จับตาเล่ห์ร้ายแอบขายสนามบิน!

จับตาเล่ห์ร้ายแอบขายสนามบิน!

โดย หมายเหตุผู้จัดการ 11 กรกฎาคม 2549 18:33 น.

ในทัศนะของนายทักษิณนั้นมีความชัดเจนดังที่ได้พูดต่อข้าราชการชั้นผู้ใหญ่แล้วว่า สำหรับคนชั่วกฎกติกามีไว้ให้หลีกเลี่ยง ดังนั้นใน 5 ปีมานี้คนไทยจึงได้เห็นการหลีกเลี่ยงกฎกติกาและการบิดเบือนกฏกติกาเป็นเนืองนิตย์

เพราะคนเลวปกครองบ้านเมือง จึงมีแต่เรื่องหลีกเลี่ยงกฎกติกา มีแต่เรื่องบิดเบือนกฎกติกา เพื่อประโยชน์ตนและพวกพ้องโดยปล้นชิงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นของตนอย่างไม่ละอาย

จึงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่มีการกล่าวขานประณามรัฐบาลว่าไม่มีหิริโอตัปปะ

คือเป็นพวกไม่เกรงชั่ว ไม่กลัวบาป สามารถทำชั่วทำบาปกรรมได้ทุกอย่าง

และไม่แคร์ความรู้สึกของใครหน้าไหนทั้งนั้น ทำกันเป็นล่ำเป็นสันทั้งกลางวัน กลางคืน จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต้องพระราชทานกระแสพระราชดำรัสว่าด้วยหลักธรรมสี่ประการที่จะทำให้ประเทศมีความเป็นปกติสุข

นั่นคือการพระราชทานหลักธรรมสี่ประการในวันเสด็จออกสีหบัญชร ซึ่ง 1 ใน 4 ประการนั้นก็คือการตั้งตนอยู่ในความสุจริตในการปฏิบัติตามกฎกติกาอย่างทัดเทียมกัน เสมอกัน

แต่คนไม่เกรงชั่วไม่กลัวบาปไม่สำนึก กลับโหนกระแสจัดให้มีการพิมพ์กระแสพระราชดำรัสดังกล่าวออกเผยแพร่โดยไม่รู้สึกสะทกสะท้านต่อพระบรมราโชวาทนี้แม้แต่น้อย

เป็นการใช้เล่ห์เพทุบายเพื่อให้คนที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงเข้าใจผิดคิดว่าเขาคือผู้พิทักษ์คุณธรรม

แต่ผู้มีความรู้หรือทราบข้อมูลเป็นอย่างดีก็จะหัวเราะเยาะว่าคนชั่วไม่กลัวบาปที่ไหนเลยนั้นจะสามารถพิทักษ์คุณธรรมได้ อย่างมากก็ได้แค่มือถือสากปากถือศีลเท่านั้น

เพราะเหตุที่เป็นเช่นนี้จึงทำให้การดำเนินการต่าง ๆ สลับซับซ้อน ยากแก่การเข้าใจ เพราะได้ทำอย่างเป็นกระบวนการและมีแผนการอย่างแยบยล กว่าจะจับได้ไล่ทันอ้อยก็เข้าปากช้างไปเรียบร้อยแล้ว

ดังตัวอย่างการแก้ไขกฎหมายโทรคมนาคมให้ต่างชาติถือหุ้นได้ถึง 49% ไม่ถึงสามวันดีก็มีการขายหุ้นให้สิงคโปร์โดยอาศัยกฎหมายดังกล่าวนี้อย่างหน้าตาเฉย

วันนี้มีข่าวแหลมแพลมออกมาข่าวหนึ่ง แต่ไม่มีทางที่จะหลุดรอดสายตาของเราไปได้ เราจึงต้องนำมาบอกกล่าวประชาชนให้ช่วยกันจับตาดูอย่างใกล้ชิด อย่ากระพริบตา

เราตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้คือแผนการเอาสนามบินพาณิชย์ทั่วประเทศไทยขายให้กับต่างชาติ

เหตุที่เราตั้งข้อสังเกตเช่นนี้ก็เพราะว่าเราได้ยินข่าวแว่ว ๆ มาระยะหนึ่งแล้วว่าหนึ่งในแผนการหาเงินมาอุดกระเป๋าและฉกฉวยเอาประโยชน์ตัวนั้นคือการเอาสนามบินออกขายแก่ต่างชาติ

เป็นการรื้อฟื้นแนวคิดของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ในยุคหนึ่งซึ่งอยู่ในยุคที่ประเทศต้องการใช้เงิน แต่ขณะนี้เป็นคนละสถานการณ์

แต่การฟื้นแนวคิดนี้เป็นไปเพื่อจะเพิ่มจำนวนเงินในกระเป๋าของพวกนักการเมืองและทุนการเมืองที่มีอำนาจเท่านั้น ไม่ใช่ผลประโยชน์หลักของประเทศชาติ

และด้วยลีลากระบวนท่าของพวกทุนการเมืองในระบอบใหม่นี้ จึงต้องมีความลึกลับซับซ้อนกว่าแนวคิดเก่ามากมาย

สิ่งที่พวกเขาขับเคลื่อนแผนการนี้และที่เราจับกระแสทำให้ยืนยันถึงข่าวที่เราได้แว่วยินมาก็คือ จะมีการดำเนินการเป็นขั้นตอนดังนี้

ขั้นที่หนึ่ง เป็นขั้นตอนการเตรียมเงินด้วยมายาภาพว่าเป็นการลงทุนของคนไทยเอง โดยจะมีการอนุญาตให้จัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อการซื้อสนามบิน และได้รับสิทธิ์พิเศษมากมาย

กองทุนที่ว่านี้จะให้สิทธิ์ต่างชาติซึ่งย่อมรวมถึงฝรั่งหัวดำเข้ามาถือกองทุนได้ด้วย

ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนอนุญาตเป็นการทั่วไป ซึ่งใครที่ไม่รู้เท่าทันก็จะเข้าใจว่าเป็นเรื่องการลงทุนธรรมดา

ขั้นที่สอง คือขั้นแปรรูปสนามบินพาณิชย์โดยขายให้กับกองทุน นั่นก็คือการขายทรัพย์สมบัติของชาติที่เป็นสนามบินให้กับกองทุนที่จะมีการเตรียมการและจัดตั้งขึ้นตามขั้นตอนที่หนึ่ง

กว่าที่คนอื่นจะรู้ตัวอ้อยก็เข้าปากช้างเรียบร้อยไปแล้ว!

เมื่อถึงเวลานั้นสนามบินพาณิชย์ทั่วประเทศก็จะตกเป็นของต่างชาติที่เป็นเจ้าของในนามของกองทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อการซื้อสนามบิน โดยมีทุนการเมืองและนักการเมืองใหญ่เป็นนายหน้าค้าสมบัติชาติดังกล่าว

คนไทยทั้งประเทศก็จะต้องใช้สนามบินของต่างชาติในประเทศไทย ซึ่งเขาจะตั้งเงื่อนไขในการใช้สอยอย่างไรและเรียกค่าใช้สอยอย่างไรก็ได้ตามใจชอบ

แม้ถึงขนาดจะเขียนป้ายห้ามหมาและคนไทยเข้าไปในสนามบินก็ย่อมทำได้ด้วย

ดังนั้นคนไทยจะต้องเตรียมการอย่างไรจึงจะหยุดยั้งการปล้นสมบัติชาติเรื่องนี้ได้

เราเห็นว่าต้องดำเนินการสองอย่าง

อย่างแรก บรรดาพนักงานรัฐวิสาหกิจและข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับสนามบินและกองทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อการซื้อสนามบินจะต้องติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดที่สุด

และต้องนำข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือแผนการที่จะนำสนามบินออกขายเปิดเผยต่อสาธารณะ หรือส่งให้กับสื่อมวลชนไทยอย่างต่อเนื่องทันท่วงที รวมทั้งการกระชากหน้ากากของพวกขายชาติที่กำลังสุมหัวกันจะเอาทรัพย์สมบัติของชาติไปขายให้กับต่างชาติอย่างต่อเนื่องด้วย

อย่างที่สอง คนไทยทั้งประเทศจะต้องร่วมใจกันพิทักษ์รักษาสมบัติของชาติไว้อย่างเต็มกำลังความสามารถ จะไม่ปล่อยให้มีการแอบขายสนามบินซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของชาติให้กับต่างชาติโดยเด็ดขาด

แต่การที่จะพิทักษ์รักษาสมบัติของชาติให้ได้ผลจริงนั้นก็ต้องมีรัฐบาลของประชาชนเข้ามาจัดการดูแล

เพราะถ้าตราบใดที่โจรยังครองบ้านครองเมืองอยู่ และเป็นคนที่ไม่เกรงความชั่ว ไม่กลัวต่อบาป ก็ยากที่จะระมัดระวังรักษาทรัพย์สมบัติของชาติเอาไว้ได้

เหมือนกับมีโจรอยู่ในบ้าน เจ้าของบ้านไม่มีวันที่จะนอนหลับตาได้สนิท จะต้องคอยระมัดระวังอยู่ร่ำไป

ไหน ๆ คนไทยก็จะต้องเลือกอยู่ข้างพระเจ้าอยู่หัวอยู่แล้ว ก็ต้องขับไล่พวกโจรกบฏให้หมดจากแผ่นดินโดยเร็วที่สุดด้วย.