แม่ทัพที่เอาพ่อค้ามาทำการรบ การศึกจึงเละเป็นโจ๊ก จำลอง รักษาเกียรติตัวเองด้วยการ

ฤกษ์งามดี..ในวันเกิดผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนี้ท่านหนึ่ง เมื่อ1เดือนที่ผ่านมา
แผนถูกกำหนด ระดมพลทั่งประเทศเข้ายึดเมืองหลวง
เป็นการรบครั้งสุดท้าย ทุบหม้อข้าวเหมือนพระเจ้าตากสิน วันเดียวให้เด็ดขาดเบ็ดเสร็จ
ว่ากันว่า ผู้มาร่วมชุมนุมในวันนั้นมากที่สุดเท่าที่เคยตั้งม็อบมา อาจจะถึงหลักแสนคนเลยก็ได้

ผู้วางแผนการรบในวันนั้น เป็นใครไปไม่ได้ นอกจากพล.ต.จำลอง ศรีเมือง

ชัดเจนว่าการกระทำในครั้งนั้น คือการยึดอำนาจรัฐ
ค่ำคืน..ก่อนเปิดศึกครั้งใหญ่ บนเวทีผู้ชุมนุม มีการปลุกเร้าผู้ร่วมชุมนุมด้วยการทำพิธีกรรม สวดมนต์ ท่องบริกรรมคาถา แต่งชุดนักรบเก่งผูกด้วยผ้าพันคอสีฟ้า ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครอง แผนทุกอย่างปิดเป็นความลับ

เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น แผนการก็เดินไปอย่างที่ถูกกำหนด
1. บุกเข้ายึดสถานีโทรทัศน์ของ รัฐ ก่อนตะวันรุ่งด้วยเหล่านักรบกล้า พร้อมอาวุธครบมือ ทำการต่อเชื่อมสัญญาณทีวีเพื่อออกข่าวไปทั้งประเทศและทั้งโลกให้ได้รับทราบ ว่าบัดนี้กองกำลังของพันธมิตรได้ทำการยึดอำนาจรัฐไว้เรียบร้อยแล้ว
2. บุกเข้ายึดทำเนียบรัฐบาลที่เป็นฐานที่มั่นของอำนาจรัฐ เพื่อยึดเป็นกรรมสิทธิ์และไม่ให้รัฐบาลเข้ามาทำงานได้
3. บุกเข้ายึดธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้ทั่วทั้งโลกได้รับทราบว่า บัดนี้เศรษฐกิจของประเทศตกอยู่ในการควบคุมของ เหล่าผู้ชุมนุมหมดแล้ว
4. สถานที่ราชการอีกสองสามแห่งถูกสั่งปิดให้หยุดทำการ

เมื่อไม่สำเร็จในแผนแรกเนื่องจากการผิดพลาด แผนสองจึงถูกงัดออกมาใช้
1.ปิดสนามบินทุกแห่งเท่าที่จะทำได้
2. ปิดศาลากลางจังหวัดทุกแห่งเท่าที่จะทำได้
3. ปิดสายการเดินรถไฟทุกแห่งเท่าที่จะทำได้
4. ปิดถนนสายหลักของประเทศ ทั้งหมดเท่าที่จะทำได้
5. ตัดน้ำตัดไฟ ทุกแห่งเท่าที่จะทำได้
เป็นการทำลายเศรษฐกิจของประเทศทางตรงและได้ผลเร็วที่สุด ทันที เพื่อบีบให้รัฐบาลยอมจำนนและลาออกในที่สุด

แผนทั้งหมดพลาดไม่สำเร็จ การศึกก็ยังไม่จบแต่ก็ไม่ถึงกับแพ้
ด้วยเพราะบารมีของผู้ใหญ่บางท่าน ม็อบจึงไม่ถูกสลายด้วยการประกาศภาวะฉุกเฉินในวันนั้น และคงยืดอยู่ได้จนถึงปัจจุบันนี้

แน่นอน
สิ่งที่อยู่เบื้องหลัง ที่ไม่มีข่าวยังมีอีกมาก ที่เราๆท่านๆไม่ได้รู้กันยังมี เช่น
นายกรัฐมนตรีที่ชื่อสมัคร ค่ำคืนนั้นท่านนอนที่ไหน และใครที่เป็นผู้รับอาสาจะจับตัวท่าน และท่านรู้ได้อย่างไรทำไมถึง คลาดแคล้วจากการจับตัวไปได้
สัญญาณที่เชื่อมต่อจากเอเอสทีวีเข้าสู่ สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ทำไม่สำเร็จเพราะหมดความสามารถใช่ไหม
เงินที่ถูกส่งไปต่างจังหวัด ติด อยู่ที่ไหนทำไมถึงมีคนออกมาน้อย มีใครบางคนแอบยักยอกไว้ใช้เองหรือเปล่า ดูจากภาพที่ถ่ายทอดออกมาทางทีวี มีคนไปยึดสถานที่ต่างๆมีน้อยมากไม่ถึงหลักหมื่น ไปปิดถนนสายหลักของประเทศแค่หลักร้อย เป็นไปได้อย่างไร
เหตุน้ำไฟไม่ได้ตัด เพราะอะไรกันแน่ เงินอีกหรือเปล่า
รถเมลย์ทำไมยังวิ่งต่อ การต่อรอง ไม่เป็นผล เพราะมีแต่ราคาคุย ใช่หรือไม่

เรื่องทั้งหมดนี้แม่ทัพอย่างพล.ต.จำลองทราบในตอนหลัง ด้วยความละเหี่ยใจ
แผนไม่ได้ผิดตรงไหน ถ้าทำได้ตามแผนทั้งหมดไม่มีทางที่จะยึดอำนาจรัฐ ไม่ได้
แต่ เหตุที่แพ้ เพราะ ตัวแกเองใช้คนที่ไม่มีศักยภาพพอ และประเมินคนผิด ฟังแต่ราคาคุย ทั้งหมดหารครึ่งแล้วยังทำไม่ได้จริง
และเอาพ่อค้ามาทำการรบ แน่นอน ไม่พ้นการหากำไรเข้าตัวก่อน และก่อนเงินจะถึงปลายทางมันก็สูญหายไประหว่างทางมากกว่า 80เปอร์เซ็นต์แล้ว

ความอดทนของแม่ทัพจำลองมีสูง เมื่อพลาดก็ไม่ยอมแพ้ เพื่อศักดิ์ศรี แกจึงทนสู้ต่อ
หวังเอาการเมืองเข้าสู้ จึงหันมาจับเรื่องการเมืองใหม่อย่างจริงจัง หวังว่าคดีที่ก่อไว้ทั้งหมดในวันที่แกวางแผนเข้ายึดอำนาจรัฐ จะถูลบล้างไปได้ทั้งหมด ด้วยการต่อรอง
ซึ่งก็ถือว่าได้ชัยชนะในขั้นหนึ่งแล้ว แม้อำนาจรัฐจะตกอยู่ในมือผู้อื่นที่ไม่ใช่แกก็ตามที
แม่ทัพจำลองจึงต้องยอมทนรบต่อแม้ความหวังที่เห็นมันเลือนราง เต็มที

แต่..ในม็อบเองก็มั่วไปหมด
คำหยาบคาย จากปากนักวิชาการบนเวที ออกมาสู่สาธารณะชนอย่างต่อเนื่อง
การแอบอ้างสถาบันอย่างไม่มีมูล โดยการจับเอาข้อความเป็นช่วงๆมากล่าวอ้าง มีขึ้นไม่สิ้นสุดทั้งที่แกเองก็ขอร้องไว้แล้ว
ยาเสพติด ที่แกเกลียดนักหนา มีเกลื่อนให้เห็นกับตาโดยที่แกทำอะไรไม่ได้เลย
สถานที่ราชการที่แกเคารพแปลสภาพกลายเป็นแหล่ง มั่วสุมกันไปแล้ว
การ์ด ก็ผยองพองคน ทำตัวใหญ่กว่านักเลง ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร มวลชนก็เสียไปเรื่อยๆ
เงินที่บริจาคก็ไม่เคยพอสักที สุดท้ายเงินเดือนของพนักงานเอเอสทีวีแกต้องรับภาระเองทั้งหมด
ยังมีการเสพสุขกันมากกว่าอุดมการณ์ในกลุ่มผู้ร่วม ทั้งที่ผิดศีลธรรมจนถึงขนาดต้องออกมาประจานกันเองโดยการปิดป้ายประกาศ
ทุกอย่างคือจำลอง คนอื่นทำอะไรไม่ได้

แม่ทัพรบแพ้ไม่รู้จะทำอย่างไร ที่จะรักษาเกียรติตนเองไว้ได้ ถ้าเป็นคนญี่ปุ่นต้องฮาราคิรีตนเองจึงจะได้รับเกียรติอันสูงส่ง
แม่ทัพจำลองยังไม่แพ้แต่ก็ไม่ชนะ และต้องหาทางออกให้ตนเอง อย่างไร
สู้ต่อก็เหนื่อยล้า และไม่เห็นทางชนะ
ถอยออกมาก็ต้อง ออกอย่างมีศักดิ์ศรี และยิ่งใหญ่ให้สมกับแม่ทัพ
เมื่อโอกาสมาถึง แม่ทัพจำลองจึงต้องคว้าเอาไว้

ตรองแล้ว ไม่มีเสียมีแต่ได้ แกจึงยอมวัดดวงให้ถูกจับกุมในวันเลือกตั้งที่ผ่านมา นั่นเอง
อยู่ในเรือนจำซะแล้ว ก็ไม่ต้องรับรู้ แพ้ชนะ ใครก็โทษแกไม่ได้
เงินก็ไม่ต้องดินรนหามาให้ พักผ่อนให้สบาย เพียงแค่เสียอิสรภาพจากภายนอกไปเท่านั้น

ข้างนอกเรือนจำ ก็ยังเอาชื่อแกไปขายได้ ปลุกม็อบกันต่อ
ถ้าบังเอิญเกิดมีเหตุให้ม็อบชนะขึ้นมา แกก็ยังคงเป็นวีรบุรุษ
แต่ถ้าม็อบต้องสูญสลายก็ไม่ใช่ความผิดของแก เพราะตอนแกอยู่ยังไม่แพ้
ชื่อเสียงก็ยังขจรไปไกล “เห็นไหมขาดจำลอง ถึงได้แพ้”

ครับนี่แหละครับ แม่ทัพที่ชื่อจำลอง
กระทำการ "ฮาราคิรี" ตนเองแบบไทยๆ ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง ครับ