ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ร่อนหนังสือถึงคลังขอออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ 1 หมื่นล้าน หลังปล่อยกู้สนองนโยบายรัฐมากไป หวั่นทำให้เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงต่ำกว่าที่แบงก์ชาติกำหนด ขณะที่ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะแนะให้ระดมทุนจากแหล่งเงินในประเทศ
นายไชยยศ สะสมทรัพย์ รักษาการ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้ยื่นขอกระทรวงการคลัง ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ (Sub Debt) วงเงิน 10,000 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2549 นี้ เพื่อช่วยเพิ่มเงินกองทุนของธนาคาร เนื่องจากขณะนี้ ธอส.ประสบปัญหาจากการปล่อยสินเชื่อมากเกินไป จึงเป็นปัญหาอาจทำให้เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง(BIS) อยู่ระดับต่ำกว่า 8.5 เท่า ตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้ ซึ่งได้มอบหมายให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)หารือถึงแนวทางดำเนินการต่อไป
โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะได้เสนอให้ ธอส. ออกหุ้นกู้ฯ ระดมเงินในประเทศ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการก่อหนี้ต่างประเทศ ในขณะที่ ธอส. ต้องการระดมเงินต่างประเทศ เนื่องจาก มีต้นทุนที่ต่ำกว่า จึงมอบหมายให้ สบน. จัดหาแหล่งเงินกู้ในประเทศต่อไป
รักษาการ รมช.คลัง กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องการสื่อสารผิดพลาดระหว่างธอส.กับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
" เช่นกรณีที่ ธอส. มีพันธบัตรครบกำหนดไถ่ถอน 2,000 ล้านบาท แต่เกิดปัญหาที่ สำนักหนี้ฯได้ออกหนังสือชี้ชวน ที่จะไม่ค้ำประกันพันธบัตรของ ธอส. ทำให้ต้นทุนการออกพันธบัตรครั้งใหม่ มีต้นทุนสูง จากเดิม ถึง 0.7% ดังนั้น ในการออกพันธบัตรโรลโอเวอร์หนี้ ครั้งต่อไป จึงต้องการให้มีการสื่อสารระหว่างองค์กรกันมากขึ้น เพื่อให้เกิดปัญหาขึ้นอีก" นายไชยยศ กล่าวและว่า
นอกจากนี้ ธอส. มีแผนการระดมเงิน โดยวิธีการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (ซีเคียวริไทเซชั่น) วงเงิน 40,000 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาเรื่องเงินทุน โดยคาดว่าจะประกาศข้อเสนอ (ทีโออาร์) ให้ ผู้สนใจซื้อกองทุนทรัพย์สินไปบริหารได้ ในปลายปี 2549 นี้
ด้านนายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ธนาคารได้เสนอแผนภาพรวมการระดมเงิน ช่วง 3-4 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะเป็นช่วงที่มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่( เมกะโปรเจกท์) จึงต้องเตรียมแผนงานล่วงหน้ารองรับไว้แล้ว
มีรายงานข่าวแจ้งที่ผ่านมา ธอส.ได้เป็นสถาบันการเงินที่มีนโยบายปล่อยสินเชื่อสนองนโยบายรัฐในหลายๆโครงการด้วยวงเงินจำนวนมาก
http://www.naewna.com/news.asp?ID=16204