ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
07-05-2024, 11:18
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  โยงหมอมิ้งพัวพันปตท. ปูดตัวเบ้งติดร่างแหอื้อ! 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
โยงหมอมิ้งพัวพันปตท. ปูดตัวเบ้งติดร่างแหอื้อ!  (อ่าน 1205 ครั้ง)
POchrat
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123



« เมื่อ: 04-04-2006, 17:58 »

องค์กรผู้บริโภค เตรียมตรวจสอบ"หมอมิ้ง"โยงใยผลประโยชน์ทับซ้อนในปตท.พบพิรุธ ยับยั้งการแยกกิจการท่อก๊าซฯ ไม่ให้เกิดการแข่งขัน หลัง"มนู-วิเศษ"โดนมีผลประโยชน์ทับซ้อนจากการจัดสรรหุ้น ด้าน"เชิดพงษ์-เมตตา"โดนหางเลข ในฐานะเป็นผู้ควบคุมราคาพลังงานแต่มานั่งเป็นกรรมการในปตท. ขณะที่"ปิยสวัสดิ์"รู้เห็นแปลงสภาพปตท.ตลอด แต่ยังปล่อยให้ทรัพย์สินของรัฐตกอยู่ในมือเอกชน



นางสาวรสนา โตสิตระกูล กรรมการมูลนิธิองค์กรผู้บริโภค เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ขณะนี้ทางเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค อยู่ระหว่างการสืบสวนหาข้อมูลในเชิงลึก เพื่อหาช่องทางดำเนินการฟ้องการแปลงสภาพบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีที่มติคณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบให้ปตท.ดำเนินการแยกกิจการทางท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ออกจากกิจการ ภายใน 1 ปี หลังจากปตท.กระจายหุ้นแล้ว

โดยเฉพาะกรณีการให้ปตท.จัดตั้งและถือหุ้นทั้งหมดในบริษัท ปตท.ท่อส่งก๊าซธรรมชาติ จำกัด รวมถึงให้ปตท.เปิดบริการขนส่งก๊าซฯทางท่อแก่บุคคลที่ 3 สำหรับระบบท่อในอนาคตและในระบบท่อเดิมของปตท. เพื่อให้ผู้ใช้ก๊าซฯสามารถซื้อก๊าซฯจากผู้ขายก๊าซฯได้โดยตรง และให้มีการตั้งองค์กรกำกับดูแลอิสระขึ้นมา

แต่เนื่องจากระยะเวลาผ่านมา 4 ปี ทางปตท.ไม่ได้ดำเนินการตามมติดังกล่าว โดยอ้างถึงรัฐบาลได้เปลี่ยนนโนยบายโครงสร้างกิจการไฟฟ้าใหม่ จากเดิมที่กำหนดเป็นแบบพาวเวอร์พูล มาเป็นระบบอีเอสบี และรอการแปรรูปบริษัท กฟผ.ให้แล้วเสร็จเสียก่อน ทำให้ปตท.ไม่สามารถดำเนินการได้ แต่ข้ออ้างดังกล่าวกลับกลายมาเป็นประเด็นที่ผูกมัดถึงการมีผลประโยชน์ทับ ซ้อนที่เกิดขึ้นในเวลานี้

นอกจากนี้เมื่อมีการตรวจสอบข้อมูล พบว่านายแพทย์ พรมมินทร์ เลิศสุริย์เดช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในสมัยนั้น ได้เป็นผู้ยับยั้งการแยกกิจการท่อก๊าซฯออกจากปตท. และการจัดตั้งองค์การอิสระด้านพลังงาน ไม่ให้เป็นไปตามมติครม.ซึ่งเป็นประเด็นที่ทางองค์กรผู้บริโภคจะเข้าตรวจสอบ ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่อย่างไร เพราะเป็นการแทรกแซงของนักการเมือง เนื่องจากนายแพทย์พรมมินทร์ เข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานไม่นาน แต่สามารถดึงเรื่องดังกล่าวออกมาพิจารณาใหม่ และภายหลังตั้งนายวิเศษ จูภิบาล มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแทน เพื่อรับผิดชอบในเรื่องนี้แทน

"ที่สำคัญจะต้องมาดูว่า การที่นายแพทย์พรหมินทร์ ยับยั้งการแยกกิจการก่อนนั้น ต้องไปดูว่านโยบายที่กำหนดออกมา เป็นนโยบายที่ให้ประโยชน์กับรัฐหรือให้ประโยชน์กับปตท. ซึ่งหากมองในแง่ของการแปรรูป การดำเนินงานจะต้องมีการแข่งขัน แต่การแปรรูปแล้วกลายเป็นว่ายกอำนาจผูกขาดจากรัฐไปเป็นของเอกชนก็ถือว่าผิด อยู่แล้ว"

"การที่ปตท.อ้างว่า การแยกกิจการท่อก๊าซฯออกมาแล้วจะทำให้หุ้นไม่มีค่า มองว่าเวลานี้จำนวนหุ้นได้ผ่องถ่ายไปเป็นของนักลงทุนแล้วจำนวนมาก กระทรวงการคลังถือหุ้นเพียง 52 % ผลประโยชน์ไม่ได้ตกอยู่กับภาครัฐแล้ว การไม่แยกกิจการท่อก๊าซฯออกมาเป็นการกระทำเพื่อผลประโยชน์ของนักลงทุน มากกว่า โดยอาศัยทรัพย์สินของชาติไปแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งการเวนคืนที่ดิน การวางท่อก๊าซผ่านที่ดินชาวบ้าน เป็นการรอดสิทธิ์ จะมาบอกว่าปตท.มีอำนาจในการดำเนินงานไม่ได้ แม้จะอ้างว่าศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินให้ดำเนินการได้ก็ตาม"

นางสาวรสนา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในเบื้องต้นมองว่า คณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งปตท.ที่มีนายมนู เลียวไพโรจน์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมและประธานบอร์ดสมัยนั้น เข้ามาเป็นประธานคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้ง และหลังจากปตท.กระจายหุ้นแล้ว นายมนูได้มีผลประโยชน์จากการจัดสรรหุ้นไปจำนวนหนึ่ง จำนวนร้อยละ 0. 013584 ซึ่งตาม พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ ได้มีข้อกำหนดให้คณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งจะต้องเว้นวรรคการไม่รับหุ้น หลังจากการกระจาหยุ้น 3 ปี

ขณะที่นายวิเศษ จูภิบาล ผู้ว่าการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยสมัยนั้น ได้เป็นกรรมการเตรียมการจัดตั้งปตท.และได้รับการจัดสรรหุ้นด้วย จำนวนร้อยละ 0.005766 แต่เนื่องจากนายวิเศษ เป็นผู้บริหารถึงกลางปี 2546 แต่ยังถือหุ้นอยู่อีกประมาณ 1 ปี ทำให้ต้องมีการตรวจสอบว่านายวิเศษพ้นจากตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดแล้ว จะยังสามารถถือหุ้นต่อไปได้อีกหรือไม่

นอกจากนี้ ปตท.ไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนการแปลงสภาพที่ถูกต้องตั้งแต่ต้น ในเรื่องของการจัดทำประชาพิจารณ์ ซึ่งพบว่าปตท.ทำการประกาศสาระสำคัญก่อนการตรา พ.ร.ฎ.เพื่อแปลงสภาพปตท. 2 ฉบับเพียง 1 วันก่อนที่จะมีการรับฟังความคิดเห็น ซึ่งไม่ถูกต้องตามระเบียบที่กำหนดให้ลงประกาศในหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวติด ต่อกัน 3 วัน ทำให้การแปลงสภาพปตท.ขัดกับเจตนารมณ์ของพ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ

ด้านแหล่งข่าวจากองค์กรผู้บริโภค เปิดเผยว่า สำหรับกรณีของนายเชิดพงษ์ สิริวิชช์ ปลัดกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นประธานกรรมการ ของปตท.และบริษัท ไทยออยล์ และมีบทบาทในฐานะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน ที่ดูแลการกำหนดราคาพลังงาน และ นายเมตตา บันเทิงสุข ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายพลังงานแห่งชาติ(สนพ.) ในฐานะเลขาคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ซึ่งมีส่วนดูแลโครงสร้างราคาด้านพลังงาน แต่มานั่งเป็นกรรมการปตท.ด้วยนั้น

มองว่าบุคคลเหล่านี้สามารถรับรู้ข้อมูลภายในของภาครัฐ และมาบริหารจัดการปตท.ได้ จะเห็นได้จากช่วงที่ผ่านมา ปตท.และโรงกลั่นน้ำมันมีกำไรจำนวนมาก ซึ่งมีปัญหามาจากการที่มีผู้ควบคุมราคาและผู้ที่กำหนดราคาน้ำมันเป็นคน กลุ่มเดียวกัน ซึ่งถือเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนของเจ้าหน้าที่รัฐกับเอกชน

นอกจากนี้ ในส่วนของนายพละ สุขเวช กรรมการปตท.ยังเข้าไปเป็นกรรมการในกฟผ.ด้วย ทำให้เห็นผลประโยชน์ทับซ้อนของสองหน่วยงานนี้อย่างเห็นได้ชัด ที่จะเอื้อผลประโยชน์ซึ่งกันและกันในการซื้อขายก๊าซธรรมชาติ ซึ่งจะมีผลต่อค่าไฟฟ้าของประชาชนได้

อย่างไรก็ตาม จากที่ตรวจสอบรายงานการประชุมคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งปตท.พบว่า มีนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานกรรมการ บลจ.หลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย อดีตเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน ได้เข้าร่วมประชุมด้วยทุกครั้ง ซึ่งไม่ทราบว่าทำไมถึงปล่อยให้มีการดำเนินงานในลักษณะนี้ออกมา โดยเฉพาะประเด็นการโอนสินทรัพย์ของรัฐไปเป็นของเอกชนปล่อยให้มีการดำเนิน งานได้อย่างไร

ทั้งที่เวลานี้นายปิยสวัสดิ์เองสนับสนุนให้มีการแยกกิจการท่อก๊าซออกจากปตท. เพื่อกำกับดูแลได้ง่ายขึ้น และสามารถเปิดให้บริการผ่านท่อทำได้อย่างเป็นธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะการไม่ให้อำนาจผูกขาดไปอยู่ในมือของเอกชน

ต่อเรื่องนี้นายมนู เลียวไพโรจน์ อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวชี้แจงว่า ตามกฏหมายคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้ง สามารถถือหุ้นได้ เพราะฉะนั้นในส่วนของตนและนายวิเศษ จูภิบาล รักษาการว่าการกระทรวงพลังงาน จะไม่มีปัญหา ซึ่งทุกอย่างมันเป็นไปตามขั้นตอน ไม่ได้เป็นไปตามที่ถูกกล่าวหา เพราะมันมีกฏหมายมาตรา12 มาตรา18 ที่ข้าราชการที่ได้รับแต่งตั้งให้ดูแลเรื่องนี้ สามารถถือครองหุ้นในส่วนนี้ได้ "คำกล่าวหาที่ทำให้ผมเสียหาย ถ้าเล่นกับผมมากๆ ผมคงต้องขออำนาจศาลช่วยเหลือ"นายมนูกล่าว

โยงหมอมิ้งพัวพันปตท. ปูดตัวเบ้งติดร่างแหอื้อ!

อ่านกันรึยังครับ ถ้าอ่านแล้วก็ขออภัย

หุหุ  Laughing
บันทึกการเข้า

ดอกเข็มขาว
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 534



« ตอบ #1 เมื่อ: 04-04-2006, 21:32 »

ดีจังเลยที่นำมาลงให้อ่าน
วันนี้งานยุ่งมากไม่ได้อ่านอะไรเลย มาอ่านตอนค่ำนี้เอง ขอบคุณมากค่ะ
บันทึกการเข้า

ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #2 เมื่อ: 04-04-2006, 22:58 »

"การที่ปตท.อ้างว่า การแยกกิจการท่อก๊าซฯออกมาแล้วจะทำให้หุ้นไม่มีค่า มองว่าเวลานี้จำนวนหุ้นได้ผ่องถ่ายไปเป็นของนักลงทุนแล้วจำนวนมาก กระทรวงการคลังถือหุ้นเพียง 52 % ผลประโยชน์ไม่ได้ตกอยู่กับภาครัฐแล้ว การไม่แยกกิจการท่อก๊าซฯออกมาเป็นการกระทำเพื่อผลประโยชน์ของนักลงทุน มากกว่า โดยอาศัยทรัพย์สินของชาติไปแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งการเวนคืนที่ดิน การวางท่อก๊าซผ่านที่ดินชาวบ้าน เป็นการรอนสิทธิ์ จะมาบอกว่าปตท.มีอำนาจในการดำเนินงานไม่ได้ แม้จะอ้างว่าศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินให้ดำเนินการได้ก็ตาม"


ข้อมูลนี้ทำให้ประชาชนทั่วไปฉุกใจคิดได้แล้วว่า ผลประโยชน์ที่แท้จริงนั้นตกอยู่กับ'เอกชน' มากกว่ารัฐบาลที่ได้ลงทุนด้วยภาษีประชาชนไปมากมายก่อนหน้านั้น
 รวมทั้งการเวนคืนที่ดินและวางท่อก๊าซผ่านที่ดินของประชาชนไปเป็นของ'เอกชน'(คนไทยและต่างชาติ) ด้วยวิธีฉ้อฉล และเป็นที่ทราบกันดีว่านักธุรกิจการเมืองในรัฐบาลนี้ ถือครองหุ้นและผลประโยชน์อื่นๆ ด้วย......
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
The Piggy@u
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 04-04-2006, 23:32 »

มิ้งตายแน่ๆ
บันทึกการเข้า
จูล่ง_j
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,901



« ตอบ #4 เมื่อ: 05-04-2006, 02:56 »

ขอบคุณที่เอาลงให้อ่านครับ
ขอให้คุณ รสนา ฟ้องร้องสำเร็จอีกครั้ง และอย่ายอมรับสินบนใดๆ ยุติเรื่องนี้
ให้พวกที่มันขโมยผลประโยชน์ของชาติไปเป็นของตัวเอง ได้รับใช้กรรม
บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 05-04-2006, 03:28 »

ผลงานเข้าตาจริง ๆ คุณรสนา เอาใจช่วยครับ

ให้การเมืองภาคพลเมือง เชื่อมร้อยเป็นเครือข่ายโดยเร็วที่สุด

เพราะสภาเที่ยวนี้ ของเค้าหมดแล้ว

การตรวจสอบนอกสภามันยากเสียยิ่งกว่ายาก
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: