นายสมเกียรติ ได้กล่าวว่า หลายวันที่ผ่านมาเพราะตนได้เปิดเผยถึงคดีการทุจริตและประพฤติมิชอบ ของ นายสมชายและภริยานางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ จำนวนมากที่อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่ามีการพิจารณาคดีอย่างล่าช้า ทำให้มีความพยายามรบกวนสัญญาณถ่ายทอดสดของเอเอสทีวี ดังนั้นในวันนี้ตนจึงนำคดีเหล่านั้นมากล่าวถึงอีกครั้ง ทั้งนี้คดีเหล่านั้น ประกอบด้วย
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000111609คดีที่หนึ่ง กรณี ป.ป.ช.มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2550 เพื่อพิจารณาไต่สวนนางเยาวภา
กรณีร่ำรวยผิดปกติ จากโครงการบริหารเขตปลอดอากรและศูนย์โลจิสติกส์ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาทที่บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้จ้างบริษัทไทยแอร์พอตส์ กราวด์เซอร์วิสเซส จำกัด (แทคส์) โดยร่วมลงทุนกับ ทอท.ลงนามในสัญญาวันที่ 28 เม.ย. 2549 เป็นระยะเวลา 10 ปี
พบว่า "การว่าจ้างดังกล่าวไม่มีการเปิดประมูลเพื่อให้เกิดการแข่งขัน" โดยขณะนั้นนายสมชายดำรงตำแหน่งกรรมการของ ทอท.อยู่ด้วย
คดีที่สอง - คดีทุจริตในการประมูลงานจ้างเหมา รปภ. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยวิธีพิเศษคือไม่มีการแข่งขัน ป.ป.ช.มีมติ และออกคำสั่งที่ 176/2551 ตั้งอนุกรรมการไต่สวน ทักษิณ (ชินวัตร) สุริยะ (จึงรุ่งเรืองกิจ) พงษ์ศักดิ์ (รักตพงศ์ไพศาล) ศรีสุข (จันทรางศุ) รวมถึง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กรณีจ้างเหมาบริการรักษาความปลอดภัย สนามบินสุวรรณภูมิ
โดยวิธีพิเศษ และเพิ่มงบประมาณจากเดิม 3,086 ล้านบาท เป็น 5,400 ล้านบาท โดยวิธีพิเศษโดยไม่มีการแข่งขัน คดีที่สาม -
คดีทุจริตต่อหน้าที่ และการกระทำผิดต่อหน้าที่ในการ
"ต่อสัญญาร้านขายสินค้าปลอดภาษีในสนามบินให้กับบริษัทคิงพาวเวอร์" โดยมีการโอนย้ายจากสนามบินดอนเมือง ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิโดย "ไม่มีการเปิดประมูล" ที่นายสมชายมีส่วนรับผิดชอบร่วมกับนายสุริยะและพวก คดีที่สี่ -
ครม.มีมติให้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ยินยอมให้กัมพูชายื่นจดทะเบียนปราสาทพระวิหารและพื้นที่โดยรอบเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยไม่ผ่านการพิจารณาของสภา ซึ่งเป็นการผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 -
คดีร่ำรวยผิดปกติ และการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน-หนี้สินอันเป็นเท็จของนางเยาวภา กรณีบ้านจัดสรรโครงการหมู่บ้านเบเวอรี่ ฮิลล์ ถนนแจ้งวัฒนะ ย่านหลักสี่ โดย
โครงการดังกล่าวมีการเปลี่ยนชื่อจากหมู่บ้านชินณิชา วิลล์ มาเป็นเบเวอรี่ ฮิลล์ ทั้งนี้จากการตรวจสอบของนายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
มีข้อมูลอันควรเชื่อได้ว่าอาจมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินอย่างผิดปกติ โดยหมู่บ้านดังกล่าวเดิมชื่อโครงการการ์เด้นท์ ซิตี้ ลากูน ซึ่งบริษัท สร้างสิน พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซื้อจากบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ที่
เป็นหนี้เอ็นพีแอล ในวงเงิน 800 ล้านบาท และเมื่อปี 2546 มีการเพิ่มทุน 150 ล้านบาทแล้วเข้ามาครอบครองหมู่บ้านต่างๆ พร้อมกับตั้งชื่อว่า ชินณิชา วิลล์ ซึ่งเป็นชื่อของลูกสาวคนโตของนางเยาวภาจึงน่าสงสัยว่าเงิน 150 ล้านบาทนี้มาจากที่ไหน แล้วเอาเงินที่ไหนไปซื้อโครงการ 800 ล้านบาทจาก บสท. อีกทั้งยังมีการระบุว่าครอบครัววงศ์สวัสดิ์ เป็นเจ้าของโครงการ บริษัท สร้างสิน พร็อพเพอร์ตี้ มีผู้ถือหุ้นรายหนึ่งชื่อ บริษัท สินมหัต ที่มีความเกี่ยวพันกับครอบครัววงศ์สวัสดิ์ และน้องสาวของนายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ... จากการตรวจสอบพบว่า ในปี 2545 บริษัท สินมหัต มีผลประกอบการขาดทุน 50,000 บาท ในปี 2546 มีกำไร 120,000 บาท ในปี 2547 ขาดทุน 1.4 ล้านบาท ในขณะเดียวกันปี 2547
ไม่รู้เงินหล่นมาจากไหน 180 ล้านบาทเพื่อไปซื้อหุ้น นอกจากนี้ บริษัท สินมหัตซึ่งมีทุนจดทะเบียนแค่ 1 ล้านบาท
พอปี 2547 ขาดทุน ก็มีเงินมาเพิ่มทุน 100 ล้านบาท และมีเงินไปซื้อหุ้นอีก 180 ล้านบาท ก็ไม่รู้มาจากไหนเหมือนกัน
นายสมเกียรติกล่าว พร้อมกับกล่าวว่ายังมีคดีอีกมากเกี่ยวกับสามี-ภรรยา คู่นี้ที่ตนจะทยอยนำมาเปิดเผยในโอกาสต่อไป ![](http://oldforum.serithai.net/Smileys/default/slime_bigsmile.gif)