มาดูการใช้จ่ายงบ 2 พันล้านในการเลือกตั้ง 2 เม.ย. กัน

เปิดบัญชีใช้จ่ายเลือกตั้ง 2 เม.ย. "สูญ 2,000 ล." ขาใหญ่กวาด กกต.จ้าง"วิธีพิเศษ"สนุกมือ

ภายหลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตัดสินใจยุบสภาและจัดให้มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2549 ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญมีมติเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2549 วินิจฉัยว่าการเลือกตั้ง 2 เมษายน 2549 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นผลให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 15 ตุลาคม 2549 นี้

กล่าวกันว่าในการเลือกตั้งครั้งนั้น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุด พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ใช้งบประมาณจัดการเลือกตั้งถึง 2,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ส่วนหนึ่งถูกใช้เป็น "งบลับ" ที่แทบไม่มีใครตรวจสอบได้ ยกเว้นสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน

ขณะที่งบประมาณจัดซื้อจัดจ้าง ปรากฏว่าใช้ "วิธีพิเศษ" เกือบทั้งหมด จากการตรวจสอบข้อมูลกับสำนักงาน กกต. พบรายการใช้จ่ายที่น่าสนใจดังนี้

ค่าพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต กกต. ว่าจ้างโดยวิธีพิเศษบริษัท จันวาณิชย์ ซีเคียวริตี้ พริ้นติ้ง จำกัด เป็นผู้จัดพิมพ์ จำนวน 49,500,000 ฉบับ และ บัตรทาบสำหรับผู้พิการทางสายตา จำนวน 384,000 แผ่น ในวงเงิน 63,441,000 บาท

บัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 49,500,000 ฉบับ กกต. ว่าจ้างบริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี จำกัด เป็นผู้จัดพิมพ์ ในวงเงิน 61,875,000 บาท โดยให้เหตุผลว่าเป็นโรงพิมพ์ที่มีมาตรฐานและมีระบบรักษาความปลอดภัย ค่าพิมพ์บัตรเลือกตั้งตัวอย่าง จำนวน 5,000,000 ฉบับ กกต. จ้างโรงพิมพ์อาสารักษาดินแดน วงเงิน 4,800,000 บาท

ค่าใช้จ่ายในการทำตรายางเครื่องหมายกากบาท พร้อมหมึกพิมพ์ จำนวน 543,000 ชุด กกต. ว่าจ้างโดยวิธีพิเศษให้ หจก. ทรงนิมิตซัพพลาย เข้ามาดำเนินการ ในวงเงิน 21,186,000 บาท

ค่าทำหีบบัตรเลือกตั้ง 95,000 ใบ และคูหาลงคะแนน (กระดาษ) จำนวน 95,000 คูหา กกต. จ้างบริษัท ที.วี.แอล.คอร์ปอเรชั่น จำกัด วงเงิน 20.9 ล้านบาท, ค่าทำสายรัดหีบบัตร ส.ส. สายสีน้ำเงิน จำนวน 500,000 เส้น กกต. จ้างบริษัท บางบอนพลาสติกกรุ๊ป จำกัด วงเงิน 1,500,000 บาท สายรัดหีบบัตรสายสีแดง 600,000 เส้น 1,800,000 บาท (เส้นละ 3 บาท) ค่าทำปลอกแขนพลาสติคให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง จำนวน 166,600 ปลอก กกต. จ้างบริษัท เจ.เจ.กรุ๊ป 45 จำกัด ในวงเงิน 11,982,260 บาท

ส่วนงบประชาสัมพันธ์ รณรงค์ผู้มีสิทธิมาใช้สิทธิเลือกตั้ง กกต. ว่าจ้าง บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) โดยวิธีพิเศษในวงเงิน 60 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ อ.ส.ม.ท. ได้รับว่าจ้างรณรงค์การเลือกตั้ง ส.ว. ในวงเงิน 60 ล้านบาทด้วย

งบประชาสัมพันธ์ย่อย กกต. จ้างบริษัท เอส.เอ็น.มีเดีย จำกัด พิมพ์หนังสือเลือกตั้ง ส.ส. กรณียุบสภา จำนวน 100,000 เล่ม วงเงิน 4,400,000 บาท, จ้างบริษัท วิสม่า เอเซีย จำกัด จัดพิมพ์หนังสือคู่มือกรรมการประจำหน่วย 350,000 เล่ม กรรมการนับคะแนน 50,000 เล่ม รวม 400,000 เล่ม วงเงิน 5,940,150 บาท, จ้างบริษัท เอ็ม.เอ.ไอ ครีเอชั่น จำกัด ผลิตสปอตวิทยุและออกอากาศ วงเงิน 1,950,476 บาท

จ้างบริษัท โพลา คอมเมิร์ส จำกัด จัดทำโครงการกิจกรรมรณรงค์และศูนย์รายงานการเลือกตั้ง ส.ส. 3 รายการ วงเงิน 549,980 บาท, จ้างบริษัท เรนโบว์ลิงค์ จำกัด ผลิตและเผยแพร่การรณรงค์เลือกตั้ง ส.ส. ในรายการ "เจาะลึกประเทศไทย" 2 ตอน และรายการ "ชีวิตที่เพียงพอ" 2 ตอน วงเงิน 930,900 บาท, จ้างบริษัท อินไซท์ อินโฟ ผลิตฟิล์มโฆษณาและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในโรงภาพยนตร์ 208 โรง โดยวิธีพิเศษ 3 ล้านบาท จ้างบริษัท ไดนามิค บรอดคาสติ้ง จำกัด ทำสำเนา VCD การปฏิบัติงานของคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง จำนวน 9,000 แผ่น และคณะกรรมการนับคะแนนเลือกตั้ง 2,000 แผ่น 285,300 บาท

จากการตรวจสอบข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า หจก. ทรงนิมิตฯ รับจ้างทำตรายาง เพิ่งก่อตั้งวันที่ 1 เมษายน 2548 ทุน 1 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 19/3-4 หมู่ที่ 3 ซอยพุทธบูชา 36 ถนนพุทธบูชา แขวงบางมด มี นางสาวปาริชาต ศักดิ์สถิรวิฑูรย์ และ นายธีรพล พรมหมมิ เป็นกรรมการ

ขณะที่บริษัท จันวาณิชย์ฯ ผู้พิมพ์บัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตมี นายมารชัย กองบุญมา นางเยาวลักษณ์ กองบุญมา และเครือญาติเป็นเจ้าของ จดทะเบียนจัดตั้งวันที่ 10 กรกฎาคม 2533 ทุนล่าสุด 140 ล้านบาท ที่ตั้งย่านสีลม

ในการเลือกตั้ง สมาชิกวุฒิสภาก่อนหน้านี้ บริษัทนี้ได้รับการว่าจ้างให้พิมพ์บัตรเลือกตั้ง ส.ว. จำนวน 49,500,000 ฉบับ และบัตร ทาบผู้พิการทางสายตา จำนวน 174,000 แผ่น วงเงิน 65,035,000 บาท และจัดทำแถบกั้นพื้นที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ส.ว. จำนวน 100,000 ม้วนในวงเงิน 3.4 ล้านบาท

นอกจากนี้ ในรอบปี 2548 บริษัท จันวาณิชย์ฯ ได้รับการว่าจ้างพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต 2 ครั้ง ครั้งละ 1.5 ล้านใบ ในราคาครั้งละ 1,428,450 บาท จัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งตัวอย่างนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ในราคา 14,800 บาท จัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งตัวอย่างนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) 740 เล่ม 14,800 บาท และจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดลพบุรี (เลือกตั้งซ่อม) ในราคา 665,200 บาท

เบ็ดเสร็จบริษัทนี้รับงานจาก กกต. ถึง 134.2 ล้านบาท

มีข้อมูลระบุว่าตระกูลกองบุญมาทำธุรกิจหลายอย่าง อาทิ บริษัท ซีดาร์ ฮอสพิแทลลิที จำกัด กิจการร้านอาหาร บริษัท ยูนิเวอร์แซล ฮอสพิแทลลิที จำกัด กิจการโรงแรม บริษัท ออโตเมชั่น ไนน์ตี้ จำกัด กิจการค้าขาย บริษัท อาฟโก้ โฮลดิ้ง จำกัด ธุรกิจ นายหน้าตัวแทน และเคยชนะประมูลบัตรประชาชน สมาร์ทการ์ดในช่วงปี 2547

ส่วนบริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี ซึ่งรับพิมพ์บัตรเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ถือหุ้นใหญ่ มี พล.ต.ต.พิทักษ์ จารุสมบัติ (น้องชาย นายพินิจ จารสุมบัติ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข) ร่วมเป็นกรรมการ

สำหรับบริษัท เจ.เจ.กรุ๊ปฯ ผู้จัดทำปลอกแขน น่าสังเกตว่า ประกอบธุรกิจขายเคมีภัณฑ์ ยาปราบศัตรูพืช ก่อตั้งเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2546 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท มี นายจิรศักดิ์ ตรีรัตนถวัลย์ เป็นกรรมการ และ บริษัท ที.วี.แอล.คอร์ปอเรชั่น ผู้ทำหีบบัตร ก่อตั้งปลายปี 2544 ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท มี นางรุ้งวิไล มั่นสินธร และ นางสาวสุรวดี สุวรรณเกต เป็นกรรมการ

เมื่อตรวจสอบในปี 2548 พบว่า กกต. ว่าจ้าง บริษัท แกร็ททิทิว จำกัด ของ นายพัฒนศักดิ์ โนวฤทธิ์ เป็นผู้ประชาสัมพันธ์ เลือกตั้ง อีก 85.6 ล้านบาท

กล่าวได้ว่าเม็ดเงิน 2 ,000 ล้านบาทในการจัดเลือกตั้ง 2 เมษายน 2549 ถือว่าสูญเปล่า และไม่สามารถเรียกคืนเอากับใครได้?

จาก "มติชนสุดสัปดาห์: วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 26 ฉบับที่ 1354"

ผมไม่รู้นะครับว่าค่าใช้จ่ายต่าง ๆ นั้น reasonable หรือเปล่า และใครเป็นใครมีความเกี่ยวพันอะไรกับใคร ก็แค่เอามาให้อ่านกันครับ