15 กันยายน 2551
เรียน เพื่อนนักเรียนร่วมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
เรื่อง ขอความร่วมมือเพื่อการเปลี่ยนแปลงการสอบเข้าเรียนต่อระดับอุดมศึกษาในปี 2553
ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทางสทศ. (สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ) ได้มีการออกประกาศเกี่ยวกับการจัดสอบแอดมิชชั่นระบบใหม่ที่ยกเลิกการสอบระบบเดิมเป็นการใช้ GAT-PAT แทนซึ่งในขณะนั้นยังไม่ได้มีการประกาศเป็นที่แน่ชัด ต่อมาในช่วงต้นเดือนเมษายน 2551 ทปอ. (ที่ประชุมอธิการบดี) ได้มีการจัดประชุมหารือเกี่ยวกับการสอบระบบนี้อีกครั้งหนึ่งและในการประชุมครั้งนั้นก็ได้มีข้อสรุปออกมาในหนังสือพิมพ์ (ถ้าสนใจสามารถลองหาดูได้จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐช่วงต้น ๆ ของเดือนเมษายน 2551) ว่าในการสอบระบบใหม่จะแบ่งการสอบออกเป็น 2 รายวิชาด้วยกันคือ
1. GAT (General Aptitude Test) วัดความรู้ทั่วไปในทางคำนวณ ประมวลผล แยกแยะวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงคณิตศาสตร์และการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ
2. PAT (Professional Aptitude Test) วัดความรู้เฉพาะทางในวิชาชีพที่ต้องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย แบ่งออกเป็น 7 ประเภทได้แก่
2.1) PAT 1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
2.2) PAT 2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ (รวมฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยาเป็นตัวเดียวกัน)
2.3) PAT 3 ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
2.4) PAT 4 ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์
2.5) PAT 5 ความถนัดทางครู
2.6) PAT 6 ความถนัดทางศิลปะ
2.7) PAT 7 ความถนัดทางภาษาต่างประเทศ (ภาษาที่ 3) ประกอบด้วย 6 ภาษา
1. ภาษาฝรั่งเศส
2. ภาษาเยอรมัน
3. ภาษาญี่ปุ่น
4. ภาษาจีน
5. ภาษาบาลี
6. ภาษาอาหรับ
โดยจากการประกาศครั้งแรกของทาง ทปอ. ตามระยะเวลาดังกล่าวในการสอบเข้าบางคณะยังคงมีการแบ่งแยกสายตามปกติและสาเหตุที่ PAT มีทั้งสิ้น 7 ประเภทก็เพื่อให้นักเรียนสามารถเลือกว่าจะเข้าเรียนต่อในคณะใด ๆ และให้การสอบนั้นเป็นไปในวันเดียวกันเพื่อกันไม่ให้นักเรียนเลือกลงทีละมาก ๆ
ต่อมาประมาณช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทางโรงเรียนเทพศิรินทร์ได้เรียนเชิญ ศ.ดร. อุทุมพร จามรมาน ผอ.สทศ. มาบรรยายพิเศษให้นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เกี่ยวกับการสอบแอดมิชชั่นระบบใหม่ โดยที่ในการบรรยายครั้งได้มีนักเรียนบางคนสอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับการสอบ คำถามที่ถามคือ
1. ถ้าตั้งใจจะเข้าคณะที่ต่างกันก็จำเป็นต้องสอบใน PAT ที่ต่างกันแต่ตามประกาศบางวิชาสอบวันเดียวกัน จะควรทำอย่างไร
2. นักเรียนสายวิทย์-คณิต บางคนเรียนภาษาเพิ่มเติมนอกเหนือจากภายในโรงเรียน มีความต้องการสอบใน PAT 7 ซึ่งเป็นของนักเรียนสายศิลป์จะสามารถสอบได้หรือไม่
ซึ่งคำถามทั้งสองได้รับคำตอบที่บอกปัดความรับผิดชอบ จนกระทั่งนักเรียนหลายคนได้ขึ้นแสดงความเห็นจนกระทั่งผอ.สทศ. รับปากว่าจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมทปอ. ครั้งต่อไปจึงเกิดความสงบ
เมื่อประมาณปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านทางสทศ. ได้เปิดลิงค์ในเว็ปไซต์ (
http://www.niets.or.th) เพื่อให้นักเรียนระดับชั้นม.5 หรือเทียบเท่าเข้าทำการสมัครสอบฯ โดยไม่กำหนดสายการเรียน แต่ทำการเก็บเงินค่าสมัครวิชาละ 200 บาท และยังให้ทำการสมัครได้ทางเวปไซต์เท่านั้น
ทางคณะกรรมการนักเรียนม.5 โรงเรียนเทพศิรินทร์เล็งเห็นว่าการกระทำของสทศ. ในครั้งนี้เป็นการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผลและยังเอารัดเอาเปรียบนักเรียนเป็นอย่างมาก จึงคิดหาทางออกด้วยการยื่นหนังสือร้องเรียนถึงกระทรวงศึกษาธิการและสทศ. โดยได้ชี้แจงเหตุผลเป็นข้อ ๆ จากปัญหาของระบบแอดมิชชั่นใหม่ดังนี้
1. ตามปกติในการเปลี่ยนแปลงระบบการสอบเช้ามหาวิทยาลัยจะต้องแจ้งให้นักเรียนทราบล่วงหน้า 3 ปีเพื่อให้สามารถเตรียมตัวได้ทัน แต่ในครั้งนี้มีการประกาศล่วงหน้าเพียง 1 ปีเท่านั้น ทำให้นักเรียนหลายคนยังสับสนและไม่พร้อมในการสอบ
2. เนื่องจากการเปลี่ยนระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยหลายครั้ง ทำให้หลาย ๆ มหาวิทยาลัยเริ่มเกิดความไม่ไว้ใจในคะแนนที่ได้จากการสอบส่วนกลาง จึงมีการเสนอนโยบายออกมาว่า อาจจะไม่รับพิจารณาคะแนนที่ได้จากการสอบส่วนกลางเพื่อสมัครเข้าเรียนระดับอุดมศึกษาอีกต่อไป
3. การสมัครสอบในครั้งนี้เป็นไปด้วยการขาดการประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รับทราบของนักเรียน หลายคนยังไม่ทราบถึงการสมัครสอบจนกระทั่งเพื่อนนักเรียนด้วยกันได้มาชี้แจง ทั้งยังกำหนดให้ทำการสมัครเฉพาะวันที่ 1 กันยายน 31 ตุลาคม 2551 และต้องทำการสมัครครั้งเดียวลงสอบ 3 ครั้งทำให้นักเรียนหลาย ๆ คนไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน
4. การสมัครสอบให้เป็นโดยทางอินเตอร์เน็ตเพียงทางเดียว ย่อมก่อให้เกิดปัญหาต่อนักเรียนหลายคนที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตที่บ้านจำเป็นต้องใช้บริการคอมพิวเตอร์ตามร้านเพื่อให้สามารถสมัครสอบได้ ซึ่งเป็นการอยุติธรรมและสอนให้เยาวชนใช้เงินสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น
5. เนื่องจากการสมัครสอบผ่านทางอินเตอร์เน็ตเท่านั้น ทำให้นักเรียนหลายคนที่อยู่ในชนบทห่างไกลจากตัวเมืองต้องเสียทรัพย์โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้าเมืองเพื่อให้ตนสามารถสมัครสอบได้
6. ค่าสมัครสอบวิชาละ 200 บาทต่อรายวิชาซึ่งสำหรับบางคนที่ยังไม่แน่ใจว่าอยากเรียนต่อในคณะไหน ย่อมเลือกที่จะสอบหมดทุกวิชาทำให้เสียค่าใช้จ่ายสูงสุดถึง 4,800 บาทและต่ำสุดเป็นเงิน 300 บาท (ในกรณีไม่รวม PAT แต่ถ้ารวมแล้วจะเป็นต่ำสุด 600 บาท) ซึ่งเมื่อลองคำนวณกับจำนวนนักเรียนที่ทำการสมัครนับแสนคนแล้วจะได้เงินจำนวนมาก จนก่อให้เกิดความสงสัยว่าจะนำเงินจำนวนไปใช้ในทางทุจริตหรือไม่
7. สืบเนื่องจากข้อ 6 ในฐานที่เป็นนักเรียนอยู่ย่อมมีความจำกัดในเรื่องของกำลังทรัพย์แม้ว่าจะเป็นเพื่อการศึกษาก็ตามเงินจำนวนเกือบ 5000 บาทสำหรับเด็กนักเรียนก็นับว่ามีมูลค่ามากแล้ว แต่ถ้าคิดไปถึงนักเรียนที่ทางบ้านมีฐานะยากจนการใช้จ่ายเงินจำนวนมากโดยไม่จำเป็นย่อมก่อให้เกิดความยากลำบากขึ้นอย่างแน่นอน
8. ในประกาศบนเว็ปของสทศ. ได้แจ้งไว้ว่า เมื่อได้ทำการสมัครแล้ว ไม่ว่าจะเกิดกรณีใด ๆ ขึ้นก็ตามจะไม่มีการคืนเงินค่าสมัครเป็นอันขาด แม้จะเป็นการสมัครใหม่เพื่อแก้ไขที่ลงวิชาผิดไปก็ต้องจ่ายค่าสมัครใหม่โดยไม่คืนเงินค่าสมัครที่ผิดไป
9. อัตราส่วนของการสอบที่กำหนดมาว่าแต่ละคณะใช้ GAT-PAT ปริมาณเท่าไรนั้น เป็นเพียงการคาดคะเนของทางสทศ. เท่านั้น ยังไม่มีมหาวิทยาลัยใดที่กำหนดออกมาอย่างแน่นอนว่าแต่ละคณะจะใช้อัตราส่วนปริมาณเท่าใด
10. สทศ. กล่าวว่า การที่ให้นักเรียนม.ปลาย สอบระบบแอดมิชชั่นใหม่นี้เพื่อเป็นการสอนให้เด็กไทยรู้จักการคิดและวางแผนการศึกษาต่ออย่างเป็นระบบและแน่วแน่ ไม่ใช่ให้เป็นคนที่หวังเหวี่ยงแหในการสอบเหมือนที่แล้วมา
จากเหตุผลดังกล่าวมาทั้งหมดนี้ทางคณะกรรมการนักเรียนชั้นม.5 ปีการศึกษา 2551 โรงเรียนเทพศิรินทร์จึงไม่อาจทนนิ่งเฉยให้สิทธิและเสรีภาพในการเลือกศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาต้องพังทลายลง จึงได้ร่างหนังสือเพื่อทำการร้องเรียนและขอให้มีการทบทวนใหม่
และด้วยเล็งเห็นว่านักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 ทุกคนคือผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงนับจึงได้ส่งจดหมายฉบับนี้มาให้ เพื่อขอความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจกันระหว่างเพื่อนนักเรียนด้วยกัน ผนึกเป็นกำลังเสียงของเยาวชนเพื่อผลักดันให้การศึกษาไทยไม่ถอยหลังลงคลองไปมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และเพื่อเป็นการแสดงให้ผู้ใหญ่ในสังคมไทยได้ตาสว่างขึ้นมาบ้างว่า เยาวชนไทย ไม่ได้นิ่งดูดายต่อเหตุการณ์ความเป็นไปต่าง ๆ ตามอย่างที่ผู้ใหญ่หลายคนได้คิดและเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้ใหญ่ในสังคมตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตนที่มีต่อสังคมมากขึ้น และกระตุ้นให้นักวิชาการได้ตื่นจากภวังค์และหันมาใส่ใจการศึกษามากกว่านี้ก่อนที่จะทำให้ระบบการศึกษาของไทยต้องถึงคราววิบัติอย่างแท้จริงจากความมืดบอดทางความคิดของตน
หากเพื่อนนักเรียนม.5 คนใดที่ได้รับจดหมายนี้โปรดเผยแพร่ต่อ ๆ กันในโรงเรียนของตนเพื่อรวบรวมเสียงเยาวชนให้มาร่วมกันแสดงความเห็น โดยที่ทางคณะกรรมการนักเรียนม.5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ จะจัดให้มีการประชุมร่วมกันระหว่างทุกโรงเรียนที่เห็นด้วยกับการเรียกร้องนี้ในวันเสาร์ที่ 27 กันยายน 2551 ทั้งนี้เวลาและสถานที่จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง เพราะเท่าที่ทราบมาช่วง 2 สัปดาห์นี้จะเป็นการสอบปลายภาคเรียนที่ 1 ของทุกโรงเรียนดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนเพื่อน ๆ มากนักจึงขอให้ช่วยกระจายข่าวนี้โดยเร็วที่สุด
ด้วยความรักและความห่วงใย
คณะกรรมการนักเรียนม.5
ปีการศึกษา 2551 โรงเรียนเทพศิรินทร์
*หมายเหตุ* หากเห็นด้วยกับการร้องเรียนนี้หรือมีข้อสงสัยใด ๆ ติดต่อได้ที่ คณะกรรมการนักเรียนม.5
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับ. 5 :
โจนัส (โจ) 081-4452726
eldar123@hotmail.com ร.ร.เทพศิรินทร์ กรุงเทพฯ
ปฏิพล (ไอซ์)087-1069069
pa_ti_ice@hotmail.com ร.ร.ราชสีมาวิทยาลัย นครราชสีมา
ปรินทร์ (เอ) 089-9496989
parin_96gradio@hotmail.com ร.ร.ราชสีมาวิทยาลัย นครราชสีมา
(ทุกข้อสงสัยถ้าผู้ใหญ่ จะช่วยตอบจะขอบคุณมาก. . .เพราะมีความรู้สึกว่าระบบการสอบเข้าระดับอุดมศึกษา
เด็กไม่ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจว่าจะสอบบระบบไหนเลย ...
คนเลือกระบบไม่ได้สอบ คนสอบไม่มีสิทธิ์เลือก!!)