เขาจ้องมองตัวเอง ในกระจกเงาทั้งเช้าทั้งเย็น
มองเท่าใดก็ไม่เห็น ความผิดความชั่วความร้ายความเลว
ส่องข้างหน้าข้างหลัง ส่องซ้ายขวาก็เห็นแต่ความดี
คนมักเป็นเช่นนี้ เข้าข้างตัวเองให้ร้ายผู้อื่น
ผ่อนปรนตนเอง เข้มงวดผู้อื่นอย่างไร้เหตุผล
ถึงจ้องมองตัวตน จนกระจกเงาเก่าร้าวและแตก
มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ได้ผลลัพธ์ออกมาดูดี
กระจกวิเศษบานนี้ ตั้งอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล
ศาลการเมืองสถิตย์ ความยุติธรรมค้ำจุนสังคม
หินตกน้ำต้องจม แต่ตุลาการตัดสินว่าลอย
ฝนหล่นลงจากฟ้า ศาลกลับว่าน้ำระเหยขึ้นไปก่อน
ชั้นต้น ฏีกา อุทธรณ์ จะต่างอะไรกับศาลพระภูมิ
กฎเมืองกฎหมาย ไม่บังอาจใช้กับคนบางคน
ศาลไม่ได้สับสน แต่ผลประโยชน์คงดลบันดาล
แม้แต่ตุลาการ เขายังเทียบเชิญไปส่องกระจก
มันเป็นกระจกวิเศษ มีอยู่แต่ในทำเนียบรัฐบาล
...
เพลงมันเก่าตั้งแต่ก่อนรัฐประหาร 2549 ไม่ใช่หรือ 
------------------------------------------------------------------
เพลง "กระจกวิเศษ" อยู่ในอัลบั้ม " ตะวันตกดิน " เป็นอัลบั้มพิเศษของ แอ๊ด คาราบาว
ที่ออกเมื่อ พ.ศ. 2549 ช่วงเดียวกับวิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2548 ถึง 2549
ที่ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กำลังขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกจากตำแหน่ง
นายกรัฐมนตรี
เพลงที่ดังที่สุดในอัลบั้ม "ตะวันตกดิน" น่าจะเป็นเพลง "สมภารเซ้งโบสถ์" ที่มีเนื้อหา
เสียดสีสถานการณ์การเมืองในขณะนั้น โดย แอ๊ด คาราบาว ผู้เเต่งได้แรงบันดาลใจ
ในการเขียนเพลงมาจากโคลงชื่อ " สมภารเซ้งโบสถ์ " ของ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
ที่เปรียบเทียบ พ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนสมภารเลี่ยม การเซ้งโบสถ์ให้กับ เถ้าแก่เส็ก
เจ้าสัวเมืองสิงค์ เหมือนกับกรณี ตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ ขายหุ้นชินคอร์ป ให้แก่
บริษัท เทมาเสก โฮลดิ้ง แห่งสิงคโปร์
เพื่อให้นึกถึงสถานการณ์ตอนออกอัลบั้ม "ตะวันตกดิน" เลยเอาเพลง "สมภารเซ้งโบสถ์"
มาให้อ่านเนื้อเพลงประกอบนะครับ..
เรื่องราวมันคนละเหตุการณ์ จะไปเหมาว่าสอดคล้องเหตุการณ์ปัจจุบันได้ยังไง 
---
"สมภารเซ้งโบสถ์"
สมภารเลี่ยมเป็นพระใจถึง
ทั้งๆ ที่ปากแกไม่ค่อยตรงกับใจ
ถึงจะบวชได้ไม่นานเท่าไหร่
แต่ความหัวไวแกจึงได้เป็นสมภาร
สมภารเลี่ยมเลี่ยมคมสมนาม
เจ้าของนิยามคิดใหม่ทำใหม่
แกสร้างโบสถ์หลังโตหลังใหญ่
จากเงินทองที่เลี่ยไล่อย่างชำนิชำนาญ
ไอ้จุกมันเป็นลูกศิษย์วัด
อาศัยข้าวก้นบาตรหล่อเลี้ยงชีวา
ทุก ๆ วันต้องต้มน้ำชงชา
ให้กับหลวงตาอยู่ข้างกุฏิสมภาร
แล้ววันหนึ่งเย็นย่ำโพล้เพล้
ไอ้จุกก็เกร่จะรีบไปชงน้ำชา
แต่ดันไปเจอะสมภารฉันมาม่า
ความเลยแตกออกมา
เพราะไอ้จุกมันเที่ยวประจาน
ก็แล้วใครจะเชื่อเด็กสร้างบ้าน
มากกว่าเชื่อสมภารที่สร้างโบสถ์สดใหม่
รังสีของโบสถ์มันบังตา
เสริมสร้างศรัทธาให้ผู้คนเห็นใจ
แม้เรื่องอาบัติจะตามมาอีกมากมาย
มันซุกมันซ่อนอยู่ในจีวรกันวุ่นวาย
แต่ผลสุดท้ายไอ้จุกต้องถูกไล่ออก...จากวัด
(คอรัส) ไอ้จุกเองมันเด็กนรก
ความคิดสกปรกมาใส่ร้ายสมภาร
ดีนะมึงที่พวกกูสงสาร
มิฉะนั้นชาวบ้านจะตัดหัวให้เสียบประจาน
ก็แล้วใครจะเชื่อเด็กสร้างบ้าน
มากกว่าเชื่อสมภารที่สร้างโบสถ์สดใหม่
รังสีของโบสถ์มันบังตา
เสริมสร้างศรัทธาให้ผู้คนเห็นใจ
แม้เรื่องอาบัติจะตามมาอีกมากมาย
มันซุกมันซ่อนอยู่ในจีวรจนวุ่นวาย
แต่ผลสุดท้ายไอ้จุกต้องถูกไล่ออก...ออกไป
ความชอบธรรมต้องมีคุณธรรม
คุณธรรมจึงเป็นเครื่องวัดความชอบธรรม
ถึงไอ้จุกจะต้องรับกรรม
แต่สัจธรรมก็ปรากฏเป็นจริง
เมื่อสมภารเซ้งโบสถ์ให้กับเจ๊ก
ชื่อว่าเถ้าแก่เสกเจ้าสัวเมืองสิงค์
ถูกกฎหมายชอบธรรมมันก็จริง
แต่สิ่งที่ไม่เหลือคือความศรัทธา...ศรัทธา...
ความศรัทธาที่เงินตราซื้อไม่ได้
ความศรัทธาของประชาชนไทย
ความศรัทธาที่ไม่เหลืออีกต่อไป
เมื่อผู้คนจับได้ หลังสมภารเซ้งโบสถ์
