istyle
|
|
« เมื่อ: 26-06-2006, 19:49 » |
|
ทักษิณ หน้ามืด! ไม่สนมารยาทเรียก อสส.พบก่อนชี้ขาดสำนวนยุบ ทรท.พรุ่งนี้ โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 มิถุนายน 2549 19:17 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ทักษิณ หน้ามืดไม่สนใจอะไรแล้ว เรียกอัยการสูงสุดเข้าพบที่ทำเนียบฯก่อนที่อัยการจะลงมติสำนวนข้อเสนอ กกต.ให้ยุบพรรคไทยรักไทยเพียงไม่กี่ชั่วโมง อ้างถกเร่งรัดคดีชายแดนใต้ ขณะที่ อัยการฯ ยันเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พิจารณาตามข้อเท็จจริงไม่สนใจนักการเมือง วันนี้ (26 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น.ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียก นายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุด พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ เข้าพบ โดยมีการอ้างว่าเป็นการเรียกมากำชับการดำเนินคดีใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นไปตามหลักของกฎหมาย อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า การเรียกอัยการสูงสุดเข้าพบกะทันหันครั้งนี้ มีขึ้นก่อนที่อัยการสูงสุดจะชี้ขาดสำนวนกรณีจ้างพรรคเล็กของ กกต.ที่เสนอให้ยุบพรรคไทยรักไทยในวันพรุ่งนี้(27 มิ.ย.) ว่า สมควรเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาต่อไป มีการตั้งข้อสังเกตอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เรียกอัยการสูงสุดเข้าพบอย่างกะทันหัน หลังจากที่อัยการสูงสุดมาร่วมประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่มี พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯ และ รมว.ยุติธรรม เป็นประธาน ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล ขณะที่การประชุมความมั่นคงที่มีการพิจารณาเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดภาคใต้ ได้มีการประชุมเสร็จสิ้นไปแล้วในช่วงเช้า ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ ด้าน นายพชร เปิดเผยภายหลังถูกเรียกเข้าพบ ว่า เป็นเรื่องการดำเนินการตามกฎหมาย โดยมีผบ.ตร.เข้าร่วมหารือด้วย ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้นโยบายว่าการดำเนินการต่างๆ ต้องอยู่บนหลักกฎหมาย เพราะบ้านเมืองกำลังมีปัญหา และไม่ต้องเกรงใจใครทั้งนั้นแม้กระทั่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณเอง อย่างไรก็ตาม นายพชร ย้ำว่า ในวันนี้ไม่มีการหารือเรื่องการยุบพรรคไทยรักไทยเลย ส่วนการพิจารณาการยุบพรรคไทยรักไทยนั้น ได้มอบหมายให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคำร้องให้อัยการสูงสุดพิจารณาดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 63 และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอคำร้องตามมาตรา 67 พ.ร.บ.พรรคการเมืองกรณีชี้มูลความผิดพรรคไทยรักไทยในการจ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้งที่มี นายชัยเกษม นิติสิริ รองอัยการสูงสุด เป็นประธานฯ พิจารณาสำนวนสอบสวนทั้งหมด เพื่อหารือในที่ประชุมอัยการสูงสุดวันพรุ่งนี้อีกครั้ง เมื่อถามว่า การทำงานในครั้งนี้อึดอัด และกดดันหรือไม่ นายพชร กล่าวว่า ไม่รู้สึกกดดัน เพราะยึดหลักความสามัคคี ทำในสิ่งที่ถูกต้องและคิดว่าบ้านเมืองจะไม่วุ่นวาย เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่ที่ต้องพิจารณาคดีการเมือง นายพชร กล่าวว่า คดีปกติและคดีการเมืองมันก็เหมือนกันทั้งนั้น นักการเมืองก็เป็นข้อหาหนึ่งในกระบวนการ อย่าไปมองว่าคดีนักการเมืองจะใหญ่กว่าคดีธรรมดา หากคิดแบบนี้สถาบันเราจะอยู่ไม่ได้ อย่าไปมองว่าการเมืองจะมากดดันและประชาชนจะเสียหาย ต้องมองว่าจะทำอย่างไรให้สังคมอยู่ได้ เมื่อถามว่าที่ผ่านมาประชาชนคิดว่ากฎหมายบังคับใช้กับคนจนแต่บังคับใช้กับคนที่มีอำนาจไม่ได้ นายพชร กล่าวว่า ผมใช้เหมือนกันครับ เมื่อถามว่า แต่นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายพชร กล่าวว่า จริงอยู่ที่พรรคนี้เป็นพรรคที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก่อตั้งขึ้นมา แต่ตอนนี้รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลรักษาการ หากจะมีการพิจารณาการยุบพรรคทั้งสองพรรค คือ พรรคไทยรักไทย และพรรคประชาธิปัตย์ การพิจารณาของอัยการที่ดูแลนั้นก็เหมือนกันทั้งคู่ ไม่ได้มองว่าพรรคนี้ใหญ่ พรรคนี้เล็ก พรรคนี้เก่าแก่ พรรคนี้ตั้งใหม่ ตนถือว่าหลักฐานที่มีอยู่นั้นมีเพียงใด กระบวนการจะพิจารณาจากหลักฐานใด เราต้องไม่ลืมว่าตัวแทน หรือกระบวนการพรรคนั้นๆ อยู่ที่ใด ต้องไปเปิดกฎหมายดูให้ชัดเจน อัยการสูงสุด กล่าวว่า ความเห็นส่วนตัวบางประเด็นยังมีปัญหาอยู่ แต่มันเป็นความเห็นส่วนตัว แต่กรรมการที่รับอำนาจให้สอบสวนเรื่องนี้ก็ต้องทำตามหน้าที่ ส่วนกระบวนการชี้มูลนั้น หากกรรมการเสนอว่า การสอบสวนครบถ้วนแล้ว และเหมาะสมที่จะชี้มูลก็ทำไป แต่ถ้าเห็นว่าความเห็นไม่ถูกก็จะไม่ชี้มูล และจะกลับไปถามกรรมการว่าสิ่งที่พิจารณานั้นเป็นอย่างไร ส่วนจะใช้เวลาพียงใดก่อนส่งสำนวนให้ศาลรัฐธรรมนูญนั้นยังตอบไม่ได้ หากจะทำตามใจบางอย่างนั้นมันเหมือนทำตามกระแส และไม่ได้คำนึงถึงวันเลือกตั้งในวันที่ 15 ต.ค.ผมไม่ได้สนใจตรงนั้น สมมติว่า จะยื่นหรือไม่ยื่นนั้น กระบวนการมันอีกยาวนาน เพราะต้องมีการสู้คดี หลักฐานมันอยู่ในขั้นตอนการสืบพยาน ผมคิดว่าหากมีการยืดวัน หรือตั้งคณะกรรมการร่วม กระบวนการก็ต้องใช้เวลาอีก ไม่ใช่ว่ากล่าวหาแล้วรับสารภาพ และยุบพรรคได้ทันที ขออย่างเดียว บ้านเมืองสงบสุข ทุกพรรคหันมาลงเลือกตั้งพร้อมๆ กันให้เกิดความเป็นธรรม ผมอยากให้บ้านเมืองเดินไปด้วยกัน ผมคิดว่าพรรคการเมืองเลิกทะเลาะกันจะดีที่สุด นายพชร กล่าว เมื่อถามว่า ต้องมีมติชัดเจนว่าต้องยุบพรรค หรือจะเอาผิดกับบุคคล จะระบุชัดเจนในคำวินิจฉัยหรือไม่ นายพชร กล่าวว่า พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 67 ระบุว่า กรณีที่ต้องพิจารณาว่าคดีมีหลักฐานเพียงพอส่งศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการสั่งได้ หากมองแล้วหลักฐานไม่ถึงก็อาจตั้งกรรมการสอบสวนร่วม หากความเห็นของกรรมการขัดแย้งกัน ผลสุดท้าย กกต.จะเป็นผู้ชี้ขาดว่าจะยื่นหรือไม่ ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มั่นใจว่า พรรคไทยรักไทยไม่โดนยุบ จะเกิดความอึดอัดในการทำงานหรือไม่ นายพชร กล่าวว่า ไม่อึดอัด เพราะมันเป็นความเห็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งความเห็นนี้อาจเหมือนความเห็นของตนก็ได้ เมื่อถามว่า ต้องเรียก พ.ต.ท.ทักษิณ ไปชี้แจงหรือไม่ เพราะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็ถูก กกต.เชิญไปสอบสวนแล้ว นายพชร กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับกรรมการที่พิจารณาว่าจะเชิญหรือไม่ก็ได้ เพราะพิจารณาจากหลักฐาน สมมติว่า ไม่เชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปให้ข้อมูล และมีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาควรเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ มาให้ข้อมูลหรือไม่ มันเป็นกระบวนการในชั้นศาล เมื่อถามว่า การเข้าพบนายกรัฐมนตรีในวันนี้จะเกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีหรือไม่ เพราะในวันที่ 27 มิย.อัยการสูงสุดจะหารือและพิจารณาเกี่ยวกับสำนวนการยุบพรรคไทยรักไทย นายพชร กล่าวว่า ไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว จะกลัวทำไมเพราะตนทำงานตามปกติ เมื่อถามว่า อำนาจหน้าที่อัยการสูงสุดในการดำเนินการเรื่องนี้มีมากน้อยเพียงใด นายพชร กล่าวว่า ต้องพิจารณาตามที่ กกต.ชี้มูลมา และต้องพิจารณาพยานหลักฐานว่ามีความสมบูรณ์ถูกต้องเพียงใด ให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาแค่ไหน หากพบว่าการสอบสวนไม่ครบก็สามารถส่งสำนวนกลับไป และให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนร่วมกันระหว่างอัยการสูงสุด และ กกต.เหมือนกับคดี ป.ป.ช.ซึ่งจะใช้หลักการเดียวกัน ส่วนที่มีรายงานข่าวจาก กกต.ว่า สำนวนการสอบสวนการยุบพรรคไทยรักไทยนั้นอ่อน จนไม่สามารถลงโทษหัวหน้าพรรคได้ และอาจจะลงโทษกับกรรมการบริหารพรรคบางคนที่ไปเกี่ยวข้องกับการจ้างพรรคเล็กแทน นายพชร กล่าวว่า ต้องดูหลักฐานว่าการกระทำในกรณีนี้เกี่ยวข้องกับใครหรือไม่ ตัวรายงานจริงๆ คณะกรรมการสอบสวนยังไม่ได้ส่งขึ้นมา เพราะเท่าที่รับทราบหลักฐานในเรื่องนี้นั้นมีสองด้าน อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ได้อ่านสำนวน อ่านเพียงใบปะหน้าเรื่องนี้ตามที่ กกต.ให้ความเห็นมาเท่านั้น ว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายมาตรา 66 (1) (3) ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง เมื่อถามว่า ผลการสอบสวนของอนุกรรมการสอบสวน กกต.ชุดที่มี นายนาม ยิ้มแย้ม เป็นประธานนั้นสามารถนำไปใช้พิจารณาได้เลยหรือไม่ นายพชรกล่าวว่า ตามความเห็นของตนนั้นควรที่จะตรวจสอบในบางขั้นตอนเมื่อถามว่าการประชุมในวันพรุ่งนี้จะได้ข้อสรุปเด็ดขาดเลยหรือไม่ นายพชร กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้เพราะกรรมการสอบสวนกำลังพิจารณาอยู่ ตนจะไม่ไปก้าวล่วง คนที่เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หากไปเกรงใจใคร หรือนักการเมืองบางคนนั้นคงไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะผมนั้นไม่เกรงใจนักการเมืองอยู่แล้ว เพราะนักการเมืองมาแล้วก็ไป ผมเป็นฝ่ายกฎหมายต้องยึดหลักการของตัวเองอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นจะเป็นหน่วยงานหลักของกระบวนการยุติธรรมได้อย่างไร หากพิจารณาสิ่งใดนอกเหนือสำนวน นอกเหนือเหตุผลก็จะตอบคำถามของสื่อมวลชนไม่ได้ หากเกิดปัญหาขึ้นมา ความสามัคคีไม่มี ทำเกินหน้าที่ตัวเองและหน้าที่ไม่ใช่ แล้วจะตอบคำถามใครได้ นายพชร กล่าว
.... no comment
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
reach4star
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 58
ท๊าก...สิน...ออกไป!!!
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 26-06-2006, 20:10 » |
|
ถ้ายึดเอาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นหลักชัย...งานนี้ อสส.ก็ไม่ต้องกลัวบารมีใครอีกแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
แอ่นแอ๊น
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 26-06-2006, 20:13 » |
|
เฮ้อ เหลี่ยม หนา ด้าน ไม่มีใครเกินแล้ว ยกให้แกไปเหอะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
|
|
|
นทร์
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 26-06-2006, 20:15 » |
|
ขออย่างเดียวให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข และทุกพรรคหันมาลงสมัครรับเลือกตั้งพร้อม ๆ กัน เกิดความเป็นธรรม อย่าให้เหมือนกับคราวที่แล้วที่ศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า กระบวนการเลือกตั้งไม่ชอบ ผมอยากให้บ้านเมืองเดินไปด้วยกัน อยากให้ทุกพรรคการเมืองเลิกทะเลาะกันดีที่สุด อัยการสูงสุด กล่าว
ยังไงมอง อัยการสูงสุด ในแง่ดีไว้ก่อน ส่วนจะต้านวิธีการกดดันทางอ้อมของเหลี่ยมได้หรือไม่ คอยดูอีกที
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
|
|
|
จูล่ง_j
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 26-06-2006, 20:16 » |
|
ในเมื่อมั่นใจว่า ยังไงก็ไม่ถูกยุบ จะมาเต้นทำไมหว่า ไอ้คุณเหลี่ยมนิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
istyle
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 26-06-2006, 21:11 » |
|
ผมประเมินแล้ว คิดว่า ไม่ถูกยุบครับ
ส่วนเหตุผล ไว้ค่อยดูกันว่าทำไม
แอบสังหรณ์อยู่....ลุ้นกว่าบอลโลกอีกเนี่ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
TheBluECaT
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 26-06-2006, 21:19 » |
|
ถ้ายุบเมื่อไหร่ก็ Game Over เมื่อนั้นครับ... ผมสังเห่าใจว่า มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ยามบุญมากาไก่กลายเป็นหงส์ ยามบุญหลงหงส์เป็นกาน่าฉงน... ยามบุญมาหมูหมากลายเป็นคน ยามบุญหล่นคนเป็นหมาน่าอัศจรรย์"
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 26-06-2006, 21:53 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
HILTON (ปาล์มาลี)
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 27-06-2006, 00:01 » |
|
ไอ้คนไม่มีมารยาท โบราณเขาเรียกพวกกุ๊ย หรือคนเถื่อนพวกมาจากหลังเขา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
โลกสวยงาม
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 27-06-2006, 07:49 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-06-2006, 07:53 โดย โลกสวยงาม »
|
บันทึกการเข้า
|
รักและห่วงแผ่นดินไทย คนไทยทุกคนต้องตอบแทนคุณและสามัคคี
|
|
|
นู๋เจ๋ง
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 27-06-2006, 08:19 » |
|
ดูเหมือน [] มั่นใจ ว่าไม่โดนยุบ ตั้งแต่ หลายวันก่อน โดยโบ้ยว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล
การเรียกแบบนั้น เรียกว่า ไร้มรรยาท และ ทำน่าเกลียดมาก
อสส อย่าทำให้ประชาชนผิดหวังในครั้งนี้นะคะ ไม่งั้น สงครามกลางเมืองแน่ๆ
เฮ้อ!!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
|
|
|
ไม่อยากสมานฉันท์กับคนชั่ว
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 27-06-2006, 10:12 » |
|
ถ้าทักษิณอยากคุยกับ อสส แบบซุบซิบนั้น ทำไม่ได้เลย เพราะจังหวะเวลานี้ นักข่าวต้องตามติด target อยู่แล้ว ถึงอยากทำก็ทำไม่ได้ ไม่มีจังหวะ
ผิดกับการประชุมเรื่องงานที่ทำเนียบ พอเรียกเข้ามาพบ ถึงแม้คนเห็น ก็อ้างเรื่องงานได้
ถ้าคุยเรื่องงานจริง ให้ อสส คุยเรื่องงานกับ ผู้รับผิดชอบด้านความมั่นคงเช่น บิ๊ก ตร. บิ๊กทหาร ก็ได้ แต่นี่ กลับทำพฤติกรรมไม่อายฟ้าดินแบบนี้ ทำจนเป็น..... เห็นตั้งแต่ปฎิญญานครสวรรค์แล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ziggy
น้องใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 13
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 27-06-2006, 10:30 » |
|
มารยาทหรือสมบัติผู้ดีไม่เคยมีอยู่แล้วสำหรับบุคคลนี้ จะเอาอย่างเดียวโดยไม่สนอะไรทั้งสิ้น ใครจะทำไม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
atumyata
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 27-06-2006, 12:48 » |
|
ถามหามารยาทกับเศรษฐีบ้านนอกแถมขี้เหนียว มันก็ยากพอๆ กับเป่าปี่ใส่หูควายนั่นแหละ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ตลก
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 27-06-2006, 16:41 » |
|
มารยาทไม่มีแต่แรกแล้วล่ะครับ ไม่งั้นไม่ลามปามไปถึง UN หรอก
ไม่รู้ว่าสำเหนียกตัวเองว่าเป็นอะไร
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-06-2006, 18:31 โดย ตลก »
|
บันทึกการเข้า
|
ผ่านฟ้าแล้วเลยไปนรกเลยรึเปล่าครับ......... กิ๊กบนเรือ บนเครื่องบิน กิ๊กบนรถ ทุกอาชีพกิ๊กกันหมดอนาคตจะเป็นไง?
|
|
|
istyle
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 27-06-2006, 18:29 » |
|
สำนวนปชป.1500หน้า อ่านกันยังไงวันเดียว ??????
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Limmy
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 27-06-2006, 19:24 » |
|
ประธานอนุกรรมการ ฯ เพิ่งบอกไปเองนี่ครับว่ายังทำสำนวนไม่เสร็จ...ทำไมหนาอุ๊บอิ๊บไปส่งอัยการก่อนนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
55555
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 27-06-2006, 20:23 » |
|
สำนวนปชป.1500หน้า อ่านกันยังไงวันเดียว ??????
นั่นดิ.....ถึงตอนนี้ก็ต้องยอมรับ ว่าโอกาสไม่ยุบทั้งสองพรรคมีสูงมาก.......เพราะพี่แก่เล่นเสนอ ศาลรัฐธรรมนูญแบบเหมาเข่ง.......เอาไปพิจารณารวมกับของไทยรักไทย.....เหลือเชื่อ มั้ก..มาก...อ่านวันเดียว 1500 หน้า เอาปริ๊นเตอร์พิมพ์ ยังไม่รู้ต้องใช้กี่ชั่วโมง.........นายแน่ว่ะ...ท๊า........กสิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
achiteer
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 27-06-2006, 21:39 » |
|
ไม่ใช่หน้ามืด! อย่างเดียวหรอกคะ... หน้าด้านมากๆด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|