ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 19:03
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ห้องสาธารณะ  |  ข้อมูลเกี่ยวกับพระราชกฤษฎีกา 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ข้อมูลเกี่ยวกับพระราชกฤษฎีกา  (อ่าน 7760 ครั้ง)
*พระพาย
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 22-07-2006, 02:42 »

พระพายพัดมาดึก ๆ อีกแล้วครับ...

วันนี้มีเรื่องใหญ่ของบ้านเมืองเรื่อง พรฎ.ฯ ซึ่งน่าสนใจอย่างยิ่งว่า
1.ประกาศ 21 ก.ค. แต่มีผล 24 ส.ค. นับถึง 15 ต.ค. ก็คือ 52 วัน
2.นายกฯ พบประชาชนเสาร์ที่แล้ว รก.นายกฯ ระบุว่า พรฎ.ฯ อยู่ระหว่างพิจารณา... คาดว่าจะ "ยื่นส่งอีกครั้งหลัง 15 ส.ค." เพื่อให้ทันเลือกตั้ง 15 ต.ค.
3.ในหลวงท่านประชวรเข้ารับการรักษาคือ 20 ก.ค. มีหมายกำหนดการพักฟื้น 1 เดือนเต็ม

การทำความเข้าใจเรื่องเหล่านี้ ต้องการข้อมูลที่หนักแน่นเพียงพอ... ซึ่งพระพายก็พยายามหาอยู่ แต่ไม่สามารถหาได้ครบได้ จึงโพสต์มาไว้ ณ ที่นี้ เพื่อรอพวกเราหาข้อมูลเพิ่มเติมมาช่วยกันหน่อยครับ โดยเฉพาะเรื่องของระยะเวลาในการยื่น ระยะเวลาในการพระราชทานกลับ และพระราชอำนาจเป็นสิทธิขาดหรือไม่... ข้อมูลไม่เพียงพอ ขอไม่วิจารณ์ครับ
-----------------------------------------------
(อันนี้ข้อมูลจากเวบที่ไม่มีอยู่แล้ว แต่กุ๊กเกิ้ลยังเก็บไว้อยู่)
มาตรา ๒๒๑

การตราพระราชกฤษฎีกา

 

สวัสดีครับท่านผู้ฟังที่เคารพ

                พระราชกฤษฎีกา คือกฎหมายที่พระมหากษัตริย์ทรงตราขึ้นตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตรี ผู้มีอำนาจเสนอร่าง คือ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง หรือมีหน้าที่เกี่ยวกับส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจะเป็นผู้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกา เพราะเป็นผู้รักษาการตามพระราชกฤษฎีกา

                สำหรับผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา  คือ คณะรัฐมนตรี ผู้ตรา คือ พระมหากษัตริย์ การบังคับใช้จะต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาจึงจะมีผลบังคับใช้

                ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มาตรา ๒๒๑ บัญญัติว่า

“พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการตราพระราชกฤษฎีกา โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย”


 

Section 221.  The King has the prerogative to issue a Royal Decree which is not contrary to the law.

 

                ท่านผู้ฟังที่เคารพครับ ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มาตรา ๒๒๑ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการตราพระราชกฤษฎีกา การตราพระราชกฤษฎีกามี ๒ ประเภท คือ

                ประเภทแรก  ได้แก่ พระราชกฤษฎีกาที่ออกโดยอาศัยอำนาจของกฎหมาย ซึ่งจะเป็นการกำหนดรายละเอียดปลีกย่อยของกฎหมาย เพื่อให้การปฏิบัติตามกฎหมายมีความชัดเจนเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เช่น พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นต้น ซึ่งเป็นพระราชกฤษฎีกาที่ออกโดยอาศัยอำนาจของกฎหมายรัฐธรรมนูญ

                ประการที่สอง ได้แก่ พระราชกฤษฎีกาที่ออกเพื่อใช้กับฝ่ายบริหารไม่ได้ใช้บังคับกับประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นกรณีที่รัฐบาลเห็นสมควรตราข้อบังคับใช้ในการบริหารงานทั่วไปในกิจการของฝ่ายบริหาร เช่น พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเบี้ยประชุมกรรมการ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเบิกค่าเช่าบ้านของข้าราชการ เป็นต้น

พระมหากษัตริย์จะทรงตราพระราชกฤษฎีกาทั้งสองประเภทดังกล่าวตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตรี โดยมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการตามที่กฎหมายแม่บทกำหนดแต่หลักการส่วนรายละเอียดให้ออกเป็นพระราชกฤษฎีกา อาจารย์มานิตย์  จุมปา ได้อธิบายไว้ในความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๔๐ มีเหตุผล ๔ ประการ คือ

๑.   ทำให้กฎหมายแม่บทอ่านง่าย เข้าใจง่าย เพราะมีแต่หลักการใหญ่ ๆ อันเป็นสาระสำคัญ

๒. ประหยัดเวลาของผู้บัญญัติกฎหมายแม่บทที่จะไม่ต้องเสียเวลาพิจารณารายละเอียดปลีกย่อย ซึ่งสมควรมอบหมายความไว้วางใจให้ฝ่ายบริหารไม่กำหนดได้เอง

๓. พระราชกฤษฎีกาแก้ไขให้ทันกับสภาวะการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้ง่ายกว่ากฎหมายแม่บท ทั้งนี้เพราะกฎหมายแม่บทจะต้องผ่านความเห็นชอบของบุคคลหลายฝ่าย

๔. ทำ ให้กฎหมายเหมาะสมกับกาลเทศะอยู่เสมอ เพราะถ้ามีพฤติการณ์เปลี่ยนแปลงไปก็เป็นแต่แก้ไขพระราชกฤษฎีกาเท่านั้นไม่ ต้องแก้ไขตัวบทกฎหมายแม่บทสำหรับการตราพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวข้างต้น พระมหากษัตริย์จะเป็นผู้ทรงตราพระราชกฤษฎีกา ซึ่งเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ แต่ทั้งนี้จะต้องดำเนินการโดยคำแนะนำของคณะรัฐมนตรี และที่สำคัญจะต้องเป็นไปตามครรลองแห่งบทบัญญัติของกฎหมายจะขัดกับบทบัญญัติ ของกฎหมายไม่ได้

                สวัสดีครับ
-------------------------------------
(อันนี้จากเวบผู้จัดการ) http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000090748
       “ผมอยากให้หันหน้าเข้าหากัน ไม่ใช่เพื่อผม แต่ทำเพื่อชาติ ผมไม่ยึดติด แต่ระบอบประชาธิปไตยต้องมีเลือกตั้ง ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน ระบบมันเป็นอย่างนี้ ช่วงนี้เป็นช่วงสุญญากาศ ทุกฝ่ายอยากให้มีการเลือกตั้งใหม่ หลังการเลือกตั้ง 2 เมษายนบอกว่ามีการอยากย้ายพรรคก่อน 90 วัน แต่ไม่มีช่องว่าง และศาลรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีการเลือกตั้งภายใน 60 วัน และมีการกำหนดให้มีการเลือกตั้งวันที่ 15 ต.ค.เพื่อปิดให้มีการย้ายพรรค”
       
       รักษาการนายกฯ ผู้นี้ย้ำอีกว่า เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่าง จะมีการเสนอทูลเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งอีกครั้งหลังวันที่ 15 สิงหาคมนี้ เพื่อให้ทันการเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ตามกำหนด ดังนั้น เวลาที่เหลือประมาณ 30 วันนี้ขอให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้ามาคุยกัน เคารพการตัดสินใจของประชาชน
       
       ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้เสนอทูลเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งวันที่ 15 ต.ค.ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด แต่ไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ลงมา และเรื่องได้ถูกตีกลับมาแล้ว (ตรงนี้อยากให้ช่วยกันตรวจสอบว่า เป็นคำพูดของทักษิณหรือเป็นเนื้อข่าวโดยผู้จัดการ)
       
       พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงการโยกย้ายแต่งตั้งนายทหารประจำปีว่า จู่ๆ มีนักข่าวมาถามเรื่องโยกย้าย จะมีการย้ายผู้บัญชาการทหารบกบ้าง ซึ่งตนเองไม่เคยคิด และไม่เคยอ่านข่าว เพราะอ่านแล้วเบื่อ ทั้งที่ทุกอย่างมีระบบของมัน มีสภากลาโหม มีตำแหน่งหลักที่ต้องพิจารณา เช่นตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด จเรทหาร เป้นต้น อยากขอร้องให้เกิดความสมานฉันท์เพื่อในหลวงที่กำลังทรงฟักฟื้นพระวรกาย
       
       “ผมพร้อมทำตามรัฐธรรมนูญ นอกรัฐธรรมนูญผมทำไม่ได้ เพราะชาติจะเสียหาย ผมอึดอัดอยากให้มีการเลือกตั้งให้เสร็จ เลิกทิฐิใส่กัน 1 เดือนนี้หันหน้าเข้าหากัน เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง อย่าหาเรื่องกันมากนัก” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวตบท้ายก่อนเดินทางไปประเทศบรูไน เพื่อร่วมงานพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบของพระราชาธิบดีบรูไนในตอนเที่ยงวันเดียวกัน

--------------------------------

นอกจากเรื่องระยะเวลา, เรื่องขอบเขตพระราชอำนาจใน พรฎ. แล้ว.... ผมยังสนใจเนื้อข่าวตรงส่วนที่ผมขีดเส้นใต้เอาไว้ด้วยครับ ว่าทักษิณกล่าวดังนั้นจริงหรือไม่? หรือเป็นเพียงการสรุปข่าวจากผู้จัดการ

ถ้าทักษิณพูดแบบนั้นจริง ... การระบุว่าได้รับ พรฎ.คืนมาแล้วก็คือการโกหก... การพยายามยื่น พรฎ. อีกครั้งโดยยังไม่ได้รับพระราชทานคืนย่อมเป็นการไม่สมควร

แต่ถ้าหากไม่ใช่ทักษิณพูด... ผมคิดว่าเวบผู้จัดการฯ กับ สว. คนที่ออกข่าวว่าพระราชทาน พรฎ.กลับคืนมาแล้ว... ก็กระทำการเรื่องข่าวที่ไม่สมควร

หรือถ้าหากการคืน พรฎ.ฯ กลับมาแล้วเป็นเรื่องจริง... แล้ว พรฎ. ที่ทรงประกาศช่วงวันที่ 21 หลังเข้ารับการรักษาวันที่ 20 มาจากไหนครับ?

ฝุ่นยังคงตลบอยู่... ช่วยกันให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยครับ
บันทึกการเข้า
*พระพาย
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 22-07-2006, 02:46 »


อีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือ (ลืมเขียน... แต่เข้าไปแก้ไม่ได้อ่ะ)

ถ้าในหลวงพักฟื้น 1 เดือน...หมายกำหนดการที่ท่านคาดว่าจะมีสุขภาพเป็นปรกติก็คือ 20 ส.ค.... ไม่จำเป็นต้องเร่งประกาศ พรฎ.ในช่วงนี้ครับ

น่าสงสัย... และน่าสนใจจริงๆ
บันทึกการเข้า
คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 22-07-2006, 07:56 »

ส่วนนี้เป็นทักษิณพูดครับ

“ผมอยากให้หันหน้าเข้าหากัน ไม่ใช่เพื่อผม แต่ทำเพื่อชาติ ผมไม่ยึดติด แต่ระบอบประชาธิปไตยต้องมีเลือกตั้ง ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน ระบบมันเป็นอย่างนี้ ช่วงนี้เป็นช่วงสุญญากาศ ทุกฝ่ายอยากให้มีการเลือกตั้งใหม่ หลังการเลือกตั้ง 2 เมษายนบอกว่ามีการอยากย้ายพรรคก่อน 90 วัน แต่ไม่มีช่องว่าง และศาลรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีการเลือกตั้งภายใน 60 วัน และมีการกำหนดให้มีการเลือกตั้งวันที่ 15 ต.ค.เพื่อปิดให้มีการย้ายพรรค”

ส่วนนี้ผู้จัดการสรุปครับ
       
       รักษาการนายกฯ ผู้นี้ย้ำอีกว่า เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่าง จะมีการเสนอทูลเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งอีกครั้งหลังวันที่ 15 สิงหาคมนี้ เพื่อให้ทันการเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ตามกำหนด ดังนั้น เวลาที่เหลือประมาณ 30 วันนี้ขอให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้ามาคุยกัน เคารพการตัดสินใจของประชาชน

ตรงนี้ผู้จัดการเขียนเองครับ
       
       ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้เสนอทูลเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งวันที่ 15 ต.ค.ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด แต่ไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ลงมา และเรื่องได้ถูกตีกลับมาแล้ว (ตรงนี้อยากให้ช่วยกันตรวจสอบว่า เป็นคำพูดของทักษิณหรือเป็นเนื้อข่าวโดยผู้จัดการ)

ผมว่าคุณพระพายฟังเทปแล้วไม่ใช่หรือครับ ทำไมยังเอามาถามอีกทั้ง ๆ ที่รู้ว่าทักษิณพูดแค่ใหน

ถ้าทักษิณพูดแบบนั้นจริง ... การระบุว่าได้รับ พรฎ.คืนมาแล้วก็คือการโกหก... การพยายามยื่น พรฎ. อีกครั้งโดยยังไม่ได้รับพระราชทานคืนย่อมเป็นการไม่สมควร

ทักษิณไม่ได้พูด ดังนั้นจึงไม่โกหก และไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการไม่สมควรครับ

แต่ถ้าหากไม่ใช่ทักษิณพูด... ผมคิดว่าเวบผู้จัดการฯ กับ สว. คนที่ออกข่าวว่าพระราชทาน พรฎ.กลับคืนมาแล้ว... ก็กระทำการเรื่องข่าวที่ไม่สมควร

ตามข่าวที่ผมทราบมาจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง พรฏ. ถูกพระราชทานกลับมาที่สำนักราชเลขาจริง และมีพระราชประสงค์จะวินิจฉัยใหม่ สำนักราชเลขา จึงทูลเกล้ากลับไปครับ

หรือถ้าหากการคืน พรฎ.ฯ กลับมาแล้วเป็นเรื่องจริง... แล้ว พรฎ. ที่ทรงประกาศช่วงวันที่ 21 หลังเข้ารับการรักษาวันที่ 20 มาจากไหนครับ?

มาจากฉบับเดิมที่ทูลเกล้ากลับไปครับ (ติงเรื่องหนึ่ง ทรงลงพระปรมาภิไทย แต่ไม่ได้ทรงประกาศครับ คนประกาศคือรัฐบาลรักษาการ)

ฝุ่นยังคงตลบอยู่... ช่วยกันให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยครับ

ผมทำตามที่คุณพระพายอยากให้ทำแล้ว หวังว่าคงพอใจ ถึงแม้จะไม่ถูกใจนะครับ

อีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือ (ลืมเขียน... แต่เข้าไปแก้ไม่ได้อ่ะ)

ถ้าในหลวงพักฟื้น 1 เดือน...หมายกำหนดการที่ท่านคาดว่าจะมีสุขภาพเป็นปรกติก็คือ 20 ส.ค.... ไม่จำเป็นต้องเร่งประกาศ พรฎ.ในช่วงนี้ครับ


จำเป็นหรือไม่ ไม่ใช่หน้าที่ ของคุณพระพายที่จะต้องมาตัดสินครับ เพราะเป็นพระราชวินิจฉัยขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครับ

ปล. คุณพระพายไม่ต้องมาถามผมนะครับว่า ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ผมอ้างหนะเป็นใคร ผมคงไม่บอกหรอกครับ ซึ่งตรงนี้คุณพระพายจะเข้าใจไปว่าผมออกรับแทนเว็บผู้จัดการ และสว.ท่านนั้นก็ได้ครับ ผมยินดี
ปล. 1 ขออภัยที่ผมมาขัดคอมุกหล่อของคุณพระพายนะครับ สาว ๆ คงจะไม่ว่าอะไร (เห็นเชียร์กันจัง)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-07-2006, 08:09 โดย คนในวงการ » บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
*พระพาย
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 22-07-2006, 14:57 »

ขอบคุณที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมครับคุณคนในวงการ

เรื่องเทป มีลิงก์ไปจริง แต่ผมไม่มีเวลาฟังครับ ในเวบผู้จัดการหน่ะ ข้อมูลอะไรที่เก่ากว่า 3 วันนี่หาไม่ง่ายนาครับ เจอแล้วก็ได้แค่อ่าน จะตามฟังนั้นต้องใช้พลังงานอีกมหาศาล... ถามเอาเร็วกว่าครับ... แถมมีการตรวจสอบจากหลายๆ คนน่าจะดีกว่าด้วยครับ

เรื่องระยะเวลาที่เหมาะสมนั้น เป็นเรื่องที่น่าสงสัยจริงๆ ครับ แต่กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ ... ไม่ครบ ก็เลยสงสัยๆๆๆ ... ไม่ได้ตั้งใจวิจารณ์พระราชวินิจฉัยครับ เพียงแค่พยายามทำความเข้าใจเท่านั้น ถ้าหากเป็นการล่วงเกินก็ต้องขอพระราชทานอภัยด้วย ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ

ที่น่าสนใจก็คือตรงที่คุณคนในวงการระบุมาว่า
อ้างถึง
ตามข่าวที่ผมทราบมาจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง พรฏ. ถูกพระราชทานกลับมาที่สำนักราชเลขาจริง และมีพระราชประสงค์จะวินิจฉัยใหม่ สำนักราชเลขา จึงทูลเกล้ากลับไปครับ

ตรงนี้นี่ ถ้าจะให้ผมเรียงลำดับเหตุการณ์ไม่ทราบจะถูกหรือไม่?... พระองค์ท่านพระราชทานกลับ.. มีข่าวรั่วจาก สว. ว่าพระองค์พระราชทานกลับ.. จากนั้นพระองค์ท่านจึงมีพระราชประสงค์จะวินิจฉัยใหม่... เป็นแบบนี้หรือเปล่าครับ?

ถ้าเป็นแบบนี้ ผมยังคงตำหนิ สว. ผู้นั้นครับ ... ทำให้เสียของจริงๆ

ขอเพิ่มเติมอีกนิดได้ไม๊ครับ... พรฎ. นี่มีช่วงเวลาจำกัดในการพิจารณาหรือไม่ต้องในช่วงกี่วัน? หรือเป็นอำนาจเต็มครับ?

ตอนนี้ได้ข้อมูลใกล้ครบแล้วครับ เดี๋ยวจะเปิดกระทู้ตำหนิทักษิณ เรื่องระยะเวลานี่แหละ
บันทึกการเข้า
คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 22-07-2006, 17:19 »

ตรงนี้นี่ ถ้าจะให้ผมเรียงลำดับเหตุการณ์ไม่ทราบจะถูกหรือไม่?... พระองค์ท่านพระราชทานกลับ.. มีข่าวรั่วจาก สว. ว่าพระองค์พระราชทานกลับ.. จากนั้นพระองค์ท่านจึงมีพระราชประสงค์จะวินิจฉัยใหม่... เป็นแบบนี้หรือเปล่าครับ?

ไม่ทราบครับ โดยส่วนตัว ผมไม่คิดว่าจะเกี่ยวอะไรกับ สว. ท่านนั้นครับ น่าจะเกิดจากสถานการณ์บ้านเมืองมากกว่าครับ

ถ้าเป็นแบบนี้ ผมยังคงตำหนิ สว. ผู้นั้นครับ ... ทำให้เสียของจริงๆ

ตำหนิได้ตามสบายครับ ผมเองก็ไม่ได้ชอบหน้า สว. ท่านนั้นสักเท่าไหร่

ขอเพิ่มเติมอีกนิดได้ไม๊ครับ... พรฎ. นี่มีช่วงเวลาจำกัดในการพิจารณาหรือไม่ต้องในช่วงกี่วัน? หรือเป็นอำนาจเต็มครับ?

ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดพลาด น่าจะเป็น 90 วันครับ (ไม่ชัวร์นะครับ) แต่คราวก่อนเรื่องคุณหญิงจารุวรรณ ใช้เวลาเกิน 90 วันครับ
บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #5 เมื่อ: 22-07-2006, 22:58 »

เรื่อง พ.ร.ฎ. นี่คุยกันหลายรอบ
บวรศักดิ์ ส่งให้สำนักพระราชวัง ตั้งนานแล้ว
ตามปกติแล้ว จะรอให้ถึงกรอบระยะเวลา 60 วันก่อนค่อยทูลเกล้า
เพราะได้ตั้งธงเอาไว้แล้วว่า จะเลือกตั้งกันในวันที่ 15 ต.ค.
ก็ต้องนับย้อนขึ้นมา 60 วัน ต้องทูลเกล้าในกรอบระยะเวลานี้
ก็นับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาเป็นต้นไป อย่างที่ทักษิณบอกมานั่นแหละ

แต่ทำไมกลับโปรดเกล้าลงมาก่อนล่วงหน้าอย่างนี้ก็ไม่ทราบได้
และยังระบุให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 ส.ค. ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน
อันนี้เป็นพระราชอำนาจ

ถ้าจะให้ตีความตามเนื้อผ้า
ผมคิดว่าพระองค์ต้องการให้เกิดความแน่ชัด วา่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 15 ต.ค.
เพราะสถานการณ์มันเริ่มสับสน เคว้งคว้าง หาจุดสรุปไม่ได้เลย
ยิ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ เกิดปรากฏการณ์ประหลาด มีทหารเก่าเดินสาย
ปราศัย ปาฐกถา ในหมู่ทหารไปทั่ว สร้างความสับสนให้กับผู้คนไปกันใหญ่
ก็เลยโปรดเกล้าลงมาในช่วงระยะเวลานี้ ก่อนที่จะเลยเถิดไปกันใหญ่
บันทึกการเข้า
คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 23-07-2006, 01:43 »


ยิ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ เกิดปรากฏการณ์ประหลาด มีทหารเก่าเดินสาย
ปราศัย ปาฐกถา ในหมู่ทหารไปทั่ว สร้างความสับสนให้กับผู้คนไปกันใหญ่
ก็เลยโปรดเกล้าลงมาในช่วงระยะเวลานี้ ก่อนที่จะเลยเถิดไปกันใหญ่


คุณ Killer ไม่คิดว่าอาจจะเป็นเพราะสัปดาห์ก่อนหน้านี้ทหารเกือบแก่ที่ยังประจำการอยู่ในกรุงเทพกลุ่มหนึ่งบังอาจลืมคำสาบานต่อหน้าธงชัยเฉลิมพล บ้างเหรอครับ ทหารปตอ.ที่ทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ หนะ อาจเป็นสาเหตุก็ได้นะครับ มัวแต่เพ่งทหารม้าเก่า ระวังจะร้องไอ๊ย่าเพื่อนเราดันเผาเรือน นะครับ คุณ Killer จะเสียคนซะเปล่า ๆ  Mr. Green
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-07-2006, 04:20 โดย คนในวงการ » บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #7 เมื่อ: 23-07-2006, 23:52 »

คุณพระพายไม่นำเนื้อหาของ พรฏ.ต่อท้ายมาเล่าให้ฟังบ้างหรือ Question




บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
หน้า: [1]
    กระโดดไป: