ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 21:22
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  สำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจว่าศาลทำไมจึงไม่ให้ประกันตัว กกต. ทั้ง 3 เชิญทางนี้ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] 2
สำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจว่าศาลทำไมจึงไม่ให้ประกันตัว กกต. ทั้ง 3 เชิญทางนี้  (อ่าน 3523 ครั้ง)
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« เมื่อ: 26-07-2006, 23:30 »

บางคนอ้างไปถึงคดีโน้น คดีนี้ ผมว่าไม่ถูกต้อง เพราะคดีอย่าง กกต. ไม่เคยมีมาก่อน จึงไม่มีคดีไหนเป็นบรรทัดฐานเทียบเคียงได้
และขอให้ดูเหตุผลต่างๆ ที่ใช้พิจารณาในการที่จะให้หรือไม่ให้ประกันตัว ดังที่ระบุไว้ใน ป. วิอาญา มาตรา ๑๐๘ คือ

มาตรา ๑๐๘ ในการวินิจฉัยคำร้องให้ปล่อยชั่วคราว ให้พึงพิจารณาข้อเหล่านี้ประกอบ
(๑) ความหนักเบาแห่งข้อหา
(๒) พยานหลักฐานที่นำมาสืบแล้วมีเพียงใด
(๓) พฤติการณ์ต่าง ๆ แห่งคดีเป็นอย่างไร
(๔) เชื่อถือผู้ร้องขอประกันหรือหลักประกันได้เพียงใด
(๕) ผู้ต้องหาหรือจำเลยน่าจะหลบหนีหรือไม่
(๖) ภัยอันตรายหรือความเสียหายที่จะเกิดจากการปล่อยชั่วคราว มีเพียงใดหรือไม่
(๗) ในกรณีที่ผู้ต้องหาหรือจำเลยต้องขังตามหมายศาล ถ้ามีคำ คัดค้านของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการหรือโจทก์แล้วแต่กรณี ศาลพึงรับประกอบการวินิจฉัยได้


จะเห็นได้ว่าที่ศาลตัดสินไม่ให้ประกันตัว มีเหตุผลตามมาตรา ๑๐๘ ข้อ (๑) (๓) (๖) 
หากจะแย้งก็ต้องแย้งไปที่เหตุผล ไม่ใช่เอาคดีฆ่าคนตายที่เป็นคนละเรื่องกันมาเทียบเคียงกัน แบบนั้นไม่ถูกต้อง
และเงื่อนไขของแต่ละคดีก็ต่างกันอีกต่างหาก
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
HILTON (ปาล์มาลี)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,310



« ตอบ #1 เมื่อ: 26-07-2006, 23:38 »

ผมว่ามีกรณีเดียว  คือกำลังเอากระดาษทรายขัดความหนาของหน้าอยู่
บันทึกการเข้า
บุรุษไร้นาม
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 633


Trust NO ONE !!!


« ตอบ #2 เมื่อ: 26-07-2006, 23:48 »

ก็ดูเหมือน สารเลว 3 ตัวมันยังไม่สำนึกผิดกัน ยังยิ้มแย้ม แจ่มใสอยู่ ก็แสดงว่าดีใจที่ได้เข้าไปอยู่

อยู่ไปเถอะครับ 4 ปี สบายๆ เดี๋ยวไม่แน่ เอาไอ้จมูกบานไปทำกับข้าวให้กินด้วย
บันทึกการเข้า

เงินยิ่งใช้ ยิ่งหมด บุญ ยิ่งทำ ยิ่งได้

.......กูจะสู้แม้รู้ว่าพวกกูน้อย              สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย
แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย                   กูสุดอายหากเสียทีไพรีครอง
       ใครบ้างเหวยจะร่วมสู้กับกูบ้าง     ใครบ้างเหวยจะอยู่ข้างไทยใจหาญ
ใครบ้างเหวยจะละสุขสนุกสำราญ       ใครบ้างเหวยยอมวายปราณเพื่อไทยคง
Tony
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48



« ตอบ #3 เมื่อ: 26-07-2006, 23:52 »

ในบอร์ดนี้ สมาชิกคงเข้าใจกระจ่างแจ้งกันทุกคนแล้ว ผมว่าสำหรับสามหนา กระดาษทรายอาจไม่พอ คงต้องใช้หินเจียรขัดออก  แล้วตอนเอาหินเจียรขัดคงจะมีประกายไฟแล็บออกมาด้วยแน่ เลย Mr. Green Mr. Green Mr. Green
บันทึกการเข้า

Freedom and power bring responsibility.
เหยี่ยวพิฆาต
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 234



« ตอบ #4 เมื่อ: 26-07-2006, 23:56 »

อีกประการหนึ่ง ผมว่าศาลท่านคงมองว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับ กกต. ที่จะตั้งใหม่เท่านั้น เจ้าหน้าที่ กกต. ทั้งหมดล้วนมีส่วนที่จะทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมหรือไม่ด้วย ดังนั้น หากปล่อยตัวออกไปอาจใช้อิทธิพลกับเจ้าหน้าที่ กกต.  หรือ อาจจะทำให้ลิ่วล้อใน กกต. มีขวัญกำลังใจที่จะปฏิบัติการเลือกตั้งให้ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมอีกได้ ผมว่าประเด็นนี้ก็มีน้ำหนัก ถ้าอย่างนั้นละก็คงต้องรอประธาน กกต. คนใหม่มาล้างบางเสียก่อนค่อยออกมา ดังนั้นถ้าท่านประธานสุชนจะช่วยเพื่อน ละก็ต้องเร่งส่งเรื่องให้ศาลฎีกา แล้วดำเนินการในขั้นตอนของ สว.โดยเร็ว เพื่อนจะได้ออกมาดูโลกภายนอกได้
บันทึกการเข้า
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #5 เมื่อ: 27-07-2006, 03:04 »

พิทักษ์สิทธิตามรัฐธรรมนูญของ กกต.

โดย สมชาย ปรีชาศิลปกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เชื่อได้ว่าคนจำนวนไม่น้อยคงอยากให้ศาลตัดสินลงโทษจำคุกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ที่ถูกฟ้องในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบซึ่งเป็นคดีความอยู่ในศาลอาญาขณะนี้หลายคดี

ด้วยสาเหตุว่าหากถูกตัดสินลงโทษจำคุกก็จะมีผลทำให้ กกต.ที่มีอยู่ในปัจจุบันต้องพ้นจากตำแหน่ง
เนื่องจากเป็นลักษณะต้องห้ามตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 141 (3)
และหากเป็นไปตามนี้ ก็เท่ากับเป็นการแก้ไขสถานการณ์ความยุ่งยากของ กกต. ที่อยู่ในภาวะ
"ไม่ลาออก-ไม่ตั้งใหม่"

แต่การที่ กกต.จะพ้นจากตำแหน่งไปด้วยเหตุมีลักษณะต้องห้ามนั้น ต้องเป็นไปตามมาตรา 106 (3) คือ
"ต้องคุมขังโดยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย" เพราะฉะนั้น
จึงหมายความว่าไม่เพียงการตัดสินลงโทษจำคุกเท่านั้น แต่ในคำพิพากษาต้องไม่มีการรอลงอาญา

และประเด็นสำคัญอีกประเด็นก็คือ หาก กกต.ซึ่งแพ้คดีแล้วได้ยื่นประกันตัวเพื่อขอต่อสู้ในคดีในชั้นอุทธรณ์
ศาลก็จะต้องปฏิเสธการให้ประกันตัวด้วย จึงจะทำให้ กกต.พ้นจากตำแหน่งไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
ซึ่งทั้งสองประเด็นมีสิ่งที่ควรพิจารณา ดังนี้

สำหรับประเด็นการรอลงอาญา คดีอาญาหลายคดีที่ผ่านมาซึ่งจำเลยเป็นนักการเมืองหรือข้าราชการระดับสูง
ในกรณีที่เห็นว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงตามฟ้อง เมื่อจะมีการลงโทษก็มักจะมีการนำเอาการปฏิบัติหน้าที่
รับใช้บ้านเมืองมาเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งในการทำให้จำเลยไม่ต้องรับโทษแต่ให้ "รอลงอาญา" ไว้ก่อน

การให้เหตุผลของการรอลงอาญาว่าเนื่องจากเคยเป็นข้าราชการระดับสูง ในด้านหนึ่งก็อาจถูกโต้แย้งได้ว่า
แทนที่จะนำมาเป็นเงื่อนไขของการผ่อนโทษให้เบาลง ตรงข้ามควรจะต้องลงโทษให้หนักมากขึ้นได้เช่นเดียวกัน
หากความผิดนั้นเป็นการกระทำในลักษณะที่เจตนาและรวมถึงเป็นกระทำที่จะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสังคม
เพื่อให้เกิดความรอบคอบและระมัดระวังมากขึ้นในการปฏิบัติงานของบุคคลเหล่านี้

เมื่อพิจารณาการทำงานของ กกต.ที่ถูกฟ้องร้อง จะเห็นได้ว่าการทำงานของ กกต.นั้นมีความเกี่ยวข้อง
และผลที่ต่อเนื่องมาจากการทำงานอย่างมาก ฉะนั้นในกรณีที่เกิดความผิดพลาดหากต้องตัดสินลงโทษจริงๆ
โดยไม่รอลงอาญาก็เป็นสิ่งที่มีเหตุผลรองรับอยู่

ประเด็นต่อมาหากมีคำตัดสินลงโทษจำคุกโดยไม่รอลงอาญา แล้วมีการยื่นขอประกันตัวโดย กกต.
เพื่อต่อสู้คดีต่อ ควรจะมีการพิจารณาประเด็นอย่างไร

ทั้งนี้ หากอนุญาตให้มีการประกันตัว กกต.ก็จะยังไม่พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากจะไม่ได้เป็นการ
"ต้องคุมขังโดยหมายศาล" เมื่อ กกต.ยังอยู่ในตำแหน่งก็ทำให้ปัญหาทางการเมืองขณะนี้ยังไม่อาจคลี่คลายไปได้
ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลให้หลายคนมีความเห็นว่าเพราะฉะนั้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาทางการเมือง
นอกจากตัดสินลงโทษโดยไม่รอลงอาญาแล้ว ศาลก็ไม่ควรจะอนุญาตในกรณีที่มีการขอยื่นประกันตัวเกิดขึ้นด้วย

แม้การวินิจฉัยในลักษณะเช่นนี้ ด้านหนึ่งดูเหมือนจะช่วยแก้ไขปัญหาทางการเมือง
แต่ในอีกด้านหนึ่งก็จำเป็นต้องมีการไตร่ตรองถึงผลกระทบที่จะมีต่อหลักการเรื่องสิทธิการประกันตัว
ของบุคคลที่ต้องเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญาด้วย

การประกันตัวเป็นสิทธิพื้นฐานที่สำคัญซึ่งบัญญัติเพื่อให้การคุ้มครองต่อเสรีภาพของปัจเจกบุคคล
จากการล่วงละเมิดของอำนาจรัฐ
การที่รัฐเข้ามาแทรกแซงจำกัดเสรีภาพของบุคคล จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีคำตัดสินอันเป็นที่สุด
จากกระบวนการยุติธรรมแล้วว่าได้กระทำความผิดและต้องถูกลงโทษ
เพราะฉะนั้นตราบเท่าที่ยังไม่มีการตัดสินหรือคดียังไม่ถึงที่สุด ก็ต้องถือว่าบุคคลที่ถูกกล่าวหา
ในการกระทำผิดต่างๆ ยังเป็นผู้บริสุทธิ์
เมื่อเป็นผู้บริสุทธิ์ก็ควรที่จะได้รับการคุ้มครองเฉกเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป

สิทธิประกันตัวก็เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานประการหนึ่งซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน
ข้อยกเว้นของการจำกัดสิทธินี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อหากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวแล้ว
อาจจะมีผลกระทบบางอย่างต่อกระบวนพิจารณาคดีนั้นๆ
เช่น ข่มขู่พยาน หลบหนี หรืออาจเป็นกรณีคดีอุกฉกรรจ์ที่สะเทือนความรู้สึกของสังคม
เช่น ฆ่าข่มขืน ปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ จึงจะไม่อนุญาตให้ประกันตัว

ดังนั้น สำหรับสิทธิในการประกันตัวนั้น โดยหลักจึงจะต้องให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยสามารถประกันตัว
การไม่ให้ประกันตัวถือว่าเป็นข้อยกเว้นเมื่อมีเหตุผลเพียงพอรองรับ

ในระบบกฎหมายของไทย ความยุ่งยากของการประกันตัวอันหนึ่งก็คือ มักจะใช้หลักที่ตรงกันข้ามกับที่กล่าวมา
คือไม่ให้ประกันเป็นหลัก ส่วนการประกันตัวเป็นข้อยกเว้น
แนวปฏิบัตินี้ได้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางโดยผู้ปฏิบัติงานในกระบวนการยุติธรรม
ซึ่งก็ได้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการละเมิดสิทธิพื้นฐานโดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนธรรมดาๆ
ที่ไม่มีหลักทรัพย์ เงินเพียงพอในการใช้เป็นหลักฐานเพื่อประกันตัว

แต่ภายหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 ได้มีการวางหลักสิทธิประกันตัวให้มีความมั่นคงมากขึ้น
โดยถือว่าการประกันตัวเป็นผู้ต้องหาเป็นสิทธิพื้นฐาน การจะไม่ให้ประกันตัวต้องมีเหตุผลที่ชัดเจน
แม้ว่าจะถึงปัจจุบันการปฏิบัติตามหลักการดังกล่าวอาจยังไม่เป็นที่น่าพอใจ
แต่อย่างน้อยก็เริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลงในการตระหนักถึงสิทธิประกันตัวของบุคคลผู้เป็นจำเลยมากขึ้น

สำหรับคดีของ กกต.หากมีการตัดสินลงโทษจำคุกโดยไม่รอลงอาญาและมีการยื่นขอประกันตัวจาก กกต.
มีประเด็นต้องขบคิดก็คือว่าหากไม่ให้มีการประกันตัวกับ กกต.แล้ว จะมีเหตุผลอะไรมารองรับ
คดีนี้ไม่ใช่คดีสะเทือนขวัญเหมือนการฆ่าข่มขืน อีกทั้งไม่มีวี่แววว่าผู้ตกเป็นจำเลยทั้งหมดจะหลบหนี
จากการต่อสู้คดีแต่อย่างใด

คดีนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่จะสะท้อนให้เห็นว่าในการบังคับใช้กฎหมายนั้น
เราจะเคารพหลักการของกฎหมายที่เกิดขึ้นเพื่อคุ้มครองสิทธิของบุคคลทั่วไปหรือไม่
หรือเราเพียงต้องการมุ่งไปที่ผลสุดท้ายแต่เพียงอย่างเดียว โดยไม่สนใจว่าวิธีการต่างๆ
หรือเครื่องมือที่นำมาใช้มีเหตุผลรองรับเพียงพอหรือไม่

หากปล่อยให้เกิดการละเมิดต่อสิทธิขั้นพื้นฐานเกิดขึ้นได้ในคดีนี้ ก็ไม่เป็นที่น่าแปลกใจ
ถ้าจะมีการกระทำในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นกับประชาชนคนอื่นในอนาคต
ด้วยการอ้างถึงเหตุผลของประโยชน์ส่วนรวม เพื่อประเทศชาติ หรืออะไรก็ตามที

(อันที่จริงก็มีช่องทางกฎหมายในคดีนี้ที่จะทำให้สถานะของ กกต.พ้นจากตำแหน่งไป
แต่ไม่จำเป็นต้องแนะนำในที่นี้เพราะเข้าใจว่านักกฎหมายจำนวนไม่น้อยก็พอมองเห็นอยู่)

มักเป็นที่เข้าใจกันว่าการใช้กฎหมายอย่างบิดเบือนโดยปราศจากหลักการ
เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากน้ำมือของเนติบริกรเป็นส่วนใหญ่
แต่เอาเข้าจริงทรรศนะหรือท่าทีของสังคมก็มีส่วนอย่างสำคัญในการทำให้
การบังคับใช้กฎหมายลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act02240749&day=2006/07/24
มติชน วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10362
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
เพนกวินน้อยนักอ่าน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 866



« ตอบ #6 เมื่อ: 27-07-2006, 03:33 »

บทความที่คุณ สโนวเฟลค เอามานั้น
เข้าใจว่าเขียนก่อน ศาลจะตัดสิน
ถึงตอนนี้อาจารย์ สมชาย อาจมีความคิดเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้วก็เป็นได้

ซึ่งจากการที่อ่านข้อกฎหมายแล้วนั้น
ศาลมีสิทธิวินิจฉัยได้ เพราะมันเป็นผลผูกพันกัน
เมื่อปล่อย กกต ไป จะทำให้เกิดความผิดในคดีซ้ำซาก
การคัดค้านการประกัน จึงฟังขึ้น อย่างเห็นได้ชัด

เรื่องนี้ไม่สามารถตั้งธงไว้ก่อน เพราะถ้าพยานไม่มีน้ำหนัก
หลักฐานใช้ไม่ได้ ยังไงก็ต้องยกฟ้อง
นี่คือข้อเท็จจริง ที่อาจารย์สมชายไม่ได้กล่าวถึงในบทความเลย

หรือ ถ้ามีการตั้งธงไว้ แต่สุดท้ายแล้วการวินิจฉัยก็อยู่บนพื้นฐานของตัวบทกฎหมายแน่นอน
ไม่ได้ตั้งธงกันลอยๆ จะฟันอย่างเดียว
เพราะทุกอย่างมีบันทึกไว้หมด ศาลต้องทำอย่างตรงไปตรงมาที่สุด ไม่สามารถหมกเม็ดได้

เมื่อศาลท่านพิจารณาในท้ายสุด ว่ามีความเสียหายร้ายแรง
ก็เข้าลักษณะ ของ ข้อบังคับ ที่จะคัดค้านการประกันตัวในกรณีต่างๆได้
ซึ่งแม้กกต มีสิทธิ พื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ
แต่เมื่อทำผิดก็ต้องรับผิดตามที่กฎหมายบัญญัติไว้เหมือนกัน

อาจารย์ สมชาย อาจมองศาลในฐานะเครื่องมือในการตัดสินคดีความ
และมองว่า ศาลถูกกดดันจากประชาชนส่วนใหญ่
แต่คงลืม มองว่าหลักฐานในการพิจารณาคดี การซักค้านพยานต่างๆ
ล้วนแล้วแต่ เป็นที่มาของการวินิจฉัยทั้งสิ้น ซึ่งทำให้คดีมีความแตกต่างกัน
ไม่อาจเอามาคำนวณนอกศาลได้โดยง่าย
บันทึกการเข้า
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #7 เมื่อ: 27-07-2006, 03:34 »

บางความเห็นต่อบทความดังกล่าว ในเวบประชาไท

http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=4375&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai


ผมรู้สึกเหนื่อยมาก

นี่ไม่เกี่ยวกับว่า กกต. กระทำผิดหรือไม่
แต่การไม่ให้ประกันตัว กกต. แต่นี่เป็นเรื่องการละเมิดสิทธิ กกต. ด้วยเหตุผลทางการเมือง

เช่นเดียวกับ ไม่ว่าทักษิณทำผิดอะไร ก็ไม่มีใครมีสิทธิไปห้ามให้นายทักษิณต้องออกไปจากการเมืองไทย
เพราะเป็นการละเมิดสิทธินายทักษิณด้วยเหตุผลทางการเมือง

เมื่อสังคมไทยได้เดินมาถึงจุดที่กระแสการเมืองชวนให้ยินยอมให้ละเมิดสิทธิพื้นฐานแก่บุคคลได้
ผลกรรมนั้นจะตกกับพลเมืองไทยเองด้วยบรรทัดฐานนี้ได้ถูกวางไว้แล้ว
และการตัดสินของศาลในครั้งนี้(ไม่ใช่การตัดสินว่า กกต.ผิด แต่เป็นการตัดสินไม่ให้ประกันตัว)
จะเป็นการสร้างความด่างพร้อยทั้งแก่ตัวผู้พิพากษาและกระบวนการยุติธรรมไทยต่อไป

มีใครหวนคิดบ้างไหมว่าเรื่องนี้เริ่มต้นจากปัญหาจริยธรรมของนักการเมืองคนหนึ่ง
จนถึงทุกวันนี้ผมมองไม่เห็นสถาบันการเมืองใดของประเทศนี้ที่ยังมีจริยธรรมหลงเหลืออยู่
และมันน่ากลัวสำหรับประชาชนคนหนึ่งหรือทุกคนของประเทศนี้

ผมรู้สึกเฉยๆ ไม่แปลกใจกับการแสดงความยินดีปรีดาของผู้คนมากมายในประเทศนี้
มาถึงจุดนี้ ผมไม่รู้สึกสนใจการแสดงความสะใจของกองเชียร์และชัยชนะของศาลไทยผู้ยิ่งใหญ่อีกต่อไป

แต่ผมขอแสดงความเสียใจและละอายอย่างที่สุด กับการละเมิดสิทธิพลเรือนอาวุโส 3 คนของประเทศนี้
ด้วยความสมยอมของผู้คนมากมายในประเทศนี้ (รวมทั้งพรรคไทยรักไทยและรัฐบาลไทยด้วย)
ผมไม่เคยนึกว่าจะต้องชมละครชีวิตเรื่อง "คำพิพากษา" ของคุณชาติ กอบจิตติ อีกครั้งหนึ่งในวันนี้เลย

ผมคาดได้ว่าคงมีผู้คนมากมายเขียนด่าการเขียนครั้งนี้ของผม
แต่ผมคงไร้ความรู้สึกรู้สากับการด่าของพวกเขาเสียแล้ว
เมื่อการเมืองได้เดินเลยไปจากการต่อสู้ทางการเมืองที่ต่างฝ่ายย่อมมีสิทธิเลือกตามความเชื่อ
กลายเป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายกระทำผิดอย่างไม่มีความยุติธรรมและไม่ชอบธรรม
ในสายตาของผม การกระทำครั้งนี้ของศาลไทยไม่แตกต่างไปจากการกระทำของทักษิณตามที่กล่าวหากัน
เพียงแต่ฝ่ายหนึ่งใช้อำนาจยุติธรรม แต่อีกฝ่ายหนึ่งใช้อำนาจบริหาร-นิติบัญญัติ

เสียงหนึ่งเสียงนี้ คงไม่มีทางส่งไปถึงพลเมืองอาวุโสทั้ง 3 คนที่อยู่ในคุก
แต่ผมก็ขอส่งเสียงทั้งที่ไม่มีทางไปถึงว่า

ทั้ง 3 ท่านครับ ผมไม่ได้มองว่าพวกท่านทำถูกไปหมดหรือผิดทุกสิ่ง
แต่การที่พวกท่านไม่ได้รับการประกันตัวในครั้งนี้ ผมมองว่าท่านเป็นเหยื่อครับ
ผมในฐานะประชาชนคนหนึ่งของประเทศนี้ต้องขอโทษต่อทั้ง 3 ท่านด้วยครับ
ที่ประเทศของผม(และของพวกท่าน)ได้กระทำผิดต่อทั้ง 3 ท่าน
โดยปราศจากความยุติธรรมและความชอบธรรม ด้วยอำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมายครับ
และท่านครับวันนี้ไม่ใช่การตัดสินครั้งสุดท้ายของเรื่องนี้ครับ
ประเทศนี้เป็นหนี้ต้องชดใช้ต่อพวกท่านในวันหนึ่งข้างหน้า ผมเชื่อเช่นนั้นครับ
 
คนเถื่อนจากวันนี้ไป  วันที่   25/7/2549 20:28  

----------------------------------------------------------


หนูสงสัย

กกต ที่จัดการเลือกตั้งที่ว่าไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญมี 4 คน
คนที่ลาออกไป ไม่ต้องรับโทษ เนื่องจากคุณถาวรถอนฟ้อง

หมายความว่าถ้าทำผิดคิดชั่วต่อแผ่นดิน แล้วต่อมามีคนฟ้อง ก็ลาออก
แล้วจะกลายเป็นผู้เสียสละ เป็นคนดีของแผ่นดินหรือ

จากข้อเท็จจริงข้างต้น กกต 3 คนที่ถูกจำคุก เพราะนายถาวรไม่ถอนฟ้องใช่หรือไม่
ทำไมนายถาวรจึงกำหนดชีวิตของกกต ได้

ถ้าศาลมั่นใจว่าการสั่งจำคุก ถอนสิทธิ์เลือกตั้ง เป็นสิ่งที่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์
เมื่อเช้าส่งคนออกทีวีแนะนำให้กกต ทั้ง 3 คนลาออกเพื่อยุติปัญหาการตีความทำไม
ถ้าการไม่ให้ประกันตัวทำให้กกต สิ้นสภาพแล้วจะลาออกจากสภาพอะไรอีก

ขอความอนุเคราะห์ผู้รู้ช่วยตอบที
 
เด็กเรียนน้อย  วันที่   26/7/2549 16:25  
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #8 เมื่อ: 27-07-2006, 03:43 »

ไม่ให้ประกันวันแรก พอเข้าใจ

แต่ลาออกแล้ว ยังเป็นอันตรายได้อีกหรือคะ?
แถมคนที่ลาออกไปก่อนหน้า กลับไม่มีความผิดเลยทั้งๆ ที่ก็ทำอยู่ด้วยกัน

อีกประการ หากความผิดร้ายแรงมาก ทำไมจำคุกแค่ 4 ปี
โทษขนาดนี้ แต่ประกันตัวไม่ได้ ไม่แปลกหรือคะ?
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
เพนกวินน้อยนักอ่าน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 866



« ตอบ #9 เมื่อ: 27-07-2006, 03:48 »

กระทู้ที่ประชาไท น่าสนใจดี
แต่ผมเชื่อว่า การประกันตัว ของ กกต. ไม่ใช่ประเด็น

มาตรา ๑๐๘ ในการวินิจฉัยคำร้องให้ปล่อยชั่วคราว ให้พึงพิจารณาข้อเหล่านี้ประกอบ
(๑) ความหนักเบาแห่งข้อหา
(๒) พยานหลักฐานที่นำมาสืบแล้วมีเพียงใด
(๓) พฤติการณ์ต่าง ๆ แห่งคดีเป็นอย่างไร
(๔) เชื่อถือผู้ร้องขอประกันหรือหลักประกันได้เพียงใด
(๕) ผู้ต้องหาหรือจำเลยน่าจะหลบหนีหรือไม่
(๖) ภัยอันตรายหรือความเสียหายที่จะเกิดจากการปล่อยชั่วคราว มีเพียงใดหรือไม่
(๗) ในกรณีที่ผู้ต้องหาหรือจำเลยต้องขังตามหมายศาล ถ้ามีคำ คัดค้านของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการหรือโจทก์แล้วแต่กรณี ศาลพึงรับประกอบการวินิจฉัยได้


จะเห็นได้ว่าที่ศาลตัดสินไม่ให้ประกันตัว มีเหตุผลตามมาตรา ๑๐๘ ข้อ (๑) (๓) (๖) 
หากจะแย้งก็ต้องแย้งไปที่เหตุผล ไม่ใช่เอาคดีฆ่าคนตายที่เป็นคนละเรื่องกันมาเทียบเคียงกัน แบบนั้นไม่ถูกต้อง
และเงื่อนไขของแต่ละคดีก็ต่างกันอีกต่างหาก

ซึ่งจากตรงนี้ศาลสามารถวินิจฉัยได้ มีอำนาจเต็ม
แต่ตอนนี้ กลุ่มคนที่ไม่พอใจ ไม่ได้ดูกฎหมาย
แล้วอ้างว่า ศาล ละเมิดสิทธิการประกัน
ทั้งที่มันเป็นอำนาจการวินิจฉัย ที่เกี่ยวเนื่องกับคดี

ถ้าเป็นคดี อื่น ศาลจะไม่วินิจฉัยผูกพัน อนาคต
ที่อัยการกลัวว่าผู้ร้ายชิงทรัพย์ จะ กลับไปฆ่าเจ้าทรัพย์ที่ตนเองชิงไม่สำเร็จ
จึงไม่ให้ประกันตัว เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่เป็นจริง หรือเกิดขึ้นจริง

แต่กกต ทั้งสาม มีอำนาจหน้าที่อยู่ติดตัวตลอดในปัจจุบัน
เมื่อกลับไปอยู่ในอำนาจหน้าที่ ก็จะทำให้เกิดความผิดซ้ำซาก
และทำให้เกิดความไม่บริสุทธิ์ ยุติธรรม ตามที่ศาลตัดสินไปแล้ว
มันเป็นลักษณะความผิดที่ เจ้าตัวกระทำอยู่ตลอดจึงต้องกักขังไว้

ส่วนคนจะมองว่าเป็นทริค ที่ทำให้พ้นสภาพกกต หรือไม่
มีการวางแผนล่วงหน้าหรือเปล่า
ทำไมไม่มองว่า กกต ผิดกฎหมายตั้งแต่ต้น ศาลมองเห็นแล้วว่ายังไงก็ต้องออก
ก็ต้องเป็นแบบนี้อยู่ดี แต่เลขาฯศาล ท่านพูดออกมาไม่ได้ เพราะคดี อยู่ในศาลอยู่

การที่มองว่า ศาล จงใจ ตั้งใจ จัดการกกต แบบนี้
เป็นความคิด ที่คับแคบ และ ตั้งแง่กับศาล ที่เป็นที่พึ่งในความยุติธรรมจนเกินพอดีนะครับ
บันทึกการเข้า
คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 27-07-2006, 03:55 »

สำหรับคดีของ กกต.หากมีการตัดสินลงโทษจำคุกโดยไม่รอลงอาญาและมีการยื่นขอประกันตัวจาก กกต.
มีประเด็นต้องขบคิดก็คือว่าหากไม่ให้มีการประกันตัวกับ กกต.แล้ว จะมีเหตุผลอะไรมารองรับ
คดีนี้ไม่ใช่คดีสะเทือนขวัญเหมือนการฆ่าข่มขืน อีกทั้งไม่มีวี่แววว่าผู้ตกเป็นจำเลยทั้งหมดจะหลบหนี
จากการต่อสู้คดีแต่อย่างใด

คดีนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่จะสะท้อนให้เห็นว่าในการบังคับใช้กฎหมายนั้น
เราจะเคารพหลักการของกฎหมายที่เกิดขึ้นเพื่อคุ้มครองสิทธิของบุคคลทั่วไปหรือไม่
หรือเราเพียงต้องการมุ่งไปที่ผลสุดท้ายแต่เพียงอย่างเดียว โดยไม่สนใจว่าวิธีการต่างๆ
หรือเครื่องมือที่นำมาใช้มีเหตุผลรองรับเพียงพอหรือไม่

หากปล่อยให้เกิดการละเมิดต่อสิทธิขั้นพื้นฐานเกิดขึ้นได้ในคดีนี้ ก็ไม่เป็นที่น่าแปลกใจ
ถ้าจะมีการกระทำในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นกับประชาชนคนอื่นในอนาคต
ด้วยการอ้างถึงเหตุผลของประโยชน์ส่วนรวม เพื่อประเทศชาติ หรืออะไรก็ตามที

(อันที่จริงก็มีช่องทางกฎหมายในคดีนี้ที่จะทำให้สถานะของ กกต.พ้นจากตำแหน่งไป
แต่ไม่จำเป็นต้องแนะนำในที่นี้เพราะเข้าใจว่านักกฎหมายจำนวนไม่น้อยก็พอมองเห็นอยู่)

มักเป็นที่เข้าใจกันว่าการใช้กฎหมายอย่างบิดเบือนโดยปราศจากหลักการ
เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากน้ำมือของเนติบริกรเป็นส่วนใหญ่
แต่เอาเข้าจริงทรรศนะหรือท่าทีของสังคมก็มีส่วนอย่างสำคัญในการทำให้
การบังคับใช้กฎหมายลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act02240749&day=2006/07/24
มติชน วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10362

ผมคิดว่าประเด็นของคุณ snowflake น่าจะหมายถึงกรณีประกันตัวนะครับ ก่อนที่เราจะพูดกันต่อไปผมขออ้างอิงบางเรื่อง

1. คำพิพากษาศาลชั้นต้น

พิพากษาว่า จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 มีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2541 มาตรา 24 , 42 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 จำคุกคนละ 4 ปี และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดคนละ 10 ปี

2. ศาลชั้นต้น ปฏิเสธการปล่อยตัวชั่วคราว

ผู้พิพากษาได้ออกนั่งบัลลังก์แถลงคำร้องขอประกันตัวชั่วคราว โดยก่อนแถลงศาลได้ให้เหตุผลประกอบว่า การทำงานของ กกต.ทั้ง 3 คน ไม่มีความชอบธรรม และก่อนหน้านี้ที่ศาลสั่งปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างต่อสู้คดีก็เพื่อให้ไปปฎิบัติหน้าที่จัดการเลือกตั้ง แต่จำเลยที่ 2-4 ยังจัดการเลือกตั้งโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดแก่ประเทศชาติ หรือประชาชน และก่อให้เกิดความแตกแยกและนำไปสู่ความรุนแรงได้   
   
ประกอบกับ ก่อนหน้านี้ สื่อมวลชน และสังคมได้เรียกร้องให้ กกต.ลาออก แต่ กตต.ยังเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนไม่ยอมลาออก ส่อพิรุธ และชี้ให้เห็นว่าจำเลยที่ 2-4 เห็นแก่ประโชชน์ส่วนตัว ดังนั้น หากปล่อยจำเลยที่ 2-4 ไป ก็น่าจะก่อให้เกิดความไม่เรียบร้อยและเที่ยงธรรม เหมือนกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา       

ศาลชั้นต้น จึงเห็นสมควรให้ส่งคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาต่อไป

(ที่ทำสีแดงเอาไว้ หากมีข้อสงสัยว่า อดีต กกต. ไม่คำนึงถึงความเสียหายอย่างไร แนะนำให้ไปอ่านคำพิพากษาอย่างละเอียด ครับ ชี้เป็นข้อ ๆ ว่ากันไปตามมาตราเลย)

3. ศาลอุทธรณ์ ปฏิเสธการปล่อยตัวชั่วคราว

รายละเอียดในคำสั่งของศาลอุทธรณ์ ศาลเห็นว่า มูลเหตุแห่งคดีเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยที่ 2-4 ในการดำเนินการเลือกตั้ง ส.ส.ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการปกครองประเทศในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข นับแต่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 2 เม.ย.2549 มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ สืบเนื่องจากจากการปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยที่ 2-4 พวกจำเลยยังคงปฏิบัติหน้าที่ท่ามกลางความเคลือบแคลงสงสัยของประชาชนในความเป็นกลางทางการเมือง ตลอดมา
       
ซึ่งความเป็นกลางทางการเมือง อันเป็นที่ประจักษ์ เป็นคุณสมบัติสำคัญของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ ม.136 พฤติการณ์แห่งคดีแสดงให้เห็นโดยชัดแจ้งว่า หากจำเลยที่ 2-4 ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ก็จะปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการเตรียมการเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 15 ตุลาคม 2549 ต่อไป
       
จึงอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง และเป็นอันตรายแก่การเลือกตั้ง อันจะทำไปสู่วิกฤตการณ์ที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงให้ยกคำรน้องขอปล่อยตัวชั่วคราวของจำเลยที่ 2-4

4. ศาลฎีกา ปฏิเสธการปล่อยตัวชั่วคราว

ศาลได้พิเคราะห์คำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว และหลักทรัพย์ของจำเลยทั้ง 3 แล้วเห็นว่า ข้อหาที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้ง 3 มีความผิดร้ายแรง ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และก่อให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง และการปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยทั้ง 3 จะก่อเหตุอันตรายขึ้น และเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินคดีในศาล จึงให้ยกคำร้อง

ตามที่นักวิชาการท่านนี้ (สมชาย ปรีชาศิลปกุล) พูดว่า

สำหรับคดีของ กกต.หากมีการตัดสินลงโทษจำคุกโดยไม่รอลงอาญาและมีการยื่นขอประกันตัวจาก กกต.
มีประเด็นต้องขบคิดก็คือว่าหากไม่ให้มีการประกันตัวกับ กกต.แล้ว จะมีเหตุผลอะไรมารองรับ
คดีนี้ไม่ใช่คดีสะเทือนขวัญเหมือนการฆ่าข่มขืน อีกทั้งไม่มีวี่แววว่าผู้ตกเป็นจำเลยทั้งหมดจะหลบหนี
จากการต่อสู้คดีแต่อย่างใด


มาตรา ๑๐๘ ในการวินิจฉัยคำร้องให้ปล่อยชั่วคราว ให้พึงพิจารณาข้อเหล่านี้ประกอบ
(๑) ความหนักเบาแห่งข้อหา
(๓) พฤติการณ์ต่าง ๆ แห่งคดีเป็นอย่างไร
(๖) ภัยอันตรายหรือความเสียหายที่จะเกิดจากการปล่อยชั่วคราว มีเพียงใดหรือไม่

ไม่ใช่คดีสะเทือนขวัญ แต่เป็นคดีที่เป็นอันตรายต่อบ้านเมือง และพฤติการณ์ในอดีตของ ผู้ต้องหา แสดงให้เห็นชัดเจนว่าจะทำความผิดนั้นต่อไป

คดีนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่จะสะท้อนให้เห็นว่าในการบังคับใช้กฎหมายนั้น
เราจะเคารพหลักการของกฎหมายที่เกิดขึ้นเพื่อคุ้มครองสิทธิของบุคคลทั่วไปหรือไม่
หรือเราเพียงต้องการมุ่งไปที่ผลสุดท้ายแต่เพียงอย่างเดียว โดยไม่สนใจว่าวิธีการต่างๆ
หรือเครื่องมือที่นำมาใช้มีเหตุผลรองรับเพียงพอหรือไม่


ผมว่าศาลท่านตัดสินตามพยานหลักฐาน และข้อกฏหมายนะครับ เรื่องปล่อยตัวชั่วคราวก็เหมือนกัน ศาลไม่ได้ตั้งธง แต่พิจารณาจากหลักการและเหตุผลครับ

หากปล่อยให้เกิดการละเมิดต่อสิทธิขั้นพื้นฐานเกิดขึ้นได้ในคดีนี้ ก็ไม่เป็นที่น่าแปลกใจ
ถ้าจะมีการกระทำในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นกับประชาชนคนอื่นในอนาคต
ด้วยการอ้างถึงเหตุผลของประโยชน์ส่วนรวม เพื่อประเทศชาติ หรืออะไรก็ตามที


สิทธิขั้นพื้นฐาน ก็มีข้อจำกัดของสิทธินั้น ไม่ใช่ว่าสิทธิขั้นพื้นฐานจะลบล้างเหตุผลอื่น ๆ ไปซะหมดครับ

ปล. นักวิชาการจากค่ายมหาลัยเที่ยงคืน แต่ละท่านเน้นหลักการครับ หลักการต้องมาก่อนเสมอ เหมือนกับหลาย ๆ รายที่คุณ snowflake ได้กรุณา ตัดบทความมาให้อ่านก่อนหน้านี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-07-2006, 04:04 โดย คนในวงการ » บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 27-07-2006, 04:02 »

ไม่ให้ประกันวันแรก พอเข้าใจ

แต่ลาออกแล้ว ยังเป็นอันตรายได้อีกหรือคะ?
แถมคนที่ลาออกไปก่อนหน้า กลับไม่มีความผิดเลยทั้งๆ ที่ก็ทำอยู่ด้วยกัน

อีกประการ หากความผิดร้ายแรงมาก ทำไมจำคุกแค่ 4 ปี
โทษขนาดนี้ แต่ประกันตัวไม่ได้ ไม่แปลกหรือคะ?

แต่ลาออกแล้ว ยังเป็นอันตรายได้อีกหรือคะ?

ลาออกแล้วยังเป็นอันตรายได้ครับ จนกว่าจะมีการตั้ง กกต. ชุดใหม่ได้สำเร็จ ผมคิดว่าถ้าตั้ง กกต. ชุดใหม่เสร็จแล้ว ถ้ายื่นประกันตัวอีก คงได้ประกันครับ

แถมคนที่ลาออกไปก่อนหน้า กลับไม่มีความผิดเลยทั้งๆ ที่ก็ทำอยู่ด้วยกัน

โจทย์ฟ้องแค่ 3 คนครับ คนที่ลาออกไป โจทย์ถอนฟ้องครับ ไม่ใช่ไม่มีความผิดเลย คดีอื่น ๆ ยังมีตามมาครับ

อีกประการ หากความผิดร้ายแรงมาก ทำไมจำคุกแค่ 4 ปี
โทษขนาดนี้ แต่ประกันตัวไม่ได้ ไม่แปลกหรือคะ?


โทษจำคุกว่ากันไปตามกฏหมายครับ แต่ประกันตัวไม่ได้เนื่องจากพฤติกรรมของจำเลยครับ (ย้อนไปอ่านข้างบนนะครับ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-07-2006, 04:07 โดย คนในวงการ » บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
เพนกวินน้อยนักอ่าน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 866



« ตอบ #12 เมื่อ: 27-07-2006, 04:05 »

ผมพิมพ์นานไป คุณ คนในวงการ
ตอบไปหมดแล้ว

ตามนั้นครับ
 Razz


กระทู้นี้ คุณ สโนว์เฟลค ซักถามได้ดีมากครับ
คนที่อ่าน น่าจะไขข้อข้องใจกันได้บ้าง
บันทึกการเข้า
คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 27-07-2006, 04:08 »

ขออภัยที่ปาดหน้าครับคุณเพนกวินน้อยนักอ่าน  Mr. Green
บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
เพนกวินน้อยนักอ่าน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 866



« ตอบ #14 เมื่อ: 27-07-2006, 04:10 »

อิอิ
 Shocked

เพิ่งสังเกต ผมกับ คุณ คนในวงการ จำนวนโพสต์เท่ากันเลยแฮะ
 Wink
บันทึกการเข้า
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #15 เมื่อ: 27-07-2006, 04:13 »

ขออุญาตถามต่อ

ลาออกแล้วยังเป็นอันตรายได้อย่างไร ในเมื่อไม่มีอำนาจหน้าที่แล้ว?
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #16 เมื่อ: 27-07-2006, 04:25 »

เรื่องหลักการ

ที่เห็นว่าควรยึดหลักการให้มาก เพราะหากปล่อยให้โอนเอนไปมา
ก็จะเกิดข้อสงสัยในความยุติธรรมได้

และบางครั้งการยึดหลักรัฐศาสตร์มาร่วมพิจารณา
ก็ทำให้เกิดผลเสียหายร้ายแรงตามมาได้มาก
เช่น กรณีซุกหุ้น = ปล่อยเสือเข้าป่า เพราะเชื่อว่ามันกลับใจ

เลยอดสงสัยไมได้ว่านี่คือ การตามแก้ที่เคยทำพลาดไว้?
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
เพนกวินน้อยนักอ่าน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 866



« ตอบ #17 เมื่อ: 27-07-2006, 04:40 »

เรื่องหลักรัฐศาสตร์ น่าจะมีการเข้าใจผิดนะครับ
ลองอ่านกระทู้ในหอสมุด เสรีไทยประกอบนะครับ
http://forum.serithai.net/index.php?topic=2098.0

ซึ่งหลักรัฐศาสตร์ไม่มีอยู่จริง ในการพิจารณาคดีของศาล
เป็นการพูดในครั้ง ของ การตัดสินซุกหุ้น ของศาลรัฐธรรมนูญ
ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ยึดการพิจารณาคดีแบบ ศาลอาญา ที่ตัดสินคดี กกต นี้ครับ
จึงโดนบิดเบือนว่าใช้หลักรัฐศาสตร์ได้

เพราะกฎหมายก็คือกฎหมาย การปกครองก็คือการปกครอง
การปกครองจะยกเลิกกฏหมายได้ก็ต่อเมื่อ ใช้อำนาจปกครองเขียนกฎหมายมายกเลิกกฎหมาย
ไม่ใช่ พิจารณา คร่อมระหว่างกันไปมา

แนวความคิดเรื่อง ศาลอาญา พิจารณา ด้วยหลักรัฐศาสตร์ จึงไม่เป็นความจริงเลยครับ
ศาลท่านยึดหลักการแน่นอน มีขั้นตอนพิสูจน์ได้ ว่าพิจารณานอกตัวบทกฎหมายหรือเปล่า
เมื่อเอา คำวินิจฉัย มาศึกษา กับตัวบทกฏหมายก็จะทราบเองว่า มีข้อใดที่ตัดสินโดยมีตัวบทกฎหมายใดรองรับ
ซึ่งถ้าอ่านแล้วไม่เป็นเหตุเป็นผล ก็จะรู้ได้ทันทีครับ

ซึ่งศาลอาญา กับ ศาลรัฐธรรมนูญ นี่คนละศษลกันครับ
อย่าเอามาเหมารวมกันครับ
มีวิธีการไม่เหมือนกันเลยครับ


ส่วนเรื่องอันตรายของ กกต นั้น เป็นอันตรายจากการไม่ยอมลาออก
ซึ่งกกต มีจุดยืน ตรงข้ามคำตัดสินมาโดยตลอด
พอมาลาออก ครั้งนี้เชื่อว่า ก็เป็นการลาออก ที่ไม่สมบูรณ์
เพราะกกต พ้นสภาพ ไปแล้ว
การลาออก นั้น ผมว่าไม่มีผล

การที่กกต ต้องอยู่คุกต่อเพราะมีคดี อื่นๆ ที่คงค้างอยู่ด้วย
รวมทั้งการพิจารณาคดีนี้ให้ถึงที่สุด

ต้องยอมรับล่ะครับ
ถ้าศาลไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว
เพราะการปล่อยตัวชั่วคราวจะต้องเป็นเพราะ
ทราบว่าจำเลย ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี
และไม่เป็นภัยร้ายแรง

แต่ถ้าเกิดปล่อยกกต เก่าให้อยู่ข้างนอก
คนเดินขบวนหนุนไม่หยุดยั้ง
บ้านเมืองจะสงบสุขอีกเหรอครับ...
บันทึกการเข้า
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #18 เมื่อ: 27-07-2006, 04:54 »

ขอบคุณ สำหรับคำตอบนะคะ

เพราะว่าเป็นคนละศาลน่ะสิคะ จึงไม่ควรให้เกิดข้อสงสัยได้
ห่วงจะกลายเป็นว่าการเมืองลามมาจนถึงอำนาจตุลาการ
กลายเป็นคนๆ เดียวเป็นต้นเหตุทำลายทั้งสามอำนาจไป

คุณ เพนกวินฯ คะ เหตุผลที่คุณตอบ
เรื่องจะเกิดการเดินขบวนนั้น
เป็นเหตุผลทางรัฐศาสตร์ มิใช่หรือ?
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« ตอบ #19 เมื่อ: 27-07-2006, 05:05 »

ศาลฎีกา ปฏิเสธการปล่อยตัวชั่วคราว

ศาลได้พิเคราะห์คำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว และหลักทรัพย์ของจำเลยทั้ง 3 แล้วเห็นว่า ข้อหาที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้ง 3 มีความผิดร้ายแรง ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และก่อให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง และการปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยทั้ง 3 จะก่อเหตุอันตรายขึ้น และเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินคดีในศาล จึงให้ยกคำร้อง

อ่านตรงสีแดงนะครับ คุณ snowflake  Very Happy
บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #20 เมื่อ: 27-07-2006, 05:14 »

ก่อเหตุอันตรายขึ้น = อันตรายต่อใครคะ ห่วงว่า กกต. จะโดนทำร้าย?

และเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินคดีในศาล =ยังไงคะ ที่มีม็อบ 2 พวกน่ะหรือคะ?
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 27-07-2006, 05:20 »

เหตุอันตราย อาจเป็นไปได้หลายกรณีครับ เช่น การปะทะกันระหว่าง ผู้สนับสนุนและผู้ต่อต้าน กกต.
ส่วนอุปสรรคต่อการดำเนินคดีในศาล ก็สืบเนื่องมาจากเหตุอันตราย ข้างต้นนั่นแหละครับ ไม่ใช่เรื่องรัฐศาสตร์หรอกครับ

มาตรา ๑๐๘ ในการวินิจฉัยคำร้องให้ปล่อยชั่วคราว ให้พึงพิจารณาข้อเหล่านี้ประกอบ

(๖) ภัยอันตรายหรือความเสียหายที่จะเกิดจากการปล่อยชั่วคราว มีเพียงใดหรือไม่

ตรงนี้ครับ
บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
เพนกวินน้อยนักอ่าน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 866



« ตอบ #22 เมื่อ: 27-07-2006, 05:34 »

อันหลังๆ ความเห็นของผมเองครับ
ไม่ใช่ของศาล
ของศาลนี่ ต้องหาคำวินิจฉัยโดยละเอียดมาอ่านนะครับ

แล้วคุณ สโนว์เฟลค ก็จิ้มดู ว่าศาลตัดสิน
โดยใช้กระบวนการทางกฎหมายจริงหรือเปล่าอ่ะครับ

แต่ศาลสามารถ ไม่ปล่อยตัวหากเห็นว่าเป็นภัย
โดยไม่ใช่หลักรัฐศาสตร์ใดๆ เพราะมีกฎหมายรองรับ
ในมาตรา 108 นี้อยู่แล้ว
ว่าอะไรเข้าข่ายบ้างอะไรไม่เข้าบ้าง
คือในส่วนภัยอันตราย และ ความเสียหาย
ซึ่งแม้กินความโดยกว้างขวาง แต่ทั้งหมดให้พิจารณาประกอบกับหลักฐาน
และข้อกล่าวหาในคดี
ซึ่งข้อกล่าวหา ของคุณถาวรก็ไม่ใช่น้อยๆ เพราะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ
ในการจัดการเลือกตั้งไม่เป็นธรรม

คำว่าตัดสินตามหลักรัฐศาสตร์ เนี่ย ถ้าเข้าใจให้ถูกต้อง
คือไม่มีกฎหมายรองรับ แต่ตัดสินให้เกินตัวบทกฎหมาย
เพื่อประโยชน์ด้านการปกครอง

แต่นี่มีกฎหมายรองรับน่ะสิครับ
ถ้ายังคิดว่ากฎหมายรองรับ แล้ว เป็นการตัดสินโดยหลักรัฐศาสตร์อีก
ผมก็จนปัญญา อธิบายครับ

เพราะกฎหมายเทคนิค หลายๆ อย่าง
ก็ตราไว้ เป็นประโยชน์ทางการปกครอง เพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตได้อย่างสงบราบรื่น ครับ

บางทีคนเข้าใจว่า ใช้หลักรัฐศาสตร์มาตัดสิน
แล้วก็พาลเหมาเอาเองว่า ศาลตัดสินเกินหน้าที่
ทั้งที่มันอยู่ในขอบเขตการวินิจฉัย
ในทางตัวบทกฎหมาย ครับ
เนื่องจากได้ ตราเป็นตัวบทกฎหมายไว้อยู่แล้ว
บันทึกการเข้า
เพนกวินน้อยนักอ่าน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 866



« ตอบ #23 เมื่อ: 27-07-2006, 06:09 »


เพราะว่าเป็นคนละศาลน่ะสิคะ จึงไม่ควรให้เกิดข้อสงสัยได้
ห่วงจะกลายเป็นว่าการเมืองลามมาจนถึงอำนาจตุลาการ
กลายเป็นคนๆ เดียวเป็นต้นเหตุทำลายทั้งสามอำนาจไป

เรื่อง คนละศาลจึงไม่ควรให้คนเกิดข้อสงสัย
เกรงว่าคุณ สโนว์เฟลค จะเข้าใจผิด

ศาลอาญา กับ ศาลรัฐธรรมนูญ
มีวิธีการออกพิจารณาคดีคนละแบบเลยครับ
เพราะฉะนั้น ถ้าคนเกิดข้อสงสัย ต้องแยกให้ออกก่อนว่า
ศาลแต่ละศาลมีลักษณะ แตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ก่อนที่จะเชื่อว่าอำนาจตุลาการ ถูกสั่นคลอน หรือบิดเบือนครับ

ผมว่าตอนนี้คนแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
ยังไงก็พร้อมเกิดข้อสงสัยครับ
และไม่ฟังเหตุผลซะด้วย
บางคนด่าศาลว่าลำเอียงเสียด้วยซ้ำ
กติกาที่เราควรยอมรับคือคำตัดสินของศาลถือเป็นอันสิ้นสุด
ก็มีคนไม่ยอมรับเต็มไปหมด

เพราะเรายึดใจเราไงครับ
คิดว่าศาลกลั่นแกล้ง คิดว่าการเมืองมันครอบงำตุลาการ

ทั้งที่คนทั่วไปก็ไม่ได้ศึกษา อาชีพผู้พิพากษา และ เส้นทางนี้มาก่อน
ว่ามันกลั่นแกล้งคนอื่นได้ไหม โดยหน้าที่แล้วเลือกข้างได้ไหม
เชื่อเถอะพวกท่านเหล่านี้มั่วไม่ได้หรอก
ถ้าท่านๆผู้พิพากษาเหล่านี้ไม่รักษากฎหมายให้เป็นธรรม
ประเทศไทยก็ไม่ต้องไปอยู่มันแล้วครับ

มองไปที่สัญลักษณ์  ของ กระทรวงยุติธรรม แล้วนึกภาพตามนะครับ
สถาบันศาลต้องพยายามรักษาดุลย์ ให้เกิดความเป็นกลาง และเป็นธรรมที่สุดในสังคมตามสัญลักษณ์นั้นอยู่แล้ว
แม้ผู้พิพากษาเป็นปุถุชน แต่กระบวนทัศน์ของท่านก็เป็นไปในทาง รักษาความยุติธรรมในสังคม ตามสภาพสังคมนั้นๆ
ถ้าเกิดกระทำการที่ทำให้ข้างเอียงเสียแล้ว จะรักษาเกียรติแห่งความเป็นผู้พิพากษาไว้ได้ไง
บันทึกการเข้า
Coolly_Jade
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 318


ฉันจะบิน บิน บิน สู่เสรีภาพอันยิ่งใหญ่


« ตอบ #24 เมื่อ: 27-07-2006, 06:38 »

^
^
^
สัญลักษณ์รูปตาชั่งมันเอียงนะผมว่า(แซวเล่นๆอย่าเครียด)
คนในวงการกฏหมายเขายังแซวกันเองเล่นๆเลยครับ อิอิ
บันทึกการเข้า

ทักษิณาธิปไตย เสรีทางความคิด เผด็จการต่อการแสดงออก ใครเห็นด้วยเป็นคนดี ใครคัดค้านเป็นกุ๊ย
ไทมุง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,543



« ตอบ #25 เมื่อ: 27-07-2006, 06:45 »

กกต.ทั้ง 3 คน โดยเฉพาะคุณปริญญา และคุณวาสนา เองมีพฤติกรรม/ธง อยู่แล้วว่า ตนนั้นเหมาะสมในการทำหน้าที่จัดการเลื้อกตั้ง

แม้ยื่นใบลาออกแล้ว แต่ธงนั้นยังคงอยู่

หากให้ประกันตัว นักข่าวย่อมสัมภาษณ์สามเวลาก่อนและหลังอาหาร หรือทุกครั้งที่สถานการณ์บ้านเมืองขยับตัว
มองในแง่ร้ายที่สุด หากอดีต กกต.ให้สัมภาษณ์ในแนวทางสวนทางกับการทำงานของศาลที่มีขึ้นในปัจจุบัน และจะมีขึ้นในอนาคต

สังคมย่อมมีความขัดแย้งทางความคิด มีแนวโน้มเกิดความรุนแรง

ศาลท่านอายุปูนนี้แล้ว และวินิจฉัยภายใต้ในพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แม้ยังคงเป็นปุถุชน มีอารมณ์ความรู้สึกรัก โลภ โกรธ หลง
แต่คิดว่าการพิจารณาตัดสินเป็นไปด้วยความห่วงใยประเทศมากกว่าห่วงใยสิทธิเสรีภาพแห่งความเป็นมนุษย์ของ 3 กกต.

บางที่เราก็ต้องป้องกันไว้ก่อน หากปล่อยตัวไป แล้ว อดีต กกต.ออกมาสร้างความขัดแย้งในสังคม เป็นการยากที่จะลากมาฝากขังอีกครั้ง
จะเอาสก๊อตเทปไปปิดปากก็ไม่ได้อีก

เรื่องนี้โดยสรุป คือ กันไว้ดีกว่าแก้ ถ้าแย่แล้วจะแก้ไม่ทัน
ใจเย็นๆ ทั้ง 3 ยังไงก็ไม่ติดตารางถาวรหรอก แค่กักตัวไว้ชั่วคราวเพื่อไม่ให้ออกมาสร้างความปั่นป่วนเท่านั้นเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-07-2006, 06:47 โดย ไทมุง » บันทึกการเข้า
THX
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 569



« ตอบ #26 เมื่อ: 27-07-2006, 08:12 »

ไม่ให้ประกันวันแรก พอเข้าใจ

แต่ลาออกแล้ว ยังเป็นอันตรายได้อีกหรือคะ?
แถมคนที่ลาออกไปก่อนหน้า กลับไม่มีความผิดเลยทั้งๆ ที่ก็ทำอยู่ด้วยกัน

อีกประการ หากความผิดร้ายแรงมาก ทำไมจำคุกแค่ 4 ปี
โทษขนาดนี้ แต่ประกันตัวไม่ได้ ไม่แปลกหรือคะ?

ตำแหน่งราชการ ไม่เหมือนพนักงานบริษัทเอกชนนะครับ ดูอย่างฯพณฯ พล.อเปรม ไม่ได้ทำราชการทหารมาตั้งนานแล้ว แต่ทหารในปัจจุบัน ยังเคารพอยู่  อย่างวาสนาก็เหมือนกัน ถึงออกไปแล้ว ออกไล้ว แต่ลูกน้องในบังคับบัญชาก็ยังทำงานอยู่ ถ้าปล่อยออกมาอาจจะนั่งบัญชาการหลังม่านทำให้เกิดการเลือกตั้งที่ไม่เป็นกลางได้
บันทึกการเข้า



พวกเรา..เรารู้สึกว่าจะมีสายลับปลอมมาในหมู่ของพวกเราโดยไม่รู้ตัว=__='



( づ ̄ 3 ̄ )づ~~~♡♡♡ ~~
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #27 เมื่อ: 27-07-2006, 12:54 »

มาตรา ๑๐๘ ในการวินิจฉัยคำร้องให้ปล่อยชั่วคราว ให้พึงพิจารณาข้อเหล่านี้ประกอบ
(๑) ความหนักเบาแห่งข้อหา
(๒) พยานหลักฐานที่นำมาสืบแล้วมีเพียงใด
(๓) พฤติการณ์ต่าง ๆ แห่งคดีเป็นอย่างไร
(๔) เชื่อถือผู้ร้องขอประกันหรือหลักประกันได้เพียงใด
(๕) ผู้ต้องหาหรือจำเลยน่าจะหลบหนีหรือไม่
(๖) ภัยอันตรายหรือความเสียหายที่จะเกิดจากการปล่อยชั่วคราว มีเพียงใดหรือไม่
(๗) ในกรณีที่ผู้ต้องหาหรือจำเลยต้องขังตามหมายศาล ถ้ามีคำ คัดค้านของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการหรือโจทก์แล้วแต่กรณี ศาลพึงรับประกอบการ
วินิจฉัยได้


ตามประเด็นที่ไฮไลท์ไว้นะคะ ตามข้อ ๓ อดีตกกต แสดงออกถึงความไม่สำนึก

ตามข้อ ๔ นักการเมือง และผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมือง เมื่อทำท่าจะจนมุม หนีทุกคน

ตามข้อ ๖  ความเสียหายจากการไปยุ่งเกี่ยวกับรูปคดีไม่ได้หายไปเพราะการลาออกค่ะ เพราะเท่าที่ทราบ ในสำนักงาน กกต นอกจากจะมีลูกน้องแล้ว ยังมีญาติโต โหติกาที่แต่งตั้งขึ้นมาทำงานเต็มไปหมด คงจำได้ว่า ก่อนหน้านี้ที่ไม่ออกๆ ได้พยายามจะผลักดันโดยจะจ้างคนเพิ่มมาทำงานพิเศษ ให้เงินพิเศษ มีคนขุดคุ้ยประเด็นนี้ขึ้นมาว่า ในนั้นยังมีญาติไม่มากพอหรือ ต่อให้ลาออกไปแล้ว ดูท่าทางก็ไม่ได้จะยอมลดราวาศอกเลย โดยเฉพาะพี่หนา ที่ไม่ยอมให้เหตุผลแห่งการลาออกดังเช่นอีกสองท่าน ที่ยอมรับคำตัดสินของศาล ไม่ต้องเอาอะไรมาก ม๊อบที่ประท้วงอยู่หน้าศาลหน่ะ บางส่วนเป็นคนเมืองจันทน์ คิดว่าออกมาจะมีเหตุวุ่นวายกว่านี้มั้ยคะ เกิดพี่แกขึ้นศาลที ปลุกม๊อบมาประท้วงหน้าศาลที มิยิ่งยุ่งเหรอ แค่นี้ศาลก็ออกหมายจับพวกป่วนศาล เป็นการปรามอย่างนึงแล้ว มีแต่พวกที่ไม่สำนึกนั่นแหละที่ไม่ยอมหยุด

อยากบอกหนูหิมะว่า อย่าเอาจิตใจของวิญญูชน ไปประเมินพฤติกรรมของอวิญญูชน คิดว่าเค้าคงไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ ไม่ได้แล้วหล่ะ เพราะอ่านจากคำตัดสินของศาล น่าจะออกแนวตัดไฟแต่ต้นลม โดยดูจากพฤติกรรมโดยรวมทั้งหมดแล้ว อย่ามองไปไกล แค่วันที่ขึ้นศาลก็เห็นแล้วว่าพี่หนากร่างขนาดไหน ติดคุกตอนนี้ สมควรแล้ว (สงสารที่ติดคุกตอนแก่ แต่ไม่ได้หมายความว่าควรยกโทษให้ หรือว่า ต้องถอนฟ้องคดีอื่นนะ ต้องว่าไปตามถูกผิด เมื่อผิด ก็ต้องรับ ไม่ใช่แค่นพอแล้ว ทำอะไรไว้ ก็ได้อย่างนั้น นี่แหละเค้าเรียกว่า กรรมตามทัน)

อ้อ มาบอกอีกอย่างนะ เห็นพักนี้ชอบซัมม่อนท่านจรัลกันนัก วันนี้ได้ยินนักข่าวมาเล่าให้ฟังว่า สมัยทำข่าว กกต จะได้ยินท่านจรัลพูดสบถบ่อยๆ ว่า ทำแบบนี้ระวังจะติดคุก เป็นประจำ ไม่นึกว่า ท่านตายไปแล้วจะไปให้การในศาลได้จริงๆ ติดคุกกันทั่วหน้าเลย

อยากได้กกต ชุดใหม่ ที่สมบูรณ์แข็งแรง จิตใจหนักแน่น ไม่หลงกลิ่นเงินและอำนาจอันหอมหวน ได้ยินว่ามีคนจะเสนอชื่อท่านนึง ท่านอายุมากแล้ว ยังออกตัวว่าไม่แน่ใจว่าจะแข็งแรงพอมั้ย แม้ว่า กกต ใหม่จะอายุไม่นานก็จะครบวาระ แต่งานที่ต้องทำหนักหนาสาหัสมาก เพราะนอกจากจัดการเลือกตั้งใหม่แล้ว คงต้องมาสาคดีเก่าๆ รวมไปถึงสว. ที่รับรองไปแล้วด้วย

สุดท้าย ถึงหนูหิมะอีกที พักนี้ ทำไมออนไลน์ ดึกจนถึงเช้าตลอด ไม่อยู่แถวนี้เหรอ
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
ชามู
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 536


ชามู ปลาวาฬตัวใหญ่ใจดี


« ตอบ #28 เมื่อ: 27-07-2006, 13:12 »

ได้อ่านความรู้ ความเห็นของหลายๆ ท่าน

ก็เลยอยากจะแสดงความขอบคุณ ที่แบ่งปันความรู้ให้

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

สมาชิกหมายเลข #348

ชามู ปลาวาฬตัวใหญ่ใจดี
Ja-Ded
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 244


วิธีการรักษาอำนาจไว้ ก็คือการไม่ใช้อำนาจนั้น


« ตอบ #29 เมื่อ: 27-07-2006, 13:32 »

มาขอบคุณสำหรับความรู้ด้วยคนครับ
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #30 เมื่อ: 27-07-2006, 13:46 »

 Rolling Eyes Rolling Eyes Rolling Eyes
บันทึกการเข้า
varada
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,193



เว็บไซต์
« ตอบ #31 เมื่อ: 27-07-2006, 13:54 »

ออกไปก็ยังมีอิทธิพลอยู่ เพราะยังไม่มีกกต.ใหม่มาทำหน้าที่
สมควรให้ขังลืมเอ๊ย........ฝากขังจนกว่าจะมีกกต.ชุดใหม่มาทำหน้าที่
แล้วจึงค่อยพิจารณาเรื่องประกัน
บันทึกการเข้า
pongman
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 63



« ตอบ #32 เมื่อ: 27-07-2006, 14:02 »

ไม่ให้ประกันวันแรก พอเข้าใจ

แต่ลาออกแล้ว ยังเป็นอันตรายได้อีกหรือคะ?
แถมคนที่ลาออกไปก่อนหน้า กลับไม่มีความผิดเลยทั้งๆ ที่ก็ทำอยู่ด้วยกัน

อีกประการ หากความผิดร้ายแรงมาก ทำไมจำคุกแค่ 4 ปี
โทษขนาดนี้ แต่ประกันตัวไม่ได้ ไม่แปลกหรือคะ?
ผมไม่รู้ว่าคุณไม่เข้าใจหรือคุณไม่รู้...ว่า
ผู้มีอำนาจ...ถึงจะหมดอำนาจ  แต่ก็ยังมีอิธิพลอยู่
มันสามารถทำความเสียหายให้สังคมได้อยู่
ผมไม่ได้เรียนกฏหมาย  แต่ผมพอจะเข้าใจบ้างว่าทำไมถึงไม่ให้ประกันตัว
คนชอบไปเปรียบกับคดีฆ่าคนตาย
นั่นแค่ฆ่าคนคนเดียว แต่...นี่ฆ่าชาติให้ล่มสลายได้เลย
ปล...ผมเข้าใจว่าเป็นอย่างนั้น.....
บันทึกการเข้า

รักในหลวง   รักชาติ
eAT
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,066



« ตอบ #33 เมื่อ: 27-07-2006, 14:07 »

มาตรา ๑๐๘ ในการวินิจฉัยคำร้องให้ปล่อยชั่วคราว ให้พึงพิจารณาข้อเหล่านี้ประกอบ
(๑) ความหนักเบาแห่งข้อหา
(๒) พยานหลักฐานที่นำมาสืบแล้วมีเพียงใด
(๓) พฤติการณ์ต่าง ๆ แห่งคดีเป็นอย่างไร
(๔) เชื่อถือผู้ร้องขอประกันหรือหลักประกันได้เพียงใด
(๕) ผู้ต้องหาหรือจำเลยน่าจะหลบหนีหรือไม่
(๖) ภัยอันตรายหรือความเสียหายที่จะเกิดจากการปล่อยชั่วคราว มีเพียงใดหรือไม่
(๗) ในกรณีที่ผู้ต้องหาหรือจำเลยต้องขังตามหมายศาล ถ้ามีคำ คัดค้านของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการหรือโจทก์แล้วแต่กรณี ศาลพึงรับประกอบการวินิจฉัยได้

จากการอ่านคำพิพากษา กับเหตุผลของการยกคำร้องประกันตัว
ผมว่าเป็น ข้อ 1 นะ ถือว่าเป็นภัยต่อระบบประชาธิปไตย
จึงไม่ให้ประกันตัว อย่างนี้ คุณสุเทพไม่ควรถอนฟ้อง อดีต กกต
อีกคนหนึ่ง และในคดีความอื่นๆ ด้วย
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #34 เมื่อ: 27-07-2006, 14:14 »

เรื่องกฎหมายเป็นเรื่องของการตีความกันทั้งนั้น ตัวศาลเองก็เป็นปุถุชนที่มีความโลภโกรธหลงเหมือนเช่นคนทั่วๆไป ประเด็นก็คือ ถ้าศาลมีคำวินิฉัยออกมาไม่เป็นธรรม ประเทศไทยจะมีองค์กรไหนคอยถ่วงดุลการใช้อำนาจหรือไม่?


การให้อำนาจปชช.ในการถอดถอนบุคลากรในตุลาการได้...น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าไหม!?!
บันทึกการเข้า
จูล่ง_j
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,901



« ตอบ #35 เมื่อ: 27-07-2006, 14:30 »

ตามข้อ ๖  ความเสียหายจากการไปยุ่งเกี่ยวกับรูปคดีไม่ได้หายไปเพราะการลาออกค่ะ เพราะเท่าที่ทราบ ในสำนักงาน กกต นอกจากจะมีลูกน้องแล้ว ยังมีญาติโต โหติกาที่แต่งตั้งขึ้นมาทำงานเต็มไปหมด คงจำได้ว่า ก่อนหน้านี้ที่ไม่ออกๆ ได้พยายามจะผลักดันโดยจะจ้างคนเพิ่มมาทำงานพิเศษ ให้เงินพิเศษ มีคนขุดคุ้ยประเด็นนี้ขึ้นมาว่า ในนั้นยังมีญาติไม่มากพอหรือ ต่อให้ลาออกไปแล้ว ดูท่าทางก็ไม่ได้จะยอมลดราวาศอกเลย โดยเฉพาะพี่หนา ที่ไม่ยอมให้เหตุผลแห่งการลาออกดังเช่นอีกสองท่าน ที่ยอมรับคำตัดสินของศาล ไม่ต้องเอาอะไรมาก ม๊อบที่ประท้วงอยู่หน้าศาลหน่ะ บางส่วนเป็นคนเมืองจันทน์ คิดว่าออกมาจะมีเหตุวุ่นวายกว่านี้มั้ยคะ เกิดพี่แกขึ้นศาลที ปลุกม๊อบมาประท้วงหน้าศาลที มิยิ่งยุ่งเหรอ แค่นี้ศาลก็ออกหมายจับพวกป่วนศาล เป็นการปรามอย่างนึงแล้ว มีแต่พวกที่ไม่สำนึกนั่นแหละที่ไม่ยอมหยุด

เห็นด้วยกับพารากาฟนี้

ต่อให้ลาออกแล้ว อดีต กกต ยังมีอิทธิพลอยู่ สามารถจะสั่งลูกน้องเก่าๆ ทำอะไรที่มีผลต่อหลักฐานการเลือกตั้งทังหมดได้

อีกทั้งม๊อบเชียร์ กกต อาจอาจผลักดันทำให้ กกต หลงผิดอีกรอบ นึกว่าตัวเองเป็นวีระบุรุษที่ถูกใส่ร้าย
บันทึกการเข้า

Sweet Chin Music
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,613



« ตอบ #36 เมื่อ: 27-07-2006, 14:37 »

เข้ามาอ่านกระทู้นี้ ได้ความรู้เพียบเลย Mr. Green
บันทึกการเข้า


You'll Never Walk Alone
เข้าไปกันได้ค๊าป- - - >http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sweetchinmusic&group=1
คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« ตอบ #37 เมื่อ: 27-07-2006, 14:37 »

เรื่องกฎหมายเป็นเรื่องของการตีความกันทั้งนั้น ตัวศาลเองก็เป็นปุถุชนที่มีความโลภโกรธหลงเหมือนเช่นคนทั่วๆไป ประเด็นก็คือ ถ้าศาลมีคำวินิฉัยออกมาไม่เป็นธรรม ประเทศไทยจะมีองค์กรไหนคอยถ่วงดุลการใช้อำนาจหรือไม่?


การให้อำนาจปชช.ในการถอดถอนบุคลากรในตุลาการได้...น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าไหม!?!

มีอยู่แล้วครับ คือ คณะกรรมการตุลาการ (กต.) ครับ ส่วนเรื่องให้ ปชช. มีอำนาถอดถอนข้าราชการตุลาการได้ นี่คุณอะไรจ๊ะไม่เข้าใจขั้นตอนนะครับ  นั่นคือ หากคุณอะไรจ๊ะ มีหลักฐานว่าตุลาการคนใดประพฤติมิชอบด้วยกฏหมาย คุณอะไรจ๊ะ สามารถยื่นร้องเรียนได้ที่ กต. ครับ แล้ว กต. จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน หากพบว่าผิดจริง กต. จะส่งเรื่องขึ้นไปเพื่อขอโปรดเกล้าฯ ให้ตุลาการคนนั้นพ้นจากตำแหน่งครับ เพราะ ตุลาการ ทุกคน ไม่ว่าจะชั้นต้นไปจนถึงฎีกา คนเดียวที่จะแต่งตั้งหรือถอดถอนได้ คือองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครับ
บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
ThailandReport
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,415


« ตอบ #38 เมื่อ: 27-07-2006, 14:42 »

เรื่องกฎหมายเป็นเรื่องของการตีความกันทั้งนั้น ตัวศาลเองก็เป็นปุถุชนที่มีความโลภโกรธหลงเหมือนเช่นคนทั่วๆไป ประเด็นก็คือ ถ้าศาลมีคำวินิฉัยออกมาไม่เป็นธรรม ประเทศไทยจะมีองค์กรไหนคอยถ่วงดุลการใช้อำนาจหรือไม่?


การให้อำนาจปชช.ในการถอดถอนบุคลากรในตุลาการได้...น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าไหม!?!

มีอยู่แล้วครับ คือ คณะกรรมการตุลาการ (กต.) ครับ ส่วนเรื่องให้ ปชช. มีอำนาถอดถอนข้าราชการตุลาการได้ นี่คุณอะไรจ๊ะไม่เข้าใจขั้นตอนนะครับ  นั่นคือ หากคุณอะไรจ๊ะ มีหลักฐานว่าตุลาการคนใดประพฤติมิชอบด้วยกฏหมาย คุณอะไรจ๊ะ สามารถยื่นร้องเรียนได้ที่ กต. ครับ แล้ว กต. จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน หากพบว่าผิดจริง กต. จะส่งเรื่องขึ้นไปเพื่อขอโปรดเกล้าฯ ให้ตุลาการคนนั้นพ้นจากตำแหน่งครับ เพราะ ตุลาการ ทุกคน ไม่ว่าจะชั้นต้นไปจนถึงฎีกา คนเดียวที่จะแต่งตั้งหรือถอดถอนได้ คือองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครับ

เคยเห็น ควาย ทำท่า งง ไหม ?  อะไรจ้ะ ...



ส่อง กาจกเดะ...จาเห็น ฮิๆ   Mr. Green Laughing
บันทึกการเข้า

The only thing necessary for the triump of evil is for good men to do nothing !!
สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่ คนดีๆนิ่งดูดาย !
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #39 เมื่อ: 27-07-2006, 14:44 »

เรื่องกฎหมายเป็นเรื่องของการตีความกันทั้งนั้น ตัวศาลเองก็เป็นปุถุชนที่มีความโลภโกรธหลงเหมือนเช่นคนทั่วๆไป ประเด็นก็คือ ถ้าศาลมีคำวินิฉัยออกมาไม่เป็นธรรม ประเทศไทยจะมีองค์กรไหนคอยถ่วงดุลการใช้อำนาจหรือไม่?


การให้อำนาจปชช.ในการถอดถอนบุคลากรในตุลาการได้...น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าไหม!?!

มีอยู่แล้วครับ คือ คณะกรรมการตุลาการ (กต.) ครับ ส่วนเรื่องให้ ปชช. มีอำนาถอดถอนข้าราชการตุลาการได้ นี่คุณอะไรจ๊ะไม่เข้าใจขั้นตอนนะครับ  นั่นคือ หากคุณอะไรจ๊ะ มีหลักฐานว่าตุลาการคนใดประพฤติมิชอบด้วยกฏหมาย คุณอะไรจ๊ะ สามารถยื่นร้องเรียนได้ที่ กต. ครับ แล้ว กต. จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน หากพบว่าผิดจริง กต. จะส่งเรื่องขึ้นไปเพื่อขอโปรดเกล้าฯ ให้ตุลาการคนนั้นพ้นจากตำแหน่งครับ เพราะ ตุลาการ ทุกคน ไม่ว่าจะชั้นต้นไปจนถึงฎีกา คนเดียวที่จะแต่งตั้งหรือถอดถอนได้ คือองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครับ

เคยเห็น ควาย ทำท่า งง ไหม ?  อะไรจ้ะ ...



ส่อง กาจกเดะ...จาเห็น ฮิๆ   Mr. Green Laughing


มุกเชยๆแบบนี้ยังเอามาเล่นกันอีกเหรอครับ.....จืดน๊า  Cool
บันทึกการเข้า
buntoshi
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,348



« ตอบ #40 เมื่อ: 27-07-2006, 15:07 »

สุดยอดครับ กระทู้นี้ ถกกันด้วยเหตุผล และ ตัวบทกฎหมาย คนที่ได้ ประโยชน์ก็คือเราทุกคนครับ

ผมก็เคยสงสัยแบบ คุณ สโนว์เฟค บางข้อ เอาคำถามที่หลายๆ คนสงสัย มาเพื่อเปิดประเด็น เพื่อหาคำตอบ
 เป็นความรู้ขึ้นมา ให้เข้าใจได้

เวปบอร์ดที่มีประโยชน์ ดูได้จากกระทู้นี้ครับ  Wink

ส่วนใครที่พยายามป่วน เลิกเถอะครับ

คนปกติ ได้อ่านกระทู้นี้ จะดีใจ ว่าเราได้รับความรู้เพิ่มเติม แต่คนไม่ปกติ จะเครียดแค้น คนที่เห็นไม่ตรงกับตัวเอง ไม่ได้ดั่งใจตัวเอง คนเช่นนี้ หาได้ปกติไม่
บันทึกการเข้า


เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น....  ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
---------------------------
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #41 เมื่อ: 27-07-2006, 22:24 »

แหม น่าเสียดาย ไม่รู้ คนในข่าวเทปนี้ จะมีคลิปให้โหลดป่าว
จะให้หนูหิมะฟัง การฝังรากลึกของ  กกต เทปนี้เด็ดมาก   Mr. Green
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
mini
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 407


« ตอบ #42 เมื่อ: 27-07-2006, 22:58 »

กกต.ทั้ง 3 คน โดยเฉพาะคุณปริญญา และคุณวาสนา เองมีพฤติกรรม/ธง อยู่แล้วว่า ตนนั้นเหมาะสมในการทำหน้าที่จัดการเลื้อกตั้ง

แม้ยื่นใบลาออกแล้ว แต่ธงนั้นยังคงอยู่

หากให้ประกันตัว นักข่าวย่อมสัมภาษณ์สามเวลาก่อนและหลังอาหาร หรือทุกครั้งที่สถานการณ์บ้านเมืองขยับตัว
มองในแง่ร้ายที่สุด หากอดีต กกต.ให้สัมภาษณ์ในแนวทางสวนทางกับการทำงานของศาลที่มีขึ้นในปัจจุบัน และจะมีขึ้นในอนาคต

สังคมย่อมมีความขัดแย้งทางความคิด มีแนวโน้มเกิดความรุนแรง

ศาลท่านอายุปูนนี้แล้ว และวินิจฉัยภายใต้ในพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แม้ยังคงเป็นปุถุชน มีอารมณ์ความรู้สึกรัก โลภ โกรธ หลง
แต่คิดว่าการพิจารณาตัดสินเป็นไปด้วยความห่วงใยประเทศมากกว่าห่วงใยสิทธิเสรีภาพแห่งความเป็นมนุษย์ของ 3 กกต.

บางที่เราก็ต้องป้องกันไว้ก่อน หากปล่อยตัวไป แล้ว อดีต กกต.ออกมาสร้างความขัดแย้งในสังคม เป็นการยากที่จะลากมาฝากขังอีกครั้ง
จะเอาสก๊อตเทปไปปิดปากก็ไม่ได้อีก

เรื่องนี้โดยสรุป คือ กันไว้ดีกว่าแก้ ถ้าแย่แล้วจะแก้ไม่ทัน
ใจเย็นๆ ทั้ง 3 ยังไงก็ไม่ติดตารางถาวรหรอก แค่กักตัวไว้ชั่วคราวเพื่อไม่ให้ออกมาสร้างความปั่นป่วนเท่านั้นเอง


ผมคิดว่า คำพูดที่ว่า "ศาลท่านอายุปูนนี้แล้ว และวินิจฉัยภายใต้ในพระปรมาภิไธย ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดนะครับ

ลองอ่านจากนี้นะครับ http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=MDQwODMwMTI0OA==&srcday=MjAwNi8wNy8yMQ==&search=no

โดยเฉพาะตรงข้อความนี้

"ผมเคยได้ยินท่านผู้พิพากษาบางท่านย้ำเสมอว่า ท่านพิพากษาคดีในพระปรมาภิไธย ซึ่งถูกต้องตามหลักการ แต่จะเข้าใจผิดไม่ได้ว่าพิพากษาแทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะบุคคล มิฉะนั้น พระองค์ก็ต้องเข้ามารับผิดชอบกับคำพิพากษาด้วย เรื่องมันจะมิยุ่งกันใหญ่หรือครับ

แต่คำพิพากษาที่ทำในพระปรมาภิไธยนั้น ก็เพราะอำนาจตุลาการเป็นอำนาจอธิปไตยของปวงชน อย่าลืมนะครับว่าคำพิพากษาของศาลนั้นคือการละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพลเมือง เช่น ปรับ, เอาตัวไปจำขัง, หรือประหารชีวิต เรื่องใหญ่ขนาดนี้ต้องอิงอาศัยอำนาจของประชาชน หรือที่เราเรียกว่าอธิปไตยเท่านั้น

ที่ต้องแยกอำนาจตุลาการออกเป็นอีกส่วนหนึ่งของอธิปไตยก็เพราะเหตุนี้ เนื่องจากคำพิพากษาย่อมกระทบถึงสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพลเมือง อำนาจตุลาการจึงต้องงอกออกมาจากอำนาจอธิปไตยโดยตรง ไม่ผ่านอำนาจนิติบัญญัติหรือบริหาร

พระปรมาภิไธยเป็นเครื่องหมายถึงอำนาจอธิปไตยของปวงชน เตือนให้ผู้พิพากษาสำนึกถึงฐานที่มาของอำนาจในคำพิพากษา จึงต้องใช้อำนาจนั้นอย่างรอบคอบและเที่ยงธรรม เพื่อประโยชน์สุขของสังคมหรือปวงชน

พูดกันตรงไปตรงมาก็คือไม่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ที่เป็นบุคคล แต่เกี่ยวอย่างแยกไม่ออกจากอธิปไตยของปวงชน ซึ่งพระมหากษัตริย์ในฐานะที่เป็นสถาบันทรงใช้แทนปวงชน"

ผมคิดว่า น่าจะเป็นแบบนี้มากกว่า
บันทึกการเข้า
teera999
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 75


« ตอบ #43 เมื่อ: 27-07-2006, 23:12 »

จขกท.เปิดใจอ่านความเห็นของคนที่อุตส่าห์สละเวลามาตอบแล้วจะเข้าใจเองครับ
บันทึกการเข้า
enjoylife
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 114



« ตอบ #44 เมื่อ: 28-07-2006, 00:20 »

เรื่องหลักการ

ที่เห็นว่าควรยึดหลักการให้มาก เพราะหากปล่อยให้โอนเอนไปมา
ก็จะเกิดข้อสงสัยในความยุติธรรมได้

และบางครั้งการยึดหลักรัฐศาสตร์มาร่วมพิจารณา
ก็ทำให้เกิดผลเสียหายร้ายแรงตามมาได้มาก
เช่น กรณีซุกหุ้น = ปล่อยเสือเข้าป่า เพราะเชื่อว่ามันกลับใจ

เลยอดสงสัยไมได้ว่านี่คือ การตามแก้ที่เคยทำพลาดไว้?

ขอบคุณ สำหรับคำตอบนะคะ

เพราะว่าเป็นคนละศาลน่ะสิคะ จึงไม่ควรให้เกิดข้อสงสัยได้
ห่วงจะกลายเป็นว่าการเมืองลามมาจนถึงอำนาจตุลาการ
กลายเป็นคนๆ เดียวเป็นต้นเหตุทำลายทั้งสามอำนาจไป

คุณ เพนกวินฯ คะ เหตุผลที่คุณตอบ
เรื่องจะเกิดการเดินขบวนนั้น
เป็นเหตุผลทางรัฐศาสตร์ มิใช่หรือ?
2 ความเห็นข้างต้น เข้าใจได้ว่าคุณ snowflake ก็รู้ว่าเป็นคนละศาล

".....เลยอดสงสัยไมได้ว่านี่คือ การตามแก้ที่เคยทำพลาดไว้?
 .....เพราะว่าเป็นคนละศาลน่ะสิคะ จึงไม่ควรให้เกิดข้อสงสัยได้"

ก็สงสัยว่าในเมื่อรู้อยู่ว่าเป็นคนละศาล
แล้วศาลยุติธรรม จะไป "ตามแก้ที่เคยทำพลาดไว้" (โดยศาลรัฐธรรมนูญ) ได้ไหม และทำไปเพื่ออะไร ?
ดังนั้น จึง....
สงสัยว่า มาแสดงความสงสัยด้วยอะไร
สงสัยว่า เป็นห่วงหลักการ หรือ ห่วงอะไร
สงสัยว่า ถูกสงสัยแล้วจะโกรธ..... อย่างที่เคยอีกไหม

แต่มีข้อที่ผมไม่สงสัย
คือ วุฒิภาวะ ความรอบคอบ ความยุติธรรม ความแม่นยำในข้อกฏหมาย ของศาลฎีกา
ท่านเป็นและอยู่ในฐานะที่เกินคนอย่างผมจะไปสงสัยท่าน
ถึงจะมีการเมืองลามไปถึงท่านบ้าง (มันก็ลามถึงทุกคนอยู่แล้ว)
อำนาจตุลาการ ไม่ถูกทำลายลงด้วยฝีมือของคนคนเดียว....ดังที่คุณคิด
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #45 เมื่อ: 28-07-2006, 01:42 »

พิทักษ์สิทธิตามรัฐธรรมนูญของ กกต.

โดย สมชาย ปรีชาศิลปกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เชื่อได้ว่าคนจำนวนไม่น้อยคงอยากให้ศาลตัดสินลงโทษจำคุกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ที่ถูกฟ้องในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบซึ่งเป็นคดีความอยู่ในศาลอาญาขณะนี้หลายคดี

ด้วยสาเหตุว่าหากถูกตัดสินลงโทษจำคุกก็จะมีผลทำให้ กกต.ที่มีอยู่ในปัจจุบันต้องพ้นจากตำแหน่ง
เนื่องจากเป็นลักษณะต้องห้ามตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 141 (3)
และหากเป็นไปตามนี้ ก็เท่ากับเป็นการแก้ไขสถานการณ์ความยุ่งยากของ กกต. ที่อยู่ในภาวะ
"ไม่ลาออก-ไม่ตั้งใหม่"

แต่การที่ กกต.จะพ้นจากตำแหน่งไปด้วยเหตุมีลักษณะต้องห้ามนั้น ต้องเป็นไปตามมาตรา 106 (3) คือ
"ต้องคุมขังโดยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย" เพราะฉะนั้น
จึงหมายความว่าไม่เพียงการตัดสินลงโทษจำคุกเท่านั้น แต่ในคำพิพากษาต้องไม่มีการรอลงอาญา

และประเด็นสำคัญอีกประเด็นก็คือ หาก กกต.ซึ่งแพ้คดีแล้วได้ยื่นประกันตัวเพื่อขอต่อสู้ในคดีในชั้นอุทธรณ์
ศาลก็จะต้องปฏิเสธการให้ประกันตัวด้วย จึงจะทำให้ กกต.พ้นจากตำแหน่งไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

ซึ่งทั้งสองประเด็นมีสิ่งที่ควรพิจารณา ดังนี้

สำหรับประเด็นการรอลงอาญา คดีอาญาหลายคดีที่ผ่านมาซึ่งจำเลยเป็นนักการเมืองหรือข้าราชการระดับสูง
ในกรณีที่เห็นว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงตามฟ้อง เมื่อจะมีการลงโทษก็มักจะมีการนำเอาการปฏิบัติหน้าที่
รับใช้บ้านเมืองมาเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งในการทำให้จำเลยไม่ต้องรับโทษแต่ให้ "รอลงอาญา" ไว้ก่อน


การให้เหตุผลของการรอลงอาญาว่าเนื่องจากเคยเป็นข้าราชการระดับสูง ในด้านหนึ่งก็อาจถูกโต้แย้งได้ว่า
แทนที่จะนำมาเป็นเงื่อนไขของการผ่อนโทษให้เบาลง ตรงข้ามควรจะต้องลงโทษให้หนักมากขึ้นได้เช่นเดียวกัน
หากความผิดนั้นเป็นการกระทำในลักษณะที่เจตนาและรวมถึงเป็นกระทำที่จะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสังคม
เพื่อให้เกิดความรอบคอบและระมัดระวังมากขึ้นในการปฏิบัติงานของบุคคลเหล่านี้

เมื่อพิจารณาการทำงานของ กกต.ที่ถูกฟ้องร้อง จะเห็นได้ว่าการทำงานของ กกต.นั้นมีความเกี่ยวข้อง
และผลที่ต่อเนื่องมาจากการทำงานอย่างมาก ฉะนั้นในกรณีที่เกิดความผิดพลาดหากต้องตัดสินลงโทษจริงๆ
โดยไม่รอลงอาญาก็เป็นสิ่งที่มีเหตุผลรองรับอยู่

ประเด็นต่อมาหากมีคำตัดสินลงโทษจำคุกโดยไม่รอลงอาญา แล้วมีการยื่นขอประกันตัวโดย กกต.
เพื่อต่อสู้คดีต่อ ควรจะมีการพิจารณาประเด็นอย่างไร

ทั้งนี้ หากอนุญาตให้มีการประกันตัว กกต.ก็จะยังไม่พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากจะไม่ได้เป็นการ
"ต้องคุมขังโดยหมายศาล" เมื่อ กกต.ยังอยู่ในตำแหน่งก็ทำให้ปัญหาทางการเมืองขณะนี้ยังไม่อาจคลี่คลายไปได้
ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลให้หลายคนมีความเห็นว่าเพราะฉะนั้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาทางการเมือง
นอกจากตัดสินลงโทษโดยไม่รอลงอาญาแล้ว ศาลก็ไม่ควรจะอนุญาตในกรณีที่มีการขอยื่นประกันตัวเกิดขึ้นด้วย


แม้การวินิจฉัยในลักษณะเช่นนี้ ด้านหนึ่งดูเหมือนจะช่วยแก้ไขปัญหาทางการเมือง
แต่ในอีกด้านหนึ่งก็จำเป็นต้องมีการไตร่ตรองถึงผลกระทบที่จะมีต่อหลักการเรื่องสิทธิการประกันตัว
ของบุคคลที่ต้องเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญาด้วย
การประกันตัวเป็นสิทธิพื้นฐานที่สำคัญซึ่งบัญญัติเพื่อให้การคุ้มครองต่อเสรีภาพของปัจเจกบุคคล
จากการล่วงละเมิดของอำนาจรัฐ


การที่รัฐเข้ามาแทรกแซงจำกัดเสรีภาพของบุคคล จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีคำตัดสินอันเป็นที่สุด
จากกระบวนการยุติธรรมแล้วว่าได้กระทำความผิดและต้องถูกลงโทษ
เพราะฉะนั้นตราบเท่าที่ยังไม่มีการตัดสินหรือคดียังไม่ถึงที่สุด ก็ต้องถือว่าบุคคลที่ถูกกล่าวหา
ในการกระทำผิดต่างๆ ยังเป็นผู้บริสุทธิ์
เมื่อเป็นผู้บริสุทธิ์ก็ควรที่จะได้รับการคุ้มครองเฉกเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป


สิทธิประกันตัวก็เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานประการหนึ่งซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน
ข้อยกเว้นของการจำกัดสิทธินี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อหากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวแล้ว
อาจจะมีผลกระทบบางอย่างต่อกระบวนพิจารณาคดีนั้นๆ
เช่น ข่มขู่พยาน หลบหนี หรืออาจเป็นกรณีคดีอุกฉกรรจ์ที่สะเทือนความรู้สึกของสังคม
เช่น ฆ่าข่มขืน ปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ จึงจะไม่อนุญาตให้ประกันตัว


ดังนั้น สำหรับสิทธิในการประกันตัวนั้น โดยหลักจึงจะต้องให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยสามารถประกันตัว
การไม่ให้ประกันตัวถือว่าเป็นข้อยกเว้นเมื่อมีเหตุผลเพียงพอรองรับ

ในระบบกฎหมายของไทย ความยุ่งยากของการประกันตัวอันหนึ่งก็คือ มักจะใช้หลักที่ตรงกันข้ามกับที่กล่าวมา
คือไม่ให้ประกันเป็นหลัก ส่วนการประกันตัวเป็นข้อยกเว้น
แนวปฏิบัตินี้ได้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางโดยผู้ปฏิบัติงานในกระบวนการยุติธรรม
ซึ่งก็ได้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการละเมิดสิทธิพื้นฐานโดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนธรรมดาๆ
ที่ไม่มีหลักทรัพย์ เงินเพียงพอในการใช้เป็นหลักฐานเพื่อประกันตัว

แต่ภายหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 ได้มีการวางหลักสิทธิประกันตัวให้มีความมั่นคงมากขึ้น
โดยถือว่าการประกันตัวเป็นผู้ต้องหาเป็นสิทธิพื้นฐาน การจะไม่ให้ประกันตัวต้องมีเหตุผลที่ชัดเจน
แม้ว่าจะถึงปัจจุบันการปฏิบัติตามหลักการดังกล่าวอาจยังไม่เป็นที่น่าพอใจ
แต่อย่างน้อยก็เริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลงในการตระหนักถึงสิทธิประกันตัวของบุคคลผู้เป็นจำเลยมากขึ้น

สำหรับคดีของ กกต.หากมีการตัดสินลงโทษจำคุกโดยไม่รอลงอาญาและมีการยื่นขอประกันตัวจาก กกต.
มีประเด็นต้องขบคิดก็คือว่าหากไม่ให้มีการประกันตัวกับ กกต.แล้ว จะมีเหตุผลอะไรมารองรับ
คดีนี้ไม่ใช่คดีสะเทือนขวัญเหมือนการฆ่าข่มขืน อีกทั้งไม่มีวี่แววว่าผู้ตกเป็นจำเลยทั้งหมดจะหลบหนี
จากการต่อสู้คดีแต่อย่างใด


คดีนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่จะสะท้อนให้เห็นว่าในการบังคับใช้กฎหมายนั้น
เราจะเคารพหลักการของกฎหมายที่เกิดขึ้นเพื่อคุ้มครองสิทธิของบุคคลทั่วไปหรือไม่
หรือเราเพียงต้องการมุ่งไปที่ผลสุดท้ายแต่เพียงอย่างเดียว โดยไม่สนใจว่าวิธีการต่างๆ
หรือเครื่องมือที่นำมาใช้มีเหตุผลรองรับเพียงพอหรือไม่

หากปล่อยให้เกิดการละเมิดต่อสิทธิขั้นพื้นฐานเกิดขึ้นได้ในคดีนี้ ก็ไม่เป็นที่น่าแปลกใจ
ถ้าจะมีการกระทำในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นกับประชาชนคนอื่นในอนาคต
ด้วยการอ้างถึงเหตุผลของประโยชน์ส่วนรวม เพื่อประเทศชาติ หรืออะไรก็ตามที


( อันที่จริงก็มีช่องทางกฎหมายในคดีนี้ที่จะทำให้สถานะของ กกต.พ้นจากตำแหน่งไป
แต่ไม่จำเป็นต้องแนะนำในที่นี้เพราะเข้าใจว่านักกฎหมายจำนวนไม่น้อยก็พอมองเห็นอยู่
)

มักเป็นที่เข้าใจกันว่าการใช้กฎหมายอย่างบิดเบือนโดยปราศจากหลักการ
เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากน้ำมือของเนติบริกรเป็นส่วนใหญ่
แต่เอาเข้าจริงทรรศนะหรือท่าทีของสังคมก็มีส่วนอย่างสำคัญในการทำให้
การบังคับใช้กฎหมายลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน


http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act02240749&day=2006/07/24
มติชน วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10362



คุณsnowflake บอกได้ไหมว่า คัดลอก/ลิงค์ ความคิดเห็นของคนอื่นมา เช่น คุณสมชาย ปรีชาศิลปกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่นั้น คัดลอกมาให้อ่านเฉยๆ หรือเห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณสมชาย หรือ"ใบตองแห้ง" หรือ คนอื่นๆ ที่คัดมา Exclamation

ผมถาม เพราะมีความแตกต่างกัน ถ้าเป็นคัดลอกมาเฉยๆ ผมจะไม่ตอบ
เพราะผมเข้าใจความคิดเห็นของคุณสมชาย คุณ"ใบตองแห้ง"
หรือบางคนที่เข้ามาใน"เสรีไทยเว็บบอร์ด"แล้ว.....ฯลฯ

ผมไม่มีความประสงค์จะแสดงความคิดเห็นร่วมด้วย  ปล่อยให้เขาแสดงความคิดเห็น
แตกต่างกันต่อไป....


ถ้าคุณ snowflake คัดลอก/ลิงค์มา เพราะเห็นด้วยกับความคิดเห็น
และต้องการเผยแพร่ ผมจะตอบและแสดงความคิดเห็นด้วย.....




คุณสมชายเริ่มนำความจริงส่วนหนึ่ง เบี่ยงเบน จับประเด็นคุยและสร้างความคิดเห็น
หว่านล้อมให้คล้อยตามไปด้วย......



การอ้างอิงตัวอย่างหนึ่ง แล้วอนุมานว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคล้ายคลึงกันนั้น ไม่ถูกต้อง... Exclamation


ผมยกตัวอย่าง คนที่ขอประกันตัว ล้วนแต่ให้เหตุผล รับรองว่า การได้ประกันตัวของเขา จะไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนไป ไม่ไปขู่เข็ญ ไม่ใช้อำนาจตำแหน่งไปบิดเบือน เปลี่ยนแปลงต่อไป จึงขอให้ศาลกรุณาให้ ประกันตัว  เป็นต้น Exclamation

ในกรณีนายปริญญา ยังให้ความเห็นว่า เขาได้รับประกันตัวแล้ว จะไปทำหน้าที่อย่างเดิม Exclamation

เขาไม่สนใจ ไม่ใส่ใจว่าศาล ประชาชนที่ไม่ได้เป็นคนรักทักษิณ
ล้วนแต่กลัวว่า เขาได้รับประกันตัวแล้วจะ ดื้อด้านไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเดิม

จึงได้ให้เหตุผลว่า ไม่ให้ประกันเพราะกลัวว่าจะไปทำหน้าที่
ที่ไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่ได้ในความคิดเห็นของศาลฯ นักวิชาการ ประชาชน เป็นต้น
Exclamation


ถ้าคุณsnowflake มีความคิดเห็นด้วยกับเจ้าของบทความ
ผมจะเข้ามาคุยด้วยใหม่..... Question

ตอนนี้ฝากข้อสังเกตุที่เน้นตัวหนา หรือ สี ให้พิจารณา........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า



บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #46 เมื่อ: 28-07-2006, 01:52 »

หนูหิมะหายไปไหนไม่รู้ค่ะ แอนรอมาชี้แจงเหมือนกันอ่ะ หนูหิมะโจทก์ชักเยอะแล้วนะ (สะกดงี้นะ โจทก์ แปลว่าผู้ฟ้องร้อง ตรงข้ามกับ จำเลย ส่วนโจทย์หน่ะ เป็นคือ ปัญหา โจทย์เลข อะไรทำนองนี้ คนละอันกัน)
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #47 เมื่อ: 28-07-2006, 01:54 »

มาตรา ๑๐๘ ในการวินิจฉัยคำร้องให้ปล่อยชั่วคราว ให้พึงพิจารณาข้อเหล่านี้ประกอบ
(๑) ความหนักเบาแห่งข้อหา
(๒) พยานหลักฐานที่นำมาสืบแล้วมีเพียงใด
(๓) พฤติการณ์ต่าง ๆ แห่งคดีเป็นอย่างไร
(๔) เชื่อถือผู้ร้องขอประกันหรือหลักประกันได้เพียงใด
(๕) ผู้ต้องหาหรือจำเลยน่าจะหลบหนีหรือไม่
(๖) ภัยอันตรายหรือความเสียหายที่จะเกิดจากการปล่อยชั่วคราว มีเพียงใดหรือไม่
(๗) ในกรณีที่ผู้ต้องหาหรือจำเลยต้องขังตามหมายศาล ถ้ามีคำ คัดค้านของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการหรือโจทก์แล้วแต่กรณี ศาลพึงรับประกอบการ
วินิจฉัยได้


ตามประเด็นที่ไฮไลท์ไว้นะคะ ตามข้อ ๓ อดีตกกต แสดงออกถึงความไม่สำนึก

ตามข้อ ๔ นักการเมือง และผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมือง เมื่อทำท่าจะจนมุม หนีทุกคน

ตามข้อ ๖  ความเสียหายจากการไปยุ่งเกี่ยวกับรูปคดีไม่ได้หายไปเพราะการลาออกค่ะ เพราะเท่าที่ทราบ ในสำนักงาน กกต นอกจากจะมีลูกน้องแล้ว ยังมีญาติโต โหติกาที่แต่งตั้งขึ้นมาทำงานเต็มไปหมด คงจำได้ว่า ก่อนหน้านี้ที่ไม่ออกๆ ได้พยายามจะผลักดันโดยจะจ้างคนเพิ่มมาทำงานพิเศษ ให้เงินพิเศษ มีคนขุดคุ้ยประเด็นนี้ขึ้นมาว่า ในนั้นยังมีญาติไม่มากพอหรือ ต่อให้ลาออกไปแล้ว ดูท่าทางก็ไม่ได้จะยอมลดราวาศอกเลย โดยเฉพาะพี่หนา ที่ไม่ยอมให้เหตุผลแห่งการลาออกดังเช่นอีกสองท่าน ที่ยอมรับคำตัดสินของศาล ไม่ต้องเอาอะไรมาก ม๊อบที่ประท้วงอยู่หน้าศาลหน่ะ บางส่วนเป็นคนเมืองจันทน์ คิดว่าออกมาจะมีเหตุวุ่นวายกว่านี้มั้ยคะ เกิดพี่แกขึ้นศาลที ปลุกม๊อบมาประท้วงหน้าศาลที มิยิ่งยุ่งเหรอ แค่นี้ศาลก็ออกหมายจับพวกป่วนศาล เป็นการปรามอย่างนึงแล้ว มีแต่พวกที่ไม่สำนึกนั่นแหละที่ไม่ยอมหยุด

อยากบอกหนูหิมะว่า อย่าเอาจิตใจของวิญญูชน ไปประเมินพฤติกรรมของอวิญญูชน คิดว่าเค้าคงไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ ไม่ได้แล้วหล่ะ เพราะอ่านจากคำตัดสินของศาล น่าจะออกแนวตัดไฟแต่ต้นลม โดยดูจากพฤติกรรมโดยรวมทั้งหมดแล้ว อย่ามองไปไกล แค่วันที่ขึ้นศาลก็เห็นแล้วว่าพี่หนากร่างขนาดไหน ติดคุกตอนนี้ สมควรแล้ว (สงสารที่ติดคุกตอนแก่ แต่ไม่ได้หมายความว่าควรยกโทษให้ หรือว่า ต้องถอนฟ้องคดีอื่นนะ ต้องว่าไปตามถูกผิด เมื่อผิด ก็ต้องรับ ไม่ใช่แค่นพอแล้ว ทำอะไรไว้ ก็ได้อย่างนั้น นี่แหละเค้าเรียกว่า กรรมตามทัน)

อ้อ มาบอกอีกอย่างนะ เห็นพักนี้ชอบซัมม่อนท่านจรัลกันนัก วันนี้ได้ยินนักข่าวมาเล่าให้ฟังว่า สมัยทำข่าว กกต จะได้ยินท่านจรัลพูดสบถบ่อยๆ ว่า ทำแบบนี้ระวังจะติดคุก เป็นประจำ ไม่นึกว่า ท่านตายไปแล้วจะไปให้การในศาลได้จริงๆ ติดคุกกันทั่วหน้าเลย

อยากได้กกต ชุดใหม่ ที่สมบูรณ์แข็งแรง จิตใจหนักแน่น ไม่หลงกลิ่นเงินและอำนาจอันหอมหวน ได้ยินว่ามีคนจะเสนอชื่อท่านนึง ท่านอายุมากแล้ว ยังออกตัวว่าไม่แน่ใจว่าจะแข็งแรงพอมั้ย แม้ว่า กกต ใหม่จะอายุไม่นานก็จะครบวาระ แต่งานที่ต้องทำหนักหนาสาหัสมาก เพราะนอกจากจัดการเลือกตั้งใหม่แล้ว คงต้องมาสาคดีเก่าๆ รวมไปถึงสว. ที่รับรองไปแล้วด้วย

สุดท้าย ถึงหนูหิมะอีกที พักนี้ ทำไมออนไลน์ ดึกจนถึงเช้าตลอด ไม่อยู่แถวนี้เหรอ





อยากบอกหนูหิมะว่า อย่าเอาจิตใจของวิญญูชน ไปประเมินพฤติกรรมของอวิญญูชน คิดว่าเค้าคงไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ ไม่ได้แล้วหล่ะ  เพราะอ่านจากคำตัดสินของศาล น่าจะออกแนวตัดไฟแต่ต้นลม โดยดูจากพฤติกรรมโดยรวมทั้งหมดแล้ว อย่ามองไปไกล แค่วันที่ขึ้นศาลก็เห็นแล้วว่าพี่หนากร่างขนาดไหน ติดคุกตอนนี้ สมควรแล้ว (สงสารที่ติดคุกตอนแก่ แต่ไม่ได้หมายความว่าควรยกโทษให้ หรือว่า ต้องถอนฟ้องคดีอื่นนะ ต้องว่าไปตามถูกผิด เมื่อผิด ก็ต้องรับ ไม่ใช่แค่นพอแล้ว ทำอะไรไว้ ก็ได้อย่างนั้น นี่แหละเค้าเรียกว่า กรรมตามทัน)

อ้อ มาบอกอีกอย่างนะ เห็นพักนี้ชอบซัมม่อนท่านจรัลกันนัก วันนี้ได้ยินนักข่าวมาเล่าให้ฟังว่า สมัยทำข่าว กกต จะได้ยินท่านจรัลพูดสบถบ่อยๆ ว่า ทำแบบนี้ระวังจะติดคุก เป็นประจำ ไม่นึกว่า ท่านตายไปแล้วจะไปให้การในศาลได้จริงๆ ติดคุกกันทั่วหน้าเลย

อยากได้กกต ชุดใหม่ ที่สมบูรณ์แข็งแรง จิตใจหนักแน่น ไม่หลงกลิ่นเงินและอำนาจอันหอมหวน ได้ยินว่ามีคนจะเสนอชื่อท่านนึง ท่านอายุมากแล้ว ยังออกตัวว่าไม่แน่ใจว่าจะแข็งแรงพอมั้ย แม้ว่า กกต ใหม่จะอายุไม่นานก็จะครบวาระ แต่งานที่ต้องทำหนักหนาสาหัสมาก เพราะนอกจากจัดการเลือกตั้งใหม่แล้ว คงต้องมาสาคดีเก่าๆ รวมไปถึงสว. ที่รับรองไปแล้วด้วย

สุดท้าย ถึงหนูหิมะอีกที พักนี้ ทำไมออนไลน์ ดึกจนถึงเช้าตลอด ไม่อยู่แถวนี้เหรอ



คุณแอนฯ....
ผมกำลังคิดว่าคุณsnowflake มีความคิดคล้ายคลึงแนวเดียวกับคุณกาลามชน คุณพระพาย และอีกบางคนอีกแล้ว......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ปล.  คุณsnowflake คิดอย่างนี้ เผยแพร่ความคิดเห็นอย่างนี้ อย่าห้ามคนอื่นที่ไม่เห็นด้วย ไม่ให้คัดค้าน ไม่ให้แสดงความคิดเห็นอีกนะครับ.....
อย่าด่วนสรุป หรือกล่าวหาว่า  คนในนี้รุมแสดงความคิดเห็นอย่างนี้ ไม่ขอเข้ามาอีกเลยดีกว่า ให้ที่นี่เป็นที่ชุมนุมคนรักสนธิ รักประชาธิปัตย์และต่อต้านทักษิณต่อไปดีกว่า....




บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #48 เมื่อ: 28-07-2006, 02:04 »

หนูหิมะหายไปไหนไม่รู้ค่ะ แอนรอมาชี้แจงเหมือนกันอ่ะ หนูหิมะโจทก์ชักเยอะแล้วนะ (สะกดงี้นะ โจทก์ แปลว่าผู้ฟ้องร้อง ตรงข้ามกับ จำเลย ส่วนโจทย์หน่ะ เป็นคือ ปัญหา โจทย์เลข อะไรทำนองนี้ คนละอันกัน)



ผมตอบไปก่อน จึงได้อ่านคคห.นี้.....

ถ้าคุณsnowflake ยังมีความคิดเห็นอย่างนี้อยู่
อย่าโกรธ อย่าไม่พอใจ อย่าบอกว่าจะไม่เข้ามาในนี้อีกแล้ว
เพราะคนในนี้รุมเธอคนเดียว....

คิดอย่างนั้น พูดอย่างนั้น 1-2 ครั้งพอรับได้ พอทนได้
แต่ตลอดไป ไม่ได้แล้ว....

เพราะผม หรือ คนอื่น มีสิทธิ มีความเป็นกลาง
จะแสดงความคิดเห็นแตกต่าง
ต่างขั้วกับข้อเขียน ข้อความที่คัดมาเหมือนกัน....


จะไม่อดออมให้เธอเผยแพร่ความคิดอย่างนั้น
โดยไม่แสดงความคิดเห็นแตกต่างอีก.....

เพราะอีกครั้งหนึ่ง .....
ผมไม่อยากให้"เสรีไทยเว็บบอร์ด"
มีความคิดเห็นด้านเดียว ด้านดีของทักษิณ
จากคุณกาลามชน คุณพระพาย คุณ snowflake ฯลฯ

จะทำให้"เสรีไทยเว็บบอร์ด"ไม่เป็นกลาง
ในความคิดเห็นของผมเหมือนกัน...................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #49 เมื่อ: 28-07-2006, 02:05 »

ป่าวหรอกค่ะ แอนว่า เธอรักเดียวใจเดียว แต่พยายามหาความคิดต่างมาหักล้างเหตุผลของตัวเอง ซึ่งดูท่าทางจะยังไม่เวิร์ค เพราะความคิดยังไม่เปลี่ยน  Mr. Green

แต่นี่มันแอนคิดว่าอ่ะนะคะ เด๋วให้เธอมาชี้แจงดีกว่า  Mr. Green  Mr. Green
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
หน้า: [1] 2
    กระโดดไป: