เพราะหนังสือทำให้ผม...เป็นชีวิตที่มีความสุขมาได้จนถึงทุกวันนี้ หนังสือทำให้ผมได้พบกับ
ความรู้ ปัญญา มหาบุรุษ เพื่อน ผจญภัย คำปลอบใจ คำสอน และอีกมาก
ต้องขอบคุณผู้แต่งทุกท่าน ที่ได้มอบมอบขุนทรัพย์ทางปัญญาไว้ให้ลูกหลานคนรุ่นหลัง
นำไปต่อยอดทางความรู้ อันจะเป็นภูมิปัญญาของแผ่นดินต่อไป.
คิดถึงมหาบุรุษโดยพลกูล อังกินันทน์ ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร (พิมพ์ครั้งแรก ปี 2526)
เนื้อเรื่องจะเป็นบันทึกสั้นเขียนถึงลูก มีทั้งหมด 16 บันทึก โดยทุกบันทึกจะขึ้นต้นว่า
".....ลูกรักของพ่อ" และลงท้ายว่า "พ่อ" เสมอ
...คำนำของผู้เขียน
พระเจ้าตากสิน..."บุคคลผู้ใด อาทิคือเทวดา บุคคลผู้มีฤทธิ์ มาประสิทธิ์มากระทำให้ข้าวปลา
อาหารบริบูรณ์พอเลี้ยงสัตว์โลกผู้ยากไร้แล้วไซร้ แม้นผู้นั้นจะปรารถนา
พระพาหาแห่งเราข้างหนึ่ง เราก็อาจตัดบริจาค ให้แก่ผู้นั้นได้"
เจ้าชายสิทธัตถะ ...จากกระแสสุขส่วนตัวไปสู่การมุ่งแสวงหาสุขเพื่อมวลมนุษย์
เยซู...ผู้ซึ่งถูกตัดสินให้ประหาร เพราะเป็นบุคคลหัวรุนแรงที่เป็นภัย ทั้งๆ ที่ความรุนแรงนั้นคือ
การปลูกฝังความรักที่มนุษย์พึงจะมีต่อกัน
นบีโมฮัมหมัด...ผู้เจียมตนว่าตนเป็นเพียงทางผ่านของคุณความดี
มหาตมะคานธี...ผู้ทำให้ดาบของศัตรูทื่อ
ยาวฮาร์ลาลเนห์รู...ผู้อุทิศแม้กระทั่งเถ้ากระดูกของตนเพื่อปิตุภูมิ
พ่อขุนผาเมือง กาลิบัลดี เชกูวารา...ตัวอย่างของนักอุดมคติซึ่งไม่ยอมรับการตอบแทน
พ่อขุนรามคำแหง...สร้างรูปแบบของคุณธรรมเพื่อปลูกฝังคุณธรรม
ขงจื้อ...ปราชญ์ผู้ก้มลงกราบเด็กเลี้ยงควาย
จักรพรรดินินโตกุ..."ราษฎรเป็นสุข เราก็เป็นสุข"
ลินคอล์น...ผู้กล้ากล่าวว่าตนเป็น "ประธานาธิบดีโง่ท่ามกลางผู้ร่วมงานที่ฉลาดหลักแหลม"
อิโต...ผู้เอารัฐธรรมนูญ(กระจอก) ของปรัสเซียมาเป็นรูปแบบโดยอ้างแต่เพียงว่า
"เพราะมันเหมาะสมกับสังคมของเรา"
เพลโต, โทมัสมอร์..."รีปับลิค ยูโทเปีย เมืองในอุดมการ"
พระเจ้าอเลกซานเดอร์มหาราช...ผู้สั่งให้แหย่พระหัตถ์ของพระศพของพระองค์ออกจากโรง
เพื่อยืนยันความรักที่มีต่อชาวแมกซิโดเนีย
เหมาเจ๋อตุง...เส้นทางของรัฐบุรุษต้องพิสูจน์กันยาวนาน (Long March)
เชอร์ชิล..."งานหนัก น้ำตา และเลือดเพื่อปิตุภูมิ"
อัลเบิร์ต ชไวเซอร์...บุรุษโนเบลไพรซ์มือกุด
แม่ชีเทเรซา..."มนุษย์ควรมีสิทธิตายอย่างอบอุ่นเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต"
นโปเลียน, ฮิตเลอร์...ผู้กุมเจตนารมณ์ (General Will) ของประชาชน
หลินเตสือ..."บทเรียนของหมาล่าเนื้อเขี้ยวกร่อน"
...แต่ลูกรักของพ่อต้องตรหนักไว้เสียตั้งแต่แรกในตอนนี้ว่า วิถีของมหาบุรุษนั้น
อาจไม่ได้เป็นสื่อนำไปสู่ความสุขความสบายหรือความรุ่งโรจน์ของชีวิต
เพราะมหาบุรุษของโลกนั้นมีสิ่งคล้ายกันอยู่อย่างหนึ่งคือ ท่านเหล่านั้นได้เริ่มเบี่ยงเบนผลประโยชน์
เพื่อตนเองไปสู่สังคมประเทศชาติ หรือไกลไปถึงขั้นมนุษยชาติ...
...อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจและความศรัทธาในคุณสมบัติที่ดีงามของมหาบุรุษ
เป็นสิ่งที่โน้มนำจิตใจของเราให้สูงขึ้น ดังนั้นพ่อจึงหวังว่าลูกคงเข้าใจความหวังดีของพ่อนี้
อย่าหาว่าพ่อดีแต่พูด ตัวเองยังปฏิบัติไม่ได้หรือมาชักจูงให้ลูกหันเหไปสู่ความทุกข์ยากนั้นเลย...
...พระเยซูในความคิดของพ่อเป็นเพียง นายเยซูแห่งนาซาเรซ "หัวรุนแรง" ท่านผู้นี้มีตัวตนจริงๆ
ในประวัติศาสตร์ เมื่อปี 1980 มานี้ ท่านเกิดมาเป็นสามัญชน แต่เนื่องจากชาติกำเนิดของท่าน
ในยุคนั้นคือชาวยูดาย (ฮิบรู) เรียกกันทั่วไปว่ายิว เป็นกลุ่มชนกลุ่มหนึ่งซึ่งอยู่ภายใต้การปกครอง
ของโรมัน ชาวโรมันนั้นเป็นเสมือนผู้พิชิตโลก ดังนั้นจึงถือตนว่าสูงส่ง ชนเผ่าอื่นๆ
เป็นเพียงอนารยชนผู้ต่ำต้อย นายเยซูแห่งนาซาเรซ ไม่ยอมรับในความไม่เท่าเทียมของเผ่าตน
ดังนั้นท่านจึงใช้วิถีทางแห่งการปฏิวัติ ท่านเริ่มเผยแพร่อุดมการณ์ ปลุกเร้าพวกพ้องของท่าน
ให้คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (dignity of man) ไม่ยอมรับในความเป็นทาสของตน
ด้วยการปรับปรุงสภาพการดำเนินชีวิตความงมงายหลงผิดในลัทธิแบบเชื่อถือแบบเดิม
โดยให้หันมามีศรัทธาในพระยะโฮวาห์เจ้าและหันมาปฏิบัติตัวตามคำเทศนาของท่าน
ซึ่งอ้างว่าเป็นศาสดา (prophet) ผู้ถูกส่งมาจากสรวงสวรรค์สำหรับผู้ปกครองโรมัน
ผู้ถือว่าเผ่าตนเป็นมนุษย์อันสูงส่งนั้น ท่านก็ใช้การจูงใจให้ศรัทธาว่าภายใต้ความเมตตา
ของพระผู้เป็นเจ้านั้นมนุษย์ทุกคนล้วนเป็นพี่น้องกัน (all man are brothers)
ลูกรักของพ่อ เป็นสิ่งประหลาดใจว่าการดำเนินการเพื่อมนุษย์ของนายเยซูแห่งนาซาเรซนั้น
ผู้ปกครองโรมันกลับเพียงแต่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของท่านอย่างใกล้ชิดเท่านั้นเพราะท่าน
และพวกศานุศิษย์ ไม่ได้ใช้อาวุธหรือการยุยงให้ต่อต้านกลุ่มผู้ปกครองโรมัน แต่นายเยซูแห่ง
นาซาเรซกลับถูกทำร้ายโดยหมู่ชาวยิว ด้วยกันเอง กลุ่มชาวยิวดังกล่าวเป็นกลุ่มศาสนา
ที่มีศรัทธาในลัทธิยูดาย ดั้งเดิม พวกนี้ไม่พอใจในการอ้างตนเองว่าเป็นผู้ประกาศหลักธรรม
จ ากพระเจ้าดังนั้นจึงลอบรายงาน พฤติกรรมของนายเยซู โดยใส่ร้ายว่าปลุกปั่นยุยงชาวยิว.
ให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง ต่อผู้ปกครองโรมันจนมีผลให้นายเยซูแห่งนาซาเรซ ต้องถูกจับกุม
ในข้อหาร้ายแรงจนผลสุดท้ายต้องถูกประหารด้วยการ ตรึงไม้กางเขน
ดร.มาร์ติน ลูเธอร์คิง จูเนีย อดีตผู้นำการต่อสู่เพื่อสิทธิของชาวนิโกรอเมริกันได้กล่าว
บรรยายเรื่องนี้ไว้อย่างน่าประทับใจว่า"จากการได้ชื่อว่าเป็นคนหัวรุนแรงก็พระเยซูมิใช่ผู้มี
หัวรุนแรงในเรื่องความรักดอกหรือ จงรักศัตรูของท่าน อวยพรให้กับคนที่ด่าท่าน
สวดมนต์ให้แก่คนที่ปฏิบัตต่อท่าน อย่างดูหมิ่นดูแคลน" ดังนั้นปัญหาจึงมิได้อยู่ที่ว่าเรา
จะเป็นคนหัวรุนแรงหรือไม่เหลือแต่ว่าเราจะเป็นคนหัวรุนแรงชนิดใด เราจะเป็นคนหัวรุนแรง
ในเรื่องความเกลียดหรือความรักเราจะเป็นคนที่รุนแรงเพื่อรักษาความอยุติธรรมให้คงอยู่
หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรม
ลูกที่รักของพ่อ นายเยซูแห่งนาซาเรซต้องตายในครั้งนั้นโดยผลจากน้ำมือของชาวยิวเอง
แต่นั่นยังไม่สำคัญเท่าความสลดใจที่ว่า ท่านเป็นคนรักมนุษย์ ท่านมุ่งจะชี้ทางมนุษย์ให้ปฏิบัติดี
ปฏิบัติชอบท่านมุ่งโน้มน้าวให้มนุษย์คำนึงถึงความเป็นพี่น้องกัน อันเป็นการสร้างความรัก
ที่ยิ่งใหญ่แต่ท่านกลับต้องมาตายอย่างทุกข์ทรมานโดยน้ำมือของมนุษย์ ซึ่งเป็นพี่น้องเผ่า
พันธุ์เดียวกับท่านนั่นเอง
ลูกที่รักของพ่อ คนรุ่นหนุ่มสาวอย่างลูกคงไม่อาจเข้าใจในเรื่องเหล่านี้ ได้ดีนักเพราะ
ลูกกำลังคิดถึงแต่อนาคต การคิดเช่นนั้นไม่ผิดดอกลูก แต่การที่จะมีสตินึกถึงจุดหมาย
ปลายทางของสิ่งใดก็ตาม อาจจะช่วยให้เราตระหนักถึงคุณค่าของปัจจุบันยิ่งขึ้นมิใช่หรือ ?
แล้วลูกเลือกหรือยังว่าจะได้ชื่อว่าเป็นคนหัวรุนแรงในด้านใด ?
โดยความรักและมีศรัทธาต่อลูก
พ่อ