พระบรมราโชวาทพระราชทานแด่คณะผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการ เมื่อ วันที่ 8 ตุลาคม 2546 อันถือเป็นหนึ่งในพระบรมราโชวาทองค์ที่
จับใจพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ หลังจากได้รับชมรับฟังเพียงบางตอนจาก ข่าวในพระราชสำนัก เมื่อ วันที่ 9 ตุลาคม 2546 ในพระบรมราโชวาทองค์นี้ทรงรับสั่งว่า
พระองค์ท่านเป็นพระราชาซีอีโอ ที่ ไม่มีวันเกษียณ ทรงปฏิบัติภารกิจมาตั้งแต่ ปี 2496 โดยเริ่มโครงการตามพระราชดำริแห่งแรกที่ เขาเต่า, จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พระองค์ท่านทรงชี้แนะว่า หน้าที่ ของ ผู้ว่าฯซีอีโอ ไม่เหมือน ซีอีโอบริษัท เพราะ ไม่ต้องทำเงินให้บริษัท แต่จะต้อง สร้างความเจริญให้ประชาชนในพื้นที่ คือ
ให้ประชาชนมีความสามารถที่จะทำมาหากินได้ หรือพูดง่าย ๆ คือทำให้ประชาชนรวย ไม่ใช่ทำให้ตัวเองรวย จากนั้นพระองค์ท่าน ทรงเตือน ว่าที่ใคร ๆ บอกว่าเศรษฐกิจกำลังขึ้นนั้น
ที่ขึ้นตาม ไปด้วยคือ การทุจริต พระองค์ท่านทรงเน้นย้ำให้ทุกคนเน้น การประสานงาน - อย่าประสานงา อีกทั้ง ทรงสั่งห้ามทุจริตเด็ดขาด โดย ทรงแช่งผู้ทุจริต ไว้ด้วยพระบรมราโชวาทต่อไปนี้
...ท่านต้องห้ามไม่ให้มีการทุจริตขึ้น แล้วท่านจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดซีอีโอที่มีประสิทธิภาพ ถ้าทุจริตแม้แต่นิดเดียวก็ขอแช่ง แช่งให้มีอันเป็น พูดอย่างนี้หยาบคาย แต่ว่าขอให้มีอันเป็นไป
ถ้าไม่ทุจริต สุจริต และมีความตั้งใจในธรรม ขอให้ต่ออายุได้ถึงร้อยปี หรือถ้าอายุมากแล้วก็แข็งแรง ประเทศไทยจะรอดพ้นอันตรายอย่างมาก. ย้ำอีกครั้งหนึ่ง ณ ที่นี้ว่า
...ถ้าทุจริตแม้แต่นิดเดียวก็ขอแช่ง แช่งให้มีอันเป็น. นี่คือพระบรมราโชวาทองค์ที่จะมีผลอย่างยิ่งต่อ สงครามกับการคอร์รัปชั่น เพราะถือเป็น ครั้งแรกในรัชกาลปัจจุบัน
ที่ ทรงสาปแช่งผู้ทุจริตให้เป็นที่ปรากฏต่อผู้คนทั้งแผ่นดิน ประเด็นนี้พวกเราในฐานะพสกนิกรชาวไทยที่อยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารสถาบันพระมหากษัตริย์มาแต่บรรพบุรุษจะต้องไม่ลืม
คตินิยม ที่ว่า พระมหากษัตริย์คือสมมติเทวราช มี พระวาจา เป็น สัตย์ และเป็น สิทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ พระมหากษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชธรรม เยี่ยง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน พระองค์นี้.........
พระองค์ท่านเป็นที่พึ่งสุดท้ายของพวกเราประชาชนคนไทย ขอจงทรงพระเจริญ......
จาก
http://webboard.nationgroup.com/swb/view.php?rid=6&tid=3460