ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
28-03-2024, 19:43
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ‘อะไรจ๊ะ’ไม่เกรงใจแล้วน๊ะ! สารภาพตรงๆเลยว่าคุณทักษิณไม่สมควรเป็นนายกฯตั้งแต่แรก 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 [2]
‘อะไรจ๊ะ’ไม่เกรงใจแล้วน๊ะ! สารภาพตรงๆเลยว่าคุณทักษิณไม่สมควรเป็นนายกฯตั้งแต่แรก  (อ่าน 4506 ครั้ง)
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #50 เมื่อ: 19-07-2006, 16:35 »

'อะไรจ๊ะ' ฝันว่ากระทู้ดีๆแบบนี้จะอยู่ในความทรงจำของเพื่อนๆตลอดไป.....'อะไรจ๊ะ' คาดหวังมากไปป่าวฮ่ะ!?!  Rolling Eyes
บันทึกการเข้า
~ GARFIELD ~
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 158


แม่ไม่ปลื้ม .. จบ!!


เว็บไซต์
« ตอบ #51 เมื่อ: 19-07-2006, 16:40 »

ก็ ... คงได้แค่ฝันล่ะมั้ง  Laughing
บันทึกการเข้า

The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #52 เมื่อ: 19-07-2006, 17:05 »

ก็ ... คงได้แค่ฝันล่ะมั้ง  Laughing

ขอบคุณคุณแมวฯน๊ะครับ 'อะไรจ๊ะ' จะพยายามทำตามที่คุณเคยบอก.....แล้วท่านอื่นเค้าจะไม่ว่าเหรอครับ? ไงๆหลังไมค์ดีกว่าน๊ะครับ
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #53 เมื่อ: 20-07-2006, 10:18 »

สมานฉันท์ต้องเริ่มจากเลือกตั้ง

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคเปิดเผยว่า แนวทางสมานฉันท์ที่พ.ต.ท.ทักษิณต้องการหารือเพื่อหาทางออกให้กับปัญหาบ้านเมือง จะยึดตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. โดยนายกฯ จะนำมาปรับใช้ให้เป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้องของประชาธิปไตย ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้มีปัญหาในการหาแนวทางสมานฉันท์อย่างที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา แต่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในการบริหารประเทศตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

นายพงศ์เทพกล่าวว่า ที่ผ่านมาการพัฒนาประชาธิปไตยไทยไม่มีความต่อเนื่องและหยุดชะงัก แต่ระบอบประชาธิปไตยเป็นการปกครองที่มีข้อบกพร่องน้อยที่สุด การเลือกตั้งจึงเป็นแนวทางที่จะให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ตามกลไกของระบอบประชาธิปไตยได้ดีที่สุด เพราะอำนาจสูงสุดอยู่ที่ประชาชน พรรคไทยรักไทยพร้อมปฏิรูปการเมือง แต่ทุกอย่างต้องมีการเลือกตั้งก่อน เพราะหากไม่มีสภา การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ในส่วนของพรรครัฐมนตรีทั้ง 7 คนที่ได้หารือสถานการณ์การเมืองร่วมกัน ก็ยืนยันว่าพร้อมสนับสนุนการทำงานของพ.ต.ท.ทักษิณตามแนวทางระบอบประชาธิปไตยต่อไป และการพบปะกันไม่ใช่โดดเดี่ยวนายกฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้กกต.ทั้ง 3 คนลาออกจากตำแหน่ง เพื่อให้กกต.ชุดใหม่เข้ามาจัดการเลือกตั้ง นายพงศ์เทพ กล่าวว่า หากกกต.ทั้ง 3 ลาออกจริง ปัญหาก็จะยังไม่ยุติ เพราะไม่มีใครรับประกันได้ว่าการสรรหากกต.ชุดใหม่จะใช้เวลานานเพียงใด การเลือกตั้งถือว่าล่าช้ามามากแล้ว ส่งผลกระทบต่อกลไกของประเทศ รวมทั้งผลกระทบต่องบลงทุน หากยังล่าช้าจะยิ่งส่งผลกระทบต่อประชาชน

นายพงศ์เทพกล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมข้อมูลชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณียุบพรรคว่า ขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญส่งสำนวนคำร้องการยุบพรรคมาให้พรรคไทยรักไทยแล้ว มีข้อมูลจำนวนมากถึง 5 แฟ้มใหญ่ คณะทำงานด้านกฎหมายของพรรค จะประชุมทำความเข้าใจอย่างละเอียด เพราะไม่เคยมีคดีเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน ยังมีประเด็นและพยานจำนวนมาก ต่างก็ให้การขัดแย้งกัน พรรคต้องทำคำชี้แจงในนามของพรรคการเมืองในฐานะนิติบุคคลที่เป็นคู่ความในคดี ไม่ใช่หัวหน้าพรรคเป็นคู่ความ ดังนั้นต้องพิจารณาเอกสารด้วยว่า พยานที่ต้องชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญมีใครบ้าง

 
 
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #54 เมื่อ: 20-07-2006, 10:46 »

ภูมิธรรม เวชยชัย "ฟินแลนด์ที่ผมประทับใจที่สุดและอยากลืมที่สุด"

คอลัมน์ ห้องรับแขก  หนังสือพิมพ์โพสต์ ทูเดย์ (วันอาทิตย์ ที่ 4 มิถุนายน 2549)

โดย - อาทิตย์ เคนมี

          มกราคม 2540 เหนือท้องฟ้าของประเทศฟินแลนด์ หิมะหล่นโปรยปรายลงมาราวกับปุยนุ่น ปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่างจนแลดูขาวโพลนสะอาดตา บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก นับเป็นคืนวันสุดหรรษาของเหล่ากระทาชายที่เดินทางไกลจากเมืองไทยยังประทับใจไม่รู้ลืม

          นี่คือภาพความทรงจำที่ “อ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย และรักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยังติดตาตรึงใจมาจนถึงทุกวันนี้ เขามีความสุขทุกครั้งเมื่อหลับตานึกถึงภาพเก่าๆ และยังจดจำได้ดีแม้จะล่วงเลยมาเกือบสิบปีแล้วก็ตาม

          ทว่าในวันที่เขาและชาวคณะกำลังเล่นหิมะกัน อย่างสนุกสนานเพลิดเพลินราวกับเด็กวัยซน เขาไม่เคยคิดเลยว่าอีกสิบปีต่อมาจะกลายเป็นเรื่องร้ายแรงถึงขั้นถูกกล่าวหาว่า เป็นการซ่องสุมของกลุ่มขบวนการ ผู้สมคบคิดทำลายล้างระบอบประชาธิปไตยไทยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข!

          ข่าวลืออื้อฉาวนี้ถูกเปิดโปงขึ้นมา โดยเรียกกันว่า “ปฏิญญาฟินแลนด์” หรือแผนยุทธศาสตร์โค่นล้มระบอบการปกครองของไทย พร้อมกับระบุถึงตัวผู้สมรู้ร่วมคิดว่าเป็นบุคคลระดับแกนนำผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย อดีตคนเดือนตุลา ซึ่งหมายถึงตัวนายภูมิธรรม รวมทั้งคณะผู้ติดสอยห้อยตามอีกจำนวนหนึ่ง

          ภูมิธรรม กล่าวด้วยอารมณ์ตัดพ้อเมื่อหวนรำลึกถึงคืนวันอันสุขสันต์ในครั้งนั้นว่า “ฟินแลนด์คือประเทศที่ผมประทับใจที่สุดและอยากลืมที่สุด”

เล่นสเกต-เซาน่า-ช็อปปิ้ง สนุกสุดเหวี่ยงที่ฟินแลนด์

          ย้อนกลับไปถึงเรื่องราวแต่หนหลัง ภูมิธรรม เล่าให้ฟังว่า ที่จริงแล้วการไปเยือนฟินแลนด์มิใช่เรื่องปิดบังหรือมีความลับแต่อย่างใด โดยนับตั้งแต่เขาได้เข้ามาช่วยงานการเมืองให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ราวปี 2537 อันเป็นช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังตัดสินใจลงเล่นการเมืองเต็มตัว โดยลงสมัครรับเลือกตั้งสังกัดพรรคพลังธรรม ภูมิธรรมได้ขันอาสามาช่วยงานการเมืองในฐานะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเสนอความคิดเห็นต่างๆ โดยที่ไม่ขอรับเงินเดือนตอบแทนแต่อย่างใด

          “ท่านนายกฯ ก็เอ่ยปากอยู่หลายครั้งว่าในเมื่อมาช่วยงานแล้วไม่เอาเงินเดือน ถ้าอย่างนั้นจะพาไปเที่ยวก็แล้วกัน กระทั่งปลายปี 2539 ท่านนายกฯ ลาออกจากพรรคพลังธรรม จึงถือโอกาสชวนกันไปเที่ยวเป็นเวลา 7 วัน 3 ประเทศ คือ ฟินแลนด์ สวีเดน และเยอรมนี”

          อย่างไรก็ตาม แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะว่างเว้นจากงานการเมือง แต่ขณะนั้นก็ยังเป็นผู้บริหารของบริษัท ชินวัตร จึงถือโอกาสไปเจรจาทางธุรกิจกับทั้ง 3 ประเทศ คือที่ฟินแลนด์พบกับโนเกีย ไปสวีเดนคุยกับอีริคสัน และไปเยอรมนีเจอกับซีเมนส์

          ภูมิธรรม ยืนยันว่า ปัญหาสำคัญเรื่องนี้ก็คือ มิได้มีการประชุมลับอย่างที่เข้าใจกัน เพราะมีผู้ร่วมคณะเพียงแค่ 4 คน คือ เกรียงกมล เลาหะไพโรจน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีตเลขาธิการศูนย์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย อำนวยชัย ปฏิพัทธ์เผ่าพงศ์ นักแปลหนังสือ ซึ่งเคยทำงานร่วมกันมาตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นนักศึกษา และ วริษฐ์ มงคลศรี ซึ่งเป็นนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง อดีตกรรมการศูนย์นิสิตฯ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

          “ในช่วงกลางวันท่านก็ไปดูงานของท่าน ส่วนพวกเราเที่ยวกันอย่างเดียว โดยคนที่พาไปคือ พล.ต.ท.ม.ล.ฉลองลาภ ทวีวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลสมัยนั้น มีหน้าที่ดูแลด้านการจราจร อีกท่านคือ ม.ล.บวรนรเทพ เทวกุล ซึ่งเป็นผู้ติดตามนายกฯ ในขณะนั้น ท่านเป็นคนพาพวกผมไปกิน ไปเที่ยว ไปดูงาน ไปเล่นไบค์สกีบนทะเลสาบน้ำแข็ง”

          ภูมิธรรม บอกอีกว่า การไปฟินแลนด์ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบัง แต่เป็นเรื่องที่สนุกสนาน และมีกิจกรรมตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นตกปลา เล่นสเกต ช็อปปิ้ง และเซาน่า

          “ถ้าจะให้ดีเขาบอกว่าหลังจากเซาน่าร้อนๆ จะต้องวิ่งแก้ผ้าออกไปคลุกหิมะแล้วเลือดลมมันจะดี แต่ผมไม่เชื่อก็เลยไม่ได้ทำ ส่วนคนอื่นก็ไม่กล้าทำ นอกจากนี้พวกผมก็ได้กระเป๋าสตางค์มาคนละใบ เป็นกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง ครบรอบ 100 ปี ตอนนี้เก่าแล้วก็ยังเก็บไว้อยู่ ท่านนายกฯ เองก็สนุกสนานมาก ในชีวิตผมเคยไปสแกนดิเนเวียก็แค่ครั้งเดียวนี่แหละ ฉะนั้น ปฏิญญาฟินแลนด์ก็คือปฏิญญา
เลอะเทอะ”

ปฏิญญาข้อ 4 ตลกร้ายที่ขำไม่ออก

          ข้อกล่าวหาร้ายแรงเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์ถูกตีแผ่ขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่กำลังร้อนระอุ โดยมีการกล่าวอ้างว่าการไปเยือนประเทศฟินแลนด์ของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ เป็นการประชุมลับสุดยอดเพื่อยกร่างปฏิญญาฟินแลนด์ ฉบับ 2542 โดยหมายจะปฏิวัติระบอบการเมืองการปกครองของไทยครั้งใหญ่

          ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ถูกพาดพิง ภูมิธรรมถึงกับงัดหลักฐานวีซ่าออกมาพิสูจน์ให้เห็นกันชัดๆ ซึ่งในเอกสารระบุว่า วันที่ 7 มกราคม 2540 คือวันที่เขายื่นเรื่องขอวีซ่าไปประเทศฟินแลนด์ ฉะนั้นความจริงในข้อนี้จึงขัดแย้งกับข้อกล่าวหาเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์ 2542

          “ผมเป็นเพียงเหยื่อที่ถูกจับโยงเอามาเป็นตัวละคร เพื่อจะทำลายท่านนายกฯ ทักษิณ หรือระบอบทักษิณ" เขากล่าว

          นอกจากนี้ ยังมีอีกข้อกล่าวหาที่ว่า การเดินทางในทริปนั้นนายภูมิธรรมได้ขึ้นไปยืนบนดาดฟ้าเรือระหว่างที่กำลังแล่นอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร ราวกับกัปตันเรือไททานิก แล้วกู่ก้องร้องตะโกนว่าจะพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน นับเป็นเรื่องตลกร้ายที่ภูมิธรรมถึงกับขำไม่ออก เพราะวันที่เขาไปเยือนฟินแลนด์มีแต่ทะเลน้ำแข็ง กระทั่งเครื่องบินจะลงจอดยังแทบมองไม่เห็นรันเวย์ เขาจึงมองว่าเรื่องนี้เป็นเพียงแค่การแต่งนิยายลวงโลก

          แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่ภูมิธรรมรู้สึกรับไม่ได้และนับเป็นประเด็นร้ายแรงที่สุดก็คือ การที่มีผู้ประดิษฐ์ทฤษฎีบันได 5 ขั้น ของปฏิญญาฟินแลนด์ เพื่อโจมตีระบอบทักษิณ ได้แก่ 1.สร้างระบบการเมืองเป็นพรรคเดียว 2. ทำลายความเข้มแข็งแบบเก่าของระบบราชการให้รับใช้ระบบการเมืองโดยไม่มีเงื่อนไข 3. แปลงสินทรัพย์ของรัฐให้เป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจทุนนิยมเสรี 4.ทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นแต่เพียงสัญลักษณ์ให้มากที่สุด และ 5.สร้างระบบพรรคการเมืองแบบศูนย์รวมให้เป็นพรรคของกรรมการ แต่แฝงอยู่ในเสื้อคลุมเปลือกนอกที่หลอกลวงว่าเป็นพรรคมวลชน ซึ่งประเด็นสำคัญอย่างยิ่งคือข้อ 4 ที่สังคมไทยไม่อาจยอมรับได้

          "การกุเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาจะต้องมีข้อเท็จจริง แต่เรื่องนี้เป็นการกล่าวหาที่ผู้ถูกกล่าวหามีโทษร้ายแรงถึงตายได้ ถ้าเป็นสมัยก่อนก็คงตัดหัวเจ็ดชั่วโคตรไปแล้ว ฉะนั้นเรื่องนี้จึงไม่ยุติธรรม การใช้วิธีการแบบนี้มาทำลายคน โดยกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดีขึ้นขั้นที่จะทำลายสถาบัน เป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก ผมรับสภาพแบบนี้ไม่ได้ ถ้าอยากจะวิพากษ์วิจารณ์หรือกล่าวหาในเรื่องใดก็ตาม จะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง แล้วผมจะยอมรับในสิ่งนั้นได้" ภูมิธรรมระบาย

          ภูมิธรรมกล่าวอีกว่า เขาก็เป็นคนหนึ่งที่จงรักภักดี เหมือนกับคนอื่น ๆ ทั่วไปที่ยึดถือพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ เป็นของสูงสำหรับสังคมไทยที่จะต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวแตะต้อง และให้ความจงรักภักดีมาตลอด ฉะนั้นเขาถือว่าการกุข่าวเรื่องนี้เป็นการกระทำที่น่าอับอายและไร้จรรยาบรรณที่สุด

          "การที่เราเรียกร้องถามหาจริยธรรมของคนอื่น แต่กลับใช้กระบวนการและวิธีคิดในการเสนอข้อมูลที่เป็นเท็จขึ้นมาแล้วปรักปรำทำร้ายกัน ถือว่าไม่มีจริยธรรม อย่างน้อยที่สุดต้องมีหิริโอตตัปปะบ้าง มีความเกรงกลัว ละอายต่อบาปบ้าง"

          เขาคิดว่า ผู้ที่หยิบเอาเบื้องสูงมาเอ่ยอ้างต้องถือว่าไม่จงรักภักดี ถือเป็นการทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และคนผู้นั้นจะต้องรับผิดชอบ ไม่เพียงเท่านั้น สิ่งที่ภูมิธรรมรู้สึกเสียใจไม่น้อยกว่ากันก็คือ บุคคลที่ออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ล้วนแต่เป็นบุคคลที่เขาเคารพนับถือยิ่งนัก

          "เรื่องฟินแลนด์เป็นเรื่องที่ผมค่อนข้างเสียใจ เพราะอย่างน้อยคนที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา 2-3 คน เป็นบุคคลที่ผมเคยเคารพนับถือทั้งสิ้น อ.ชัยอนันต์ สมุทวณิช เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์สมัยที่ผมเรียนปริญญาโท อ.ปราโมทย์ นาครทรรพ เป็นบุคคลที่ผมเคยร่วมงานด้วยในยุคเผยแพร่ประชาธิปไตย ปี 2516 ส่วนคุณโสภณ สุภาพงษ์ เป็นผู้ใหญ่ที่ผมเคยเคารพนับถือสมัยที่ทำงานเอ็นจีโอ แล้วจู่ ๆ ก็เปิดเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งถือเป็นการหยิบยกที่ไร้พื้นฐานข้อเท็จจริง"

          หากกล่าวถึงเกมการต่อสู้ทางการเมือง ภูมิธรรมยอมรับได้หากจะมีการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายรัฐบาลที่ผิดหรือถูก เพราะถือเป็นความคิดเห็นที่อาจมีมุมมองแตกต่างกันได้ โดยสาธารณชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง หรือหากต้องการกล่าวหาก็ควรจะว่าถึงเรื่องคอร์รัปชัน โกงกิน หรือเรื่องการบริหารงานผิดพลาด แล้วเอาข้อมูลมาว่ากันตามเนื้อผ้า แต่วิธีการทำลายฝ่ายตรงข้ามเช่นนี้เป็นการไปรับฟังคนอื่นพูดแล้วเอามาปะติดปะต่อจนกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ

          "ถ้าจะวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่รัฐบาลนี้ได้ทำไป เช่น แนวคิดการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ปฏิรูประบบราชการ หรือนโยบายต่าง ๆ ในระดับรากหญ้า ซึ่งถ้าไม่ยอมรับในสิ่งที่ท่านนายกฯ ทำอยู่ก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า นโยบายที่ท่านนายกฯ ทำไม่เหมาะสมกับสังคม แต่กลับหยิบเอาเรื่องสถาบันขึ้นมากล่าวหา ผมว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระ ยกตัวอย่างกรณีที่หาว่า ผมเกี่ยวข้องกับมนุษยะดอตคอม (manussaya.com) ซึ่งผมเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์เลย เพื่อนฝูงก็รู้ ผมใช้โทรศัพท์มือถือเป็นแค่โทร.เข้ากับโทร.ออกแค่นั้นเอง ส่วนคอมพิวเตอร์ผมก็ให้คนอื่นเปิดให้ ผมไม่เคยทำเป็นเลย แล้วจู่ ๆ มากล่าวหาว่าผมอยู่เบื้องหลังไอ้เว็บไซต์บ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้ได้ยังไง"

          เขาเล่าว่า โดยปกติในเกมการต่อสู้ชิงไหวชิงพริบทางการเมือง เขามักจะหลีกเลี่ยงการตอบโต้ เพราะถือเป็นเรื่องไร้สาระเกินไป แต่การสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อทำลายกันนับเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวมาก ทำให้สังคมยิ่งแตกแยก เพราะอาจเป็นการซ้ำรอยเดิมเมื่อ 30 ปีก่อน คือเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519

          "การสร้างเรื่องอย่างนี้ขึ้นมาก็เหมือนกับกล่าวหาว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีอุโมงค์ลับเป็นที่สะสมอาวุธของพวกญวนหรือบอกว่ามีนักศึกษาญวนอยู่เต็มมหาวิทยาลัย จนกระทั้งทำให้นักศึกษารัฐศาสตร์จุฬาฯ ปี 2 รุ่นน้องของผมถูกจับแขวนคอและถูกตีตายที่ต้นมะขามสนามหลวง"--จบ--
 


  ภูมิธรรม เวชยชัย "ฟินแลนด์ที่ผมประทับใจที่สุดและอยากลืมที่สุด"

คอลัมน์ ห้องรับแขก  หนังสือพิมพ์โพสต์ ทูเดย์ (วันอาทิตย์ ที่ 4 มิถุนายน 2549)

โดย - อาทิตย์ เคนมี

          มกราคม 2540 เหนือท้องฟ้าของประเทศฟินแลนด์ หิมะหล่นโปรยปรายลงมาราวกับปุยนุ่น ปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่างจนแลดูขาวโพลนสะอาดตา บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก นับเป็นคืนวันสุดหรรษาของเหล่ากระทาชายที่เดินทางไกลจากเมืองไทยยังประทับใจไม่รู้ลืม

          นี่คือภาพความทรงจำที่ “อ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย และรักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยังติดตาตรึงใจมาจนถึงทุกวันนี้ เขามีความสุขทุกครั้งเมื่อหลับตานึกถึงภาพเก่าๆ และยังจดจำได้ดีแม้จะล่วงเลยมาเกือบสิบปีแล้วก็ตาม

          ทว่าในวันที่เขาและชาวคณะกำลังเล่นหิมะกัน อย่างสนุกสนานเพลิดเพลินราวกับเด็กวัยซน เขาไม่เคยคิดเลยว่าอีกสิบปีต่อมาจะกลายเป็นเรื่องร้ายแรงถึงขั้นถูกกล่าวหาว่า เป็นการซ่องสุมของกลุ่มขบวนการ ผู้สมคบคิดทำลายล้างระบอบประชาธิปไตยไทยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข!

          ข่าวลืออื้อฉาวนี้ถูกเปิดโปงขึ้นมา โดยเรียกกันว่า “ปฏิญญาฟินแลนด์” หรือแผนยุทธศาสตร์โค่นล้มระบอบการปกครองของไทย พร้อมกับระบุถึงตัวผู้สมรู้ร่วมคิดว่าเป็นบุคคลระดับแกนนำผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย อดีตคนเดือนตุลา ซึ่งหมายถึงตัวนายภูมิธรรม รวมทั้งคณะผู้ติดสอยห้อยตามอีกจำนวนหนึ่ง

          ภูมิธรรม กล่าวด้วยอารมณ์ตัดพ้อเมื่อหวนรำลึกถึงคืนวันอันสุขสันต์ในครั้งนั้นว่า “ฟินแลนด์คือประเทศที่ผมประทับใจที่สุดและอยากลืมที่สุด”

เล่นสเกต-เซาน่า-ช็อปปิ้ง สนุกสุดเหวี่ยงที่ฟินแลนด์

          ย้อนกลับไปถึงเรื่องราวแต่หนหลัง ภูมิธรรม เล่าให้ฟังว่า ที่จริงแล้วการไปเยือนฟินแลนด์มิใช่เรื่องปิดบังหรือมีความลับแต่อย่างใด โดยนับตั้งแต่เขาได้เข้ามาช่วยงานการเมืองให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ราวปี 2537 อันเป็นช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังตัดสินใจลงเล่นการเมืองเต็มตัว โดยลงสมัครรับเลือกตั้งสังกัดพรรคพลังธรรม ภูมิธรรมได้ขันอาสามาช่วยงานการเมืองในฐานะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเสนอความคิดเห็นต่างๆ โดยที่ไม่ขอรับเงินเดือนตอบแทนแต่อย่างใด

          “ท่านนายกฯ ก็เอ่ยปากอยู่หลายครั้งว่าในเมื่อมาช่วยงานแล้วไม่เอาเงินเดือน ถ้าอย่างนั้นจะพาไปเที่ยวก็แล้วกัน กระทั่งปลายปี 2539 ท่านนายกฯ ลาออกจากพรรคพลังธรรม จึงถือโอกาสชวนกันไปเที่ยวเป็นเวลา 7 วัน 3 ประเทศ คือ ฟินแลนด์ สวีเดน และเยอรมนี”

          อย่างไรก็ตาม แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะว่างเว้นจากงานการเมือง แต่ขณะนั้นก็ยังเป็นผู้บริหารของบริษัท ชินวัตร จึงถือโอกาสไปเจรจาทางธุรกิจกับทั้ง 3 ประเทศ คือที่ฟินแลนด์พบกับโนเกีย ไปสวีเดนคุยกับอีริคสัน และไปเยอรมนีเจอกับซีเมนส์

          ภูมิธรรม ยืนยันว่า ปัญหาสำคัญเรื่องนี้ก็คือ มิได้มีการประชุมลับอย่างที่เข้าใจกัน เพราะมีผู้ร่วมคณะเพียงแค่ 4 คน คือ เกรียงกมล เลาหะไพโรจน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีตเลขาธิการศูนย์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย อำนวยชัย ปฏิพัทธ์เผ่าพงศ์ นักแปลหนังสือ ซึ่งเคยทำงานร่วมกันมาตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นนักศึกษา และ วริษฐ์ มงคลศรี ซึ่งเป็นนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง อดีตกรรมการศูนย์นิสิตฯ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

          “ในช่วงกลางวันท่านก็ไปดูงานของท่าน ส่วนพวกเราเที่ยวกันอย่างเดียว โดยคนที่พาไปคือ พล.ต.ท.ม.ล.ฉลองลาภ ทวีวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลสมัยนั้น มีหน้าที่ดูแลด้านการจราจร อีกท่านคือ ม.ล.บวรนรเทพ เทวกุล ซึ่งเป็นผู้ติดตามนายกฯ ในขณะนั้น ท่านเป็นคนพาพวกผมไปกิน ไปเที่ยว ไปดูงาน ไปเล่นไบค์สกีบนทะเลสาบน้ำแข็ง”

          ภูมิธรรม บอกอีกว่า การไปฟินแลนด์ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบัง แต่เป็นเรื่องที่สนุกสนาน และมีกิจกรรมตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นตกปลา เล่นสเกต ช็อปปิ้ง และเซาน่า

          “ถ้าจะให้ดีเขาบอกว่าหลังจากเซาน่าร้อนๆ จะต้องวิ่งแก้ผ้าออกไปคลุกหิมะแล้วเลือดลมมันจะดี แต่ผมไม่เชื่อก็เลยไม่ได้ทำ ส่วนคนอื่นก็ไม่กล้าทำ นอกจากนี้พวกผมก็ได้กระเป๋าสตางค์มาคนละใบ เป็นกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง ครบรอบ 100 ปี ตอนนี้เก่าแล้วก็ยังเก็บไว้อยู่ ท่านนายกฯ เองก็สนุกสนานมาก ในชีวิตผมเคยไปสแกนดิเนเวียก็แค่ครั้งเดียวนี่แหละ ฉะนั้น ปฏิญญาฟินแลนด์ก็คือปฏิญญา
เลอะเทอะ”

ปฏิญญาข้อ 4 ตลกร้ายที่ขำไม่ออก

          ข้อกล่าวหาร้ายแรงเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์ถูกตีแผ่ขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่กำลังร้อนระอุ โดยมีการกล่าวอ้างว่าการไปเยือนประเทศฟินแลนด์ของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ เป็นการประชุมลับสุดยอดเพื่อยกร่างปฏิญญาฟินแลนด์ ฉบับ 2542 โดยหมายจะปฏิวัติระบอบการเมืองการปกครองของไทยครั้งใหญ่

          ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ถูกพาดพิง ภูมิธรรมถึงกับงัดหลักฐานวีซ่าออกมาพิสูจน์ให้เห็นกันชัดๆ ซึ่งในเอกสารระบุว่า วันที่ 7 มกราคม 2540 คือวันที่เขายื่นเรื่องขอวีซ่าไปประเทศฟินแลนด์ ฉะนั้นความจริงในข้อนี้จึงขัดแย้งกับข้อกล่าวหาเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์ 2542

          “ผมเป็นเพียงเหยื่อที่ถูกจับโยงเอามาเป็นตัวละคร เพื่อจะทำลายท่านนายกฯ ทักษิณ หรือระบอบทักษิณ" เขากล่าว

          นอกจากนี้ ยังมีอีกข้อกล่าวหาที่ว่า การเดินทางในทริปนั้นนายภูมิธรรมได้ขึ้นไปยืนบนดาดฟ้าเรือระหว่างที่กำลังแล่นอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร ราวกับกัปตันเรือไททานิก แล้วกู่ก้องร้องตะโกนว่าจะพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน นับเป็นเรื่องตลกร้ายที่ภูมิธรรมถึงกับขำไม่ออก เพราะวันที่เขาไปเยือนฟินแลนด์มีแต่ทะเลน้ำแข็ง กระทั่งเครื่องบินจะลงจอดยังแทบมองไม่เห็นรันเวย์ เขาจึงมองว่าเรื่องนี้เป็นเพียงแค่การแต่งนิยายลวงโลก

          แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่ภูมิธรรมรู้สึกรับไม่ได้และนับเป็นประเด็นร้ายแรงที่สุดก็คือ การที่มีผู้ประดิษฐ์ทฤษฎีบันได 5 ขั้น ของปฏิญญาฟินแลนด์ เพื่อโจมตีระบอบทักษิณ ได้แก่ 1.สร้างระบบการเมืองเป็นพรรคเดียว 2. ทำลายความเข้มแข็งแบบเก่าของระบบราชการให้รับใช้ระบบการเมืองโดยไม่มีเงื่อนไข 3. แปลงสินทรัพย์ของรัฐให้เป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจทุนนิยมเสรี 4.ทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นแต่เพียงสัญลักษณ์ให้มากที่สุด และ 5.สร้างระบบพรรคการเมืองแบบศูนย์รวมให้เป็นพรรคของกรรมการ แต่แฝงอยู่ในเสื้อคลุมเปลือกนอกที่หลอกลวงว่าเป็นพรรคมวลชน ซึ่งประเด็นสำคัญอย่างยิ่งคือข้อ 4 ที่สังคมไทยไม่อาจยอมรับได้

          "การกุเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาจะต้องมีข้อเท็จจริง แต่เรื่องนี้เป็นการกล่าวหาที่ผู้ถูกกล่าวหามีโทษร้ายแรงถึงตายได้ ถ้าเป็นสมัยก่อนก็คงตัดหัวเจ็ดชั่วโคตรไปแล้ว ฉะนั้นเรื่องนี้จึงไม่ยุติธรรม การใช้วิธีการแบบนี้มาทำลายคน โดยกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดีขึ้นขั้นที่จะทำลายสถาบัน เป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก ผมรับสภาพแบบนี้ไม่ได้ ถ้าอยากจะวิพากษ์วิจารณ์หรือกล่าวหาในเรื่องใดก็ตาม จะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง แล้วผมจะยอมรับในสิ่งนั้นได้" ภูมิธรรมระบาย

          ภูมิธรรมกล่าวอีกว่า เขาก็เป็นคนหนึ่งที่จงรักภักดี เหมือนกับคนอื่น ๆ ทั่วไปที่ยึดถือพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ เป็นของสูงสำหรับสังคมไทยที่จะต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวแตะต้อง และให้ความจงรักภักดีมาตลอด ฉะนั้นเขาถือว่าการกุข่าวเรื่องนี้เป็นการกระทำที่น่าอับอายและไร้จรรยาบรรณที่สุด

          "การที่เราเรียกร้องถามหาจริยธรรมของคนอื่น แต่กลับใช้กระบวนการและวิธีคิดในการเสนอข้อมูลที่เป็นเท็จขึ้นมาแล้วปรักปรำทำร้ายกัน ถือว่าไม่มีจริยธรรม อย่างน้อยที่สุดต้องมีหิริโอตตัปปะบ้าง มีความเกรงกลัว ละอายต่อบาปบ้าง"

          เขาคิดว่า ผู้ที่หยิบเอาเบื้องสูงมาเอ่ยอ้างต้องถือว่าไม่จงรักภักดี ถือเป็นการทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และคนผู้นั้นจะต้องรับผิดชอบ ไม่เพียงเท่านั้น สิ่งที่ภูมิธรรมรู้สึกเสียใจไม่น้อยกว่ากันก็คือ บุคคลที่ออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ล้วนแต่เป็นบุคคลที่เขาเคารพนับถือยิ่งนัก

          "เรื่องฟินแลนด์เป็นเรื่องที่ผมค่อนข้างเสียใจ เพราะอย่างน้อยคนที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา 2-3 คน เป็นบุคคลที่ผมเคยเคารพนับถือทั้งสิ้น อ.ชัยอนันต์ สมุทวณิช เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์สมัยที่ผมเรียนปริญญาโท อ.ปราโมทย์ นาครทรรพ เป็นบุคคลที่ผมเคยร่วมงานด้วยในยุคเผยแพร่ประชาธิปไตย ปี 2516 ส่วนคุณโสภณ สุภาพงษ์ เป็นผู้ใหญ่ที่ผมเคยเคารพนับถือสมัยที่ทำงานเอ็นจีโอ แล้วจู่ ๆ ก็เปิดเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งถือเป็นการหยิบยกที่ไร้พื้นฐานข้อเท็จจริง"

          หากกล่าวถึงเกมการต่อสู้ทางการเมือง ภูมิธรรมยอมรับได้หากจะมีการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายรัฐบาลที่ผิดหรือถูก เพราะถือเป็นความคิดเห็นที่อาจมีมุมมองแตกต่างกันได้ โดยสาธารณชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง หรือหากต้องการกล่าวหาก็ควรจะว่าถึงเรื่องคอร์รัปชัน โกงกิน หรือเรื่องการบริหารงานผิดพลาด แล้วเอาข้อมูลมาว่ากันตามเนื้อผ้า แต่วิธีการทำลายฝ่ายตรงข้ามเช่นนี้เป็นการไปรับฟังคนอื่นพูดแล้วเอามาปะติดปะต่อจนกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ

          "ถ้าจะวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่รัฐบาลนี้ได้ทำไป เช่น แนวคิดการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ปฏิรูประบบราชการ หรือนโยบายต่าง ๆ ในระดับรากหญ้า ซึ่งถ้าไม่ยอมรับในสิ่งที่ท่านนายกฯ ทำอยู่ก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า นโยบายที่ท่านนายกฯ ทำไม่เหมาะสมกับสังคม แต่กลับหยิบเอาเรื่องสถาบันขึ้นมากล่าวหา ผมว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระ ยกตัวอย่างกรณีที่หาว่า ผมเกี่ยวข้องกับมนุษยะดอตคอม (manussaya.com) ซึ่งผมเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์เลย เพื่อนฝูงก็รู้ ผมใช้โทรศัพท์มือถือเป็นแค่โทร.เข้ากับโทร.ออกแค่นั้นเอง ส่วนคอมพิวเตอร์ผมก็ให้คนอื่นเปิดให้ ผมไม่เคยทำเป็นเลย แล้วจู่ ๆ มากล่าวหาว่าผมอยู่เบื้องหลังไอ้เว็บไซต์บ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้ได้ยังไง"

          เขาเล่าว่า โดยปกติในเกมการต่อสู้ชิงไหวชิงพริบทางการเมือง เขามักจะหลีกเลี่ยงการตอบโต้ เพราะถือเป็นเรื่องไร้สาระเกินไป แต่การสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อทำลายกันนับเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวมาก ทำให้สังคมยิ่งแตกแยก เพราะอาจเป็นการซ้ำรอยเดิมเมื่อ 30 ปีก่อน คือเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519

          "การสร้างเรื่องอย่างนี้ขึ้นมาก็เหมือนกับกล่าวหาว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีอุโมงค์ลับเป็นที่สะสมอาวุธของพวกญวนหรือบอกว่ามีนักศึกษาญวนอยู่เต็มมหาวิทยาลัย จนกระทั้งทำให้นักศึกษารัฐศาสตร์จุฬาฯ ปี 2 รุ่นน้องของผมถูกจับแขวนคอและถูกตีตายที่ต้นมะขามสนามหลวง"--จบ--

 

บันทึกการเข้า
p
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,264


« ตอบ #55 เมื่อ: 20-07-2006, 10:51 »


สมานฉันท์ต้องเริ่มจากเลือกตั้ง


สมานฉันท์ระหว่างผู้ซื้อเสียงและผู้ขายเสียงใช่หรือเปล่า

 Yell
บันทึกการเข้า

ถ้ามัวคิดแต่จะโกงและเอาเปรียบคนอื่น จะสอนลูกหลานให้เป็นคนดีได้อย่างไร
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #56 เมื่อ: 20-07-2006, 10:57 »


สมานฉันท์ต้องเริ่มจากเลือกตั้ง


สมานฉันท์ระหว่างผู้ซื้อเสียงและผู้ขายเสียงใช่หรือเปล่า

 Yell


จะใช่หรือไม่...ลองถามคนกทมฯกว่า 1 ล้านคนที่ลงคะแนนให้ทรท.เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2549 ดูว่าเค้าสมานฉันท์อะไรแบบที่คุณคิดเอาเองไหม? ทางที่ดีน่าจะถามใครบางคนหรือพรรคบางพรรคดูหน่อยก็ดีน๊ะครับว่า แข่งขันกันทีไรทำไมแพ้ทุ๊กที!?!  ฮ่าๆๆๆๆ
บันทึกการเข้า
ผู้ทำลาย
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,496


lynnicky


เว็บไซต์
« ตอบ #57 เมื่อ: 20-07-2006, 10:59 »

การเลือกตั้งขนะที่ปัญหายังคาราคาซังอยู่แบบนี้ ไม่ได้ช่วยให้สมานฉันท์เลย มีแต่จะยิ่งทำให้แตกแยกกันมากขึ้น
บันทึกการเข้า

แสนยานุภาพผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน
Ja - Duy
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 36


« ตอบ #58 เมื่อ: 20-07-2006, 11:29 »

ถามไรหน่อยดิ .. นะ " อะไรจ๊ะ "

ที่คุณเห็นว่า ทักษิณทำมา เป็นการกระทำ ที่ถูกที่ควรทั้งหมดเหรอ ...

1. การไม่หลับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชน

- เห็นว่านายกฟังคนบ้างเหรอ โอเค พอฟัง แต่ต้อง ปฏิบัติตามเขา

2. การจาบจ้วง เหนือหัว

- คงไม่ต้องถามนะว่าเรื่องอะไร ถ้าไม่รู้ก็คงไม่ต้องพูดกัน

3. การประกาศรบกับผู้มีบารมี

ถ้ารู้ว่าผู้มีบารมีกำลังล้มล้างการปกครอง ก็ทำไมไม่เล่นงานเลยหล่ะ เป็นใบ้ทำไม ไม่พูดอะ

4. และ คุณไม่เชื่อข้อมูลที่ คุณพ่อสนธิ บอกกล่าวออกมาเลยเหรอ หรือว่า หน้ามืดไปแล้ว สมมุติว่า สิ่งที่คุณสนธิได้พูดมาประมาณ 300 เรื่อง เป็นเรื่องจริง 150 เรื่อง เรื่องเท็จ 150 เรื่อง คุณคิดว่า คุณคิดเห็นอย่างไร

5. การสมานฉันท์ของทักษิณ คือการให้คนมาฟัง แล้ว กระแนะกระแหน่ ฝ่ายตรงข้ามเหรอ ผมเชื่อว่า ถ้าคุณทักษิณต้องการ สมานฉันท์จริง คงได้ทำไปนานแล้ว .. กระออกมา พูดเรื่องการเมืองในวาระ ที่เป็นการทำเพื่อองค์เหนือหัว สมควรหรือไม่ แล้วอย่างนี้เรียกการสมานฉันท์หรือป่าว ... การออกมาท้าทาย ผู้มีบารมี แล้ว ไม่จัดการกับผู้มีบารมีที่จะล้มล้างการปกครอง ถือว่าเป็นการ สมานฉันท์หรือป่าว

ขี้เกียจพิมพ์แระ ผมเชื่อว่าหลายๆคน ในเว็บนี้ คงรู้ดี เกี่ยวกับตัวคุณ สนธิดี ไม่ต้องมาสาธยาย ถึงความไม่ดีของตัวคุณ สนะหรอก ทุกคนต่างรู้แระ เข้าใจมาเสมอว่า คงมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์กัน แต่คนเลวกลับตัวไม่สายเกินไปไม่ใช่เหรอ ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างที่ สนธิออกมาเปิดเผย เป็นความจริง สักครึ่งหนึ่ง ผมว่า ทักษิณมันก็ทรราชย์ ดีดี นี้เอง ... อยากให้คุณเอาด้านมืดของทักษิณมาเปิดเผยบ้างดูบ้าง ศึกษาบ้างหรือ ไม่รู้เลย เพราะเห็นว่า ทักษิณ คือพระเจ้า....

ทักษิณไม่ใช่นักประชาธิปไตย ... ไม่เคยคิดถึงเรื่องประชาธิปไตยเลย ... แค่บอกว่า เราจะพัฒนา จังหวัดที่เลือก ไทยรักไทย ก่อน ...... นี้ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยแล้ว นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ทักษิณ แบ่งฝักแบ่งฝ่าย .... หรือว่าไม่จริง ??

ผมไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ไม่ได้รู้ข้อมูลอะไรมากมาย แต่การกระทำที่เราได้เห็นๆกันอยู่ในตอนนี้ ทักษิณไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำประเทศแล้ววว ... ถ้าทักษิณวางระบบการบริหารประเทศมาอย่างดี ใครจะมาเป็นนายก ก็คงไม่ยากเกินไป อย่าคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้า ขาดกูแล้วจะขาดใจ ... ทักษิณ ไม่ใช่คนเก่งคนเดียวที่มีในประเทศไทยนะครับ ถ้าไม่ยึดติด ผมว่างลงซะเถิดครับ ........

บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #59 เมื่อ: 20-07-2006, 11:49 »

ถามไรหน่อยดิ .. นะ " อะไรจ๊ะ "

ที่คุณเห็นว่า ทักษิณทำมา เป็นการกระทำ ที่ถูกที่ควรทั้งหมดเหรอ ...

1. การไม่หลับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชน

- เห็นว่านายกฟังคนบ้างเหรอ โอเค พอฟัง แต่ต้อง ปฏิบัติตามเขา

คนไทยมีจำนวนกว่า 63 ล้านคน...ถ้าคุณเป็นนายกฯ คุณจะต้องฟังใครบ้างหล่ะ?




2. การจาบจ้วง เหนือหัว

- คงไม่ต้องถามนะว่าเรื่องอะไร ถ้าไม่รู้ก็คงไม่ต้องพูดกัน

ไม่ชัดครับว่าจาบจ้วงตรงไหน?





3. การประกาศรบกับผู้มีบารมี

ถ้ารู้ว่าผู้มีบารมีกำลังล้มล้างการปกครอง ก็ทำไมไม่เล่นงานเลยหล่ะ เป็นใบ้ทำไม ไม่พูดอะ

การเล่นงานต้องมีหลักฐานทางกฎหมาย หลายคดีที่ผู้ต้องหาหลุดก็เพราะหลักฐานมันสาวไปไม่ถึงไงครับ



4. และ คุณไม่เชื่อข้อมูลที่ คุณพ่อสนธิ บอกกล่าวออกมาเลยเหรอ หรือว่า หน้ามืดไปแล้ว สมมุติว่า สิ่งที่คุณสนธิได้พูดมาประมาณ 300 เรื่อง เป็นเรื่องจริง 150 เรื่อง เรื่องเท็จ 150 เรื่อง คุณคิดว่า คุณคิดเห็นอย่างไร
ไม่ต้องถึง 300 หรือ 150 เรื่องหรอกครับ ขอให้คุณพ่อสนธิท่านพูดจริง100% สักเรื่องเดียวก็พอ...ถ้าจริงป่านนี้เรื่องไปถึงศาลแล้วครับ คุณว่ามั้ย!?!



5. การสมานฉันท์ของทักษิณ คือการให้คนมาฟัง แล้ว กระแนะกระแหน่ ฝ่ายตรงข้ามเหรอ ผมเชื่อว่า ถ้าคุณทักษิณต้องการ สมานฉันท์จริง คงได้ทำไปนานแล้ว .. กระออกมา พูดเรื่องการเมืองในวาระ ที่เป็นการทำเพื่อองค์เหนือหัว สมควรหรือไม่ แล้วอย่างนี้เรียกการสมานฉันท์หรือป่าว ... การออกมาท้าทาย ผู้มีบารมี แล้ว ไม่จัดการกับผู้มีบารมีที่จะล้มล้างการปกครอง ถือว่าเป็นการ สมานฉันท์หรือป่าว
คุณทักษิณเป็นปุถุชนธรรมดาที่มีอารมณ์โกรธในบางครั้ง การสมานฉันท์จะเกิดได้ก็ด้วยทุกฝ่ายยอมลดเงื่อนไขลงบ้าง...ไม่ใช่ชี้ว่าทักษิณต้องเสียสละฝ่ายเดียว   ใจเขาใจเราครับเรื่องแบบนี้



ขี้เกียจพิมพ์แระ ผมเชื่อว่าหลายๆคน ในเว็บนี้ คงรู้ดี เกี่ยวกับตัวคุณ สนธิดี ไม่ต้องมาสาธยาย ถึงความไม่ดีของตัวคุณ สนะหรอก ทุกคนต่างรู้แระ เข้าใจมาเสมอว่า คงมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์กัน แต่คนเลวกลับตัวไม่สายเกินไปไม่ใช่เหรอ ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างที่ สนธิออกมาเปิดเผย เป็นความจริง สักครึ่งหนึ่ง ผมว่า ทักษิณมันก็ทรราชย์ ดีดี นี้เอง ... อยากให้คุณเอาด้านมืดของทักษิณมาเปิดเผยบ้างดูบ้าง ศึกษาบ้างหรือ ไม่รู้เลย เพราะเห็นว่า ทักษิณ คือพระเจ้า....
การที่คนเคยรักกัน แล้วอยู่ดีๆก็มาเกลียดกันเพราะจดหมายฉบับเดียวเนี่ยน๊ะ....come on!! ใช้สามัญสำนึกกันหน่อยซิครับ...คนมันเกลียดกันได้ขนาดนี้แสดงว่ามันพร้อมพูดทุกอย่างเพื่อให้อีกฝ่ายเสียหาย



ทักษิณไม่ใช่นักประชาธิปไตย ... ไม่เคยคิดถึงเรื่องประชาธิปไตยเลย ... แค่บอกว่า เราจะพัฒนา จังหวัดที่เลือก ไทยรักไทย ก่อน ...... นี้ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยแล้ว นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ทักษิณ แบ่งฝักแบ่งฝ่าย .... หรือว่าไม่จริง ??
ทักษิณคงไม่เก่งขนาดแบ่งฝ่าย คนดู(รวมทั้งคุณและผม)เป็นฝ่ายคิดที่จะเลือกเชื่อฝ่ายไหนต่างหาก แล้วการที่คนกว่า 16 ล้านคนเลือกทรท.เข้ามาบริหารประเทศ...ไม่เป็นประชาธิปไตยตรงไหนเอ่ย?!?



ผมไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ไม่ได้รู้ข้อมูลอะไรมากมาย แต่การกระทำที่เราได้เห็นๆกันอยู่ในตอนนี้ ทักษิณไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำประเทศแล้ววว ... ถ้าทักษิณวางระบบการบริหารประเทศมาอย่างดี ใครจะมาเป็นนายก ก็คงไม่ยากเกินไป อย่าคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้า ขาดกูแล้วจะขาดใจ ... ทักษิณ ไม่ใช่คนเก่งคนเดียวที่มีในประเทศไทยนะครับ ถ้าไม่ยึดติด ผมว่างลงซะเถิดครับ ........
คุณมีสิทธิ์คิดแบบนั้นได้ 1 เสียง แต่อีก30-40เสียงที่เค้ามีสิทธิ์ลงคะแนนให้ใครก็ได้ไม่จำเป็นต้องคิดแบบเดียวกับคุณ สังคมที่พัฒนาแล้วเค้าถึงใช้การเลือกตั้งตัดสินไงครับ....ว่าแต่ว่าพวกคุณเคารพในกติกาสากลดังกล่าวจริงเร๊อะ!?!


บันทึกการเข้า
Ja - Duy
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 36


« ตอบ #60 เมื่อ: 20-07-2006, 12:07 »

ถามไรหน่อยดิ .. นะ " อะไรจ๊ะ "

ที่คุณเห็นว่า ทักษิณทำมา เป็นการกระทำ ที่ถูกที่ควรทั้งหมดเหรอ ...

1. การไม่หลับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชน

- เห็นว่านายกฟังคนบ้างเหรอ โอเค พอฟัง แต่ต้อง ปฏิบัติตามเขา

คนไทยมีจำนวนกว่า 63 ล้านคน...ถ้าคุณเป็นนายกฯ คุณจะต้องฟังใครบ้างหล่ะ?

แล้วจำนวนกว่าอีก เป็น 10 ล้านคนไม่ฟังเหรอครับ




2. การจาบจ้วง เหนือหัว

- คงไม่ต้องถามนะว่าเรื่องอะไร ถ้าไม่รู้ก็คงไม่ต้องพูดกัน

ไม่ชัดครับว่าจาบจ้วงตรงไหน?

ให้ ในหลวงมากระซิบที่ข้างๆหู คำพูดนี้เป็นไงครับ .. ข้อความอาจจะไม่ครบ แต่คุณน่าจะพอเคยได้ยินมาบ้าง





3. การประกาศรบกับผู้มีบารมี

ถ้ารู้ว่าผู้มีบารมีกำลังล้มล้างการปกครอง ก็ทำไมไม่เล่นงานเลยหล่ะ เป็นใบ้ทำไม ไม่พูดอะ

การเล่นงานต้องมีหลักฐานทางกฎหมาย หลายคดีที่ผู้ต้องหาหลุดก็เพราะหลักฐานมันสาวไปไม่ถึงไงครับ

ไม่มีหลักฐานแล้วเอามาพูดอย่างงี้ได้เหรอเป็นถึง นายก ผู้นำประเทศ เป็นตำรวจมาก่อน สมควรหรือไม่



4. และ คุณไม่เชื่อข้อมูลที่ คุณพ่อสนธิ บอกกล่าวออกมาเลยเหรอ หรือว่า หน้ามืดไปแล้ว สมมุติว่า สิ่งที่คุณสนธิได้พูดมาประมาณ 300 เรื่อง เป็นเรื่องจริง 150 เรื่อง เรื่องเท็จ 150 เรื่อง คุณคิดว่า คุณคิดเห็นอย่างไร
ไม่ต้องถึง 300 หรือ 150 เรื่องหรอกครับ ขอให้คุณพ่อสนธิท่านพูดจริง100% สักเรื่องเดียวก็พอ...ถ้าจริงป่านนี้เรื่องไปถึงศาลแล้วครับ คุณว่ามั้ย!?!

ก็คงต้องดูเรื่องการยุบพรรคแระกระมัง ... งั้นที่นายกพูดว่า สนธิเสียผลประโยชน์ก็คงไม่ใช่เรื่องจริงแระกระมัง



5. การสมานฉันท์ของทักษิณ คือการให้คนมาฟัง แล้ว กระแนะกระแหน่ ฝ่ายตรงข้ามเหรอ ผมเชื่อว่า ถ้าคุณทักษิณต้องการ สมานฉันท์จริง คงได้ทำไปนานแล้ว .. กระออกมา พูดเรื่องการเมืองในวาระ ที่เป็นการทำเพื่อองค์เหนือหัว สมควรหรือไม่ แล้วอย่างนี้เรียกการสมานฉันท์หรือป่าว ... การออกมาท้าทาย ผู้มีบารมี แล้ว ไม่จัดการกับผู้มีบารมีที่จะล้มล้างการปกครอง ถือว่าเป็นการ สมานฉันท์หรือป่าว
คุณทักษิณเป็นปุถุชนธรรมดาที่มีอารมณ์โกรธในบางครั้ง การสมานฉันท์จะเกิดได้ก็ด้วยทุกฝ่ายยอมลดเงื่อนไขลงบ้าง...ไม่ใช่ชี้ว่าทักษิณต้องเสียสละฝ่ายเดียว   ใจเขาใจเราครับเรื่องแบบนี้

เหรอ เข้าใจว่าเป็น ปุถุชน แต่มันไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว และ เป็นถึงผู้นำต้องมีมากกว่า ปุถุชน ธรรมดา เป็น 10 เท่าป่าว มันหลายครั้งมากจนเหมือนเป็นนิสัย


ขี้เกียจพิมพ์แระ ผมเชื่อว่าหลายๆคน ในเว็บนี้ คงรู้ดี เกี่ยวกับตัวคุณ สนธิดี ไม่ต้องมาสาธยาย ถึงความไม่ดีของตัวคุณ สนะหรอก ทุกคนต่างรู้แระ เข้าใจมาเสมอว่า คงมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์กัน แต่คนเลวกลับตัวไม่สายเกินไปไม่ใช่เหรอ ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างที่ สนธิออกมาเปิดเผย เป็นความจริง สักครึ่งหนึ่ง ผมว่า ทักษิณมันก็ทรราชย์ ดีดี นี้เอง ... อยากให้คุณเอาด้านมืดของทักษิณมาเปิดเผยบ้างดูบ้าง ศึกษาบ้างหรือ ไม่รู้เลย เพราะเห็นว่า ทักษิณ คือพระเจ้า....
การที่คนเคยรักกัน แล้วอยู่ดีๆก็มาเกลียดกันเพราะจดหมายฉบับเดียวเนี่ยน๊ะ....come on!! ใช้สามัญสำนึกกันหน่อยซิครับ...คนมันเกลียดกันได้ขนาดนี้แสดงว่ามันพร้อมพูดทุกอย่างเพื่อให้อีกฝ่ายเสียหาย

ถูกต้อง .... ผมไม่ได้เกียจ ทักษิณมาก่อน ทะเลาะกับพ่อก็เคย เพราะเคย เห็นทักษิณดีแต่ตอนนี้ ด้วยสติปัญหาที่พอมีหลงเหลืออยุ่บ้างเชื่อว่า ทักษิณไม่ดีจริง ..



ทักษิณไม่ใช่นักประชาธิปไตย ... ไม่เคยคิดถึงเรื่องประชาธิปไตยเลย ... แค่บอกว่า เราจะพัฒนา จังหวัดที่เลือก ไทยรักไทย ก่อน ...... นี้ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยแล้ว นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ทักษิณ แบ่งฝักแบ่งฝ่าย .... หรือว่าไม่จริง ??
ทักษิณคงไม่เก่งขนาดแบ่งฝ่าย คนดู(รวมทั้งคุณและผม)เป็นฝ่ายคิดที่จะเลือกเชื่อฝ่ายไหนต่างหาก แล้วการที่คนกว่า 16 ล้านคนเลือกทรท.เข้ามาบริหารประเทศ...ไม่เป็นประชาธิปไตยตรงไหนเอ่ย?!?

แล้ว 16 ล้านเสียงที่อ้างมา ทำได้ทุกอย่างเลยเหรอ อ้างได้ครับ 16 ล้านเสียงแต่ อย่าลืมว่า มันเพียงส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย เท่านั้นไม่ใช่ทั้งหมดนะครับ ไม่ใช่ว่าได้มาแล้ว อ้างมันจนวันตาย 16 ล้านเสียงนี้



ผมไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ไม่ได้รู้ข้อมูลอะไรมากมาย แต่การกระทำที่เราได้เห็นๆกันอยู่ในตอนนี้ ทักษิณไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำประเทศแล้ววว ... ถ้าทักษิณวางระบบการบริหารประเทศมาอย่างดี ใครจะมาเป็นนายก ก็คงไม่ยากเกินไป อย่าคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้า ขาดกูแล้วจะขาดใจ ... ทักษิณ ไม่ใช่คนเก่งคนเดียวที่มีในประเทศไทยนะครับ ถ้าไม่ยึดติด ผมว่างลงซะเถิดครับ ........
คุณมีสิทธิ์คิดแบบนั้นได้ 1 เสียง แต่อีก30-40เสียงที่เค้ามีสิทธิ์ลงคะแนนให้ใครก็ได้ไม่จำเป็นต้องคิดแบบเดียวกับคุณ สังคมที่พัฒนาแล้วเค้าถึงใช้การเลือกตั้งตัดสินไงครับ....ว่าแต่ว่าพวกคุณเคารพในกติกาสากลดังกล่าวจริงเร๊อะ!?!

แน่นอนครับผมก็ไปเลือกตั้งทุกครั้ง แต่ที่เห็นอยู่ วันที่ 2 ที่ผ่านมา ผมก็ตกเป็นเครื่องมือของการเลือกตั้งที่ไม่ชอบธรรม ...   Smile


บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #61 เมื่อ: 20-07-2006, 13:39 »

ถามไรหน่อยดิ .. นะ " อะไรจ๊ะ "

ที่คุณเห็นว่า ทักษิณทำมา เป็นการกระทำ ที่ถูกที่ควรทั้งหมดเหรอ ...

1. การไม่หลับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชน

- เห็นว่านายกฟังคนบ้างเหรอ โอเค พอฟัง แต่ต้อง ปฏิบัติตามเขา

คนไทยมีจำนวนกว่า 63 ล้านคน...ถ้าคุณเป็นนายกฯ คุณจะต้องฟังใครบ้างหล่ะ?

แล้วจำนวนกว่าอีก เป็น 10 ล้านคนไม่ฟังเหรอครับ

ผู้นำทุกคนย่อมฟังเสียงปชช.ครับ แต่การฟังไม่ได้หมายความว่าต้องนำไปปฎิบัติในทุกเรื่อง ผู้นำที่ดีย่อมแยกแยะนำสิ่งที่ดีไปปฎิบัติเสมอ แล้วสิ่งที่คน 10 ล้านคนนั่นเรียกร้องน๊ะ....มีประโยชน์ต่อประเทศชาติไหม? ผิดกฎหมายไหม? หรือ ผลดีมากกว่าผลร้ายไหม?




2. การจาบจ้วง เหนือหัว

- คงไม่ต้องถามนะว่าเรื่องอะไร ถ้าไม่รู้ก็คงไม่ต้องพูดกัน

ไม่ชัดครับว่าจาบจ้วงตรงไหน?

ให้ ในหลวงมากระซิบที่ข้างๆหู คำพูดนี้เป็นไงครับ .. ข้อความอาจจะไม่ครบ แต่คุณน่าจะพอเคยได้ยินมาบ้าง

นายกฯพูดผ่านทางวิทยุครับประมาณว่า .....แค่ในหลวงท่านกระซิบท่านเดียว ผมกจะถวายบังคมทูลลาออกทันที จาบจ้วงยังไงครับ?!?





3. การประกาศรบกับผู้มีบารมี

ถ้ารู้ว่าผู้มีบารมีกำลังล้มล้างการปกครอง ก็ทำไมไม่เล่นงานเลยหล่ะ เป็นใบ้ทำไม ไม่พูดอะ

การเล่นงานต้องมีหลักฐานทางกฎหมาย หลายคดีที่ผู้ต้องหาหลุดก็เพราะหลักฐานมันสาวไปไม่ถึงไงครับ

ไม่มีหลักฐานแล้วเอามาพูดอย่างงี้ได้เหรอเป็นถึง นายก ผู้นำประเทศ เป็นตำรวจมาก่อน สมควรหรือไม่
การพูดนั้นมีหลายวัตถุประสงค์แตกต่างกันไป เข้าใจว่าคุณทักษิณแกต้องการปรามผู้มีบารมีมากกว่าการต้องการดำเนินคดีทางกฎหมาย ไม่ได้เกี่ยวว่าเป็นนายกฯแล้วพูดแบบนั้นไม่ได้ครับ



4. และ คุณไม่เชื่อข้อมูลที่ คุณพ่อสนธิ บอกกล่าวออกมาเลยเหรอ หรือว่า หน้ามืดไปแล้ว สมมุติว่า สิ่งที่คุณสนธิได้พูดมาประมาณ 300 เรื่อง เป็นเรื่องจริง 150 เรื่อง เรื่องเท็จ 150 เรื่อง คุณคิดว่า คุณคิดเห็นอย่างไร
ไม่ต้องถึง 300 หรือ 150 เรื่องหรอกครับ ขอให้คุณพ่อสนธิท่านพูดจริง100% สักเรื่องเดียวก็พอ...ถ้าจริงป่านนี้เรื่องไปถึงศาลแล้วครับ คุณว่ามั้ย!?!
ก็คงต้องดูเรื่องการยุบพรรคแระกระมัง ... งั้นที่นายกพูดว่า สนธิเสียผลประโยชน์ก็คงไม่ใช่เรื่องจริงแระกระมัง

นั่นซิครับ...ใครๆก็ไม่เห็นตัดสินทางกฎหมายสักทีว่านายกฯผิดกฎหมายยังไง มีแต่เรื่องกล่าวหาเป็นร้อยๆเรื่อง ส่วนเรื่องสนธิเสียผลประโยชน์จริงหรือไม่นั้นก็ให้ดูพฤติกรรมของแกดูเถิดครับ จากคนที่รักกันชอบกันกลายมาเป็นศัตรูเพียงแค่ได้รับข้อความจากจดหมายน้อยฉบับเดียว!?! เรื่องแบบนี้ใช้สามัญสำนึกตรองดูล่ะกันครับ



5. การสมานฉันท์ของทักษิณ คือการให้คนมาฟัง แล้ว กระแนะกระแหน่ ฝ่ายตรงข้ามเหรอ ผมเชื่อว่า ถ้าคุณทักษิณต้องการ สมานฉันท์จริง คงได้ทำไปนานแล้ว .. กระออกมา พูดเรื่องการเมืองในวาระ ที่เป็นการทำเพื่อองค์เหนือหัว สมควรหรือไม่ แล้วอย่างนี้เรียกการสมานฉันท์หรือป่าว ... การออกมาท้าทาย ผู้มีบารมี แล้ว ไม่จัดการกับผู้มีบารมีที่จะล้มล้างการปกครอง ถือว่าเป็นการ สมานฉันท์หรือป่าว
คุณทักษิณเป็นปุถุชนธรรมดาที่มีอารมณ์โกรธในบางครั้ง การสมานฉันท์จะเกิดได้ก็ด้วยทุกฝ่ายยอมลดเงื่อนไขลงบ้าง...ไม่ใช่ชี้ว่าทักษิณต้องเสียสละฝ่ายเดียว   ใจเขาใจเราครับเรื่องแบบนี้

เหรอ เข้าใจว่าเป็น ปุถุชน แต่มันไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว และ เป็นถึงผู้นำต้องมีมากกว่า ปุถุชน ธรรมดา เป็น 10 เท่าป่าว มันหลายครั้งมากจนเหมือนเป็นนิสัย
ของแบบนี้สำหรับบางคน...ไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ คนส่วนใหญ่เค้าดูฝีมือการบริหารบ้านเมืองของผู้นำมากกว่ามองเรื่องหยุมหยิมเหล่านี้มาเป็นประเด็น คุณจะมองว่าเรื่องการพูดตรงๆของนายกฯคือปัญหา....ก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอกครับ ถ้านายกฯทำงานไม่ถูกใจคนไทย คนส่วนใหญ่เค้าตัดสินในการลงคะแนนเลือกตั้งเองแหล่ะ ประเด็นก็คือ 1 คน 1 เสียงเท่ากันครับ



ขี้เกียจพิมพ์แระ ผมเชื่อว่าหลายๆคน ในเว็บนี้ คงรู้ดี เกี่ยวกับตัวคุณ สนธิดี ไม่ต้องมาสาธยาย ถึงความไม่ดีของตัวคุณ สนะหรอก ทุกคนต่างรู้แระ เข้าใจมาเสมอว่า คงมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์กัน แต่คนเลวกลับตัวไม่สายเกินไปไม่ใช่เหรอ ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างที่ สนธิออกมาเปิดเผย เป็นความจริง สักครึ่งหนึ่ง ผมว่า ทักษิณมันก็ทรราชย์ ดีดี นี้เอง ... อยากให้คุณเอาด้านมืดของทักษิณมาเปิดเผยบ้างดูบ้าง ศึกษาบ้างหรือ ไม่รู้เลย เพราะเห็นว่า ทักษิณ คือพระเจ้า....
การที่คนเคยรักกัน แล้วอยู่ดีๆก็มาเกลียดกันเพราะจดหมายฉบับเดียวเนี่ยน๊ะ....come on!! ใช้สามัญสำนึกกันหน่อยซิครับ...คนมันเกลียดกันได้ขนาดนี้แสดงว่ามันพร้อมพูดทุกอย่างเพื่อให้อีกฝ่ายเสียหาย

ถูกต้อง .... ผมไม่ได้เกียจ ทักษิณมาก่อน ทะเลาะกับพ่อก็เคย เพราะเคย เห็นทักษิณดีแต่ตอนนี้ ด้วยสติปัญหาที่พอมีหลงเหลืออยุ่บ้างเชื่อว่า ทักษิณไม่ดีจริง ..
ไม่ดีจริงตามที่คนเค้าพูด กับไม่ดีจริงเพราะมีหลักฐานทางกฎหมายตัดสินคุณทักษิณชัดเจน....2 อย่างนี้ต่างกันสิ้นเชิงครับ



ทักษิณไม่ใช่นักประชาธิปไตย ... ไม่เคยคิดถึงเรื่องประชาธิปไตยเลย ... แค่บอกว่า เราจะพัฒนา จังหวัดที่เลือก ไทยรักไทย ก่อน ...... นี้ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยแล้ว นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ทักษิณ แบ่งฝักแบ่งฝ่าย .... หรือว่าไม่จริง ??
ทักษิณคงไม่เก่งขนาดแบ่งฝ่าย คนดู(รวมทั้งคุณและผม)เป็นฝ่ายคิดที่จะเลือกเชื่อฝ่ายไหนต่างหาก แล้วการที่คนกว่า 16 ล้านคนเลือกทรท.เข้ามาบริหารประเทศ...ไม่เป็นประชาธิปไตยตรงไหนเอ่ย?!?

แล้ว 16 ล้านเสียงที่อ้างมา ทำได้ทุกอย่างเลยเหรอ อ้างได้ครับ 16 ล้านเสียงแต่ อย่าลืมว่า มันเพียงส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย เท่านั้นไม่ใช่ทั้งหมดนะครับ ไม่ใช่ว่าได้มาแล้ว อ้างมันจนวันตาย 16 ล้านเสียงนี้

ก็กติกาเค้าเขียนไว้แบบนั้นก่อนทักษิณเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค ทรท. ถ้าไม่เอาหลักฐานและกติกาดังกล่าวมาอ้าง...แล้วจะให้อ้างอะไรที่มีหลักฐานยืนยันได้หล่ะครับ? ผมถึงว่าถ้าทุกคนเคารพในกติกา...ก็จบ  แต่ที่ไม่จบก็เพราะผู้แพ้ในกติกาไม่ยอมรับไงครับ



ผมไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ไม่ได้รู้ข้อมูลอะไรมากมาย แต่การกระทำที่เราได้เห็นๆกันอยู่ในตอนนี้ ทักษิณไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำประเทศแล้ววว ... ถ้าทักษิณวางระบบการบริหารประเทศมาอย่างดี ใครจะมาเป็นนายก ก็คงไม่ยากเกินไป อย่าคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้า ขาดกูแล้วจะขาดใจ ... ทักษิณ ไม่ใช่คนเก่งคนเดียวที่มีในประเทศไทยนะครับ ถ้าไม่ยึดติด ผมว่างลงซะเถิดครับ ........
คุณมีสิทธิ์คิดแบบนั้นได้ 1 เสียง แต่อีก30-40เสียงที่เค้ามีสิทธิ์ลงคะแนนให้ใครก็ได้ไม่จำเป็นต้องคิดแบบเดียวกับคุณ สังคมที่พัฒนาแล้วเค้าถึงใช้การเลือกตั้งตัดสินไงครับ....ว่าแต่ว่าพวกคุณเคารพในกติกาสากลดังกล่าวจริงเร๊อะ!?!

แน่นอนครับผมก็ไปเลือกตั้งทุกครั้ง แต่ที่เห็นอยู่ วันที่ 2 ที่ผ่านมา ผมก็ตกเป็นเครื่องมือของการเลือกตั้งที่ไม่ชอบธรรม ...   Smile

ไม่ชอบธรรมเพราะศาลบอกว่า กกต. ผิดที่จัดคูหาหันหลังให้กรรมการฯ แต่ศาลไม่เคยมีคำวินิยสักนิดเลยว่าพรรคทรท.ผิด เพราะฉะนั้นต้องแยกแยะให้ออกครับว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมา...พรรค ทรท. ไม่ได้โกงการเลือกตั้ง


สังเกตุหลายครั้งครับว่า กลุ่มคนที่เป็นปฎิปักษ์กับรัฐบาลทักษิณมักอ้างความชอบธรรม จริยธรรม หรือประเด็นอื่นๆที่เป็นนามธรรม แทนที่จะมาต่อสู้หรือถกเถียงกันเรื่องกฎ กติกา กฎหมาย หรือเรื่องอื่นๆที่เป็นรูปธรรม ก็เพราะนามธรรมนั้นมันพลิ้วได้เรื่อยๆครับ


ฝากท่านอื่นมาช่วยกันถกเถียงอย่างสร้างสรรค์ด้วยครับ



บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #62 เมื่อ: 20-07-2006, 13:50 »

อืมมมม....ผมขอชื่นชมคุณ Ja-Duy น๊ะครับที่คุณแสดงความคิดเห็นอีกด้านได้อย่างสร้างสรรค์กว่าคนส่วนมากในบอร์ดนี้ที่เก่งแต่ด่าลอยๆ ท้าลอยๆ ที่พอผมเอาข้อมูลมายืนยันก็หาว่าเก่งแต่ไปลอกเค้ามา แต่พอแสดงความเห็นส่วนตัวก็บอกว่าไม่มีข้อมูลมายัน


ไม่ได้ด่าน๊ะท่านอื่นน๊ะครับ....แค่เอาเรื่องจริงมาคุยกันจะจะเท่านั้นเองครับ
บันทึกการเข้า
เหลี่ยมแซ่ลี้ (ภัย)
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 344


ไม่มีเพื่อน อย่าไปไหนไกล - ไม่มีน้ำใจ อย่าไปไหนเลย


« ตอบ #63 เมื่อ: 20-07-2006, 16:17 »

กระทู้ ขวด อะไรเนี่ย.....ตั้งเอง ตอบเองกว่า 80%

วันหลังก็เขียนใส่กระดานดำที่บ้านแล้วก็ตอบเองก็ได้นี่ ไม่ต้องมาเขียนที่นี่หรอก

......กร๊ากกกกกกกกกกกก กร๊ากกกกกกกกกกกกก Laughing Laughing Laughing Embarassed
บันทึกการเข้า

อนิจจา อันสุราหมาไม่แดรก คนก็แปลกเสือกแดรกได้ไม่อายหมา กรูก็แปลกเสือกแดรกด้วยซวยละวา  หมาก็หมากรูจะแดรกจะทำไม ...........
stromman
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 526



« ตอบ #64 เมื่อ: 21-07-2006, 12:26 »

ปั่นใหญ่เลย  พอมีข่าวเค้าจะลดค่าการตลาดเลยต้องขยันทำยอดอะนะ
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #65 เมื่อ: 21-07-2006, 12:34 »

ขออนุญาตปิดกระทู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสาระและความรู้นี้ก่อนครับ

3 2 1.............. Cool
บันทึกการเข้า
มด 5.11
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 277



« ตอบ #66 เมื่อ: 21-07-2006, 16:24 »

คนในขบวนการนี้ จะเชื่ออะไร ต้องมีที่มาด้วยเหรอ Laughing Laughing Laughing
แค่ตั้งเวทีด่ากลางถนน หรือเอาข้อความไปทำ Ring Tone กรอกหู ขี้คร้านจะ ...555
บันทึกการเข้า

อ้างจาก: คนไม่รักชาติ โกหกได้ กับคนไม่รักชาติด้วยกัน
คนไม่รักชาติ มันทำลายชาติ แต่มันแถ ว่ามันทำลายระบอบทักษิณ
คนไม่รักชาติ ทักษิณประจานพวกมัน มันแถ ว่าทักษิณประจานชาติ
คนไม่รักชาติ โกหกได้ เฉพาะกับคนไม่รักชาติด้วยกันเท่านั้น

Dejavu
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 37



« ตอบ #67 เมื่อ: 21-07-2006, 16:35 »

อื่ม.......


* l16067-660.gif (19.77 KB, 145x156 - ดู 153 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ยืนยันหน่อยได้มั้ย ช่วยบอกให้ชัดๆ ว่าเธอไม่มีใครอยู่ข้างๆเธอ
หน้า: 1 [2]
    กระโดดไป: