ไม่ได้ฟ้องแค่'พ่อบุช' ยังมี'อังกฤษ-อาเซียน'

ไม่ได้ฟ้องแค่'พ่อบุช' ยังมี'อังกฤษ-อาเซียน' เตือนคนด่า'ผู้มีบารมี' จะไม่มีแผ่นดินจะอยู่!

11 July 2006 10:18

“ไกรศักดิ์” แฉต่อ ไม่ได้ฟ้องแค่สหรัฐฯ แต่ยังส่งจม.ฟ้องถึงอังกฤษและอาเซียนทุกประเทศด้วย เหน็บมีเวลาว่างไปเดินเล่นเอ็มโพเรียม ทั้งที่ควรสะสางปัญหาที่สังคมถกเถียงจะดีกว่า “โสภณ” เชื่อคงไม่กล้าเปิดชื่อ “ผู้มีบารมีนอกรธน.” เพราะดีแต่ด่าลับหลัง-ใส่ร้ายตลอดเวลา โวถ้าบอกไป “คนบางคนจะไม่มีแผ่นดินจะอยู่”

นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัน รักษาการส.ว.นครราชสีมา กล่าวยืนยันว่า ข้อมูลที่นำมาเปิดเผยเรื่องจดหมายที่มีการทำถึงประธานาธิบดีสหรัฐนั้น เป็นการตั้งคำถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ (ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี) ออกมาระบุถึง “ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ” ที่ทำให้สถานการณ์บ้านเมืองวุ่นวาย จะสอดคล้องกับที่ตนได้ข่าวมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ทำหนังสือรายงานสถานการณ์ต่อผู้นำประเทศต่างๆ หรือไม่ ทั้งนี้ตนได้ข้อมูลใหม่มาว่า หนังสือฉบับนี้ไม่ได้ทำส่งไปแค่ที่ผู้นำสหรัฐอเมริกาคนเดียว แต่ยังส่งไปยังประเทศอังกฤษ และประเทศอาเซียนทุกประเทศด้วย อีกทั้งพ.ต.ท.ทักษิณยังได้เข้าไปพูดคุยกับผู้นำบางประเทศด้วยตัวเอง ความจริงแล้วเรื่องนี้หากไม่มีอะไรจริงๆ พ.ต.ท.ทักษิณต้องกล้าเปิดเนื้อหาในหนังสือ เพราะหากปล่อยไว้เนิ่นนานออกไป ก็จะส่งผลเสียทั้งต่อประเทศชาติและ พ.ต.ท.ทักษิณเอง

"วันนี้ผมยังเจอคุณทักษิณเดินเล่นที่ห้างเอ็มโพเรียม ถ้ามีเวลาว่างขนาดนี้ควรนำเวลามาสะสางเรื่องที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันในสังคมดีกว่า"นายไกรศักดิ์กล่าว

นายโสภณ สุภาพงษ์ รักษาการส.ว.กทม. ที่มีความใกล้ชิดกับพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษกล่าวว่า รู้สึกกังวลกับสถานการณ์การเมืองในช่วงนี้ ว่าจะนำไปสู่ความรุนแรง ซึ่งนอกจากตนแล้ว “ผู้ใหญ่” อีกหลายคนก็เป็นห่วง เพราะความกังวลเหล่านี้มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้น แต่ยังไม่รู้ว่าจะรุนแรงแบบใด แนวโน้มความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้นมาจากการปลุกระดมของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่หลงในอำนาจเข้าใจผิดว่า ตัวเองผ่านการเลือกตั้งแล้วยึดครองประเทศไทยได้ทั้งหมด เข้าใจว่าตัวเองเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ทั้งๆ ที่อำนาจอธิปไตยที่แท้จริงนั้นอยู่กับประชาชน การเลือกตั้งเป็นเพียงหนึ่งในหลายส่วนของโครงสร้างการปกครอง และเมื่อเกิดวิกฤตการณ์ในบ้านเมือง พระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจอธิปไตยผ่านรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ได้ตามมาตรา 3 ของรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรี เป็นแค่ 1 ใน 3 ฝ่ายที่อยู่ใต้อธิปไตยเท่านั้น ดังนั้นการเข้าใจผิดในอำนาจของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ทำให้มีพฤติกรรมท้าทายอำนาจประชาธิปไตยของประชาชน ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงในที่สุด

"เมื่อคุณทักษิณเข้าใจอำนาจอธิปไตยแบบผิดๆ ก็สื่อความหมายกับต่างชาติผิดๆ พยายามไปบอกกับต่างประเทศว่าเขาเท่านั้นที่เป็นเจ้าของประเทศ แล้วพูดจาใส่ร้ายคนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งต่างประเทศก็ไม่ได้สนใจว่าเราจะเป็นอย่างไร เพียงแต่ต้องการผลประโยชน์ของเขาที่อยู่ในประเทศไทยโดยผ่านคนบางตระกูลในประเทศ เป็นความสัมพันธ์เชิงส่วนตัวเท่านั้น"นายโสภณกล่าว

ส่วนกรณีบุคคลผู้มากบารมีนั้น นายโสภณเชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะไม่กล้าออกมาเปิดเผยว่าคนคนนั้นหมายถึงใคร ทั้งๆ ที่เจ้าตัวรู้อยู่เต็มอกว่าหมายถึงใคร เพราะพ.ต.ท.ทักษิณเคยไปพูดใส่ร้ายคนคนนี้ไว้ที่ต่างๆ มากมาย แต่ที่ผ่านมาเป็นการพูดในทางลับ

"คุณทักษิณมีอคติกับคนคนนี้เป็นพื้นฐานมานานแล้ว ไปพูดไว้หลายๆ ที่ คิดว่าคงลำบากใจถ้าจะออกมาพูดว่าเป็นใคร เพราะเท่ากับเป็นการโกหกคนหลายคนที่รู้เรื่องนี้ คุณทักษิณเคยพูดไว้หลายเรื่องที่ร้ายแรงมาก ถ้าผมบอกไปจะทำให้คนบางคนไม่สามารถอยู่บนแผ่นดินนี้อีกต่อไป ซึ่งผมได้บอกเรื่องนี้กับผู้ใหญ่หลายคนแล้ว แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดต่อสาธารณะ"รักษาการส.ว.กทม.ผู้นี้กล่าว

นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง รักษาการส.ว.กทม. กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่ถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่บอกถึงวุฒิภาวะของนายกรัฐมนตรี เมื่อถูกกดดันมากๆ ก็ต้องการหาทางออก

"ผมว่าความคิดเรื่องประชาธิปไตยของรักษาการนายกรัฐมนตรีมีปัญหา คือท่านคิดแต่ว่าประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง และการมีเสียงข้างมากในรัฐสภา พอท่านถูกกดดันมากก็คิดแบบนักธุรกิจว่าจะต้องหาทางต่อรอง โดยขอให้ผู้มีอำนาจต่างประเทศออกมาช่วยเหลือ"รักษาการส.ว.กทม.กล่าว