไม่ยอมจบ..ผมขอเอามาให้อ่านกันอีกที เผื่อใครหลาย ๆ ท่านจะพลาดข้อเขียนดี ๆ อย่างนี้ไป

แผ่นดินนี้ไม่มีที่อยู่ของพรหม

นิธิ เอียวศรีวงศ์ มติชนรายสัปดาห์ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 26 ฉบับที่ 1337

ข่าวที่เศร้าสะเทือนใจและประหวั่นพรั่นพรึงที่สุดในรอบหลายปีในทัศนะของผมคือข่าวพระพรหมเอราวัณถูกทุบทำลาย

พระพรหมเอราวัณนั้นเป็นทั้งวัตถุแห่งความเชื่อถือและบูชาของคนจำนวนมาก โดยไม่จำกัดศาสนา เพศ และชาติพันธุ์

แต่ก็น่าประหลาดอยู่นะครับ ในบรรดาคนต่างชาติต่างศาสนาที่เข้าไปประกอบพิธีกรรมหลากหลายรูปแบบให้แก่พระพรหมนั้น ผมสังเกตมานานแล้วว่ามีฮินดูน้อยที่สุด

คนไทยที่นับถือศาสนาฮินดูคนหนึ่งบอกผมว่า ทุกครั้งที่ผ่านตรงนั้น เขาก็จะกระทำนมัสการพระพรหมข้างนอกทีหนึ่ง เพราะเป็นรูปพระพรหมอันเป็นเทพที่เขานับถือ แต่เขาไม่เคยเยี่ยมกรายเข้าไปข้างในสักครั้งเดียว

อย่างไรก็ตาม พระพรหมเอราวัณเป็นที่นับถือของคนต่างศาสนิกกันมากกว่ารูปเคารพใดๆ ในโลกกระมัง

ทั้งนี้ ก็เพราะลัทธิพระพรหมเอราวัณนั้นไม่เป็นและพยายามไม่เป็น "ศาสนา" (อย่างน้อยก็ไม่เป็นอย่างบริบูรณ์) เช่น ไม่มีกฎเกณฑ์ทางศีลธรรมกำกับ แต่ละคนเคยยึดถือกฎเกณฑ์ทางศีลธรรมของศาสนาอะไรมา เป็นสาวกของลัทธินี้แล้ว ก็ยึดถือต่อไปได้เหมือนเดิม แม้แต่การประกอบพิธีกรรมบูชา ทำอย่างไรก็ได้ที่ไม่ถูกมองว่าเป็นการลบหลู่ดูหมิ่นเป็นใช้ได้หมด

อันที่จริงก็ไม่ต่างจากลัทธิพิธีอื่นๆ ซึ่งเกิดขึ้นดกดื่นในสังคมไทยเวลานี้ ซึ่งไม่สอดคล้องกับปรมัตถธรรมของพระพุทธศาสนาแต่อย่างใด

และเพราะเหตุที่ท้าวมหาพรหมเอราวัณเป็นที่นับถือสักการะจากผู้คนมากหน้าหลายตาอย่างนี้ จึงเป็นแหล่งรายได้ใหญ่โตอย่างไม่น่าเชื่อไปพร้อมกัน

ดูเฉพาะรายได้ที่มูลนิธิท้าวมหาพรหมเก็บได้ในแต่ละปีก็มหาศาล ยังไม่นับรายได้ที่เกิดจากการค้าขายของบูชาและอื่นๆ อีกมาก รวมทั้งยังไม่นับรายได้ทางอ้อม เช่น แท็กซี่ซึ่งนำผู้โดยสารทั้งไทยและเทศมาส่ง

ตลอดจนเป็นแหล่งน่าสนใจสำหรับการท่องเที่ยวในทำเลซึ่งเป็นศูนย์กลางของนักท่องเที่ยวด้วยโรงแรมสิบๆ แห่งแถวนั้น

ความสำคัญของท้าวมหาพรหมเอาราวัณจึงไม่ได้อยู่ที่ศรัทธาของผู้คนที่เป็นสาวกของลัทธิพิธีเพียงอย่างเดียว แต่พัวพันไปกับผลประโยชน์ทางตรงทางอ้อมมหาศาล เชื่อมโยงตั้งแต่คนกวาดถนนไปถึงนักธุรกิจระดับบนที่ได้กำไรจากการท่องเที่ยวอยู่ในเวลานี้

แล้ววันหนึ่ง พระพรหมเอราวัณก็ถูกทุบทำลายโดยชายสติไม่สมประกอบคนหนึ่ง ซึ่งตามข่าวหนังสือพิมพ์บอกว่าก็เริ่มเป็นสาวกของท้าวมหาพรหมเช่นกัน จึงบนบานขอให้ได้ติดใบแดงในการเกณฑ์ทหาร แต่ด้วยอิทธิฤทธิ์ของทฤษฎีควอนตัม เขากลับจับได้ใบดำ อดเป็นทหารไป

ด้วยความผิดหวังและปฏิกิริยาต่อความผิดหวัง ที่ความป่วยไข้ของตัวเองรอนพลังที่จะควบคุมไว้ให้อยู่ในขีดที่ถือว่าปรกติสามัญได้ เขาจึงเอาค้อนไปทุบพระพรหมซึ่งทำขึ้นจากปูนปั้นปิดทองจนเสียหายยับเยิน

คนที่เห็นเหตุการณ์ไล่จับตัวได้แล้วลงประชาทัณฑ์จนเขาจบชีวิตลง ลงประชาทัณฑ์ก็ต้องแปลว่ามีคนที่เข้าไปทำร้ายเขาจำนวนมาก ไม่ใช่แค่สองคนที่ถูกจับได้ในภายหลังเท่านั้น ร้ายไปกว่านั้นการกระทืบเขาจนตายนั้นเกิดขึ้นกลางถนน แปลว่ามีคนอื่นที่ไม่ร่วมในพิธีกรรมประชาทัณฑ์ เห็นเหตุการณ์อีกมาก แต่ไม่ได้ลงมือทำอะไรเพื่อยุติการฆ่าคนกลางถนน อาจส่งเสียงสนับสนุน หรือยืนดูเฉยๆ หรือตื่นตกใจจนคิดไม่ทันว่าควรทำอะไรต่อไป

ทีวีไปสัมภาษณ์ผู้คนซึ่งไปมุงดูศาลท้าวมหาพรหมในวันรุ่งขึ้น หนึ่งในนั้นให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำตาและเสียงสะอื้นว่า สงสารท้าวมหาพรหม แต่ก็เชื่อว่าตัวท่านคงไม่เป็นไร เพราะท่านคงไม่ได้สถิตอยู่ตรงนั้นกระมัง แต่ท่านจะประทับอยู่ที่ไหนตัวเขาไม่ทราบ

ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าท้าวมหาพรหมประทับอยู่ที่ไหน แต่เนื่องจากไม่ได้เป็นสาวกของลัทธิพิธีนี้ ความรู้ที่พอมีบ้างเกี่ยวกับพรหมของผมจึงมาจากพระพุทธศาสนา

และถ้าถามชาวพุทธว่าที่อยู่ของพรหมอยู่ที่ไหน คำตอบน่าจะเป็นว่าอยู่ที่พรหมวิหาร ซึ่งแปลตามศัพท์ว่าที่อยู่ของพรหมตรงๆ เลย ชาวพุทธส่วนใหญ่ถูกสอนให้ท่องจำมาแล้วทั้งนั้น ว่าที่อยู่ของพรหมคือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา

ฉะนั้น การรุมกระทืบชายผู้มีสติไม่สมประกอบคนหนึ่งซึ่งไม่รู้หรือประมาณไม่ได้ว่าผลของการกระทำของตัวคืออะไร ท่ามกลางสายตาของคนที่ประกาศตนเป็นพุทธศาสนิกจำนวนมาก

จึงเท่ากับทำลายที่อยู่ของพรหมไปพร้อมกับทำลายรูปเคารพพรหม

รูปเคารพนั้นสร้างขึ้นใหม่ได้ง่าย และเวลานี้มูลนิธิท้าวมหาพรหมก็ลงทุนจะสร้างขึ้นใหม่ให้ดีกว่าเก่าด้วย แต่ที่อยู่ของพรหมที่พังไปแล้วนี่สิครับ จะสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร เพราะเงินไม่อาจสร้างที่อยู่ของพรหมขึ้นใหม่ได้

ร้ายไปกว่านั้น ถ้าวางทัศนคติต่อเงินไม่ถูก เงินนั่นแหละคือฆ้อนที่ทุบทำลายที่อยู่ของพรหมได้เด็ดขาด สิ้นซากยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น

ดังที่สังคมไทยเวลานี้ มองไม่เห็นเลยว่าที่อยู่ของพรหมได้ถูกทำลายลงอย่างย่อยยับในเหตุการณ์ครั้งนี้ และดูเหมือนไม่มีฝ่ายใดสนใจจะเพียรสร้างที่อยู่ของพรหมให้กลับขึ้นมาใหม่เลย

รัฐบาลส่งรองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งไปตรวจเยี่ยมความเสียหายของท้าวมหาพรหมเกือบจะทันทีที่เป็นข่าว และท่านก็ตัดสินใจให้มีการบูรณะซ่อมแซม รวมทั้งหล่อรูปเคารพขึ้นใหม่

ฝรั่งคนหนึ่งเขียนจดหมายจากฮ่องกงมาถึงหนังสือพิมพ์ในกรุงเทพฯ ด้วยข้อสังเกตว่า จุดแรกที่ท่านรองนายกฯ ไปเยี่ยมไม่ยักกะใช่ครอบครัวของชายผู้ถูกรุมกระทืบจนตาย ซึ่งในขณะนี้ คงตระหนกตกใจ ขวัญเสีย และสับสนงุนงงไปหมด ไม่ใช่เพราะลูกชายเสียชีวิตในวัยอันไม่ควรเท่านั้น แต่คงงุนงงและหวาดผวากับสังคมที่เขาจะต้องใช้ชีวิตต่อไปข้างหน้าด้วย

ขนาดพระพรหมยังไม่มีที่อยู่ คนเล็กๆ อย่างเขาจะอยู่ที่ไหน และอยู่ได้อย่างไร

จากนั้น สื่อซึ่งก็คงใช้ความชำนาญในการเก็งความสนใจของคนรับสื่อมานาน ก็ให้รายละเอียดเกี่ยวกับโครงการซ่อมท้าวมหาพรหมกันเกือบจะทุกสื่อ ข่าวคราวและเรื่องราวของครอบครัวผู้สูญเสีย หรือของชายสติไม่สมประกอบคนนั้นแทบจะไม่ปรากฏให้สาธารณชนได้รับรู้อีกเลย

คุณคนนั้นแกร้องอะไรก่อนที่จะเสียชีวิต แกเป็นคนอย่างไรในสายตาของครอบครัว, มิตรสหาย, ชุมชน คุณหมอที่เคยพยายามบำบัดรักษาแกมาก่อนมีความเห็นเกี่ยวกับตัวแกในฐานะมนุษย์อย่างไร ก่อนที่แกจะป่วยทางจิตประสาทแกเป็นคนอย่างไร

ยิ่งกว่าที่ไม่มีใครใส่ใจพูดถึงเท่านั้น ตามจดหมายของคุณพ่อของแกที่เขียนถึงหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง แกยังถูกกระทืบซ้ำอีกครั้งในการชุมนุมของ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" (ครับอ่านไม่ผิดหรอกครับ เขาใช้คำว่า ประชาธิปไตยจริงๆ ครับ)

เมื่อผู้นำคนหนึ่งออกมาพูดว่า เขาคือคนที่รับจ้างเอาอาถรรพณ์เขมรมากระทำย่ำยี่แก่รูปเคารพที่คนไทยนับถือ เพื่อหวังผลทางการเมืองบางอย่าง

ผมเก็งไม่ถูกหรอกครับว่าเรื่องราวของแกจะทำให้ขายสื่อได้หรือไม่ แต่ผมมั่นใจว่าถ้าเรื่องราวของแกในฐานะมนุษย์คนหนึ่งปรากฏแก่สาธารณชนผู้รับสือจากแง่มุมต่างๆ อันหลากหลายอย่างที่มนุษย์คนหนึ่งย่อมปรากฏแก่ผู้อื่น คนคงไม่ลืมไปว่า สิ่งที่ถูกรุมกระทืบตายไปนั้นคือเพื่อนมนุษย์ของเราคนหนึ่ง ซึ่งมีสายสัมพันธ์โยงไยอยู่กับมนุษย์คนอื่นเหมือนกับเราและผู้กระทืบนั่นเอง

แต่น่าสังเกตเป็นพิเศษนะครับว่า คนที่เป็นเหยื่อของสังคม ไม่ว่ายังหายใจได้หรือตายไปแล้ว มักไม่มีน้ำตา ไม่มีครอบครัว ไม่มีเพื่อน ไม่มีใครที่รักเขา

หรือพูดอีกอย่างหนึ่งไม่เคยมีชีวิตอยู่เลย เป็นวัสดุที่แตกหักเพราะอุบัติเหตุเท่านั้น

เช่น นอกจากผู้นำเพียงไม่กี่คน ใครนึกถึงหน้าของชาวสมัชชาคนจนออกบ้าง คนที่เดือดร้อนเลือดตาแทบกระเด็นจากโครงการของรัฐนานาชนิดเหล่านั้น มีชื่อก็เหมือนไม่มี, มีชีวิตก็เหมือนไม่มีชีวิต เช่นเดียวกับชาวจะนะ, บ้านกรูด บ่อนอก ผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากเหมืองโพแทสที่อุดร, ชาวเขาที่เจ็บป่วยจากพิษสารตะกั่วที่คลิตี้ล่าง, คนอีกมากที่ถูกป่าไม้ไล่ออกมาจากป่าซึ่งถูกประกาศเป็นเขตอุทยานตามใจชอบ ฯลฯ

ฉะนั้น ก่อนที่ท้าวมหาพรหมจะถูกทุบทำลาย พรหมก็ไม่มีที่อยู่ในเมืองไทยมานานแล้ว

จึงไม่ประหลาดอันใดที่สังคมนี้เป็นสังคมที่ระดับความอดทนต่อความขัดแย้งมีจำกัดมาก เลือดตกยางออกได้ง่ายเพียงเพราะมีความเห็นทางการเมืองต่างกัน ก็อาจถูก "ฆ่า" ทางบุคลิก ไปจนถึง "ฆ่า" ทางกายได้ง่ายๆ

เขาว่ากันว่า ขึ้นแท็กซี่ผิดคัน ก็อาจถูกไล่ลงกลางทาง แม่ค้าที่เชียร์ทักษิณผิดที่แถวสะพานมัฆวานแทบจะเอาชีวิตไม่รอด (สังคมภายใต้รัฐบาลที่พวกเขาเสนอจะมีพื้นที่เหลือให้ความเห็นที่แตกต่างบ้างไหมหนอ)

เช่นเดียวกับคนที่หลงเข้าไปในฝูงชนที่จตุจักร ก็จำเป็นต้องระมัดระวังคำพูดและการกระทำของตัวให้ดี อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เพราะในประเทศนี้ แม้แต่คนวิกลจริตก็ยังถูกลงโทษถึงตายได้ในบัดดล

ในเวลาอีกไม่นาน ท้าวมหาพรหมองค์ใหม่คงหล่อกันสำเร็จบริบูรณ์ รวมทั้งตัวศาลซึ่งได้เริ่มมีความเห็นกันแล้วว่า จะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ยังมีโอกาสเหลือในสังคมของเราอีกหรือไม่ที่จะรื้อฟื้นที่อยู่ของพรหมกลับขึ้นมาใหม่

ข่าวพระพรหมเอราวัณถูกทุบทำลายจึงเป็นข่าวที่น่าเศร้าสลดใจและน่าประหวั่นพรั่นพรึงที่สุด นับตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค. 2519 เป็นต้นมา

ลูกหลานเราจะอยู่ในแผ่นดินที่พรหมไร้ที่อยู่นี้ได้อย่างไร...
บันทึกการเข้า

อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
หน้า: [1]
    กระโดดไป: