วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551
ทัศนะวิจารณ์
กาแฟดำ 17 กันยายน พ.ศ. 2551 05:00:00
Black September แรกเริ่มมีคำเตือนถึง 5 วันอันตราย หลังจาก สภาล่ม เมื่อวันศุกร์ก่อน
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : เพราะ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล และบางมุ้งในพลังประชาชน
บอยคอต การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือก สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ
จากนั้นก็กลายเป็น
48 ชั่วโมงอันตราย เพราะ
กลุ่มเพื่อนเนวิน ที่เป็น ส.ส.ภาคอีสาน 72 คน ขอให้กรรมการบริหารพรรค
ทบทวน มติที่ให้โหวตให้กับ
สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ ในสภาวันนี้
เช้าเมื่อวานนี้ก็ยังเป็น
24 ชั่วโมงอันตราย เพราะการต่อรองระหว่างกลุ่มต่างๆ ในพรรคพลังประชาชนยังดำเนินต่อไปถึงนาทีสุดท้าย
สิ่งที่เราได้ยินตัวแทนของคนกลุ่มที่ต้องการให้
น้องเขยทักษิณ เป็นนายกฯ กับที่ต้องการให้
อดีตมือขวาทักษิณ เป็นผู้นำรัฐบาลคนใหม่นั้น เป็น "
การเมืองน้ำเน่า" ที่วนเวียนอยู่ในบ่อน้ำครำเดิม
ทั้งสองฝ่ายบอกว่าความเห็นแตกต่างคือ
สีสัน ของความเป็นประชาธิปไตยในพรรค แต่ความจริงก็คือการต่อรองผลประโยชน์ที่ยังไม่ลงตัว
ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง
สีสัน เพื่อต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี หรือเป็นการแสดงพลังเพื่อส่งสารไปถึงคนที่ลอนดอน หรือเพื่อเพิ่มราคาของตนเอง นั่นก็คือเกมของ
นักเลือกตั้ง ที่ทำให้มีเสียงเรียกร้องให้มี
การเมืองใหม่ กันในหลายวงการขณะนี้นั่นเอง
เขาไม่ได้ต่อรองกันว่าใครจะเสนอตัวเป็นนายกฯ จะต้องแสดงจุดยืนเรื่องนโยบายของตนที่จะแก้ปัญหาบ้านเมือง
เขาไม่ได้เรียกร้องให้ทั้ง
สาม ส. ที่มีการเอ่ยขานว่ามีคุณสมบัติพร้อมจะเป็นนายกฯ คนต่อไป ออกมาตอบคำถามของประชาชนว่าหากได้เป็นผู้นำแล้ว จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรในบ้านเมืองบ้าง?
เขาไม่สนใจเลยว่าประชาชนมีคำถามในใจต่อผู้ที่เสนอตัวเป็นนายกฯ อย่างไร เพราะพวกเขาคิดแต่เพียงว่าเมื่อมีเสียงข้างมากในสภาแล้ว พวกเขายกมือให้ใคร คนนั้นก็เป็นนายกฯ โดยอัตโนมัติ
ทั้งๆ ที่พวกเขาก็รู้ว่าทั้ง
สาม ส. นั้น ไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นนายกฯ คนใหม่ ก็จะยังมีภาพของการเป็น
นอมินีทักษิณ อยู่ไม่เสื่อมคลาย และพวกเขาก็ยังไม่สำเหนียก ว่านั่นคือหัวเชื้อแห่งความขัดแย้งในสังคม ที่เป็นต้นตอแห่งความสับสนปั่นป่วน ในประเทศชาติทุกวันนี้
เพราะพวกเขาคิดอย่าง
นักเลือกตั้ง ไม่ได้คิดอย่างคนที่มีความรับผิดชอบที่จะต้องแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ซึ่งหมายถึงการพร้อมที่จะเสียสละผลประโยชน์แห่งตนเพื่อพาประเทศชาติให้พ้นจากวิกฤติปัจจุบัน
หากเช้านี้ สภาผู้แทนราษฎรลงมติให้คุณสมชายเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้แก้วิกฤติของบ้านเมือง เพราะเรายังมองไม่เห็นวิสัยทัศน์ในฐานะผู้นำประเทศของคุณสมชายในอันที่จะสลัดภาพของการเป็นเพียงผู้แทนของ
เจ้าของพรรคตัวจริง เพื่อสืบทอดอำนาจต่อเท่านั้นเอง
วันนี้ ศาลอาญาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำวินิจฉัยหรือไม่ อย่างไรต่ออดีตนายกฯ ทักษิณ และภรรยา กรณีที่ดินรัชดาฯ ก็จะมีผลต่อความเป็น"
ผู้นำประเทศ ของคุณสมชายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
และความผูกพันระโยงระยางระหว่างนายกฯ คนใหม่ กับ นายกฯ คนเก่า (รวมไปถึงนายกฯ คนก่อนที่ชื่อสมัคร) ก็จะเป็นข้อต่อแห่งความน่าสงสัยคลางแคลงของคนไทยจำนวนไม่น้อยที่อยากจะรู้ว่าคุณสมชายจะกล้าทำอะไรในฐานะนายกรัฐมนตรีต่อคุณทักษิณและครอบครัว ในสิ่งที่คุณสมชายในฐานะน้องเขยคุณทักษิณไม่กล้าทำหรือไม่?
บุคลิกที่แตกต่างระหว่างคุณสมชายกับคุณสมัคร อาจจะทำให้เห็นว่าบรรยากาศการเผชิญหน้าระหว่างผู้นำประเทศกับคนกลุ่มต่างๆ ในสังคมจะลดความเครียดลง แต่นั่นเป็นเพียงส่วนเสี้ยวเดียวของปัญหาการเมืองที่เรากำลังเผชิญอยู่
แต่ปัญหาหลักยังไม่ได้รับการแก้ไข เพราะเรายังไม่หลุดพ้นจากบ่วงกรรมแห่งผลประโยชน์ของกลุ่มการเมืองตราบเท่าที่
นักเลือกตั้ง ที่เอาผลประโยชน์แห่งตนและพรรคของตนยังครองเมืองในคราบของ
นักประชาธิปไตย
ยังไม่ทันจะเป็นนายกฯ คุณสมชายก็ถูกปรามาสโดยนักวิเคราะห์การเมือง (แม้ในซีกพวกเดียวกัน) ว่าจะอยู่ได้ไม่เกิน 3 ถึง 3 เดือน เพราะจะทนแรงเสียดทานของการเมืองไม่ไหว
แต่คำว่า
ทนแรงเสียดทานการเมือง นั้น ความหมายดูเหมือนจะเป็นแรงกดดันจากข้างนอก
แต่ตัวละครเอกเองอย่าง
สาม ส. นั้น ก็สร้างแรงทางด้านลบทางการเมืองไม่ใช่น้อย เพราะท่านยังไม่สามารถจะชี้แจงแสดงจุดยืนทางการเมืองของตัวเองว่ายืนอยู่ข้างไหนของ ระบอบทักษิณ[/color][/b] ?
สังคมไทยได้สรุปแล้วว่าท่านยืนอยู่ตรงไหน แต่ท่านไม่เคยบอกกับคนไทยทั้งประเทศว่าท่านยืนอยู่กับใครและจะทำงานให้กับใคร
ตราบเท่าที่ท่านยังหลบเลี่ยงที่จะตอบคำถามว่า
ท่านจะทำงานให้ประชาชน ขณะที่เป็นนอมินีของระบอบเก่าได้หรือ?
ท่านก็ยังมีเครื่องหมาย ? ตัวเบ้อเร่ออยู่ตรงหน้าผากอยู่ดี
(เกาะติดการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในสภาผู้แทนราษฎรเช้านี้ และความเห็นหลากหลายได้ที่
www.suthichaiyoon.com <http://www.suthichaiyoon.com> ตลอด 24 ชั่วโมง...เร็ว ด่วน เข้มข้นและลุ่มลึกทั้งบทความ ภาพ เสียง และวีดิโอ)
http://www.bangkokbiznews.com/2008/09/17/news_295029.php