มุมของเปลวสีเงิน
----------------------------------
คนปลายซอย
5 เมษายน 2549 กองบรรณาธิการ
นายกฯผู้คายเงาเนื้อในน้ำ "คุณพิชิตชัย แก้วมณี" บรรณาธิการเซกชั่น X-CITE ไทยโพสต์ บอกผมว่า "คาราวานคนจนเดินทางจากต่างจังหวัด กลับเข้าประจำสถานีรบ "สวนจตุจักร" เต็มอัตราศึกแล้ว"
ผมก็บอกว่า "ดี..ดีกว่านอนอยู่กะบ้านเปล่าๆ เพราะโดยปกติหน้าแล้งของทุกปี ก็จะมีพี่น้องทางอีสานส่วนหนึ่ง ถือโอกาสตอนว่างนาจาริกไปทั่วอยู่แล้ว"
แต่ปีนี้ถือว่าพิเศษ มีกิจกรรมเสริมภายใต้การอุปถัมภ์ของรัฐบาล ก็ถือเป็นการจ้างงานภาคฤดูร้อน ผมขอสนับสนุนด้วย
พี่น้องอีสานนี่ ดูเหมือนฟ้ากำหนดให้เกิดกับการเมือง อยู่กับการเมือง หายใจกับการเมือง และตายกับการเมือง
ชีวิตของเขา คือชีวิตเพื่อสังคมศึกษาที่ไม่รู้จบ ชีวิตคนอีสานเหมือนใบบัว เบ่งบานอยู่ได้ทั้งในน้ำใสและน้ำโคลน
แต่ใบบัวจะไม่ยอมให้น้ำนั้นๆ ซึมผ่านใยเข้าเนื้อในได้เลย!
ฉะนั้น จะเห็นว่าไม่ว่าใครมาทางการเมือง เป็นต้องมุ่งเน้นเพื่อยึดหลักปักฐานการเมืองในอีสาน เพราะมีประชากรมาก หนึ่งละ และก็เพราะหลงคิดว่า "คนอีสาน" ง่ายที่จะเข้าไปครอบงำ นี่ก็อีกหนึ่งละ
แท้จริงแล้ว คนอีสานจะบรรลุพันธกิจเพื่อชีวิตกับการเมืองขั้วไหนก็ได้
แต่คนอีสานไม่เคย "ฝังขั้ว" การเมืองตลอดกาลอยู่กับฝ่ายที่แพ้!
ผมเห็นมาเยอะแล้ว สมัยพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เป็นท้าวเหยียบนา-พระยาเหยียบเมือง ไปลงสมัคร ส.ส.ที่ร้อยเอ็ด คนอีสานก็รักท่านปานจะกลืน
สมัยนายกฯ จิ๋ว "พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ" ก็ดี สมัยนายกฯ ชาติชาย "พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ" ก็ดี
แม้กระทั่งนายกฯ ชวน หลีกภัย ไม่ว่าใครเป็นนายกฯ ไปเยือนอีสาน พี่น้องอีสานก็มืดฟ้ามัวดินมาต้อนรับ ผูกข้อมือจนสายสิญจน์ลามไปถึงคอ ผ้าขาวม้ามัดจากเอวเลื้อยขึ้นไปถึงยอดอก
แล้วเคยเห็นคนอีสานแต่งงานถาวรกับการเมืองพรรคไหนบ้างล่ะ?
แล้วเคยเห็นคนอีสานอยู่กับฝ่ายที่แพ้บ้างมั้ยล่ะ?
ผมถึงว่า ใครก็อย่าประเมินพี่น้องอีสานของผมต่ำทรามเป็นอันขาด การเมืองที่เข้าไปหลอกเขามาตลอดร่วมร้อยปี วันนี้สอนให้เขารู้วิธีอนุรักษ์ "ความจน" ให้เป็นสินค้าขายในตลาดการเมืองระบอบทักษิณ
พี่น้องอีสาน "ถูกการเมืองเอา" มามาก
วันนี้ ถึงทีที่เขาต้องเอาก่อนบ้าง เมื่อดีมานด์ในการตลาดการเมืองทักษิณต้องการสินค้าตัวนี้สูง พี่น้องอีสานก็เร่งซัพพลายสนองตลาดให้ทันอก-ทันใจ ไม่ตักทองวันนี้ มัวไปรอตักขี้วันข้างหน้ารึไง?
ฉะนั้น มื้อนี้ เราควรให้ความเข้าใจ และเห็นใจพี่น้องอีสานของเราบ้าง
เปิดโอกาสให้พวกได้รวยซักเทือเทอะ!
ตอนนี้ "นายกฯ ทักษิณ" ไม่ใช่แค่นายกฯ เลี่ยมทอง แต่เป็นทองทั้งดุ้น ฉะนั้น พันธกิจการเมืองระหว่างพี่น้องอีสานกับท่านนายกฯ จะยังคงดำเนินสอดรับกันไปได้ดี
ก็จะเห็นว่า ในทันทีที่นายกฯ เปลี่ยนบทเล่น ทำเหมือน "นายกฯ ผู้เสียสละ" อะไรก็ได้ ถ้าสามารถทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ท่านพร้อมที่จะอุทิศ
แม้กระทั่ง ลาออก-เว้นวรรคทางการเมือง!
ท่านพูดในจอโทรทัศน์ ช่อง ๑๑ ตอนสองทุ่มกว่าเมื่อคืนที่ ๓ เมษา. แต่พอตกบ่ายวันที่ ๔ เมษา. ปรากฏว่ากลุ่มก้อนพี่น้องทางอีสานในหลายๆ จังหวัดขับเคลื่อนค่ายกล ยกขบวน-ชูป้ายกันทันที
"เราต้องการให้ทักษิณเป็นนายกฯ ต่อไป"
"เราไม่ต้องการให้นายกฯ ทักษิณเว้นวรรค"
แต่ใครจะต้องการอย่างไหนก็ตาม เมื่อตอน ๒๐.๓๐ น. คืนวานนี้ นายกฯ ท่านก็ออกทีวีพูลเป็นคืนที่ ๒ ประกาศชัดเจนไปแล้วว่า
"ขอเว้นวรรคทางการเมือง"
หมายความว่า ท่านจะไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในสมัยหน้านี้
แต่ขณะนี้จะขอเป็น "นายกฯ รักษาการ" ต่อไป จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่มารับหน้าที่สืบต่อ จากนั้นท่านก็จะขอเป็นแค่ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคไทยรักไทยอย่างเดียว!
ฟังดูสวยงาม และเท่มาก
ยิ่งตอนอ้างว่า เป็นการเสียสละเพื่อให้งานเฉลิมฉลองทรงครองราชย์ครบ ๖๐ ปี ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยด้วยแล้ว
คนฟังออกอาการปลื้มจนน้ำหู-น้ำตาไหล!
แต่ผมพอฟังปุ๊บก็ร้องบอกกับตัวเองปั๊บว่า "คนนี้ฉลาดยิ่งกว่าฉลาด วรฉัตร"
เลือกคาย "เงาเนื้อในน้ำ"
แต่ไม่คายสเต๊กชิ้นใหญ่ในปาก!
เพราะที่ท่านประกาศว่า "ไม่รับตำแหน่งนายกฯ หลังเปิดสภาฯ" นั้น ในนาทีนี้ใครๆ ก็ทราบว่า การเลือกตั้ง ๒ เมษา. ผลที่ออกมานอกจากไม่ครบ ๕๐๐ ซึ่งเปิดสภาฯ ยังไม่ได้แน่นอนแล้ว
ยังมีปัญหาฟ้องร้องนายกฯ เกี่ยวกับการหาเสียงผิดกฎหมาย ยังมีปัญหาฟ้องร้อง กกต. และยังมีปัญหาฟ้องร้องพรรคและผู้สมัครที่ทำผิดกฎหมายอยู่อีกมากมาย
สรุปกันง่ายๆ คือ ถ้าไม่ใช้พวกมากลากกฎหมายเพื่อให้เปิดสภาฯ นัดแรก โดยไม่คำนึงว่าจะมี ส.ส.ครบ ๕๐๐ หรือไม่นั้น ผมว่าภายใน ๑ เดือนที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้เปิดสภาฯ นัดแรกหลังมีการเลือกตั้ง
เปิดไม่ได้แน่!
๙ เมษา.นี้ ให้เลือกตั้งใหม่ ๓๘ เขต ใน ๑๕ จังหวัด ซึ่งล้วนเป็นจังหวัดภาคใต้ ต่อให้หลับหู-หลับตาเลี่ยงกฎหมายเปิดรับสมัครใหม่กันขนาดไหน จะเกณฑ์กี่พรรคลงมาประกบ เพื่อหนีเกณฑ์ต่ำ ๒๐% ก็เถอะ
ผมเชื่อเลือดการเมืองพี่น้องคนใต้ของผม ต่อให้เลือกใหม่อีกร้อยครั้ง เขาก็ไม่เลือกคนไทยรักไทย หรือพรรคอะไหล่อยู่วันยังค่ำ
ถ้ามาเจ้าคูหาเลือกตั้ง เขาก็กา No Vote เหมือนเดิมนั่นแหละ!
สุดท้าย ครบกำหนด ๑ เดือนก็ได้ ส.ส.ที่พิกล-พิการเหมือนลูกเขยท้าวสามลที่ถูกพระสังข์ตัดหู-เฉือนจมูกโหว่ไปหมด แถมก็ยังไม่ครบ แล้วจะทำไง?
รัฐบาลไม่เดือดร้อน แอบหัวเราะชอบใจซะด้วยซ้ำ เพราะทักษิณก็จะได้เป็น "นายกฯ รักษาการ" อภิบาลระบอบทักษิณบริหารให้กร้าวแกร่งไปเรื่อยๆ
แล้วก็ต้องย้อนกลับมาตั้งสติคิดกันใหม่ด้วยคำถามว่า
"ด้วยสภาพที่เป็นอยู่ ชาตินี้จะเปิดสภาฯ ได้มั้ยเนี่ยะ?"
โภคิน-สมคิด-สุดารัตน์-ชิดชัย ก็ได้แต่นั่งเกาในที่ลับแก้คันรอเก้าอี้ "นายกฯ นอมินี" ไปวันๆ งั้นเอง
สู้ทักษิณไม่ได้ ประกาศลอยตัวเหนือปัญหาไปแล้ว แต่ยังนวลเช้งอยู่ในตำแหน่งนายกฯ ชนิดไม่มีกำหนดลง!?
ถึงลงวันไหน มีรัฐบาลใหม่-นายกฯ ใหม่ ก็ไปนั่งชักใยอยู่ในฐานะ "ลีกวนยูเมืองไทย"
ทุกอย่าง..สบายเหมือนเดิมครับท่าน!
ด้วยภาวะที่เลือกตั้งแล้ว ส.ส.ขาดตั้งร่วม ๔๐ คน และเป็นการขาดที่ชัดเจนว่า "ประชาชนส่งสัญญาณไม่ต้องการทักษิณ" เช่นนี้
ทำไมทักษิณไม่คิดว่า รูปการณ์นี้เปิดสภาฯ ไม่ได้แน่นอน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาด้วยจริงใจ ก็เข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลขอพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศให้เลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ
แล้วตัวเองกราบบังคมทูล ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ รักษาการ เพื่อใช้มาตรา ๗ ขอนายกฯ พระราชทาน ให้มาจัดตั้งรัฐบาลระหว่างกาลเพื่อปฏิรูปการเมือง แล้วจัดให้มีเลือกตั้งใหม่ภายในเวลาที่กำหนด
ผมว่าอย่างนี้น่าจะเป็นหนทางสร้างสรรค์ เพื่อสถานการณ์รวมกับทุกฝ่ายมากกว่า
และจะทำให้เห็น "การเสียสละที่ไม่ซ่อนเร้น" ของท่าน!
สรุปประเด็นกันชัดๆ อีกทีก็คือ นายกฯ ฉลาดที่จะเสียสละกับ "ตำแหน่ง" ที่ยังไม่เกิด
พอๆ กับฉลาดที่ไม่ยอมสละตำแหน่งที่มีอยู่แล้วในมือ
และนายกฯ ฉลาดใช้ "ตำแหน่งที่ยังไม่เกิด" ไปแลกกับการลงเลือกตั้งของฝ่ายค้าน และแลกกับการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
และที่ฉลาดสุดๆ ถ้าเปิดสภาฯ ได้ สภาฯ นี้-รัฐบาลนี้ จะมีอายุสูงสุด ๑๘ เดือน และเป็น ๑๘ เดือนที่สาละวนกับการปฏิรูปการเมืองเพื่อให้มีเลือกตั้งใหม่ "ทักษิณยอมไม่เป็นนายกฯ ๑๘ เดือน" เพื่อแลกกับเลือกตั้งใหม่ที่จะได้กลับมาเป็น "นายกฯ ตลอดกาล"
โอ..จอร์จ คนคนนี้เหนือชั้นจริงๆ!
http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=5/Apr/2549&news_id=122620&cat_id=200