(11ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี วันนี้ได้เก็บตัวเงียบภายในบ้านพัก หมู่บ้านเบเวอร์ลี่ฮิลส์ ย่านแจ้งวัฒนะ ตลอดทั้งวัน โดยนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน ในฐานะเลขานุการส่วนตัว เข้าพบ จากนั้นเวลา 13.30 น. นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ ได้เข้าพบโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
จากนั้นเมื่อเวลา 16.45 น.
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เดินออกมาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่หน้าบ้านพักด้วยสีหน้าอิดโรย ถึงกรณีที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบกรณีการปะทะกันระหว่างตำรวจ กับกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า “ก็นี่ไงผมก็จะตั้งกรรมการขึ้นมา 2 ชุด ทั้งกรรมการเยียวยาและกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพราะข่าวขณะนี้ก็สวนทางกันไปมา ทางนี้ก็ว่าตัวเองถูก ทางนั้นก็ว่าผิด และความจริงวันนี้ทรัพย์สินของรัฐก็เสียหายไปมาก อย่างทำเนียบฯ วันนี้ก็เข้าใจว่าคงเสียหายไปเยอะ ซึ่งก็คงต้องดูว่าเสียหายไปอย่างไร ใครทำอะไรไปบ้าง ”ต่อข้อถามที่ว่าได้คุยกับผบ.ทบ.และผบ.เหล่าทัพบ้างหรือยัง นายสมชาย กล่าวว่า ตนก็คุยเรื่องงาน แต่เรื่องความขัดแย้งไม่มี
เมื่อถามต่อว่าแสดงว่ากองทัพกับรัฐบาลยังมีความเข้าใจอันดีต่อกันใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกอย่างที่ผ่านมาตนคิดว่าคนที่อยู่ในวงการก็เข้าใจ ซึ่งตนก็ไม่อยากจะพูดมากในตอนนี้ เพราะถ้าพูดไปก็เหมือนกับว่าฝ่ายโน้น ฝ่ายนี้มาแก้ตัวกัน ตนจึงคิดที่จะตั้งกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่าการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงถือเป็นการแสดงความรับ ผิดชอบที่เพียงพอหรือยัง นายสมชาย กล่าวว่าตนก็พยายามทำในสิ่งที่ดีที่สุด เพราะวันนี้เราจะไปโทษว่าคนนี้ผิด คนนี้ถูกไม่ได้ พูดไปก็เหมือนมาทะเลาะกัน ตนก็ไม่ชอบให้มีบรรยากาศเช่นนั้น ทุกอย่างก็ให้รอฟังผลการสอบสวนดีที่สุด ซึ่งคนที่ได้ทาบทามเข้ามาเป็นประธานสอบข้อเท็จจริงนั้น ตนก็เป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลหรือใครทั้งนั้น เชื่อว่าจะเป็นที่ยอมรับของสังคม ซึ่งขณะนี้ได้ทาบทามเรียบร้อยแล้ว แต่ท่านขอว่าอย่าเพิ่งเปิดเผย เพราะท่านต้องกลับไปสะสางงานของท่านก่อน และเตรียมสรรหาผู้ที่จะมาเป็นกรรมการร่วม อย่างไรก็ตามภายใน 2 วันนี้คงจะเปิดเผยได้ ส่วนระยะเวลาที่กำหนดให้สอบสวนนั้น ตนคิดว่ากรรมการคงทำได้อย่างรวดเร็ว แต่เราจะไม่ไปบังคับว่าต้องให้เสร็จภายในกี่วัน เพราะเท่าที่ท่านมาช่วยจัดการให้ก็ถือว่าดีแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ปัญหาความขัดแย้งในสังคมส่งผลกระทบต่อประเทศมาก รัฐบาลจะมีท่าทีอย่างไร นายสมชาย กล่าวว่า ความขัดแย้งในสังคมเกิดมาตั้งแต่ก่อนปี 49 และมีมาตลอด บ้านเราเกิดความแตกแยกเช่นนี้มาตลอด ซึ่งหลายฝ่ายก็พยายามประคับประคองกันไป จนมาถึงรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ความขัดแย้งก็เริ่มรุนแรงขึ้น เราก็อยากให้บ้านเมืองสงบ แต่ที่ผ่านมาก็ยังมีความขัดแย้งอยู่
ถามว่าปัจจุบันรัฐบาลเองยังไม่สามารถจะทำงานได้ จะแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า ถูกต้อง ตนยอมรับว่าการทำงานเกิดความไม่สะดวก แต่ตนก็ไม่เคยหยุดทำงาน เพราะยังมีหลายเรื่องที่ต้องให้ทำ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ข้าว ก็ได้ทำมาตลอด รวมถึงการเตรียมงานรัฐพิธีต่าง ๆ ก็หยุดไม่ได้
เมื่อถามว่าจะเริ่มเดินทางไปเยือนประเทศอาเซียได้เมื่อไหร่ นายสมชาย กล่าวว่า หลังจากปัญหาทุกอย่างจบแล้วก็จะเดินทางไปเยือนทันที เพราะโดยมารยาทต้องเดินทางไปทันที แต่ขณะนี้เราก็เห็น ๆ กันอยู่
ส่วนคิดว่าอีกนานหรือไม่ปัญหาถึงจะจบ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ไม่น่าจะนาน
ต่อข้อถามที่ว่าแสดงว่ายังไม่มีความคิดเรื่องยุบสภาหรือลาออกในขณะนี้ใช่ หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า “ ผมได้บอกไปแล้วว่าเป็นเรื่องที่ผมต้องพิจารณา คิดทั้งระยะสั้นและระยะยาวให้ดีที่สุด ผลประโยชน์ไม่ได้อยู่ที่ผมหรอก ผมไม่ใช่เป็นคนยึดมั่นถือมั่นในตำแหน่งหน้าที่ หรืออยากได้ใคร่มีในลาภยศหรือวาสนาใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ก็ต้องคิดถึงว่าถ้ายุบสภาตอนนี้มันดีตรงไหน และเสียตรงไหน หรือลาออกดีตรงไหน เสียตรงไหน เอามาบวกลบกันดู สื่อก็ไปช่วยบวกลบคูณหารด้วยแล้วกัน ”
ถามว่าตอนนี้คิดว่ามีผลดีและผลเสียเป็นอย่างไรบ้าง นายสมชาย กล่าวย้อนว่าก็ให้ผู้สื่อข่าวไปทำการบ้านให้ตนก่อน
เมื่อถามว่ารัฐบาลจะเดินหน้าตั้ง ส.ส.ร. 3 ต่อไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในนามรัฐบาลสนับสนุนอยู่ตลอดตามนโยบายที่ได้แถลงไป ซึ่งถ้า ส.ส.ร. 3 เสร็จแล้ว จะยุบสภาฯ หรือทำอย่างไรก็ว่ากันไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯจะเคลื่อนไปที่สำนักงานตำรวจแห่ง ชาติในวันที่ 13 ต.ค. จะดูแลอย่างไรไม่ให้เกิดความวุ่นวาย นายสมชาย กล่าวว่า
มันเป็นความผิดรัฐบาลหรือเปล่า ต้องถามว่าความวุ่นวายเกิดจากรัฐบาลหรือเปล่า เราพยายามเต็มที่ อย่างที่ตนได้ร้องขอว่าไม่ต้องวุ่นวายได้หรือไม่ เพราะเวลาเกิดเหตุแล้วก็มาโทษกัน
ถามว่าจนถึงขณะนี้แนวทางการเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯ ยังเดินหน้าต่อหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่าตนก็พร้อมที่จะเจรจา เราคนไทยด้วยกัน พูดภาษาเดียวกัน ส่วนคนที่จะมาเจรจาแทนพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ นั้น ก็ต้องหาคนใหม่ ซึ่งก็มองไว้หลายคน ซึ่งตนอยากจะคุยให้เร็วที่สุด เพราะอยากให้เรียบร้อย ไม่อยากให้มาทะเลาะตีหรือฟันแทงกัน มันไม่ดี ไอ้บ้า
เอาแขนขาและชีวิตประชาชนคืนมา