ฎีกาที่ 6031/2531 จำเลยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรัฐมนตรีมาก่อน ได้เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์มีข้อความว่า "พรรคไหนเอ่ยที่คนในพรรคพัวพันกับการค้าเฮโรอีนระหว่างประเทศ จนต้องแก้ปัญหาด้วยการปลิดชีพตัวเองลาโลก" ทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ว่า
หมายถึงพรรค ป. และ ด. สามีโจทก์ เป็นการที่จำเลยมีเจตนาใส่ความผู้ตายโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร น่าจะเป็นเหตุให้โจทก์ซึ่งเป็นภรรยาและบุตรเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นจากผู้อื่นได้ ผิด ม.326
http://www.geocities.com/lawyerfm/lawb103.html...
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6031/2531โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326, 327, 328, 32, 83 พระราชบัญญัติการพิมพ์ พุทธศักราช2484 มาตรา 48 และคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 7, 8 ให้โฆษณาคำพิพากษาของศาลในหนังสือพิมพ์ของจำเลย หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เดลินิสว์ สยามรัฐมติชน และหนังสือพิมพ์บ้านเมือง เป็นเวลา 15 วัน ติดต่อกันโดยจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าโฆษณา
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 327, 328, 83 ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 อันเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 920 จำคุก 6 เดือน ปรับ 4,000 บาท จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 327, 328, 83 พระราชบัญญัติการพิมพ์พุทธศักราช 2484 มาตรา 48 ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328อันเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก6 เดือน ปรับ 4,000 บาท จำเลยที่ 1 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเคยเป็นรัฐมนตรีมาก่อน ถ้าจะรอการลงโทษไว้ย่อมจะเป็นเครื่องเหนี่ยวรั้งให้จำเลยที่ 1 ต้องระมัดระวังความประพฤติของตน ซึ่งน่าจะเป็นผลดีแก่สังคมมากกว่าที่จะลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1ไปทีเดียว ส่วนจำเลยที่ 2 มิใช่ผู้เขียนแต่รับผิดในฐานะบรรณาธิการผู้พิมพ์และผู้โฆษณา ทั้งไม่เคยปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเคยรับโทษจำคุกมาก่อน
พฤติการณ์และเหตุผลแห่งรูปคดีมีเหตุสมควรรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยทั้งสองกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดีต่อไปจึงให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสองไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 กับให้จำเลยทั้งสองโฆษณาคำพิพากษาทั้งหมดในหนังสือพิมพ์เดลิมิเร่อร์ ไทยรัฐ เดลินิวส์ มติชน และหนังสือพิมพ์บ้านเมือง ฉบับละ 7 วัน โดยจำเลยทั้งสองเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา คำขออื่นให้ยก
โจทก์และจำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วพิพากษายืน โจทก์และจำเลยทั้งสองฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาในศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองลงโฆษณาคำพิพากษาทั้งหมดในหนังสือพิมพ์เดลิมิเร่อร์ และหนังสือพิมพ์เดลินิวส์หรือหนังสือพิมพ์มติชนฉบับใดฉบับหนึ่งอีกหนึ่งฉบับ เป็นเวลาฉบับละ7 วัน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์http://forum.serithai.net/index.php?topic=22245.msg267139#msg267139