"ศึกเลือกตั้ง" ปิดฉากลงไปแล้ว แต่ปัญหาทางการเมืองยังไม่มีทีท่ายุติ ระเบิดลูกใหญ่ที่ตูมสนั่นก่อนวันหย่อนบัตรลงหีบไม่กี่วัน การที่ "ม็อบเชียงใหม่" จำนวนไม่กี่พันคน "สติแตก" ลุกฮือประท้วงเผาหุ่นและล้มเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ ปาไข่ ขว้างของแข็ง ก้อนอิฐ ก้อนหิน ใส่ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ-ชวน หลีกภัย" จุดชนวนให้อุณหภูมิการเมืององศาเดือดสูงสุด และมีโอกาส "ปรอทแตก" หากไม่มีใครรีบคลี่คลายเสียแต่ต้น
....เพราะพลันที่ "ม็อบเชียงใหม่" ที่กล่าวได้ว่า เป็น "คนกลุ่มน้อย" ทำให้ "คนกลุ่มใหญ่" ของจังหวัดเสียชื่อวันนั้นเป็นต้นมาแล้ว สถานการณ์ก็ยิ่ง "โกบิ๊ก" ทำท่าจะกู่ไม่กลับ เมื่อ "คนใต้" ที่พูดได้ว่า "ท้องถิ่นนิยม" รุนแรงที่สุดของประเทศ งัดแผนตาต่อตาฟันต่อฟัน ก่อม็อบปิดถนนลงภาคใต้ที่จังหวัดชุมพร หากไม่มีใครรีบเยียวยา ตัดไฟเสียแต่ต้นลม ความพินาศจะเกิดขึ้นฉับพลัน
....เมื่อก่อน 3 จังหวัดภาคใต้ นราธิวาส ยะลา และปัตตานี ถูกการเมือง "ฆ่าตัดตอน" จนเกิดรอยร้าวในแผ่นดิน แบ่งเชื้อชาติ ศาสนา เข่นฆ่ากันไม่หยุดหย่อน ความปกติผาสุกของผู้คน ร้อนเป็นไฟ ต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน กลายเป็นดินแดนสนธยา แต่ม็อบเชียงใหม่ กลุ่มเล็กๆ ทำท่าจะก่อหวอด ให้เกิด "วิกฤตภาค"
....หลังเลือกตั้งหาก "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" กลับมาเป็นนายกฯครั้งที่ 3 ไม่รู้จะเดินทางไปตรวจราชการในพื้นที่ภาคใต้แบบปกติ เหมือนกับนายกฯที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งประเทศได้อย่างไร นอกจากต้องมีกำลังคุ้มกันอย่างแน่นหนา หรือแม้กระทั่งในกรุงเทพฯอันเป็นเมืองหลวง จะปลีกวิเวกไปหาอาหารอร่อยๆ รับประทาน หรือพาครอบครัวไปเดินช็อปปิ้งตามห้างสรรพสินค้าเงียบๆ ไม่ได้เหมือนเก่า
....เคยบอกมาก่อนเลือกตั้งหลายวัน หลายครั้งว่า "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" ปัญหามิได้อยู่ที่ชนะ หรือพ่ายแพ้เลือกตั้งใหญ่วันที่ 2 เมษายน "ปัญหาใหญ่" คือจะอยู่ท่ามกลางการต้อนรับของ "คนเมือง" ที่เป็นครูบาอาจารย์ นักวิชาการ แพทย์ พยาบาล ที่เป็นชนชั้นกลางและชนชั้นสูงของสังคมได้อย่างสง่างามดุจเดิมอย่างไร
....แพ้-ชนะเลือกตั้งเป็น "ปัญหารอง" เพราะเป็นพรรคใหญ่พรรคเดียวที่ลงสมัคร "ปัญหาใหญ่" คือการยอมรับของ "ทักษิณ 3" จะทำอย่างไร กู้วิกฤตศรัทธา "คนเมือง" กลับคืนมาอย่างไรให้เหมือนช่วง "ทักษิณ 1" ที่ไปไหนมาไหนแบบไม่ต้องระแวดระวังใคร
....จับอาการ "พ.ต.ท.ทักษิณ" วันสองวันก่อนหย่อนบัตร เหมือนกับ "เปิดทางถอย" เมื่อแนวทาง "รัฐบาลแห่งชาติ" เชิญหลายฝ่ายมาร่วมและได้รับการปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยอีก มีอยู่สถานเดียวหากว่า สภาผู้แทนราษฎร ไม่เจอทางตัน ดันๆ ถูๆ จนเปิดประชุมได้ ไม่ว่าบัญชีรายชื่อจะครบร้อยที่นั่ง หรือเขตเลือกตั้งครบสี่ร้อยที่นั่งหรือไม่
...."ทางถอย" ที่ไม่ให้เกิดปัญหารุงรังติดตามมา คือการผลักดันใครคนหนึ่งคนใดจากผู้สมัครบัญชีรายชื่อขึ้นมาเป็น "นายกฯขัดตาทัพ" ซึ่ง "พ.ต.ท.ทักษิณ" น่าจะมีตัวเลือกที่เหมาะสมอยู่ในใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ...อนึ่ง ระยะหลังๆ ขณะที่ "พ.ต.ท.ทักษิณ" อารมณ์สงบเยือกเย็น สุขุมขึ้น คนที่แสดงอาการเกรี้ยวกราด พูดจาท้าทายหนักหน่วงกว่าใครเพื่อนกลับเป็น "พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์" รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงฯ เป็นซะยังงั้นไป
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01soc01040449&day=2006/04/04