ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
23-11-2024, 19:20
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ธนาคารบัญชีดำ 110 แบงค์สหรัฐ ส่อ"ล้มละลาย" วิกฤติประชานิยมUSAล้มละลาย 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ธนาคารบัญชีดำ 110 แบงค์สหรัฐ ส่อ"ล้มละลาย" วิกฤติประชานิยมUSAล้มละลาย  (อ่าน 2223 ครั้ง)
oho
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 712


« เมื่อ: 01-10-2008, 08:32 »

http://www.naewna.com/home.asp



บัญชีดำ110แบงค์สหรัฐส่อล่มล้มละลาย  มะกันช็อกโลก 
 
 
 
 มะกันพ่นพิษ : ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ผู้นำสหรัฐ ออกแถลงการณ์ที่ห้องรับรองทูตในทำเนียบขาวเมื่อเช้าวันที่ 30 กันยายนเรียกร้องให้รัฐสภาสหรัฐผ่านร่างแผนกอบกู้วิกฤติการเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ โดยเตือนว่าหากไม่ผ่านจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐอย่างใหญ่หลวง

สภาคว่ำแผนกอบกู้วิกฤติการเงิน
นักลงทุนผวาแห่เทขายฉุดหุ้นดิ่ง
จี้คองเกรสเลิกเล่นเกมการเมือง

 ทั่วโลกตกตะลึง หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐล้มแผนกอบกู้วิกฤติการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 23.8 ล้านล้านบาท ของประธานาธิบดีบุช ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นทุ่วโลกดิ่งตามกันระนาว เนื่องจากนักลงทุนในตลาดเกิดความวิตกกังวลต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐ และหวั่นเกรงว่าจะมีธนาคารและสถาบันการเงินอีกหลายแห่งล้มตามมาอีก


มะกันแบล็กลิสต์110แบงค์มีปัญหา


ขณะที่สถาบันประกันเงินฝากของสหรัฐ(FDIC) ได้ขึ้นบัญชีธนาคาร 110 แห่งที่มีปัญหา รวมทั้งธนาคารวอชิงตัน มิวชวล ซึ่งเพิ่งโดนยึดและขายให้กับเจพีมอร์แกน เชส แอนด์โค และคาดว่าหลังสิ้นไตรมาสสามแล้วจะมีธนาคารสหรัฐที่ประสบปัญหาขาดทุนและขาดสภาพคล่องอีกหลายแห่ง

มีรายงานว่าในบรรดาธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐที่ประสบปัญหาขาดทุน มีธนาคารแบงก์ออฟอเมริกา และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์โค ซึ่งเพิ่งซื้อกิจการวอชิงตัน มิวชวล รวมทั้งธนาคารขนาดเล็กท้องถิ่นอีกหลายแห่งที่ได้รับผลกระทบจากการขาดความเชื่อมั่นมากขึ้น เช่น ธนาคารซอฟเวอเรน ในไวโอมิสซื่ง รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งมีสินทรัพย์ 7.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก หุ้นของธนาคารร่วงลงถึงร้อยละ 67 ทำให้มูลค่าตลาดของหุ้นธนาคารเสียหายไปถึง 5 พันล้านดอลลาร์ และธนาคารเนชั่นแนล ซิตี้ ในโอไฮโอ ราคาหุ้นร่วงลงถึงร้อยละ 61 ทำให้ขาดทุนในตลาดไปถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์



ทุ่ม6.4พันล้านยูโรอุ้มธ.เด็กเซีย


ส่วนธนาคารเด็กเซียซึ่งเป็นธนาคารยุโรปรายล่าสุดที่ประสบปัญหาสภาพคล่อง ได้รับความข่วยเหลือจากธนาคารกลางของเบลเยียม ฝรั่งเศส และลักเซมเบิร์ก อัดฉีดเงิน 6.4 พันล้านยูโร หรือประมาณ 3.2 แสนล้านบาท เข้าไปเสริมสภาพคล่องแล้ว หลังจากที่หุ้นของธนาคารได้ร่วงลงเกือบร้อยละ 30 ในวันจันทร์ที่ผ่านมา


ธ.กลางทั่วโลกฉีดสภาพคล่องเพิ่ม


วันเดียวกันธนาคารกลางทั่วโลกอัดฉีดเงินเข้าระบบหวังเพิ่มสภาพคล่อง เพื่อรับมือวิกฤติการเงิน หลังแผนกู้วิกฤติสถาบันการเงินของสหรัฐ 7 แสนล้านดอลลาร์ล่ม เพราะเกรงว่าจะเป็นตัวจุดชนวนวิกฤติการเงินโลก โดย ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาตรการเสริมสภาพคล่องอีกรอบโดยเพิ่มเพดานการสว็อปดอลลาร์สหรัฐ มากกว่า 2 เท่า กับธนาคารกลางหลายแห่งสู่ 6.2 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 21 ล้านล้านบาท
ขณะที่ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ได้อัดฉีดเงิน1.95 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เข้าสู่ตลาดเงินในข้อตกลงซื้อคืนพันธบัตร ซึ่งสูงกว่าความต้องการเงินทุนต่อวันโดยประมาณที่ 1.87 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ได้อัดฉีดเงิน 2 ล้านล้านเยน ( ประมาณ 1.923 หมื่นล้านดอลลาร์) เข้าสู่ตลาดเงินเป็นวันที่ 10 ติดต่อกันแล้ว



แผนฟื้นฟูล่มปั่นราคาทองขึ้น
นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่าจากที่สภาคองเกรส ไม่ผ่านแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐทำให้ราคาทองคำภายในประเทศปรับขึ้นทันทีเฉลี่ยบาทละ 300 บาท โดยทองคำแท่งรับซื้อ 14,200 บาท ขาย 14,300 บาท และทองคำรูปพรรณ รับซื้อ 13,992.68 บาท ขาย 14,700 บาท ซึ่งการที่ทองคำมีราคาสูงขึ้นอาจเป็นเพราะนักลงทุนในสหรัฐเทขายทองคำที่เคยซื้อเก็บไว้ออกมาเพื่อนำเงินออกมาใช้จ่าย หรือ นักลงทุนอาจเกิดความวิตกจนหันมาเก็งกำไรจากทองคำแทน 
 
วันที่ 1/10/2008


*************************************************************************

ผลพวงกระทบจากวิกฤติซับไพร์ม
ซับไพร์ม"ประชานิยม ปล่อยกู้ให้พวกรากหญ้ารายได้ต่ำ"
เริ่มจาก  บ.เลแมนฯ ลามไปเป็นปรมาณูการเงินทั่วสหรัฐและทั่วโลก


นี่คือของขวัญที่พวกรากหญ้าก่อร่างสร้างหนี้ทิ้งไว้กับนโยบายการเงินการคลัง ประชานิยมของรัฐบาล
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-10-2008, 08:36 โดย oho » บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #1 เมื่อ: 01-10-2008, 08:47 »

ถ้า'รัฐบาลประชานิยม' 'รัฐบาลนอมินี' และ 'รัฐบาลอุปโลกน์' ไม่ให้รากหญ้ากู้เงินนอกระบบมาจ่ายดอกเบี้ย คืนหนี้เก่า กู้หนี้ใหม่ หรือ ปรับดอกเบี้ยเก่าทบต้นเป็นเงินต้นใหม่ ฯลฯ.....

ชาวไทยที่'ไม่รู้ทันทักษิณ' พวกรากหญ้า พวกบัตรเติมเงิน คงตาสว่าง หายงมงายไปแล้ว.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
oho
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 712


« ตอบ #2 เมื่อ: 01-10-2008, 09:16 »

โปรดเตรียมตัวรับมือจากวิกฤติการเงินของสหรัฐครั้งนี้...

งานนี้กระทบส่งผลถึงไทยแน่นอน..

เพราะประเทศไทยผลิตสินค้าส่งออกไปขาย USA อันดับ1
.
สินค้าไทยกว่า 70% ส่งออกนำไปขายที่ USA ส่วนใหญ่

อันดับรองลงมา ไทยส่งสินค้าส่งออกไปขายให้ ประเทศญี่ปุ่น

เมื่อสหรัฐเศรษฐกิจถดถอย..ส่งออกสินค้าไทยก็ขายได้น้อยลง

หรือขายแทบไม่ได้ ..

จนทำให้ประเทศไทย ขาดสภาพคล่องไม่มีเงินใช้จ่ายในตลาด
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 01-10-2008, 10:04 »

ประเทศที่ประชาชนมีเงินออมเยอะๆ มีหนี้น้อยๆ จะได้เปรียบกว่า คือ กระทบน่ะโดนแน่ แต่การมีเงินออมแปลว่ามี "ก๊อก 2" ในการฝ่าฟันวิกฤติได้ มีตลาดในประเทศหล่อเลี้ยงประทังไปบ้าง เวลานี้ในเอเชียมี ญี่ปุ่น ประหยัดเงินอันดับ 1 ..... จีน มาอันดับ 2 .... เกาหลีอันดับ 3

แต่รากหญ้าไทย รวมทั้งคนชั้นกลางไทยบางคนมีแต่หนี้สิน บ้าเงินผ่อน สินเชื่อส่วนบุคคล จากการสร้างนิสัยเสียๆ กู้ กิน ใช้ ของทฤษฎี "ทักษิณอมิกส์" ตรงนี้ละหนัก
บันทึกการเข้า

เล่าปี๋
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,417


ทำดีได้ดีมีไฉน ทำชั่วได้ดีมีถมไป


« ตอบ #4 เมื่อ: 01-10-2008, 10:20 »



ผลกระทบประเทศไทยมีแน่ๆ


แต่สมน้ำหน้า ไอ้อเมริกัน อเมริโกยจังเลย...... 
บันทึกการเข้า

ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว
ไม่พราวไสว  หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป
ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น  พลันมืดมัว....
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 01-10-2008, 10:46 »

โปรดเตรียมตัวรับมือจากวิกฤติการเงินของสหรัฐครั้งนี้...

งานนี้กระทบส่งผลถึงไทยแน่นอน..

เพราะประเทศไทยผลิตสินค้าส่งออกไปขาย USA อันดับ1
.
สินค้าไทยกว่า 70% ส่งออกนำไปขายที่ USA ส่วนใหญ่

อันดับรองลงมา ไทยส่งสินค้าส่งออกไปขายให้ ประเทศญี่ปุ่น

เมื่อสหรัฐเศรษฐกิจถดถอย..ส่งออกสินค้าไทยก็ขายได้น้อยลง

หรือขายแทบไม่ได้ ..

จนทำให้ประเทศไทย ขาดสภาพคล่องไม่มีเงินใช้จ่ายในตลาด


ตัวเลขส่งออกไปเมกาน่าจะคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงไปมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เลยค่ะ ไม่ถึง 70 หรอก 50 ยังไม่แน่ใจว่าจะถึงเลยค่ะ จำตัวเลขล่าสุดไม่ได้ แต่ที่ปีนี้ตัวเลขส่งออกขยายตัวแบบบ้าบอคอแตก เพราะเอกชนขยายตลาดไปในตลาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ทำให้สัดส่วนการส่งออกไปเมกาลดลงมากเมื่อเทียบกับตัวเลขรวม แต่ก็ยังเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดอยู่
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
phutorn connection
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 263



« ตอบ #6 เมื่อ: 01-10-2008, 14:56 »

ห่วงอีกตัวคือ การท่องเที่ยวและบริการ ช็อคแหงมๆ ถ้าไม่รีบออกแคมเปญเที่ยวไทยมาล่ะเสร็จแน่ๆ
บันทึกการเข้า

หลังจาก วาทะ"บกพร่องโดยสุจริต"ของอาชญากรหนีคดี ประชาชนได้ให้โอกาส แต่ไม่เคยได้ให้อภัยคนคนนี้

หลายคนบอกว่าสิ่งที่ทักษิณทำก็เหมือนนักธุรกิจคนอื่นๆนั่นแหละ ไม่ว่าหนีภาษี ซุกหุ้น ซื้อนักการเมืองเป็นพวก แต่สิ่งที่คนเหล่านั้นลืมมองคือ ทักษิณมีอำนาจ นอกเหนือจากเงินทองในขณะที่นักธุรกิจคนอื่นไม่มี อำนาจที่สามารถชี้เป็นชี้ตายข้าราชการ อำนาจในการใช้กฏหมาย อำนาจในการตรากฏหมาย แต่สิ่งที่ทักษิณมีเหมือนนักธุรกิจคนอื่น คือ ความโลภ เมื่อความโลภรวมกับอำนาจ และสิ่งที่ทำร้ายทักษิณในปัจจุบันคือ ความโลภนี่เอง
banana_dot
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 187



« ตอบ #7 เมื่อ: 01-10-2008, 16:47 »

ผมว่าผู้ประกอบการไทยที่ส่งออก คงรู้ซึ้ง ถึงปริมาณการสั่งซื้อที่ลดลงของตลาดอเมริกา
และหาตลาดใหม่ไว้ลองรับ กระจายความเสี่ยงเรียบร้อยแล้วน่ะครับ จะมีผลกระทบก็แต่ ยุโรป และประเทศที่
ทุนอเมริกาเข้าครอบงำในเอเชีย ว่าจะหนักหนาสาหัสซักแค่ไหน ส่วนการท่องเที่ยวคงโดนแน่ๆครับ ไม่ต้องห่วง
เพราะหัวทองเกือบทั้งนั้นที่มาเที่ยวไทย เพราะตลาดท่องเที่ยวไทยเปิดเต็มที่แล้วสำหรับฝั่งอเมริกาและยุโรป
เตรียมตัวเลยครับสำหรับธุรกิจท่องเที่ยว
บันทึกการเข้า

-"ภาพแห่งความทรงจำ แม้จะเลือนรางไปตามการเวลา หากแต่เป็นเรื่องที่มีคุณค่าทางจิตใจ ย่อมจะย้อนกลับมาทำให้มีความสุขทุกครั้งที่นึกถึงเสมอ "
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 01-10-2008, 16:49 »

ผมว่าผู้ประกอบการไทยที่ส่งออก คงรู้ซึ้ง ถึงปริมาณการสั่งซื้อที่ลดลงของตลาดอเมริกา
และหาตลาดใหม่ไว้ลองรับ กระจายความเสี่ยงเรียบร้อยแล้วน่ะครับ จะมีผลกระทบก็แต่ ยุโรป และประเทศที่
ทุนอเมริกาเข้าครอบงำในเอเชีย ว่าจะหนักหนาสาหัสซักแค่ไหน ส่วนการท่องเที่ยวคงโดนแน่ๆครับ ไม่ต้องห่วง
เพราะหัวทองเกือบทั้งนั้นที่มาเที่ยวไทย เพราะตลาดท่องเที่ยวไทยเปิดเต็มที่แล้วสำหรับฝั่งอเมริกาและยุโรป
เตรียมตัวเลยครับสำหรับธุรกิจท่องเที่ยว


ตอนนี้คนทำงานโรงแรม บ่นกะปอดกะแปด กันแล้วล่ะคัรบ 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
หน้า: [1]
    กระโดดไป: