ข่าวจากใหน ขอยืนยันหน่อย ชูวิทย์เค้าพร้อมเป็นพยานไม่ใช่เหรอ
อีกเรื่องเมื่อกี้เห็นตัววิ่งที่ผจก.ว่า3หนาได้รับประกันแล้วเหรอ
ใครรู้รายละเอียดมั่ง
3 กกต. มาศาลอาญา ลุ้นขอประกันตัวอีกครั้ง
วันที่ 28 ก.ค. 2549
รายงาน ข่าวจากศาลอาญาแจ้งว่า ช่วงบ่ายวันนี้(28 ก.ค.) อดีตกกต. ทั้ง 3 คน คือ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธานกกต. นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และนายวีระชัย แนวบุญเนียร อดีตกกต. ถูกนำตัวมาส่งด้วยรถตู้สีเงินทะเบียน ฮข 4001 มายังศาลอาญา ก่อนที่จะนำไปที่ห้องพิจารณาคดี 704 เพื่อให้การสอบปากคำประกอบการพิจารณาคำร้องประกันตัวชั่วคราว
โดยช่วงก่อนหน้านี้เล็กน้อย นายชูศักดิ์ เสนาบุญญฤทธิ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญสำนักงานอัยการพิเศษแห่งคดีอาญา 2 ในฐานะทนายจำเลยของอดีตกกต. ทั้ง 3 คน เข้ายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวแก่ 3 อดีตกกต. โดยเอกสารประกอบด้วยหนังสือลาออก ใบรับรองแพทย์ สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคาร
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า การยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวของอดีตกกต.ใหม่อีกครั้งนี้ เป็นการยื่นคำร้องแยกเป็นส่วนบุคคล ในเหตุผลที่คล้ายคลึงกัน รวมทั้งยังมีเหตุผลใหม่ที่เสนอให้ศาลพิจารณา ถึงเงื่อนไขข้อกำหนดพิเศษบางประการ มาตรการจำกัดสิทธิ อาทิ จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้ง พยานหลักฐานต่างๆ ในขณะเดียวกันได้มีภรรยาของนายปริญญา นาคฉัตรีย์ และนายวีระชัย แนวบุญเนียร มารอลุ้นคำสั่งของศาลด้วย
ต่อมาเวลา 14.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 704 ศาล นายอำนวย ธันธรา อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา และนายอนันต์ เสนคุ้ม รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา นั่งบัลลังก์ ไต่สวน อดีต กกต. ทั้ง 3 คนเพื่อประกอบการพิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว
ศาลได้ถามและให้จำเลยตอบ รวม 3 ข้อ คือ ข้อแรก จำเลยแต่ละคนมีโรคประจำตัวอะไร พล.ต.อ.วาสนา จำเลยที่ 2 แถลงว่า เป็นโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเส้นเลือด กระดูกต้นคอและเอว มีแครมเซียมเกาะ และเป็นภูมิแพ้ นายปริญญา ตอบว่า เป็นโรคความดันโลหินสูง โรคภูมิแพ้ ไซนัส ส่วนนายวีระชัย แจ้งว่าเป็นโรคไตวายเรื้อรัง ต้องฟอกไต 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ไขมันในเส้นเลือดสูง และเป็นโรคหัวใจ เคยทำการผ่าตัดขยายหลอดเลือดมาแล้ว
ศาลถามต่อว่า จำเลยทั้งสาม มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้สนันสนุน กกต. ที่มาก่อเหตุวุ่นวายวันที่ศาลพิพากษาหรือไม่อย่างไร จำเลยทั้ง 3 ได้แถลงว่า ไม่รู้จัก ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว
จากนั้นศาลจึงถามต่อว่า หากจำเลยทั้งสาม มาศาลเพื่อฟังการพิจารณาคดีอื่นๆ อีก และหากเกิดความวุ่นวายในศาล จำเลยทั้งสามจะทำอย่างไร จำเลยทั้งสามรับประกันต่อศาลได้หรือไม่ แต่จำเลยทั้งสามไม่ได้ให้คำตอบที่แจ้งชัด ศาลจึงแจ้งให้จำเลยทั้งสามทราบว่า ศาลรู้ว่า กลุ่มคนในวันนั้น มาจากไหน จำเลยจะรับรองกับศาลได้หรือไม่ ว่าจะไปปราม กำชับ กลุ่มบุคคลดังกล่าว ไม่ให้มาก่อความวุ่นวาย จำเลยทั้งสามยืนยันว่า จะไม่ให้มีกลุ่มบุคคลที่สนับสนุนมาวุ่นวายอีก
ศาลได้ถามต่อมาอีกว่า หากปล่อยจำเลยไป จำเลยทั้งสามจะไม่ไปเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ เอกสาร ในสำนักงาน กกต. ได้หรือไม่ จำเลยทั้งสามแจ้งว่า จะไม่ไปเกี่ยวข้อง
แต่ขอเวลา 4 ชั่วโมง เก็บของใช้ส่วนตัวโดยจะไม่ยุ่งกับพยานเอกสารต่างๆจากนั้น ศาลจึงสั่งให้ จำเลยทั้งสามรอศาลพิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวจาก มติชน
