ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-03-2024, 12:53
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ชมรมประชาธิปไตยแบบสอดคล้อง : มาเยี่ยมเยือน 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] 2
ชมรมประชาธิปไตยแบบสอดคล้อง : มาเยี่ยมเยือน  (อ่าน 4654 ครั้ง)
concordance democracy
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 313


« เมื่อ: 26-09-2008, 09:44 »

ขอเชิญผู้สนใจกรุณาติดตามที่-----> http://www.cdthai.org/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2008, 04:32 โดย concordance democracy » บันทึกการเข้า
moon
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 780


« ตอบ #1 เมื่อ: 26-09-2008, 10:23 »

เหตุ - เกิดจากการที่เราลอกแบบระบบประชาธิปไตยแบบใช้เสียงส่วนมาก (Majority Rule) ของฝรั่งมาใช้โดยไม่ได้วิเคราะห์ให้ดีเสียก่อนว่าระบบนี้จะใช้กับคนไทยซึ่งมีนิสัยใจคอแตกต่างจากประชาชนในประเทศต้นแบบนั้นได้หรือไม่ ถือหลักแต่เพียงว่าพรรคการเมืองใดมีจำนวนผู้แทนราษฎรที่ได้รับเลือกเข้ามามากเกินครึ่งของจำนวนผู้แทนราษฎรทั้งหมดนั้น มีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อบริหารประเทศ หากพรรคฯมีจำนวนส.ส.ไม่พอที่จะจัดตั้งรัฐบาลพรรคฯเดียวก็จะทำการชักชวนพรรคฯเล็กๆเข้าร่วมเพื่อให้มีส.ส.พอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้

ขออนุญาตต่อเนื่องจากไม่ครบถ้วน

และในระบบประชาธิปไตยแบบใช้เสียงส่วนมากนั้น ทำให้เกิดจุดอ่อนของการอาสาเข้ามาทำงานการเมือง โดยผู้ที่คิดที่จะเสียสละและมีอุดมการณ์เพื่อประโยชน์ของประชาชนจริงๆ นั้น ได้หดหายไปกับอำนาจเงินของกลุ่มทุนที่ต้องการเข้ามาแสวงหาผลกำไรงบประมาณของประเทศ ทำให้เกิดการคอรัปชั่นเชิงนโยบายไปทั่ว ทำให้มีการซื้อเสียงเพื่อให้ได้มาซึ่งเสียงส่วนใหญ่ นักธุรกิจการเมืองมองเห็นจุดอ่อนนี้ ประกอบกับการศึกษาของประเทศไทยในชนบทห่างไกลยังล้าหลังอยู่มาก รวมทั้งประเทศไทยยังมีกลุ่มอิทธิพลต่างๆ ครอบงำประชาชน เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร มีฐานะยากจน จึงสามารถเข้าถึงประชาชนกลุ่มนี้ได้ด้วยเงิน

เพราะฉะนั้นตัวอย่างที่เห็นในเว็บของคุณไม่สามารถจะขจัดการซื้อเสียงไปได้

ตัวอย่าง - เช่นรัฐบาลที่จะจัดตั้งนั้นมีกระทรวงต่างๆ 10 กระทรวง จำนวนส.ส.ทั้งหมด 100 คน เฉลี่ยส.ส. 10 คนต่อ 1 กระทรวง
พรรคฯ ก. มีส.ส.รวม 38 คน รับผิดชอบบริหาร 4 กระทรวง
พรรคฯ ข. มีส.ส.รวม 27 คน รับผิดชอบบริหาร 3 กระทรวง
พรรคฯ ค. มีส.ส.รวม 22 คน รับผิดชอบบริหาร 2 กระทรวง
พรรคฯ ง. มีส.ส.รวม 10 คน รับผิดชอบบริหาร 1 กระทรวง
พรรคฯ จ. มีส.ส.รวม 3 คน รับผิดชอบบริหาร 0 กระทรวง

สุดท้ายบรรดาพรรคการเมืองก็จะต้องทุ่มซื้อเสียงเพื่อให้ได้มาซึ่ง จำนวน ส.ส. ที่มาก เพื่อให้ได้เข้ามาบริหารกระทรวงต่างๆ เพื่อทำการทุจริตคอรัปชั่นอีกเหมือนเดิม
บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 26-09-2008, 11:17 »

อ้างถึง
ตอนที่ 16 ตื่นเถิดพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งหลาย โดย Tom Politics
http://www.cdthai.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=538756111&Ntype=1

“ระบบ 70/30 ตั้ง เค้าทะมึนมาแล้วครับ ขอรัองเถอะ ตื่นเถิดพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งหลาย กรุณาผนึกกำลังกันรักษาอำนาจประชาธิปไตยของพวกเราทุกคนไว้ให้ได้จนถึงที่สุด

มีคนไทยจำนวนไม่น้อย(ผู้รู้จริงไม่เกี่ยวนะครับ) ที่เข้าใจว่าประชาธิปไตยหมายถึงเสียงส่วนมาก ผิดครับ ประชาธิปไตยแปลความหมายได้ว่า ประชาชนมีสิทธิที่จะปกครองตนเอง นั่นก็คืออำนาจเป็นของพวกเราประชาชนทุกคน คำว่า เสียงส่วนมาก นั้นเป็นเพียงวิธีการอย่างหนึ่งที่นิยมนำมาใช้สำหรับตัดสินความคิดที่แตกต่างกันในระบอบประชาธิปไตยเท่านั้นเอง ที่จริงแล้วประชาธิปไตยคืออำนาจหรือเสียงของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

ตัวผู้เขียนกระทู้ “วิกฤตการเมืองไทย - เหตุ, ผล และหนทางแก้ไข” นี้ ไม่ได้อยู่ในเมืองไทย แต่ได้ปักหลักอาศัยอยู่ในประเทศต้นแบบที่เขาใช้ระบบนี้บริหารประเทศมานานร่วม 30 ปีแล้ว นานพอที่จะแยกแยะได้ว่าวิธีการบริหารประเทศแบบ Concordance Democracy ของ เขานั้นดีหรือเลวอย่างไร เสถียรภาพของรัฐบาลของประเทศนี้จัดได้ว่ามั่นคงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง เป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบที่อำนาจในการปกครองเป็นของประชาชนอย่าง แท้จริง ผู้เขียนเห็นว่าระบบ Concordance Democracy นี้มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะนำมาประยุกต์ใช้ได้ในประเทศไทยเพื่อเสริม สร้างประชาธิปไตยของพวกเราให้มั่นคงถาวรตลอดไป จึงได้นำมาเสนอ โดยได้ตั้งชื่อเป็นภาษาไทยว่า “ระบบประชาธิปไตยแบบสอดคล้อง”

ระบบประชาธิปไตยแบบสอดคล้องเป็นระบบที่หล่อหลอมเสียงส่วนมากกับเสียงส่วนน้อยเข้า ด้วยกันอย่างกลมกลืน โดยที่ระบบจะเริ่มที่ประชาชนทั้งประเทศส่งผู้แทนของแต่ละกลุ่มในรูปของส.ส. อิสระและส.ส.ที่สังกัดพรรคการเมืองต่างๆโดยใช้วิธีลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้ เข้าไปจัดตั้งรัฐบาล เพื่อร่วมกันรับผิดชอบในการบริหารประเทศตามสัดส่วนจำนวนส.ส.ของพรรคฯ จึงนับได้ว่าเป็นระบบที่เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด รัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นในระบบประชาธิปไตยแบบสอดคล้องจึงเป็นรัฐบาลของประชาชนทั้งประเทศอย่างแท้จริง

ระบบ ประชาธิปไตยแบบสอดคล้องนี้หากมีการทำการศึกษาให้เข้าใจอย่างละเอียด นำมาดัดแปลงรวมกับระบบเดิมให้ได้หลักการที่สอดคล้องที่จะใช้กับสังคมไทยแล้ว นำไปใช้ในการบริหารประเทศได้ ก็น่าจะทำให้ความขัดแย้งของกลุ่มต่างๆลดน้อยลง เพราะทุกกลุ่มจะมีตัวแทนของกลุ่มที่มีตำแหน่งหน้าที่บริหารประเทศอยู่ใน รัฐบาลตามสัดส่วนที่ยุติธรรม ทำให้ระยะห่างระหว่างการได้เปรียบเสียเปรียบลดนัอยลง เมื่อประชาชนทั้งประเทศพอใจ ปัญหาความขัดแย้งรุนแรงแบบไร้เหตุผลก็จะไม่เกิดขึ้นอีก

กรุณาให้โอกาศแก่ประเทศไทยสักนิดเถิดครับ โทรฯไปพูดคุยกับทางชมรมฯสักครึ่งนาที แล้วท่านจะคิดหรือตัดสินใจเช่นไรก็เป็นสิทธิ์ของท่าน ชมรม ประชาธิปไตยแบบสอดคล้องมีความจริงใจในการที่จะนำเสนอหนทางแก้ไขวิกฤตการ เมืองไทยอย่างแท้จริง แต่ถ้าท่านผู้มีเกียรติทั้งหลายปิดประตูลงกลอนไม่ยอมรับรู้อะไรจากเราเลยเรา ก็จนปัญญา เพราะลำพังเราฝ่ายเดียวคงจะไล่ตาม 70/30 ไม่ทันแน่”

ก่ิอนจะพูดอะไรกันต่อ รบกวนช่วยอธิบายบทความนี้ของคุณก่อนได้ไม๊ (เพราะผมจำได้ว่า ไอ้ 70/30 ของแป๊ะลิ้มเนี่ย มันบอกว่าเป็นแค่ตุ๊กตา แต่คุณเล่นเอา 70/30 นี่มาขยายความหากิน อันนี้คุณช่วยอธิบายหน่อยนะ)
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
concordance democracy
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 313


« ตอบ #3 เมื่อ: 26-09-2008, 11:24 »

?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2008, 00:07 โดย concordance democracy » บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #4 เมื่อ: 26-09-2008, 11:30 »

 
ประชาธิปไตยแบบสอดคล้อง เป็นแบบนี้นี่เอง 


บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
moon
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 780


« ตอบ #5 เมื่อ: 26-09-2008, 11:39 »

คุณ concordance democracy ครับ

โอเคเลยครับ การที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งจ้างบริษัททำป้ายหาเสียง แล้วถือว่าเป็นการซื้อเสียง

โอเคครับ ปล่อยมันผ่านไปครับ ให้มันเป็นค่านิยมแบบไทยๆ ต่อไปครับ ดีครับ

ถ้ามีคิดวิธีออก ผมคงไม่บอกคุณหรอกครับ เพราะอ่านมาทั้งสี่ย่อหน้าแล้ว คุณคงจะไม่เห็นด้วยกับผมอยู่ดี

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
concordance democracy
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 313


« ตอบ #6 เมื่อ: 26-09-2008, 11:54 »

?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2008, 00:08 โดย concordance democracy » บันทึกการเข้า
วิหค อัสนี
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 946



« ตอบ #7 เมื่อ: 26-09-2008, 12:22 »

มีคำถามครับ

"ตัวแทนของกลุ่ม" ที่ว่านี่ หมายถึงกลุ่มผลประโยชน์ กลุ่มสังคม กลุ่มอาชีพ ฯลฯ จากภาคส่วนต่างๆ ในสังคมใช่หรือไม่?

ถ้าใช่...แล้วอย่างนั้น ระบบที่ทางคุณเสนอมา มันจะต่างกับระบบเลือกตั้งจากกลุ่มสังคมผสมเลือกตั้งจากเขตพื้นที่ หรือที่เรียกกันติดปากว่า 70/30 ที่พันธมิตรเสนอมา (ซึ่งในบทความนั้นได้พยายามชี้ให้คนกลัวและรังเกียจว่าไม่เป็นประชาธิปไตย) ตรงไหนบ้างไม่ทราบ?? 






บันทึกการเข้า

_______ดังนี้แล
__เปลวไฟจักลุกโชน
___หามีวันดับลงได้
_ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า
ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
concordance democracy
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 313


« ตอบ #8 เมื่อ: 26-09-2008, 12:32 »

?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2008, 00:09 โดย concordance democracy » บันทึกการเข้า
concordance democracy
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 313


« ตอบ #9 เมื่อ: 26-09-2008, 13:11 »

?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2008, 00:09 โดย concordance democracy » บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 26-09-2008, 13:41 »

ตอบ / คุณ “วิหค อัสนี”

1.โดยสภาพสังคมไทยของเรามีกลุ่ม(ผลประโยชน์)มากมาย ทั้งที่เป็นแบบธรรมชาติและแบบนิตินัย สุดแท้แต่จะเรียกหรือไม่เรียกกันว่าอย่างไร ตัวอย่างเช่น “ชมรมประชาธิปไตยแบบสอดคล้อง” หากในอนาคตมีสมาชิกมากมายอาจจัดตั้งเป็นพรรคการเมืองใหญ่ได้ส่วนแบ่งรัฐมนตรีในครม.มากตำแหน่งก็ได้ แต่ถ้าไม่มีสมาชิกอะไรมากมายอะไรอย่างนี้ ขอเป็นเพียงกลุ่มผลักดัน(mover group)ก็นับว่าทำดีที่สุดแล้ว

2.กล่าวโดยรวมๆ “ระบบประชาธิปไตยแบบสอดคล้อง”ต่างกับ “70/30”ตรงที่ที่มาของผู้แทนราษฎร กล่าวคือ “ระบบประชาธิปไตยแบบสอดคล้อง”ให้เลือกตั้งเต็ม 100 เหมือนเดิม ส่วน “70/30” ให้ลากตั้ง 70 เลือกตั้ง 30 (ล่าสุดได้ข่าวว่าผู้ที่เสนอ “70/30” ได้ขอถอนเรื่องไปแล้ว)

3. “ชมรมประชาธิปไตยแบบสอดคล้อง”ไม่ได้กลัว “70/30” หรืออย่างอื่นๆ ถ้ากลุ่มที่เสนอถอยไปเข้าที่เข้าทาง เข้าตามตรอก/ออกตามประตู เช่น จัดตั้งพรรคการเมืองลงเลือกตั้ง(ก็ไหนว่าคนด้วยทั้งเมือง) หรือถ้าไม่จัดตั้งพรรคการเมืองก็เป็นกลุ่มกดดันในกติกาของบ้านเมือง มิใช่มาปิดถนน ยึดทำเนียบ ซึ่งเป็นสมบัติกลางของคนไทยทุกคน มาใช้ประโยชน์ส่วนตนส่วนกลุ่มอยู่อย่างนี้ ชมรมฯรับไม่ได้ เพราะไม่เห็นประชาธิปไตยตรงไหน แม้ประเทศเผด็จการเต็ม 100 เขาก็ยังไม่ทำกันเลย.

เท่าที่อ่านมา ก็ไม่ต่างจากพรรค LDP ของญี่ปุ่นนี่นา ใช่ป่ะ?
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
concordance democracy
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 313


« ตอบ #11 เมื่อ: 26-09-2008, 14:01 »

?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2008, 00:10 โดย concordance democracy » บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #12 เมื่อ: 26-09-2008, 14:04 »

เท่าที่ตามอ่านข้อเสนอของ ชมรมประชาธิปไตยแบบสอดคล้อง
ที่เว็บของชมรม และตามบอร์ดการเมืองต่างๆ จำนวนหนึ่งแล้ว

..พบว่ามีพื้นฐานมาจากระบบการเมืองของสวิสเซอร์แลนด์ครับ..

ตอนนี้ชมรมของเขากำลังไล่แปลรัฐธรรมนูญสวิสเซอร์แลนด์อยู่
แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ผมก็เลยยังรอดูผลงานแปลที่สมบูรณ์อยู่

ตัวคุณ Tom Politics เจ้าของไอเดียเขาก็อาศัยอยู่ที่สวิสนี่เอง

เป็นการพยายามนำเสนอระบบที่มีใช้กันจริงๆ แต่อาจมีปัญหา
ในการอธิบายให้คนไทยเข้าใจอยู่บ้างน่ะครับ


...

ไอเดียเรื่องแบ่งสัดส่วนรัฐมนตรี ให้กับทุกพรรคการเมืองในสภา-
ที่มีคะแนนถึงเกณฑ์ ก็ถือเป็นไอเดียหนึ่งที่จุดประกายความคิด
ของผมขึ้นมาว่าสามารถแก้ปัญหาได้หลายเรื่อง และจะสมบูรณ์
หากเพิ่มเติมส่วนเสริมให้เหมาะสมกับประเทศไทย

ตอนนี้ผมก็กำลังทำโครงสร้างระบบการเมืองแบบที่ตัวเองคิด
ถ้าทำเสร็จแล้วก็จะเอามานำเสนอเหมือนกันครับ ไอเดียของ
ชมรมประชาธิปไตยแบบสอดคล้อง ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผมนำมา
ประกอบเข้าไปในโมเดลด้วยเหมือนกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-09-2008, 14:06 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
samepong(ยุ่งแฮะ)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,402



« ตอบ #13 เมื่อ: 26-09-2008, 14:30 »

ก่อนผมจะคุยด้วย ผมขออนุญาติถาม1ข้อครับ

ระหว่างสิทธิ์ที่คุณมีคนละ1เสียงไปกากบาท กับ กระบวนการเลือกนักการเมือที่ทำเพื่อชาติจริงๆที่เพื่อคนส่วนร่วมจริง(ไม่ใช่การปฎิวัติหรือแต่งตั้ง นะครับ) คุณคิดว่าอย่างไหน คือ ปชต. มากกว่ากัน
บันทึกการเข้า

เวลาจะพิสูจน์ความเชื่อ สักวัน ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะถูกหรือผิด ผมขอรับไว้ด้วยตัวเอง คิเสียว่าทำแล้วเสียใจดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
concordance democracy
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 313


« ตอบ #14 เมื่อ: 26-09-2008, 14:41 »

?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2008, 00:11 โดย concordance democracy » บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #15 เมื่อ: 26-09-2008, 20:44 »

 
หลักที่ว่าทุกคนต้องมี 1 เสียงเท่ากัน

แล้วเด็กอายุไม่ถึง 18 นี่ไม่ใช่คนหรือไง ทำไมไม่มีสิทธิ์




ผมสงสัยมานานแล้ว  Laughing
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
numdee
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 116



« ตอบ #16 เมื่อ: 26-09-2008, 21:55 »

ผมมองว่าไม่ว่าคุณจะหาวิธีป้องกันยังไงหรือแก้ระบบให้ดียังไง ตราบใดที่คนยังมีความโลภ ความด้าน ในกมลสันดาน ระบบที่คุณแก้นั้นก็ไร้ความหมายถ้าให้คนพวกนั้นเข้ามาบริหาร การแก้ปัญหาที่แท้จริงควรแก้ที่คน อาจจะให้คนที่จะเข้ามาบริหารประเทศต้องผ่านหลักสูตรอบรมทางด้านจริยธรรม คุณธรรม และศีลธรรมก่อนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.
ส่วนที่คุณบอกว่าการซื้อเสียงนั้นเป็นเรื่องปกติและเป็นการส่งเสริมประชาธิปไตยนั้น ผมมองต่างกับคุณตรงที่ว่าคนในเมืองนั้นได้รับการศึกษาย่อมจะคิดตัดสินใจในการเลือกสส.ด้วยตนเองแต่คนนอกเมืองนั้น ถ้าไม่ได้เงินแล้วไม่เลือกนั้นก็ควรปล่อยไป เพราะถ้าตราบใดที่เขายังไม่เข้าใจถึงการใช้สิทธิของตัวเองก็ไม่สมควรที่จะได้สิทธินั้น จนในที่สุดแล้วเขาเองก็จะเข้าใจเองว่าการที่ต้องใช้สิทธิก็เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองใช่ว่าผลประโยชน์ของใคร ไม่อย่างนั้นถ้าคุณว่าการทุ่มซื้อเสียงนั้นมีประโยชน์ต่อระบอบประชาธิปไตยแล้วละก็ ผมเห็นว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเงินเลือกตั้งให้เปิดประมูลตำแหน่งรัฐมนตรีเลยดีกว่า ใครมีเงินมากสุดก็ครองเก้าอี้ไปบริหารและก็เอาเงินที่ประมูลมาแจกให้ประชาชนทุกๆคนด้วยจำนวนเท่าๆกัน มันก็คงจะเหมือนกับการซื้อเสียงที่ซุ่มๆแอบๆ สู้ทำแบบซึ่งๆหน้า ประชาชนจะได้ไม่ต้องออกมาให้เหนื่อยยากการที่คุณไปโทษระบบอุปถัมภ์ว่าทำให้ต้องซื้อขายเสียงผมว่าผิดไปหน่อยแล้ว ถามว่าถ้าผมให้เงินคุณทุกวันๆ แล้ววันนึงผมใช้ให้คุณไปขโมยของคนที่ผมเกลียดขี้หน้ามาให้ผม ถามว่าคุณจะทำมั๊ย ถ้าคุณเป็นคนดีมีจริยธรรมมีหิริโอตัปปะ มีความคิดคุณก็คงจะเลือกได้ว่าจะทำหรือไม่แต่ถ้าคุณมีไม่พอคุณก็คงจะโทษที่ระบบอุปถัมภ์ใช่หรือไม่ และที่คุณไม่เห็นด้วยกับการยึดทำเนียบและอยากให้ใช้วิธีกดดันอย่างอื่นคุณลองเสนอหน่อยว่าวิธีไหนที่เหมาะสม ขนาดประชาชนทำถึงขนาดนี้พวกบริหารประเทศยังไม่มีความละอายใจในการที่จะตึกตรองว่าทำไมอยู่ๆคนถึงทำกันขนาดนี้ไม่พอใจกันขนาดนี้ แต่กลับ ด้าน และหาเหตุผลแถข้างๆคูๆ เพื่อผลประโยชน์ของพรรค ถ้าคนที่มีสำนึกป่านนี้คงมุดแผ่นดินหนีอายไปนานแล้ว ส่วนที่คุณยกตัวอย่างเรื่องป้ายหาเสียงกทม.นั้น ถ้าบริษัทที่ทำป้ายให้หลายๆคน คุณว่าเขาจะต้องลงคะแนนให้ทุกคนเลยสิ ไม่เชื่อคุณไปดูแหล่งผลิตป้ายที่พิมพ์ลงในผู้สมัครหลายๆคน มีแหล่งที่มาเดียวกัน และที่คุณสรุปการซื้อเสียงไม่ใช่สิ่งเสียหายในระบอบประชาธิปไตยแล้วถามว่าทำไมต้องมีการถอนทุนคืนด้วยหล่ะ ตราบใดที่ยังมีเงินให้ถอนทุนคืนคุณก็ว่าไม่เสียหาย แต่อย่าลืมว่าขนเป็ดเมื่อถอนมากๆก็ย่อมมีวันหมด แล้ววันนั้นคุณยังจะมีหน้าบอกอีกมั๊ยว่าการซื้อเสียงไม่เสียหาย แต่ดีกว่าพวกเผด็จการ (ดูเหมือนว่าคุณจะมีปมด้อยเกี่ยวกับเผด็จการอยู่มาก) เผด็จการเป็นคนมั๊ย ถ้าเปรียบเผด็จการเป็นครูแล้วประชาชนเป็นนักเรียน เมื่อนักเรียนทะเลาะกัน ครูก็จับแยกและก็สอบสวนว่าใครถูกใครผิด นักเรียนที่เกเรย่อมรู้สึกว่าครูไม่ควรยุ่งเหรอ ปล่อยให้ผมต่อยมันให้หมอบเลย มันจะได้เกรงกลัวผม ครูไม่ยุติธรรมเลย ไปให้เพื่อนนักเรียนที่เป็นพวกเดียวกับเจ้านั่น(คตส.)มาปรักปรำผมทำไม แล้ววันรุ่งขึ้นคุณก็โกรธครูไม่อยากไหว้ครูอีกต่อไป คุณว่าที่ผมเขียนทั้งหมดนั้นจริงมั๊ยอ่ะ ผมอยากลองฟังคุณบ้าง
บันทึกการเข้า
concordance democracy
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 313


« ตอบ #17 เมื่อ: 27-09-2008, 17:51 »

?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2008, 00:12 โดย concordance democracy » บันทึกการเข้า
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #18 เมื่อ: 27-09-2008, 19:42 »

จุดประสงค์

ผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 โดยยึดหลักประชาธิปไตยแบบสอดคล้อง

 
พวกคุณรู้มั้ย ผมไปนั่งกลางถนนสู้เพราะเหตุอะไร

หลักประชาธิปไตยที่คุณอ้างนะ เป็นแค่อรรถาธิบายที่งี่เง่า

หลักการงี่เง่า สอดคล้องกับคนปฎิบัติงมงาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-09-2008, 19:44 โดย ชัย คุรุ เทวา โอม » บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
exzcute
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 221


« ตอบ #19 เมื่อ: 27-09-2008, 20:03 »

numdee : ที่คุณบอกว่าการซื้อเสียงเป็นเรื่องปกติและเป็นการส่งเสริมประชาธิปไตยนั้น ผมมองต่างตรงที่ว่าคนในเมืองได้รับการศึกษาย่อมจะตัดสินใจเลือก สส.ด้วยตนเอง
ตอบ :
1.กล่าวโดยรวมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนในเมืองหรือนอกเมือง การตัดสินใจกาบัตรอยู่ที่ “ผลประโยชน์ร่วมกัน”หรือ“ให้ประโยชน์แก่กัน”ด้วยรูปแบบต่างๆ(นับตั้งแต่วันเลือกตั้งเป็นต้นไป)
2.คำว่า “การซื้อเสียง”เป็นเพียงรูปแบบหนึ่งที่สมประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย เพียงแต่การซื้อขายเสียงของคนในเมืองมีรูปแบบแบบเชิงซ้อนและแนบเนียนกว่าคนในชนบทเท่านั้นเอง(ไม่มีคนในเมืองคนใดหรอกที่มิได้กาบัตรให้คนที่รักษาผลประโยชน์ให้ตนได้ แม้แต่ตัว“คุณ numdee”เองก็เถอะ)
3.ผมเห็นว่าคำว่า “ซื้อเสียง” ไม่ใช่ประเด็นสำคัญทางการเมือง เป็นเพียง“คำศัพท์หรูๆ”ที่“พวกดัดจริตทางการเมือง” เอาไว้ใช้โจมตีผู้อื่นที่ซื้อเสียงได้เก่งกว่าเท่านั้นเอง
 Question
numdee : คุณไม่เห็นด้วยกับการยึดทำเนียบและอยากให้ใช้วิธีกดดันอย่างอื่น คุณลองเสนอหน่อยว่าวิธีไหนที่เหมาะสม
ตอบ : เพียงพวกเขารักษา“ศีล 5” (แบบที่คุณอยากให้นักการเมืองเป็น) พวกเขาก็จะตรัสรู้ได้ด้วยตนเอง



งั้นสิ่งที่คุณพูดมันก็เป็นแค่การอ้างผลประโยชน์ของคุณซินะ
คนที่เขาไม่ได้คิดอย่างคุณก็มี
ถ้าเลือกนากยก อบต. คุณก็มองแค่ตำบลคุณเหรอ?
ถ้าเลือก สส. ก็มองแค่จังหวัดคุณเหรอ
ถ้าคุณได้เลือกเลขา UN คุณจะมองแค่ประเทศคุณเหรอ?
ก็เพราะมีคนแบบคุณไง มันถึงไม่ไปไหน อย่าดัดจริตดีกว่าครับ
เอาสัดส่วน สส. มาแบ่งแยกผลประโยชน์ มันคงได้ยิ่งเละกันเข้าไปใหญ่
ระบบตรวจสอบลงโทษยิ่งออกแบบยากและทำยากขึ้น

แล้วรักษาศีล 5 มันตรัสรู้ไม่ได้หรอกนะครับ เรื่องโง่ๆ เก็บๆ ไว้มั่งก็ได้
บันทึกการเข้า
concordance democracy
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 313


« ตอบ #20 เมื่อ: 27-09-2008, 21:18 »

?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2008, 00:13 โดย concordance democracy » บันทึกการเข้า
Sweet Chin Music
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,613



« ตอบ #21 เมื่อ: 27-09-2008, 21:23 »

ผมเห็นต่างออกไปครับ คือ จะไปแก้ที่ตัวระบบ มันก็ไม่น่าจะใช่ได้กับเมืองไทยอยู่ดี

เพราะว่า ปัจจุบันมันเสียที่ตัวคนด้วย คือ ถ้าไม่แก้ที่ตัวคนด้วย ไปแก้ที่ตัวระบบอย่างเดียว

เดี๋ยวคนนั้นละ จะ้เป็นผู้ไปทำลายระบบที่ว่าดี ให้เสียไปนั่นละ
บันทึกการเข้า


You'll Never Walk Alone
เข้าไปกันได้ค๊าป- - - >http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sweetchinmusic&group=1
concordance democracy
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 313


« ตอบ #22 เมื่อ: 27-09-2008, 21:24 »

?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2008, 00:14 โดย concordance democracy » บันทึกการเข้า
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #23 เมื่อ: 27-09-2008, 21:25 »

1.ผมเห็นว่าเรื่องการซื้อเสียงเป็นเพียงผลพวงอย่างหนึ่งของระบบประชาธิปไตยที่ไม่สอดคล้องกับสังคมไทย จึงควรที่จะหาระบบที่สอดคล้องกับสังคมไทยเพื่อให้ผลพวงต่างๆดีขึ้นกว่านี้
2.คนที่ยึดทำเนียบผิดศีล 5 ทุกข้อ 1.ฆ่าสัตว์เลื้อยคลาน 2.มุสา 3.กาเม 4.ลักทรัพย์ 5.เสพใบกระท่อม (เมื่อมีถามเกี่ยวกับผู้คนเหล่านั้นมา ผมก็เสนอให้ถือศีล 5 ให้เรียบร้อยเสียก่อน แล้วสิ่งที่พวกเขาประสงค์ก็จะบรรลุผลสำเร็จแน่นอน)

คนในทำเนียบศึกษาอย่าง โยนิโสมนสิการ และเป็นการอยู่รวมกันอย่างสังฆะ

ความคิดของคุณนะมันผิดตั้งแต่ มุสาแล้ว
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #24 เมื่อ: 27-09-2008, 21:27 »

พุดเรื่อง ซื้อเสียงก็มิจฉาฐิติ แล้วสิ

ท่าทางจะอ้างว่ามีศีล แต่รับศีลไม่ครบเสียละมั้ง
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
concordance democracy
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 313


« ตอบ #25 เมื่อ: 27-09-2008, 21:32 »

?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2008, 00:15 โดย concordance democracy » บันทึกการเข้า
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #26 เมื่อ: 27-09-2008, 21:36 »

พูดให้เต็มประโยคก็คือ ต้องสร้างระบบประชาธิปไตยที่สอดคล้องกับสภาพสังคมไทยมาจัดระเบียบบุคลากรทางการเมือง
กรุณาติดตามหลักการที่ http://www.cdthai.org/


แล้วประชาชนได้อะไรหรือ

ถ้าการเมืองเข้มแข็ง ในเว็บคุณไม่มีบอกเลยว่า ถ้าผู้นำห่วยๆไม่ได้เรื่อง ประชาชนจะทำอย่างไร

เพราะการเมืองของคุณไม่มีแม้ฝ่ายค้าน เพราะมันตกลงกันโดยหมด

ไม่มีทางให้ภาคประชาชนในการเมืองคุณ แสดงว่าคุณดูถูกพลังจากประชาชนอย่างมาก
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
FireSatongNorth
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107



« ตอบ #27 เมื่อ: 27-09-2008, 22:06 »

ดีครับ ถือเป็นการนำเสนอที่เป็นรูปเป็นร่างเป็นเว็ปไซต์ จับต้องได้ ถ้าเป็นการเล่นหมากล้อม ก็ถือเป็นการเปิดสนามรบใหม่ในกระดานเดียวกัน
แต่ผมขอวิจารณ์เว็ปไซต์คุณนิดนึงนะ ที่เป็นสไตล์เดียวกับ NGO กลายๆ คือใช้นามสกุล .org (องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร แต่อาจได้เงินทุนจากผู้บริจาค)
ประเด็นที่ขอวิจารณ์คือ โลโก กับพื้นหลัง สีแดงแสบตาจังเลย คิดว่าถ้า พธม เข้ามาคงปฏิเสธทันที่ แต่ถ้าเป็น นปก หรือ ผู้มีตังค์ในรัฐบาล กระเป๋าหนัก
เห็นเข้าคงรักชอบเป็นพิเศษ และคงควักเงินอุดหนุนคุณได้ไม่ยากนัก เห็นตอนนี้งบดุลอยู่ที่ 3,300 บาท แต่รออีกนิดผมว่าจะมีคนอุดหนุนอีกมากโข 

ประเด็นที่คุณชูเป็นหลัก คือ ประชาธิปไตยแบบสอดคล้องผลประโยชน์ ของนักการเมืองกับนักการเมือง และนักการเมืองกับคุณนั่นเอง 

 
บันทึกการเข้า
อธิฏฐาน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,912


รักษาประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคน


« ตอบ #28 เมื่อ: 27-09-2008, 22:19 »

ดีครับ ถือเป็นการนำเสนอที่เป็นรูปเป็นร่างเป็นเว็ปไซต์ จับต้องได้ ถ้าเป็นการเล่นหมากล้อม ก็ถือเป็นการเปิดสนามรบใหม่ในกระดานเดียวกัน
แต่ผมขอวิจารณ์เว็ปไซต์คุณนิดนึงนะ ที่เป็นสไตล์เดียวกับ NGO กลายๆ คือใช้นามสกุล .org (องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร แต่อาจได้เงินทุนจากผู้บริจาค)
ประเด็นที่ขอวิจารณ์คือ โลโก กับพื้นหลัง สีแดงแสบตาจังเลย คิดว่าถ้า พธม เข้ามาคงปฏิเสธทันที่ แต่ถ้าเป็น นปก หรือ ผู้มีตังค์ในรัฐบาล กระเป๋าหนัก
เห็นเข้าคงรักชอบเป็นพิเศษ และคงควักเงินอุดหนุนคุณได้ไม่ยากนัก เห็นตอนนี้งบดุลอยู่ที่ 3,300 บาท แต่รออีกนิดผมว่าจะมีคนอุดหนุนอีกมากโข 

ประเด็นที่คุณชูเป็นหลัก คือ ประชาธิปไตยแบบสอดคล้องผลประโยชน์ ของนักการเมืองกับนักการเมือง และนักการเมืองกับคุณนั่นเอง 

 

ประชาธิปไตยแบบสอดคล้องผลประโยชน์

    
บันทึกการเข้า

หยุด...สัมปทานอุทยานแห่งชาติ
http://www.oknation.net/blog/sandstone
concordance democracy
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 313


« ตอบ #29 เมื่อ: 27-09-2008, 22:22 »

?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2008, 00:16 โดย concordance democracy » บันทึกการเข้า
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #30 เมื่อ: 27-09-2008, 22:31 »

76 ปีที่ผ่านมา พอจะสรุปบทเรียนการเมืองไทยได้แล้วหรือยังว่า

1.อย่าให้อำนาจนายกรัฐมนตรีเต็มร้อย และเต็ม 4 ปี
2.อย่ากีดกันพรรคใหญ่ฝ่ายค้านหรือพรรคเล็กพรรคน้อยออกนอกเวทีผลประโยชน์ แม้แต่พรรคเดียว
3.นิสัยคนไทยชอบแบบ “เลือดสุพรรณ มาด้วยกัน ไปด้วยกัน” หรือ “ชอบฉลากกินแบ่ง ไม่ชอบฉลากกินรวบ”
4.คนไทยไม่ชอบสรุปบทเรียนแบบไทยๆ ชอบของนอกไปเสียทั้งหมด แล้วมานั่งโทษกันไปมาอยู่ในขณะนี้
ฯลฯ

(กรุณาช่วยกันสรุปบทเรียนการเมืองแบบไทยๆให้ได้มากๆเถอะครับ ในที่สุดก็จะได้“ระบบประชาธิปไตยแบบสอดคล้อง”กับสังคมไทย)
ประชาธิปไตยแบบสอดคล้องผลประโยชน์ ของนักการเมืองกับนักการเมือง และนักการเมือง  

ยืมคำของคุณFireSatongNorth

และยืมคำของ พี่แถอีกนิด "จินตนาการน้ำแตก"

นี่คือสองบทสรุปคำว่าประชาธิปไตยของคุณ
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,131


กูรู้มึงต้องอ่าน ฮ่าๆ ขำขำนะจ๊ะ


เว็บไซต์
« ตอบ #31 เมื่อ: 27-09-2008, 22:35 »

โกงได้แต่ขอให้มีผลงาน     

ผมไม่มีความเห็นแต่เข้ามาป่วนฮ่าๆๆๆ
บันทึกการเข้า

ขอมอบ เพลงนี้ให้กับพี่น้อง พันธมิตรทุกคนฮะ


http://www.imeem.com/sakujo/music/04_GaHIQ/09_avenged_sevenfold_strength_of_the_worldmp3/

strength of the world
concordance democracy
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 313


« ตอบ #32 เมื่อ: 27-09-2008, 22:39 »

?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2008, 00:17 โดย concordance democracy » บันทึกการเข้า
concordance democracy
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 313


« ตอบ #33 เมื่อ: 27-09-2008, 22:41 »

?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2008, 00:18 โดย concordance democracy » บันทึกการเข้า
concordance democracy
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 313


« ตอบ #34 เมื่อ: 27-09-2008, 22:44 »

(updated / 28 sep 08)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-09-2008, 21:38 โดย concordance democracy » บันทึกการเข้า
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #35 เมื่อ: 27-09-2008, 22:48 »

ที่แน่ๆคนที่ยึดทำเนียบนี่ผิดข้อลักทรัพย์ของคนไทยทั้งประเทศ
5555555555555

55555555555555555555555555555
555555555555555555555555555555

ลักทรัพย์คนทั้งประเทศ 5555555555555555555

โอ๊ยขำๆๆๆ 555555555555555

 

ยิ่งกว่าดู3เกลอหัวขวดอีก

บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
concordance democracy
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 313


« ตอบ #36 เมื่อ: 27-09-2008, 22:49 »

(updated / 28 sep 08)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-09-2008, 21:45 โดย concordance democracy » บันทึกการเข้า
...นึกว่าใคร ?
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 159


" ? "


เว็บไซต์
« ตอบ #37 เมื่อ: 27-09-2008, 22:56 »

เอาประชาทิปไตย ใส่กล่องไว้ก่อน...

ทำอย่างไรให้รากหญ้าลืมระบอบ " ทักกี้  " ดีฟ่า.....หว่ะ
บันทึกการเข้า

login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #38 เมื่อ: 27-09-2008, 23:04 »

คนที่น้ำแตกได้ แสดงว่าสรุปบทเรียนเป็น

เชื่อละว่าดักดานจริง
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #39 เมื่อ: 28-09-2008, 00:05 »

ระบบ จัดสรรตำแหน่ง รมต. ตามจำนวน สส. มาจาก รัฐบาล หม่อมคึกฤทธิ์ ที่มี 18 เสียง

แล้วโค่นรัฐบาล ประชาธิปัตย์ ที่มี สส. ร่วม 100 เสียง ( ปรมาณปี 2518 )

โดยนำจำนวนกระทรวง ไปหาร จำนวน สส. พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด

นั่นคือการแบ่งอำนาจกันของพวกกลุ่มก๊วนการเมือง

แล้วใช้เป็นสูตรจัดตั้งรัฐบาลมาจนปัจจุบันนี้ โดยแบ่งส่วนหนึ่งให้นายกรัฐมนตรีมากหน่อย

สมัยนั้น ไม่ได้บอกว่า พรรคไหนมีเสียงมากที่สุด จะได้เป็นนายกหรอกครับ

หัวหน้าพรรคไหนเหมาะสมที่สุด ก็ได้รับการยอมรับให้เป็นนายกรัฐมนตรี

จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครคิดสูตรจัดตั้งรัฐบาลท่ได้รับการยอมรับจาก สส. และพรรคการเมือง

ดังนั้น สูตรจัดตั้งรัฐบาลก็ยังใช้สูตรตัวเลขแบบนี้อยู่

ใครคิดออกก็บอกมาด้วยนะครับ
บันทึกการเข้า

exzcute
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 221


« ตอบ #40 เมื่อ: 28-09-2008, 00:25 »

1.ผมเห็นว่าเรื่องการซื้อเสียงเป็นเพียงผลพวงอย่างหนึ่งของระบบประชาธิปไตยที่ไม่สอดคล้องกับสังคมไทย จึงควรที่จะหาระบบที่สอดคล้องกับสังคมไทยเพื่อให้ผลพวงต่างๆดีขึ้นกว่านี้
2.คนที่ยึดทำเนียบผิดศีล 5 ทุกข้อ 1.ฆ่าสัตว์เลื้อยคลาน 2.มุสา 3.กาเม 4.ลักทรัพย์ 5.เสพใบกระท่อม (เมื่อมีถามเกี่ยวกับผู้คนเหล่านั้นมา ผมก็เสนอให้ถือศีล 5 ให้เรียบร้อยเสียก่อน แล้วสิ่งที่พวกเขาประสงค์ก็จะบรรลุผลสำเร็จแน่นอน)

1. อ๋อ...โดยให้มันซื้อเสียงเข้าไปแบ่งผลประโยชน์กันเนี่ยนะ ตอบที่ถามมาไม่ได้ก็แค่พวกเห็นแก่ตัวที่ไม่ต่างจากพวกนั้นหรอก อย่ายัดเยียดความเห็นแก่ตัวแบบของตัวเองให้คนอื่น
2. อย่าโง่แก่อยู่ในกะโหลกกะลาดีกว่า หงอกก็ไม่มีจะให้ถอนแล้ว ถ้าตัวเองทำได้ไม่ครบ 5 ข้อก็อย่าสอนคนอื่น ขนาดไล่ศีล 5 ยังผิดเลย เข้าใจจับมาร่วมๆ กันแล้วด่าคนอื่นนะ แต่มาผิดข้อ 4. มุสาเสียเอง มิน่าถึงไม่ตรัสรู้สักทีอยู่แต่ในกะลา
บันทึกการเข้า
concordance democracy
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 313


« ตอบ #41 เมื่อ: 28-09-2008, 04:20 »

?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2008, 00:19 โดย concordance democracy » บันทึกการเข้า
concordance democracy
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 313


« ตอบ #42 เมื่อ: 28-09-2008, 04:30 »

(updated / 28 sep 08)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-09-2008, 21:40 โดย concordance democracy » บันทึกการเข้า
concordance democracy
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 313


« ตอบ #43 เมื่อ: 28-09-2008, 04:36 »

?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2008, 00:20 โดย concordance democracy » บันทึกการเข้า
cafein
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 96



« ตอบ #44 เมื่อ: 28-09-2008, 07:19 »

ถ้าผมป็นนักการเมืองได้แบบนี้ก็สบายเลย
ซื้อสิทธิขายเสียงได้ไม่ผิดกฏหมาย แถมเข้าไปในสภาไม่มีฝ่ายค้าน ที่เข้มแข็ง
พวกที่ได้คะแนนน้อยๆไม่มีเก้าอี้ ก็ปลาซิวปลาสร้อย ถึงเวลแค่จัดสรรเงินหาเสียงให้ไปผลาญเล่นๆสบายไป

การเมืองที่ตรวจสอบโดยประชาชนนะเร๊อะ เชอะจะสักเท่าไหร่ แค่ประนามว่าเล่นนอกสภาเป็นนักเลงเป็นกุ๊ยก็จบแล้ว
ต่อให้แน่แค่ไหน ไม่มีอภิปรายซักฟอก แฉกันจะๆกลางสภา ไม่มีลงมติไม่ไว้วางใจ ข้อมุลของประชาชนจะสักเท่าไหร่ ก็แค่อ้างว่าข้อมุลภายในบางอย่างเปิดเผยไม่ได้
สบายไปเยอะ ถ้าประชาชนปากกล้ามากๆก้มีอีกหลายวิธีให้จัดการ เบาะๆก็ฟ้องเรียกค่าเสียหายสักร้อยสักพันล้านก็เข็ดหายไปกว่าครึ่งแล้ว
ไหนจะโยนกระดุกให้ด้วยประชานิยมอีกละ ไหนจะกำลังภายในมอบยศมอบตำแหน่งให้เอนเอียงได้อีกละ ไหนจะอำนาจระเบียบจากทางราชการในควบคุมอีก

ส่วนที่จะบอกว่าห้ามซื้อขายเสียงไม่ได้นั้น ส่วนตัวผมคิดว่า
ถ้าไม่มีเงินสนับสนุนให้หาเสียงละ แต่เป็นการจัดสรรเวลาและโอกาสให้อย่างเท่าเทียมกันแทน
รวมกับการลงโทษที่หนักหนาเพราะถือเป็นการทำลายประชาธิปไตย
แล้วตามพ่วงด้วยการตรวจสอบการทำงานของรัฐจากฝ่ายประชาชนและฝ่ายค้านที่เข้มข้น
ฝ่ายค้านนั้นไม่ต้องพูดถึงตามหน้าที่อยู่แล้ว แต่ฝ่ายประชาชนรัฐต้องสนับสนุน แต่ไม่สามารถมีอำนาจจัดการได้ไม่ว่าทางใด
รวมไปถึงการลงโทษความผิดที่เอาจริงเอาจังต่อผู้ทำผิดที่เด็ดขาด
เพียงเท่านี้จะซื้อขายเสียงกันได้สักกี่สมัย

แต่ไม่ว่าอะไรก็ไม่สำคัญเท่า การปลูกฝังส่งเสริมสำนึกต่อชาติบ้านเมือง ต่อสังคมส่วนรวม
ไม่ว่าฝ่ายไหน ถ้ารู้จักมีสามัญสำนึกที่ไม่เข้าข้างตัวเองมากเกินไป ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนจนมากเกินไป และสำนึกต่อส่วนรวมอย่างถูกต้องละก็
ไอที่ว่ายากๆ ก็จะค่อยๆหดหายไปเองแหละ 
บันทึกการเข้า
Albert Einsteins
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 146



« ตอบ #45 เมื่อ: 28-09-2008, 08:10 »

สังคมเกลียดคร้าน
ประชาธิปไตยแบบสอดคล้องก็จะเป็นแบบเกลียดคร้าน


สังคมไม่ใสใจผลประโยชน์ของตนเอง ไม่สนใจผู้อื่น ให้คนอื่นฉกฉวยผลประโยชน์
ประชาธิปไตยแบบสอดคล้องก็จะไม่ใสใจผลประโยชน์ของตนเอง ไม่สนใจผู้อื่น ให้คนอื่นฉกฉวยผลประโยชน์

แล้วจะมีประชาธิปไตยแบบสอคล้องไปทำไม





ประชาธิปไตยคืออะไร ผมไม่รู้ ผมรู้แต่ว่า
เมื่อรัฐให้ผมเสียภาษีผมก็เสียภาษีให้รัฐไปใช้จ่าย รัฐต้องใช้จ่ายอย่างยุติธรรม ต้องไม่มีใครมาโกงเงินผม

เมื่อรัฐให้ผมเสียภาษีผมก็เสียภาษีให้รัฐไปใช้จ่าย ผมก็พร้อมที่จะเสียภาษี
ส่วนรัฐก็ต้องเก็บภาษี ผู้อื่นอย่างเป็นธรรม เฉกเช่นเดียวกับผม ไม่ใช่งุบงิบ ไม่เก็บผู้มีอำนาจในรัฐ


เมื่อผมจะทำมาหากินกับรัฐอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผมย่อมสามารถทำได้อย่างเสรี
ไม่ใช่รัฐถูกบงการ แบ่งงบประมาณให้กับคนไม่กี่กลุ่ม


ถ้าประชาธิปไตยแบบสอดคล้อง สร้างมาเพื่อสมานฉันท์ กลบปัญหาไว้หมือนซุกขยะไว้ใต้พรม
ผมว่าอย่ามีเลยดีกว่า สู้หักดิบให้ตายกันไปข้าง


ไม่ว่าฝ่ายไหนชนะ ผมว่าอย่างนี้ยังพอมีอนาคตบ้าง
ไม่ว่าอนาคตที่อาจดีขึ้น จากการเมืองใหม่ ที่เราหวังว่าจะนำประเทศและประชาชนไปสู่ทิศทางที่ดี มีกฏหมายที่ใช้ได้กับผู้ทำผิด มีจริยธรรม

หรืออนาคตที่อาจดีขึ้น จากการเมืองเก่า ที่นักการเมืองแบ่งกันในสภาหินอ่อน การบริหารประเทศเป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น
ประเทศและประชาชนเดินหน้าไปเรื่อยๆ ตามหลังลาว เขมร เวียดนาม เป็นที่ต้องการของรายการโชว์และเรียลลิตี้ต่างชาติ
หวังได้เพียงเศษกระดูกโยนมาจากนักการเมือง
ไม่ต้องหวังว่ากฏหมายที่ใช้ได้กับผู้ทำผิดเฉกเช่นลูกนักการเมือง
จริยธรรมเป็นเฉกเช่นเทพนิยาย เอาไว้ใช้อ่านยามอยากร้องไห้



ประชาชน ต้อง Evolution & Revolution

 
 
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #46 เมื่อ: 28-09-2008, 09:25 »

ขอเปลี่ยนชื่อชมรมเป็น "ประชาธิปไตยสอพลอ" แทนครับ
มองจากจุดยืนแล้วเหมาะเหม็ง เข้ากระเป๋าตังใครบางคนดี
บันทึกการเข้า
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,131


กูรู้มึงต้องอ่าน ฮ่าๆ ขำขำนะจ๊ะ


เว็บไซต์
« ตอบ #47 เมื่อ: 28-09-2008, 09:33 »

สวัสดีฮะ จขทก  มีคนๆนึงที่จขทกน่าจะไป คุยกับเค้ามากกว่า จะมาคุยกับพวก อ้ายกระผมในเว็บนี้นะครับ 

เค้าชื่อพี่ แฮกซีเครช   คนนี้ จะทำให้จขทกสุขใจมากเลย พวกผมมันแก่เกินแกง แล้ว 

http://nonlaw.com/


 
บันทึกการเข้า

ขอมอบ เพลงนี้ให้กับพี่น้อง พันธมิตรทุกคนฮะ


http://www.imeem.com/sakujo/music/04_GaHIQ/09_avenged_sevenfold_strength_of_the_worldmp3/

strength of the world
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #48 เมื่อ: 28-09-2008, 09:53 »

สังคมไทยเกือบทั้งหมด(หน่วยย่อยที่สุดคือครอบครัวแทบทุกครอบครัว แม้แต่ครอบครัวของ “คุณ Moon”)เป็นครอบครับแบบ “ระบบอุปภัมภ์” บวกค่านิยมไทยที่ต้องไม่ลืมผู้มีพระคุณ หรือต้องตอบแทนบุญคุณ การซื้อขายเสียงจึงสะท้อนค่านิยมไทยดังกล่าว จึงไม่ทราบว่าจะไปโทษใคร และค่านิยมดังกล่าวก็มีอยู่ทุกพรรค ดังนั้นหากจะกล่าวได้ว่าสส.ทุกคนทุกพรรคได้มาแบบซื้อเสียงด้วยกันทั้งสิ้นก็น่าจะได้ ดังนั้นในเมื่อสส.ทุกคนยืนอยู่บนค่านิยมเดียวกัน น่าจะถือว่ายุติธรรมแล้ว

(ตัวอย่างล่าสุด) การลงทุนหาเสียงเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. ได้คนละ 30+ ล้าน ผมเห็นว่าเป็นการซื้อเสียงแบบถูกต้องตามกฎหมายหรือยุติธรรมดี เงิน 30+ ล้านจากเบอร์ใด ไปลงที่บริษัททำป้ายบริษัทใด บริษัทนั้นก็ต้องลงคะแนนให้เบอร์นั้นแน่นอน ยิ่งถ้าเบอร์นั้นได้เป็น ผู้ว่า กทม. มีหรือที่บริษัทนั้นจะไม่ได้รับงานโฆษณาของ กทม.? เรื่องนี้ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยจ๋าแบบสหรัฐอเมริกา เงินหาเสียงเลือกตั้งประธานาธบดีก็มาจากบริทยักษ์ใหญ่ทั้งสิ้น

สำหรับในเมืองไทยถ้าชาวบ้าน(โดยเฉพาะยิ่งในชนบทที่ห่างไกลหน่วยเลือกตั้ง)จะได้ค่าน้ำมันรถบ้างคนละ 100-500 บาท ตอบแทนที่ต้องเสียเวลาทำมาหากินหรือต้องจ้างคนเลี้ยงวัวเลี้ยงกระบือหรือเฝ้าไร่เฝ้าสวนเพื่อไปเลือกคนที่เขาศรัทธาเป็นปากเสียงในสภาแล้วละก็ น่าที่จะถือว่าเป็นการส่งเสริมประชาธิปไตยดีกว่าการทำปฏิวัติรัฐประหาร(ซึ่งเสียเงินแผ่นดินคืนเดียว 2000 ล้านบาท)ซ้ำไป ความเป็นประชาธิปไตยไม่ควรจะวัดกันด้วยเรื่องซื้อหรือไม่ซื้อเสียง นายกรัฐมนตรีบางคนที่มาแบบไม่ซื้อสักบาท(แบบใบสั่ง คมช.)ยังเป็นนับถือกันว่าเป็นประชาธิปไตย เห็นคนยกมือไหว้กันทั้งเมือง

สรุปแล้ว ผมเห็นว่าเรื่องซื้อไม่ซื้อเสียงไม่ใช่ประเด็นหลักของวิกฤติการเมืองไทย เป็นเพียงข้อกล่าวอ้างของเผด็จการ+นักวิชาเกิน+คนชั้นกลางบางคนเพื่อให้เผด็จการเข้าสู่อำนาจดูดีหน่อยเท่านั้นเอง ประเด็นหลักน่าจะอยู่ที่การแบ่งสรรอำนาจหลังการเลือกตั้งให้ทั่วถึงและเป็นธรรมแก่ทุกพรรคได้อย่างไรมากกว่า

(หาก“คุณ Moon” มีวิธีป้องกันการซื้อขายเสียงก็น่าจะบอกให้ทราบบ้าง)

คิดได้ไงกันเนี่ย !!!!!!!!............
ตกลง ไอ้ ประชาธิปไตย มันสอดคล้องกับอะไรกันแน่...
ฐานความคิดแบบนี้ ....ยังมีหน้ามาเสนอความเห็นเรื่องประชาธิปไตย...
นี่ไม่ตกลง ไม่รู้จักอายจริง เหรอเนี่ย


 
บันทึกการเข้า
moon
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 780


« ตอบ #49 เมื่อ: 28-09-2008, 10:45 »

เท่าที่ดูจากอีกกระทู้ที่มีอีกท่านเอามาแฉว่าท่าน จขกท. เป็นใคร ก็เลยลองสรุปดูเล่นๆ ได้ว่า

ประชาธิปไตยแบบสอดคล้องคือ การที่นักการเมืองโกงกิน มีที่มาจากการซื้อเสียง จึงต้องมีการลงทุนมากมาย เมื่อมีการลงทุนมากมายก็ต้องเข้ามาถอนทุน

ทีนี้ไอ้การที่จะถอนทุนคืนได้นั้น ต้องอาศัยข้าราชการที่มีความเห็นสอดคล้องกัน คอยชงเรื่องให้กัน ผสมผสานศิลปการโกงโดยทำกันเป็นกระบวนการ

เพื่อให้เกิดโพรเจคต่างๆ ขึ้นมา ส่วนประชาชนส่วนหนึ่งที่ได้ค่ารับจ้างลงคะแนนนั่นก็จะพอใจและเงียบไว้ ส่วนพวกที่ไม่ขายเสียงแต่ดันพอจะมีความรู้หน่อยก็เลยโวยวาย

ฉะนั้นมันก็จะสอดคล้องกันแค่คนสามจำพวก 1 คนขายเสียง 2 นักการเมืองที่ซื้อเสียง 3 ข้าราชการที่หวังตำแหน่งลาภยศคอยเลียตูดพวกนักการเมือง

ส่วนไอ้พวกหัวแข็งที่ไม่ขายเสียง ก็ไม่ได้อยู่ในระบบนี้ ดังจะเห็นจากตัวอย่างจากอีกกระทู้ ที่กำลังพยายามสร้างความชอบธรรมให้นักการเมืองเพื่อที่ทั้งสามฝ่าย

จะได้อยุ่กันแบบสอดคล้องกันต่อไป
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
    กระโดดไป: