วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551
ทัศนะวิจารณ์ กาแฟดำ 18 กันยายน พ.ศ. 2551 02:00:00
มีเพื่อนอย่างนี้ ไม่ต้องมีศัตรูก็ได้ พอเราอ่อนแอเจ็บป่วย เชื้อโรคก็ย่อมจะฉวยโอกาส ถาโถมเข้าโจมตีเรา
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : และหากเราไม่รีบสร้างภูมิคุ้มกันให้พร้อมสู้กับไวรัส และแบคทีเรียร้ายทั้งหลาย เราก็จะเสียท่ามันได้ง่ายๆ
มนุษย์เป็นอย่างไร ประเทศก็เป็นเช่นนั้น
เพื่อนรักข้างบ้านของเราอย่างนายกฯ ฮุนเซน ของกัมพูชา ได้จังหวะตอนเราแสดงอาการป้อแป้ทางการเมืองในประเทศ ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ ว่า เมื่อเกิดความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศไทย ก็สมควรที่จะพิจารณาว่า ความเป็น "ประธานหมุนเวียน" อาเซียนของไทย ควรจะโอนย้ายไปให้กับสิงคโปร์ หรือเวียดนาม แทนเสียหรือไม่ ฮุนเซน บอกว่า เขาสงสัยว่าเมื่อไทยเผชิญกับวิกฤติการเมืองในประเทศอย่างนี้ จะยังสามารถเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนประจำปี (ที่กำหนดไว้ในเดือนธันวาคมนี้) ได้หรือ
ฮุนเซน ใช้มีดทิ่มใส่เราแล้วก็ยังเอาเกลือมาโรยแผลให้เจ็บแปลบปลาบเพิ่มเติมอีกด้วยการบอกนักข่าวต่างประเทศ ว่า "เราสงสัยว่าไทยจะจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนได้อย่างไร ในเมื่อวันนี้ยังไม่มีรัฐบาลเลย..."
และเหยียบย่ำซ้ำเติมด้วยการสำทับว่า ไม่มีที่ไหนในโลกกระมัง ที่ผู้ประท้วง จะเข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาลได้อย่างนี้
ฮุนเซน บอกต่อด้วยว่า สถานการณ์การเมืองในไทยวันนี้ ไม่ได้กระทบต่อภาพลักษณ์ของไทยแต่เพียงประเทศเดียว แต่ยังกระเทือนถึงอาเซียนอีกด้วย
ท่าทีลีลาของผู้นำเขมรคนนี้ ต้องเรียกว่าทำเราเจ็บจริงๆ เพราะแทนที่จะแสดงความเห็นใจกับปัญหาของเพื่อนบ้านอย่างไทย ฮุนเซนกลับซ้ำเติม
ผิดกับคำเตือนของคนเอเชียส่วนใหญ่ ว่า "คนล้มอย่าข้าม" เพราะตอนที่กัมพูชาเจอกับวิกฤติหนักหน่วงกว่านี้ สมัยเขมรแดงฆ่าฟันคนของตัวเองเป็นล้านๆ คน (และฮุนเซนเป็นหนึ่งในกระบวนการเขมรแดงด้วยขณะนั้น) นั้น ไทยเราไม่ได้เข้าร่วมขบวนการบดขยี้กัมพูชาด้วย...
ตรงกันข้ามกลับแสดงความเห็นใจ และเมื่อคนเขมรหนีตายจาก "แดนสังหาร" อันโหด***ม ไทยก็รับผู้อพยพจากประเทศนั้นอย่างเห็นอกเห็นใจ
มาวันนี้ เพียงเพราะฮุนเซนยังขุ่นเคืองไทยในเรื่องเขาพระวิหาร ผู้นำเขมรคนนี้ก็แสดงความเห็นแก่ตัวด้วยการเสนอให้โอนความเป็นประธานอาเซียนคืนกลับไปให้สิงคโปร์ ที่เป็นเจ้าภาพคนก่อนหรือส่งต่อไปให้เวียดนาม ทันทีในฐานะที่จะหมุนเวียนเป็นเจ้าภาพประเทศต่อไป
ฮุนเซน คนนี้แหละที่อดีตนายกฯ ไทย ที่ชื่อ สมัคร สุนทรเวช เคยปกป้องสุดฤทธิ์ แม้จะลงนามในแถลงการณ์ร่วมกับกัมพูชา เรื่องให้เขาพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว ก็ยังบอกว่าจะไม่พูดหรือทำอะไรระหว่างที่ฮุนเซนหาเสียงเลือกตั้งอยู่ในขณะนั้น
เรียกว่าคุณสมัครกระโดดข้ามประเทศ ไปอุ้มฮุนเซนอย่างออกนอกหน้า แต่สิ่งที่ฮุนเซน ทำกับไทยวันนี้กลับกลายเป็นเหมือนหอกข้างแคร่ ที่คอยจะฟาดฟันไทยทุกครั้งที่มีโอกาส
เมื่อต้นสัปดาห์นี้เอง ฮุนเซน ก็ "ทำแสบ" อีกด้วยการขู่ว่าจะยื่นฟ้องศาลโลก กรณีปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ที่ไทยถือว่าอยู่ในเขตไทย และกัมพูชาอ้างสิทธิเป็นของตัวเองอีก
ไม่ต้องสงสัยว่า ฮุนเซนเป็นนักฉวยโอกาสตัวยง เห็นการเมืองไทยไม่นิ่ง ก็เสียบเข้ามาทำให้ตัวเองได้ประโยชน์ที่สุด
แน่นอนว่า เราต้องโทษตัวเองที่ทำให้สถานภาพของประเทศเราอ่อนปวกเปียก เพราะความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศเช่นนี้ และเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องฟื้นคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง
แต่ยิ่งไทยเรามีปัญหาอย่างนี้ เราก็ต้องยิ่งแสดงให้ชาวโลกเห็นว่า ประเทศไทยยังสามารถดำรงความเป็นเจ้าภาพอาเซียน และจัดการประชุมสุดยอดประจำปีได้
เพราะเราต้องยืนยัน (เหมือนที่กระทรวงการต่างประเทศเราเคยออกแถลงการณ์ตอนคุณเตช บุนนาค เป็นรัฐมนตรีกระทรวงนี้) ว่า สิ่งที่กำลังเกิดในประเทศไทยนั้น เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการประชาธิปไตย และอย่างไรเสีย คนไทยก็สามารถจะแก้ปัญหาของตัวเอง ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาหรือความพยายามอย่างไร...
และต้องยืนยันว่า ไม่มีสมาชิกอาเซียนประเทศไหนที่ไม่มีปัญหาการเมืองของตัวเอง และตราบเท่าที่ประชาชนเจ้าของประเทศมีสิทธิมีเสียงในการปกครองประเทศ สมาชิกอาเซียนอื่นๆ ก็จะต้องเคารพในกระบวนการแก้ปัญหาของเรา
เพราะไทยเราได้พิสูจน์เสมอมาว่า ทุกครั้งที่เรามีรัฐบาลที่เป็นเผด็จการ ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือน ประชาชนคนไทยก็จะลุกขึ้นมาสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของตนเอง และในทุกครั้งที่ผ่านมา ประชาชนเจ้าของประเทศจะเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดเสมอ
จึงไม่มีเหตุผลอันใดที่นายฮุนเซน ซึ่งปกครองประเทศด้วยอำนาจเกือบจะเบ็ดเสร็จ และมีข้อกล่าวหาเรื่องคอร์รัปชัน และการรวบศูนย์อำนาจและคุกคามสื่อมวลชนมาตลอดนั้น จะพูดจาทำนองปรามาสเหยียดหยาม และย่ำยีเพื่อนบ้านอย่างประเทศไทยน่าวิเคราะห์ว่าทำไมฮุนเซน ซึ่งมีความสนิทสนมกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ของไทยเหลือเกิน จึงออกมา "กัด" ไทยอยู่เป็นประจำเช่นนี้
ฝรั่งเขาบอกว่า มีเพื่อนอย่างนี้ ไม่ต้องมีศัตรูก็ได้ นายกรัฐมนตรีใหม่ ที่ชื่อ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะสามารถแสดงภูมิ ความมีวิสัยทัศน์ และความเข้มแข็งพอที่จะทำให้ฮุนเซน สงบปากสงบคำต่อไทยได้หรือไม่
คือข้อพิสูจน์อีกข้อหนึ่ง ว่า คุณสมชายมีคุณสมบัติ เป็นผู้นำคนใหม่ของไทยได้หรือไม่ (เกาะติดสถานการณ์ร้อนๆ และความเห็นหลากหลายทันท่วงทีได้ที่
www.oknation.net/blog/black ได้ตลอด 24 ชั่วโมง)
http://www.bangkokbiznews.com/2008/09/18/news_295349.phpถ้าจะให้นายกฯคนใหม่ไปทำพิธีเปิดถนนสายใหม่
สร้างด้วยเงินรัฐบาลไทย อีกสายหนึ่งให้นายฮุนเซน น่าจะได้
เพราะเคยทำมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเป็นรองนายกฯ.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่าถ้า'บัตรเติมเงิน'ได้เข้ามากระทู้นี้ จะต้องรู้สึกดีใจ ภูมิใจ
เพื่อนของ'นายใหญ่' แก้แค้น พูดจาเหยียดหยามประเทศไทย คนไทยได้อีกแล้ว.......!!!