นักเรียน จ๋า
วันนี้ ครูดาว จะมาเล่าเรื่องการดูแล อวัยวะ ต่างๆ อย่างถูกวิธีค่ะ
ไม่ใช่ดูแล แค่อวัยวะ ที่ ตาเห็นนะคะ
ประกายดาว ห่วงใยไปถึง อวัยวะล้ำลึก ภายใน ส่วนต่างๆ ของเพื่อนๆ ด้วย
การดูแล สุขภาพ ไม่ใช่จะมาดูแลกัน ตอนที่ เราได้แต่ ซ่อมแซม
รัก ตัวเอง ...ดูแลสุขภาพตัวเองนะคะ 
วันนี้ ประกายดาวตื่นมาเล่นโยคะ กับ หมาที่บ้าน ค่ะ เจ้าซิหริมาสสสส
มันก็ นอนแผ่ อยู่ข้างๆ ด้วย
ถ้า ไม่มีเวลามาก ลองบิดขี้เกียจง่ายๆ ด้วยวิธีที่ประกายดาว เคยคุยให้ฟัง
ในกระทู้ข้างล่างนี้นะคะ
บิดขี้เกียจ ทั้งที บิดขี้เกียจ อย่างมีสติค่ะ
http://forum.serithai.net/index.php?topic=1350.0อยากการดูแล อวัยวะต่างๆ อย่างถูกวิธี ตามมาที่นี่กันค่ะ...การแพทย์ตะวันออกถือว่า
กลางวันและกลางคืนมีความสัมพันธ์กับสุขภาพของมนุษย์อย่างแยกไม่ออก
การเคลื่อนไหวพลังชีวิตของอวัยวะภายในมีกฎเกณฑ์ที่สัมพันธ์กับเวลา ร่างกายจึงมีการปรับตัว
มีการสร้างสารคัดหลั่งฮอร์โมน
การทำงานของระบบต่างๆ เป็นไปตามสภาพธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งการไหลเวียน
ของพลังชีวิตที่ผ่านแต่ละอวัยวะนั้นจะใช้เวลา 2 ชั่วโมง ทั้งหมดมี 12 อวัยวะ รวม 24 ชั่วโมง...
โดยแบ่งเป็นช่วงเวลาดังนี้
01.00-03.00 น. | 03.00-05.00 น. | 05.00-07.00 น.
07.00-09.00 น. | 09.00-11.00 น. | 11.00-13.00 น.
13.00-15.00 น. | 15.00-17.00 น. | 17.00-19.00 น.
19.00-21.00 น. | 21.00-23.00 น. | 23.00-01.00 น.
ตับ | ปอด | ลำไส้ใหญ่ | กระเพาะอาหาร
ม้าม | หัวใจ | ลำไส้เล็ก | กระเพาะปัสสาวะ
ไต | เยื่อหุ้มหัวใจ | พลังงาน | ถุงน้ำดี01.00-03.00 น. : ตับ ควรนอนหลับพักผ่อน ถ้าใครนอนหลับได้ดีเป็นประจำในช่วงเวลานี้
ตับจะหลั่งสารมีราโทนิน (meratonine) เพื่อฆ่าเชื้อโรค ทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย
นอกจากนี้ ยังหลั่งสารเอนโดรฟิน (endrophin) ออกมาด้วย จึงไม่ควรกินอาหาร
เพราะจะทำให้ตับทำงานหนักและเสื่อมเร็ว เนื่องจากหน้าที่หลักของตับคือ
ขจัดสารพิษในร่างกาย ส่วนหน้าที่รอง คือ
1. ช่วยไตในการดูแลผม ขน เล็บ ถ้าตับมีปัญหา ผม ขน เล็บจะไม่สวย
2. ช่วยกระเพาะย่อยอาหาร ถ้ากินบ่อยๆ จะทำให้ตับทำงานหนัก
ตับจะหลั่งน้ำย่อยออกมามาก จึงไม่ได้ทำหน้าที่หลัก เป็นเหตุให้สารพิษตกค้างในตับ
03.00-05.00 น. : ปอด จึงควรตื่นนอนลุกขึ้นเพื่อสูดอากาศที่บริสุทธิ์ และรับแสงแดดในยามเช้า
ผู้ที่ตื่นนอนช่วงนี้เป็นประจำปอดจะดี ผิวจะดีขึ้น
05.00-07.00 น. : ลำไส้ใหญ่ จึงควรขับถ่ายอุจจาระให้เป็นนิสัยทุกเช้า
07.00-09.00 น. : กระเพาะอาหาร กระเพาะอาหารจะทำงาน ถ้าทานอาหารเช้าในช่วงเวลานี้ทุกวัน กระเพาะอาหารจะแข็งแรง
ถ้าปล่อยให้กระเพาะอาหารอ่อนแอ จะส่งผลให้เป็นคนตัดสินใจช้า ขี้กังวล ขาไม่ค่อยมีแรง
ปวดเข่า หน้าแก่เร็วกว่าวัย
09.00-11.00 น. : ม้าม ม้ามมีหน้าที่ควบคุมเม็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง ควบคุมไขมัน
คนที่ปวดศีรษะบ่อยมักมาจากความผิดปกติของม้าม อาการเจ็บชายโครงก็มีสาเหตุมาจากม้ามและตับ
ถ้าม้ามโต ม้ามจะไปเบียดปอด ทำให้เหนื่อยง่าย ผอมเหลือง ตาเหลือง สร้างเม็ดเลือดขาวได้น้อย
ถ้าม้ามชื้น อาหารและน้ำที่กินเข้าไปจะแปรสภาพเป็นไขมันจึงทำให้อ้วนง่าย
ผู้ที่มักนอนหลับในช่วงเวลา 9.00-11.00 น. ม้ามจะอ่อนแอ
11.00-13.00 น. : หัวใจ หัวใจจะทำงานหนักในช่วงเวลานี้ จึงควรหลีกเลี่ยงความเครียด เรื่องที่ทำให้ต้องใช้ความคิดหนัก
และหาทางระงับอารมณ์ตื่นเต้นหรืออาการตกใจให้ได้
โอ้ ขณะ ที่ประกายดาวกำลังโพสต์กระทู้อยู่นี่ หัวใจหนูทำงานหนัก
13.00-15.00 น. : ลำไส้เล็ก ควรงดทานอาหารทุกประเภทเพื่อเปิดโอกาสให้ลำไส้ทำงาน
ลำไส้เล็กมีหน้าที่ดูดซึมสารอาหารที่เป็นน้ำทุกชนิด เช่น วิตามินซี บี โปรตีนเพื่อสร้างกรดอะมิโน
สร้างเซลล์สมอง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างไข่สำหรับผู้หญิง ถ้ากรดอะมิโนน้อย
ไข่จะมาไม่ครบทุกเดือน
ผู้หญิงมีลำไส้ยาวกว่าผู้ชาย 11 ฟุต เพื่อให้การดูดซึมได้นานกว่า
เนื่องจากต้องใช้กรดอะมิโนมากกว่าผู้ชาย เมื่อมีลำไส้ยาวกว่าจึงมีกระดูกซี่โครงมากกว่าผู้ชายข้างละ 1 ซี่
15.00-17.00 น. : กระเพาะปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะจะเกี่ยวข้องกับระบบความจำ ไทรอยด์ และระบบเพศทั้งหมด
ช่วงเวลานี้จึงควรทำให้เหงื่อออก อาจจะออกกำลังกายหรืออบตัว กระเพาะปัสสาวะจะได้แข็งแรง
การอั้นปัสสาวะบ่อยๆ ปัสสาวะจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด
ทำให้เหงื่อที่ออกมามีกลิ่นเหม็นเหมือนปัสสาวะ
17.00-19.00 น. : ไต ควรทำใจให้สดชื่น ไม่ง่วงเหงาหาวนอน ไตซ้ายจะคุมสมองด้านขวา
ซึ่งควบคุมด้านความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์สุนทรีย์ รักสวยรักงาม ถ้าไตซ้ายมีปัญหา
อารมณ์รักสวยรักงามจะหมดไป และเป็นคนขี้ร้อน
ส่วนไตขวาจะคุมสมองด้านซ้าย ซึ่งควบคุมด้านความจำ ถ้าไตขวามีปัญหา ความจำจะเสื่อม
และเป็นคนขี้หนาว ถ้าลำไส้เล็กมีไขมันเกาะมาก อาหารที่อยู่ในรูปของสารละลายจะผ่านลำไส้เล็กไม่ได้
จึงตกเป็นภาระของไต เป็นผลให้ไตทำงานหนัก จึงกลายเป็นโรคไต ผู้ที่เป็นโรคไต สมองจะเสื่อม
ปวดหลัง เป็นหวัดง่าย มีเสลดในคอ
19.00-21.00 น. : เยื่อหุ้มหัวใจ ช่วงเวลานี้จึงควรสวดมนต์ ทำสมาธิ
21.00-23.00 น. : พลังงาน เป็นช่วงเวลาที่ต้องทำให้ร่างกายอบอุ่น จึงห้ามอาบน้ำเย็นในช่วงเวลานี้ เพราะจะทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย
อย่าไปตากลม เพราะเป็นช่วงที่ลมเป็นพิษ
23.00-01.00 น. : ถุงน้ำดี (ถุงน้ำดีเป็นถุงสำรองเก็บน้ำย่อยที่ออกมาจากตับ) อวัยวะใดในร่างกายเมื่อขาดน้ำ
จะมาดึงน้ำจากถุงน้ำดี ทำให้ถุงน้ำดีข้น
เป็นผลให้อารมณ์ฉุนเฉียว สายตาเสื่อม เหงือกจะบวม ปวดฟัน นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก
หรือปวดศีรษะข้างเดียวหรือสองข้างโดยไม่ทราบสาเหตุ
ขอให้ ลอง พิจารณา ดู นะคะ ว่า กิจวัตร ต่างๆ ที่เราปฏิบัติในทุกๆ วัน
เหมาะสมหรือไม่อย่างไร ดูแลอวัยวะ ของเรา อย่างใกล้ชิด มากขึ้น นิดๆ นะคะ
คิดดูซี อวัยวะ เหล่านี้ น่าเห็นใจ สักแค่ไหน runs 24 hours a day ...everyday
หยุดพัก ก็ไม่ได้ ....เห็นใจกันหน่อย นะคะ 
