512KB
|
|
« เมื่อ: 26-07-2006, 21:06 » |
|
ผมสะใจ และ ดีใจ จนผิดปกติไปหรือปล่าว...ทั้งที่ไม่ได้ทมีส่วนได้ส่วนเสียอะไร กะพวกนี้ เอ...เราผิดบาปมากไหมเนี่ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
morning star
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 26-07-2006, 21:09 » |
|
เท่าที่ปรึกษากะหมอดูแล้ว คุณเป็นโรคโล่งอกครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
|
|
|
แอ่นแอ๊น
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 26-07-2006, 21:10 » |
|
ดีใจไม่บาป แต่สะใจบาปจ้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
|
|
|
|
Wadoiji
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 26-07-2006, 21:13 » |
|
อา... ตอนนี้เราเป็น "เสียงข้างมาก" หรือนี่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นู๋เจ๋ง
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 26-07-2006, 21:14 » |
|
ทำดี ต้องได้ดี ทำชั่ว ต้องได้รับโทษ
บาปตรงไหนอ้ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
|
|
|
GN-001 Exia
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 26-07-2006, 21:15 » |
|
บาปไม่บาปอยู่ที่เราสบายใจรึป่าวนั่นแหละครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พวกที่เอาคำว่า "เสรีภาพ" มาบังหน้าเพื่อเบียดเบียนคนอื่นนี่มันเลวที่สุด
|
|
|
Prometheus, The Titan
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 26-07-2006, 21:17 » |
|
งั้นก็ไม่บาปนะซี่
เพราะผมรู้สึกสบายใจสุดๆ
โดยส่วนตัว ผมว่าการชื่นชม"กฎแห่งกรรม"ที่มันเกิดขึ้น ไม่น่าจะบาปนา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Only the brave enjoy noble and glorious death. - Dyonysus
|
|
|
buntoshi
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 26-07-2006, 21:20 » |
|
เราบาป ขาวๆ เล็กน้อยครับ แต่คนที่บาปจริงๆ ก็ คนที่ติดคุกอยู่นู้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น.... ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ---------------------------
|
|
|
แอ่นแอ๊น
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 26-07-2006, 21:28 » |
|
คือ ดีใจไม่บาปไง เห็นในกฏแห่งกรรมหน่ะไม่บาป
แต่ว่า ความสะใจ มันมีอคติเจือปน อันเนื่องมาจากความเกลียดชัง
แม้ว่า รู้สึกดีและสบายใจ แต่จิตเป็นอกุศล จึงทำให้เกิดความผิดบาปเล็กน้อย
ถ้าระลึกรู้ได้ แปลเปลี่ยนอคติไปในทางที่ดี ก็จะไม่บาปแล้วจ้า
แต่ต้องรู้ตัวนะ ไม่ใช่เชื่อผิดๆ ว่า ความสะใจนั้น ทำให้รู้สึกดี แล้วไม่บาป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
|
|
|
|
จูล่ง_j
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 26-07-2006, 21:40 » |
|
คือผมมั่นใจว่า กกต ไม่เป็นกลางมาตั้งนานแล้ว
แต่ถ้าเจ้าของกระทู้ไม่รู้ว่า กกต ไม่เป็นกลาง
แต่กลับมาสะใจตอน กกต ติดคุก อันนี้อาจจะบาปหน่อยๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
No_Tuky
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 26-07-2006, 21:55 » |
|
ลองเปิดพระไตรปิกฏดูอ่ะนะ แ่ค่คิดสะใจในความทุกข์ของผู้อื่นก็บาปแล้ว มะวานตูเคยพูดไปทีแล้ว ว่าวันนี้ให้รีบๆลืมไปซะ เด๋วกรรมจะไปเด้งดึ๋งเอ็งในเรื่องอื่น ๆ ตอนหลัง ๆ อิ ๆ นี่เรื่องจริงนะ อย่าลองของ ขอบอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
hidden dragon
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 26-07-2006, 22:30 » |
|
ผมสะใจ และ ดีใจ จนผิดปกติไปหรือปล่าว...ทั้งที่ไม่ได้ทมีส่วนได้ส่วนเสียอะไร กะพวกนี้ เอ...เราผิดบาปมากไหมเนี่ย
ถ้าอ่านจากคำสั่งขอศาลฎีกาที่มีคำสั่งยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวของจำเลยทั้ง 3 โดยศาลให้เหตุผลว่า ศาลได้พิเคราะห์คำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว และหลักทรัพย์ของ จำเลยทั้ง 3 แล้วเห็นว่า ข้อหาที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้ง 3 มีความผิดร้ายแรง ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และก่อให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง และการปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยทั้ง 3 จะก่อเหตุอันตรายขึ้น และเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินคดีในศาล จึงให้ยกคำร้อง ความผิดที่ อดีตกกต.ทั้ง 3 คนได้ก่อขึ้น ประชาชนชาวไทยมีส่วนเสียทุกคน หากความสะใจเป็นบาป และข้าพเจ้ามีความละอายต่อบาปเป็นยิ่งนัก ดังนั้นจึงขอเปลี่ยนเป็น ดีใจ ...... ที่ กกต. ทั้ง 3 คนติดคุก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Once a cheater, always a cheater
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 27-07-2006, 01:22 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
|
เพนกวินน้อยนักอ่าน
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 27-07-2006, 01:28 » |
|
เพ่ แค่ คิด หรือ พูด หรือ ทำ อย่างใดอย่างหนึ่งก็บาปแล้ว แต่เราจะมีบุญให้มากมายไปทำไม ถ้าเราปล่อยวางจนทำให้ประเทศชาติล่มจม เราจะมีหน้าไปบอกลูกหลานได้ยังไง ความสะใจของเราไม่ผิดเท่าไหร่หรอกครับ ผมสะใจ ในความยุติธรรมของสังคมที่แสดงออกมาจากการตัดสินของศาลครับ ส่วนกกต ขอ อโหสิกรรม จ้ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 27-07-2006, 01:34 » |
|
4. โลภ โอ๊ยยยยย.....................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 27-07-2006, 01:37 » |
|
เพ่ แค่ คิด หรือ พูด หรือ ทำ อย่างใดอย่างหนึ่งก็บาปแล้ว แต่เราจะมีบุญให้มากมายไปทำไม ถ้าเราปล่อยวางจนทำให้ประเทศชาติล่มจม เราจะมีหน้าไปบอกลูกหลานได้ยังไง ความสะใจของเราไม่ผิดเท่าไหร่หรอกครับ ผมสะใจ ในความยุติธรรมของสังคมที่แสดงออกมาจากการตัดสินของศาลครับ ส่วนกกต ขอ อโหสิกรรม จ้ะ ผมคิดตามนี้ สบายใจดีกว่า คิดตามเจ้าของกระทู้ คิดตามคุณ Obi-Tong ไม่ไหว ไม่เอาเยี่ยงอย่าง..................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
ทองเปลว
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 27-07-2006, 14:06 » |
|
เพ่ แค่ คิด หรือ พูด หรือ ทำ อย่างใดอย่างหนึ่งก็บาปแล้ว แต่เราจะมีบุญให้มากมายไปทำไม ถ้าเราปล่อยวางจนทำให้ประเทศชาติล่มจม เราจะมีหน้าไปบอกลูกหลานได้ยังไง ความสะใจของเราไม่ผิดเท่าไหร่หรอกครับ ผมสะใจ ในความยุติธรรมของสังคมที่แสดงออกมาจากการตัดสินของศาลครับ ส่วนกกต ขอ อโหสิกรรม จ้ะ คิด = บาปน้อยๆนิดๆ
พูด = บาปปานกลาง
ทำ = บาปมากถึงมากที่สุด ลองดูครับว่าเราทำไปแล้วกี่ข้อ อิอิอิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เพื่อนหมัก หักเหลี่ยมหด
|
|
|
tom
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 27-07-2006, 15:51 » |
|
แปลกใจมาก
เมื่อคืนฝนตกหนักมากที่บ้าน...แต่น้ำไม่ท่วมเลย
เอ......หรือว่า ...แผ่นดินมันสูงขึ้น..........
อารมณ์ดีเพราะมีความสุข
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
varada
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 27-07-2006, 18:07 » |
|
มาร่วมบาปด้วยคน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
แอ่นแอ๊น
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 27-07-2006, 19:40 » |
|
ว้า ทำไมยังไม่เก็ตกันหว่า บอกวิธีล้างบาปแล้วกันนะคะ อย่างแรก ต้องเปลี่ยนจากดีใจ หรือสะใจที่ติดคุก เป็นดีใจที่กรรม แสดงผล ดีใจที่ยังคงมีความยุติธรรมอยู่ อย่างที่สอง อย่านึกดีใจ สะใจในทุกข์ของอดีตกกต. แต่ให้วางอุเบกขาไปว่า นี่เป็นเพราะกรรมของเค้าจึงได้ผลเช่นนี้ อย่างที่สาม ให้ดีที่สุดคือ แผ่เมตตาไปด้วย ส่วนตัว ข้าพเจ้าดีใจที่ตัวเอง ทำได้ตามที่ว่าโดยเป็นไปตามอัตโนมัติ แสดงว่าความแข็งแกร่งของจิตพอใช้ได้อยู่ ยินดีในทุกข์ไม่ว่าของใครก็บาปค่ะ เป็นอกุศล พยายามแปลงให้เป็นกุศลซะก็ไม่บาปแล้ว ต้องตามกระแสจิตตัวเองให้ทัน ทำได้จะรู้สึกสบายใจ และจิตใจผ่องใสขึ้นด้วยนะคะ คนมักเข้าใจ อุเบกขาแบบผิดๆ แต่ถ้าเข้าใจอย่างถูกต้อง และปฏิบัติได้ จะรู้สึกดีมากๆ เลยค่ะ ไม่เชื่อลองดูนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
|
|
|
Yodyood
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 27-07-2006, 19:59 » |
|
อืม ก็บาปอ่ะครับ (แต่จะเข้าใจในความหมายเดียวกันป่าวนี่อีกเรื่อง) อยากให้มองว่ามันเป็นไปตามกรรมมากว่า ก่อกรรมใดไว้ก็ต้องรับผล
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-07-2006, 20:08 โดย Yodyood »
|
บันทึกการเข้า
|
~ You will never know the truth if you dare not to face it. ~
|
|
|
koo
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 27-07-2006, 20:07 » |
|
ว้า ทำไมยังไม่เก็ตกันหว่า บอกวิธีล้างบาปแล้วกันนะคะ อย่างแรก ต้องเปลี่ยนจากดีใจ หรือสะใจที่ติดคุก เป็นดีใจที่กรรม แสดงผล ดีใจที่ยังคงมีความยุติธรรมอยู่ อย่างที่สอง อย่านึกดีใจ สะใจในทุกข์ของอดีตกกต. แต่ให้วางอุเบกขาไปว่า นี่เป็นเพราะกรรมของเค้าจึงได้ผลเช่นนี้ อย่างที่สาม ให้ดีที่สุดคือ แผ่เมตตาไปด้วย ส่วนตัว ข้าพเจ้าดีใจที่ตัวเอง ทำได้ตามที่ว่าโดยเป็นไปตามอัตโนมัติ แสดงว่าความแข็งแกร่งของจิตพอใช้ได้อยู่ ยินดีในทุกข์ไม่ว่าของใครก็บาปค่ะ เป็นอกุศล พยายามแปลงให้เป็นกุศลซะก็ไม่บาปแล้ว ต้องตามกระแสจิตตัวเองให้ทัน ทำได้จะรู้สึกสบายใจ และจิตใจผ่องใสขึ้นด้วยนะคะ คนมักเข้าใจ อุเบกขาแบบผิดๆ แต่ถ้าเข้าใจอย่างถูกต้อง และปฏิบัติได้ จะรู้สึกดีมากๆ เลยค่ะ ไม่เชื่อลองดูนะ เอ่อ.... ไม่ได้รับธรรมกะเค้าด้วย แต่... ข้อ1. ผมดีใจที่พวกรับใช้ ติดคุก (แน่นอนผมไม่ปฏิเสธว่าดีใจ) เพราะไม่เคยคิดถึงคนอื่นๆๆๆเลย มีคนจำนวนมากกกกบอกให้ลาออกเพื่อแก้ไขวิกฤต(โดยไม่ได้บอกว่าแกผิดนะแต่ขอให้เสียสละ) ข้อ2. หลังจากเห็น อดีต กกต.เข้าคุก ผมไม่ได้ดีใจที่คนเหล่านั้นเข้าคุก(งงมะ เอาเป็นว่าหน้าที่กับตัวบุคคล) แต่ผมนึกถึงโอกาสที่คนเหล่ามีก่อนจะเข้าคุก หากใช้แม้เพียงซักโอกาส(เช่น จารุภัทร(ผมจำได้ว่ามียศแต่ไม่แน่ใจ) คงไม่เป็นเช่นวันนี้ ข้อ3. ศาสนาผมก็มีคือ สวดภาวนา อุทิศให้ ข้อนี้ขอไม่พูดเน้อ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
แอ่นแอ๊น
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 27-07-2006, 20:22 » |
|
ว้า ทำไมยังไม่เก็ตกันหว่า บอกวิธีล้างบาปแล้วกันนะคะ อย่างแรก ต้องเปลี่ยนจากดีใจ หรือสะใจที่ติดคุก เป็นดีใจที่กรรม แสดงผล ดีใจที่ยังคงมีความยุติธรรมอยู่ อย่างที่สอง อย่านึกดีใจ สะใจในทุกข์ของอดีตกกต. แต่ให้วางอุเบกขาไปว่า นี่เป็นเพราะกรรมของเค้าจึงได้ผลเช่นนี้ อย่างที่สาม ให้ดีที่สุดคือ แผ่เมตตาไปด้วย ส่วนตัว ข้าพเจ้าดีใจที่ตัวเอง ทำได้ตามที่ว่าโดยเป็นไปตามอัตโนมัติ แสดงว่าความแข็งแกร่งของจิตพอใช้ได้อยู่ ยินดีในทุกข์ไม่ว่าของใครก็บาปค่ะ เป็นอกุศล พยายามแปลงให้เป็นกุศลซะก็ไม่บาปแล้ว ต้องตามกระแสจิตตัวเองให้ทัน ทำได้จะรู้สึกสบายใจ และจิตใจผ่องใสขึ้นด้วยนะคะ คนมักเข้าใจ อุเบกขาแบบผิดๆ แต่ถ้าเข้าใจอย่างถูกต้อง และปฏิบัติได้ จะรู้สึกดีมากๆ เลยค่ะ ไม่เชื่อลองดูนะ เอ่อ.... ไม่ได้รับธรรมกะเค้าด้วย แต่... ข้อ1. ผมดีใจที่พวกรับใช้ ติดคุก (แน่นอนผมไม่ปฏิเสธว่าดีใจ) เพราะไม่เคยคิดถึงคนอื่นๆๆๆเลย มีคนจำนวนมากกกกบอกให้ลาออกเพื่อแก้ไขวิกฤต(โดยไม่ได้บอกว่าแกผิดนะแต่ขอให้เสียสละ) ข้อ2. หลังจากเห็น อดีต กกต.เข้าคุก ผมไม่ได้ดีใจที่คนเหล่านั้นเข้าคุก(งงมะ เอาเป็นว่าหน้าที่กับตัวบุคคล) แต่ผมนึกถึงโอกาสที่คนเหล่ามีก่อนจะเข้าคุก หากใช้แม้เพียงซักโอกาส(เช่น จารุภัทร(ผมจำได้ว่ามียศแต่ไม่แน่ใจ) คงไม่เป็นเช่นวันนี้ ข้อ3. ศาสนาผมก็มีคือ สวดภาวนา อุทิศให้ ข้อนี้ขอไม่พูดเน้อ แนวทางของแอนเป็นพุทธค่ะ แต่ถ้าคุณ koo จะนำเสนอแนวทางตามที่ทางศาสนาของคุณ koo นับถืออยู่ด้วยก็ได้นะคะ จะได้เผยแพร่แนวทางที่ถูกต้อง ดีงาม เพราะไม่มีศาสนาไหน สอนให้คนสะใจในทุกข์ของผู้อื่นหรอกมังคะ เพราะดูเท่าที่คุณ koo ตอบแล้ว ก็ออกมาในทางดีงาม ไม่ต่างกัน สำคัญที่สุด คือ จิตเจตนาของเราหน่ะค่ะ ที่มาตอบกระทู้นี้ เพราะไม่อยากให้มีความเชื่อที่ว่า สะใจแล้วรู้สึกดี แปลว่าไม่บาป ซึ่งไม่ถูกเอามากๆ ค่ะ เพราะความคิดแบบนี้เป็นอกุศลอย่างแรง ถ้าทำบ่อยๆ มากๆ จิตจะเคลื่อนลงต่ำ ไปในทางที่ไม่ถูกต้องได้ง่ายๆ เหมือนอย่างที่ว่า "ฆ่าคนชั่วบาปเท่าฆ่ามดปลวก" ซึ่ง ไม่ถูกต้อง เพราะจริงๆ แล้ว น้ำหนักมันไม่เท่ากัน ชีวิตคนไม่ได้เท่ามดปลวก แม้ว่า ศาสดาของทางพุทธจะเคยกล่าวไว้ว่า การฆ่าคนดี น้ำหนักบาปมากกว่าการฆ่าคนชั่ว แต่ไม่ได้หมายความว่า ฆ่าคนชั่วได้ ชีวิตคนเท่ามดปลวก ซึ่งผิดแน่ๆ เดี๋ยวคงจะมีข้อโต้แย้งเรื่อง เพชรฆาตประหารชีวิตนักโทษอีก ถามว่าบาปมั้ย อันนี้ได้มีข้อโต้แย้งในทางธรรมว่า ทำไปตามหน้าที่ ถ้าเจตนาไม่ใช่เพราะต้องการฆ่าคน แต่เพราะทำหน้าที่ ก็จะไม่ผิดบาปมากค่ะ แต่บาปเพราะการพรากชีวิตยังคงอยู่ ไม่ได้หายไป (โอ เรื่องนี้ต้องโต้กันยาว แอนว่าคงต้องให้ท่านผู้รู้มากกว่าอธิบายจะเหมาะกว่า)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
|
|
|
|