"สุเมธ"ยันไม่สนคนถือป้ายด่า เหตุไม่จำเป็นต้องไปคลุกขยะ คมชัดลึก 2006-07-10
"สุเมธ" ระบุ คนไทยหลงกระแสโลกาภิวัฒน์ เตือนอย่าเดินหลงทางอย่าลืมรากให้ยึดหลักทิศพิธราช ธรรมของในหลวง เผยมีคนจ้างคนมาด่า แต่ไม่สน พร้อมตำหนินโยบายลดภาคเกษตรไปทำอุตสาหกรรม บ้าตัวเลขการเจริญเติบโตเศรษฐกิจ ทำนายปีหน้าอาจจะเจอกับน้ำมันดีเซล 2 ลิตร 100
(10ก.ค.) นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวปรากถฐาหัวข้อ"ตามรอย เบื้องยุคลบาท" ในการอบรมหลักสูตรภาคจริยธรรมเนติบัญฑิต สมัยที่ 58 ว่า ตอนนี้คนกำลังเดินหลงกระแสโลกาภิวัฒน์ โดยการหลงไปตามฝรั่ง
จึงขอเตือนคนไทยว่า อย่าเดินหลงทิศ เราเป็นคนไทยอย่าลืมรากเสรีนิยม กระตุ้นให้เกิดความโลภ จึงอยากให้อยู่ไปตามฐานะ ถ้ารวยแล้วอยู่อย่างจนจะมีความสุข อย่าปล่อยให้ความร่ำรวยมาเป็นนาย
ถ้าหลงกระแสจนเกิดความโลภ โกงกิน คอร์รัปชั่น ในหลวงทรงแช่งให้มีอันเป็นไป สำหรับนักกฎหมาย ต้องยึดหลักสุจริตเป็นที่ตั้ง ถ้าไม่มีความยุติธรรม ประเทศก็ไปไม่ได้ เมื่อเกิดความโลภ ก็ทำให้ตัดสินใจผิดไปหมด โกงกินทะเลาะกัน กัดกัน ไร้สาระมากขึ้น
"บ้านเมืองเสียเวลากับเรื่องไร้สาระไปมากแล้ว จึงขอให้ยึดหลักธรรมของในหลวง คือทศพิธราชธรรม ซึ่งในหลวงประกาศไว้ก่อน Good Government ของฝรั่ง ทั้งนี้ Good Government บอกว่าเป็นความโปร่งใส หมายถึง ใสจนโกงอย่างไรก็จับไม่ได้ใช่หรือไม่ บริษัท เอ็นร่อน เป็นต้นตำรับ Good Government ก็มีการโกงกันระดับโลก ซีอีโอของบริษัทต้องติดคุก " นายสุเมธกล่าว
นายสุเมธกล่าวว่า ขอให้ยึดตามหลักทศพิธราชธรรมจะดีกว่า ซึ่งประกอบด้วย 1.ทาน คือการรู้จักให้ โดยไม่หวังประโยชน์กลับคืนมา ผู้พิพากษาต้องให้ความเป็นธรรม อัยการต้องปฏิบัติตามหน้าที่ แม้แต่ทนายความก็ต้องทำหน้าที่ให้ดี ไม่ใช่ช่วยโจรให้พ้นทุกข์ ทุกรอบไป
2.ศีล 3.บริจาค คือการเสียสละส่วนน้อย เพื่อให้ได้ประโยชน์ยิ่งใหญ่แก่ประเทศ 4.อาชชวํ คือ ความซื่อตรง ขอให้ถือว่า การกระทำทุจริตเป็นการทุจริตต่อหน้าพระพักต์ เพราะการรับเงินคอร์รัปชั่น พระพักตร์บนธนาบัตรทุกใบจ้องเขม็ง
5.มัททวํ คือ การสุภาพอ่อนโยน ไม่ใช่มีอำนาจ และเดินคอกาง การมีตำแหน่งใหญ่โต ไม่ใช่มีเกียรติ แต่คนต่างหากที่ทำให้มีเกียรติ
6.ตป คือ ความพอเพียงแก่กิเลส 7.อนฺ โกธ คือ ความไม่โกรธ 8.ไม่เบียดเบียนกัน อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข 9.ขันติ คือ ความอดทน เพราะชีวิตต้องมีความทุกข์ 10. การไม่ยอมทำความผิดต่อความถูกต้อง ผิดในหลักกฎหมาย ทั้งนี้ หากทุกคนปฏิบัติได้ใน 10 ข้อนี้ ก็จะดำรงอยู่ในความถูกต้อง ไม่ต้องหวั่นไหวใด ๆ ทั้งสิ้น แต่อย่าหลงว่าตัวเองทำถูกต้อง
"ตอนนี้มีคนจ้างคนมาด่าผม แต่ผมมั่นใจว่าทำถูกต้อง ก็เฉยไม่สนใจ เหมือนเห็นกองขยะกองอยู่ ไม่มีประโยชน์ที่จะลงไปคลุกในกองขยะ " เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา นายสุเมธ กล่าวว่า ขอให้เนติบัณฑิต ยึดตามหลักเศรษฐกหิจพอพียง ซึ่งความพอประมาณไม่ใช่รัดเข็มขัด ก่อนหน้านี้เราเคยบ้าอยากเป็นมิตร ต่อมาก็บ้าไม่อยากเป็นคน อยากเป็นเสือตัวที่ 5 ลดภาคการเกษตรไปทำอุตสาหกรรม โดยไม่มีความพร้อม ต้องกู้เงินซื้อเทคโนโลยีมาทำ แล้วก็บ้าตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
บ้าโดยไม่ดูว่าใครได้เท่าไหร่เพราะทุก 100 บาทตัวเลขความร่ำรวย คนไม่กี่ตระกูล คว้าไป 57 บาท ประเทศไม่ได้รวย คนรวยมีอยู่ไม่กี่คน ขณะที่คนจนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศได้ไม่กี่บาท สมัยที่ตนเป็นเลขาธิการสภาพัฒน์ฯ เคยเสนอให้พัฒนาคน แต่ไม่มีใครเอาด้วย ตอนนี้ทุกประเทศในโลก หันมาให้ความสำคัญกับคนแล้ว
"จึงขอฝากเตือนอีกครั้งว่า อย่าไปตื่นตามโลกาภิวัฒน์ ซึ่งกระตุ้นการบริโภคไม่หยุดยั้ง วันนี้มนุษย์บริโภค 3 ต่อ 1 เป็นการกินมากกว่าของที่มีอยู่ การขยายต้องไม่ขยายไปสู่ความตายและความพินาศ ปัญหาคือจะทำอย่างไร ให้บริโภคไป 1 กลับคืนมา 1
ซึ่งก็คือการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่เราต้องเตรียมรับสถานการณ์ให้ได้ เพราะก่อนหน้านี้ในหลวง ศึกษาเรื่องไบโอดีเซล แต่ไม่มีใครสนใจ จนกระทั่งน้ำมันดีเซล ราคา 3 ลิตร 100 จึงค่อยกระตุ้นให้ปลูกปาล์ม แล้วเปิดน้ำมันไบโอดีเซล แต่กว่าจะได้ลูกปาล์ม ต้องรอถึง 5 ปี ซึ่งในปีหน้าเราอาจจะเจอกับน้ำมันดีเซล 2 ลิตร 100" นายสุเมธ กล่าว
นายสุเมธ ได้กล่าวอัญเชิญพรของในหลวง มอบให้แก่เนติบัณฑิต ก่อนจบการปราฐกถาว่า ทุกคนเป็นเหล็ก อย่าได้หมดกำลังใจเวลาทำงาน การทำงานต้องถูกทุบ ถูกตี เพื่อให้เหล็กกลายเป็นดาบ ที่มีค่า สำหรับฝ่าฟันอุปสรรค
http://www.komchadluek.net/2006/07/10/a001_26450.php?news_id=26450 ช่วงนี้ อ.สุเมธ ปรากถฐาบ่อยนะครับ
ใครหนอ จ้างคนไปถือป้าย ด่าท่าน เลวจริงๆ