เปลวสีเงิน
'ทักษิณ'ที่ไม่ได้เจตนา..แต่จงใจ!
3 กรกฎาคม 2549 กองบรรณาธิการ
"คนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" หมายถึงใคร..? ผมได้ยินใคร-ต่อใคร รวมทั้งบรรดานักข่าวทั้งหลายทำเป็นกระ***นกระหือรือประมาณว่า
"เค้นคอถาม" เอากับเจ้าของคำพูดประโยคนั้นคือ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" มาตั้งแต่เย็นวันศุกร์โน่นแล้ว
เจ้าตัวก็เอาแต่อมยิ้ม-ออกลีลา..ไม่เอา..เราไม่พูด!
ผมไปนอนอ่าน "วาทกรรม" ของท่านนายกฯ ที่มีต่อบรรดาหัวหน้าส่วนราชการทั้งหลายที่มาเสริมบารมีจนเนืองแน่นทำเนียบรัฐบาลเมื่อ ๒๙ มิถุนา.นั้นแล้ว
อ่านจบ "สามัญสำนึก" ก็ตอบด้วยตัวมันเองว่า
นับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีคนที่ ๑ พระยามโนปกรณ์นิติธาดา เรื่อยมาจากปี พ.ศ.๒๔๗๕ จนมาถึงขณะนี้ พ.ศ.๒๕๔๙ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๓ ของประเทศไทย
มีนายกรัฐมนตรีท่านนี้ "ท่านแรก และ ท่านเดียว" ที่กล้าหาญประกาศวาทกรรมอันต้องบันทึกไว้เป็น "หมายเหตุแห่งเหตุประเทศไทย" กันเลยทีเดียว
ประเทศไทยวันนี้ ดูเหมือนจะเป็นเมืองของ "คนไร้เดียงสา" เพราะฟังแล้วนับตั้งแต่ เจ้าพนักงานแห่งรัฐ ตำรวจ ทหาร ข้าราชการ นักการเมือง ครูบาอาจารย์ นักวิชาการ เรื่อยลงมา
ถ้าไม่ทำเฉย เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ทำเป็นว่าข้าไม่เกี่ยวแล้วละก็ ก็เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาถามกันว่า
"หมายถึงใคร..หมายถึงใคร?"
เอ้า..ในเมื่อไร้เดียงสากันอย่างนี้ ผมก็ต้องหนีบขวดนมตามไปด้วย คือไม่รู้เหมือนกันว่า "ที่ท่านนายกฯ พูดหมายถึงใคร?"
แต่พออ่านพาดหัวข่าว "ไทยรัฐ" ฉบับวันอาทิตย์ พอจะเข้าสู่วัยบรรลุนิติภาวะขึ้นมาบ้าง
หัวข่าวไทยรัฐบอกอย่างนี้ครับ
"พงศ์เทพ"โต้
อย่าโยง"เปรม"
เดามั่วทำวุ่น
คำพูด"ทักษิณ"
ชี้แค่เตือนสติ
ครับ..ก็กระจ่างกันเสียทีกับประโยคอมตะของนายกฯ ทักษิณ ที่ว่า
"บุคคลซี่งดูเหมือนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ เข้ามาวุ่นวายองค์กรที่มีในระบบรัฐธรรมนูญมากเกินไป" นั้น ท่านหมายถึงใคร?
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตผู้พิพากษาผู้เปลี่ยนเส้นทางมาสู่การเมืองด้วย "จงรักและภักดี" ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ช่วยขยายความนัยให้เป็นที่หายสงสัยกันไปแล้วครับว่า
ไม่ได้หมายถึงพลเอกเปรม..พลเอกเปรมไม่เกี่ยว!
มาดูประโยคเต็มๆ ที่นายพงศ์เทพเมตตาเพิ่มไขปัญญาให้สังคมกันก่อนที่จะคุยกันต่อ ไทยรัฐรายงานคำสัมภาษณ์ไว้ดังนี้
"สิ่งที่นายกฯ พูดไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเป็นใคร หากใครไม่ได้ทำอย่างนั้น ไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ทำให้ประชาชนสับสนอะไร การเมืองไทยนั้นต้องมีกติกา ถ้าทำตามกติกาก็ไม่มีปัญหา อย่าไปตีความอะไรกันเอาเอง"
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการพูดกันว่าคนที่นายกฯ อ้างถึงคือ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ จุดนี้เป็นห่วงว่าจะมีความเคลื่อนไหวของฝ่ายทหารหรือไม่ นายพงศ์เทพตอบย้ำว่า
"นายกฯ ไม่ได้ระบุชี่อใคร"
ก็แน่นอนตามที่นายพงศ์เทพบอกผ่านหัวข่าวนั่นแหละว่า "อย่าโยงเปรม" คือนายพงศ์เทพกำลังบอกว่า "พลเอกเปรมท่านคงไม่ได้ทำอย่างนั้น" เมื่อไม่ได้ทำ ท่านประธานองคมนตรีก็ไม่เห็นจะต้องเดือดร้อนอะไร
นี่คือตรรกะของ "อดีตผู้พิพากษา" ซึ่งมีความชำนิชำนาญในแต่ละบรรทัดกฎหมายก่อนพูด-ก่อนคิด-ก่อนทำอยู่แล้ว
แต่ที่นายพงศ์เทพใช้คำว่า "นายกฯ ไม่ได้ระบุชื่อ" อันนี้ตีความกันตามคำพูดแล้ว นายพงศ์เทพก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าพลเอกเปรมไม่เกี่ยว
และก็ไม่ได้ยอมรับว่าพลเอกเปรมเกี่ยว
บอกเพียงว่า "ไม่ได้ระบุชื่อใคร" เท่านั้น
เหมือนอย่างในคำว่า "นาย ก.ไม่สุจริต" นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า "นาย ก.จะทุจริต"
พูดแบบนักกฎหมาย ด้วยภาษากฎหมายมัน "วินตึ๊บ" จับไม่ติดแบบนี้แหละ!
นายพงศ์เทพบอกผ่านหัวข่าวด้วยว่า "เดามั่วทำวุ่น" ผมเห็นด้วยพันเปอร์เซ็นต์ ที่วุ่นอยู่ตอนนี้ก็เพราะจับคำพูดท่านนายกฯ แล้วไปเดากันมั่ว โดยเจาะจงว่าหมายถึงพลเอกเปรม
ความจริงแล้ว "คนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" นั้น ท่านไม่ได้หมายถึงพลเอกเปรม แต่หมายถึง "คนอื่น" ที่เหนือกว่า "พลเอกเปรม" ตะหาก
หรือไม่ก็ "ต่ำกว่า" พลเอกเปรม?!
แต่จะสูงกว่าหรือต่ำกว่าก็ตาม บุคคลผู้นั้นถูก "ล็อกสเปก" ไว้แล้วภายใต้คำจำกัดความอันเป็นคุณสมบัติว่า "มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ"
คำพูด ๒๙ มิถุนา.ของนายกฯ ทักษิณ ต้องการตบให้ลงหลุมแล้วดีดกลับมากระแทกชิ่งด้วย หรือจงใจ "กระแทกชิ่ง" แล้วตบให้ลงหลุม ความสะใจในช็อตนี้ อย่างไหนจะก่อน-หลัง
ล้วนได้ความสะใจเต็มปาก-เต็มคำเหมือนกัน!
คงไม่ต้องให้เขียนแบบสอบถาม หรือจ้างสำนักไหนไปทำโพลล์ผ่าน "มหาประชาชน" ณ วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๙ อันมืดฟ้ามัวดินจากลานหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม เรื่อยไปจนสุดลูกหูลูกตา ณ ถนนราชดำเนิน นั้นหรอกกระมังว่า
อันคำพูดในประโยคว่า "บุคคลซึ่งดูเหมือนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" นั้น ฟังแล้วเกิดความรู้สึกว่า "นายกฯ พูดหมายถึงใครบ้าง?"
หรือต้องการ "กระทบชิ่ง" ไปถึงใครบ้าง?
ระดับชาวบ้าน ซึ่งอยู่ห่างไกล "ข้อมูลข่าวสารภายใน" ย่อมไม่รู้สายสนกลในลึกๆ ฟังแล้วอาจแค่รู้สึก "แปล๊บใจใน" ว่าน่าจะซ่อนอะไรอยู่ แต่ตอบตัวเองไม่ได้ชัดเจน เพราะไม่มีข้อมูลเบื้องลึกปูพื้นเป็นฐานรองรับคำพูดประโยคนี้
แต่กับบุคคลที่อยู่กับ "ข้อมูลภายใน" ฟังแล้วจะแปรเจตนาเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจาก
นายกฯ ทักษิณ "ประกาศสงคราม" ซึ่งหน้า!
เพราะมันเป็นประโยคที่ส่อเจตนาชัดเจน เจาะจง ตั้งใจ แบไพ่เล่น และเป็นประโยคที่.. อย่าว่าจะมีใครกล้าพูดเลยครับ
ร้อยละ ๙๙.๙๙ คิดก็ยังไม่บังอาจคิด!
ไม่ใช่แค่บรรทัด-ครึ่งบรรทัดนั่นนะครับ ถ้าไปอ่านหรือไปฟังข้อความทั้งหมดอันเป็นคำพูดของนายกฯ ทักษิณวันนั้น ไม่ต่ำกว่า ๕ ครั้ง ๕ ประเด็นที่นายกฯ "ยก" ขึ้นมาตอกย้ำกับบรรดาหัวหน้าส่วนราชการของประเทศไทย
ไม่ต้องฟังใคร ไม่ต้องเชื่อใคร
ฟังผู้นำทักษิณ เชื่อผู้นำทักษิณคนเดียว!
เมื่อคนใกล้ชิด เมื่อคนใกล้ตัว และคนที่ทำงานกฎหมายให้ท่านอย่างนายพงศ์เทพปฏิเสธแทนว่าที่นายกฯ พูดนั้น ไม่ได้หมายถึงพลเอกเปรม
แล้วใครล่ะ นอกจากประธานองคมนตรี "พลเอกเปรม" ที่ท่านเจาะจงถึงว่า "เหมือนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ เข้ามาวุ่นวายองค์กรที่มีในระบบรัฐธรรมนูญมากเกินไป"
ในเมื่อพลเอกเปรมไม่ใช่ แล้วยังมีใครที่ "มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญเข้ามาวุ่นวายองค์กรที่มีในระบบรัฐธรรมนูญ"?
ช่วยกันหลับตา "ลำดับภาพ" ดูซิว่า ตามสเปกนั้นมีใครอีกบ้าง?
หรือนายกฯ หรือนายพงศ์เทพผู้ทำตัวเป็นตัวแทนนายกฯ บอกให้ชัดลงไปซิว่า "พูดถึงใคร" จะได้หายสงสัย และได้รู้กันไปว่า อ้อ..คน..คนนี้เอง..เข้ามาวุ่นวายองค์กรที่มีในระบบรัฐธรรมนูญมากไป!
สังคมจะได้ช่วยท่านวินิจฉัย และพิพากษาให้อีกแรงหนึ่ง
แต่เมื่อความจริงคลุมเครือ ถ้าสังคมไทย กระบวนการบ้านเมืองไทย ยังปล่อยให้คำพูดประโยคนี้ "แล้วก็แล้วกันไป" เหมือนหลายๆ ประโยคที่ผ่านมา มันก็ยากที่จะไม่กลายเป็นการ "สะสมเงื่อนไขสังคม" ให้ถึงจุดที่ต้องชำระสะสางเพื่อความกระจ่างกันเองในความหมายและเจตนาของผู้พูด..เร็วขึ้น
กฎหมายในสังคมไทย กำลังกลายเป็นกฎหมาย "เลือกใช้-เลือกปฏิบัติ" น่าอดสู-ละอายโจ่งแจ้งมากขึ้น จากฝ่ายผู้ควบคุมกติกาบ้านเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วงอยู่ในสถานการณ์ขณะนี้
ถ้าวันนี้ ยังมีคนพูดประโยคแบบนี้ได้แล้วยังลอยนวล
ก็ไม่ต้องสงสัยว่าจะมีประโยค "จ้วงจาบ" และปฏิบัติการ "รุกคืบ" ออกมาเรื่อยๆ เรียกว่าเหิมน้ำหนักเพื่อกัดกร่อนเป้าหมายให้อ่อนแอ
จริงๆ แล้ว แค่เด็กอมมือฟังก็พอรู้-พอเข้าใจว่า "หมายถึงผู้ใด" เพราะทั้งประโยคที่พูดมันโล่งโจ้ง-ตรงตัว ขาดเพียงว่า "ละชื่อ" ไว้ให้เข้าใจกันเอาเอง อย่างที่นายพงศ์เทพใช้ลีลากฎหมายยียวนสังคมว่า
"ใครไม่ได้ทำอย่างนั้น ก็ไม่เดือดร้อน"
แล้วจะมีใครซักกี่คนล่ะในประเทศไทย ที่จะมีคุณสมบัติอย่างที่นายกฯ ทักษิณระบุคือ "มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ"
หรือว่าแค่คนอย่างนายพงศ์เทพก็สามารถยกว่า "สูง" ถึงระดับ "มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" ได้?!
ต่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณด้วยซ้ำ นี่ก็ยังไม่ถึงขั้นจะจัดให้อยู่ในอันดับ "มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" ได้
ฉะนั้น ไม่ต้องโยง ไม่ต้องเดามั่ว อย่างที่นายพงศ์เทพบอกนั้นถูกต้องแล้ว เพราะคนที่พูดประโยคนี้ เขาใช้คำจงใจให้สังคมฟังแล้วรู้ได้ทันใดว่า..ต้องการหมายถึงใคร
โดยไม่ต้องระบุชื่อให้เสียรังวัด!
คนเป็นผู้นำนั้น โดยเฉพาะคนเป็นนายกรัฐมนตรี ทุกคำพูดต้องอธิบายได้ ต้องขยายความให้ประชาชนเข้าใจได้ และคำที่อธิบายขยายความออกมานั้น จะต้องเป็นคุณแก่สังคมชาติ มิใช่พูดแล้วให้คน "ตีความ" เพื่อนำไปสู่การ "ตีกัน" ถ้าท่านเคลียร์คำพูดของท่านไม่ได้ แสดงว่าท่านจงใจหมายถึงใครเหนือขึ้นไปกว่าพลเอกเปรม!
http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=3/Jul/2549&news_id=126687&cat_id=200