ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
27-04-2024, 12:14
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เลือกตั้งผู้ว่า กทม. เที่ยวนี้..ขอเชิญชาวเสรีไทย..มาโหวด..กันว่า................ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เลือกตั้งผู้ว่า กทม. เที่ยวนี้..ขอเชิญชาวเสรีไทย..มาโหวด..กันว่า................  (อ่าน 1985 ครั้ง)
\(^_^)/
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 617



« เมื่อ: 16-09-2008, 20:28 »

  ใคร..? จะรั้ง "ตำแหน่ง.. "บ๊วย"
  ขอเชิญ..โหวด" แสดงความคิดเห็น" ครับ"

 





ผู้สมัคร หมายเลข 1 กิตติศักดิ์ ถิรวิศิษฎ์


เกิดเมื่อปี 2492 สำเร็จการศึกษามหาเปรียญวัดเบญจมบพิตร และมหาบัณฑิตรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันราชภัฏสวนสุนันทา รวมทั้งกำลังศึกษาปริญญาเอกวิทยาลัยสื่อสารการเมือง สำหรับเส้นทางการเมืองเคยลงสมัคร ส.ส. ส.ว. ในสังกัดอิสระ และลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ดมื่อปี2547 แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง

ในปี2551 นายกิตติศักดิ์ ได้ลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯอีกครั้ง โดยสามารถจับฉลากได้เบอร์1 และประกาศนโยบายในการแก้ปัญหาด้านต่างๆของกรุงเทพฯภายใต้สโลแกนว่า ผู้ว่าฯอัศวิน และเน้นแก้ปัญหาการจราจร เศรษฐกิจ รวมทั้งปัญหาผู้คนในสังคม   


ผู้สมัคร หมายเลข 2 ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศักดิ์


ดร. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ สำเร็จการศึกษา ปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยมอแนช ประเทศออสเตรเลีย โดยทุนรัฐบาล และปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นศึกษาต่อ ปริญญาเอก สาขาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยมอแนช ประเทศออสเตรเลีย

ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนักวิชาการอาวุโส ศูนย์ศึกษาธุรกิจและรัฐบาล มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา และนักวิชาการอาคันตุกะ มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ดประเทศอังกฤษ รวมทั้งเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนเป็นประธานกรรมการกลุ่มบริษัทซัคเซสและบริษัทต่าง ๆ รวมกว่า 20 บริษัท

ดร. เกรียงศักดิ์ เข้าสู่ถนนการเมืองครั้งแรกในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพ.ศ. 2548 โดยเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 25 พรรคประชาธิปัตย์ และได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตยืเมื่อเดือน ตุลาคม พ.ศ.2550 โดยให้เหตุผลว่าไม่ได่รับความเป็นธรรมในการจัดส่งเลือกตั้ง และปี 2551 ได้ลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ 
โดยชูนโยบาย สร้างกรุงเทพฯด้วยปัญญา


ผู้สมัครหมายเลข 3 ร.อ.เมตตา เต็มชำนาญ


ร.อ.เมตตา เต็มชำนาญ  เกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ.2491 สำเร็จการการศึกษาจากโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย และเข้ารับราชการเป็นนายทหารสังกัดสำนักงานเลขานุการกองทัพบก โดยเคยเป็นพลขับให้ พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของค่ายมวย ม.เต็มชำนาญ รวมทั้งเคยเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนต์ เรื่อง ไอ้ขุนเพลง ในปี2522 และเคยดำรงตำแหน่งนายกสมาคมศิษย์เก่าสามเสนวิทยาลัย เมื่อปี 2529-2535

ทั้งนี้ ร.อ.เมตตา เคยลงส.ส.ในนามพรรคประชาราช แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง รวมทั้งเคยสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯในปี 2547 ก็ไม่ได้รับเลือกเช่นกัน และในปี 2551 ลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ อีกครั้ง ในสังกัดกลุ่มเมตตาธรรม 
โดยชูนโยบายเน้นการสร้างความ กินดี อยู่ดี มีความสุข โดยนโยบายเร่งด่วนจะเน้นการปราบปรามยา 

ผู้สมัครหมายเลข 4 นายวราวุธ ฐานังกรณ์


นายวราวุธ ฐานังกรณ์ เกิดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2501 สำเร็จการศึกษา ปริญญาตรี เภสัชศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังจบการศึกษาเอาดีด้านอินเทอร์เน็ต เป็นเจ้าของธุรกิจเว็บโฮสติ้ง ที่ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ชอบงานเผยแพร่อินเทอร์เน็ตให้มวลชน โดยใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อต่อต้านเผด็จการทั้งในโลกไซเบอร์และที่เวทีสนามหลวง ซึ่งเป็นผู้ส่งเสริมการใช้รหัสประชาธิปไตย หรือดีโค้ด มาใช้ต่อสู้ทางอินเทอร์เน็ต

ทั้งนี้นายวราวุธ เป็นแกนนำกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ โดยใช้ชื่อว่า สุชาติ นาคบางไทร  เคยบุกเข้าไปยื่นหนังสือให้ประธานองคมนตรีถึงในบ้านสี่เสาเทเวศร์ เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2550 เคยเรียกร้องหน้ากองทัพบกให้ปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวฝ่ายประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2550 และนำประชาชนชุมนุมท้องสนามหลวง 7 วัน 7 คืน เพื่อต่อต้านการปฏิวัติ เมื่อ19 ก.ย.2549  ที่สำคัญเคยถูกกล่าวหาและแจ้งความในข้อหาคุกคามสื่อหลังใช้กล้องถ่ายรูปนักข่าวที่ห้องแถลงข่าวรัฐสภา เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2551

นายวราวุธลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ 
ชูนโยบายกรุงเทพเมืองมหัศจรรย์ โดยเน้นนโยบายด้านการเมือง ไม่ว่าจะเป็นจัดทำแนวป้องกันรถถังบนพื้นผิวถนน เพื่อป้องกันการปฏิวัติ จัดเวทีการเมืองสาธารณะให้ประชาชนพูดคุยการเมือง จัดให้มีวิทยุชุมชนของ กทม.เพื่อแสดงความเห็นทางการเมือง จัดตั้งศูนย์ป้องกันการปฏิบัติโดยประชาชน และให้มีการซ้อมต้านปฏิวัติเป็นประจำปีละครั้ง เพื่อให้กทม. เป็นเมืองปลอดการปฏิวัติรัฐประหาร จัดตั้งสภาทนาย กทม.เพื่อประชาธิปไตย (โห? เยอะโคตร)

ผู้สมัครหมายเลข 5 นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน


นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เกิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2504 จบการศึกษา ปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปริญญาโท พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิตทางบริหารธุรกิจ (การบริหารการตลาด) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และ ประกาศนียบัตรชั้นสูงทางการบริหาร มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดประเทศสหรัฐอเมริกา

นายอภิรักษ์ เคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประจำประเทศไทย บริษัท เป๊ปซี่ - โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟริโต-เลย์ ประเทศไทย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กรรมการบริษัท ยูไนเต็ด บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น กรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประธานกลุ่มการตลาดและบริหารงานสื่อ กลุ่มบริษัทในเครือเทเลคอมเอเชีย และกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม บริษัท ทีเอ ออเร้นจ์ จำกัด

เข้าสู่เส้นทางการเมืองด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯในนาม พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี พ.ศ. 2547 และได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนน 911,441 เสียง ทั้งนายอภิรักษ์ได้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ จนครบวาระในปี 2551 และลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 
ชูนโยบาย 5 ด้าน คือ การแก้ปัญหาจราจร ด้านการศึกษา ด้านคุณภาพชีวิต ด้านเศรษฐกิจ และบริหารจัดการน้ำ

ผู้สมัครหมายเลข 6 นายสุเมธ ตันธนาศิริกุล


นายสุเมธ ตันธนาศิริกุล เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2502 จบการศึกษา ศูนย์บริหารการศึกษานอกโรงเรียนเขตราษฎร์บูรณะ ปัจจุบันประกอบอาชีพนักธุรกิจ นายสุเมธเคยเป็นประธานเครือข่ายประชาชนคัดค้านทางด่วน พิเศษคลองเตย-สุวรรณภูมิ ก่อนจะมาลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯในปี 2551

ทั้งนี้ในวันรับสมัครผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ นายสุเมธ ได้เดินทางมาสมัครพร้อมสวมหมวกเปาบุ้นจิ้น เพื่อสื่อสัญลักษณ์แห่งความยุติธรรม โดยชูนโยบายเรื่องปากท้องชาวกรุงเทพฯ
ภายใต้สโลแกน "ความคิดของท่าน คือ นโยบายสำคัญของเรา จะมีการตั้งสภาประชาคมเมืองขึ้นมา เปิดให้ผู้นำชุมชนต่างๆ เข้ามาเป็นสมาชิก สร้างเครือข่ายกระจายอำนาจให้ชุมชน และให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเมือง"   


ผู้สมัครหมายเลข 7 นางลีนา จังจรรจา


นางลีนา จังจรรจา  หรือ ลีนา จังเกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2502 จบการศึกษาปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันประกอบธุรกิจด้านเครื่องสำอาง โดยดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการศูนย์ขายส่งเครื่องสำอาง ร้านไฮโซ ไซตี้ ประตูน้ำเซ็นเตอร์

ปี 2547 ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯหมายเลข 6 แต่ถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งมีมติถอดถอนจากการลงเลือกตั้ง เนื่องจากมีการร้องเพลงเต้นรำบนพื้นที่ด้านหลังรถกระบะที่ใช้หาเสียง ซึ่งผิดตามพ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกท้องถิ่น หรือ ผู้บริหารท้องถิ่น มาตรา 57 (3) ว่าด้วยการจัดงานมหรสพ หรือ งานรื่นเริง

ปี 2549 ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในพื้นที่ กรุงเทพฯ แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง และปี 2551 ได้ลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯอีกครั้ง โดยได้รับหมายเลข 7 
ชูนโยบาย 23 ข้อ เน้นให้คนกรุงเทพฯ ให้โอกาสผู้หญิงเป็นผู้ว่าฯและประกาศที่จะเป็นผู้ว่าฯสีขาว
 


ผู้สมัครหมายเลข 8 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์


นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ เกิดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2504 สำเร็จการศึกษา ปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ปริญญาโท มหาวิทยาลัยซานดิเอโก ประเทศสหรัฐอเมริกา  หลังจบการศึกษาได้ประกอบธุรกิจในนามเครือเดวิสกรุ๊ป และก่อตั้งมูลนิธิต้นตระกูลกมลวิศิษฏ์

นายชูวิทย์เข้าสู่วงการการเมืองด้วยการลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯเมื่อปี 2547 ในนามพรรคต้นตระกูลไทยที่ตนเองก่อตั้งขึ้น แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง และได้นำพรรคต้นตระกูลไทยเข้าร่วมกับพรรคชาติไทยโดยได้รับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคชาติไทย
ทั้งนี้ในปี 2548 นายชูวิทย์ ลงสมัครเลือกตั้งทั่วไป เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ สังกัด พรรคชาติไทย แต่ภายหลังถูก ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า เป็นสมาชิกพรรคไม่ตรบ 90 วัน จึงพ้นจากความเป็นส.ส. ต่อมาในปี 2549 นายชูวิทย์ได้ลาออกจากพรรคชาติไทย เพื่อลงสมัคร ส.ว.กรุงเทพฯ แต่ถูก คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพิกถอนสิทธิการลงสมัคร เนื่องจากยังไม่พ้นสถานะภาพ ส.ส. ครบกำหนด 1 ปีก่อนที่จะลงสมัครส.ว.

นายชูวิทย์ ลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯอีกครั้ง ในปี 2551 
ชูนโยบาย "ริเริ่ม เร่งด่วน ติดตาม" โดยงานริเริ่ม จะทำให้ กทม.เป็นเมืองท่องเที่ยว ด้านเศรษฐกิจจะให้แม่ค้าขายของทั้ง 7 วัน และเทศกิจต้องไปช่วยงานตำรวจตรวจตราความปลอดภัยแทนการจับแม่ค้า งานเร่งด่วน จะสานต่องานที่ดีมีประโยชน์ 


  ผู้สมัครหมายเลข 9 นายวิทยา จังกอบพัฒนา


นายวิทยา จังกอบพัฒนา เกิดเมื่อ 25 ตุลาคม พ.ศ.2490 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยเป็นอดีตพนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ในปี 2547 นายวิทยาได้ลงสมัครด้วยในสังกัดอิสระ โดยได้รับคะแนน 811 คะแนน

ในปี 2551 นายวิทยา ลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯอีกครั้ง ในสังกัดอิสระเช่นเดิม  โดยกล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจลงสมัครว่าเป็นเพราะทนไม่ได้กับการแก้ปัญหาจราจรที่ผ่านมา พร้อมกับระบุว่า
หากได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม.จะแก้ปัญหารถติดภายใน 7 วัน(ไอ๋หย๋า?)

  ผู้สมัครหมายเลข 10 นายประภัสร์ จงสงวน


นายประภัสร์ จงสงวน เกิดเมื่อ 18 พฤษภาคม 2498 สำเร็จการศึกษา ปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโท สาขาอาชญาวิทยา สถาบัน California State University at Fresno สหรัฐอเมริกา และ หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน (ปรอ.) รุ่นที่ 9 ประจำปีการศึกษา 2539-2540 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร

นายประภัสร์ เริ่มต้นการทำงานที่สำนักงานกฎหมาย ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน ตั้งแต่ปี 2525 และได้เข้าทำงานที่ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยในปี 2528 เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองนิติการ ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย และสำนักผู้ว่าการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย  ล่าสุดดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ก่อนจะลาออกมาลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯในสังกัดพรรคพลังประชาชน
ทั้งนี้นายประภัสร์ได้
ประกาศนโยบายว่า จะเน้นแก้ปัญหาน้ำเน่าเสีย สร้างโรงเผาขยะแทนการฝังกลบ เพื่อนำพลังงานที่ได้มาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า เรวมทั้งศึกษาปัญหาน้ำท่วมเมืองที่เกิดจากภาวะโลกร้อนอย่างละเอียด แล้วนำมาเตรียมการป้องกันให้เป็นรูปธรรมก่อนเกิดปัญหา 

  ผู้สมัครหมายเลข 11 นายภพศักดิ์ ปานสีทอง


นายภพศักดิ์ ปานสีทอง เกิดเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2506 สำเร็จการศึกษาปริญญาโทบริหารธุรกิจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในปี 2547 ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไวส์ คอนซัลแทนท์ โดยนายภพศักดิ์ ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯเป็นครั้งแรกในนามอิสระ

ทั้งนี้นายภพศักดิ์ได้ให้เหตุผลในการลงสมัครรับเลือกตั้งว่า ในฐานะที่เป็นนักธุรกิจเห็นว่าภาคธุรกิจของ กทม.ย่ำแย่มาหลายปี จึงน่าจะมีการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง 
  โดยประกาศนโยบายหาเสียงคือ "5 เพิ่ม 5 ลด 5 ปกป้อง 5 เพิ่มพูน และส่งเสริม โดยเฉพาะเพิ่มรายได้ให้คน กทม."

  ผู้สมัครหมายเลข 12 นางธรณี ฤทธิธรรมรงค์   


นางธรณี ฤทธีธรรมรงค์ เกิดเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2488 สำเร็จการศึกษาปริญญาโทบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยบอสตัน สหรัฐอเมริกาในปี 2516 ทั้งนี้นางธรณีเป็นภริยาอดีตเอกอัครราชทูตไทยกระทรวงต่างประเทศ และลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯในสังกัดอิสระ

ทั้งนี้ นางธรณี ระบุเหตุผลที่มาลงสมัครรับเลือกตั้งว่า
เบื้องบนได้นิมิตรมาให้ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ และได้ประกาศว่าจะไม่มีการลงพื้นที่หาเสียง เนื่องจากเชื่อว่าหากเบื้องบนต้องการให้ชนะก็จะได้รับชัยชนะ โดยมีนโยบายการดำเนินงานหากได้รับเลือกตั้งคือ "การเมืองแนวใหม่ หมั่นร่วมตรวจสอบ ผู้ลอบทุจริต คนโกงคนผิด การติดสินบน" 


  ผู้สมัครหมายเลข 13  นายอุดม วิบูลเทพาชาติ


นายอุดม วิบูลเทพาชาติ เกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2498 สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในปี 2522 โดยนายอุดมได้เคยลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯมาแล้ว 2 สมัยในสังกัดอิสระ แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง

สำหรับการลงสมัครเลือกตั้งครั้งนี้ นายอุดมยังคงลงสมัครในสังกัดอิสระ โดยระบุว่าไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง เพียงแต่ต้องการเสนอตัวเป็นทางเลือกให้กับประชาชน และต้องการให้ผู้ที่จะมาเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ 
ชูนโยบายที่ตนคิดเอาไว้ คือ "เพิ่มคุณค่า ลดปัญหา และอุปสรรค ให้ความสนใจด้านเศรษฐกิจ" ไปใช้ในการบริหารกรุงเทพฯ

  ผู้สมัครหมายเลข 14 น.ส.วชิราภรณ์ อายุยืน


น.ส.วชิราภรณ์ อายุยืน สำเร็จการศึกษา ปริญญาตรี-โทจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และ ปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ปัจจุบันทำงานในภาคเอกชน เคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการ บริหารอาคารชุดและอสังหาริมทรัพย์ในเครือ 12 สาขา รวมทั้งผู้จัดการฝ่ายต่างประเทศ บริษัทแอตแลนต้าอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

ทั้งนี้น.ส.วชิราภรณ์ เคยลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สังกัดพรรคประชาราษฎร์ เขต 3 ดินแดง ห้วยขวาง วังทองหลาง ลาดพร้าว จากนั้นจึงถอนตัวมาตั้งพรรคการเมืองของตัวเองในนามพรรคสาธารณชน โดยระบุถึงสาเหตุที่มารงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯว่า ประเทศกำลังอยู่ในความวุ่นวาย จึงต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนากรุงเทพฯ 
และได้เสนอนโยบายหาเสียงว่า "ขอโอกาสให้ผู้หญิงได้เป็นผู้ว่าฯกทม.เปลี่ยนสนามรบให้เป็นสนามรัก"

  ผู้สมัครหมายเลข 15 นายสมชาย ไพบูลย์


นายสมชาย ไพบูลย์ เกิดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2512 สำเร็จการศึกษา ม.6 โรงเรียนวัดอินทรวิหารในปี 2531 เคยเป็นอดีต สมาชิกสภาเขต บางบอน พรรคไทยรักไทย โดยระบุถึงสาเหตุในการลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯครั้งนี้ว่า ไม่ต้องการให้มีแต่ผู้สมัครหน้าเดิมให้ประชาชนเลือก รวมทั้งยืนยันว่าการลงสมัครครั้งนี้ไม่ได้สังกัดพรรคใด และใช้ทุนส่วนตัวในการหาเสียงทั้งหมด

นายสมชายได้ใช้สโลแกนในการหาเสียงคือ 
  "พัฒนาเมืองให้มีความทันสมัยก้าวหน้ามากขึ้น" โดยเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนระดับรากหญ้าในชุมชนต่างๆให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

  ผู้สมัครหมายเลข 16 ว่าที่ พ.ต. นิพนธ์ ซิ้มประยูร 


ว่าที่ พ.ต.นิพนธ์ ซิ้มประยูร เกิดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2506 สำเร็จการศึกษาปริญญาโท สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหงในปี 2528 ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นนักกฎหมาย ทั้งนี้ว่าที่ พ.ต.นิพนธ์ เคยเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ว. ขอนแก่น และอดีตผู้สมัคร ส.ส. สังกัด พรรคมัชฌิมาธิปไตย

สำหรับการลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯครั้งนี้ ว่าที่พ.ต.นิพนธ์ ลงสมัครในนามอิสระไม่สังกัดพรรคใด โดยประกาศนโยบายหาเสียงว่า
“จะใช้เวทีนี้เพื่อดูแลปากท้องให้กับคนกรุงเทพฯเป็นหลัก ตามสโลแกน รู้ทุกข์ประชา ร่วมพัฒนาคุณภาพกทม.” 

บันทึกการเข้า

 
iyen
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 158



« ตอบ #1 เมื่อ: 16-09-2008, 20:34 »

   ๔ มั๊ง 
บันทึกการเข้า

คนพาล เวลาทำชั่ว หาสำนึกถึงผลของมันไม่
\(^_^)/
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 617



« ตอบ #2 เมื่อ: 16-09-2008, 20:54 »

  ๔ มั๊ง 





นปช.ดุ! แถลงเดือดทะเลาะสื่อ โดนจี้ถามใช้ความรุนแรงปะทะพันธมิตรฯ "สุชาติ" ของขึ้นกราดใส่ก่อนหยิบกล้องถ่ายรูปนักข่าวเรียงตัว อ้างเอาไปศึกษาว่าเป็นใครบ้าง "จรัล" ลั่นเลิกโว๊ย ส.ส.ร้อยเอ็ด บอกอยู่ต่อเดี๋ยวมีชก "เหวง" ไกล่เกลี่ยใช้คำ "ขอกันกิน"

โอ้โฮแฮะ..ดุจิงโว๊ยย.."น้าชาติ"
น่าไปสมัครเป็น dog เฝ้่าบ้านดีกว่าไหมครับ.


 
บันทึกการเข้า

 
the longest day
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 33


« ตอบ #3 เมื่อ: 16-09-2008, 21:03 »

บัตรลงคะแนนน่าจะทำแบบมีช่องให้ลงคะแนนติดลบได้ด้วยนะ จะได้ลงให้กับคนบางคน   
บันทึกการเข้า
Augustine
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 219



« ตอบ #4 เมื่อ: 16-09-2008, 21:14 »

นโยบายเบอร์ 4 ทีแรกผมนึกว่า joke

พอมาตอนนี้ ต้องยอมมัน 
บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย...   ...ที่ไหนเค้าทำกันแบบนี้

Sweet Chin Music
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,613



« ตอบ #5 เมื่อ: 16-09-2008, 21:15 »

เบอร์ 4
บันทึกการเข้า


You'll Never Walk Alone
เข้าไปกันได้ค๊าป- - - >http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sweetchinmusic&group=1
iyen
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 158



« ตอบ #6 เมื่อ: 16-09-2008, 21:16 »

โอ้โฮแฮะ..ดุจิงโว๊ยย.."น้าชาติ"
น่าไปสมัครเป็น dog เฝ้่าบ้านดีกว่าไหมครับ.


 
[/quote]

อูยยย ใจดีจังให้เครดิตมากไปป่าวอ่ะ  
บันทึกการเข้า

คนพาล เวลาทำชั่ว หาสำนึกถึงผลของมันไม่
Augustine
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 219



« ตอบ #7 เมื่อ: 16-09-2008, 21:29 »

นโยบายเบอร์ 4 ทีแรกผมนึกว่า joke

พอมาตอนนี้ ต้องยอมมัน  
บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย...   ...ที่ไหนเค้าทำกันแบบนี้

\(^_^)/
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 617



« ตอบ #8 เมื่อ: 16-09-2008, 21:36 »

น้าชาติแก..เป็น "โรค คมช ลิชซึ่มขึ้นสมอง" ง่ะ..
ตอนกลางคืนหากได้ยินเสียงรถ 10 ล้อวิ่งผ่านบ้านแก..เป็นนึกว่า "รถถัง"..ร่ำไป..
ต้องรีบลุกจากเตียงมาปลุกสาวกไซเบอร์..จน "ตื่นตูม" ไปทั้งเวปบอร์ด..เป็นประจำ 


 
บันทึกการเข้า

 
พลังเงียบ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42


« ตอบ #9 เมื่อ: 17-09-2008, 17:09 »

NO....12
เพราะ สวรรค์เค้ากำหนด มา....555

 
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #10 เมื่อ: 17-09-2008, 17:23 »

เบอร์สี่น่าบ๊วยเพราะคะแนนเสียงไปเทให้เบอร์สิบ
บันทึกการเข้า
BrettAnderson
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 180



« ตอบ #11 เมื่อ: 17-09-2008, 17:28 »

น่าจะเบอ 12
บันทึกการเข้า

see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #12 เมื่อ: 17-09-2008, 20:51 »

*  เลือกไม่ถูก ...............

    เบอร์ 4 ก็เพี้ยนจัด คิดได้ไง   >> ทำแนวป้องกันรถถัง + ซ้อมต้านปฏิวัติ

    เบอร์ 12 ก็เพี้ยนพอกัน มาสมัครผู้ว่าเพราะ   >>  เบื้องบนได้นิมิตรมาให้ลงสมัคร
    โหวตให้เป็นอันดับบ๊วยทั้งสองเบอร์เลยละกัน   
บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
หน้า: [1]
    กระโดดไป: