ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
08-09-2024, 09:50
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สโมสรริมน้ำ  |  คำว่า " แร้งถามหา " ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 2 [3]
คำว่า " แร้งถามหา " ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ  (อ่าน 43914 ครั้ง)
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #100 เมื่อ: 17-10-2007, 02:02 »


     อ่านตามมาสองคืน ถึงจะจบอ่ะครับ  ขอขอบคุณคุณ  ดอกฟ้ากับหมาวัด
     เป็นอย่างยิ่ง  ที่นำเอาภาษาไทยวันละคำและ สำนวนไทย มาให้อ่านครับ




ด้วยความยินดีอย่างยิ่งค่ะ....ที่มีคนสนใจ




     ไม่ทราบว่าคุณ  ดอกฟ้ากับหมาวัด เป็นอาจารย์สอนอยู่มหาลัยไหนครับ?   



เป็นแค่คนธรรมดาที่ชื่นชมภาษาไทยเท่านั้นค่ะ


บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #101 เมื่อ: 10-11-2007, 00:17 »

ฆ้องปากแตก

ฆ้องปากแตกเป็นสำนวนหมายถึงพูดมาก

เที่ยวพูดอะไรต่ออะไรต่างๆ สำนวนนี้มีมูลมาจากสมัยโบราณ

เมื่อทางบ้านเมืองต้องการให้ราษฎรรู้พระราชกำหนดกฎหมายหรือคำสั่งอันใด

ก็ให้เจ้าพนักงานถือฆ้องไปตีประกาศให้รู้เรียกกันว่า "ตีฆ้องร้องป่าว"

ธรรมเนียมนี้ได้เป็นมูลที่มาของสำนวน โคลงสุภาษิตมีว่า



คนไรไร้ลาภสิ้น   เสื่อมยศ
ญาติมิตรไม่มีหมด   พวกพ้อง
อุตส่าห์เที่ยวกล่าวพจน์   พยุงช่วย ตนแฮ
เปรียบดังคนเคาะฆ้อง   ปากร้าว ฤาดัง



นี้เป็นคำเปรียบเทียบไปอย่างหนึ่ง ส่วนที่เข้าใจกันทั่วๆไป

นั้นหมายความว่า ปากฆ้องนั้นร้าวแตกเพราะถูกเคาะ โดยที่นำมาใช้มาก หรือจะเปรียบว่า "ฆ้อง"

นั้นคือ "คน" และ "ปากแตก" หมายถึง ปากที่พูดอะไรๆ กระจายไปมากก็ได้



จาก...หนังสือ สำนวนไทย
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #102 เมื่อ: 21-11-2007, 18:33 »



กระทู้นี้ดีนะครับ มีคำอธิบายด้วย..

คำว่ากิ๊กเป็นสำนวนไทยเปล่าครับ?

หรืออย่างจิ๊กโก๋ นี่ เปรียบกับเกรียน?

แสดงว่าคนหนุ่มคนสาว ออกมาทำงานอกบ้านกันมากขึ้น

เฒ่าเพราะอยู่นาน เด็กหนวด เยอะแยะเหมือนกัน

อย่างเสือไม่กินเนื้อเสือก็ใช้ได้ไม่ตลอดแระ
 
บันทึกการเข้า

ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #103 เมื่อ: 23-11-2007, 23:07 »


กระทู้นี้ดีนะครับ มีคำอธิบายด้วย..

คำว่ากิ๊กเป็นสำนวนไทยเปล่าครับ?



คำถามที่ถามมาตอบยากจังค่ะ

แต่ก็ไปพยายามไปหามาปรากฎว่าสมมุติฐานที่คิดไว้เป็นจริง




....................................

" ผลวิจัย เรื่อง "กิ๊ก" "

กิ๊ก!

มีคำใหม่ของ วัยรุ่นขาโจ๋ เกิดขึ้นมาอีกแล้ว คำๆนั้น คือ “ กิ๊ก ” ว่ากันว่า “กิ๊ก” มีมานานแล้ว

แต่มาดังเอาตอนนี้ เพราะกลุ่มนิสิต คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ได้ทำวิจัยเรื่อง “กิ๊ก…มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน” และเผยแพร่ผลวิจัยออกมา

เขาบอกว่า “กิ๊ก” น่าจะย่อมาจากคำว่า “กุ๊กกิ๊ก” ซึ่งแแปลว่า กะหนุงกะหนิงจู๋จี๋กัน

ถ้าพูดว่า “กุ๊กกิ๊ก” มันอาจจะยาวไป เลยย่อสั้นๆเหลือเพียง “กิ๊ก”

เขาบอกว่า “กิ๊ก” คือ ความรักในหมู่วัยรุ่นที่เป็นมากกว่าเพื่อน

มีความรู้สึกพิเศษ ผูกพันกันคิดถึงกัน แต่ไม่ใช่แฟนกัน

เขาบอกว่า “กิ๊ก” เป็น “สับเซ็ต” ของ “ชู้” และเป็น “ยูเนียน” กับ “การมีเพศสัมพันธ์”

“สับเซ็ต” และ “ยูเนียน” เป็นศัพท์แสงทางสถิติ “สับเซ็ต” หมายถึงส่วนย่อย ส่วน “ยูเนียน”

หมายถึงคาบเกี่ยว “ยูเนียน” ของ “กิ๊ก” กับ “การมีเพศสัมพันธ์”

หมายถึงว่าอาจมีหรืออาจไม่มีเพศสัมพันธ์ก็ได้ ขอให้ขึ้นอยู่กับใจปรารถนา เป็นสำคัญ

เขาบอกว่า โดยภาพรวมแล้ว “กิ๊ก” คือ คนที่เราสนใจมากกว่าเพื่อน รู้สึกพิเศษเกินเพื่อน

แต่ไม่ได้คิดกับเขาแบบแฟนไม่รู้สึกพิศวาส ไม่อยากอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ไม่อยากอยู่บ้านเดียวกัน

ไม่อยากนอนเตียงเดียวกัน แต่ถ้าเห็นหน้ากันทุกวันคุยกันนานๆก็คงดี

เขาบอกว่า เป็นไปได้ที่ “กิ๊ก” คือคนที่กำลังจะมาเป็นแฟน

จีบกันอยู่ในขั้นศึกษาดูใจลองคบกันแต่ไม่ผูกมัดกันให้อิสระและเปิดโอกาสให้ทั้งคู่ไปศึกษาผู้อื่นได้เพื่อค้นหาคนที่ใช่และชอบจริงๆ

วลีเด็ดๆ ของ “กิ๊ก” คือ “กิ๊กไม่ใช่ชู้แต่ถ้าแฟนรู้ต้องเลิก” และ “รักเหมือนแฟน แสดงเหมือนเพื่อน”

เขาบอกว่า คำที่สามารถใช้แทน “กิ๊ก” ได้คือ คู่ขา โปรคู่รัก ชู้ คู่ควง เด็ก แควน(ควาย+แฟน) และคนพิเศษ

วิจัยดังกล่าวให้กฏ 10 ข้อ ของการเป็นกิ๊กไว้ว่า

หนึ่ง ห้ามหึงหวง

สอง มีอะไรกันได้ แต่ไม่ใช่ของกันและกัน

สาม ไม่มีสิทธิเรียกร้องมากเกินเหตุ

สี่ ห้ามใช้กิ๊กร่วมกันกับเพื่อน

ห้า กิ๊กอาจเปลี่ยนสถานะได้ และห้ามเศร้า

หก ถ้ากิ๊กคิดจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตน โดยไม่ใช่เราห้ามฟูมฟาย ต้องยอมรับด้วยความยินดี

และค่อยตกลงกันทีหลังว่า จะกิ๊กกันต่อไปหรือไม่

เจ็ด ไม่จำเป็นต้องเทคแคร์กันเกินเหตุ เพราะเป็นแค่กิ๊ก

แปด กิ๊กไม่ได้จำกัดจำนวน เป็นอินฟินิตี้ ไม่จำกัดเพศ วัย และ สถานภาพ ถ้าไม่กลัวตาย เพราะเอดส์

เก้า กิ๊กสำคัญรองจากแฟน

สิบ กิ๊กยังไงก็เป็นกิ๊ก ต้องเจียมตัว

ข้อสังเกตเกี่ยวกับ “กิ๊ก” มีว่า แม้ “กิ๊ก” ไม่ได้เน้นเรื่องเพศสัมพันธ์

แต่ความใกล้ชิดทำให้มีโอกาสพลาดพลั้งเปลืองเนื้อเปลืองตัวได้หลายๆครั้ง

นำไปสู่เพศสัมพันธ์สลับคู่ แลกเปลี่ยนคู่นอน ท้องขึ้นมาก็ทำแท้ง

ตามคอนเซปต์ที่ว่า “ทุ่มเท ทิ่มแทง ทำแท้ง ทอดทิ้ง” และนี่คือ วัยรุ่นบ้านเราในยุคนี้

ยุคที่ หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นได้เสมอ ทั้งๆที่ไม่มีใครเคยคาดคิดว่าจะเกิด

ยุคที่ความเละเทะ และ ความฟอนเฟะ วิ่งเข้ามาแทน ความดีงาม อยากทำอะไรทำ

โดยไม่คำนึงถึง วัฒนธรรมเก่าแก่ซึ่งควรอนุรักษ์เอาไว้แต่อย่างใด

ยุคที่ วัยรุ่นที่จะปล่อยตัวปล่อยใจไปตาม ครรลองของอารมณ์ อยาก คบใคร ก็คบไป อยาก มีเพศสัมพันธ์เมื่อใด ก็มีไป

อยาก จะนอกใจใครเมื่อไหร่ก็ทำไป อยาก จะเลิกเมื่อใดก็เลิกได้ “สังคมไทย” กับ “ความซื่อสัตย์ภักดี”

ดูจะห่างเหินกันมากขึ้นทุกทีทุกที

ยุคที่ ความเจริญทางวัตถุมีมากขึ้น แต่ความเจริญทางด้านจิตใจมีมากแค่ไหน หลายคนหลายฝ่ายยังสงสัยอยู่นัก

“กิ๊ก” เป็นเพียงหนึ่งในร้อยของคำใหม่ๆที่บังเกิดขึ้นมาในยุคนี้

สมควรอย่างยิ่งที่คณะ ครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยน่าจะทำวิจัยต่อไปอีกถึง
 
คำที่ฟังแล้วน่าเป็นห่วงเป็นใยบ้านเมืองคล้ายๆกับคำว่า “กิ๊ก” นี้

ฟังบ่อยๆ แล้วจะได้เตือนสติผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราว่า ต่อจากนี้ไปต้องให้ความรัก ความอบอุ่นแก่ลูกหลานของเรามากกว่าที่เป็นอยู่

มิฉะนั้นวัยรุ่นประเภท “กิ๊ก” และ “ชู้” จะเกิดขึ้น ให้เห็นแบบดาษดื่นคล้ายกับว่าเป็น เรื่องธรรมดาๆ ของประเทศไปโดยไม่รู้ตัว

จาก คอลัมน์ เห็นมาอย่างไร เขียนไปอย่างนั้น โดย อนุภพ


หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ 14 ม.ค. 2547


ไว้ว่างๆจะมาต่อเรื่องเกรียน และอื่นๆค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-11-2007, 23:09 โดย ดอกฟ้ากับหมามุ่ย » บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #104 เมื่อ: 26-11-2007, 19:15 »

เกรียน


จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


เกรียน เป็นศัพท์สแลงแทนบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ก่อกวน ไร้เหตุผล

หรือคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของสังคมอินเทอร์เน็ต

บุคคลกลุ่มนี้จะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลหรือการวิเคราะห์ไตร่ตรอง อาจหมายถึงคนที่ชอบแสดงตัวว่ามีความรู้



บุคลิกภาพของเกรียน


บุคคลที่อยู่ในสภาวะเกรียน อาจมีบุคลิกภาพต่อไปนี้มากกว่า 1 ข้อ


มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ถึงขั้นที่เชื่อว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกเสมอ หรือสร้างความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง
 
มี EQ ต่ำ เนื่องจากจะแสดงออกตามอารมณ์เป็นที่ตั้ง โดยไม่คำนึงถึงเหตุผล

มีความอดทนต่อสิ่งเร้าภายนอกน้อยกว่าบุคคลปกติ
 
ใช้การแสดงออกทางวาจา (หรือข้อความที่พิมพ์) มากกว่าทางความคิด และใช้คำหยาบคายบ่อยครั้ง
 
ไม่รู้จักมารยาทในสังคม สร้างความรำคาญและไม่คิดถึงความทุกข์ร้อนของคนรอบข้าง
 
ชอบเรียกร้องความสนใจ สร้างประเด็นปัญหา ทำให้เกิดข้อขัดแย้งและการทะเลาะวิวาท
 
มักจะรวมกลุ่มระหว่างเกรียนกันเอง เนื่องจากผู้อื่นไม่คบหาสมาคม
 
ชอบคิดว่าผู้อื่นด้อยกว่าตน มักจะพยายามหาทางดูถูกผู้อื่นทุกด้าน และจะคิดว่าตนนั้นมีทุกอย่างสมบูรณ์เสมอ




 





เอามาฝากค่ะ
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #105 เมื่อ: 26-11-2007, 19:41 »

ประวัติ ของคำว่า เกรียน


ในช่วงแร็กนาร็อกออนไลน์เป็นที่นิยมในระยะแรกๆ

เยาวชนที่เล่นเกมนี้ยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะจัดสรรเวลาและค่าใช้จ่ายของตน

เพื่อที่จะเล่นในร้านอินเทอร์เน็ตหรือที่บ้าน กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)

จึงเข้ามาดูแลส่วนนี้โดยตรง โดยออกข้อบังคับบางประการ เช่น ห้ามเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี

เล่นเกมออนไลน์ทุกประเภทหลัง 22 นาฬิกา หรือห้ามเล่นเกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน[1]

ซึ่งข้อบังคับนี้ส่งผลกระทบต่อเยาวชนที่ติดเกมดังกล่าว

เยาวชนบางส่วนจึงเข้าไปพูดคุยกันในเว็บบอร์ดของประมูลดอตคอม

ในลักษณะของการระบายอารมณ์และกล่าวโจมตีกระทรวงไอซีที

ซึ่งจุดมุ่งหมายของเว็บไซต์ดังกล่าวคือการซื้อขายสินค้าเท่านั้น

แต่ภายหลังเว็บบอร์ดนั้นกลายเป็นที่รวมการแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวของเยาวชนที่ขาดการควบคุมดูแล

และได้มีการกล่าววลีหนึ่งขึ้นว่า "เกรียน" เพื่อเป็นการดูแคลนเยาวชนเหล่านั้น

และคำนี้ได้ถูกนำไปใช้กันอย่างกว้างขวางในเว็บบอร์ดหรือเกมออนไลน์ต่างๆ

คำว่า เกรียน อาจมีที่มาจากทัศนคติของเด็กชายที่ตัดผมสั้นหัวเกรียน

(ตามความหมายเดิมของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานว่า สั้นเกือบติดหนังหัว ผิวหนัง หรือพื้นที่)

ซึ่งมักจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวในร้านอินเทอร์เน็ตที่ให้บริการเกมออนไลน์อยู่บ่อยๆ

เนื่องจากความไม่พอใจในสถานการณ์บางอย่าง เช่นขณะเล่นเกม หรือความต้องการที่จะก่อกวนผู้อื่น

และเมื่อถูกใช้บ่อยครั้งเข้า คำนี้จึงใช้แทนกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเหล่านั้นไปเสีย โดยไม่คำนึงถึงอายุหรือวุฒิภาวะ

อย่างไรก็ตาม กลุ่มบุคคลเหล่านั้นมักไม่พอใจที่ถูกเรียกว่าเกรียน ซึ่งดูเหมือนเป็นการแบ่งแยกทางสังคม

บางครั้งก็กลับเรียกบุคคลอื่นว่าเป็นเกรียนก็มี และเนื่องด้วยนิสัยส่วนตัวที่คิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลาง

 เกรียนจึงใช้ศัพท์สแลงแทนตัวอีกคำหนึ่งคือ เทพ เช่น เกรียนเทพ เป็นต้น

ซึ่งใช้เปรียบว่าตนเองมีอำนาจหรือมีความยิ่งใหญ่เหนือกว่าผู้อื่น และมองผู้อื่นว่าด้อยกว่าตน

เนื่องจากจุดเริ่มต้นที่เว็บไซต์หรือระบบในเกมออนไลน์บางแห่งไม่รองรับอักษรไทย จึงเขียนเป็น Inw (ไอ เอ็น ดับเบิลยู)

ในลักษณะลีทซึ่งคล้ายคำว่า เทพ คำนี้สามารถพบเห็นได้บ่อยพอๆ กับคำว่าเกรียนและถูกใช้ควบคู่กันเรื่อยมา


เกรียนอาจจัดได้ว่าเป็น "นูบ" (noob) ประเภทหนึ่ง ซึ่งอาจใช้ในความหมายเชิงดูหมิ่น

แผลงมาจากคำว่า "นิวบี" หรือ "นูบี" (newbie: อเมริกันอ่านว่า นูบี อังกฤษอ่านว่า นิวบี) คือ ผู้มาใหม่ คนไม่ประสีประสา

[2] หมายถึงบุคคลในอินเทอร์เน็ตที่เป็นสมาชิกใหม่ในเว็บบอร์ดหรือเกมออนไลน์หนึ่งๆ

ที่ยังไม่รู้จักธรรมเนียมและมารยาทในสังคมนั้น และทำสิ่งที่ผิดพลาดในเรื่องที่ไม่สมควรจะผิดพลาด เป็นต้น



อ้างอิงจากที่เดิม.....
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,131


กูรู้มึงต้องอ่าน ฮ่าๆ ขำขำนะจ๊ะ


เว็บไซต์
« ตอบ #106 เมื่อ: 26-11-2007, 20:18 »

พี่ดอกฟ้าครับ  ประมาณ นี้รึปล่าวครับ 
บันทึกการเข้า

ขอมอบ เพลงนี้ให้กับพี่น้อง พันธมิตรทุกคนฮะ


http://www.imeem.com/sakujo/music/04_GaHIQ/09_avenged_sevenfold_strength_of_the_worldmp3/

strength of the world
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #107 เมื่อ: 26-11-2007, 20:23 »

พี่ดอกฟ้าครับ  ประมาณ นี้รึปล่าวครับ 


ประมาณนี้...คือประมาณไหนคะ

คือว่าพี่เป็นพวกหัวเจดีย์ คนโบๆ (โบราณอ่ะ) ไม่ค่อยเข้าใจวัยรุ่นเท่าไหร่

ได้โปรดขยายความด่วนน....อิ อิ
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,131


กูรู้มึงต้องอ่าน ฮ่าๆ ขำขำนะจ๊ะ


เว็บไซต์
« ตอบ #108 เมื่อ: 26-11-2007, 20:32 »


ประมาณนี้...คือประมาณไหนคะ

คือว่าพี่เป็นพวกหัวเจดีย์ คนโบๆ (โบราณอ่ะ) ไม่ค่อยเข้าใจวัยรุ่นเท่าไหร่

ได้โปรดขยายความด่วนน....อิ อิ


ขอโทสทีครับมะกี้ลืมใส่ URL  http://www.nocoup.org/newwebboard/main.php?board=259916&topboard=1

 
บันทึกการเข้า

ขอมอบ เพลงนี้ให้กับพี่น้อง พันธมิตรทุกคนฮะ


http://www.imeem.com/sakujo/music/04_GaHIQ/09_avenged_sevenfold_strength_of_the_worldmp3/

strength of the world
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #109 เมื่อ: 26-11-2007, 20:47 »

น่าจะเข้าข่าย....ประมาณนั้นมังคะ
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #110 เมื่อ: 28-01-2008, 23:16 »

เหยียบเรือสองแคม


เป็นสำนวนหมายความว่า เข้าเป็นพวกทั้งสองฝ่ายแบบมีเล่ห์เหลี่ยม

คือ ฝ่ายไหนก็ตาม ถ้าเพลี่ยงพล้ำลง ก็ผละทิ้งฝ่ายนั้นไปยึดอีกฝ่ายหนึ่ง

เปรียบเหมือนยืนเหยียบแคมเรือสองลำ ลำใดเอียงจะคว่ำ ก็โดดมาอีกลำหนึ่ง


สำนวนนี้ หมายถึงคนที่ไม่ซื่อตรงไม่มีใจมั่นคงร่วมทุกข์ร่วมสุขกับใครจริง

มุ่งจะเอาตัวรอดหรือมุ่งประโยชน์ตนฝ่ายเดียว





"เหยียบเรือสองกราบเค้า   คนคด
จุนโจทย์จำเลยอด          ต่ำแต้ม
บอกกลอุบายปด            ปองแต่  ทรัพย์เฮย
สองฝ่ายหลงแยบแย้ม      อย่างนี้บาปเหลือ"



                                                       โคลงสุภาษิตเก่า




อ้างอิงจากที่เดิม......หนังสือ สำนวนไทย
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
อธิฏฐาน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,912


รักษาประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคน


« ตอบ #111 เมื่อ: 29-01-2008, 21:00 »


บุคคลประเภทนี้มีเยอะค่ะคุณดอกฟ้า เขาอยู่เรือลำไหนก็ได้ที่มันไม่คว่ำ
บันทึกการเข้า

หยุด...สัมปทานอุทยานแห่งชาติ
http://www.oknation.net/blog/sandstone
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #112 เมื่อ: 03-03-2008, 00:04 »

แร้งถามหา


เป็นสำนวน หมายความว่า แก่ชราจวนตาย

มูลของสำนวนมาจากแร้งชอบกินศพคนตาย สมัยโบราณศพคนตายนำออกจากพระนคร

ทางประตูเมืองด้านตะวันออก ที่เรียกกันว่า ประตูผี (สำราญราษฎร์ปัจจุบัน)

ไปไว้ที่วัดสระเกศ ศพนั้นนอกจากเผาหรือฝัง หรือเก็บ ก็มีวิธีเชือดเนื้อให้แร้งกิน


สมัยก่อน ที่วัดสระเกศ มีต้นตาลมากเป็นที่อาศัยของฝูงแร้ง จนขึ้นชื่อ ว่าแร้ง แล้วจะต้องมี วัดสระเกศ ติดอยู่ด้วย


สมัยก่อน มีคำพูดคล้องจองกันว่า "ยักษ์วัดแจ้ง แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์"



ยักษ์วัดแจ้งหมายถึง ผู้มีรูปร่างใหญ่โต

แร้งวัดสระเกศหมายถึง วัดสระเกศที่มีแร้งมาก

เปรตวัดสุทัศน์หมายถึง ตังสูงกว่าเสาชิงช้า เอามือจับยอดเสาชิงช้าเล่นได้


แร้งวัดสระเกศมีชื่อ เพราะวัดสระเกศมีต้นตาลให้แร้งกาอาศัยอยู่ คอยกินศพคนตาย

เมื่อแร้งคอยกินศพ จึงเกิดสำนวนคำว่า "แร้งถามหา"



ใช้เป็นความหมายว่า แก่จวนตายอยู่แล้ว คือแร้งกำลังคอยกินศพอยู่






อะไรนี่แก่เฒ่าจะเข้าโลง     โมโหปากโป้งโผงอึง

จงคิดอนิจจังฟังรูปห้าม     นั่นแน่แร้งมันถามข่าวถึง



                                                      คาวี พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๒




นางไหมว่าไฮ้ครัวตาขวาด     ข่าบ่ปรารถนาเว้าเอาผัวเถร

ตาจนเป็นน้ำข้าวมาเร้าเกน     เดนแร้งถามข่าวทุกคราววัน




                                                                        เสภาขุนช้างขุนแผน



อ้างอิง จากที่เดิม.......
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #113 เมื่อ: 03-03-2008, 02:09 »

แร้งถามหา


เป็นสำนวน หมายความว่า แก่ชราจวนตาย

มูลของสำนวนมาจากแร้งชอบกินศพคนตาย สมัยโบราณศพคนตายนำออกจากพระนคร

ทางประตูเมืองด้านตะวันออก ที่เรียกกันว่า ประตูผี (สำราญราษฎร์ปัจจุบัน)

ไปไว้ที่วัดสระเกศ ศพนั้นนอกจากเผาหรือฝัง หรือเก็บ ก็มีวิธีเชือดเนื้อให้แร้งกิน


สมัยก่อน ที่วัดสระเกศ มีต้นตาลมากเป็นที่อาศัยของฝูงแร้ง จนขึ้นชื่อ ว่าแร้ง แล้วจะต้องมี วัดสระเกศ ติดอยู่ด้วย


สมัยก่อน มีคำพูดคล้องจองกันว่า "ยักษ์วัดแจ้ง แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์"



ยักษ์วัดแจ้งหมายถึง ผู้มีรูปร่างใหญ่โต

แร้งวัดสระเกศหมายถึง วัดสระเกศที่มีแร้งมาก

เปรตวัดสุทัศน์หมายถึง ตังสูงกว่าเสาชิงช้า เอามือจับยอดเสาชิงช้าเล่นได้


แร้งวัดสระเกศมีชื่อ เพราะวัดสระเกศมีต้นตาลให้แร้งกาอาศัยอยู่ คอยกินศพคนตาย

เมื่อแร้งคอยกินศพ จึงเกิดสำนวนคำว่า "แร้งถามหา"



ใช้เป็นความหมายว่า แก่จวนตายอยู่แล้ว คือแร้งกำลังคอยกินศพอยู่






อะไรนี่แก่เฒ่าจะเข้าโลง     โมโหปากโป้งโผงอึง

จงคิดอนิจจังฟังรูปห้าม     นั่นแน่แร้งมันถามข่าวถึง



                                                      คาวี พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๒




นางไหมว่าไฮ้ครัวตาขวาด     ข่าบ่ปรารถนาเว้าเอาผัวเถร

ตาจนเป็นน้ำข้าวมาเร้าเกน     เดนแร้งถามข่าวทุกคราววัน




                                                                        เสภาขุนช้างขุนแผน



อ้างอิง จากที่เดิม.......


ไม่ได้เข้ามาเสริม ( อย่างแน่นอน )
แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาขัด ( คอ, ดอก, มัน  และที่สำคัญคือ "ขัดเคือง" )

"เปรตวัดสุทัศน์" 
น่าจะมาจากสมัยก่อนโน้น  พื้นที่บริเวณวัดสุทัศน์เป็นที่พักอาศัยของบรรดาขอทาน  ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นพวกแขก ( คงไหล ๆ มาจากแถวอุณากรรณ - วังบูรพา - พาหุรัด ) และใช้โบสถ์พราหมณ์เป็นแหล่งทำหามากิน ( รอรับทานจากผู้คนที่เข้าไปสักการะเทพเทวดา )
...แล้วขอทานพวกนี้ก็มักจะไม่ได้นุ่งผ้าไม่ได้นุ่งผ่อน  หรือถ้ามีก็คงเป็นเพียงเศษผ้าติดกายนิด ๆ หน่อย ๆ เข้าข่ายอุจาดนัยน์ตา  อันเป็นเหตุให้ถูกนำไปบอกเล่าในเชิงส่อเสียดว่า "( อุจาดเหมือน ) เปรต"


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2008, 20:12 โดย qazwsx » บันทึกการเข้า

login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #114 เมื่อ: 03-03-2008, 02:29 »

ฟังเขาเล่าๆมาอีกที

สมัยโน้นครั้งที่ห่ากินเมือง แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์
เห็นว่ามีศพมากจนแร้งชุม แร้งดุยิ่งกว่าหมา ไม่มีใครกล้าไล่
เปรตชุมชนิดที่ตกค่ำไม่กล้าเดินผ่าน
พวกเปรต(พวกตอนอยู่สวาปามของที่ไม่ควร)จะรุมขอส่วนบุญจนคนกลัวจับไข้หัวโกร๋น

(ถึงรู้ว่าสวนมีมะพร้าวเยอะก็จะเอามาขายครับ )



ปล. แร้งถามหา - พวกที่อยากให้ตายแต่หน้าด้านไม่ยอมตาย
ทุกวันนี้ก็เห็นอยู่หลายคนครับ เมื่อไม่กี่วันก่อนแร้งมาโฉบเรียกแถวสุวรรณภูมิ
ไอ้แก่นั่นมันรีบหลบกลัวแร้งเห็น แต่คนเขาเอามาร่ำลือแปลกๆว่าว่าคิดถึงเมืองไทยมากๆ
ไม่รู้เขาคิดกันไปได้ยังไง 

ปล.2 ทุกวันนี้ก็ยังเห็นเปรตอยู่ แต่มีการกลายพันธุ์ ตัวเตี้ย ปากกว้าง หน้าเหลี่ยม
ไม่ขอส่วนบุญ แต่ปล้นกันหน้าด้านๆกลางวันแสกๆ
น้ำมนต์ก็ไม่กลัว ไล่ก็ไม่ไป เป็นเปรตที่หน้าด้านชะมัด 
บันทึกการเข้า
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #115 เมื่อ: 03-03-2008, 02:41 »


~~~~~~ ตัวเตี้ย ปากกว้าง หน้าเหลี่ยม
ไม่ขอส่วนบุญ แต่ปล้นกันหน้าด้านๆกลางวันแสกๆ

น้ำมนต์ก็ไม่กลัว ไล่ก็ไม่ไป~~~~~~~ 

บรรหาร ?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2008, 20:10 โดย qazwsx » บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 [3]
    กระโดดไป: