ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 12:21
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ห้องสาธารณะ  |  อารยะขัดขืน กับ ออกมาสิวะ กูจะข่มขืน 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
อารยะขัดขืน กับ ออกมาสิวะ กูจะข่มขืน  (อ่าน 3409 ครั้ง)
นายชด
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 04-04-2006, 15:09 »

เมื่อสองสามวันก่อน ก่อนหน้าที่จะถึงวันเลือกตั้งที่อัปลักษณ์ที่สุดที่เคยมีมา

กลุ่มคาราวานคนจน ได้เข้าปิดล้อม ตึกเนชั่น ทวงถามความชอบธรรมในการเสนอข่าว เกี่ยวกับคดีหมิ่นสถาบัน

พฤติกรรมการแสดงออก ผมเชื่อว่าหลายท่านคงเห็นผ่านสื่อต่างๆมาแล้ว และบางท่านอาจประสบเห็นจากตาตนเอง

การแสดงออกดังกล่าว เกินไปกว่าการเรียกร้องของอารยะชนพึงกระทำต่อเพื่อมนุษย์ ในความเห็นของผมมันเป็นการข่มขุ่และใช้กฏหมู่เข้ากดดันโดยมีผู้รักษากฏหมายคอยเป็นกำลังให้อย่างเปิดเผยที่สุด  อีกทั้งยังบ่งบอกให้เห็นถึงความคิดของนักการเมืองที่หนุนหลังว่า เป็นคนเช่นไร?

สตรีที่ตั้งครรภ์  ผู้ป่วยและพนักงาน ประชาชนที่อยู่ในตึกขณะนั้นต่างหวาดวิตกในท่าทีและคำพูดที่คุกคามเสรีภาพส่วนบุคคล.............
...............แต่ตำรวจเฉย........

ไม่แปลกเลยที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ กับ เนชั่น
ลองกลับข้างดูว่า หากมีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นที่ตึกชินคอร์ป ก่อนมีการโอนขายหุ้น......ป่านนี้ ตำรวจคงจับไปหมดทุกคนแล้ว

เหตุการณ์ในวันนั้น หลายอย่าง
ทำให้ผมสลดใจกับคนไทยเราส่วนหนึ่งที่แม้นจะได้รับการศึกษาที่ระดับหนึ่ง  แม้จะมีวุฒิภาวะที่สูงระดับหนึ่ง  แต่กลับกระทำการดั่งโจรป่าเมืองเถื่อน
........จากหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก มีหญิงสาวท่านหนึ่ง จะออกไป กลับถูกข่มขู่ว่าหากออกมา พวกมันจะข่มขืน.................คิดได้ไง?

**************************
หันมามองเหตุการณ์วันที่สอง เมษายน วันเลือกตั้ง
ประชาชนส่วนหนึ่งของประเทศ และผม ต่างออกไปใช้สิทธิ กากะบาด ขวาล่างของบัตรเลือกตั้ง  นั่นคือ  no vote

อาจารย์ท่านหนึ่ง ฉีกบัตรเลือกตั้ง ประท้วงการเลือกตั้งครั้งนี้  

ประชาชนบางท่านจงใจทำให้บัตรเสียซะงั้น โดยขอเขียนข้อความด่านายกฯและรัฐบาลนี้ อันเป็นการแสดงออกถึงความอัดอั้นที่มีแบบไม่ทำให้ใครต้องมาหวากผวา

สิ่งที่กล่าวล้วนแล้วเป็น อารยะขัดขืน ทั้งสิ้น  มันต่างจาก ออกมาสิวะ กูจะข่มขืนเช่นคาราวานคนจนทำต่อสตรีเพื่อนร่วมชาติโดยสิ้นเชิง

.........................คนไทยหลายคนอาจตาบอดมองไม่ออก  แต่สากลโลกที่ทราบข่าว เขามองออก และตระหนักดีว่า เกิดอะไรในประเทศไทย และ เรา "ขาด" อะไรกันแน่ สำหรับประชาชนโดยรวม

การศึกษาในวิชาการต่างๆ ไม่ช่วยทำให้ความมีอารยะในจิตใจและสามัญสำนึกของมนุษย์พอกพูนหรือเติบโตขึ้นมาได้ครับ
สิ่งที่ประชาชนไทยเราขาดจริงๆ คือ การศึกษาในศาสตร์ของคำว่า สติ
ปรัชญาต่างๆนี่แหละครับที่สอนให้คนเรามีสติ มีความคิดมองไปข้างหน้า  มองไปในส่วนของจริยธรรม ได้ดี  ในทุกปรัชญาไม่ว่าจะเป็นปรัชญาตะวันออกเราเองหรือตะวันตกก็ตาม
.....................แผนการศึกษาของเด็กๆน่าจะแฝงการเรียนปรัชญาไปด้วยก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี  ในอดีตเราก็มีครับ ในแผนการศึกษา  แต่แฝงอยู่ในหลายๆวิชา  เช่น วรรณคดีไทย

***********************************************

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้  ก็ขอกล่าวถึงผลการเลือกตั้ง
หาก ท่านนายกฯทักษิณ พอจะมีส่วนที่เป็นสามัญสำนึกดีๆอยู่บ้างก็น่าจะมองออกว่า แม้จะมีเสียง 16 ล้านเสียงที่เลือกท่าน

................แต่กว่า 10 ล้านเสียง ประกาศชัดว่าไม่อยากเลือกใคร?

การเป็นผู้นำคนนั้น โดยเฉพาะการเป็นผู้นำประเทศ
สิ่งสำคัญ คือ ท่านต้องเป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่ ในลักษณะกระจายไปโดยทั่ว

แต่ผลของการเลือกตั้งมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น  บางส่วนของประเทศ 10 ล้านเสียงทีเดียว  "ไม่เอา" ท่านและพวกพ้องเลย  ตรงนี้คือประเด็นที่ต้องคิด

ไม่ใช่ไม่เอาท่านคนเดียว
ไม่เอาพวกพ้องท่านด้วย เพราะ เลือกตั้งมันเลือกพรรคและตัวบุคคล !!!!

ความคิดที่บอกว่าจะหาคนอื่นในพรรคมาเป็นนายกฯ
ความคิดที่บอกว่าจะตั้งรัฐบาลสมานฉันท์แห่งชาตินั้น
ผมเห็นว่า...........ลืมไปเถอะ!!!นะครับ

มาถึงวันนี้  ผมว่าทางเดินมันเหลือทางเดียวครับ
คือ ปล่อยให้อารยะชน เขาเดินกันไปเองจะดีกว่า

ส่วนท่านและพวกพ้อง ก็ควรเดินไปกับพวกที่บอกว่า  ออกมาสิวะ กูจะข่มขืน เป็นทางที่ประเสริฐและท่านเลือกเองแล้วน่ะครับ

ผมยังคิดเล่นๆเลยว่า หากวันนั้นท่านสส.หญิงพรรคไทยรักไทยคนนั้น ไปธุระที่ตึกเนชั่น
หรือลูกสาวท่านบังเอิญไปที่นั่น แล้วจะออกจากตึก

คาราวานคนจนจะพูดและทำอย่างไร?
บันทึกการเข้า
นายท้ายเรือ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 760



« ตอบ #1 เมื่อ: 04-04-2006, 15:19 »

ประเด็น อารยะขัดขืน ผมว่า น่าสนใจมากครับ ทั้งในด้านหลักรัฐศาสตร์
และหลักนิติศาสตร์ ตอนนี้ไม่ทราบไปถึงไหนแล้ว ใครทราบข่าวก็เอามาบอก
กันนะครับ  แต่ตอนนี้ผมคิดว่า คงยัง เพราะว่า  กกต. ยังวุ่นวายเรื่องเลือกตั้ง
ที่ไม่รู้จบ......
บันทึกการเข้า

ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย แต่จะเหลืออะไรไว้ให้แผ่นดิน
นายชด
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 04-04-2006, 15:30 »

คุณนายท้ายเรือ ครับ

ต่อให้เลือกตั้งใหม่ไป ผลก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนแปลง

หากจะกล่าวถึงอารยะขัดขืน ในเรื่องเลือกตั้งโดยตรง ขั้นตอนต่อไปคือ การไม่ออกไปใช้สิทธิ และ มีการตรวจสอบว่าตนเองถูกสวมสิทธิหรือไม่? เมื่อไม่มีการใช้
นี่อาจเป็นวิธีหนึ่งของอารยะขัดขืนที่จะมี

ตัวอย่างของอารยะขัดขืนอีกอันที่นักธุรกิจควรทำคือการงดทำธุรกรรมทุกชนิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ธุรกิจในว่านเครือ

การพร้อมใจกันถอนเงินจากธนาคารรัฐทุกแห่ง ก็ถือเป็นอารยะขัดขืน

มีอีกมากครับ  แล้วจะเอามาเสนอให้ทราบๆกัน
บันทึกการเข้า
เสลา
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 514



« ตอบ #3 เมื่อ: 04-04-2006, 15:41 »

เรียนคุณชด

อารยะขัดขืนกับการสไตรค์ ใกล้เคียงกันใหม

เห็นที่ ตปท.เขาสไตรค์เรียกร้องกันสำเร็จเพราะเขามีกองทุน
ที่คอยสนับสนุนทดแทนรายได้ให้กลุ่มคนของเขา

ในเมืองไทยรู้สึกพลังของเราทำนองนี้จะอ่อนกว่าเขาแยะ
ยิ่งมาเจอกลยุทธ์ระบายสีของฝ่ายตรงข้าม

อารยะขัดขืนถูกมองเป็นการก่อกวน เรียกร้องผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มไปเสียอีก
บันทึกการเข้า

cha_srt
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 276



« ตอบ #4 เมื่อ: 04-04-2006, 15:42 »

ผู้ถึงการต่อต้าน ผมทิ้งซิมมือถือของค่าย AIS ไปแล้วสามเบอร์ในครอบครัว
ไม่รู้จะส่งผลได้มาแค่ไหนแต่ก็พยายามทำอยู่ร่วมถึงการลีกเลี่ยงสินค้าตัว
อื่นที่เกี่ยวข้อง
บันทึกการเข้า
นายท้ายเรือ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 760



« ตอบ #5 เมื่อ: 04-04-2006, 15:42 »

นายชดครับ ผมไม่ได้หมายความว่าการเลือกตั้งใหม่ จะไปเปลี่ยนแปลงเรื่องอารยะขัดขืนครับ
แต่คือว่า ตอนนี้ กกต.กำลังวุ่นอยู่หลายเรื่อง อีกทั้ง สังคมกำลังติดตามกระแสสมานฉันท์ ซึ่งผมหวังว่า
ประเด็นนี้ หลังพายุสงบ คงได้นำมาเป็นกรณีศึกษาที่ดีมากครับ แล้วผมก็จะติดตามต่อไปครับ
บันทึกการเข้า

ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย แต่จะเหลืออะไรไว้ให้แผ่นดิน
ThePong+
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 198



« ตอบ #6 เมื่อ: 04-04-2006, 15:50 »

มารออ่านคุณนายชดต่อครับ

ระหว่างนี้ขออนุญาตคั่นโฆษณาด้วยข้อมูลเรื่องนี้ที่พบในเว็บ ผมชอบคำอธิบายนี้ของอาจารย์แก้วสรรครับ


อ้างถึง
“รัฐ” นั้นไม่ใช่พ่อของราษฎร คนนั้นเกิดมาเป็นเสรีชน รัฐบาลเป็นเครื่องมือเพื่อการอยู่ร่วมกันโดยเสรีเท่านั้น เมื่อผู้ครองอำนาจใช้อำนาจล้ำเส้นล้ำกรอบของรัฐเมื่อใด เสรีชนก็มีสิทธิโดยชอบที่จะประท้วง และปฏิเสธไม่ยอมปฏิบัติตาม ตามหน้าที่ของพลเมืองอีกต่อไป ยึดถนนประท้วงก็ได้ ไม่เสียภาษีก็ได้ หยุดงานสาธารณะก็ได้ ฉีกหมายเรียกเกณฑ์ทหารก็ได้ ทั้งหมดนี้ล้วนผิดกฎหมายผิดหน้าที่พลเมืองทั้งสิ้น แต่เมื่อผู้ครองอำนาจใช้อำนาจเกิน


ที่มา: เว็บไซต์คนชายขอบ. มี.ค. 2549 อารยะขัดขืน: ทางออกสุดท้ายของประชาชน?"
http://www.fringer.org/?p=112


อ้างถึง
พจนานุกรมฉบับมติชน ให้นิยามคำว่า “อารยะขัดขืน” ไว้ดังนี้:

แก้วสรร อติโพธิ อธิบายว่า อารยะขัดขืน ภาษาฝรั่งใช้คำว่า Civil Disobedience คำว่า “Civil” ในที่นี้ เขาไม่ได้หมายถึงอารยะอะไรที่ไหน แต่หมายถึง “พลเมือง” ว่า การกระทำใดอันเป็นการผิดกฎหมายผิดหน้าที่ของพลเมืองที่กระทำไป เพื่อมุ่งประท้วงหรือปฏิเสธการใช้อำนาจเกินขอบเขตของผู้ปกครอง เขาจึงเรียกการกระทำเช่นนี้ว่าเป็นการแข็งข้อ ไม่ยอมรับหน้าที่ของพลเมืองที่กำหนดไว้ ถือเป็นความชอบธรรมที่ทำได้ในฐานะเป็นเสรีชน มิใช่เพียงราษฎรที่ไร้น้ำยา

คำนี้เพิ่งจะปรากฏในวาทกรรมการเมืองไทย ใช้กล่าวอ้างอธิบายเมื่อจะแข็งข้อต่อสู้กับระบอบทักษิณ ด้วยวิธีการต่างๆ มาจากฐานคิดเสรีนิยมที่เชื่อมั่นว่า “รัฐ” นั้นไม่ใช่พ่อของราษฎร คนนั้นเกิดมาเป็นเสรีชน รัฐบาลเป็นเครื่องมือเพื่อการอยู่ร่วมกันโดยเสรีเท่านั้น เมื่อผู้ครองอำนาจใช้อำนาจล้ำเส้นล้ำกรอบของรัฐเมื่อใด เสรีชนก็มีสิทธิโดยชอบที่จะประท้วง และปฏิเสธไม่ยอมปฏิบัติตาม ตามหน้าที่ของพลเมืองอีกต่อไป ยึดถนนประท้วงก็ได้ ไม่เสียภาษีก็ได้ หยุดงานสาธารณะก็ได้ ฉีกหมายเรียกเกณฑ์ทหารก็ได้ ทั้งหมดนี้ล้วนผิดกฎหมายผิดหน้าที่พลเมืองทั้งสิ้น แต่เมื่อผู้ครองอำนาจใช้อำนาจเกินขอบเขตของรัฐแล้ว เราก็มีสิทธิไม่ยอมรับหน้าที่ของพลเมืองที่กำหนดไว้ตามกฎหมายอีกต่อไป

แก้วสรรเห็นว่าน่าจะแปลเป็นไทยว่า การแข็งข้อไม่ยอมเป็นพลเมือง

ในการแสดงออกซึ่งพฤติกรรมอารยะขัดขืนนั้น ผู้ประท้วงอาจเลือกกระทำผิดกฎหมายบางข้อ เช่น ร่วมกันปิดกั้นถนนหรือสถานที่ใดๆ อย่างสันติ หรืออาจจะต้องเข้าไปยึดครองอาคารอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งผู้ที่จะกระทำการอารยะขัดขืนนั้นต่างรู้ดีว่าพวกเขาจะถูกจับกุมตัวไป หรืออาจจะถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายทุบตี ด้วยเหตุนี้ ผู้ประท้วงจึงมักจะได้รับการฝึกล่วงหน้าว่า จะต้องปฏิบัติตนอย่างไรระหว่างที่ถูกจับกุม เพื่อที่จะไม่ให้ดูว่าเป็นการคุกคามและมุ่งหมายที่จะใช้กำลังตอบโต้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ


อารยะขัดขืนจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
http://th.wikipedia.org/wiki/Civil_disobedience
บันทึกการเข้า

นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 04-04-2006, 16:05 »

ทรท กำลังระดมพลชาวรากหญ้าฐานเสียง เข้ามาต่อกรกับคนเมือง

แม้วนอกจากจะเอาชาวรากหญ้ามาสร้างความชอบธรรมในการงัดข้อคนเมืองแล้ว

มีอาจารย์ท่านหนึ่งบอกว่า

ยังจะใช้ อำนาจรัฐ เข้ามาจัดการด้วย



สงสัยแม้วต้องการเห็นประเทศพังไปต่อหน้าต่อตา ครับ
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
นายชด
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: 04-04-2006, 16:29 »

ขอบพระคุณ คุณ pong ก่อนครับ ที่นำเอาเรื่องอารยะขัดขืนมาขยายให้ทราบๆกัน

ขอตอบคุณเสลาก่อน

การสไตรค์นั้น ว่าไปแล้ว มันหมายถึง การประท้วง มันเป็น คำที่กินใจความได้กว้างครับ  อารยะขัดขืนถือได้ว่าเป็นการประท้วงรูปแบบหนึ่ง

หากมองที่รากศัพท์ต่างประเทศ  Civil Disobedience
ก็จะเข้าใจได้ว่า มันเป็นการประท้วงของ"กลุ่มคน"  เพราะ civil ที่ใช้ในที่นี้ หมายถึงกลุ่มคน ครับ คล้ายกับคำว่า สงครามกลางเมืองที่เราแปลมาจากคำว่า civil war นั่นเอง

ส่วนไอ้คำว่า ดิสๆเดี๊ยนๆอะไรนั่น มันก็คือ การไม่ยอมอยู่ในคำสั่งหรือการปกครองนั่นเอง
แต่ในความเข้าใจของผมนั้น ยังไม่ล่วงไปถึงของท่านอาจารย์แก้วสรรที่บอกว่า ถึงขั้นกระทำการที่ผิดกฏหมาย

ในความเข้าใจของผมที่พอจะทราบมา มันหมายถึงการแข็งข้อในกฏเกณฑ์หรือ ข้อบังคับที่ไม่เป็นธรรม ด้วยลักษณะการตอบโต้ในเชิงขัดขืน เช่น เดิมพลเมืองสามารถรับได้ในกฏหมายภาษีที่เก็บ  แต่ปรากฏว่าภายหลัง รัฐออกกฏหมายจัดเก็บภาษีที่โหดและสูงจนทำให้ประชาชนเดือดร้อน  ประชาชนอาจรวมกลุ่มกันไม่จ่ายภาษีไปเลย  

เมื่อคำนึงถึง การเลือกตั้งอัปลักษณ์ครั้งนี้  ประสงค์ของการเลือกตั้ง คือ การให้มีการแข่งขันกันระหว่างผู้แทนของประชาชน อันได้แก่พรรคการเมือง มากกว่า หนึ่งพรรคขึ้นไป

พอพรรคใหญ่สามพรรคไม่เสวนาด้วย
ทางพรรคไทยรักไทย ก็เลยต้องหาทางออกด้วย การมีพรรคนอมินีและพรรคการเมืองเล็กๆเข้ามาให้ครบองค์ประกอบในวัตถุประสงค์  

แต่ก็ยังไม่บรรลุเป้าหมายครับ วัตถุประสงค์คือ ให้มีการแข่งขัน แต่เป้าหมายคือ การแข่งขันนั้นๆ ต้องมีผู้เสนอตัวให้ประชาชนเลือกมากกว่าหนึ่ง นั่นคือเป้าหมาย ที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ไม่งั้นจะถือว่าเป็นการแข่งขันได้อย่างไร  เป้าหมายที่ต้องการคือ แข่งกัน แล้วก็มีผู้ชนะการแข่ง

การที่ พื้นที่นั้นๆ ปราศจาก พรรคการเมืองเข้าร่วมการแข่งขัน มันก็ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการเลือกตั้งแล้ว  เป้าหมายที่คาดก็สูญไปตั้งแต่นั้น  

อ้าวแล้วทำไง????
ผมคิดของผมว่า เพียงเท่านี้ เราก็มองออกแล้วว่า มันไร้บทบัญญัติใดที่จะทำให้เกิดการเลือกตั้งให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ดังนั้น มาตรา 7 หากจะนำมาใช้ก็ใช้ได้ตั้งแต่ที่ว่านั้นแล้ว ครับ

กลับมาที่อารยะขัดขืน
เมื่อมีการเดินหน้าการเลือกตั้ง
และประชาชน เห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ มันไม่ปกติ  แต่ตนเองก็มีหน้าที่ที่จะต้องลงคะแนน ตามรัฐธรรมนูญ

ผู้ที่มีสิทธิแต่ไม่ใช้สิทธิ เพราะเข้าใจว่าเลือกตั้งครั้งนี้ มันไม่ชอบธรรมและ ไม่ใช่ทางออกของบ้านเมือง
การไม่ไปใช้สิทธิ ถือว่าเป็น อารยะขัดขืน ได้ครับ

ส่วนท่านที่ไปเลือกตั้ง แต่กาในช่อง โนโหวต หากจะมองจริงๆ อาจไม่ใช่อารยะขัดขืน เพราะถือว่า กฏหมายเปิดช่องให้ทำ จะถือว่าขัดขืนได้อย่างไร?  
แต่บางท่านมองว่า ที่กาในช่องนั้น ก็เพื่อแสดงว่า ตนเองไม่พอใจเลือกพรรคการเมืองใดๆเลย เพราะการจัดการเลือกตั้งมันไม่ชอบมาแต่ต้น ซึ่งหากมีช่องที่ให้เหตุผลตรงนี้ตรงจุดกากะบาดได้  คนที่ใส่เหตุผลนี้ น่าจะถือว่า เป็นอารยะขัดขืน   อันนี้กล้อมแกล้มไป

ที่ชัดคือการฉีกบัตรเลือกตั้งของอาจารย์จุฬาท่านนั้นครับ ประสงค์ของท่าน เจตนาของท่านเป็นอารยุขัดขืนโดยแท้  ไร้เจตนาทุจริต ต่อให้การกระทำนั้นเป็นการทำลายบัตร  ขึ้นศาล ก็หลุด เพราะ คำว่าเจตนาคือ ต้องประสงค์ต่อผล และเล็งเห็นผล    เขาฉีกเพราะประสงค์ต่อผลการต่อต้านการเลือกตั้งที่เขาเห็นว่าไม่ชอบ  ไม่ใช่ประสงค์ต่อผลว่าต่อต้านการเลือกตั้งปกติตามกฏหมาย......
.......  ผมเชื่อว่า หลุดครับ

อารยะขัดขืนของเมืองไทยเรายังไม่ชัดเจนนัก จริงๆ

การเลือกตั้ง หากกกต.ยังรั้นจัด และ ยังรั้นวางรูปแบบคูหาเช่นเดิม
ประชาชนสามารถแสดงอาการขัดขืนด้วยวิธีการต่างๆเช่น

พร้อมใจกันใส่เสื้อคลุมตัวโตๆเพื่อบังในขณะกาบัตร   หากกกต.จะมาบอกว่าไม่โปร่งใสและหาเรื่องอันนี้โดนแน่  เพราะตามกฏหมายมันต้องลับ  แต่เสือกมาทะลึ่งบอกว่าเพื่อโปร่งใส อันนี้แหละที่ผมว่า ศาลปกครองน่าจะพิจารณาให้เลือกตั้งครั้งนี้โมฆะไปเลย

หรือ ประชาชนพร้อมใจกันไปที่ศูนย์เลือกตั้ง แต่ไม่ยอมเลือกจนกว่า ทางกกต.จะจัดให้มีปากกาครบทุกคูหา อันนี้ก็เป็นอารยะขัดขืนวิธีหนึ่ง

แม้กระทั่งการติดป้ายหน้าบ้านว่า คนในบ้านนี้ไม่ไปใช้สิทธิเพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ชอบธรรม แบบนี้ก็ถือว่าอารยะขัดขืนเช่นกัน


ผมมีเรื่องมาเล่าสู่เพิ่มเติม
ทางเขต มาอาศัยพื้นที่ของที่บ้าน(แต่อยู่คนละที่กับบ้าน) ตั้งศูนย์เลือกตั้งสองแห่งเลย อยู่หน้าสำนักงานและร้านขายวัสดุของผม  แต่ที่กระจกผมติด สติ๊กเกอร์ขาว ตัวพิมพ์แดงว่า  ทักษิณออกไป  หน้าเหลี่ยม get out
เจ้าหน้าที่เขตมาขอ"สั่งให้" หลานสาวแกะออก

ผมเลยถามว่า ผิดกฏหมายฉบับใด มาตราใด  ทำไมต้องแกะ  และนี่มันที่ของผม  ทางเขตมายิทสถานที่เอง  หากไม่พอใจก็ไปที่อื่น

หัวหน้าเขตต้องมาขอร้องเอง  ผมก็ยืนกรานไม่แกะ  และสายวันนั้น ผมไปเอาสติ๊กเกอร์มาแปะเพิ่มด้วย เพราะหมั่นไส้

แบบนี้ไม่เรียกอารยะขัดขืนครับ  เรียกว่า นายชดขัดชืน เพราะหมั่นไส้..................555555
บันทึกการเข้า
นายชด
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: 04-04-2006, 16:46 »

(ต่อ)  ต่อครับเพราะยังไม่สะเด็ดน้ำเลย  อิอิ

กล่าวโดยสรุปคือ อารยะขัดขืนในแง่ของผมต่างกับท่านอาจารย์แก้วสรร ตรงที่  กลุ่มประชาชนจะแข็งข้อและไม่ปฏิบัติตามในส่วนของกฏหมายหรือกฏเกณฑ์ที่ตนเองเล็งเห็นว่า ไม่มีความชอบธรรม  หรือ ริดรอน สิทธิ เสรีภาพ หรือ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สังคมโดยรวม  แต่จะปฏิบัติตามกฏหมายเป็นปกติ กับกฏหมายที่ยอมรับและใช้บังคับอยู่ทั่วไป

การยกมวลชนไปปิดล้อมเนชั่นนั้น
มองอย่างไรก็เป็นการใช้เสรีภาพในการแสดงออกที่ล่วงสิทธิของผู้อื่น

ดังนั้น ตำรวจในสถานการณ์นั้น และ สตช. จะต้องวรับผิดชอบต่อประชาชน และนี่เป็นตราบาปแก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกแผลนึงทีเดียวกับการเป็นทาสรับใช้นักการเมือง

ยิ่งการที่ผบทบ. ออกมาพูดด้วยแล้ว ผมมองว่าทุเรศสิ้นดี
พูดแล้วมันได้ประโยชน์ตรงไหน  ใช้สิทธิอะไร  มีหน้าที่ต้องออกมาพูดหรือ? แน่ใจ? มีตรงไหนกำหนดไว้ว่าเป็นหน้าที่?



....................ทหารยังมองข้ามหัวประชาชนอยู่ดีครับ  และก็ยังเป็นขี้ข้านักการเมืองเหมือนเดิม  

......................ใครๆเขาก็รักในหลวงทั้งนั้นแหละ  หรือว่า พอใส่เคื่องแบบแล้วรักมากกว่า  เอาอะไรมาวัด??   ใครกันแน่ที่ดึงสถาบันมาพูดไม่หยุด       และเติมเชื้อไฟ
บันทึกการเข้า
Suraphan07
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,128



« ตอบ #10 เมื่อ: 04-04-2006, 16:51 »

นายชด ขัดขืน 5 5 5 5...

สะใจดีครับ แต่ถ้าทำบ่อยๆ ระวังสุขภาพน่ะครับ...

มีอำนาจสว่างอย่างเดียว มันยังไม่พอ
ยังใช้อำนาจมืด ช่วยเสริมอีก ระย้าม จริงๆ...
บันทึกการเข้า
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 04-04-2006, 17:03 »

ถึงเวลาประชาชนต้องร่วมมือกัน สู้รัฐบาลเผด็จการอย่างหนาบ้าอำนาจครับ
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
เสลา
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 514



« ตอบ #12 เมื่อ: 04-04-2006, 17:19 »

ขอบคุณคุณชด
ขอบคุณคุณ The pong

ใคร่ถามคุณชดและผู้รู้ท่านอื่นอีกนิด
ด้วยความไม่ค่อยสบายใจนัก

กรณี"การยกมวลชนไปปิดล้อมเนชั่นนั้น
มองอย่างไรก็เป็นการใช้เสรีภาพในการแสดงออกที่ล่วงสิทธิของผู้อื่น "

ต่างกับการที่กลุ่มพันธมิตรยกไปปิดล้อมสำนักงาน กกต.
หรือไม่อย่างไร

ถ้ากลุ่มมวลชนที่ปิดล้อมเนชั่นจะถูกดำเนินคดีแล้ว
กลุ่มพันธมิตรที่ยกไปปิดล้อมสำนักงาน กกต.
จะมีความผิดในลักษณะเดียวกันหรือไม่
บันทึกการเข้า

*Killer*
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: 04-04-2006, 19:28 »

อ่านตัวอักษร ของน้าชดแล้วรู้สึก...ละเอียนแก่ใจ (ละอาย+เอียน) จริงๆ
อารยชน คือการแสวงหาทางออกร่วมกันอย่างผู้มีวัฒนธรรมทางการเมือง
ไม่ใช่ แสวงหาทางตัน แสวงหาแต่หนทางมืดมิด สติปัญญามืดบอด
บันทึกการเข้า
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 04-04-2006, 19:36 »

อ้างจาก: *Killer*
อ่านตัวอักษร ของน้าชดแล้วรู้สึก...ละเอียนแก่ใจ (ละอาย+เอียน) จริงๆ
อารยชน คือการแสวงหาทางออกร่วมกันอย่างผู้มีวัฒนธรรมทางการเมือง
ไม่ใช่ แสวงหาทางตัน แสวงหาแต่หนทางมืดมิด สติปัญญามืดบอด

ขอเนื้อๆ หน่อยสิ Killer น้ำท่วมทุ่งหมดแล้ว
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
*Killer*
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #15 เมื่อ: 04-04-2006, 20:10 »

ต้องถามน้าชดแกสิ....ว่าเนื้อๆของแกน่ะอยู่ไหน
ผมก็บอกแล้วว่าหนทางสุดท้าย ท้ายสุดคือ
การตั้งรัฐบาลสมานฉันท์แห่งชาติ
บันทึกการเข้า
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 04-04-2006, 20:22 »

ความเห็นที่ดีมันก็ต้องประกอบด้วยเหตุผลสิครับคุณ Killer
คุณมาแบบ สั้นๆ ด้วนๆ บอกว่า "ตั้งรัฐบาลสมานฉันท์ คือคำตอบสุดท้าย"
แต่ไม่แสดงเหตุผลแย้งเขาเลย แบบนี้มันอ่านแล้วไม่ได้ใจความน่ะครับ
แต่ก็เป็นแค่ข้อเสนอแนะนะครับ ว่าอยากให้แสดงเหตุผลหน่อย
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
นายชด
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #17 เมื่อ: 04-04-2006, 21:29 »

อ่านตัวอักษร ของน้าชดแล้วรู้สึก...ละเอียนแก่ใจ (ละอาย+เอียน) จริงๆ
อารยชน คือการแสวงหาทางออกร่วมกันอย่างผู้มีวัฒนธรรมทางการเมือง
ไม่ใช่ แสวงหาทางตัน แสวงหาแต่หนทางมืดมิด สติปัญญามืดบอด

คุณคิลเล่อร์ว่าไปนั่น

แล้วนายทักษิณเคยทำแบบนี้เรื่องไหนบ้างก่อนยุบสภา
ขนาดยุบสภาแล้วก็ด่าคนอื่นรายวันเวลาปราศรัยหาเสียง แต่พอเข้าทำเนียบก็ทำเป็นพูดดีมีหลักการ ทำตัวเป็นคนลิ้นสองแฉก

ผมเองก็ละอายใจแทนคุณจริงๆ  ที่เชียร์จนลืมไปเลยว่า นายทักษิณทำอะไร พูดอะไร
เรื่องว กฟผ เป็นคำตอบที่ชัดที่สุดแล้วให้แก่ประชาชน ครับ ว่านายทักษิณเป็นคนแบบไหน?

อย่ามาดั้นกลอนสดแบบนี้แบบไร้ที่มาที่ไป
เด๋วผมดั้นให้บ้างหรอก  
คงจำได้นะว่าก่อนที่ผมจะสุภาพน่ะ  สมัยก่อนโน้น ผมดั้นกลอนสดด่าคนไม่แพ้ใครเหมือนกัน
บันทึกการเข้า
ดอกเข็มขาว
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 534



« ตอบ #18 เมื่อ: 04-04-2006, 22:22 »

ยังไม่ตอบเลยค่ะ ของคุณเสลา

ถ้ากลุ่มมวลชนที่ปิดล้อมเนชั่นจะถูกดำเนินคดีแล้ว
กลุ่มพันธมิตรที่ยกไปปิดล้อมสำนักงาน กกต.
จะมีความผิดในลักษณะเดียวกันหรือไม่

คอยอ่านอยู่ค่ะ
บันทึกการเข้า

นายชด
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #19 เมื่อ: 05-04-2006, 07:46 »

โอ ใช่ครับ ขอบคุณ คุณดอกเข็มขาวที่ทัก ครับ
ผมยังไม่ได้ตอบคุณเสลาเลย

"กรณี"การยกมวลชนไปปิดล้อมเนชั่นนั้น
มองอย่างไรก็เป็นการใช้เสรีภาพในการแสดงออกที่ล่วงสิทธิของผู้อื่น "

ต่างกับการที่กลุ่มพันธมิตรยกไปปิดล้อมสำนักงาน กกต.
หรือไม่อย่างไร

ถ้ากลุ่มมวลชนที่ปิดล้อมเนชั่นจะถูกดำเนินคดีแล้ว
กลุ่มพันธมิตรที่ยกไปปิดล้อมสำนักงาน กกต.
จะมีความผิดในลักษณะเดียวกันหรือไม่"

ต่างกันบางส่วนครับ

มีพฤติกรรมที่ใกล้เคียงกันคือ ข่มขู่ และล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่น
การปิดล้อมกกต. นั้น พฤติกรรมที่ล่วงละเมืดคือการขอให้รถที่ผ่านออก เปิดกระโปรงท้ายรถ และ ตรวจค้น  หากไม่ยอมก็จะไม่ให้ออก  พฤติกรรมนี้ก็เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ครับ
แต่ที่ผมว่าต่างคือ พฤติกรรมดังกล่าวนั้น ยังไม่ได้สร้างให้ผู้ถูกกระทำรู้สึกว่าหากขัดขืนจะถูกทำร้าย เพียงแต่ถูกกักบริเวณ ต่างกับพฤติกรรมของคารวานคนจนที่นอกจากกักบริเวณแล้ว ใครฝ่าฝืนอาจจะถูกทำร้าย โดยพิจารณาจากพฤติกรรมของคนที่ไปประท้วงและถ้อยคำต่างๆ
........แต่ทั้งสองเหตุการณ์ผมมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและกักขังทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ ครับ

เพียงแต่ ผู้เสียหายที่กกต. จะมีใครไปร้องทุกข์ต่อตำรวจหรือไม่?  หากมี ก็ต้องดำเนินคดี ครับ


...................
อารยะขัดขืน ควรเป็นการกระทำที่แข็งข้อกับ รัฐ  แต่ต้องไม่ทำให้เกิดความเสียหายหรือล่วงสิทธิต่อประชาชนอื่นๆ  แม้กระทั้งเจ้าหน้ารัฐผู้กระทำการโดยสุจริต

การประท้วง เรียกร้องใดๆ ก็ควรเคาระเสรีภาพส่วนบุคคลของผู้อื่นด้วยเช่นกัน
อาจมีการล่วงเกินเล็กน้อยเช่นไม่ได้รับความสะดวก  แต่ต้องไม่ใช่ถึงขนาดกักขังไม่ให้สัญจรได้เลยเช่นการขอตรวจค้นรถที่ กกต.  อันนี้ผมก็เห็นว่าเกินไป  และผู้กระทำอาจทำไปด้วยอารมณ์แห่งม๊อบโดยลืมเลือนไปว่า ตนเองกำลังล่วงเสรีภาพส่วนบุคคลของคนอื่น

ทั้งสองกรณี ไม่ดีครับ  ไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง
บันทึกการเข้า
จูล่ง_j
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,901



« ตอบ #20 เมื่อ: 05-04-2006, 09:21 »

ผมเห็นข่าว ม๊อบพันธมิตร ไปค้นรถ กกต ก็ไม่ชอบครับ ทำเกินไป
แต่ถ้า เทียบกับ ม๊อบ คาราวานคนจน เบากว่าเยอะครับ เพราะนั่นไม่ให้ใครเข้าออกเลย
มันเข้าข่าย กักขัง หน่วงเหนี่ยว
ของพันธมิตร แค่ล่วงเกินสิทธิเสรีภาพส่วนตัว
บันทึกการเข้า

tu249cm
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 693



« ตอบ #21 เมื่อ: 05-04-2006, 11:07 »

มาอ่านความคิดเห็นดีๆของเพื่อนๆค่ะ  ได้ดูภาพข่าวตอนม๊อบเถื่อนนั่นมาปิดล้อมอาคารเนชั่นแล้ว
บอกได้ว่าบางมุมป่าเถื่อนจริงๆ สงสารชาวบ้านในซอยที่พวกนั้นไปทำอาการคล้ายคนเมา ไม่ใส่เสื้อ
แล้วตะโกนด่าตะโกนท้าทายคนในอาคาร แค่นี้ก็สรุปได้แล้วว่าเป็นการข่มขู่ ล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่น
ซึ่งผิดกฏหมายอย่างชัดเจน

อืม..ชอบแฮะ !วิธีการขัดขืนแบบใหม่ที่ไม่เรียกอารยะขัดขืนแต่เป็นแบบนายชดขัดขืน 555...ให้มันรู้มั่ง!
บันทึกการเข้า

ดีใจพวกเราที่มีอุดมการณ์เดียวกันจะมีบ้านพักเล็กๆแต่อบอุ่นสำหรับมาสังสรรค์ ฮาเฮ  แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันทั้งในเรื่องการบ้านการเมืองและสัพเพเหระ (พันนาม#สมาชิกno.239)
redshadow
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2


« ตอบ #22 เมื่อ: 05-04-2006, 12:38 »

ทุกคนเชื่อในวิจารณญาณของตัวเองครับ กรญีและเหตุผลที่ยกมาเพื่อความชอบธรรมของความคิดตัวเองก็เท่านั้น
ฉะนั้นเหตุการณ์ในแต่ละครั้งมันเปรียบเทียบกันไม่ได้ ดีเลวสังคมจะตัดสินเอง ดูกันไปยาวๆครับ
ปล. จบฮานิดนึง  เฮ็ดในสิ่งที่เชื่อ เชื่อในสิ่งที่เฮ็ด  .. อะคุกๆ
บันทึกการเข้า
Anonymous
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #23 เมื่อ: 12-04-2006, 11:06 »

อาจารย์ท่านหนึ่ง ฉีกบัตรเลือกตั้ง ประท้วงการเลือกตั้งครั้งนี้

ประชาชนบางท่านจงใจทำให้บัตรเสียซะงั้น โดยขอเขียนข้อความด่านายกฯและรัฐบาลนี้ อันเป็นการแสดงออกถึงความอัดอั้นที่มีแบบไม่ทำให้ใครต้องมาหวากผวา

สิ่งที่กล่าวล้วนแล้วเป็น อารยะขัดขืน ทั้งสิ้น มันต่างจาก ออกมาสิวะ กูจะข่มขืนเช่นคาราวานคนจนทำต่อสตรีเพื่อนร่วมชาติโดยสิ้นเชิง

.........................คนไทยหลายคนอาจตาบอดมองไม่ออก แต่สากลโลกที่ทราบข่าว เขามองออก และตระหนักดีว่า เกิดอะไรในประเทศไทย และ เรา "ขาด" อะไรกันแน่ สำหรับประชาชนโดยรวม




"อารยะขัดขืน" เป็นการแสดงออกของคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ละเมิดกฎหมายที่ไม่ยอมรับ

"ออกมาสิวะ กูจะข่มขืน" คือการแสดงเจตนาประพฤติชั่วของอาชญกรรุ่มใหม่ในยุคทักษิณ นายกฯรักษาการกล้าประพฤต  !

ผมไม่แน่ใจว่า คนรักทักษิณ สาวกฯ และ หวอรูม   กี่มากน้อย เห็นดี เห็นงามและสนับสนุนเต็มที่
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #24 เมื่อ: 12-04-2006, 23:59 »

อ้างจาก: Anonymous
อาจารย์ท่านหนึ่ง ฉีกบัตรเลือกตั้ง ประท้วงการเลือกตั้งครั้งนี้

ประชาชนบางท่านจงใจทำให้บัตรเสียซะงั้น โดยขอเขียนข้อความด่านายกฯและรัฐบาลนี้ อันเป็นการแสดงออกถึงความอัดอั้นที่มีแบบไม่ทำให้ใครต้องมาหวากผวา

สิ่งที่กล่าวล้วนแล้วเป็น อารยะขัดขืน ทั้งสิ้น มันต่างจาก ออกมาสิวะ กูจะข่มขืนเช่นคาราวานคนจนทำต่อสตรีเพื่อนร่วมชาติโดยสิ้นเชิง

.........................คนไทยหลายคนอาจตาบอดมองไม่ออก แต่สากลโลกที่ทราบข่าว เขามองออก และตระหนักดีว่า เกิดอะไรในประเทศไทย และ เรา "ขาด" อะไรกันแน่ สำหรับประชาชนโดยรวม




"อารยะขัดขืน" เป็นการแสดงออกของคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ละเมิดกฎหมายที่ไม่ยอมรับ

"ออกมาสิวะ กูจะข่มขืน" คือการแสดงเจตนาประพฤติชั่วของอาชญกรรุ่มใหม่ในยุคทักษิณ นายกฯรักษาการกล้าประพฤต  !

ผมไม่แน่ใจว่า คนรักทักษิณ สาวกฯ และ หวอรูม   กี่มากน้อย เห็นดี เห็นงามและสนับสนุนเต็มที่



คคห.นี้เป็นของปุถุชน แต่มีชื่อ "ผู้เยี่ยมชม" ไปได้อย่างไร?
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
เสียงส่วนน้อย
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #25 เมื่อ: 18-04-2006, 23:58 »

วิธีการของกลุ่มต่อต้านโลกาภิวัตน์ที่ยั่วยุ รุนแรง หยาบคาย ละเมิดกฎหมายและละเมิดสิทธิของผู้อื่น ทำให้พวกเขาตกอยู่ในสถานะโดดเดี่ยว ไม่เป็นที่ยอมรับจากแม้แต่ประชากรชั้นกลางส่วนข้างมากในกรุงเทพฯ การเหมาเอาว่า จำนวนผู้ "ไม่ประสงค์ลงคะแนน" ทั้งหมดเป็นคะแนนสนับสนุนกลุ่มประท้วงต่อต้านโลกาภิวัตน์ จึงเป็นเรื่องน่าขบขัน

http://www.bangkokbiznews.com/2006/04/13/news_20391619.php

เพื่อจะได้ข้อมูลอื่นๆ บ้าง ไม่เลี่ยนมากนัก
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: