ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
27-04-2024, 01:21
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  คุณคิดว่าระบอบทักษิณจะอยู่คู่สังคมไทยอีกกี่ร้อยกี่พันปี?!? 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] 2
คุณคิดว่าระบอบทักษิณจะอยู่คู่สังคมไทยอีกกี่ร้อยกี่พันปี?!?  (อ่าน 3594 ครั้ง)
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« เมื่อ: 16-09-2008, 15:24 »

บางที่ก็น่าน้อยใจเหลือเกินแทนพันธมิตรที่อุตส่าห์นอนดมขี้ดมเยี่ยวจนป่วยกระเซาะกระแซะนับร้อยๆรายเพียงหวังลมๆแล้งๆว่าสงครามครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย แต่อนิจจา!! ระบอบทักษิณก็กำชัยต่อหน้าต่อตาทุกครั้งไปซิน่า คิดแล้วท้อกันบ้างไหมพี่น้องพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ!?!
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #1 เมื่อ: 16-09-2008, 15:26 »

ทำไมฟ้าดินไม่เห็นใจพวกเราชาวพันธมิตรบ้างเลยน๊า...ไม่ช่วยแล้วยังให้ลูกเห็บตกใส่หัวกบาลอีกแน๊ะ
บันทึกการเข้า
น้ำตาลแว่น
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3


« ตอบ #2 เมื่อ: 16-09-2008, 15:31 »

เหรอ
บันทึกการเข้า
sanskritshower
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 245



« ตอบ #3 เมื่อ: 16-09-2008, 15:37 »

ตอนแรกก็ไม่แน่ใจ  แต่มาเจอกระทู้นี้ของ  TLE

ทำให้เชื่อแล้วว่าเป็นเอามากจริงๆ
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #4 เมื่อ: 16-09-2008, 15:41 »

ตอนแรกก็ไม่แน่ใจ  แต่มาเจอกระทู้นี้ของ  TLE

ทำให้เชื่อแล้วว่าเป็นเอามากจริงๆ


"จาก ...อำมาตย์......ถึง คมช......คลอดกากเดนที่เหลือ  

โดย คุณ รงคกร


จากอำมาตย์...
ลูกคนที่หนึ่ง....ปชป...เพื่ออ้างระบบ ประชาธิปไตย
ลูกคนที่สอง....ทหารเผด็จการ ...เมื่อลูกคนแรกแพ้เสียงในสภา
ลูกคนที่สาม....ตุลาการ...เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ลูกคนที่สอง

จากปี 2544 ...ทรท สร้างฐานเสียงจน ปชป. ลูกคนที่หนึ่งแพ้หมดรูป ..แต่ลูกคนที่สอง ไม่ออกมา เพราะ ประเทศเสียหายมาก(ปรส.เสียหาย 600,000ล้าน)....

ปี 2547 กลุ่มอำมาตย์รู้ว่า ปล่อย ทรท.ไว้ไม่ได้ ..ต้องปล่อยกระบอกเสียง(พันธมิตร)ออกมาใส่ร้าย นายกฯทักษิณ(ทำลายหัว ทรท.)เพราะรู้ว่า เลือกตั้ง ปชป.ก็แพ้ ทรท. และก็เป็นเกินคาดจนตกใจ ทรท.ได้ 377 จาก 500 สส. และต้องสร้างกระแสใส่ร้าย นายกฯทักษิณ จาก ASTV และสถานี 92.25 สร้างเรื่องโกหก หลอกคน จนคนเชื่อว่าจริง(ใช้เงินจำนวนมากจาก TPI) พากันมาขับไล่จน .....

ลูกคนที่สองออกมา ในชื่อ ...คมช.. สร้าง 4 ข้อหา ใส่นายกฯทักษิณ ..จากนั้น ลูกคนที่สอง ก็สร้างบันได 4 ขั้น ทำลาย ทรท. ..เพื่อให้ ปชป. มาเป็นรัฐบาล

1. ทำลายพรรค ทักษิณแบบขุดรากถอนโคน
2. สร้างขบวนการทำลายโดยสร้าง รฐน. 2550 ทำลายพรรคการเมืองตรงข้าม
3. สร้าง องค์กร ต่างๆ ไว้ป้องกัน เช่น ตั้ง กกต. ปปช. ตุลาการรัฐธรรมนูญ และ สว.ครึ่งสภา ไว้ป้องกันระบบ อำมาตย์
4. สร้างกระบอกเสียง ไทยทีวี ASTV และ พันธมิตร (กลุ่ม คณบดี นักวิชาการ )ไว้ทำลายฝ่ายตรงข้าม

กากเดนที่ คมช. คลอดไว้ ทำลาย ฝ่ายตรงข้าม

1. รัฐธรรมนูญ 2550 ม. 237 ม. 309 "ก่อนรับบอกแก้ได้ รับแล้วห้ามแก้"

2. กกต.ไว้ยุบพรรคตรงข้าม "ไม่โปรดเกล้าก็ด้านอยู่"

3. ปปช.ไว้จัดการข้าราชการที่คิดนอกใจอำมาตย์ "ไม่โปรดเกล้าฯ ก็ด้านอยู่"

4. ตุลาการรัฐธรรมนูญ ไว้ตัดสินให้ฝ่ายตรงข้ามเสียหาย เพิ่ม "อาจจะ" หน้าตาเฉย

5. สว.75 สรรหา ไว้ยื่นกระทู้ ซักฟอกรัฐบาล และควบคุมกฏหมายที่รัฐบาลจะออก

6. สถานี ไทยทีวี เพื่อเป็นกระบอกเสียงต่อต้านรัฐบาล "เอาฝ่ายตรงข้ามมาออก TV"

7. กลุ่มพันธมิตร นักวิชาการ คณบดี และ WAR ROOM ไว้สร้างกระแสเปลี่ยนเท็จเป็นจริง

นี้คือสาเหตุที่พวกอำมาตย์ ไม่ยอมให้แก้ รฐน. 2550 ระบบนี้จะครองประเทศอีกนาน

ท่านทั้งหลาย หากยังตาไม่สว่าง รากหญ้าจะตาย อำมาตย์จะยึดอำนาจไว้หมด เปลี่ยนรากหญ้าให้เป็นไพร่เหมือนอดีต"
บันทึกการเข้า
ผู้ใหญ่อี๊ด
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 167



« ตอบ #5 เมื่อ: 16-09-2008, 15:43 »

ฟ้าส่งสาส์นมาบอกว่าไม่มีอะไรคงรูปเป็นนิรันดร์ ประดุจลูกเห็บตกลงบนหัวเหล่าพันธมิตร

พันธมิตรหัวแข็งกว่าอยู่แล้ว สักวันหนึ่งระบบทักษิณก็จะละลายกลายเป็นน้ำเหมือนลูกเห็บ

ลูกเห็บลงหัวกบาลพันธมิตร แต่เห็บลงกินหัวทักษิณ

สู้ต่อไป พธม.

 



บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #6 เมื่อ: 16-09-2008, 15:44 »

เหรอ


"ประนามานุกรมบุคคลอันตรายสำหรับประชาธิปไตย:พัลลภ ปิ่นมณี ชัยชนะที่ปูลาดด้วยเลือดและชีวิตผู้บริสุทธิ์  


หรือภาพประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย?-ในเหตุการณ์พฤษภาฯ2535 พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี เพื่อนสนิทพลตรีจำลอง ศรีเมือง ได้เปิดเผยในภายหลังว่าเขาได้เป็นตัวการในการทำระเบิดขวดเผาสน.นางเลิ้ง ซึ่งทำให้รัฐบาลขณะนั้นจับกุมพลตรีจำลอง และพัลลภกับจำลองก็พูดกันตอนนั้นว่า"เมื่อจำลองถูกจับ ฝ่ายเราก็ชนะ!"

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
28 สิงหาคม 2551


แม้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าใครจะได้เป็นทายาทรุ่นที่2หากแกนนำพันธมิตรชุดแรกถูกจับกุมตัว โดยตอนแรกมีข่าวว่าจะเป็นนายสำราญ รอดเพชร โฆษกเวทีพันธมิตร คนใกล้ชิดนายสนธิ ลิ้มทองกุล แต่ล่าสุดพลตรีจำลอง ศรีเมือง เปิดตัวว่าจะเป็นเพื่อนรักของเขาคือพลเอกพัลลภ ปิ่นมณี ซึ่งมีประวัติอื้อฉาวถูกกล่าวหาในหลายกรณีทั้งเหตุการณ์ก่อกบฎ1เมษายน2524,เหตุการณ์ลอบสังหารบุคคลสำคัญ รวมทั้งความพยายามลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระราชินี,เหตุการณ์ลอบสังหารอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร,เหตุการณ์สังหารหมู่มัสยิดกรือเซะห์ จนทำให้ไฟใต้ร้อนระอุมาจนถึงขณะนี้ และที่สำคัญการจุดชนวนเลือดในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ

เราจึงต้องจัดให้พลเอกพัลลภเข้ามาอยู่ในทำเนียบประนามานุกรมบุคคลอันตรายสำหรับประชาธิปไตยไทย

*ชมคลิปวิดิโอพัลลภให้สัมภาษณ์สรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นคนวางแผนจุดชนวนเลือดพฤษภาทมิฬ     http://video.mthai.com/player.php?id=6M1179828395M0




"พัลลภ"รับไม้"จำลอง"ลั่นใช้แผนเผาเมืองเลียนแบบพฤษภาทมิฬ
พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี เพื่อนตาย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศจะขึ้นเวทีเพื่อขับไล่รัฐบาลและนายกฯ ออกจากตำแหน่ง หากพล.ต.จำลองถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมขัง

"ผมจะพูดขึ้นเวทีก็ต่อเมื่อ พล.ต.จำลองถูกเจ้าหน้าที่จับกุม การขึ้นเวทีครั้งนี้ถือเป็นสัญญาใจที่ผมกับจำลองที่เป็นเพื่อนรักเพื่อนตายกันมา ได้มีสัญญาอยู่ 2 ข้อ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ เมื่อพล.ต.จำลองถูกจับกุม ผมก็จะเข้าไปแทน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น การปฏิบัติการ 3 วันก็จบ ซึ่ง 2 ข้อที่ผมได้สัญญาไว้กับพล.ต.จำลองคือ ถ้าวันใดที่จำลองโดนตำรวจจับผมจะเข้าไปแทนทันที และที่ พล.ต.จำลอง ใช้ยุทธวิธีสันติวิธีแบบอหิงสา ซึ่งมันไม่ตรงกับผม แต่ผมจะใช้ยุทธวิธีปฏิบัติการรุก ซึ่งผมได้ตกลงกับจำลองมาตั้งนานแล้ว" พล.อ.พัลลภ กล่าว

พล.อ.พัลลภ ยังกล่าวอีกว่า เมื่อศาลอนุมัติออกหมายจับพล.ต.จำลองก็ถือว่าเข้าข่ายข้อหนึ่งที่ตนได้ตกลงไว้ การไปเข้าร่วมครั้งนี้ถือเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย และเป็นเรื่องปกติธรรมดาในระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ตนไม่ได้มาเพิ่งตัดสินใจที่จะขึ้นเวทีพันธมิตรฯ แต่ได้ตัดสินใจมานานแล้วตามที่ได้ตกลงกันไว้ อย่างไรก็ตามการที่ขึ้นเวทีครั้งนี้ก็ไม่ได้กลัวต่อภาพลักษณ์ที่ผ่านมา หากพล.ต.จำลองถูกจับสถานการณ์คงวุ่นวายแน่ เพราะคำพูดของตนชัดเจนอยู่แล้ว สำหรับยุทธวิธี ตนจะใช้วิธีรุก คงจะไม่ใช้วิธีตั้งรับเหมือนกับพล.ต.จำลอง

ถามว่า รัฐบาลและนายกฯควรจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ใช่ และตนมีวิธีที่จะให้รัฐบาลและนายกฯลาออก แต่ตนคงบอกไม่ได้ ซึ่งคาดว่าจะปฏิบัติการเพียง 3 วัน รัฐบาลก็ต้องลาออกยกชุดแล้ว เพราะยุทธวิธีรุกไม่เหมือนยุทธวิธีรับของพล.ต.จำลอง

"วันใดที่พล.ต.จำลองถูกจับเข้าคุก ผมจะขึ้นเวทีเพื่อประกาศชัยชนะให้กับพันธมิตรฯทันที"พล.อ.พัลลภกล่าว

ย้อนรอยกรรมชั่วจุดชนวนเลือดพฤษภาทมิฬ
พล.อ.พัลลภให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทั้งหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ด้วยความภาคภูมิใจมาตลอดว่า ในคราวเหตุการณ์ “พฤษภาทมิฬ” ในปี 2535นั้นเขามีส่วนทำให้พล.ต.จำลองประสบชัยชนะ โดยเขาได้พูดกับจำลองว่าต้องเดินแผนให้รัฐบาลพล.อ.สุจินดา คราประยูร ในขณะนั้นใช้กำลังจับกุมจำลอง "พอจับจำลองปุ๊บ ผมก็พูดเลยว่าเราชนะแล้ว"

พล.อ.พัลลภเผยว่า ได้วางแผนให้หน่วยย่อยที่ฝึกมาอย่างดีในการต่อต้านรัฐบาลพล.อ.สุจินดา โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา ในการช่วยทำระเบิดขวดที่บรรจุน้ำมันเพื่อนำไปปาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนางเลิ้ง จนเป็นเหตุให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย จนพล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ต้องหันมาใช้กำลังเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุม จนประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก

เป็นที่น่าสังเกตว่าในคราวนี้พล.อ.พัลลภก็พูดเป็นนัยว่าอยากให้มีการจับพล.ต.จำลอง แล้วเขาก็จะประกาศชัยชนะ และรุกฆาตรัฐบาลภายใน 3 วัน

ส่วนชัยชนะครั้งนี้จะปูลาดไปด้วยเลือดเนื้อและชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์อีกครั้งหรือไม่ หรือใครจะมาหยุดแผนชั่วของพัลลภลงก่อน นั่นเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดู

ก่อกบฎเมษาฮาวาย-เหิมเกริมพยายามลอบปลงพระชนม์ราชินี
พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี มีตำแหน่งสุดท้ายทางราชการ เป็นรองผู้อำนวยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เป็นนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 7 (จปร.7) เคยร่วมกับเพื่อนร่วมรุ่นอาทิ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิต พ.อ.มนูญ รูปขจร ยศในขณะนั้น ทำการปฏิวัติ “เมษาฮาวาย”โค่นอำนาจ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เมื่อวันที่ 1 เมษายน ปี 2524 มาแล้ว แต่ล้มเหลว กลายเป็นกบฎ

พล.อ.พัลลภกับพวกแค้นพล.อ.เปรม,พล.อ.อาทิตย์ และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ โดยกล่าวหาอย่างไม่มีมูลแม้แต่น้อยว่าพระองค์ท่านมีส่วนสำคัญให้พวกตนพ่ายแพ้กลายเป็นกบฎ ดังนั้นถัดมาอีก 1 ปี กลุ่มที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับยังเติร์ก ได้แก่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก ผู้บัญชาการทหารบก จึงประสบเหตุการณ์ 'ลอบสังหาร' เป็นระลอกๆ และไม่เพียงเฉพาะบุคคลทั้งสอง หากยังมีรายงานของฝ่ายความมั่นคงระบุว่า ได้มีการตระเตรียมการที่จะลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อีกด้วย รายละเอียดมีดังต่อไปนี้

ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 6-7 มีนาคม 2525 กลุ่มยังเติร์ก ลอบสังหาร พล.อ.อาทิตย์ในงานยกช่อฟ้า วัดจิระ อ.เมือง จ.ลพบุรี แต่ไม่สำเร็จ

ครั้งที่ 2 วันที่ 8-25 มีนาคม 2525 กลุ่มยังเติร์กกับพวก วางแผนลอบสังหาร พล.อ.อาทิตย์ ขณะเดินทางไปเยี่ยมท่าน ผู้หญิงประภาศรี กำลังเอก ซึ่งป่วยและรักษาอยู่ใน โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แต่ล้มเหลวอีกครั้ง

ครั้งที่ 3 วันที่ 5 พฤษภาคม 2525 กลุ่มทหารยังเติร์กกับพวก ใช้รถบรรทุกระเบิดไปจอดที่หน้าโรงเรียนพณิชยการสันติราษฎร์ในเส้นที่ทาง พล.อ.อาทิตย์เดินทางผ่าน ไปทำงาน เพื่อลอบสังหาร พล.อ.อาทิตย์ โดยใช้คลื่นวิทยุบังคับจุดระเบิด แต่รถได้เกิดระเบิดขึ้นก่อนที่ พล.อ.อาทิตย์จะผ่านไป

ครั้งที่ 4 วันที่ 3 มิถุนายน 2525 กลุ่มนายทหารยังเติร์กกับพวก ได้วางแผนลอบสังหาร พล.อ.อาทิตย์ ขณะไปทอดกฐินที่วัดแก้วนิมิตร อ.เมือง จ.ลพบุรี แต่ไม่สำเร็จ

ครั้งที่ 5 วันที่ 14-16 กรกฎาคม 2525 กลุ่มทหารยังเติร์กกับพวก วางแผนลอบสังหาร พล.อ.เปรม ขณะเดินทางไปเป็นประธานเปิดอนุสาวรีย์จอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่ศูนย์การทหารปืนใหญ่ อ.เมือง จ.ลพบุรี แต่กระสุนจรวด 66 เอ็ม -72 พลาดเป้าหมายไปเพียงเล็กน้อย

ครั้งที่ 6 วันที่ 1 ตุลาคม 2525 กลุ่มยังเติร์ก ตระเตรียมการที่จะลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลควีนสคัพ ที่สนาม กีฬาแห่งชาติ

ครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2525 กลุ่มยังเติร์กและพวก วางแผนลอบสังหาร พล.อ.อาทิตย์ ขณะเดินทางไปทอดกฐินที่วัดหน้าพระเมรุ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ไม่สำเร็จ

ครั้งที่ 8 วันที่ 20 ตุลาคม 2525 กลุ่มยังเติร์กได้วางแผนลอบสังหาร พล.อ.อาทิตย์ พล.อ.เปรม และตระเตรียมการลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในพิธีปิดการแข่งขันฟุตบอลควีนสคัพ ที่สนามกีฬาแห่งชาติ กทม.

ครั้งที่ 9 วันที่ 31 ตุลาคม 2525 กลุ่มยังเติร์ก ลอบสังหาร พล.อ.อาทิตย์ ซึ่งจะเดินทางไปทอดกฐินที่วัดศรีสุทธาวาส อ.เมืองเลย แต่ไม่สำเร็จ

ในวันที่ 14 กันยายน 2527 มีการออกหมายจับผู้ต้องหาคดีลอบสังหาร จำนวน 43 คน รวมทั้งแกนนำกลุ่มยังเติร์ก ด้วย เช่น คือ พ.อ.มนูญ รูปขจร และพ.อ.บุลศักดิ์ โพธิ์เจริญ พ.อ.พัลลภ ปิ่นมณี พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร (ยศในขณะนั้น)

กระทั่งวันที่ 30 ธันวาคม 2536 คดีประวัติศาสตร์”วันลอบสังหาร” ก็สิ้นสุดลง เมื่อศาลอาญายกฟ้องโดยศาลวินิจฉัยว่าไม่ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่าเพราะมีการประนีประนอมกันระหว่างฝ่ายยังเติร์ก กับฝ่ายพล.อ.เปรมได้แล้ว

สังหารหมู่มัสยิดกรือเซะห์ส่งผลไฟใต้โหมกระพือ

ในยุครัฐบาลทักษิณ เหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ลุกลามบานปลายกลายเป็นเรื่องน่าวิตกของคนในชาติ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ก็มีส่วนทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก เมื่อครั้งนายทหารผู้นี้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (รองผอ.กอ.สสส.จชต.) ในปี 2547 ได้เข้าปราบปรามผู้ก่อเหตุที่บุกยึดมัสกรือเซะห์ โดยครั้งนั้น พล.อ.พัลลภ ได้สั่งให้กองกำลังทหารเข้าใช้กำลังด้วยการสังหารหมู่กลุ่มบุคคลที่อยู่ในมัสยิดกรือเซะห์ทั้งหมด ทั้งที่หลายฝ่ายพยายามท้วงติงให้ใช้วิธีการเจรจาเป็นทางออก

จนเป็นเหตุให้ไฟใต้ขยายวงออกไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

จับคนขับรถพัลลภพัวพันลอบสังหารทักษิณ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นราว 09.00 น.ของวันที่ 24 ส.ค.2549 คือความพยายามลอบสังหารด้วย"คาร์บอมบ์"ต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ในเบื้องต้นมีการจับกุม ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชนะ ผู้ขับรถคาร์บอมบ์คันดังกล่าว(คนๆนี้เคยเป็นทหารชั้นประทวน เป็นคนขับรถของพัลลภ ต่อมาพัลลภสนับสนุนให้เป็นทหารชั้นสัญญาบัตร จึงยินดีมอบกายถวายชีวิตตอบแทนนายเต็มที่) ต่อมามีการจับกุมนายทหารในกอ.รมน.ใต้สังกัดของพัลลภไปหลายราย แต่มีเพียงจ่ายักษ์อยู่คนเดียวที่ให้การรับสารภาพหมดไส้หมดพุงซัดทอดนายทหารอีก 4 คนว่า เป็นผู้ร่วมขบวนการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ และหากสังหารไม่สำเร็จจะทำปฏิวัติ

ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น เพราะหลังเหตุการณ์คาร์บอมบ์ไม่ทันถึงเดือน ก็มีการทำรัฐประหาร 19 กันยายน2549

ทั้งหมดนี้คือพฤติการณ์ชั่วที่พัลลภ เพื่อนรักของจำลองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวพัน หรือถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้อง เป็นพล.อ.พัลลภที่กำลังจะขึ้นมาเป็นผู้นำพันธมิตรรุ่น 2 โดยประกาศว่าจะใช้วิธีแบบพฤษภาทมิฬ2535 นั่นคือชัยชนะที่ปูลาดด้วยเลือดเนื้อชีวิตผู้บริสุทธิ์"
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #7 เมื่อ: 16-09-2008, 15:47 »

ฟ้าส่งสาส์นมาบอกว่าไม่มีอะไรคงรูปเป็นนิรันดร์ ประดุจลูกเห็บตกลงบนหัวเหล่าพันธมิตร

พันธมิตรหัวแข็งกว่าอยู่แล้ว สักวันหนึ่งระบบทักษิณก็จะละลายกลายเป็นน้ำเหมือนลูกเห็บ

ลูกเห็บลงหัวกบาลพันธมิตร แต่เห็บลงกินหัวทักษิณ

สู้ต่อไป พธม.

 



"นิวส์วีค (NEWSWEEK) ยกย่อง “ทักษิโณมิกส์” ระบบเศรษฐกิจแบบใหม่ ที่ครองความนิยมในเอเชีย    



โดย คุณ เอื้องอัยราวัณ
ที่มา เวบบอร์ด ประชาไท


นิวส์วีค นิตยสารชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ที่เคยขึ้นปก 4 ผู้นำในเอเชีย และมีรูปของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย เป็นหนึ่งในผู้นำทั้ง 4 คน รวมอยู่กับนายหม่า อิง จิ่ว ผู้นำของไต้หวัน นายลี เมียง บัก ประธานาธิบดีนักธุรกิจของเกาหลีใต้ และ นายอันวาร์ อิบราฮิม อดีตรองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ภายใต้บทความที่นำเสนอในชื่อว่า The Politics of Practical Nostalgia หรือ การเมืองแห่งการโหยหาอดีตที่ทำได้จริง

ล่าสุดนิตยสารนิวส์วีคฉบับประจำวันที่ 1 กันยายน 2551 ซึ่งออกวางตลาดในเร็วๆ นี้ได้ลงตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยอีกครั้ง ในบทความที่มีชื่อว่า A Leader Who Looms/ ผู้นำที่ยังคงยืนเด่นเป็นตระหง่าน

โดยเนื้อหาของบทความชิ้นนี้ได้ยกย่อง “ทักษิโณมิกส์” ว่า เป็นนโยบายที่ได้รับการยอมรับในภูมิภาคเอเชียอย่างกว้างขวาง มีผู้นำในแถบเอเชียหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียแม้กระทั่งประเทศยักษ์ใหญ่อย่างจีน และอินเดีย ก็ยังเดินตามรอย “ทักษิโณมิกส์” ของอดีตนายกรัฐมนตรีไทย

แถมไม่พลาดที่จะเหน็บพวกปัญญาชนว่า “พวกปัญญาชนผู้รอบรู้ เคยหัวเราะเยาะทักษิณ แต่นโยบายเศรษฐกิจแบบประชานิยมของเขา กำลังได้รับความนิยมแพร่หลายในเอเชีย”

นอกจากนี้นิวส์วีคยังกล่าวยกย่องชมเชย กลยุทธ์ทางเศรษฐกิจของทักษิณ ที่ออกมาในรูป “นโยบายคู่ขนานหรือทักษิโณมิกส์” ว่าเป็น “ความคิดที่ฉลาดหลักแหลม” พร้อมเอ่ยชมอดีตนายกฯทักษิณว่า เป็น “นักคิดทางเศรษฐกิจผู้ยิ่งใหญ่”

โดยในตอนท้ายนิวส์วีคสรุปว่า “นโยบายคู่ขนานที่เฉียบแหลม” นั้น มันทำงานได้ผลจริงๆ

สำหรับ George Wehrfritz แห่งนิตยสาร NEWSWEEK ผู้เขียนบทความ A Leader Who Looms/ ผู้นำที่ยังคงยืนเด่นเป็นตระหง่านนี้ เคยเขียนบทความเรื่อง Buddhist Economics/พุทธเศรษฐศาสตร์ มาแล้วเมื่อต้นปี 2007

==============

ผู้นำที่ยังคงยืนเด่นเป็นตระหง่าน

ถอดความภาษาไทยโดย Thinking in ink

พวกปัญญาชนผู้รอบรู้ เคยหัวเราะเยาะทักษิณ แต่นโยบายเศรษฐกิจแบบประชานิยมของเขา กำลังได้รับความนิยมแพร่หลายในเอเชีย แม้กระทั่งจวบจนวาระที่เขาอำลาประเทศไทย

โดย จอร์จ เวอห์ฟริซส์
นิตยสารนิวส์วีคระหว่างประเทศ ฉบับวันที่ 23 สิงหาคม 2551

ในศัพท์ทางการเมือง คุณทักษิณ ชินวัตร เป็นได้ทุกอย่าง ยกเว้น “ผู้สูญเสียอำนาจ” เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว อดีตนายกรัฐมนตรี แอบดอดเดินทางไปต่างประเทศ มุ่งสู่คฤหาสน์หลังงามในอังกฤษของเขาอย่างเงียบๆ เป็นการจบความคาดหวังที่เคยคาดการณ์ไว้ว่า การกลับคืนสู่มาตุภูมิด้วยความภาคภูมิใจในชัยชนะของเขา เมื่อเดือนมกราคมอาจเป็นลางบ่งบอกถึงการหวลกลับคืนสู่เวทีการเมืองระดับชาติอีกครั้ง จากที่ต้องลี้ภัยอยู่หลายเดือน หลังถูกโค่นล้มอำนาจจากการทำรัฐประหารอย่างไม่เสียเลือดเนื้อ เมื่อปี 2549 คุณทักษิณได้ออกแถลงการณ์ ถึงสาเหตุที่ต้องบินไปยังอังกฤษครั้งนี้ว่า ข้อกล่าวหาเรื่องเส้นสายแห่งการคอร์รัปชันและข้อกล่าวหาอื่นๆ กำลังถูกนำเข้าสู่การพิจาราณาคดีในชั้นศาลไทย “ที่มีธงตั้งไว้แล้วล่วงหน้า เพื่อจัดการกับผมและครอบครัว” การลี้ภัยแบบคาดไม่ถึง ของมหาเศรษฐีพันล้าน(เหรียญสหรัฐ)ผู้สร้างฐานะด้วยตนเองครั้งนี้ ก่อให้เกิดการถกเถียงถึง ความถูกต้องของข้อกล่าวหาที่เขากำลังเผชิญอยู่ ทั้งเรื่องที่ทางกรุงเทพฯ ควรดำเนินการเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ และตัวจักรทางการเมืองของคุณทักษิณในอนาคต

แต่แทบไม่มีการกล่าวถึง ผลงานที่อยู่ยืนยงสถาพรของคุณทักษิณเลย นั่นคือ : “การพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานราก” ที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในหมู่ประเทศกำลังพัฒนา ในการโปรโมทตัวเองนิดหน่อยอย่างไม่ต้องอาย คุณทักษิณประทับตรายุทธศาสตร์การพัฒนานี้ว่า “ทักษิโณมิกส์” ยุทธศาสตร์นี้ ถูกนำไปใช้ในการรณรงค์หาเสียงว่า เป็นนโยบายเพื่อยกระดับฐานะของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตที่เขาลงสมัคร – ชาวไทยชนบท – ให้พ้นจากความยากจน นโยบายทักษิโณมิกส์ถูกนำไปใช้ปฏิบัติจริง หลังจากที่เขาชนะเลือกตั้ง กลับเข้ามาเป็นรัฐบาลเมื่อปี 2544 ความคิดริเริ่มของคุณทักษิณ ได้พลิกฟื้นความเสียหายที่เกิดจากวิกฤติการเงินเอเชีย ช่วงปี 2540-41 และทำให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย เป็นไปอย่างรวดเร็ว จนเป็นที่อิจฉาในภูมิเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันนี้ นโยบายเศรษฐกิจที่หยิบยืมมาจาก“ทักษิโณมิกส์” กำลังถูกนำไปใช้เพิ่มมากขึ้น ทั่วทั้งกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย เพื่อจัดการกับปัญหาเดียวกัน ที่เคยระบาดในประเทศไทยช่วงปลายทศวรรษ 1990 และในตอนนี้ได้คุกคามทั่วทั้งภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง : การพึ่งพาตลาดส่งออกจากอีกประเทศหนึ่งมากเกินไป การพัฒนาแบบไม่เท่าเทียมในประเทศ และ ช่องว่างของรายได้ ระหว่างคนรวยและคนจน ที่เพิ่มถ่างมากขึ้น

นักวิพากษ์วิจารณ์ ได้ประณามนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของคุณทักษิณว่า เป็น “นโยบายประชานิยม ที่ผลาญเงินงบประมาณอย่างมหาศาล” แต่ผู้ที่ไม่ยอมรับนโยบายของทักษิณเหล่านี้ ต้องรีบเปลี่ยนความคิดอย่างรวดเร็ว เมื่อนโยบายประชานิยมอย่าง การพักหนี้เกษตรกรและกองทุนหมู่บ้านได้กระตุ้นภาคอุตสาหกรรมการผลิตและบริการ ให้เกิดขึ้นในระดับรากหญ้า และการปรับปรุงสวัสดิการพื้นฐานที่อ่อนแอของประเทศไทยให้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดให้มีโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาท รักษาทุกโรค(เกือบฟรี) ได้ช่วยปลดปล่อยครัวเรือนในชนบท ให้เกิดการออมน้อยลง และออกไปจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น(ยกระดับการบริโภคภายในประเทศ) คุณทักษิณเรียกยุทธศาสตร์นี้ว่า “การพัฒนาแบบคู่ขนาน” หรือ “การพัฒนาเศรษฐกิจทวิวิถี” ซึ่งกระตุ้นให้เกิดอุปสงค์จากตลาดภายในประเทศมากขึ้น ควบคู่ไปกับภาคการส่งออก และมันทำงานได้ผลจริงๆ

แน่นอนว่า หนี้สาธารณะได้เพิ่มสูงขึ้น แต่ก็ชดเชยด้วยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และรายได้จากภาษีอากรที่เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจของประเทศไทย ขยายตัวเกือบ ร้อยละ 6 ต่อปี จากปี 2544-2549 โดยพึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศ และการส่งออกที่ลดลง และจริงๆ แล้วช่องว่างระหว่างรายได้ของประเทศไทย ก็หดแคบลง ในขณะที่ระยะห่างระหว่างคนมั่งมีและคนยากจน กลับกว้างมากขึ้น ทุกหนแห่งในภูมิภาคเอเชียอย่างเห็นได้ชัด

ระบบคิดในการดำเนินกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจของทักษิณในตอนนี้ ได้รับการยอมรับนับถือว่า เป็น “ความคิดที่ฉลาดหลักแหลม” นโยบายประชานิยมที่เน้นการเข้าถึงแหล่งทุน โอกาสในการจ้างงาน และการบริการสังคมขั้นพื้นฐานสามารถเปลี่ยนโฉมจากภูมิภาคที่เสียเปรียบ กลายเป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกได้ ประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย ซูซิโล บัมมัง ยุดโดโยโน ได้เดินตามรอย “ทักษิโณมิกส์” ในการช่วยเหลือครัวเรือนที่ยากจน ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จากปัญหาราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น โดยออกมาตราการใช้เงินอุดหนุน พยุงราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ เพื่อไม่ให้คนยากจนต้องใช้น้ำมันแพง หรือ นายมันโมฮัน ซิงห์ นายกรัฐมนตรีของอินเดีย ได้ริเริ่มโครงการสร้างงานในชนบทหลายล้านตำแหน่ง ความต้องการในการบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของเขา สะท้อนให้เห็นถึงการเดินตามนโยบายประชานิยมของทักษิณเป็นอย่างมาก หรือ ประธานาธิบดีกลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย แห่งฟิลิปปินส์ ที่ครั้งหนึ่งเคยประกาศว่า “ฉันเป็นสานุศิษย์ของทักษิโณมิกส์อย่างไม่อาย” และนับตั้งแต่ปี 2549 เมื่อจีน เปิดตัวโครงการขนาดยักษ์ใหญ่ เพื่อปรับเปลี่ยนทิศทางการลงทุนของรัฐ ที่ต้องการเนรมิตโครงการ “การพัฒนาชนบทตามแนวทางสังคมนิยมรูปแบบใหม่” ขึ้นในพื้นที่ชนบทห่างไกล ทางปักกิ่ง ได้ยกเลิกภาษีการเกษตรทั่วประเทศ จัดสรรเม็ดเงินหลายร้อยล้าน(เหรียญสหรัฐ)ให้กับอุตสาหกรรมในชนบท และนอกจากนี้ ยังหาหนทางเพื่อช่วยฟื้นฟูจังหวัดที่ยากจนทางตอนกลางของประเทศ(ย้อนไปในปี 2003 จีนได้ส่งคณะผู้แทนชุดหนึ่ง ไปยังประเทศไทยเพื่อศึกษา “ทักษิโณมิกส์” ตามรายงานของทางการจีน)

บรรดาผู้นำของจีนได้ยืนยันถึงความสำคัญของสิ่งที่ประธานาธิบดี หู จิ่นเทา เรียกว่า “การเติบโตที่ก้าวไปพร้อมกัน” เมื่อครั้งที่สภาประชาชนแห่งชาติ จัดการประชุมขึ้นช่วงเดือนมีนาที่ผ่านมา และไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รายงานการวิเคราะห์ของจีนและต่างประเทศ ได้บอกเป็นนัยว่า ในเร็วๆ นี้ ทางปักกิ่ง จะเปิดเผยถึงมาตรการทางด้านการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดยักษ์ ซึ่งพุ่งเป้าไปที่ภาคเศรษฐกิจที่มีข้อเสียเปรียบ

ในฐานะผู้นำชาติอาเซียน ที่เป็นผู้บุกเบิกการพัฒนาเศรษฐกิจแบบคู่ขนาน หากไม่ผิดพลาดทางการเมืองแบบมโหฬารอย่างไม่น่าให้อภัยเสียก่อน ทักษิณอาจก้าวขึ้นสู่ “ทำเนียบปูชนียบุคคล แห่งแวดวงนักคิดทางเศรษฐกิจผู้ยิ่งใหญ่” ไปแล้ว โดยในช่วงปลายปี 2548 เขาได้ขายกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมขนาดใหญ่ของครอบครัว ให้กับบริษัทเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ ที่สนนราคา 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยไม่ต้องจ่ายภาษี ดีลการซื้อขายครั้งนี้ พิสูจน์แล้วว่า เป็น”การวางแผนที่ผิดพลาด” แม้แต่ในประเทศที่มีวัฒนธรรมการเมืองแบบระบบพวกพ้อง ที่อะลุ้มอะหล่วยต่อกันอย่างไทย ในการเปิดเกมรุกโต้ตอบทักษิณครั้งนี้ ได้มีการประสานความร่วมมือกันระหว่างชนชั้นสูง ที่เป็นกลุ่มทุนเก่า พรรคร่วมฝ่ายค้าน และผู้มีอำนาจในกองทัพ โดยเรียกร้องให้เขาลาออก และจัดแสดงการชุมนุมประท้วงบนท้องถนน ที่ทำให้กรุงเทพฯ เป็นอัมพาตอยู่หลายเดือน ต่อมา ในวันที่ 19 กันยายน 2549 กองทัพไทยได้ทำรัฐประหารเป็นครั้งที่ 13 นับตั้งแต่ปี 2488 เข้ายึดอำนาจการปกครอง ขณะที่ทักษิณยังอยู่ที่กรุงนิวยอร์ค เพื่อกล่าวสุนทรพจน์ที่องค์การสหประชาชาติ

ในตอนแรก รัฐบาลทหาร พยายามที่จะเก็บพับ “นโยบายทักษิโณมิกส์” โดยเชิดชูยกย่อง “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิถีชีวิตแบบพุทธขึ้นมาแทน อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาสะท้อนกลับอย่างรุนแรง ที่เป็นไปแบบทันควัน ทำให้บรรดานายทหารต้องรีบเปลี่ยนแนวนโยบายแทบไม่ทัน แม้กระทั่งโละทิ้งโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 รักษาทุกโรคของทักษิณ เปลี่ยนมาเป็น “รักษาฟรีทุกโรค” แทน รัฐบาลชุดใหม่ของไทย ได้เดินตามรอยนโยบายของทักษิณ ด้วยการออกมาตรการลดภาษีน้ำมัน ใช้ไฟฟ้า-ประปาฟรี สำหรับครัวเรือนขนาดเล็กและกระทั่งขึ้นรถเมล์-รถไฟฟรี! รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กล่าวถึงมาตราการที่ออกมาเหล่านี้ว่านโยบาย (6 มาตรการ 6 เดือน)เหล่านี้ จะช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจประจำปี สูงถึงร้อยละ 6 และสามารถลดการใช้จ่ายของครัวเรือนได้ประมาณ 350 เหรียญสหรัฐต่อปี โดยเฉลี่ย “ผู้ที่นำเสนอนโยบายเหล่านี้มาปฏิบัติ จะได้คะแนนเสียงอย่างแน่นอน ส่วนผู้ที่ยกเลิกนโยบายเหล่านี้ จะสูญเสียคะแนนเสียงแทน” นิธินัย สิริมัทการ นักเศรษฐศาสตร์อิสระกล่าว

แต่นั่นเป็นเพียงบางส่วน ของการอธิบายถึงความนิยมของนโยบายประชานิยมเท่านั้น เมื่อผลงานในอดีตของทักษิณแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม บทสรุปอีกอันที่ตามมาก็คือ “นโยบายคู่ขนานที่เฉียบแหลม” จริงๆ แล้วมันทำงานได้ผลนั่นเอง "
บันทึกการเข้า
sanskritshower
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 245



« ตอบ #8 เมื่อ: 16-09-2008, 16:01 »

กลับมาอ่านใหม่อีกรอบ  ยิ่งตอกย้ำความเชื่อของตัวเองเข้าไปอีกว่า  TLE  เป็นเอามากจริงๆ

เหมือนคนหมกมุ่นอยู่กับอะไรซักอย่างนึง  น่าสงสาร
บันทึกการเข้า
OMEGA
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 233



« ตอบ #9 เมื่อ: 16-09-2008, 16:03 »


อย่างน้อยผู้สถาปนาระบอบนี้ก็หนีคุก ถึงจะได้เงินจากการโกงกินก็เป็นทุกขลาภจากระบอบของตัวเอง

ไม่มีแผ่นดินอยู่ แล้วแบบนี้คิดว่าระบอบชั่วๆนี้จะอยู่ได้นานมั๊ยล่ะ  

 
บันทึกการเข้า

vkiupN
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23


« ตอบ #10 เมื่อ: 16-09-2008, 16:28 »

สงสัยมันจะไม่รู้ว่าไอ้สินกับอีกะบังกำลังจะติดคุกมั้ง

อย่ามัวแต่หาข้อเสียของฝ่ายอื่นจนลืมดูฝ่ายตัวเองด้วยเอ๋อ

หุหุ เอ้า
   
บันทึกการเข้า
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #11 เมื่อ: 16-09-2008, 16:32 »

ตราบเท่าที Miles David จะออกอัลบั้มโซโลกีตาร์ใหม่นะแหละ

บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #12 เมื่อ: 16-09-2008, 16:44 »

กลับมาอ่านใหม่อีกรอบ  ยิ่งตอกย้ำความเชื่อของตัวเองเข้าไปอีกว่า  TLE  เป็นเอามากจริงๆ

เหมือนคนหมกมุ่นอยู่กับอะไรซักอย่างนึง  น่าสงสาร



หลักฐานและการว่าไปตามเนื้อผ้าล้วนๆ....นี่คือข้อพิสูจน์ความเป็นคนดีของ TLE อย่างไม่ต้องสงสัย!
บันทึกการเข้า
...นึกว่าใคร ?
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 159


" ? "


เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 16-09-2008, 16:48 »

ช่างแมร่ง แต่กรูอยู่ไมถึง 100 หรอก 555
บันทึกการเข้า

The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #14 เมื่อ: 16-09-2008, 16:54 »

อย่างน้อยผู้สถาปนาระบอบนี้ก็หนีคุก ถึงจะได้เงินจากการโกงกินก็เป็นทุกขลาภจากระบอบของตัวเอง

ไม่มีแผ่นดินอยู่ แล้วแบบนี้คิดว่าระบอบชั่วๆนี้จะอยู่ได้นานมั๊ยล่ะ  

 


ที่น่าสนใจก็คือ เหล่าอมาตธิปไตยและอนาธิปไตยต่างพยายามกล่าวหาและเล่นงานคุณทักษิณจนต้องไปอาศัยประเทศแม่แบบปชต.ในการพำนักอาศัย ประเด็นก็คือ ทำไมคนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ยังคงรักและศรัทธาอดีตผู้นำที่ชื่อทักษิณอย่างไม่เสื่อมคลายทั้งๆที่คุณทักษิณโดนเล่นงานซะขนาดนั้น?!? หรือว่าคุณทักษิณให้เงินรากหญ้าอยู่ในปัจจุบัน...แต่เอ๊ะ..เงิน 7.6 หมื่นล้านนั่นไม่ได้ถูกอายัดดอกหรือ?

ตอบกันได้ไหมแบบเคลียร์ๆว่าถ้าระบอบทักษิณโนมิคไม่ดีจริง...ทำไมพันธมารถึงปอดแหกไม่กล้าให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินหล่ะ!?!
บันทึกการเข้า
Augustine
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 219



« ตอบ #15 เมื่อ: 16-09-2008, 16:57 »

ถุย.... ดีแต่ตัดแปะ มีสมองป่าว จขกท.
บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย...   ...ที่ไหนเค้าทำกันแบบนี้

The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #16 เมื่อ: 16-09-2008, 17:02 »

สงสัยมันจะไม่รู้ว่าไอ้สินกับอีกะบังกำลังจะติดคุกมั้ง

อย่ามัวแต่หาข้อเสียของฝ่ายอื่นจนลืมดูฝ่ายตัวเองด้วยเอ๋อ

หุหุ เอ้า
   


เพ้อเจ้อเกินไปป่าวววว...ระบบตุลาการของประเทศอังกฤษเค้าไม่มั่วเหมือนตุลาการวิบัติของประเทศที่มีม๊อบเถื่อนๆหรอกน๊ะเฮ้ย
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #17 เมื่อ: 16-09-2008, 17:12 »

ตราบเท่าที Miles David จะออกอัลบั้มโซโลกีตาร์ใหม่นะแหละ


ขอฟามรู้หน่อยคร้าบ....วงไหนเนี่ย?
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #18 เมื่อ: 16-09-2008, 17:21 »

ถุย.... ดีแต่ตัดแปะ มีสมองป่าว จขกท.


เผอิญว่าข้อมูลดังกล่าวเหมาะสำหรับปัญญาชนเท่านั้น...ม๊อบเถื่อนๆอาจไม่เข้าใจ
บันทึกการเข้า
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #19 เมื่อ: 16-09-2008, 17:25 »


ขอฟามรู้หน่อยคร้าบ....วงไหนเนี่ย?

มันมีจริงที่ไหน 5555555555

ไมล์ ผสม กิลมอร์ 555555555

บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #20 เมื่อ: 16-09-2008, 17:27 »

ช่างแมร่ง แต่กรูอยู่ไมถึง 100 หรอก 555


อืมมม...ลูกหลานของท่านคงยินดีที่จะมีสังคมและประเทศภายใต้ Thaksinomics แน่นอน  เห็นด้วยครับ!
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #21 เมื่อ: 16-09-2008, 17:28 »

มันมีจริงที่ไหน 5555555555

ไมล์ ผสม กิลมอร์ 555555555


เล่นมุกแบบนี้เดี๋ยวให้ไปดมขี้ดมเยี่ยวที่ทำเนียบอ่ะน๊ะท่านน๊ะ
บันทึกการเข้า
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #22 เมื่อ: 16-09-2008, 17:33 »


เล่นมุกแบบนี้เดี๋ยวให้ไปดมขี้ดมเยี่ยวที่ทำเนียบอ่ะน๊ะท่านน๊ะ

คิดไรมาก ไปดมกลิ่นฝนกลางทำเนียบ แสนสุขสบายใจ

เคยมั้ยเวลาไปเดินป่าแล้ว เสียงฝนกระทบเต้น แสนจะสุขสบายใจแค่ไหน

ขอบอกๆใครไม่เคยทำให้ไปทำซะ55555555

ปล.ขอยืนยันคำตอบเดิม 555555555
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
iyen
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 158



« ตอบ #23 เมื่อ: 16-09-2008, 17:45 »


อืมมม...ลูกหลานของท่านคงยินดีที่จะมีสังคมและประเทศภายใต้ Thaksinomics แน่นอน  เห็นด้วยครับ!

เอ้า เอารายการดี ๆ มาให้ฟัง จะได้หายจากอาการxx 
ต้องรู้จักเลือกฟังน๊ะ
2 รายการเด็ด ไปฟังก่อนแล้วค่อยกลับมาตอบกระทู้ก็ได้ อาจได้ข้อคืดมุมมองที่ปกติขึ้น   

http://www.siamintelligence.com/wordpress/narong_interview/

http://www.managerradio.com/Radio/DetailRadio.asp?program_no=1032&mmsID=1032%2F1032%2D1359%2Ewma&program_id=17137
บันทึกการเข้า

คนพาล เวลาทำชั่ว หาสำนึกถึงผลของมันไม่
OMEGA
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 233



« ตอบ #24 เมื่อ: 16-09-2008, 17:49 »


ที่น่าสนใจก็คือ เหล่าอมาตธิปไตยและอนาธิปไตยต่างพยายามกล่าวหาและเล่นงานคุณทักษิณจนต้องไปอาศัยประเทศแม่แบบปชต.ในการพำนักอาศัย ประเด็นก็คือ ทำไมคนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ยังคงรักและศรัทธาอดีตผู้นำที่ชื่อทักษิณอย่างไม่เสื่อมคลายทั้งๆที่คุณทักษิณโดนเล่นงานซะขนาดนั้น?!? หรือว่าคุณทักษิณให้เงินรากหญ้าอยู่ในปัจจุบัน...แต่เอ๊ะ..เงิน 7.6 หมื่นล้านนั่นไม่ได้ถูกอายัดดอกหรือ?

ตอบกันได้ไหมแบบเคลียร์ๆว่าถ้าระบอบทักษิณโนมิคไม่ดีจริง...ทำไมพันธมารถึงปอดแหกไม่กล้าให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินหล่ะ!?!



 ผมว่าคุณไปสนใจในเรื่องไม่เป็นเรื่องนะครับ เหล่าอมาตธิปไตยและอนาธิปไตยที่คุณพยายามอ้างถึง..มีอิทธิพลรึ?
ถ้าชนเหล่านั้นมีจริง เข้มแข็งและมีฤทธิ์เดชที่สามารถชี้นิ้วเล่นงานทักษิณจนต้องหนีได้ก็คงไม่ต้องเดือดร้อน
ช่าวบ้านมากมายมาเดิมมานั่งขับไล่เนิ่นนานหลายเดือน  ...แต่เอ๊ะที่ทักษิณต้องหนีเพราะจำนนด้วยหลักฐาน
ว่าตนชั่วจริงมิใช่หรือครับ กลัวคุกจนต้องหนี
 ประเด็นคนรักทักษิณ ก็มีคนพูดถึงไปเยอะแยะมากมายหลายตัวอย่าง  มองกลับกันก็ทำไมไม่ถามบ้างล่ะครับ
ว่าชาวบ้านที่เค้าไม่ชอบหรือรังเกียจทักษิณเค้าสามารถอธิบายได้ไหมว่าทักษิณไม่ดีอย่างไร

...หากคิดว่าระบอบทักษิณดีจริง ทักษิณทำถูกจริง ทำไมเกรงกลัวอาญาแผ่นดิน ทำไมต้องแทรกแซงทุกอย่าง
ให้ตัวเองไม่ผิด ทำไมอยากแก้กฎหมายที่ตนไม่สามารถแทรงแซงได้ ก็เข้ามาอยู่ในระบบ ในกฎหมายเดียวกันสิ
เลิกใช้เล่ห์เหลี่ยมสิ  กฎหมายบัญญัติให้ผิดเรื่องซื้อเสียงโกงเลือกตั้งรุนแรงขึ้นก็ดิ้นกันจะเป็นจะตาย...เขากลัวมันโกง  
ไม่ใช่กลัวเพราะคนรักทักษิณ... หรือถ้าคนในระบอบทักษิณมีคนรักมากกลัวอะไรล่ะ จะซื้อเสียงทำไม ห๊า!!!
 
บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #25 เมื่อ: 16-09-2008, 17:55 »

อีกไม่กี่วัน ทักษิณกับเมีย ถูกตัดสินติดคุก ยึดทรัพย์

ระบอบทักษิณ คงเบาลงไปเยอะ

คงไม่มีนายทุนบ้าๆ มาทุ่มกับการลงทุนทางการเมืองอีก

ถ้ามีอีกก็จับติดคุก ยึดทรัพย์ ต่อไปคงไม่มีใครกล้าทำ


 
บันทึกการเข้า

-3-
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,186


« ตอบ #26 เมื่อ: 16-09-2008, 18:08 »

จนกว่าทักษิณจะตายแหละครับ 
บันทึกการเข้า



ประชาธิปไตยตัดสินความต้องการได้ แต่ตัดสินความถูกต้องไม่ได้!!
hide
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 157



« ตอบ #27 เมื่อ: 16-09-2008, 18:15 »

ทำไมคุณแน่ใจว่าทักษิณจะชนะ
บันทึกการเข้า
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #28 เมื่อ: 16-09-2008, 18:18 »

ถ้าคุณ จขกท หายไป ก็หมายถึงเวลานั้นแระ 
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
ล่ำจัง
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20



« ตอบ #29 เมื่อ: 16-09-2008, 18:21 »

..
..  ผมว่าน่าจะมีอยุ่ เรื่อยๆนะครับ


    แต่อยู่แบบ หมาๆ นะ   
บันทึกการเข้า

ยอมรับเลย  ว่าเคยหล่อ
Ldap
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 125



« ตอบ #30 เมื่อ: 16-09-2008, 18:24 »

จขกท. ปลอบใจตัวเอง

ตัดแปะมาจาก ประชาทุย(เว็บขอทาน) และอีนิวส์(ข่าวเถื่อน)
บันทึกการเข้า
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #31 เมื่อ: 16-09-2008, 19:45 »

*  เด๋วไม่นานศาลก็ตัดสินคดีต่าง ๆ ของ  แม้วแล้วหล่ะ ....  อะไรจ๊ะ  ไม่ต้องเร่งหรอก 

    อีกไม่นานระบอบทักษิณก็จะค่อย ๆ หมดราคา  เพราะ  ไอ้ตัวหัวหน้ามัวแต่หนีคดี  ไม่ก็ คิดลี้ภัย
    สงสัย ... จ๊ะ  อยากกระทืบซ้ำ แม้ว  เร็ว ๆ อ่ะดิเลยตั้ง ทู้ แบบนี้
 
บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
Ammika
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 167


หนูไม่ใช่ลิงนะจ๊ะ


« ตอบ #32 เมื่อ: 16-09-2008, 20:00 »

ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ยังไงจ๊ะก็รอดูไปก็ได้ค่ะ

ปล. ถ้าคราวนี้ศาลสั่งจำคุกทักกี้ และจ๊ะจะยอมรับหรอเปล่าจ๊ะ จ๊ะจ๋า

หรือคราวนี้จะพนันว่าจะบวชอีกหรอเปล่าจ๊ะ จ๊ะจ๋าาาาาาา

 
บันทึกการเข้า

เบื่อไอ้ปึ้ด...จริงๆ
banana_dot
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 187



« ตอบ #33 เมื่อ: 16-09-2008, 20:09 »

หลบอยู่แต่หลังทุนสามาน น่ารำคาญจิงๆ...

ทุนสามานมันมีแต่จะกลืนกิน มันไม่เหลือซากไว้ให้ไครรับประทานหรอก
 
บันทึกการเข้า

-"ภาพแห่งความทรงจำ แม้จะเลือนรางไปตามการเวลา หากแต่เป็นเรื่องที่มีคุณค่าทางจิตใจ ย่อมจะย้อนกลับมาทำให้มีความสุขทุกครั้งที่นึกถึงเสมอ "
samepong(ยุ่งแฮะ)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,402



« ตอบ #34 เมื่อ: 16-09-2008, 22:21 »

หมอนจ้าหมอน ขายหมอนเอาไปนอนฝันจ้า

บวชจ้าบวช 1ปีผ่านไป ยังไม่บวชเลยจ้า อันนี้ของจริงจ้าไม่ต้องตัดแปะ
บันทึกการเข้า

เวลาจะพิสูจน์ความเชื่อ สักวัน ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะถูกหรือผิด ผมขอรับไว้ด้วยตัวเอง คิเสียว่าทำแล้วเสียใจดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
ลูกนนทรี
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 222


เกษตรศาสตร์_ศาสตร์แห่งแผ่นดิน


« ตอบ #35 เมื่อ: 17-09-2008, 03:15 »


"นิวส์วีค (NEWSWEEK) ยกย่อง “ทักษิโณมิกส์” ระบบเศรษฐกิจแบบใหม่ ที่ครองความนิยมในเอเชีย    



โดย คุณ เอื้องอัยราวัณ
ที่มา เวบบอร์ด ประชาไท


นิวส์วีค นิตยสารชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ที่เคยขึ้นปก 4 ผู้นำในเอเชีย และมีรูปของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย เป็นหนึ่งในผู้นำทั้ง 4 คน รวมอยู่กับนายหม่า อิง จิ่ว ผู้นำของไต้หวัน นายลี เมียง บัก ประธานาธิบดีนักธุรกิจของเกาหลีใต้ และ นายอันวาร์ อิบราฮิม อดีตรองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ภายใต้บทความที่นำเสนอในชื่อว่า The Politics of Practical Nostalgia หรือ การเมืองแห่งการโหยหาอดีตที่ทำได้จริง

ล่าสุดนิตยสารนิวส์วีคฉบับประจำวันที่ 1 กันยายน 2551 ซึ่งออกวางตลาดในเร็วๆ นี้ได้ลงตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยอีกครั้ง ในบทความที่มีชื่อว่า A Leader Who Looms/ ผู้นำที่ยังคงยืนเด่นเป็นตระหง่าน

โดยเนื้อหาของบทความชิ้นนี้ได้ยกย่อง “ทักษิโณมิกส์” ว่า เป็นนโยบายที่ได้รับการยอมรับในภูมิภาคเอเชียอย่างกว้างขวาง มีผู้นำในแถบเอเชียหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียแม้กระทั่งประเทศยักษ์ใหญ่อย่างจีน และอินเดีย ก็ยังเดินตามรอย “ทักษิโณมิกส์” ของอดีตนายกรัฐมนตรีไทย

แถมไม่พลาดที่จะเหน็บพวกปัญญาชนว่า “พวกปัญญาชนผู้รอบรู้ เคยหัวเราะเยาะทักษิณ แต่นโยบายเศรษฐกิจแบบประชานิยมของเขา กำลังได้รับความนิยมแพร่หลายในเอเชีย”

นอกจากนี้นิวส์วีคยังกล่าวยกย่องชมเชย กลยุทธ์ทางเศรษฐกิจของทักษิณ ที่ออกมาในรูป “นโยบายคู่ขนานหรือทักษิโณมิกส์” ว่าเป็น “ความคิดที่ฉลาดหลักแหลม” พร้อมเอ่ยชมอดีตนายกฯทักษิณว่า เป็น “นักคิดทางเศรษฐกิจผู้ยิ่งใหญ่”

โดยในตอนท้ายนิวส์วีคสรุปว่า “นโยบายคู่ขนานที่เฉียบแหลม” นั้น มันทำงานได้ผลจริงๆ

สำหรับ George Wehrfritz แห่งนิตยสาร NEWSWEEK ผู้เขียนบทความ A Leader Who Looms/ ผู้นำที่ยังคงยืนเด่นเป็นตระหง่านนี้ เคยเขียนบทความเรื่อง Buddhist Economics/พุทธเศรษฐศาสตร์ มาแล้วเมื่อต้นปี 2007

==============

ผู้นำที่ยังคงยืนเด่นเป็นตระหง่าน

ถอดความภาษาไทยโดย Thinking in ink

พวกปัญญาชนผู้รอบรู้ เคยหัวเราะเยาะทักษิณ แต่นโยบายเศรษฐกิจแบบประชานิยมของเขา กำลังได้รับความนิยมแพร่หลายในเอเชีย แม้กระทั่งจวบจนวาระที่เขาอำลาประเทศไทย

โดย จอร์จ เวอห์ฟริซส์
นิตยสารนิวส์วีคระหว่างประเทศ ฉบับวันที่ 23 สิงหาคม 2551

ในศัพท์ทางการเมือง คุณทักษิณ ชินวัตร เป็นได้ทุกอย่าง ยกเว้น “ผู้สูญเสียอำนาจ” เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว อดีตนายกรัฐมนตรี แอบดอดเดินทางไปต่างประเทศ มุ่งสู่คฤหาสน์หลังงามในอังกฤษของเขาอย่างเงียบๆ เป็นการจบความคาดหวังที่เคยคาดการณ์ไว้ว่า การกลับคืนสู่มาตุภูมิด้วยความภาคภูมิใจในชัยชนะของเขา เมื่อเดือนมกราคมอาจเป็นลางบ่งบอกถึงการหวลกลับคืนสู่เวทีการเมืองระดับชาติอีกครั้ง จากที่ต้องลี้ภัยอยู่หลายเดือน หลังถูกโค่นล้มอำนาจจากการทำรัฐประหารอย่างไม่เสียเลือดเนื้อ เมื่อปี 2549 คุณทักษิณได้ออกแถลงการณ์ ถึงสาเหตุที่ต้องบินไปยังอังกฤษครั้งนี้ว่า ข้อกล่าวหาเรื่องเส้นสายแห่งการคอร์รัปชันและข้อกล่าวหาอื่นๆ กำลังถูกนำเข้าสู่การพิจาราณาคดีในชั้นศาลไทย “ที่มีธงตั้งไว้แล้วล่วงหน้า เพื่อจัดการกับผมและครอบครัว” การลี้ภัยแบบคาดไม่ถึง ของมหาเศรษฐีพันล้าน(เหรียญสหรัฐ)ผู้สร้างฐานะด้วยตนเองครั้งนี้ ก่อให้เกิดการถกเถียงถึง ความถูกต้องของข้อกล่าวหาที่เขากำลังเผชิญอยู่ ทั้งเรื่องที่ทางกรุงเทพฯ ควรดำเนินการเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ และตัวจักรทางการเมืองของคุณทักษิณในอนาคต

แต่แทบไม่มีการกล่าวถึง ผลงานที่อยู่ยืนยงสถาพรของคุณทักษิณเลย นั่นคือ : “การพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานราก” ที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในหมู่ประเทศกำลังพัฒนา ในการโปรโมทตัวเองนิดหน่อยอย่างไม่ต้องอาย คุณทักษิณประทับตรายุทธศาสตร์การพัฒนานี้ว่า “ทักษิโณมิกส์” ยุทธศาสตร์นี้ ถูกนำไปใช้ในการรณรงค์หาเสียงว่า เป็นนโยบายเพื่อยกระดับฐานะของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตที่เขาลงสมัคร – ชาวไทยชนบท – ให้พ้นจากความยากจน นโยบายทักษิโณมิกส์ถูกนำไปใช้ปฏิบัติจริง หลังจากที่เขาชนะเลือกตั้ง กลับเข้ามาเป็นรัฐบาลเมื่อปี 2544 ความคิดริเริ่มของคุณทักษิณ ได้พลิกฟื้นความเสียหายที่เกิดจากวิกฤติการเงินเอเชีย ช่วงปี 2540-41 และทำให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย เป็นไปอย่างรวดเร็ว จนเป็นที่อิจฉาในภูมิเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันนี้ นโยบายเศรษฐกิจที่หยิบยืมมาจาก“ทักษิโณมิกส์” กำลังถูกนำไปใช้เพิ่มมากขึ้น ทั่วทั้งกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย เพื่อจัดการกับปัญหาเดียวกัน ที่เคยระบาดในประเทศไทยช่วงปลายทศวรรษ 1990 และในตอนนี้ได้คุกคามทั่วทั้งภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง : การพึ่งพาตลาดส่งออกจากอีกประเทศหนึ่งมากเกินไป การพัฒนาแบบไม่เท่าเทียมในประเทศ และ ช่องว่างของรายได้ ระหว่างคนรวยและคนจน ที่เพิ่มถ่างมากขึ้น

นักวิพากษ์วิจารณ์ ได้ประณามนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของคุณทักษิณว่า เป็น “นโยบายประชานิยม ที่ผลาญเงินงบประมาณอย่างมหาศาล” แต่ผู้ที่ไม่ยอมรับนโยบายของทักษิณเหล่านี้ ต้องรีบเปลี่ยนความคิดอย่างรวดเร็ว เมื่อนโยบายประชานิยมอย่าง การพักหนี้เกษตรกรและกองทุนหมู่บ้านได้กระตุ้นภาคอุตสาหกรรมการผลิตและบริการ ให้เกิดขึ้นในระดับรากหญ้า และการปรับปรุงสวัสดิการพื้นฐานที่อ่อนแอของประเทศไทยให้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดให้มีโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาท รักษาทุกโรค(เกือบฟรี) ได้ช่วยปลดปล่อยครัวเรือนในชนบท ให้เกิดการออมน้อยลง และออกไปจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น(ยกระดับการบริโภคภายในประเทศ) คุณทักษิณเรียกยุทธศาสตร์นี้ว่า “การพัฒนาแบบคู่ขนาน” หรือ “การพัฒนาเศรษฐกิจทวิวิถี” ซึ่งกระตุ้นให้เกิดอุปสงค์จากตลาดภายในประเทศมากขึ้น ควบคู่ไปกับภาคการส่งออก และมันทำงานได้ผลจริงๆ

แน่นอนว่า หนี้สาธารณะได้เพิ่มสูงขึ้น แต่ก็ชดเชยด้วยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และรายได้จากภาษีอากรที่เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจของประเทศไทย ขยายตัวเกือบ ร้อยละ 6 ต่อปี จากปี 2544-2549 โดยพึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศ และการส่งออกที่ลดลง และจริงๆ แล้วช่องว่างระหว่างรายได้ของประเทศไทย ก็หดแคบลง ในขณะที่ระยะห่างระหว่างคนมั่งมีและคนยากจน กลับกว้างมากขึ้น ทุกหนแห่งในภูมิภาคเอเชียอย่างเห็นได้ชัด

ระบบคิดในการดำเนินกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจของทักษิณในตอนนี้ ได้รับการยอมรับนับถือว่า เป็น “ความคิดที่ฉลาดหลักแหลม” นโยบายประชานิยมที่เน้นการเข้าถึงแหล่งทุน โอกาสในการจ้างงาน และการบริการสังคมขั้นพื้นฐานสามารถเปลี่ยนโฉมจากภูมิภาคที่เสียเปรียบ กลายเป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกได้ ประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย ซูซิโล บัมมัง ยุดโดโยโน ได้เดินตามรอย “ทักษิโณมิกส์” ในการช่วยเหลือครัวเรือนที่ยากจน ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จากปัญหาราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น โดยออกมาตราการใช้เงินอุดหนุน พยุงราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ เพื่อไม่ให้คนยากจนต้องใช้น้ำมันแพง หรือ นายมันโมฮัน ซิงห์ นายกรัฐมนตรีของอินเดีย ได้ริเริ่มโครงการสร้างงานในชนบทหลายล้านตำแหน่ง ความต้องการในการบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของเขา สะท้อนให้เห็นถึงการเดินตามนโยบายประชานิยมของทักษิณเป็นอย่างมาก หรือ ประธานาธิบดีกลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย แห่งฟิลิปปินส์ ที่ครั้งหนึ่งเคยประกาศว่า “ฉันเป็นสานุศิษย์ของทักษิโณมิกส์อย่างไม่อาย” และนับตั้งแต่ปี 2549 เมื่อจีน เปิดตัวโครงการขนาดยักษ์ใหญ่ เพื่อปรับเปลี่ยนทิศทางการลงทุนของรัฐ ที่ต้องการเนรมิตโครงการ “การพัฒนาชนบทตามแนวทางสังคมนิยมรูปแบบใหม่” ขึ้นในพื้นที่ชนบทห่างไกล ทางปักกิ่ง ได้ยกเลิกภาษีการเกษตรทั่วประเทศ จัดสรรเม็ดเงินหลายร้อยล้าน(เหรียญสหรัฐ)ให้กับอุตสาหกรรมในชนบท และนอกจากนี้ ยังหาหนทางเพื่อช่วยฟื้นฟูจังหวัดที่ยากจนทางตอนกลางของประเทศ(ย้อนไปในปี 2003 จีนได้ส่งคณะผู้แทนชุดหนึ่ง ไปยังประเทศไทยเพื่อศึกษา “ทักษิโณมิกส์” ตามรายงานของทางการจีน)

บรรดาผู้นำของจีนได้ยืนยันถึงความสำคัญของสิ่งที่ประธานาธิบดี หู จิ่นเทา เรียกว่า “การเติบโตที่ก้าวไปพร้อมกัน” เมื่อครั้งที่สภาประชาชนแห่งชาติ จัดการประชุมขึ้นช่วงเดือนมีนาที่ผ่านมา และไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รายงานการวิเคราะห์ของจีนและต่างประเทศ ได้บอกเป็นนัยว่า ในเร็วๆ นี้ ทางปักกิ่ง จะเปิดเผยถึงมาตรการทางด้านการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดยักษ์ ซึ่งพุ่งเป้าไปที่ภาคเศรษฐกิจที่มีข้อเสียเปรียบ

ในฐานะผู้นำชาติอาเซียน ที่เป็นผู้บุกเบิกการพัฒนาเศรษฐกิจแบบคู่ขนาน หากไม่ผิดพลาดทางการเมืองแบบมโหฬารอย่างไม่น่าให้อภัยเสียก่อน ทักษิณอาจก้าวขึ้นสู่ “ทำเนียบปูชนียบุคคล แห่งแวดวงนักคิดทางเศรษฐกิจผู้ยิ่งใหญ่” ไปแล้ว โดยในช่วงปลายปี 2548 เขาได้ขายกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมขนาดใหญ่ของครอบครัว ให้กับบริษัทเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ ที่สนนราคา 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยไม่ต้องจ่ายภาษี ดีลการซื้อขายครั้งนี้ พิสูจน์แล้วว่า เป็น”การวางแผนที่ผิดพลาด” แม้แต่ในประเทศที่มีวัฒนธรรมการเมืองแบบระบบพวกพ้อง ที่อะลุ้มอะหล่วยต่อกันอย่างไทย ในการเปิดเกมรุกโต้ตอบทักษิณครั้งนี้ ได้มีการประสานความร่วมมือกันระหว่างชนชั้นสูง ที่เป็นกลุ่มทุนเก่า พรรคร่วมฝ่ายค้าน และผู้มีอำนาจในกองทัพ โดยเรียกร้องให้เขาลาออก และจัดแสดงการชุมนุมประท้วงบนท้องถนน ที่ทำให้กรุงเทพฯ เป็นอัมพาตอยู่หลายเดือน ต่อมา ในวันที่ 19 กันยายน 2549 กองทัพไทยได้ทำรัฐประหารเป็นครั้งที่ 13 นับตั้งแต่ปี 2488 เข้ายึดอำนาจการปกครอง ขณะที่ทักษิณยังอยู่ที่กรุงนิวยอร์ค เพื่อกล่าวสุนทรพจน์ที่องค์การสหประชาชาติ

ในตอนแรก รัฐบาลทหาร พยายามที่จะเก็บพับ “นโยบายทักษิโณมิกส์” โดยเชิดชูยกย่อง “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิถีชีวิตแบบพุทธขึ้นมาแทน อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาสะท้อนกลับอย่างรุนแรง ที่เป็นไปแบบทันควัน ทำให้บรรดานายทหารต้องรีบเปลี่ยนแนวนโยบายแทบไม่ทัน แม้กระทั่งโละทิ้งโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 รักษาทุกโรคของทักษิณ เปลี่ยนมาเป็น “รักษาฟรีทุกโรค” แทน รัฐบาลชุดใหม่ของไทย ได้เดินตามรอยนโยบายของทักษิณ ด้วยการออกมาตรการลดภาษีน้ำมัน ใช้ไฟฟ้า-ประปาฟรี สำหรับครัวเรือนขนาดเล็กและกระทั่งขึ้นรถเมล์-รถไฟฟรี! รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กล่าวถึงมาตราการที่ออกมาเหล่านี้ว่านโยบาย (6 มาตรการ 6 เดือน)เหล่านี้ จะช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจประจำปี สูงถึงร้อยละ 6 และสามารถลดการใช้จ่ายของครัวเรือนได้ประมาณ 350 เหรียญสหรัฐต่อปี โดยเฉลี่ย “ผู้ที่นำเสนอนโยบายเหล่านี้มาปฏิบัติ จะได้คะแนนเสียงอย่างแน่นอน ส่วนผู้ที่ยกเลิกนโยบายเหล่านี้ จะสูญเสียคะแนนเสียงแทน” นิธินัย สิริมัทการ นักเศรษฐศาสตร์อิสระกล่าว

แต่นั่นเป็นเพียงบางส่วน ของการอธิบายถึงความนิยมของนโยบายประชานิยมเท่านั้น เมื่อผลงานในอดีตของทักษิณแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม บทสรุปอีกอันที่ตามมาก็คือ “นโยบายคู่ขนานที่เฉียบแหลม” จริงๆ แล้วมันทำงานได้ผลนั่นเอง "




                                                     นิยมมากมายเลยไอ้ระบบเศรฐกิจเอี้ยนี่ พังเศรษฐกิจพอเพียงซะไม่มีดิบดีเลย มีการให้กองทุนหมู่บ้านล่ะ1ล้าน แต่ชาวบ้านก็เอาไปซื้อมือถือทีวี มอเตอร์ไซด์ มันต้องขายการประปาการไฟฟ้าด้วยใช่ม่ะจ๊ะ ขายมันให้หมดไปเลย เศรษฐกิจดีแน่ล่ะสิ ก็เล่นขูดรีดเงินภาษีมาจากประชาชนเมื่อตอนแปรรุปรัฐวิสาหกิจแล้วนี่ค่าน้ำค่าไฟก็แพงขึ้น เออไหนอธิบายสิว่าทำไมระบบทักษิโณมิกส์มันต้องขายสมบัติชาติ ตอบด้วยนะ ไม่ได้ให้แถครับ
บันทึกการเข้า

เกลียดพวกเลียไอ้เหลี่ยม ไม่นิยมบัตรเติมเงิน
yuwadee
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #36 เมื่อ: 17-09-2008, 07:33 »

ชั่วลูกชั่วหลาน...

สมน้ำหน้า...แก๊งค์อันธพาลครองเมือง..
บันทึกการเข้า
moon
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 780


« ตอบ #37 เมื่อ: 17-09-2008, 07:37 »

ชั่วลูกชั่วหลาน (ของพวกลิ่วล้อ)
บันทึกการเข้า
yuwadee
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #38 เมื่อ: 17-09-2008, 07:38 »

ขอบคุณจ้า...สาธุขอให้เป็นจริงสมความตั้งใจจ้า....
บันทึกการเข้า
rakbankerd
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13


« ตอบ #39 เมื่อ: 17-09-2008, 08:45 »

คนชั่วๆอย่างมัน ไม่นานก็ฉิบหายไปเอง
บันทึกการเข้า

บ้านเมืองที่วุ่นวายทุกวันนี้ก็เพราะเราเลือกคนไม่ดี ให้มีอำนาจในบ้านเมืองคิดถึงแต่ประโยชน์ของตัวเอง
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #40 เมื่อ: 17-09-2008, 09:32 »


 ผมว่าคุณไปสนใจในเรื่องไม่เป็นเรื่องนะครับ เหล่าอมาตธิปไตยและอนาธิปไตยที่คุณพยายามอ้างถึง..มีอิทธิพลรึ?
ถ้าชนเหล่านั้นมีจริง เข้มแข็งและมีฤทธิ์เดชที่สามารถชี้นิ้วเล่นงานทักษิณจนต้องหนีได้ก็คงไม่ต้องเดือดร้อน
ช่าวบ้านมากมายมาเดิมมานั่งขับไล่เนิ่นนานหลายเดือน  ...แต่เอ๊ะที่ทักษิณต้องหนีเพราะจำนนด้วยหลักฐาน
ว่าตนชั่วจริงมิใช่หรือครับ กลัวคุกจนต้องหนี

ตอบง่ายมากเลยอ่ะ....เริ่มจากคนเทเวศน์บัญชาการให้มีการทำรัฐประหารเมื่อ19ก.ย.2549(สุริยะใสเป็นคนให้สัมภาษณ์สื่อเองกับปาก) จากนั้นก็แต่งตั้งกลุ่มคนต่างๆที่เป็นศัตรูทางการเมืองกับระบอบทักษิณเช่น เจิมศักดิ์ ประสงค์ คำนูน กุเทพ เข้าไปในสสร.โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำลายล้างระบบพรรคการเมือง  แต่งตั้ง ศาลรธน. คตส. และ ปปช. ให้เช็คบิลระบอบทักษิณ  ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้พิสูจน์ตัวเองมาตลอดว่ามีแนวคิดที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบทักษิณและรากหญ้า การร่วมมือกันของกลุ่มคนดังกล่าวจึงได้รับการปฏิเสธในความน่าเชื่อถือจากคุณทักษิณ คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ทราบและเข้าใจในวัตถุประสงค์ลึกๆของระบบอมาตยาธิปไตยได้ดีว่าไม่ต้องการให้คนจนได้มีสิทธิ์มีเสียงตลอดจนอำนาจเพราะกลัวการเปลี่ยนแปลงจนควบคุมไม่ได้นั่นเอง





 ประเด็นคนรักทักษิณ ก็มีคนพูดถึงไปเยอะแยะมากมายหลายตัวอย่าง  มองกลับกันก็ทำไมไม่ถามบ้างล่ะครับ
ว่าชาวบ้านที่เค้าไม่ชอบหรือรังเกียจทักษิณเค้าสามารถอธิบายได้ไหมว่าทักษิณไม่ดีอย่างไร

ระบบการกล่าวหาลอยๆและการใช้สถาบันบางสถาบันเป็นเครื่องมือในการให้ร้ายกล่าวโทษผู้อื่นถือเป็นการกระทำที่ไม่มีประเทศไหนในโลกนี้ให้การยอมรับ ถ้าคตส. ปปช. และ ศาลรธน.โปร่งใสและมีความยุติธรรมจริง คงไม่ใช้กฏหมายฉบับเดียวกันเล่นงานแต่คนในระบอบทักษิณโนมิคเพียงฝ่ายเดียวแน่นอน คุณเคยได้ยินข่าวว่าองค์กรต่างๆเหล่านี้เล่นงานฝ่ายอื่นไหมนอกจากคนในระบอบทักษิณโนมิค!?!




...หากคิดว่าระบอบทักษิณดีจริง ทักษิณทำถูกจริง ทำไมเกรงกลัวอาญาแผ่นดิน ทำไมต้องแทรกแซงทุกอย่าง
ให้ตัวเองไม่ผิด ทำไมอยากแก้กฎหมายที่ตนไม่สามารถแทรงแซงได้ ก็เข้ามาอยู่ในระบบ ในกฎหมายเดียวกันสิ
เลิกใช้เล่ห์เหลี่ยมสิ  กฎหมายบัญญัติให้ผิดเรื่องซื้อเสียงโกงเลือกตั้งรุนแรงขึ้นก็ดิ้นกันจะเป็นจะตาย...เขากลัวมันโกง  
ไม่ใช่กลัวเพราะคนรักทักษิณ... หรือถ้าคนในระบอบทักษิณมีคนรักมากกลัวอะไรล่ะ จะซื้อเสียงทำไม ห๊า!!!

ทุกพรรคการเมืองในการเลือกตั้งที่ผ่านมาก็ล้วนโดนใบเหลือ/แดงกันถ้วนหน้า พปช.ก็น้อมรับในกติกามาตลอด...ไม่เห็นมีใครดิ้นอย่างที่กล่าวหากันเลยนี่นา ขนาดมีข่าวว่าพปช.จะโดนยุบพรรค...คนพปช.ก็น้อมรับไม่มีปัญหา ส่วนที่บอกว่าคุณทักษิณเคยแทรกแซง-แก้กฏหมายนั้น...อย่างไรและตรงไหน? กรุณาระบุให้ชัด

 
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #41 เมื่อ: 17-09-2008, 09:36 »

อีกไม่กี่วัน ทักษิณกับเมีย ถูกตัดสินติดคุก ยึดทรัพย์

ระบอบทักษิณ คงเบาลงไปเยอะ

คงไม่มีนายทุนบ้าๆ มาทุ่มกับการลงทุนทางการเมืองอีก

ถ้ามีอีกก็จับติดคุก ยึดทรัพย์ ต่อไปคงไม่มีใครกล้าทำ


 


อืมมมม...ถ้ามั่นใจอย่างนั้นจริง ระบบการเมืองใหม่ของพันธมารก็แห้วอ่ะเซ่เพราะมันไม่มีเหตุที่จะก่อให้เกิดการซื้อเสียงอีกต่อไปแล้วใช่ป่ะ!?!
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #42 เมื่อ: 17-09-2008, 09:36 »

คุณคิดว่าระบอบทักษิณจะอยู่คู่สังคมไทยอีกกี่ร้อยกี่พันปี?!?  .....

ส่อนิสัยละโมภ อยากได้บัตรเติมเงิน ตลอดชีวิตไง

อยากสั่งสอนให้ลูกหลานรับช่วง'บัตรเติมเงิน'ต่อ......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ปล. ทักษิณและเมียติดคุกเมื่อใด ก็ไม่มี 'บัตรเติมเงิน' เมื่อนั้น....!!!

ดังนั้นควรสั่งสอนลูกหลานให้ทำมาหากินอย่างสุจริตชน ประกอบสัมมาชีพดีกว่า......

ลูกหลานจะไม่ด่าบรรพบุรุษจันราย......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Colorado
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 49



« ตอบ #43 เมื่อ: 17-09-2008, 09:38 »

อ้างถึง
the last emporer
ส่วนที่บอกว่าคุณทักษิณเคยแทรกแซง-แก้กฏหมายนั้น...อย่างไรและตรงไหน? กรุณาระบุให้ชัด
อาแม๊วแกไม่มารายงานตัวต่อศาลอ่ะ หนีคดีไป แล้วบอกว่า ขอลี้ภัยทางการเมือง ...เหอเหอ...กรำ  
บันทึกการเข้า

ดีเรียกว่าชั่วก็ไม่ได้ ...ชั่วจะเรียกว่าดี ก้ไม่ได้
แล้วค่อยยังชั่วล่ะ...มันก็ชั่วอยู่ดี....
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #44 เมื่อ: 17-09-2008, 09:42 »

ทำไมคุณแน่ใจว่าทักษิณจะชนะ


ระบอบอะไรก็ตามที่ทำให้คนส่วนใหญ่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นย่อมเป็นที่นิยมชมชอบและอยู่ในหัวใจประชาชนตลอดไป ไม่ว่าใครจะจับคุณทักษิณไปฆ่าหรือติดคุก......คุณก็ไม่สามารถชนะใจประชาชนได้ตราบที่คุณไม่เห็นคุณค่า ไม่ตอบสนองความต้องการ และไม่ยอมรับในเสียงของประชาชนส่วนใหญ่


ระบอบทักษิณหาใช่ตัวบุคคลไม่ หากแต่เป็นกลไกและแนวคิดที่ประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับต่างหากหล่ะ!!
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #45 เมื่อ: 17-09-2008, 09:44 »

ถ้าคุณ จขกท หายไป ก็หมายถึงเวลานั้นแระ 


แคบไปป่าวคร้า? จขกท.อาจหายไปเฉยๆก็เพราะถูกยึดล๊อคอินและบล๊อคไม่ให้เข้ามาในเว๊บนี้ตลอดไปก็ได้...ทำไมไม่มองดูความเป็นธรรมบ้างอ่ะคร้าคุณนายขา!?!
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #46 เมื่อ: 17-09-2008, 09:46 »

..
..  ผมว่าน่าจะมีอยุ่ เรื่อยๆนะครับ


    แต่อยู่แบบ หมาๆ นะ   




นึกไม่ออกเลยว่าการอยู่แบบหมาๆนี่เป็นอย่างไร? จนกระทั่งเห็นสภาพราวตากผ้าถุง กางเกงใน เสื้อยืดเหี่ยวๆตากแดดในทำเนีบขณะนี้...ชัดเลย!!
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #47 เมื่อ: 17-09-2008, 09:47 »

*  เด๋วไม่นานศาลก็ตัดสินคดีต่าง ๆ ของ  แม้วแล้วหล่ะ ....  อะไรจ๊ะ  ไม่ต้องเร่งหรอก 

    อีกไม่นานระบอบทักษิณก็จะค่อย ๆ หมดราคา  เพราะ  ไอ้ตัวหัวหน้ามัวแต่หนีคดี  ไม่ก็ คิดลี้ภัย
    สงสัย ... จ๊ะ  อยากกระทืบซ้ำ แม้ว  เร็ว ๆ อ่ะดิเลยตั้ง ทู้ แบบนี้
 



ไม่รู้ซิ...รู้แต่ว่าเลือกตั้งทีไรชนะทุ๊กทีเยยน๊า คริ คริ 
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #48 เมื่อ: 17-09-2008, 09:51 »

จขกท. ปลอบใจตัวเอง

ตัดแปะมาจาก ประชาทุย(เว็บขอทาน) และอีนิวส์(ข่าวเถื่อน)


ปลอบใจตัวเองทามมายอ่ะ....ฝ่ายทักษิณโนมิคเป็นรัฐบาลอีกแร๊ะแบบนี้น๊ะ สงสัยบางคนแถวนี้คงร้องไห้กระซิกๆน้ำตาเช็ดหัวเข่าแหง๋ๆเยยยยยยยย หุ หุ
บันทึกการเข้า
คังดิกคู
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 180


คังดิกคูชื่นชมนายกทักษิณ เกลียดอันธพาลทางเวบบอร์ด


« ตอบ #49 เมื่อ: 17-09-2008, 11:07 »

ระบอบทักษิณอยู่นานๆ ยิ่งดี

สาวกพันธมารจะได้มีข้ออ้างครอบครัว หนีไปมั่วเซ็กส์กันได้ 

พวกสาวกพันธมารมันเบื่อง่ายไม่ชอบจำเน หนีผัว หนีเมียไปจับคู่กันในม๊อบ

บางคนเวลาน้อย เลยถุงยางเกลื่อนทำเนียบ 
บันทึกการเข้า

อย่าเกลียดนายก จนทำลายชาติของตัวเอง
อย่าหลงตัวเองว่าตัวเอง รู้ข้อมูลดีกว่าคนที่รักนายก
อย่าใช้ชีวิตอยุ่ด้วยสำรอกความเกลียดทางเวบบอร์ด
ชีวิตจะเป็นสุข นะจ๊ะ ไม่อยากสีซอให้ฟังบ่อย ๆ
หน้า: [1] 2
    กระโดดไป: