นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ของพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าการออกมาพูดของนายกฯเรื่องผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่าประชาชน เป็นการโยนความผิดให้กับบุคคลอื่นหรือคณะบุคคลว่าเป็นต้นเหตุของความวุ่นวายในบ้านเมือง เป็นการสร้างภาพให้กับตัวเองว่าเป็นผู้ปกป้องประชาธิปไตยด้วยชีวิต แต่ความจริง 4-5 ปีที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณได้ใช้ระบอบประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือแสวงหาอำนาจ แสวงหาประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง ที่สำคัญเป็นการสร้างภาพให้เห็นว่าผู้มีบารมีมีอำนาจเข้ามาแทรกแซงทางการเมืองได้ โดยมีช่วงหนึ่งที่นายกฯบอกว่ามีขบวนการแอบอ้างที่จะตั้งรัฐบาล แทนรัฐบาลปัจจุบันและคนมาเป็นรัฐมนตรี
นายองอาจ กล่าวว่า คำพูดของนายกฯเป็นการประกาศวัดบารมีให้เห็นกันชัดๆ เพราะนายกฯรู้ตัวดีว่าพูดอะไร และสามารถมองเห็นผลในอนาคตหลังจากพูด ซึ่งเป็นการประกาศบารมีของตัวเอง เป็นการประกาศศัตรูเพิ่มเติมของนายกฯ ที่สำคัญการพูดต่อหน้าข้าราชการและสาธารณชนได้รับรู้ สะท้อนให้เห็นว่าขณะนี้อำนาจของพ.ต.ท.ทักษิณสั่นคลอน และพยายามรักษาไว้ทุกรูปแบบ ทั้งใต้ดินและบนดิน โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวถึงการประกาศชุมนุมใหญ่ของเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในวันศุกร์ที่ 14 ก.ค.เพื่อเรียกร้องให้นายกฯเปิดเผยผู้มีบารมีนอกเหนือรัฐธรรมนูญว่า ถือเป็นการแสดงออกของประชาชนตามรัฐธรรมนูญและคงจะไม่ยืดเยื้อหากนายกฯยอมออกมาเปิดเผยว่าผู้มีบารมีคือใคร แต่ที่ประชาชนรับไม่ได้ที่นายกฯจะออกมาพูดจาจาบจ้วงใครก็ได้ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และการออกมาชี้แจงไม่ใช่แค่ปัดสวะให้พ้นตัว แต่ต้องพูดเพื่อสร้างความเข้าใจและเพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่รัฐบาลจะไปสร้างสถานการณ์ให้รุนแรงขึ้น
นายองอาจ ยังกล่าวถึงกรณี นายไกรศักดิ์ ชุณหวัน รักษาการ สว.นครราชสีมา ออกมาระบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณทำหนังสือถึงนายจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ประธานาธิบดีสหรัฐ โดยระบุว่าประชาธิปไตยของประเทศไทยถูกทำลายโดยผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้มีความสับสนว่าหนังสือดังกล่าวมีหรือไม่อย่างไร เพราะเลขาธิการนายกรัฐมนตรีออกมายอมรับว่ามีหนังสือจริง แต่โฆษกรัฐบาลบอกว่าไม่ใช่จดหมายส่วนตัว และเป็นไปตามขั้นตอนของกระทรวงต่างประเทศ ขณะที่กระทรวงต่างประเทศอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ เพราะไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนและไม่สามารถติดต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศได้ ซึ่งอยู่ในระหว่างเดินทางไปประเทศนิวซีแลนด์และสหรัฐ
นายองอาจกล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าท่ามกลางยุคข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพราะเหตุใดข้าราชการในกระทรวงไม่สามารถติดต่อรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงได้ ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกัน ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลนำจดหมายถึงกล่าวมาเปิดเผยถึงเนื้อหาสาระ เพราะเชื่อว่าในจดหมายมีความสำคัญและลึกลับพอสมควร แม้แต่กรมสารนิเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ติดต่อกับประชาชน และทั่วโลกยังไม่รู้เนื้อหาสาระของจดหมายดังกล่าว จึงอยากให้นายกฯนำเรื่องนี้มาเปิดเผยเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนว่าในจดหมายดังกล่าวมีการเขียนว่าประชาธิปไตยของไทยถูกทำลายโดยผู้บารมีนอกรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะหลายครั้งที่นายกฯเดินทางไปต่างประเทศมีข้อครหาถึงความเคลือบแคลงสงสัยหลายประการ ซึ่งการพูดเชื่อมโยงไปถึงใครบางคนถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ดังนั้นต้องทำให้เกิดความกระจ่างโปร่งใส
http://www.posttoday.com/breakingnews.php?sec=breaking&id=108015