ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
30-11-2024, 18:54
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สโมสรริมน้ำ  |  รัก หนังสือ ...เล่มโปรด เรื่องโปรด 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
รัก หนังสือ ...เล่มโปรด เรื่องโปรด  (อ่าน 7942 ครั้ง)
ประกายดาว
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,266


" ดาว " ดวงน้อยประกาย นั่นยังพร่างพราย.....


« เมื่อ: 29-06-2006, 09:03 »

ทำไม คนรักการนังสือ ต้องเป็น " หนอน " อยากรู้นักเชียว



ประกายดาวเป็น หนอน มาตั้งแต่ตัวเล็กๆ ตีนหนูเท่าฝาหอย (แมลงภู่จากนิวซีแลนด์)
จนกระทั่ง ตอนนี้ ตีนหนู ใส่รองเท้าเบอร์ หก ค่ะ



การอ่านหนังสือ จึงเป็นชีวิตจิตใจ ....หนู บุก ตะลุย เข้าสู่โลกของการอ่านหนังสือ
ตั้งแต่เล็กๆ แม่เล่าว่า เมื่ออายุได้แค่ สองขวบ ถึงพูดยังไม่ชัด แต่ก็ พูดไม่หยุดค่ะ
หนูก็ นั่งอ่านหนังสือแล้ว ทำปากขมุบขมิบ  ถือหนังสือกลับหัวกลับหาง หน้าตาจริงจัง
ราวกับกำลังอ่านหนังสือและ เพลิดเพลินมาก



ตู้หนังสือของคุณตา คุณยาย กับตู้หนังสือของแม่ เป็นราวกับสวรรค์ มีหลายชั้นเสียด้วย
หนูต้องวิ่งไปหยิบ ม้านั่งซักผ้าที่บ้านมาปีนหยิบหนังสือ

ตู้หนังสือของพ่อ ก็ มีหนังสือที่แตกต่างออกไป เรื่องแบบผู้ชาย ผู้ชาย ทั้งหลาย
หนูแอบอ่านหมดแล้ว

เมื่อโตขึ้น หนูมีชั้นหนังสือเล็กๆ เป็นของตัวเอง...มีหนังสือมากมาย หลากหลาย สุดบรรยาย
ที่หนูรัก เป็นเพื่อนสนิท เล่มโปรดของหนู อ่านซ้ำอ่านซาก หยิบมาอ่านกี่ครั้งกี่หนก็ไม่เบื่อ
หนังสือจึงเป็น สมบัติล้ำค่า เป็นของรักของหวง เป็นเพื่อนแท้

ไม่ว่าจะเป็น หนังสือพิมพ์ หนังสือ รายปักษ์ รายสัปดาห์ รายเดือน นิตยาสารต่างๆ
เรื่องสั้น เรื่องยาว....หนูรักหมดเลย



มาคุยกันเรื่อง หนังสือ คือ เพื่อนใจ ด้วยกันไหมคะ
คิดถึง หนังสือที่คุณ รัก เรื่องโปรด เล่มโปรด ...หนังสือทำมือ ...ที่หนูทำมาตั้งแต่เด็กๆ แบ่งปันเพื่อนๆ
ให้อ่านในห้อง ตั้งตนเป็น บรรณาธิการ รายสะดวก ฯลฯ

จนถึงเดี๋ยวนี้ การอ่านหนังสือ ทางอินเตอร์เน็ต เข้ามาเพิ่มอีกช่องทาง ของการอ่าน
ประกายดาวก็ยังรักหนังสือมาก เท่าเดิมอยู่ดี ไม่เสื่อมคลายค่ะ
บันทึกการเข้า



วันที่ดาว ทวงฟ้า นภากระจ่าง
ดาวล้านดวง ทวงทาง ระหว่างฝัน
ผุดขึ้นมา  คราเดียว พร้อมพร้อมกัน
ประกาศมั่น.... วันนี้... เสรีไทย



http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=twinkling-stars&group=1
In The Name Of Justice.
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 952


-_-;


« ตอบ #1 เมื่อ: 29-06-2006, 10:21 »

หนังสือที่อ่านตอนเด็กๆก็พวก ศพท้ายรถ ศพข้างบ้าน ศพใต้เตียง ผีหัวขาด ของ.....ใครหว่า?

แล้วก็พวก คดีตัดศพ ของ อนันต์  อนาคาร

แต่ที่อ่านบ่อยที่สุดคือ สามก๊ก (ไม่ต้องกลัวจะคบไม่ได้นะครับ)

พอโตมาอีกนิดก็พอมีปัญญาซื้อหนังสือการ์ตูนอ่านครับ...

ตอนนี้ก็มีหนังสือจำพวก พ่อรวยสอนลูก เพชรล่วงจากราชวงศ์จีน ที่ยังอ่านไม่จบครับ  Tongue out

ปล. ที่อ่านไม่จบเพราะเอาเวลาไปเล่นเกมส์หมด  Embarassed
บันทึกการเข้า

"มนุษย์มักต้องการในสิ่งที่ตนเองไม่มี..."

"I Fight In The Name Of Justice."
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #2 เมื่อ: 29-06-2006, 11:20 »

คาดว่าหลายๆ ท่านในที่นี้..เป็น คนคอเดียวกันในเรื่องการชอบอ่าน

ดิฉัน..เคยเขียนใน Blog เกี่ยวกะเรื่อง..........หนังสือ..ในใจ

ขออนุญาติ ก๊อป มาเลยละกันเนาะ...

.....................

** " แม่ " เขียนโดย แมกซิม กอร์กี้ ฉบับ จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นผู้แปล

    เล่มนี้เป็น วรรณกรรม เล่มแรกที่รู้จัก...นอนอ่านตั้งแต่ค่ำ...จนถึงเช้า

    จากนั้น..ก็มีหนังสือหลายๆ เล่มแวะเวียนมาเป็น หนังสือ ในดวงใจ


** " โจนาธาน ลิฟวิงสตัน นางนวล "  การเรียนรู้ที่จะบินอย่างแตกต่างและเข้าใจ..

     ริชาร์ด บาค..เป็นผู้เขียน นี่ก็เป็นหนังสือที่รัก..อีกเล่มหนึ่ง


** " คนขี่เสือ " หนังสือเล่มนี้มีความหมายที่ สื่อ อะไรหลายๆ อย่าง

    ถึงคนที่มี..อำนาจ..อยู่ในมือ

    อำนาจ...ให้ผลประโยชน์กะเรา แต่..ก็ทำร้ายเราเช่นกัน

    คนที่ตะกายไปอยู่บนหลังเสือ...เวลาลงมันยาก

    บางครั้ง..ยากกว่าตอนที่เราอยากไปอยู่บนหลังเสือ..ด้วยซ้ำ


** " ฝังหัวใจข้า ไว้ที่ วูนเด็ดนี " ผู้เขียนคือ ดี บราวน์ ..

     หนังสือเล่มนี้เขียนถึงการล่า

     การล่า...ของคนกับคน..เพื่ออนานิคมที่ตัวเองต้องการ

     เป็นหนังสือที่เขียนมาจากเรื่องจริง.. เมื่อครั้ง อเมริกา ต้องการ..กลืนเผ่าพันธ์..ของชาวอินเดียน

     มีคำพูดประโยคหนึ่งในหนังสือเขียนเอาไว้ว่า...

     " อินเดียนที่ดี คือ อินเดียนที่ตายแล้ว "

     ความหมายของคำพูดนี้บ่งบอกถึง ความเจ็บปวดในใจ..แค่ไหน ... ผู้ถูกล่าย่อมรู้ดี ...


** " สิทธารถะ " โดย เฮอร์มาน เฮสเส ..

     หนังสือเล่มนี้.. ให้มุมมองที่เปิดกว้างในอีกแง่มุมหนึ่ง เกี่ยวกะ พระพุทธเจ้า ค่ะ


** " ต้นส้มแสนรัก " ..นี่ก็เป็นหนังสือเล่มโปรด

     หยิบขึ้นมาอ่านกี่ครั้ง น้ำตาหยดแหมะ..ทุกที

     เพราะ อินจัด.. คิดว่าตัวเองเป็น เซเซ่

...........................
บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #3 เมื่อ: 29-06-2006, 11:37 »

จริงๆ แล้ว...หนังสือดีๆ ยังมีอีกมากมายหลายหลาก

ที่แวะเวียนผ่านเข้ามา..ให้ทำความรู้จัก

การอ่านเป็นเรื่องที่ดี..

คนที่สนใจที่จะเรียนรู้..ย่อมเข้าใจว่า มันเป็นเหมือนการเติมไม่เต็ม ในเรื่องนี้

หนังสือทุกเล่มมีคุณค่าในตัวเอง...แล้วแต่ว่าเลือกที่จะซึมซับในแง่มุมไหน

หนังสือ.. มีหลายรูปแบบ ........ก็ คงเหมือนคน.. ที่แต่ละคนย่อมมีบุคลิคของตัวเอง
บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #4 เมื่อ: 29-06-2006, 12:12 »

เป็นคอ นวนิยายค่ะ

ตั้งแต่ระดับเยาวชน จนถึง นิยายโรมานซ์เลย

ไม่ชอบอ่านแนว สืบสวน สายลับ ประมาณนี้ค่ะ คืออ่านได้ แต่อ่านสักพัก ก็จะไปเปิดหน้าสุดท้าย ว่า ฆาตกรมันเป็นใคร อิอิ

นิยายเล่มโปรด คง ดั่งดวงหฤทัยและ สายโลหิต ญาติกาค่ะ

กริ๊ดๆๆๆ เจ้าชายรังสิมันต์  Mr. Green Mr. Green

ความรัก เสลาสลัก สวยใส
งามใดเล่า งามใด
เทียบได้งดงาม…ความรัก
จรดลึกใน ความทรงจำ
ลึกล้ำ ย้ำรอย สลัก
นิรันดรนั้น...นานนัก
แต่รักนี้....นานกว่านั้น

"หม่อมฉันไม่เคยสาบาน เพราะศักดิ์แห่งเจ้าหลวงย่อมเหนือคำพูดใดๆ ทว่าวันนี้ ทรรศิกาทรงฟังไว้ หม่อมฉันสาบาน จะมีชีวิตเพื่อเธอ…ฝ่าบาท…องค์เดียว" พระสุรเสียงคลับคล้ายสะดุดนิดๆ

"ยามใดเสด็จกลับพันธุรัฐ ยามใดที่ทอดพระเนตรข้ามทิวเขามา ขอให้ทรงรำลึกว่า หม่อมฉันอยู่บนยอด อิสินธร มองลงไป…แลหา…พระองค์เดียว สิ่งที่มีค่าสุดในชีวิตของหม่อมฉัน…ฝ่าบาท"

ภูผา หินแกร่ง มั่นคง
ดำรง นานชั่ว ฟ้าสลาย
จิตจง มาดมั่น ฝังไว้
ธาตุใด แกร่งเท่า...ธาตุรัก

“ดั่งดวงหฤทัย” พิสูจน์ธาตุรัก…ถึง “หัวใจทรรศิกา” และ “แสงแห่งรังสิมันต์” ว่ามีไว้เพื่อฉายฉานเฉพาะประชาชนทั่วแผ่นดินเท่านั้น หรือว่า…ธำรงความอบอุ่นไว้ให้ “ดวงหฤทัย” ด้วย
ให้เธอ…”ผู้หญิงพิเศษสุด”
ให้เธอผู้เป็น…”ดั่งดวงหฤทัย”




ดีใจมากคืออ่านก่อนที่เขาจะเอามาทำเป็นระคร อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2006, 12:38 โดย ใบไม้ทะเล » บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
อังศนา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 29-06-2006, 13:07 »

..หนังสือเล่มโปรดประเภทอภิมหาอมตะนิรันดร์กาล
ของข้าพเจ้ามีอยู่ ๓-๔ เรื่อง คือ

๑) ต้นส้มแสนรัก : ฉบัับแปลโดยมัทนี เกษกมล (แถมสั่งซื้อฉบับภาษาอังกฤษ
ผ่าน amazon.com ด้วยราคาแพงแสบไส้เพราะ out of print)

๒) ฤทธิ์มีดสั้น : โกวเล้ง (ซื้อยกชุดมา ๒ หน โดนคนยืมแล้วไม่ได้คืน แบบว่า
ยืมนานจนลืมว่าใครยืม ทั้ง ๒ ชุด กำลังคิดว่าจะซื้อใหม่ดีอ๊ะป่าว)

๓) Sand Pebbles : Richard McKenna (ฉบับปกอ่อน เก่าจนปกหลุด แต่รักสุดๆ)

๔) To Kill a Mockingbird : Harper Lee (ฉบับภาษาอังกฤษ เพราะอ่านฉบับแปล
แล้วไม่ชอบ)

และขอเหมารวม นิยายของ พนมเทียน กับ ทมยันตี (เฉพาะยุคแรก ~ ทุกนามปากกา)
และ John Irving กับ Richard North Patterson เอาไว้ด้วยว่าอ่านได้ไม่รู้เบื่อทุกเล่ม


บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
THE THIRD WAY
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,821


Love looks not with eyes, but with the mind.


« ตอบ #6 เมื่อ: 29-06-2006, 13:58 »

ถ้าขอร้องได้
อยากให้ทุกคนได้อ่าน
หิโตปเทศ แปลโดย เสถียรโกเศศ และนาคะประทีป
อ่านทุกตัวอักษร ได้โปรด
คือหนังสือดีที่สุดในชีวิตที่ได้อ่าน
--------------------------------------------------------------
ตะก่อน อ่านหนังสือมาก ขาประจำห้องสมุด
ที่ลงทุนเองอย่างน้อยสามฉบับ รายวันอ่านสองฉบับ
พอเริ่มใส่แว่น ลดการอ่านลงมาเยอะครับ


* Aimage075.jpg (95.33 KB, 450x525 - ดู 1511 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้
************************
การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
จูล่ง_j
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,901



« ตอบ #7 เมื่อ: 29-06-2006, 15:09 »

ชุดหนังสือ ที่ผมชื่นชอบสุดก็ของ ไอแซค อาซิมอฟ ครับ

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%8B%E0%B8%84_%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%9F

เป็นคนที่คิด กฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์ ซึ่งนักเขียน และ ภาพยนตร์บางเรื่องยังนำมาใช้

1. หุ่นยนต์มิอาจกระทำการอันตรายต่อผู้ที่เป็นมนุษย์ หรือนิ่งเฉยปล่อยให้ผู้ที่เป็นมนุษย์ตกอยู่ในอันตรายได้

2. หุ่นยนต์ต้องเชื่อฟังคำสั่งที่ได้รับจากผู้ที่เป็นมนุษย์ เว้นแต่คำสั่งนั้นๆ ขัดแย้งกับกฎข้อแรก

3. หุ่นยนต์ต้องปกป้องสถานะความมีตัวตนของตนไว้ ตราบเท่าที่การกระทำนั้นมิได้ขัดแย้งต่อกฎข้อแรกหรือกฎข้อที่สอง

และต่อมา ท่านได้เพิ่มกฎข้อ 0 คือ

0. หุ่นยนต์มิอาจกระทำการอันตรายต่อมนุษยชาติ หรือนิ่งเฉยปล่อยให้มนุษยชาติตกอยู่ในอันตรายได้

โดยการกระทำตามกฎข้อ 1, 2 และ 3 จะต้องไม่ขัดกับกฎข้อ 0 นี้

เนื่องจากนิยายตอนหลังๆของท่าน หุ่นยนต์ที่ท่านแต่งเริ่มฉลาดขึ้นเรื่อยๆ

จนถึงขนาดเริ่มจะมองภาพรวม ผลประโยชน์ของมนุษยชาติ ไม่ได้เชื่อฟังเพียงคนใดคนหนึ่ง

แม้กระทั่งคนที่สร้างตัวเองขึ้นมา แต่การขัดคำสั่งคนที่สร้างตัวเองขึ้นมานั้น

มีผลทำร้ายตัวเองมากเหมือนกัน เพราะข้อมูลความจำดั้งเดิมของมันต้องเชื่อฟังเจ้าของ

จนเป็นผลทำให้หุ่นยนตร์ตัวนี้ถึงกับค่อยๆตายเพราะ วงจรความคิดสับสน ยุ่งเหยิงไปหมด ประมาณว่า อาการช้ำใน อิอิ

และก่อนมันตายก็ได้ทำการช่วยเหลือมนุษย์ชาติทางอ้อมเอาไว้ด้วย


มีนิยายที่ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ คือ Bicentennial Man





โดยตัวหนังผมคิดว่ายังเทียบไม่ได้กับหนังสือ ที่ได้อารมณ์กว่า

หุ่นยนต์ตัวนี้ผูกพันธ์กับมนุษย์มาก จนมีความคิดอยากเป็นมนุษย์

เพราะได้รับการปฎิบัติจากครอบครัวหนึ่งเป็นอย่างดี จนเหมือนกับมันเป็นคนหนึ่งในครอบครัว

มันพยายามค่อยๆเปลี่ยนตัวเองให้เหมือนมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ สนใจศิลปะ ดูหนัง ฟังเพลง

และยังคิดค้น อวัยวะชีวภาพ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงเนื้อหนังมนุษย์มาก โดยใช้เวลาร่วมร้อยปีพัฒนามาเรื่อยๆ

โดยอวัยวะ ชีวภาพ ที่หุ่นยนต์ตัวนี้คิดค้นขึ้น มีประโยชน์ต่อมนุษย์อย่างมาก

คือเป็นอะไหล่ที่สร้างให้มนุษย์เปลี่ยนได้ไม่ต้องรอบริจาค

ถึงที่สุด หุ่นยนต์ตัวนี้เปลี่ยนตัวเองจนเหมือนมนุษย์ทั้งตัว ร่างกายเป็นชีวภาพทั้งหมด มีเนื้อ มีเลือด เหมือนมนุษย์ ไม่มีโลหะเหลือ

แต่ก็ยังไม่มีใครยอมรับว่า หุ่นยนต์ตัวนี้เป็นคน

หุ่นยนต์ตัวนี้มองตัวเองว่า ที่ยังไม่เหมือนมนุษย์อีกอย่างคือ ความตาย มันจึงตั้งปรับให้หัวใจตัวเองค่อยๆเสื่อม มีวันตาย

เมื่อหุ่นยนต์ตัวนี้ตายก็ ครบ 200 ปีพอดี ในที่สุด มนุษย์ทั้งหลาย ต่างยอมรับ เรียกเขาว่า มนุษย์ 200 ปี

แต่ที่ผมอยากให้นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์มากกว่าคือ ชุดสถาบันสถาปนา แต่เนื้อเรื่องมันผูกกันยาวมาก

อาจจะพอๆกับ เพชรพระอุมา แต่เพชรพระอุมา บางช่วงรู้สึกน้ำท่วมทุ่ง เล่นลงรายละเอียดขนาด ใครนอนซ้ายนอนขวา ใครนอนถัดจากใคร

นิยายอีกแนวที่ชอบอ่านก็ นิยายจีน อ่านหลักๆ อยู่แค่ 4 คน กิมย้ง โกวเล้ง หวงอี้ อุนสุยอัน

หลังๆ หานิยายพวกสืบสวน สอบสวนมาอ่าน แต่บางเรื่องอ่านไม่จบเล่ม นิยายที่หามาอ่าน มักจะเลือกเอาเรื่องที่ได้รางวัล แต่ทำไมบางเรื่องมันอ่านแล้วน่าเบื่อหว่า
บันทึกการเข้า

ลูกไทย หลานไทย
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,196


วันนี้วันดี วันที่เป็นไท


« ตอบ #8 เมื่อ: 29-06-2006, 15:18 »

หนังสือเล่มโปรดสมัยก่อน

The God Father ของ Mario Puzo แปลไทย อ่านตั้งแต่เพิ่งวัยรุ่น
The book of five rings ของ มิยาโมโตะ มุซาชิ อ่านตั้งแต่วัยรุ่นเช่นกัน
Pioneer, go home. หรือ แผ่นดินนี้เราจอง ของ Richard Powell งานแปลของคุณเทิดภักดิ์
หนังสือเรื่องสั้นของ หลุย ลามูร์ งานแปลของคุณมาลา แย้มเอิบสิน
นักสู้ผู้พิชิต ของ โกวเล้ง งานแปลของ น.นพรัตน์

ช่วงหลังๆไม่ค่อยมีเวลากับหนังสือครับ อย่างของ Dan Brown นี่อ่านก็รู้สึกเฉยๆมาสองเล่มแล้ว
บันทึกการเข้า

Ŋēmŏ mē ĩmρưŋē ĺдċęşšįҐ
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #9 เมื่อ: 29-06-2006, 15:49 »

^
^
^
ผิดคาดเลยคะ พี่ลท นู๋นึกว่าหนังสือที่พี่อ่านจะเป็นพวก นางนวล หรือเผ่นๆเฮ้าๆๆ อะไรทำนองนี้อ่ะค่ะ อิอิ  Mr. Green

ไม่มีใครอ่านประมาณนี้เหมือนเราเหรอ

Mr. Perfect

เป็นเรื่องที่อ่านแล้ว ฮ่า ตั้งแต่ต้นเรื่อง ยันท้ายเรื่อง
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
ประกายดาว
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,266


" ดาว " ดวงน้อยประกาย นั่นยังพร่างพราย.....


« ตอบ #10 เมื่อ: 29-06-2006, 17:32 »

ตอนเด็ก ๆ ไม่ค่อยมีทางเลือก เพราะต้องอ่านหนังสือให้คุณยายฟัง
อ่านรามเกียรต์ จน ติด งอมแงม...ไปเดินดู รอบๆ วัดพระแก้วกับคุณ ตา ได้ทุกอาทิตย์


 พอโตขึ้นมา หนู อ่านแล้วมีความสุข มากที่สุด ก็คงเป็น เจ้าการ์ตูน หน้ายิ้ม
แมวน้อย โดราเอมอน...




แค่เห็นหน้าก็ยิ้มแล้ว อารมณ์ดีค่ะ
เป็นการ์ตูนต์ ญี่ปุ่นเรื่องเดียวที่ ประกายดาวอ่าน....

หนังสือเล่มที่ประทับลงในหัวใจไม่รู้ลืม " ชุด บ้านเล็กในป่าใหญ่ " ของ ลอร่า อิงเกิล
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเก่าของมันรึเปล่า แต่ในห้องสมุดตอนนั้นมันมีเพียง 5-6 ตอนจากทั้งหมด 10 ตอนอันได้แก่ บ้านเล็กในป่าใหญ่ บ้านเล็กในทุ่งกว้าง เด็กชายชาวนา บ้านเล็กริมห้วย ทะเลสาบสีเงิน ฤดูหนาวอันแสนยาวนาน เมืองเล็กในทุ่งกว้าง ปีทองอันแสนสุข สี่ปีแรก และตามทางสู่เหย้า



หนังสือชุดนี้เป็นเรื่องเล่ากึ่งอัตถชีวประวัติของตัวผู้เขียนคือ ลอรา อิงกัลล์
 (ลอรา อิงกัลล์ ไวล์เดอร์ ในเวลาต่อมา) ซึ่งเล่าถึงประสบการณ์ชีวิตของเธอ
ในการติดตามครอบครัวบุกเบิกดินแดนใหม่ ในสมัยที่สหรัฐอเมริกากำลังสร้างชาติ
(แต่เป็นการทำลายชาติชาวอินเดียนแดง)  Cry Cry

 แต่ หนู รัก อินเดียนแดง และ สะสม สารพัดสิ่งๆ แบบอินเดียนแดง



เรื่องราวของเธอพูดถึงการดำรงชีวิตของอเมริกันชนในช่วงนั้นอย่างละเอียด
ถ่ายทอดจิตวิญญาณของนักต่อสู้ที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างสวยงาม นอกจากนั้นยังแทรก
สอนมารยาทสังคมพื้นฐาน   จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เรื่องราวของเธอจะมีปรากฏอยู่ทุกที่
แม้แต่ในเวปไซต์ของทำเนียบขาว....

http://www.whitehouse.gov/kids/dreamteam/laurawilder.html

หรือหอสมุดอเมริกา

http://www.americaslibrary.gov/cgi-bin/page.cgi/jb/recon/ingalls_1


ตัวเองถึงกับคิดว่า หนังสือเล่มนี้เป็นการเปิดโลกแบบ adventure โลกแรก ...ก้าวแรก

ในตัวเองเลย  หนูหัดอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ จากเล่มนี้ค่ะ



เล่มโปรด อีกเล่ม Dady- long -leg


เรื่องนี้ มัน แสนโรแมนติก ค่ะ

คุณพ่อขายาวววววววว ...เรื่องนี้แสนอบอุ่น หนูอ่านเรื่องนี้แล้วซาบซึ้งใจมากๆ
หนังสือเล่มนี้ดำเนินเรื่องในลักษณะจดหมาย เขียนโดยเด็กสาวที่อยู่บ้านเด็กกำพร้าชื่อ Judy
 ถึงคนที่รับอุปการะแต่ไม่เคยพบกันเลย Judy ได้เห็นแต่เงารูปร่างขายาวของคุณพ่ออุปถัมภ์เท่านั้น
 จึงเรียก Daddy long legs ในจดหมายมีรูปวาดลายเส้นของ Judy ด้วย น่ารักมาก
ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ครั้งแรกจากห้องสมุด ที่ โรงเรียน ค่ะ

โมโม่ (Momo)
มิชาเอ็ล เอ็นเด

สำหรับหนังสือที่อ่านแล้วรู้สึกประทับใจและชอบมากที่สุดเล่มหนึ่งคือ
หนังสือวรรณกรรมแปลเยาวชน "โมโม่" (Momo)

เนื้อหาภายในหนังสือเล่มนี้พูดถึงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ "โมโม่"

ที่มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย และเป็นที่รักของทุกคนที่มีโอกาสได้อยู่ใกล้ๆกับเธอ
จนชาวบ้านในหมู่บ้านที่เธอเข้าไปอยู่นั้นเวลามีปัญหาอะไร ก็มักจะพูดติดปากว่า"ไปหา โมโม่สิ"
ทั้งๆที่เธอก็ไม่ได้มีความรู้อะไรมากมายหรือมีคาถาเวทย์อะไรเลย จะมีก็เพียงแต่ ทักษะการฟัง

"ฟังเพื่อฟัง ฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ และฟังโดยไม่ตัดสิน"
ซึ่งตรงจุดนี้ถือเป็นจุดที่ทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆมากมายขึ้นในชีวิตของโมโม่
และดำเนินไปอย่างสนุกสนาน จินตนาการและมุมมองที่ดีในหลายๆด้าน
ความสุข รอยยิ้ม ความเบิกบาน กลับคืนสู่ หัวใจทุกครั้งที่อ่านเล่มนี้ ค่ะ

หนู หลงรัก งาน ของเจ้าฟ้ากุ้ง ...
สี่แผ่นดิน ของ คุณชายคึกฤทธิ์
โจนาธาน ทั้ง  ฉบับ ไทยและ อังกฤษ

หนู หลงรัก  เสกสรร ประเสริฐกุล
เพราะ ไปปลื้มคำว่า " หญิงสาวของผม"
วันนี้ ตระหนักว่า หญิงสาวของ ผู้ชายสักคน ไม่ได้หมายความว่า เค้า จะมี เธอที่รัก เพียงคนเดียว

แถม พอ อ่าน ปริศนา ของ วณ ประมวณมารค หนูก็ ตั้งใจและ เริ่มขอแม่ ไป เรียน เทนนิส
เผื่อจะ พบ ท่านชายพจน์ กับเค้าบ้าง โดยลืมคิดให้รอบรอบว่า ท่านชายสมัยนี้ ไม่มีแล้ว
เมื่อ โตขึ้น
หนูกลับเลิกอ่าน งานเขียนแบบเดิมๆ ที่เคยอ่าน ...



หนู อ่าน ฉบับ ภาษาไทย ของอาจารย์ ไชยวัฒน์ สถาปิตานันธิ์ ฮีโร่ คนนึงในชีวิต
แล้วตามไปหา ฉบับภาษาอังกฤษมาอ่าน

The Alchemist
Paulo Coelho

 
 
Dreams, symbols, signs, and adventure follow the reader
 like echoes of ancient wise voices in "The Alchemist",
a novel that combines an atmosphere of Medieval mysticism with the song of the desert.
 With this symbolic masterpiece Coelho states that we should not avoid our destinies,
 and urges people to follow their dreams, because to find our "Personal Myth"
 and our mission on Earth is the way to find "God", meaning happiness, fulfillment,
 and the ultimate purpose of creation.

โอ เยอะมากขึ้นๆ หนังสือที่ หนูรัก Innocent

 


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2006, 17:42 โดย ประกายดาว » บันทึกการเข้า



วันที่ดาว ทวงฟ้า นภากระจ่าง
ดาวล้านดวง ทวงทาง ระหว่างฝัน
ผุดขึ้นมา  คราเดียว พร้อมพร้อมกัน
ประกาศมั่น.... วันนี้... เสรีไทย



http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=twinkling-stars&group=1
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #11 เมื่อ: 29-06-2006, 17:41 »

คุณพ่อขายาวววววววว ...เรื่องนี้แสนอบอุ่น หนูอ่านเรื่องนี้แล้วซาบซึ้งใจมากๆ
หนังสือเล่มนี้ดำเนินเรื่องในลักษณะจดหมาย เขียนโดยเด็กสาวที่อยู่บ้านเด็กกำพร้าชื่อ Judy
 ถึงคนที่รับอุปการะแต่ไม่เคยพบกันเลย Judy ได้เห็นแต่เงารูปร่างขายาวของคุณพ่ออุปถัมภ์เท่านั้น
 จึงเรียก Daddy long legs ในจดหมายมีรูปวาดลายเส้นของ Judy ด้วย น่ารักมาก
ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ครั้งแรกจากห้องสมุด ที่ โรงเรียน ค่ะ
.............................................
อ่านเรื่องเดียวกันเลย

เป็นหนังสือเรื่องแรกที่อนา อ่านในเวอชั่นภาษาญี่ปุ่นนะ อ่านแล้ว ยอมรับเลยว่า โรแมนติกมากๆๆๆ เด๋วถ้าว่างจะสแกนปก เวอชั่นนี้มาให้ดู ปกน่ารักมากๆๆ
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
ประกายดาว
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,266


" ดาว " ดวงน้อยประกาย นั่นยังพร่างพราย.....


« ตอบ #12 เมื่อ: 29-06-2006, 17:44 »

ใบไม้ทะเล คนดี๊ คนดี ...

อยากเห็น อยากเห็น .....นะจ้ะ พลีสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส
บันทึกการเข้า



วันที่ดาว ทวงฟ้า นภากระจ่าง
ดาวล้านดวง ทวงทาง ระหว่างฝัน
ผุดขึ้นมา  คราเดียว พร้อมพร้อมกัน
ประกาศมั่น.... วันนี้... เสรีไทย



http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=twinkling-stars&group=1
so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #13 เมื่อ: 29-06-2006, 17:44 »

เคยอ่านหนังสือที่ลูกสาวยืมมาจากโรงเรียนตอนเค้าเรียนอยู่ ป.1 ครับ
เรื่อง The Toymaker เป็นหนังสือเด็ก มีอยู่ราวๆยี่สิบหน้าเท่านั้น
เป็นเรื่องของความรักระหว่างช่างทำตุ๊กตากับลูกสาวคนเดียวของเขา
ยอมรับว่าไม่เคยอ่านอะไรที่กินใจได้ขนาดนั้นมาก่อนเลย
คงเป็นเพราะว่ามีลูกสาวคนเดียวเหมือนกัน
บันทึกการเข้า
สเลเต
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 211



เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 29-06-2006, 18:01 »

อ่านหนังสือเล่มเดียวกันกับคุณประกายดาวและคุณsee_you เลยค่ะ
หนังสือในหัวใจมีหลายเล่มมาก
เล่มหนึ่งที่ชอบเป็นพิเศษคือ
"นกเถื่อน" บทรำพึงวัจนะของ ระพินทร์นารถ ฐากูร
หลงรักการอ่านมาตั้งแต่สามขวบ
และคงเป็นเช่นนี้ไปจนกว่าจะอ่านหนังสือไม่ได้อีกแล้ว....
บันทึกการเข้า

เหมือนจะพร้อมให้หอมดอก...สเลเต
แวะไปชมบ้านหลังน้อยกันได้นะคะ

http://mahahong.bloggang.com

และแอบประชาสัมพันธ์งานรวมเล่มชิ้นแรกด้วยค่ะ

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mahahong&month=03-2006&date=28&group=1&blog=1
ประกายดาว
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,266


" ดาว " ดวงน้อยประกาย นั่นยังพร่างพราย.....


« ตอบ #15 เมื่อ: 29-06-2006, 18:14 »

อ่านหนังสือเล่มเดียวกันกับคุณประกายดาวและคุณsee_you เลยค่ะ
หนังสือในหัวใจมีหลายเล่มมาก
เล่มหนึ่งที่ชอบเป็นพิเศษคือ
"นกเถื่อน" บทรำพึงวัจนะของ ระพินทร์นารถ ฐากูร
หลงรักการอ่านมาตั้งแต่สามขวบ
และคงเป็นเช่นนี้ไปจนกว่าจะอ่านหนังสือไม่ได้อีกแล้ว....


พี่สเลเต คนเก่งของหนู

โอ๊ะ โอ ลืมเล่มนี้ไปได้อย่างไร ประกายดาวซื้อไป ตั้ง แปดเล่ม

ดอกไม้ วันวารและความทรงจำ

เหมือนจะพร้อมให้หอมดอก

◉ให้ดอกตาเหิน
อ่อนช้อยอัญเชิญ เจ้าแก้วแววตา
มาอยู่มาเยือน เพื่อนยามเวลา
เจ้าแก้วแววตา อย่าเหินลอยหาย



ไม้ดอกนี้มีหลากหลายชื่อ เพิ่งได้รู้ว่ามีชื่อ “ตาเหิน” หรือ “ต๋าเหิร”อยู่ด้วย
เมื่อไปแวะชมตลาดเช้าที่เมืองปากแบ่ง แขวงอุดมไชย เมืองลาว
ดอกใหญ่ ขาวสด หอมชื่น เก็บมาทับไว้ในหนังสือหรือสมุดเล่มน้อย
 ยังหอมไม่หายมาจนวันนี้

หนังสือ “ดอกไม้ วันวาร และความทรงจำ” ของรอมแพง อริยมาศ เล่มนี้
 นำความหอมหวนยวนเย้าให้มาเยือนเหมือนวันวารอีกครั้ง

ดอกไม้ทุกดอกแย้มยิ้ม

เหมือนความรู้สึกของหญิงสาวที่สดใส เบิกบาน งาม ประณีตละเอียดลออ
ราวจะดูดดื่มซึมซับบทเพลงไพเราะของสายลม มิ่งมิตรจากผีเสื้อสวย อ่อนนุ่มกับน้ำค้าง
 และแกร่งกล้ากลางรวีตะวัน

นี้คือสิ่งที่หนังสือเล่มนี้มี และหมายจะบอกเล่า"

เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
[/b]


 Very Happy



 
บันทึกการเข้า



วันที่ดาว ทวงฟ้า นภากระจ่าง
ดาวล้านดวง ทวงทาง ระหว่างฝัน
ผุดขึ้นมา  คราเดียว พร้อมพร้อมกัน
ประกาศมั่น.... วันนี้... เสรีไทย



http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=twinkling-stars&group=1
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #16 เมื่อ: 29-06-2006, 19:06 »

หนังสือเล่มที่ชอบที่สุด บอกไม่ได้ น่าเกลียด...

นู๋ประกายดาวรู้เรื่องนี้ดี!
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
สเลเต
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 211



เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 29-06-2006, 19:40 »

อุ๊ยยยยยย
8เล่มเลยเหรอคะ...น้องประกายดาว
ขอบคุณค่ะ

 Laughing Embarassed
บันทึกการเข้า

เหมือนจะพร้อมให้หอมดอก...สเลเต
แวะไปชมบ้านหลังน้อยกันได้นะคะ

http://mahahong.bloggang.com

และแอบประชาสัมพันธ์งานรวมเล่มชิ้นแรกด้วยค่ะ

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mahahong&month=03-2006&date=28&group=1&blog=1
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #18 เมื่อ: 29-06-2006, 20:00 »

หนังสือเล่มที่ชอบที่สุด บอกไม่ได้ น่าเกลียด...

นู๋ประกายดาวรู้เรื่องนี้ดี!


ธรรมะเพื่อการครองเรือน หรือเปล่าค่ะ

หรือว่า ธรรมะเพื่อการครองโลก  Mr. Green
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
เก็ดถวา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,753



« ตอบ #19 เมื่อ: 29-06-2006, 20:08 »

อุ๊ยยยยยย
8เล่มเลยเหรอคะ...น้องประกายดาว
ขอบคุณค่ะ

 Laughing Embarassed


หูยยยย ประกายดาวบลั๊ฟ.... อิอิ

เราแค่ 6 เล่มเอง.. ไม่ได้การละ
  Tongue out
บันทึกการเข้า

Avada Kedavra!!!!!!!
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #20 เมื่อ: 30-06-2006, 14:34 »

ไม่รุเหมือนเวอชั่นของดาวไหม

อันนี้เวอชั่นที่นี้จ้ะ


อีกเรื่องวรรณกรรมเยาวชน เอามาฝาก

THE SECRET GARDEN



ใครที่ยังไม่อ่านเอาเรื่องย่อมาให้ค่ะ ค่ะ

แมรี่ เลนน็อกซ์ ( Mary Lennox) เด็กสาวชาวอังกฤษวัย 10 ขวบผู้เอาแต่ใจตนเอง แต่ต้องกำพร้าแม่และพ่อ เนื่องจากแผ่นดินไหวในประเทศอินเดีย เธอจึงต้องเดินทางมาอยู่กับลุง ที่ คฤหาสน์ในเมือง Yorkshire ประเทศอังกฤษ โดยมีหัวหน้าแม่บ้าน Mrs. Medlock ผู้เข้มงวดเป็นผู้ดูแล

ด้วยความซุกซน และดื้อรั้น ทำให้ แมรี่ ได้ค้นพบความลับในคฤหาสน์แห่งนี้ ครั้งแรกเธอไปเจอทางลับ (ซึ่งจะนำไปสู่ห้องของป้าซึ่งเสียชีวิตไปนานแล้ว ) และในยามค่ำคืนเธอก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อเธอเอ่ยปากถาม ก็จะถูกมิสซิส เม็ดล็อค ดุและถูกหาว่าหูแว่วไปเสมอ

คุณหนูแมรี่ มีมาร์ธาคอยดูแล และน้องชายของมาร์ธา ชื่อ ดิกค่อน ( Dickon) ได้มาเป็นเพื่อนกับเธอ เขาเป็นเด็กผู้ชายจากท้องทุ่ง ที่มอมแมมและต่ำต้อย มีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่ายแบบคนในชนบท

วันหนึ่ง แมรี่ได้มาเจอสวนซึ่งถูกปิดตายไว้ ถูกปกคลุมไว้ด้วยเถาไอวี่จนไม่เห็นทางเข้า แต่เธอก็หาประตูจนพบโดยการบินนำทางของนกโรบินตัวเล็กๆ แต่ประตูนี้มีกุญแจล็อคอยู่ เธอไปแอบเอากุญแจจากคฤหาสน์มาไข......เธอจึงได้เข้าไปในสวน ที่รกร้าง เต็มไปด้วยหญ้าแห้งๆ เหมือนอดีตที่เจ็บช้ำของลุงผู้เป็นเจ้าของ จนทิ้งสวนให้ร้างไว้เพื่ออยากจะลืมเลือนนั่นเอง

คืนหนึ่ง แมรี่ได้เดินไปตามเสียงร้องที่เธอได้ยิน……จนกระทั่งได้ไปพบกับเด็กผู้ชายผู้ซีดขาวและผอมบาง ลูกชายคนเดียวของลุงที่ต้องอยู่บนเตียงตลอด เหมือนคนพิการ ชื่อ Collin ผู้ทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้เลย เขาผู้ไม่เคยได้เห็นแสงสว่าง เพราะทุกคนเชื่อว่าแสงสว่างจะทำให้เขาไม่สบายและเชื่อว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน

แมรี่แอบไปที่สวนลับที่เธอค้นพบทุกวัน ดิกค่อนได้สอนให้แมรี่รู้จักการปลูกต้น ลิลลี่อย่างถูกวิธี คือให้ฝังหัวลิลลี่ด้านที่มีรากลงในดิน ( เพราะแมรี่เป็นคุณหนูผู้ไม่เคยได้เรียนรู้เรื่องเหล่านี้เลย ) เพื่อลิลลี่จะได้แทงยอดขึ้นมาได้ ( ฉากนี้ทำให้นึกถึงเด็กๆที่มักจะปลูกหัวหอมไม่เป็น เอารากขึ้นข้างบนเพราะไม่รู้ว่าทางไหนเป็นยอด )

แมรี่ได้แอบพบคอลลินผู้ซีดเซียวเป็นประจำ ถึงแม้จะเถียงกันบ่อยๆด้วยความที่ทั้งคู่เอาแต่ใจตนเอง แต่เธอก็เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของคอลลิน ในที่สุดตอนหลัง แมรี่กับ ดิกค่อน ก็พาคอลลินออกจากโลกอันมืดมนของเขา ไปสู่โลกแห่งแสงสว่างอันงดงาม พวกเขาแอบพาคอลลินนั่งรถเข็นเข้าไปในสวน ซึ่งตอนนี้สวนได้กลายเป็นสวนสวยด้วยดอกลิลลี่อันงดงามและต้นไม้ใบหญ้าอันเขียวชอุ่ม จากฝีมือของ ดิกค่อนและแมรี่นั่นเอง

และในที่สุดความลับในสวนก็ถูกเปิดเผยขึ้น ที่สวนต้องถูกทิ้งร้างไป เพราะพ่อ(ลุงของแมรี่)ผู้จมอยู่กับอดีต ไม่สนใจให้ความรักแก่ลูก (คอลลิน) คิดว่าลูกทำให้แม่ต้องเสียชีวิตไป ก็ได้มาเข้าใจ และยอมรับสภาพของลูกชายตนเอง โดยการผลักดัน และความพยายามของเด็กสาวตัวเล็กๆ

สุดท้าย คอลลินผู้ที่ใครๆๆคิดว่าเขาพิการก็หัดเดินได้ และมีชิวิตปกติสนุกสนานร่าเริงได้แบบคนอื่นทั่วไป ทั้งนี้จากพยายามต่อสู้ ความกระตือรือร้น กระหายใครเรียนรู้ของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง อย่าง แมรี่ เลนน็อกซ์

เรื่องนี้เหมาะสำหรับทุกคน อ่านแล้วคุณจะมีความสุขจากโลกที่สดใสและไร้เดียงสาของเด็ก แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ พืชพันธุ์และดอกไม้อันงดงาม มีนก อีกา แพะ และผีเสื้อ..ฯลฯ เป็นนิยายอมตะที่อ่านได้ไม่เบื่อ อ่านได้หลายรอบและไม่ล้าสมัยเลย...

อ่านแล้วคุณจะรู้สึกว่าโลกนี้ช่างน่าอยู่เสียจริงๆ และคุณก็อยากจะทำสิ่งดีๆให้เกิดขึ้นบ้าง คุณก็อยากจะเป็นผู้เปิดโลกอันเร้นลับที่ขมขื่น ให้กลายเป็นโลกที่สดใส..... เหมือน..แมรี่ เลนน็อกซ์
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
GN-001 Exia
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 809


Celestial Being...


« ตอบ #21 เมื่อ: 01-07-2006, 23:08 »

ที่อ่านบ่อยๆ

ดาวตก ผีเสื้อ กระบี่
เพชรพระอุมา
เทลส์ ออฟ ดิ โอโตริ
โนเบิลเฮ้าส์
11โรนินล้างแค้น
เชอร์ล็อก โฮล์ม

และที่สุดยอดที่สุดก็ต้อง

สุภาพบุรุษอัศวิน "Knight in rusty Armor" ของโรเบิร์ด ฟิชเชอร์ครับ
บันทึกการเข้า


พวกที่เอาคำว่า "เสรีภาพ" มาบังหน้าเพื่อเบียดเบียนคนอื่นนี่มันเลวที่สุด
มีคณา
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 463



« ตอบ #22 เมื่อ: 02-07-2006, 06:38 »

ชอบกระทู้นี้มากๆ แต่
คำถามนี้สำหรับดิฉัน ......ตอบยากมั่กๆค่ะ Wink

เป็นไปตาม

วัย เวลา ยุค
อารมณ์ อุดมการณ์ ความใฝ่ฝัน
กลุ่มเพื่อน โรงเรียน อาจารย์ และการงาน
ฯลฯ

สมัยเรียน ที่เขียนๆกันข้างบน ชุดLittle House, Little Women, อ่านและชอบหมดค่ะ
คนที่ชอบ Daddy Long Legs ได้อ่าน Dear Enemyไหมคะ เรื่องเหมือนภาคต่อของDDL
เรื่องของเพื่อนสนิท Judy ได้ทุนจากคุณนายจูดี้(แต่งงานแล้ว)ไปทำโรงเรียน ซีเรียสกว่าเล่มโนน้นหน่อยค่ะ

โอ๊ยไล่ได้อีกนาน ...... ทั้งไทยทั้งเทศ อ่านจนมองใกล้ก็ไม่ชัด ไกลก็ไม่ชัด ทั้งสั้นทั้งยาวทั้งเอียง  Shocked

ขอแนะนำหนุ่มสาวทุกท่าน โดยเฉพาะหนอนที่ชอบนอนอ่าน สายตากำลังดี รีบๆอ่านซะ สั้นยังใส่คอนแทคอ่านได้ แต่พอเริ่มยาว ต้องใส่แว่นอ่าน นอนตะแคงไม่ได้ค่ะ แว่นprogressive ก็นอนอ่านไม่ได้ค่ะ  Mad เซ็งเลย ...... แถมเริ่มยาว คือยังไม่อยู่ตัว เดี๋ยวก็ชัด เดี๋ยวก็ไม่ชัด เปลี่ยนแว่นไปมา ตาก็ล้าเร็ว อ่านได้น้อยลง  Crying or Very sad Crying or Very sad Crying or Very sad


บันทึกการเข้า
ภูพาน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 671


« ตอบ #23 เมื่อ: 02-07-2006, 09:09 »

สงสัยอาการจะคล้ายกันล่ะมั้ง... Mr. Green
บันทึกการเข้า

ขอกันข้าให้ไกลห่างจากคนที่กล่าวว่า "ข้าเป็นดวงเทียนที่นำความสว่างให้หนทางของประชาชน"
หากแต่ผู้ที่แสวงหาหนทางของตนจากแสงแห่งประชาชนนั้น  ขอจงนำข้าเข้าไปใกล้ชิดด้วยเถิด
~ คาลิล ยิบราน
เก็ดถวา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,753



« ตอบ #24 เมื่อ: 02-07-2006, 09:21 »


หนังสือเล่มโปรดมีเยอะค่ะ

แต่ถ้าเล่มโปรดที่สุด ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต

เห็นจะเป็น 2 เล่มนี้ค่ะ

วินนี เดอะ พูห์ และ บ้านมุมพูห์

เรื่องราวของเจ้าหมีซื่อบื้อ สมองเล็กกระจิ๊ดริด ที่มีหัวใจยิ่งใหญ่และงดงาม
  Very Happy
บันทึกการเข้า

Avada Kedavra!!!!!!!
ภูพาน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 671


« ตอบ #25 เมื่อ: 05-07-2006, 11:55 »

เพราะหนังสือทำให้ผม...เป็นชีวิตที่มีความสุขมาได้จนถึงทุกวันนี้  หนังสือทำให้ผมได้พบกับ
ความรู้   ปัญญา   มหาบุรุษ  เพื่อน  ผจญภัย  คำปลอบใจ   คำสอน  และอีกมาก
ต้องขอบคุณผู้แต่งทุกท่าน  ที่ได้มอบมอบขุนทรัพย์ทางปัญญาไว้ให้ลูกหลานคนรุ่นหลัง
นำไปต่อยอดทางความรู้  อันจะเป็นภูมิปัญญาของแผ่นดินต่อไป.


   
คิดถึงมหาบุรุษ
โดยพลกูล  อังกินันทน์  ภาควิชาประวัติศาสตร์  คณะสังคมศาสตร์ 
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร (พิมพ์ครั้งแรก ปี 2526)
เนื้อเรื่องจะเป็นบันทึกสั้นเขียนถึงลูก   มีทั้งหมด 16 บันทึก  โดยทุกบันทึกจะขึ้นต้นว่า
".....ลูกรักของพ่อ"   และลงท้ายว่า "พ่อ" เสมอ

...คำนำของผู้เขียน
พระเจ้าตากสิน..."บุคคลผู้ใด  อาทิคือเทวดา  บุคคลผู้มีฤทธิ์  มาประสิทธิ์มากระทำให้ข้าวปลา
                               อาหารบริบูรณ์พอเลี้ยงสัตว์โลกผู้ยากไร้แล้วไซร้  แม้นผู้นั้นจะปรารถนา
                               พระพาหาแห่งเราข้างหนึ่ง  เราก็อาจตัดบริจาค ให้แก่ผู้นั้นได้"
เจ้าชายสิทธัตถะ ...จากกระแสสุขส่วนตัวไปสู่การมุ่งแสวงหาสุขเพื่อมวลมนุษย์
เยซู...ผู้ซึ่งถูกตัดสินให้ประหาร  เพราะเป็นบุคคลหัวรุนแรงที่เป็นภัย  ทั้งๆ ที่ความรุนแรงนั้นคือ
          การปลูกฝังความรักที่มนุษย์พึงจะมีต่อกัน
นบีโมฮัมหมัด...ผู้เจียมตนว่าตนเป็นเพียงทางผ่านของคุณความดี
มหาตมะคานธี...ผู้ทำให้ดาบของศัตรูทื่อ
ยาวฮาร์ลาลเนห์รู...ผู้อุทิศแม้กระทั่งเถ้ากระดูกของตนเพื่อปิตุภูมิ
พ่อขุนผาเมือง  กาลิบัลดี  เชกูวารา...ตัวอย่างของนักอุดมคติซึ่งไม่ยอมรับการตอบแทน
พ่อขุนรามคำแหง...สร้างรูปแบบของคุณธรรมเพื่อปลูกฝังคุณธรรม
ขงจื้อ...ปราชญ์ผู้ก้มลงกราบเด็กเลี้ยงควาย
จักรพรรดินินโตกุ..."ราษฎรเป็นสุข  เราก็เป็นสุข"
ลินคอล์น...ผู้กล้ากล่าวว่าตนเป็น  "ประธานาธิบดีโง่ท่ามกลางผู้ร่วมงานที่ฉลาดหลักแหลม"
อิโต...ผู้เอารัฐธรรมนูญ(กระจอก) ของปรัสเซียมาเป็นรูปแบบโดยอ้างแต่เพียงว่า
          "เพราะมันเหมาะสมกับสังคมของเรา"
เพลโต, โทมัสมอร์..."รีปับลิค  ยูโทเปีย เมืองในอุดมการ"
พระเจ้าอเลกซานเดอร์มหาราช...ผู้สั่งให้แหย่พระหัตถ์ของพระศพของพระองค์ออกจากโรง
                                                       เพื่อยืนยันความรักที่มีต่อชาวแมกซิโดเนีย
เหมาเจ๋อตุง...เส้นทางของรัฐบุรุษต้องพิสูจน์กันยาวนาน (Long March)
เชอร์ชิล..."งานหนัก  น้ำตา และเลือดเพื่อปิตุภูมิ"
อัลเบิร์ต  ชไวเซอร์...บุรุษโนเบลไพรซ์มือกุด
แม่ชีเทเรซา..."มนุษย์ควรมีสิทธิตายอย่างอบอุ่นเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต"
นโปเลียน, ฮิตเลอร์...ผู้กุมเจตนารมณ์ (General Will) ของประชาชน
หลินเตสือ..."บทเรียนของหมาล่าเนื้อเขี้ยวกร่อน"

...แต่ลูกรักของพ่อต้องตรหนักไว้เสียตั้งแต่แรกในตอนนี้ว่า  วิถีของมหาบุรุษนั้น
อาจไม่ได้เป็นสื่อนำไปสู่ความสุขความสบายหรือความรุ่งโรจน์ของชีวิต
เพราะมหาบุรุษของโลกนั้นมีสิ่งคล้ายกันอยู่อย่างหนึ่งคือ  ท่านเหล่านั้นได้เริ่มเบี่ยงเบนผลประโยชน์
เพื่อตนเองไปสู่สังคมประเทศชาติ  หรือไกลไปถึงขั้นมนุษยชาติ...

...อย่างไรก็ตาม  ความเข้าใจและความศรัทธาในคุณสมบัติที่ดีงามของมหาบุรุษ
เป็นสิ่งที่โน้มนำจิตใจของเราให้สูงขึ้น  ดังนั้นพ่อจึงหวังว่าลูกคงเข้าใจความหวังดีของพ่อนี้
อย่าหาว่าพ่อดีแต่พูด  ตัวเองยังปฏิบัติไม่ได้หรือมาชักจูงให้ลูกหันเหไปสู่ความทุกข์ยากนั้นเลย...   

...พระเยซูในความคิดของพ่อเป็นเพียง นายเยซูแห่งนาซาเรซ "หัวรุนแรง" ท่านผู้นี้มีตัวตนจริงๆ
ในประวัติศาสตร์  เมื่อปี  1980  มานี้  ท่านเกิดมาเป็นสามัญชน  แต่เนื่องจากชาติกำเนิดของท่าน
ในยุคนั้นคือชาวยูดาย (ฮิบรู) เรียกกันทั่วไปว่ายิว  เป็นกลุ่มชนกลุ่มหนึ่งซึ่งอยู่ภายใต้การปกครอง
ของโรมัน  ชาวโรมันนั้นเป็นเสมือนผู้พิชิตโลก  ดังนั้นจึงถือตนว่าสูงส่ง  ชนเผ่าอื่นๆ
เป็นเพียงอนารยชนผู้ต่ำต้อย    นายเยซูแห่งนาซาเรซ  ไม่ยอมรับในความไม่เท่าเทียมของเผ่าตน
ดังนั้นท่านจึงใช้วิถีทางแห่งการปฏิวัติ  ท่านเริ่มเผยแพร่อุดมการณ์  ปลุกเร้าพวกพ้องของท่าน
ให้คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (dignity of man)  ไม่ยอมรับในความเป็นทาสของตน
ด้วยการปรับปรุงสภาพการดำเนินชีวิตความงมงายหลงผิดในลัทธิแบบเชื่อถือแบบเดิม
โดยให้หันมามีศรัทธาในพระยะโฮวาห์เจ้าและหันมาปฏิบัติตัวตามคำเทศนาของท่าน
ซึ่งอ้างว่าเป็นศาสดา (prophet) ผู้ถูกส่งมาจากสรวงสวรรค์สำหรับผู้ปกครองโรมัน
ผู้ถือว่าเผ่าตนเป็นมนุษย์อันสูงส่งนั้น  ท่านก็ใช้การจูงใจให้ศรัทธาว่าภายใต้ความเมตตา
ของพระผู้เป็นเจ้านั้นมนุษย์ทุกคนล้วนเป็นพี่น้องกัน (all man are brothers)
      ลูกรักของพ่อ  เป็นสิ่งประหลาดใจว่าการดำเนินการเพื่อมนุษย์ของนายเยซูแห่งนาซาเรซนั้น
ผู้ปกครองโรมันกลับเพียงแต่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของท่านอย่างใกล้ชิดเท่านั้นเพราะท่าน
และพวกศานุศิษย์  ไม่ได้ใช้อาวุธหรือการยุยงให้ต่อต้านกลุ่มผู้ปกครองโรมัน    แต่นายเยซูแห่ง
นาซาเรซกลับถูกทำร้ายโดยหมู่ชาวยิว  ด้วยกันเอง    กลุ่มชาวยิวดังกล่าวเป็นกลุ่มศาสนา
ที่มีศรัทธาในลัทธิยูดาย ดั้งเดิม  พวกนี้ไม่พอใจในการอ้างตนเองว่าเป็นผู้ประกาศหลักธรรม
จ ากพระเจ้าดังนั้นจึงลอบรายงาน พฤติกรรมของนายเยซู  โดยใส่ร้ายว่าปลุกปั่นยุยงชาวยิว.
ให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง ต่อผู้ปกครองโรมันจนมีผลให้นายเยซูแห่งนาซาเรซ ต้องถูกจับกุม
ในข้อหาร้ายแรงจนผลสุดท้ายต้องถูกประหารด้วยการ ตรึงไม้กางเขน
       ดร.มาร์ติน  ลูเธอร์คิง  จูเนีย  อดีตผู้นำการต่อสู่เพื่อสิทธิของชาวนิโกรอเมริกันได้กล่าว
บรรยายเรื่องนี้ไว้อย่างน่าประทับใจว่า"จากการได้ชื่อว่าเป็นคนหัวรุนแรงก็พระเยซูมิใช่ผู้มี
หัวรุนแรงในเรื่องความรักดอกหรือ   จงรักศัตรูของท่าน  อวยพรให้กับคนที่ด่าท่าน
สวดมนต์ให้แก่คนที่ปฏิบัตต่อท่าน อย่างดูหมิ่นดูแคลน"  ดังนั้นปัญหาจึงมิได้อยู่ที่ว่าเรา
จะเป็นคนหัวรุนแรงหรือไม่เหลือแต่ว่าเราจะเป็นคนหัวรุนแรงชนิดใด  เราจะเป็นคนหัวรุนแรง
ในเรื่องความเกลียดหรือความรักเราจะเป็นคนที่รุนแรงเพื่อรักษาความอยุติธรรมให้คงอยู่
หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรม
       ลูกที่รักของพ่อ  นายเยซูแห่งนาซาเรซต้องตายในครั้งนั้นโดยผลจากน้ำมือของชาวยิวเอง
แต่นั่นยังไม่สำคัญเท่าความสลดใจที่ว่า  ท่านเป็นคนรักมนุษย์  ท่านมุ่งจะชี้ทางมนุษย์ให้ปฏิบัติดี
ปฏิบัติชอบท่านมุ่งโน้มน้าวให้มนุษย์คำนึงถึงความเป็นพี่น้องกัน  อันเป็นการสร้างความรัก
ที่ยิ่งใหญ่แต่ท่านกลับต้องมาตายอย่างทุกข์ทรมานโดยน้ำมือของมนุษย์  ซึ่งเป็นพี่น้องเผ่า
พันธุ์เดียวกับท่านนั่นเอง
        ลูกที่รักของพ่อ  คนรุ่นหนุ่มสาวอย่างลูกคงไม่อาจเข้าใจในเรื่องเหล่านี้ ได้ดีนักเพราะ
ลูกกำลังคิดถึงแต่อนาคต  การคิดเช่นนั้นไม่ผิดดอกลูก  แต่การที่จะมีสตินึกถึงจุดหมาย
ปลายทางของสิ่งใดก็ตาม  อาจจะช่วยให้เราตระหนักถึงคุณค่าของปัจจุบันยิ่งขึ้นมิใช่หรือ ?
แล้วลูกเลือกหรือยังว่าจะได้ชื่อว่าเป็นคนหัวรุนแรงในด้านใด ?
                                                                       โดยความรักและมีศรัทธาต่อลูก
                                                                        พ่อ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-07-2006, 12:21 โดย ภูพาน » บันทึกการเข้า

ขอกันข้าให้ไกลห่างจากคนที่กล่าวว่า "ข้าเป็นดวงเทียนที่นำความสว่างให้หนทางของประชาชน"
หากแต่ผู้ที่แสวงหาหนทางของตนจากแสงแห่งประชาชนนั้น  ขอจงนำข้าเข้าไปใกล้ชิดด้วยเถิด
~ คาลิล ยิบราน
ภูพาน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 671


« ตอบ #26 เมื่อ: 05-07-2006, 11:58 »

...พ่อขุนผาเมืองร่วมมือกับพ่อขุนบางกลางหาว  ขจัดอิทธิพลขอม  และเข้ายึดกรุงสุโขทัย
สถาปนาขึ้นเป็นรัฐอาณาจักรของไทย  ภายหลังพ่อขุนผาเมืองได้มอบอำนาจการปกครอง
แก่พ่อขุนบางกลางหาว   ...กาลิบอลดีและกองทหารเสื้อแดงเป็นกำลังในการรวมประเทศ
อิตาลีเป็นผลสำเร็จ  ภายหลังพระเจ้าวิคเตอร์ เอมมานูเอลทรงพระราชทานรางวัลและ
ความดีความชอบแก่ผู้ร่วมงานทั้งหลาย   กาลิบอลดกลับไม่รับความดีความชอบใดๆ
โดยขอรับพระราชทานเพียงถั่วถุงเดียว (พันธุ์พืช) แล้วเดินทางกลับไปดำรงชีวิตแบบเงียบๆ
ที่บ้านเกิดเมืองนอนของตน   ...ภายหลังเชกูวาราร่วมมือกับฟิเดล คาสโตรปฏิวัติในคิวบา
สำเร็จ  คาสโตรในฐานะประธานาธิบดีได้แต่งตั้งให้เชกูวาราดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีร่วมคณะ
แต่เขากลับปฏิเสธ  โดยให้เหตุผลว่า ยังต้องไปรับภาระในการทำปฏิวัติเพื่อช่วยชาวลาตินอเมริกัน
กลุ่มอื่นๆ ที่ยังถูกกดขี่อยู่  ...นี่คือนักอุดมคติที่เสมือนเป็น "ผู้ปิดทองหลังองค์พระปฏิมา"
สังคมเขาไม่อาจเข้าใจในเรื่องเหล่านี้ได้ง่ายๆ เพราะมันเป็นคุณสมบัติส่วนหนึ่งของมหาบุรุษ
ซึ่งหลายคนกลายเป็นมหาบุรุษนิรนามไป  เพราะเสมือนเสาตอหม้อที่จมอยู่ในดิน  เพื่อที่จะรองรับ
สิ่งที่สูงเด่นหรือใหญ่มหึมา  ค้ำจุนเอาไว้ร่วมกับส่วนประกอบนิรนามอื่นๆ  ซุกหน้ากับดิน 
เพื่อให้ผู้คนเขามองแต่ความสูงสง่า  ความสูงเด่น  ความมหึมาของสิ่งนั้น  แต่วันหนึ่งเขา
เขาอาจคิดถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่ซึ่งจมอยู่ในดินนั้น...

...ท่านมหาตะมคานธีนั้นถึงแม้จะอายุมากแล้ว  จนฟันฟางหักหมดปากแต่ท่านก็ยังมีความจำเป็น
ที่จะต้องใช้ฟันขบเคี้ยวอาหาร  ซึ่งเป็นประเภทมังสวิรัตไม่ว่าจะเป็นถั่วหรือผักก็ตาม
แต่เมื่อฟันนั้นเป็นฟันปลอมซึ่งสามารถถอดออกมาชำระล้างได้  จึงไม่น่าจะมีความจำเป็นใดๆ
ที่จะต้องถึงขนาดใช้แปรงสีฟัน   ความสงสัยมีอยู่ช้านาน  จนวันหนึ่งมีผู้อดรนทนไม่ได้ จึงเรียนถาม
ท่านมหาตมะคานธีต่อหน้าผู้คนเป็นจำนวนมาก ถึงเรื่องการพกแปรงสีฟันติดตัวเป็นประจำ
ดังกล่าวโดยคิดแต่เพียงเรื่องน่าขบขันผ่อนคลายความตึงเครียดบรรยากาศในการที่ทางการ
กำลังดำเนินการจับกุมท่านมหาตมะคานธีในครั้งนั้น   ท่านมหาตมะคานธีมิได้ทำให้ผู้ถาม
สมหวัง ในแง่ความขบขัน  เพราะท่านกลับเอื้อมมือไปหยิบแปรงสีฟันซึ่งห้อยอยู่ข้างสะเอว
ขึ้นมาและกล่าวตอบว่า "แปรงสีฟันนี้  ข้าพเจ้าพกเอาไว้ติตตัวเสมอ  เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจว่า
เนื่องจากทุกวันนี้คำพูดของข้าพเจ้าผู้ฟังนับเป็นล้านๆ คนเขาฟังด้วยความเลื่อมใสศรัทธา
ดังนั้นข้าพเจ้าจึงต้องพยายามพูดอะไรด้วยปากที่สะอาดที่สุด"

...จักรพรรดิโอซาซากิมีเรื่องราวอยู่ในตำนานของญี่ปุ่น  ทรงอยู่ในลำดับที่ 16-17  เรื่องราวดังกล่าว
เกิดขึ้นเมื่อขึ้นครองราชย์  วันหนึ่งทรงโผล่พระบัญชรปราสาท  ทอดพระเนตรบ้านเรือนราษฎรเห็น
ควันไฟหุงข้าวของราษฎรมีน้อยนัก  จึงทรงโปรดฯให้ ยกเว้นภาษีอากรเสียสามปี
เมื่อครบสามปีแล้วพระองค์ทรงทอดพระเนตรบ้านเรือนราษฎร จากพระบัญชรนั้นอีก
ปรากฏว่ามีควันไฟหุงข้าวของราษฎรหนาแน่นจึงตรัสแก่ พระมเหสีว่า "บัดนี้เราเจริญด้วย
ทรัพย์สมบัติเป็นมหาเศรษฐีแล้ว"  พระมเหสีทรงได้ยินดังนั้นจึงทูลว่า "เหตุไฉนพระองค์ตรัส
ดังนั้นเล่าเพราะปราสาทราชวังของเราทุกวันนี้ร่วงโรยนักหนา  หลังคาปราสาทก็ผุพัง
กำแพงปราสาทก็แตกร้าวเพราะมิได้ซ่อมแซมบำรุงมาถึงสามปี"  พระเจ้าโอซาซากิจึงตรัสว่า
 "ความสุขของราษฎรนั้นคือความสุขของเรา  ควันไฟหุงข้าวที่แลเห็นหนาแน่นตามหมู่บ้าน
ราษฎรนั้นแสดงว่าราษฎรมีกินบริบูรณ์ดีเราเองก็จักไม่ขาดแคลน ต่อไป"  ปรากฏว่าขณะนั้น
ราษฎรอยู่ดีกินดีจริงตามที่พระเจ้าโอซาซากิตรัสกับพระมเหสี  และเมื่อครบกำหนดสามปีแล้ว
ราษฎรก็นำภาษีอากรมาถวายเอง ด้วยความสมัครใจไม่ต้องส่งขุนนางไปเก็บ
ในรัชกาลของพระองค์นั้น  ราษฎรทำไร่ทำนา ได้ผลอุดมดี  ไม่มีโจรผู้ร้าย
พระเจ้าโอซาซากิเสวยราชย์อยู่ถึง  86 ปี ก็ทรงสวรรคตในปี พ.ศ. 942

ที่ยกมาเป็นเพียงบางส่วนของหนังสือเท่านั้น  บางข้อความอาจเป็นเครื่องเตือนสติ
เป็นปัญญาที่เพื่อนๆอาจนำไปใช้ประโยชน์ได้บ้าง...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-07-2006, 13:32 โดย ภูพาน » บันทึกการเข้า

ขอกันข้าให้ไกลห่างจากคนที่กล่าวว่า "ข้าเป็นดวงเทียนที่นำความสว่างให้หนทางของประชาชน"
หากแต่ผู้ที่แสวงหาหนทางของตนจากแสงแห่งประชาชนนั้น  ขอจงนำข้าเข้าไปใกล้ชิดด้วยเถิด
~ คาลิล ยิบราน
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« ตอบ #27 เมื่อ: 05-07-2006, 15:41 »


** " แม่ " เขียนโดย แมกซิม กอร์กี้ ฉบับ จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นผู้แปล

    เล่มนี้เป็น วรรณกรรม เล่มแรกที่รู้จัก...นอนอ่านตั้งแต่ค่ำ...จนถึงเช้า

    จากนั้น..ก็มีหนังสือหลายๆ เล่มแวะเวียนมาเป็น หนังสือ ในดวงใจ


มีเรื่อง "แม่" ที่เขียนโดย*bonny ด้วยนะครับ Smile
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
เหลือม
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 55



« ตอบ #28 เมื่อ: 05-07-2006, 16:14 »

หลายเล่มหลายคนที่นี่เป็นเล่มโปรดของผม

ผมขอเเนะนำเล่มโปรดของผมอีกเล่มเช่นกัน



All Quiet on The Western Front  เป็นเล่มนึงที่ผมชอบมากๆ เเอนตี้สงครามสุดๆ เเต่ฉากกลับอยู่ในสงคราม

ขอเเนะนำ อ้อ...เเล้วยังมีภาพยนต์เรื่องนี้ด้วย เป็นหนังเก่ากว่า หลายสิบปีเเล้ว ยุคขาวดำ คราสสิกมาก ขอบอก



ยินดีที่ได้รู้จักกับบรรดาหนอนๆด้วยกันครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-07-2006, 16:25 โดย เหลือม » บันทึกการเข้า
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #29 เมื่อ: 05-07-2006, 17:17 »


** " แม่ " เขียนโดย แมกซิม กอร์กี้ ฉบับ จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นผู้แปล

    เล่มนี้เป็น วรรณกรรม เล่มแรกที่รู้จัก...นอนอ่านตั้งแต่ค่ำ...จนถึงเช้า

    จากนั้น..ก็มีหนังสือหลายๆ เล่มแวะเวียนมาเป็น หนังสือ ในดวงใจ


มีเรื่อง "แม่" ที่เขียนโดย*bonny ด้วยนะครับ Smile



คุณ *bonny  เคยแปล หนังสือเล่มนี้หรือ ???

หรือว่า มีหนังสือที่เขียนเกี่ยวกะเรื่องนี้..........ที่ เอ้ ตกหล่นไป

ถามเพราะว่า........ครั้งแรกที่  เอ้  เริ่มหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน

แม่......... ของ แมกซิม คือ.. หนังสือที่ซื้อใจ เอ้ ได้

เอาเรื่อง แม่ ที่คุณ บอนนี่ เขียนมาเล่าสู่กันฟังบ้างสิค่ะ  Very Happy

ขอคำแนะนำคะ ............... !!







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-07-2006, 17:25 โดย see_you » บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« ตอบ #30 เมื่อ: 05-07-2006, 18:11 »


คุณ *bonny  เคยแปล หนังสือเล่มนี้หรือ ???

หรือว่า มีหนังสือที่เขียนเกี่ยวกะเรื่องนี้..........ที่ เอ้ ตกหล่นไป

ถามเพราะว่า........ครั้งแรกที่  เอ้  เริ่มหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน

แม่......... ของ แมกซิม คือ.. หนังสือที่ซื้อใจ เอ้ ได้

เอาเรื่อง แม่ ที่คุณ บอนนี่ เขียนมาเล่าสู่กันฟังบ้างสิค่ะ  Very Happy

ขอคำแนะนำคะ ............... !!









มิได้ครับ ผมไม่เคยทำหนังสือแปล  เรื่อง "แม่" เป็นบทความที่ผมเขียนไว้เมื่อปี 35 เป็นเรื่องสะท้อนสังคมทุกยุคทุกสมัย

คนเป็นแม่เป็นคนที่ต้องรับเคราะห์จากการทำร้ายจิตใจโดยที่คนเป็นลูกไม่เคยรู้  ถึงวันแม่เมื่อไรจะเอามาฝากนะครับ
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
มีคณา
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 463



« ตอบ #31 เมื่อ: 05-07-2006, 21:20 »

" คนเป็นแม่เป็นคนที่ต้องรับเคราะห์จากการทำร้ายจิตใจโดยที่คนเป็นลูกไม่เคยรู้  ถึงวันแม่เมื่อไรจะเอามาฝากนะครับ"

น่าสนใจ .....รออ่านค่ะ
บันทึกการเข้า
เก็ดถวา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,753



« ตอบ #32 เมื่อ: 05-07-2006, 22:04 »


กรี๊ดค่ะ พี่บอนนี่

มิน่า.. วันนี้ที่บ้านหนูฝนตกใหญ่หลวงนัก ฟ้าร้องเปรี้ยงปร้าง

เปิดสโมสรริมน้ำเห็นชื่อพี่บอนนี่ ช็อคมั่กๆ  Shocked  Shocked  Shocked


แต่ว่า โถ่.. พี่บอนนี่... ทำไมต้องรอวันแม่ด้วยอ่ะค้า อีกตั้งเดือนนึงอ่ะ หนูอยากอ่านแล้วนี่ค้า
  Tongue out

บันทึกการเข้า

Avada Kedavra!!!!!!!
ภูพาน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 671


« ตอบ #33 เมื่อ: 09-07-2006, 15:05 »



มังกรทลายฟ้า
ผู้แต่ง...กิมย้ง
ผู้แปล...น.นพรัตน์.
ผู้จัดพิมพ์...สำนักพิมพ์ดอกหญ้า  ( 2 เล่มจบ)

หลายท่านโดยเฉพาะท่านชายคงจะเคยอ่านนิยายจีนกันมาบ้างแล้ว
เสน่ของนิยายจีนอยู่ที่ไหน ?  เสน่คือทำให้ผู้อ่านรู้สึกเหมือนว่าตัวเองข้ามกำแพงความจริง
ไปสู่อีกโลก   แม้เราจะรู้ว่ามันไม่ใช่ความจริง  ไม่มีหรอก กระโดดข้ามกำแพงสูง
วิ่งเหาะเหินอากาศ  แต่มันช่วยสร้างจินตนาการอันไม่จบสิ้นของผู้อ่าน
...แล้วทำไมจึงชอบเรื่องนี้   อาจเพราะตัวเอกของเรื่องเป็นคนธรรมดา
แม้จะมีปัญหาครอบครัวในวัยเด็ก  แต่เขาก็ไม่นำเอามาเป็นข้ออ้างในการประพฤติเลว
แต่กลับดำเนินชีวิตเหมือนคนปกติ  เขามองคนในแง่ดี  มีความเห็นใจคนอื่น  กตัญญูรู้คุณ
แม้จะมีโชคร้าย  แต่ก็มีโชคดีพัดผ่านชีวิตเช่นกัน  เห็นถึงชีวิตของหลายตัวละคร
ที่โลดแล่นไปดั่ง "บทละคร"  ที่ผู้แสดงต้องแสดงไปจนกว่าจะถึงวันสิ้นสุดของ....ชีวิต



'อมตนิยายสะท้อนคุณค่าความหมายของคุณธรรม'

'ครรลองอัจฉริยภาพบนวิถีความดีงาม'   .....จากปกหน้า

'ผลงานของกิมย้งทุกเรื่องมักสอดสานด้วยแนวคิดเชิงพุทธ  ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา
 ในมังกรทลายฟ้านี้  เป็นไปโดยมิได้ตั้งใจ  ดังที่กิมย้งได้กล่าวไว้ในภาค ."คำตาม" 
 ที่แทรกไว้ท้ายเรื่องนี้  แนวคิดนี้สะท้อนออกมาโดยลีลาชีวิตของเจี๊ยะพัวเทียน
 ซึ่งมีบุคลิกที่ซื่อตรงดีงาม  ไม่ยึดติดกับตัวตน  จึงสงบงัน  สามารถเรียนรู้เข้าใจสิ่งหนึ่งๆ
 ได้อย่างลึกซึ้งชัดเจน  ทั้งนี้ไม่ใช่เรื่องการหลุดพ้นสูงส่ง  เขายังเป็นโลกียชน
 อยู่ใต้โลกหล้า  มีอารมณ์ความรู้สึกที่จะรักและผูกพันกับผู้คน  เป็นสุนทรียรส
 อันน่ารู้สึกร่วมด้วยของเรื่อง' .....คำนำของสำนักพิมพ์

'มังกรทลายฟ้า เขียนถึงคนที่ไม่รู้จักหนังสือหนังหาไม่เข้าใจเรื่องราวทางโลกผู้หนึ่ง
กลับสามารถรู้ซึ่งแก่นแท้ของยอดวิทยายุทธ์  ในขณะที่ผู้ทรงปัญญามากหลายมุดไปในเขาวงกต'
 .....คำวิจารย์ของเหง่ยคัง...ยอดนักเขียนชาวฮ่องกงวิจารย์ผลงานของกิมย้งทุกเรื่อง

'บุรุษหนุ่มไหนเลยทราบ  ภาพที่วาดอยู่บนหุ่นไม้เหล่านี้
เป็นยอดวิชาที่มหาสมณะวัดเสียวลิ้มยี่รุ่นก่อนบัญญัติขึ้น'.....จากด้านในปกหลัง

'ในโลกหล้า  ผู้คนมากเท่าไหร่  ที่บรรลุศักยภาพอันลึกล้ำได้
คนเหล่านี้ผยองทะยานเพียงใด   ความทะยานอยาก
มาตรว่าคือพลังผลักดันผู้คนรุดไปข้างหน้า  ในขณะเดียว
ความทะยานอยาก  คือจิดยึดมั่น  รุ่มร้อน  ฉุดรั้งคนผู้นั้นไว้
บรรดาผู้คนหากเข้าใจ  ประสานสิ่งอันขัดแย้งนี้ได้
ไยไม่สำเร็จ  ยิ่งใหญ่  ตระการ'.....จากปกหลัง

 ~  บางส่วนจากหนังสือ  ~

ขอทานน้อยสั่นศรีษะ  กล่าวว่า
"ข้าพเจ้าไม่วิงวอนผู้อื่นมาก่อน"
เจี่ยอิงแขะใจหายวูบ  รีบถามว่า
"ไฉนไม่วิงวอนคน?"
ขอทานน้อยกล่าวว่า
"มารดาข้าพเจ้ามักบอกต่อข้าพเจ้าว่า  'ลูกสำส่อน  ชั่วชีวิตเจ้าอย่าได้วิงวอนผู้อื่นอันใด 
ผู้อื่นคิดให้แก่เจ้า  เจ้าไม่ต้องวิงวอน  ผู้อื่นย่อมให้แก่เจ้า  หากผู้อื่นไม่ยินยอม
ต่อให้เจ้าวิงวอนขอร้องก็ไม่มีประโยชย์  กลับเป็นที่รังเกียจของผู้อื่น"
       ~ ~ ~
"ท่านเป็นคนดีที่ยิ่งใหญ่  ข้าพเจ้าจึงเรียกท่านเป็นคนดีใหญ่"
เจี่ยอิงแขะหน้าเคร่งเครียดลง  กล่าวว่า
"ผู้ใดว่าเราเป็นคนดี"
ขอทานน้อยกล่าวว่า
"ไม่ใช่คนดีก็เป็นคนร้าย  อย่างนั้นข้าพเจ้าเรียกท่านเป็นคนร้ายใหญ่"
"เราก็ไม่ใช่คนร้ายใหญ่"
"นั่นประหลาดแท้  ทั้งไม่ใช่คนดี  และไม่ใช่คนร้าย  ใช่แล้ว  ท่านไม่ใช่คน! "
       ~ ~ ~
"มารดาข้าพเจ้าเรียกข้าพเจ้าเป็นลูกสำส่อน  คนในพรรคสุขนิรันดร์กลับบอกว่า
ข้าพเจ้าเป็นปังจู้พวกมันเจี๊ยะพั่วเทียน  ซึ่งความจริงข้าพเจ้าไม่ใช่
เพียงแต่...เพียงแต่ข้าพเจ้าแซ่อะไร  เรียกว่าอะไร  ล้วนไม่ทราบทั้งสิ้น"
       ~ ~ ~
"ที่วาดบนตุ๊กตาดิน  เป็นเคล็ดวิชาฝึกกำลังภายใน  เจ้าเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือเฒ่าผู้นั้น
มันสำนึกขอบคุณเจ้า  ดังนั้นกำนัลแก่เจ้า  นี่ไม่ใช่ของเล่นธรรมดา  แต่มีค่ายิ่ง  ขอเพียงเจ้า
ฝึกวิชาจุดดำเส้นแดงบนตุ๊กตาดินเหล่านี้สำเร็จ  แม้แบมือออก  นกกระจอกก็บินไม่ไป"
       ~ ~ ~
"วิชาฝีมือย่อมต้องร่ำเรียน  ในโลกมีคนร้ายอยู่มากหลาย
ท่านไม่ทุบตีผู้อื่นผู้อื่นจะทุบตีท่าน  ถูกคนทุบตียังพอทำเนา
ถูกคนฆ่าทิ้งก็ไม่ได้แล้ว....."
       ~ ~ ~
"...ไม่ว่าวิชาฝีมือใดต้องทำร้ายคนฆ่าคน  หาไม่ก็ไม่เป็นวิชาฝีมือแล้ว
เพียงแต่ระหว่างที่ท่านประมือกับผู้คน  ให้ยั้งมือไว้ไมตรีทุกย่างก้าว
อภัยคนได้พึงอภัย ก็ใช้ได้แล้ว"
       ~ ~ ~
'สามสิบปีมานี้  ปรากฏยอดฝีมือชาวยุทธจักรสามขบวนรุดสู่เกาะวีรบุรุษ  ไม่เคยได้ยินว่า
มีคนรอดชีวิตกลับมา  เด็กน้อยเจ้าไม่มีสามหัวหกกร  ไหนเลยอยู่เหนือกฎเกณฑ์ได้?'
       ~ ~ ~
"ตั่วกอ  ข้าพเจ้า...ข้าพเจ้าก็เช่นเดียวกัน  ข้าพเจ้าจะรอท่านในที่นี้สามเดือน
ท่านหากไม่กลับมา  ข้าพเจ้าจะ...กระโดดลงทะเลพร้อมกับไหนไน่"
เจี๊ยะพั่วเทียนทั้งวาบหวามดื่มด่ำ  ทั้งรันทดหดหู่  กล่าวว่า
"ท่านไม่ต้องทำเช่นนี้"
อาซิ่วกล่าวว่า
"ข้าพเจ้าจะทำเช่นนี้"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-07-2006, 15:20 โดย ภูพาน » บันทึกการเข้า

ขอกันข้าให้ไกลห่างจากคนที่กล่าวว่า "ข้าเป็นดวงเทียนที่นำความสว่างให้หนทางของประชาชน"
หากแต่ผู้ที่แสวงหาหนทางของตนจากแสงแห่งประชาชนนั้น  ขอจงนำข้าเข้าไปใกล้ชิดด้วยเถิด
~ คาลิล ยิบราน
แทน
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20



« ตอบ #34 เมื่อ: 09-07-2006, 17:12 »


หนังสือ 2 เล่มโปรด ในวัยเด็ก
เป็นหนังสือ 2 เล่มแรกในความทรงจำของผมครับ
ก่อนหน้านี้ น่าจะเคยอ่าน เรื่องอื่นๆ มาบ้าง

แต่นึกกี่ที ความทรงจำ ก็บอกว่า..... 2 เล่มแรก  คือ
Daddy - long - Leg  กะ  Charlie and The Chocolate Factory

จะไปโทษความทรงจำก็ไม่ได้ เพราะมันผ่านมานานมากๆ แล้วนี่เน๊อะ  Embarassed



เมื่อไม่นานมานี้ เพิ่งค้นพบ หนังสือเล่มโปรด ยามแก่ครับ

โมโม่.........ของ มิฆาเอล เอนเด้

         ------------------------- ****** -------------------------------



โมโม่" เป็นหนังสือที่ได้รับรางวัลเยาวชนดีเด่นของเยอรมัน
"โมโม่" ไม่ใช่หนังสือสำหรับเด็กเล็ก ๆอ่าน เพราะไม่ใช่เป็นหนังสืออ่านสนุกแบบนิทานเด็ก
แม้ว่าตัวละครส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก จะว่าไปแล้วผมว่าเหมาะแก่การเป็นหนังสือสำหรับผู้ใหญ่อ่านมากกว่า

      ถ้าจะเหมาะกับเด็กก็น่าจะเป็นเด็กที่พอจะเข้าใจปรากฎการณ์ของสังคมได้
คือต้องเป็นเด็กที่มีอายุพอจะเข้าใจสัญลักษณ์ต่าง ๆ  ที่ผู้เขียนต้องการสะท้อนให้เห็นโดยผ่านตัวละครที่เป็นเด็กพวกนี้ได้แล้ว

      โดยเนื้อเรื่องก็จะเป็นสัญลักษณ์เสียส่วนมากตามที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อ
เด็กรุ่นเล็ก ๆอ่านก็จะได้ประโยชน์ในระดับหนึ่งคือได้ความสนุกสนานไป แต่เด็กโตขึ้นมาหน่อยอายุสัก 17-18
ก็จะได้อรรถรสทางปรัชญา พุทธศาสนา

ตัดตอนมาจาก บทสัมภาษณ์คุณ ชินณรงค์ เนียวกุล  -ผู้แปล ครับ

         ------------------------- ****** -------------------------------


แต่ตัวละครคนโปรดของผม กลับเป็น "เบ๊ปโป้" คนกวาดถนน
ผู้ทำให้ถนนข้างหน้าของผม ไม่ยาวไกล หรือน่าเบื่ออีกต่อไป

ส่วน "คัทซีโอเพย่า" นั้นผมชอบ ออกเอ็นดูมากกว่า มันกวนดี
 
เหมือนลอกการบ้านคุณประกายดาว เจ้าของกระทู้เลยอ่ะคับ  Embarassed
แต่เชื่อว่าเป็นที่ประทับใจของใครอีกหลายคนแน่ เพระก่วาจะมาถึงมือผม
ก็ปาเข้าไป พิมพ์ครั้งที่ 13 แล้ว

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: