ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 12:48
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ห้องสาธารณะ  |  จากบทความของ รศ.คณะเศรษฐศาสตร์ ขอถามท่าน รศ. สักนิด... [เอามาจากพันทิป] 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
จากบทความของ รศ.คณะเศรษฐศาสตร์ ขอถามท่าน รศ. สักนิด... [เอามาจากพันทิป]  (อ่าน 1773 ครั้ง)
(ก้อนหิน) ละเมอ
Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,041



เว็บไซต์
« เมื่อ: 03-07-2006, 19:49 »

จากกระทู้นี้
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4501032/P4501032.html
ผมขอถาม รศ.สักนิด หากท่านได้มีโอกาสแวะผ่านมาอ่าน

1. คำนิยาม "ชาวรากหญ้า" ซึ่งเป็นคำนิยามที่แสดงถึงการดูถูกดูแคลนเกษตรกรซึ่งเป็นสันหลังของชาติ ออกมาจากปากของกลุ่มที่ต่อต้านทักษิณ หรือว่าออกมาจากปากกลุ่มที่เชียร์ทักษิณเป็นผู้แรก... บุคคลที่สามารถนิยามรากศัพท์ของการดูถูกดูแคลนได้ ก็ยากที่จะเชื่อว่าเป็นบุคคลที่ยกย่องเกษตรกรเหล่านั้นอย่างแท้จริง!

2. โครงการต่างๆ ที่ "โยน" มาให้ชาวบ้านนั้น (ที่คุณอาจารย์ก็ยังยอมรับว่าเป็น "โครงการประชานิยม") อาจารย์ได้ไปสำรวจหรือไม่ว่า
- หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ สำเร็จไปได้ด้วยดีหรือเปล่า หรือว่าล้มเหลวไม่เป็นท่า สำเร็จกี่เปอร์เซ็นต์
- กองทุนหมู่บ้าน ชาวบ้านกู้เอาไปลงทุนหรือไปซื้อของฟุ่มเฟือย
- แปลงหนี้นอกรับเป็นหนี้ในระบบ แต่ความจริงแล้ว ... ก็ต้องพึ่งหนี้นอกระบบอยู่ดี เพราะชาวบ้านกู้เงินกองทุนหมู่บ้านเอาไปใช้อิเหระเขะขะ โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้เข้าไปดูแลในส่วนนี้ ซึ่งสิ่งของฟุ่มเฟือยที่ถูกซื้อมากที่สุด คือ โทรศัพท์มือถือ และรถมอเตอร์ไซต์... พอถึงกำหนดใช้หนี้กองทุน ก็ต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบมาใช้หนี้ ซึ่งมีดอกเบี้ยมหาโหด ซึ่งชาวบ้านไม่กล้าฟ้องเจ้าหนี้ เพราะถ้าเจ้าหนี้โดนจับ ชาวบ้านก็จะไม่มีเงินให้กู้ มันก็เลยเป็นวงจรอุบาทว์อย่างที่เห็น
- 30 บาทรักษาทุกโรค ผมเชื่อว่าเจตนารมณ์ของโครงการนี้คือให้ประชาชนมีสิทธิในการได้รับการรักษาที่เท่าเทียมกัน แต่รู้ไหมว่า มันซ่อนความเหลื่อมล้ำไว้ในไส้ใน คำนิยามที่ว่า "ยาในบัญชี" "ยานอกบัญชี" เป็นเสมือนหนึ่งประจักษ์พยานที่ฟ้องความเหลื่อมล้ำนี้ .... ผู้ที่ใช้สิทธิ 30 บาทสามารถใช้ยาเฉพาะที่ระบุในบัญชียาหลัก แต่ผู้ที่จ่ายเอง สามารถใช้ยา Original ซึ่งมักจะอยู่นอกบัญชียาหลักได้...

3. การกล่าวหาว่าบุคคลชั้นกลางกำลังดูถูดดูแคลนชาวบ้านเกษตรกร เป็นข้อกล่าวหาซึ่งเกิดจากการคาดเดาไม่มีหลักฐานที่จะกล่าวเช่นนั้นได้ น่าแปลกใจว่านักวิชาการที่สังคมตั้งความหวังจะให้เป็นผู้ที่สมานฉันท์ความแตกแยกของสังคม กลับออกมากล่าวหาเช่นนี้ ซึ่งผลที่จะตามมาของข้อกล่าวหานี้ คือ ระยะห่างระหว่างบุคคลชั้นกลางกับเกษตรกรกลับยิ่งเว้นห่างขึ้นเรื่อยๆ หวาดระแวงซึ่งกันและกัน ซึ่งผลสุดท้ายมันก็เป็นความแตกแยกของสังคมไทย

4. การที่ต่อต้านรัฐวิสาหกิจ มิใช่เพราะต้องการฉุดรั้งสังคมไทยให้ด้อยพัฒนา แต่การพัฒนาต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส ผลกำไรที่เกิดจากการพัฒนาต้องกระจายไปสู่ประชาชนจริงๆ มิใช่กระจุกอยู่กับนักการเมืองบางพรรค อย่างเช่นการแปรรูปองค์กรอุตสาหกรรมน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อเข้าไปตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้นจะทราบว่า... ผู้ที่ถือหุ้นเป็นอันดับต้นๆ มักจะเป็นนักการเมือง หรือเครือญาติที่สนิทชิดเชื้อกับรัฐบาลทั้งสิ้น... รัฐวิสาหกิจจึงเปรียบเสมือนชิ้นปลามันสำหรับนักการเมืองที่ "ยิ่งรวย ยิ่งโกง ยิ่งโกง ก็ยิ่งรวย" ที่แสวงหากำไรจากเลือดเนื้อประชาชนชาวไทยทั้งสิ้น...

5. การที่นักวิชาการออกมาต่อต้านทักษิณ มิใช่เกิดจากการไม่เอาใจใส่ แต่เป็นการบริหารบ้านเมืองที่ "ไม่แยแส" ต่อคำวิจารณ์ หรือคำติติงของนักวิชาการ ซ้ำร้ายยังกล่าวหาและสาดโคลนนักวิชาการเหล่านั้นว่าเป็นพวกขาประจำ เป็นพวกไม่รักชาติ ทั้งๆ ที่นักวิชาการส่วนใหญ่ที่ออกมาให้ติงการปฏิบัติงานของรัฐบาลก็มีเจตนาดีต่อบ้านเมืองทั้งสิ้น แต่รัฐบาลก็หาได้สนใจไม่ กลับเดินหน้าบริหารงานตามความเชื่อของตนเอง ทำให้ปัญหาต่างๆ ไม่ได้รับการแก้ไขเท่าที่ควร ซึ่งปัญหาที่เด่นชัด ที่ฟ้องความผิดพลาดที่เกิดจากการบริหารงานแบบหลงตัวเอง "เราเดินทางมาถูกแล้ว" คือ ปัญหาคอรัปชั่น ปัญหาไฟใต้ ปัญหาขาดแคลนงบประมาณ 30 บาท ฯลฯ นักวิชาการบางส่วนที่เล็งเห็นถึงความเสียหายของแผ่นดิน หากจะฝากอนาคตของชาติไว้กับบุคคลที่ "หลงตัวเอง" เช่นนี้ จึงต่อต้านเพื่อให้รัฐบาลที่เคย "หลงตัวเอง" ได้ทราบว่า ตนเองไม่สามารถบริหารประเทศแบบซี้ซั้วอย่างเคยได้แล้ว...

จากคุณ : ไม่ได้มาร้าย - [ 3 ก.ค. 49 19:30:03 ]

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4504757/P4504757.html
บันทึกการเข้า

jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #1 เมื่อ: 08-07-2006, 17:20 »

อ.คนนี้ ก็คือคนที่เขียนบทความ "ต้านแปรรูป กฟผ. ใครทำลายสมบัติชาติกันแน่?"
ที่ตอนนั้นพันทิปฮือฮากัน มีคนเอามาลงที่บอร์ดของเรา อยู่ที่นี่

http://forum.serithai.net/index.php?topic=1527.0

ซึ่ง ดร. มีการมั่วข้อมูลและความเห็นสุดๆ แถมเหมือนลอกรัฐบาลมาทั้งดุ้น
จนถูกพวกเราที่นี่สับแหลกคาบอร์ดไปรอบนึงแล้ว

---

มาคราวนี้ก็ยังซ้ำรอยเดิม แต่แย่กว่าตรงที่มีแต่ความเห็นไม่มีข้อมูลอะไรเลย
ถ้าไม่คิดจะทำอะไรเป็นเชิงวิชาการ ก็น่าจะลาออกมาเป็นคอลัมนิสต์ดีกว่า
ความเห็นที่นำเสนอก็ลอกจากที่รัฐบาลพูดทั้งดุ้นตามเคย

แย่มากถ้านักวิชาการคิดได้แค่ การที่ประชาชนระดับรากหญ้าที่ ดร. บอกเองว่า
"ตั้งแต่เกิดจนตายมีชีวิตยากจน ลำบากยากแค้น ไม่แน่นอน ไม่มีการศึกษา"
สนับสนุนรัฐบาลทักษิณ "ก็เพราะนี่เป็นรัฐบาลแรกที่หยิบยื่นผลประโยชน์
รูปธรรมเฉพาะหน้า ให้กับพวกเขาได้จริง" ทำให้รัฐบาลนี้สมควรครองอำนาจ

ในขณะที่ "รัฐบาลไทยรักไทยเป็นรัฐบาลที่ไม่สนใจนักวิชาการและอาจารย์-
มหาวิทยาลัย ไม่ให้คุณค่าความสำคัญแก่ราษฎรอาวุโส" เป็นสิ่งที่เหมาะสม???

---

ลงท้ายสรุปเอาเองว่า "ความขัดแย้งใหญ่ในปัจจุบันคือ ประเทศไทยจะก้าวเดินไป
บนหนทางทุนนิยมโลกาภิวัตน์หรือจะถอยหลังไปสู่เศรษฐกิจทุนนิยมด้อยพัฒนา"

เริ่มต้นเปิดเป็นเรื่องการเมือง ในประเด็นความขัดแย้งของมวลชนกลุ่มรากหญ้า
ที่หนุนทักษิณ กับกลุ่มต่อต้านทักษิณที่ไม่ใช่รากหญ้า พอลงท้ายกลายเป็น
เน้นประเด็นทางเศรษฐศาสตร์ ว่าจะก้าวเดินไปทางไหน

อ่านกลับไปกลับมาหลายรอบแล้ว ยังปะติดปะต่อความสัมพันธ์ตอนต้นกับตอนท้าย
ของบทความไม่ได้เลยครับ ว่าขึ้นต้นบทความอย่างนั้นทำไม หรือลงท้ายบทความ
อย่างนี้ทำไม ตกลงจะเอาประเด็นมวลชน หรือประเด็นแนวทางเศรษฐกิจกันแน่..

หรือว่าแกแค่เขียนบ่นไปเรื่อย เอาใจกองเชียร์แม้ว ???
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-07-2006, 17:23 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
หมายจับ
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 08-07-2006, 17:22 »

อาจารย์เขียนให้คนอ่าน คนก็เข้าใจ

ควาย นะ อ่านบทความที่คนเขียนไม่ออกหรอก

เขียนยังไงก็ไม่เข้าใจหรอกว่ะ

บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #3 เมื่อ: 08-07-2006, 17:32 »

อาจารย์เขียนให้คนอ่าน คนก็เข้าใจ

ควาย นะ อ่านบทความที่คนเขียนไม่ออกหรอก

เขียนยังไงก็ไม่เข้าใจหรอกว่ะ

ก็เป็นเสียอย่างนี้..

พอบทความโดนวิจารณ์พวกกองเชียร์ก็ไม่พอใจ

ถ้าอยากอ่านแต่คำชม ไป พันทิป ดีกว่าไหม..
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #4 เมื่อ: 08-07-2006, 17:37 »

จำชื่อไว้นะครับ ชื่อเจ้าของบทความ

รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์

ผมก็จะพยายามจำ เพราะไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน Mr. Green

ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ฉันรักประชาชน
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #5 เมื่อ: 08-07-2006, 17:45 »

เห็นว่ามีคนมาตอบ ก็เลยอยากเสริมคำวิจารณ์ของผมอีกสักหน่อยนะครับ..

โดยปกติเวลานักวิชาการเขียนบทความจะมีวัตถุประสงค์ของบทความที่จัดทำเป็นบทคัดย่อได้
และตลอดบทความจะมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของแนวทางระบบความคิด แต่ละจุดจะเขียน
เพื่อเสริมกันและกัน จะไม่ให้มีส่วนหนึ่งส่วนใดลอยๆ โดยไม่มีประโยชน์ หรือออกนอกลู่นอกทาง
และที่สำคัญบทสรุปจะเป็นคำตอบของบทเริ่มต้น.. ไม่ใช่เขียนไปเรื่อยขึ้นอย่างหนึ่งลงอย่างหนึ่ง

ทำให้พอมาอ่านบทความของ ดร. แกแล้ว คิดว่าไม่ใช่รูปแบบบทความที่นักวิชาการเขาทำกัน
ท่านที่สนใจอาจลองสังเกตบทความของนักวิชาการท่านอื่นเทียบดู ก็จะเห็นภาพชัดเจนขึ้นครับ
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #6 เมื่อ: 08-07-2006, 17:51 »

ผมก็คิดคล้ายคุณ jerasak
อ่านดูแล้ว มันเหมือนใบปลิว หรือการเขียน "ด้น" ที่อ้างข้อมูลสมทบบ้างเล็กน้อย ในสไตล์การเขียนบนเวบบอร์ด ที่ "นึก" อะไรขึ้นมาได้ก็เอามาใส่ ซะมากกว่า
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
หมายจับ
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: 08-07-2006, 17:54 »

แค่ copy แป๊ะ มาจากราชดำเนิน ก็มาตั้งกระทู้ได้ ตกต่ำเหลือเกิน เวปนี้

ระหว่าง รศ. ที่เขียนบทความ กับ ควายหน้าเบลอๆ คอยจับผิด

ใครเชื่อควายก็บ้าแล้ว

แน่จริงไปตอบที่ราชดำเนินหรือ weopenmind ซิ  หรือเก่งอยู่แค่ที่นี่

เออ โดนไล่มาจากราชดำเนินนี่นะ 
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #8 เมื่อ: 08-07-2006, 18:16 »

แค่ copy แป๊ะ มาจากราชดำเนิน ก็มาตั้งกระทู้ได้ ตกต่ำเหลือเกิน เวปนี้

ระหว่าง รศ. ที่เขียนบทความ กับ ควายหน้าเบลอๆ คอยจับผิด

ใครเชื่อควายก็บ้าแล้ว

แน่จริงไปตอบที่ราชดำเนินหรือ weopenmind ซิ  หรือเก่งอยู่แค่ที่นี่

เออ โดนไล่มาจากราชดำเนินนี่นะ 


เอ.. แล้วพวก "บุคคลทั่วไป" ที่มีแต่ชื่อไม่มีหน้ามีตานี่ แน่จริงหรือครับ?

เรื่องราชดำเนินจะมาพูดทำไม รู้ๆ กันอยู่ว่าเถียงสู้ไม่ได้ถึงหาทางปิดปาก
สมัยผมโพสที่นั่นถ้ายังมีคนจำได้ ก็จะรู้ว่าแพ้หรือชนะมากกว่ากัน..

คนเราถ้ามีที่ทางของตัวแล้ว ทำไมต้องเดินสายไปเที่ยวตอบที่อื่นด้วย
ผมอยู่ที่นี่ก็สบายใจสบายตามาหลายเดือน เพิ่งจะเจอ "ควาย" ตัวแรก
ก็ในกระทู้นี้เอง คงไม่ออกไปหาเพิ่มล่ะครับ..
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #9 เมื่อ: 08-07-2006, 18:35 »

ว่าแล้วก็ขอเอา คคห. จากคุณ : modtuanoituanid ที่ ราชดำเนิน มาลงเสียหน่อยครับ

---

ความคิดผมอาจสวนกระแสกับเสียงส่วนมากที่ตอบกระทู้นี้ แต่ผมขอแสดงความคิดเห็น คงไม่ว่ากัน และด้วยความเคารพอาจารย์

1.อาจารย์บอกเป็นการต่อสู้ระหว่าง ผู้ต้องการปฏิรูปสังคมตามแนวทางโลกาภิวัฒน์และพวกต่อต้านโลกาภิวัฒน์ อาจารย์บอกเป็นการต่อสู้ระหว่างชนชั้นล่างในเมืองและชนบทที่สนับสนุนผู้นำรัฐบาล และระบอบประชาธิปไตยกับชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมือง ที่ต้องการขับไล่ผู้นำรัฐบาลและฉีกรัฐธรรมนูญ

ความเห็นผม ผมว่าอาจารย์ยกแนวคิดทั้งสองด้านที่สุดโต่งเกินไป มันไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างสองชนชั้น พวกปฎิรูปสังคมตามแนวทางทุนนิยมโลกาภิวัฒน์ใช่ แต่พวกต่อต้านโลกาภิวัฒน์ ส่วนหนึ่งอาจใช่ แต่อีกส่วนหนึ่ง ก็ไม่ใช่ว่าเค้าจะคิดต่อต้านโลกาภิวัฒน์ แต่อาจคิดว่า ทำอย่างไร จึงจะไปกับโลกาภิวัฒน์ได้ โดยสังคมไม่เสียหาย ไม่ใช่ส่งเสริมทุนนิยมแบบสุดโต่งตามกระแสโลกาภิวัฒน์ โดยไม่ได้ดูธรรมชาติของสังคมไทย
ชนชั้นนำและชนชั้นกลาง ต้องการขับไล่ผู้นำจริง แต่ไม่ใช่ว่าเขาเหล่านั้น ต้องการฉีกรัฐธรรมนูญ ตรงนี้อาจารย์ก็คิดสองขั้วแบบสุดโต่งเช่นเดิม

2.ทำไมอาจารย์คิดว่าชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมือง ไม่เคยเข้าใจชีวิตของคนรากหญ้า ส่วนหนึ่งอาจใช่ เพราะความเห็นแก่ตัวหรือความจำเป็นอะไรก็แล้วแต่ ที่ทำให้เขาเหล่านั้น ไม่สามารถไปเหลียวแลได้ แต่คนอีกส่วนหนึ่ง ไม่ได้เป็นเช่นนั้น คนส่วนหนึ่ง ซึ่งอาจจะมากด้วย เข้าใจความลำบากของคนรากหญ้า แต่ด้วยเหตุอะไรก็แล้วแต่ บางคนช่วยได้ บางคนไม่สามารถช่วยคนรากหญ้าได้ อาจารย์เหมารวมว่าคนกลุ่มชนชั้นนำและชนชั้นกลาง อาจารย์ได้ข้อสรุปมาจากไหน ผมน่าจะอยู่ชนชั้นกลาง ผมว่าผมเข้าใจความยากลำบากของกลุ่มคนรากหญ้าในระดับหนึ่ง แต่จะช่วยได้หรือไม่ช่วยนั้น ผมมีในใจของผมอยู่แล้ว ถามว่า อาจารย์คิดว่าอาจารย์เป็นกลุ่มชนชั้นไหน ถามว่า แล้วอาจารย์เข้าใจความยากลำบากของคนรากหญ้าหรือไม่ และถามว่า ในใจของอาจารย์คิดหาลู่ทางช่วยเขาเหล่านั้นหรือไม่ครับ ไม่ต้องตอบผมนะครับ คิดไว้ในใจ และหาโอกาสทำ ถ้าอยากทำ

3.ทำไมอาจารย์บอกว่า คนกลุ่มชนชั้นนำและชนชั้นกลาง ชอบดูแคลนกลุ่มรากหญ้าว่า "ถูกซื้อ" ทำไมอาจารย์ไม่มองอีกมุมหนึ่งว่า นั่นคือ การเอาสภาพความเป็นจริงมาพูด อาจารย์จะรู้มากน้อยแค่ไหนว่า กลุ่มรากหญ้าถูกซื้อจริงหรือไม่ ตามมุมมองของผม คนหาเช้ากินค่ำ หากมีใครเอาเงินมาให้วันละ 500 บาท ผมว่าเขาต้องเอาไว้ก่อน เพื่อปากท้อง ผมไม่ว่าคนเหล่านี้ที่รับเงิน แต่ผมจะด่าไอ้คนที่เอาเงินไปให้ พวกนี้ต่างหากที่ไปหาว่ากลุ่มคนรากหญ้าเป็นคนโง่ เงินซื้อพวกเขาได้

4.ข้อมูลหลายอย่างที่อาจารย์บอก ผมเชื่อว่าเป็นเช่นนั้น เช่น เรื่องกลุ่มทุนเก่า ผู้นำแรงงานรัฐวิสาหกิจ แทคโนแครต กลุ่มก๊วนการเมืองบางกลุ่ม แต่การที่อาจารย์บอกว่า นักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัยและราษฎรอาวุโส ที่ทำแบบนั้น เพราะสูญเสียสถานภาพและความน่าเชื่อถือตลอด 5 ปี ส่วนหนึ่งอาจใช่ แต่คนอย่าง นพ.ประเวศ วะสี ท่านเป็นคนเช่นนั้นหรือครับ ทำไมอาจารย์เหมารวมไปหมด การที่หลายคนออกมาต่อต้านทักษิณ ทำไมอาจารย์ต้องเหมารวมว่า เขาเหล่านั้น ต้องการฉีกรัฐธรรมนูญและต้องการทำลายประชาธิปไตย ตรรกะของอาจารย์เป็นแบบไหนกัน ถ้าไม่ใช่สีขาว มันมีแต่สีดำอย่างเดียวหรือครับ ไม่ใช่สีขาว มันจะเป็นสีอื่นด้วยก็ได้นี่ครับ

4.บางคนที่อยู่ในกลุ่มต่อต้าน อาจมีเบื้องหลังไม่ดี อาจทำเพราะต้องการชำระแค้นต่อผู้นำ หรือทำเพื่อเปิดทางให้กับตัวเอง บางคนคงใช่ วาระซ่อนเร้นของเขาอาจมี แต่วาระอันบริสุทธิ์ของใครอีกหลายคน ซึ่งผมเชื่อว่าแบบนี้มีมากกว่าด้วย อาจารย์ไม่ได้สนใจในเนื้อหาของเขาเหล่านั้นเลยหรือครับ อาจารย์ไปกล่าวหาว่าฝ่ายต่อต้านมีลักษณะถอยหลังเข้าคลอง ฝ่ายต่อต้านที่ว่า อาจารย์มหาวิทยาลัยเยอะแยะมากมาย เคยมียุคใดหรือไม่ครับ ที่อาจารย์จะออกมาเยอะขนาดนี้

5.ผมฝากให้อาจารย์และทุกคนคิดดังนี้นะครับ
   - สมมติเรามีผู้นำที่เก่ง วิสัยทัศน์กว้างไกล แต่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ถามว่า เรายอมรับได้หรือไม่ที่ยอมให้เค้าโกงกิน(สมมตินะครับ) แต่เค้าก็พัฒนาอย่างอื่นๆหลายๆด้าน ตอนนี้อาจดูดี แต่อนาคต ไม่แน่ว่าจะดีหรือไม่ สมมติให้ใกล้เคียง คือ การใช้นโยบายประชานิยม มีประเทศไหนไปรอดหรือไม่ ไม่รู้ว่ารัฐบาลสมมติของผม ได้เตรียมการป้องกันไว้อย่างดีหรือไม่ อาจารย์เป็นนักเศรษฐศาสตร์นี่ครับ น่าจะตอบได้ดีว่า นโยบายประชานิยม มันสมควรต่อสังคมไทยหรือไม่

6.ผมไม่คิดว่า การแสดงความคิดเห็นของอาจารย์ครั้งนี้ จะเป็นวิชาการได้หรือไม่ ด้วยความสามารถอันน้อยนิดของผม ผมว่าไม่ อาจารย์มีมุมมองที่แคบ เพียงแค่สองด้าน หรือในทางวิชาการ ต้องมีการจำกัดกรอบเอาไว้ ประมาณหากจะพิจารณาตัวแปรใด ต้องทำให้ตัวแปรอื่นคงที่ไว้ก่อน แต่ความเป็นจริง มันไม่ใช่มีแค่สองด้านอย่างสุดขั้วแบบอาจารย์ว่า ข้อมูลบางอย่างของอาจารย์อาจถูก แต่อีกหลายส่วนผมว่าไม่ใช่ กาลเวลาจะพิสูจน์เองครับ แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า อันนี้ผมไม่ได้ว่าอาจารย์นะครับ คนเรา หากโกหกได้ ความชั่วอื่นๆก็สามารถทำได้เช่นกัน ให้อาจารย์ลองพิจารณานะครับว่า บุคคลหลักๆในสังคมเราตอนนี้ ใครบ้างที่เข้าข่ายนี้

ด้วยความเคารพจริงๆ ไม่มีเจตนาดูหมิ่นอาจารย์ที่เป็นเคารพของอีกหลายคน แต่คนเราไม่ว่าใครก็ตาม สถานะไหนก็ตาม คงไม่สามารถหันหน้าเชิดมองท้องฟ้าได้อย่างเดียว ใช่มั๊ยครับ ยังไงก็ตามก็ต้องหันมามองดูดินด้วยอยู่แล้ว สรุปว่า ยังไงเราทุกคนก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นด้วยใช่มั๊ยครับ ผมวิจารณ์บทความของอาจารย์ด้วยใจบริสุทธิ์จริงๆ หากผิดพลาดหรือล่วงเกินประการใด ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

จากคุณ : modtuanoituanid  - [ 7 ก.ค. 49 00:53:19 ]
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
หมายจับ
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: 08-07-2006, 18:48 »

แล้วไม่ copy ฝ่ายสนับสนุนมาบ้างละ หรือไม่กล้าละ ควายหน้าเบลอ 

อย่าว่าอะนะ ควายหน้าเบลอ  จะให้คิดอะไรมากกว่านี้ได้ไง

นึกว่าตัวเองมีความรู้เยอะ  ดูถูกคนอื่น ไม่ต่างจากพวกแก่ๆ อ้างตัวว่าเป็นราชนิกูลละมั้ง

เห็นควาย  1 ตัวเหรอ  ก็ควายย่อมเห็นควายนะซิ
บันทึกการเข้า
แทน
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20



« ตอบ #11 เมื่อ: 08-07-2006, 19:49 »

แล้วไม่ copy ฝ่ายสนับสนุนมาบ้างละ หรือไม่กล้าละ ควายหน้าเบลอ 

อย่าว่าอะนะ ควายหน้าเบลอ  จะให้คิดอะไรมากกว่านี้ได้ไง

นึกว่าตัวเองมีความรู้เยอะ  ดูถูกคนอื่น ไม่ต่างจากพวกแก่ๆ อ้างตัวว่าเป็นราชนิกูลละมั้ง

เห็นควาย  1 ตัวเหรอ  ก็ควายย่อมเห็นควายนะซิ


ผมตามอ่านกระทู้ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้
ก็พบว่า เป็นเรื่องปกติ และกระทู้ปกติทั่วๆ ไป
ที่มีคน 2 ฝ่าย ( เป็นอย้างน้อย ) แสดงความเห็นต่อบทความที่ต่างกันไปบ้าง

คุณหมายจับ มีความคิดเห็นอย่างไรต่อบทความ ก็แสดงออกมาสิครับ
มาไล่วิพากษ์ความคิดเห็นคนอื่น  หรือวิจารณ์แนวทางของแต่ละเวบบอร์ด
เป็นประเด็นหลักที่คุณสนใจ มากกว่า?

แต่หากจะให้แนะนำ  ไม่ควรตีโพยตีพาย ป้ายซ้ายป้ายขวาไปทั่วนะครับ
บ่งชื่อกันไปตรงๆ เลยดีกว่า

ที่คุณกล่าวว่า  ใครดูถูกใคร ไม่ต่างจากใคร....นี่ ผมเห็นว่าไม่เหมาะครับ   ไม่เหมาะ
เพราะคุณก็อาจกำลังคิดดูถูกใครอยู่หรือเปล่า  หือ?





ส่วนตัว ผมไม่เห็นด้วยนัก  กับการออกมาพูดความคิดเห็นส่วนตัวในที่สาธาณะ
ในนามของสถาบันไหน หรือยกตำแหน่งใดใดมาอ้างให้เห็นความสำคัญ  มากไปกว่าเนื้อความอยู่แล้ว
บันทึกการเข้า
หวังดี
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: 08-07-2006, 20:03 »


นึกว่าตัวเองมีความรู้เยอะ  ดูถูกคนอื่น ไม่ต่างจากพวกแก่ๆ อ้างตัวว่าเป็น...ละมั้ง


ขอเตือนว่าลามปามไม่เข้าเรื่องแล้วนะครับ

จะโพสจะพิมพ์อะไรก็ใช้หัวสมองคิดบ้าง
อย่าวนเวียนแต่เรื่องควายๆ อย่างเดียว

คิดเรื่องคุกเรื่องตารางไว้บ้างก็ดี..
บันทึกการเข้า
(ก้อนหิน) ละเมอ
Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,041



เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 08-07-2006, 22:26 »

แล้วไม่ copy ฝ่ายสนับสนุนมาบ้างละ หรือไม่กล้าละ ควายหน้าเบลอ 

อย่าว่าอะนะ ควายหน้าเบลอ  จะให้คิดอะไรมากกว่านี้ได้ไง

นึกว่าตัวเองมีความรู้เยอะ  ดูถูกคนอื่น ไม่ต่างจากพวกแก่ๆ อ้างตัวว่าเป็นราชนิกูลละมั้ง

เห็นควาย  1 ตัวเหรอ  ก็ควายย่อมเห็นควายนะซิ

ไปดูตามลิ้งค์เองครับ... ผมโพสต์ลิ้งไว้ให้แล้ว...
บันทึกการเข้า

koo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 550



« ตอบ #14 เมื่อ: 08-07-2006, 23:18 »

ด่าได้หยาบคาบ และโยงไปด่าผู้อื่นได้อย่างไม่มีเหตุผล

 Crying or Very sad  Crying or Very sad  Crying or Very sad

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: