ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 07:49
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  การแก่งแย่งกันเป็น'นายกฯนอมินี'ของ สาม ส. พปช. มีประโยชน์สำหรับประชาชน..? 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
การแก่งแย่งกันเป็น'นายกฯนอมินี'ของ สาม ส. พปช. มีประโยชน์สำหรับประชาชน..?  (อ่าน 1456 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« เมื่อ: 16-09-2008, 12:42 »

การแย่งชิงกันเป็น'นายกฯนอมินี'ของ ส.สามตัว สมชาย สมพงษ์ และ สุรพงษ์ ในพรรคพลังประชาชน เพื่อรับใช้'นายทาส' จำเลยหนีหมายจับศาลยุติธรรม ยิ่งทำให้ประชาชนเบื่อหน่าย สังเวชนักการเมือง สมาชิกสภาฯ ในพรรคพลังประชาชนมากยิ่งขึ้น.....!!!

จนถึงนาฑี พวกเขายังไม่เคยบอกกล่าวให้สัมภาษณ์ว่าจะเลือกเฟ้นว่าที่นายกฯนอมินีด้วยคุณสมบัติ ความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต เที่ยงธรรม ไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อช่วย'นายใหญ่'และพรรคพวก 'ผีโขนด 111 ตน' ให้พ้นผิด ไม่ล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพในการตรวจสอบของประชาชน และยอมรับ'การเมืองภาคประชาชน' .......!!!

เวลานี้พวกเขาสาดโคลนใส่คู่แข่งขันคนอื่นๆว่ามีคุณสมบัติไม่เพียงพอ เป็นน้องเขยจำเลยหนีหมายจับศาลยุติธรรม เป็น'เด็กในบริษัทฯ' ของอดีตนายกฯ จำเลยหนีประกันตัว...ฯลฯ เพื่อช่วงชิงคะแนนเสียงในพรรคพลังประชาชน เพื่อความเป็นใหญ่ในรัฐบาล.....!!!



พฤติกรรมของพวกเขา สส.พลังประชาชน มีอะไรเป็นประโยชน์ต่อชาติ บ้านเมือง เศรษฐกิจ และ ประชาชน คนไทยโดยรวม.....???


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #1 เมื่อ: 16-09-2008, 12:52 »

พวก'บัตรเติมเงิน' พวกอ้างตัว'เป็นกลาง' ในเวบเสรีไทย สนใจตรวจสอบการใช้จ่ายเงินบริจาคของประชาชนให้กับ'พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย' เรียกร้องให้พันธมิตรฯ ถอยออกจากทำเนียบรัฐบาล ฯลฯ........

ไม่สนใจ ไม่เจ็บร้อนแทนประชาชน พลังเงียบ พลัง'เป็นกลาง' ที่พวกสส.พรรคพลังประชาชนไม่สนใจความเดือดร้อน เศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เกี่ยงแย่งกันให้พรรคพวกของตนเป็น'นายกฯนอมินี' อ้างว่าสามารถรับใช้'นายใหญ่' เจ็บร้อน แก้แค้นแทน'นายใหญ่'ได้ มีพลังอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ตามที่'นายใหญ่'ต้องการ  แทรกแซง ทำลายขบวนการศาลยุติธรรมไทยได้ เพื่อไม่ทำหน้าที่พิพากษา ลงโทษจำเลยหนีหมายจับของศาลยุติธรรม......!!!

ในขณะนี้ แกนนำพรรคพลังประชาชนคนใดสำนึกถึงความรับผิดชอบของรัฐบาลรักษาการ เสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภา รับผิดชอบต่อปัญหาบ้านเมือง มากกว่าการชิงดี ชิงเด่น แย่งกันแสดงความภักดีต่อ'นายใหญ่'.......!!!


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #2 เมื่อ: 16-09-2008, 13:09 »

16 กันยายน พ.ศ. 2551 11:59:00

โพลล์ชี้ส่วนใหญ่หนุนยุบสภาเลือกตั้งใหม่

เอแบคโพลล์ เผย69.7%เห็นด้วยยุบสภา 30.3%ไม่เห็นด้วย นศ.74.1% ไม่หนุนรัฐบาลเห็นด้วยยุบสภา พลังเงียบ 78.9%เห็นด้วย กลุ่มหนุนพปช.60.2% กับกลุ่มหนุนปชป.72.4% เห็นด้วย

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเรื่อง “ประชาชนคิดอย่างไร ต่อแนวทางการเลือกตั้งใหม่ คืนอำนาจให้กับประชาชนในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน” กรณีศึกษาประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งใน 26 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 4,447 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 11-15 ก.ย. 2551

โดยพบว่า แนวโน้มความคิดเห็นของสาธารณชนต่อแนวทางการเลือกตั้งใหม่ คืนอำนาจให้ประชาชน เป็นทางออกของสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน เพิ่มสูงขึ้น จากร้อยละ 57.4 ในช่วงต้นเดือน ก.ย. มาอยู่ที่ ร้อยละ 69.7 ในการสำรวจครั้งล่าสุด โดยเห็นว่าเป็นการรักษาระบอบประชาธิปไตย / ให้ประชาชนทั้งประเทศมีส่วนร่วมตัดสินใจแก้ปัญหาการเมือง / เป็นทางออกที่ดีกว่าการยึดอำนาจ หรือรัฐประหาร และไม่มีทางออกอื่นที่ดีกว่า และน่าจะทำให้บ้านเมืองสงบสุขได้ ขณะที่ ร้อยละ 30.3 ระบุ การเลือกตั้งใหม่ไม่ใช่ทางออก เพราะ เลือกตั้งอีกก็มีการซื้อสิทธิขายเสียง และเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ

ทั้งนี้ เมื่อจำแนกออกตามลักษณะทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ในทุกเพศ ทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ ทุกระดับการศึกษา ทุกระดับรายได้ และทุกภูมิภาค ต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่า การเลือกตั้งใหม่เป็นทางออกของสถานการณ์การเมือง ที่น่าสนใจคือ กลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่มีข่าวว่า กำลังมีบทบาทสูงในการเคลื่อนไหวทางการเมืองขณะนี้ เห็นด้วยถึงร้อยละ 74.1 กลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาล เห็นด้วย ร้อยละ 78.9 และกลุ่มพลังเงียบ เห็นด้วย ร้อยละ 74.3 ขณะที่กลุ่มสนับสนุนรัฐบาล แม้จะเห็นด้วยน้อยกว่า แต่ก็ยังมีจำนวนเกินกว่าครึ่งหนึ่ง หรือ ร้อยละ 53.9

นอกจากนี้ เมื่อจำแนกประชาชน ตามพรรคการเมืองที่เคยเลือก พบว่า กลุ่มที่เคยเลือกพรรคพลังประชาชน ร้อยละ 60.2 กลุ่มที่เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มที่เคยเลือกพรรคอื่น ๆ ร้อยละ 72.4 ต่างเห็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ เห็นด้วยกับการคืนอำนาจให้ประชาชน

http://www.bangkokbiznews.com/2008/09/16/news_294902.php
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 16-09-2008, 13:10 »

ตอนแรกเห็นกลุ่มเพื่อนเนวิน บอกว่าจะไม่โหวตให้นายสมชาย
พอได้ 5 เก้าอี้แค่นั้นแหละ เปลี่ยนใจเลย

นี่แหละ พรรคที่เขาบอกว่าทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงครับพี่น้อง 
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #4 เมื่อ: 16-09-2008, 13:18 »

วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2551
ส่งต่อให้ผู้อื่น  พิมพ์ข่าวหน้านี้ บันทึกข่าวลงเครื่อง  ทัศนะวิจารณ์ กาแฟดำ
16 กันยายน พ.ศ. 2551 05:00:00
คำถามสำหรับสาม ส. ที่แข่งเป็นนายกฯ พรุ่งนี้

:ไม่ว่า ส. ไหนใน "สาม ส." จะได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี ในสภาผู้แทนราษฎรวันพรุ่งนี้

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : แต่ละคนจะตอบคำถามของสังคมต่อ "ความเป็นตัวของตัวเอง" ได้แค่ไหน

หรือถามให้ตรงเป้าก็คือว่า ไม่ว่าจะเป็น สมชาย วงศ์สวัสดิ์ หรือ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หรือ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หากขึ้นมาเป็นนายกฯ แล้ว จะไม่เกิดภาพของ ทักษิณ ชินวัตร เป็นเงาทะมึนทับทาบอยู่ข้างหลังอย่างไร

สมัคร สุนทรเวช ต้องหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ด้วยเหตุผลชัดๆ ประการหนึ่ง นั่นคือ ความเป็น "นอมินี" ของทักษิณ และแม้เขาจะพยายามสลัดภาพนั้นออกไปในช่วง 7 เดือนที่อยู่ในตำแหน่ง แต่ความจริง ก็คือ ความจริง นั่นคือ สมัครไม่สามารถจะปกครองประเทศในนามของตนเองได้

เมื่อคนไทยส่วนใหญ่เชื่อว่าเขาเป็น "ตัวแทนผลประโยชน์" ของทักษิณ และเขาไม่อาจจะสลัดภาพนั้นออกไปได้ ความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนต่อเขาก็ย่อมจะเสื่อมถอย...ประกอบกับทัศนคติ และลีลาท่าทางที่ปะฉะดะกับทุกคนที่ไม่เห็นด้วยกับเขา ความชอบธรรมของสมัครก็หมดสิ้น รอวันสิ้นลมหายใจทางการเมืองเท่านั้น

และเมื่อวันสุดท้ายมาถึง มันก็มาอย่างสายฟ้าแลบที่เจ้าตัวยังไม่อาจคาดการณ์ได้ล่วงหน้าด้วยซ้ำไป

พรุ่งนี้ การตัดสินของพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาลอีก 5 พรรคที่จะเลือกหนึ่งใน "สาม ส." จะอยู่บนพื้นฐานอะไร

กระแสข่าวหนาหูบอกว่า ในพรรคพลังประชาชน มีการแบ่งเป็นมุ้งหลายกลุ่ม แต่ละกลุ่มก็สนับสนุนหนึ่งในสาม ดังนั้น คำว่า "เอกภาพ" ในการลงคะแนนเสียงจึงไม่เกิด และหากในพรรคพลังประชาชนแตก พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 ก็คงจะพลอยแบ่งแยกออกไปเช่นกัน

ภาพของคุณสมชายนั้น แม้จะประนีประนอมมากกว่าอีกสองคน แต่ก็มีจุดอ่อนตรงที่เป็น "เลือดเนื้อเชื้อไข" ของทักษิณ เพราะสถานภาพของการเป็นน้องเขย

คุณหมอสุรพงษ์ มีลีลานุ่มนวล และไม่ก้าวร้าวเหมือนสมัคร อีกทั้งมีความพร้อมจะเรียนรู้ แต่ก็เคยเป็น "มือขวา" และ "หนังหน้าไฟ" ของ "นายใหญ่จากลอนดอน" เช่นกัน

คุณสมพงษ์นั้น แม้จะมีระยะห่างด้านความสัมพันธ์ส่วนตัวกับทักษิณ มากกว่าทั้งสองคนแรก แต่เมื่อก้าวขึ้นมาเป็นรัฐมนตรียุติธรรมใหม่ๆ ก็ได้สั่งย้ายอธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ หรือ DSI ซึ่งกำลังสอบสวนหลายคดีที่กล่าวหาทักษิณ จึงทำให้เกิดความคลางแคลงว่า เขาก็หนีไม่พ้นภาพของการเป็นส่วนหนึ่งของ "ระบอบทักษิณ" เช่นกัน


ไม่ว่าใครในสามคนนี้จะขึ้นมาเป็นนายกฯ ก็จะต้องเจอกับคำถามของสาธารณชน ว่า

1. จะเดินหน้าคดีต่างๆ ที่สอบสวนทักษิณ อย่างเอาจริงเอาจังเพียงใด

2. จะผลักดันให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องทำตามกฎหมายว่าด้วยการเอาตัวทักษิณกลับมาขึ้นศาลในฐานะ "ผู้ร้ายข้ามแดน" เพียงใด

3. จะตัดสินยกเลิกพาสปอร์ตการทูตของทักษิณในฐานะที่อดีตนายกฯ คนนี้หนีหมายจับของศาลอย่างที่ควรจะทำหรือไม่

4. จะสามารถสร้างความสมานฉันท์ในสังคมไทยด้วยการปฏิบัติต่อผู้ไม่เห็นด้วยกับ "ระบอบทักษิณ" ได้มากน้อยเพียงใด

คำถามเหล่านี้ เพิ่มจากความคาดหวังของประชาชนทั่วไป ที่ต้องการเห็นประเทศชาติกลับสู่ภาวะปกติ และสร้างความมั่นใจให้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศว่า ผู้นำคนใหม่จะสามารถให้คนไทยทุกหมู่เหล่า และที่มีความเห็นที่แตกต่างนั้นสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ และร่วมกันแสวงหาทางออกให้กับประเทศชาติโดยไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย

และไม่บังคับให้ประชาชนต้อง "เลือกข้าง" อย่างที่ทักษิณ และสมัคร ทำมาก่อนหน้านี้จนบ้านเมืองใกล้ภาวะ "ล่มจม" อย่างที่เห็นกัน

แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่ว่า "ส." ไหน จาก "สาม ส." จะขึ้นมาเป็นนายกฯ ก็คงเรียกศรัทธาที่เสียไปจากประชาชน กลับฟื้นคืนมาในระยะเวลาอันสั้นได้ยากยิ่ง

จึงอย่าได้แปลกใจหากนายกฯ คนใหม่ จะตัดสินใจประกาศยุบสภา เพื่อ "คืนอำนาจให้กับประชาชน" อีกครั้งหนึ่ง


(เข้ามาร่วมแสดงความเห็นเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ได้ที่ www.oknation.net/blog/black)


http://www.bangkokbiznews.com/2008/09/16/news_294658.php


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-09-2008, 13:21 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #5 เมื่อ: 16-09-2008, 13:36 »

  "ทรงศักดิ์"วอนอย่าโยง"เนวิน" ขู่กลุ่มหนุน"สมชาย"รับผิดชอบ

 

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะแกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน พรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงปัญหาความแตกแยกภายในพรรคเกี่ยวกับการเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ทางกลุ่มเพียงอยากให้พรรคทบทวนความเห็นของ ส.ส.ในกลุ่มเพื่อนเนวินทั้ง 73 คน เชื่อว่าจะสามารถสรุปเรื่องนี้ได้ภายในเวลา 14.00 น. และระบบจะเดินหน้าต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังทางกลุ่มยังไม่มีสรุปใดๆ เนื่องจากยังไม่มีการประชุมแกนนำบริหารพรรคอีกครั้งอย่างเป็นทางการ


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เสียงโหวตนายกรัฐมนตรีแตก เพื่อต่อรองตำแหน่งหรือไม่ นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า กลุ่มเนวินไม่ได้เสนอชื่อว่าเป็นใคร แต่อยากให้พรรคพิจารณา ว่า ผู้ถูกเสนอชื่อทั้ง 3 ส.เข้าข้อแถลงการณ์ 3 ข้อของทางกล่มหรือไม่ เนื่องจากสถาบ้านเมืองต้องแก้ไขอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเหตุการณ์สภาล่ม ในวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมาเป็นอีกอุทาหรณ์ ว่าหากสมาชิกพรรคมีความเห็นไม่ตรงกัน ก็อาจเกิดปัญหาขึ้นได้


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และรักษาการนายกฯ ไม่เหมาะสมตรงไหน รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ทั้ง 3ส.เหมาะสมทั้งหมด แต่ทางพรรคยังกังวลสถานการณ์บ้านเมือง จึงคิดว่าต้องคุยกันให้ได้ข้อตกลง ทั้งนี้ไม่คิดว่าสถานการณ์บานปลาย ส่วนยุบสภานั้นก็เป็นทางออกหนทางหนึ่งของประชาธิปไตย


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคพลังประชาชนนำปัญหาภายในพรรคเกี่ยวโยงกับการยุบสภา สังคมจะรับได้หรือไม่ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องอธิบายความกันไป อย่างไรก็ตาม การเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นเอกสิทธิ์ของส.ส.


" หากติดตามการเมืองมาตั้งแต่ต้น จะเป็นว่ากลุ่มเพื่อนเนวินคือกลุ่มที่สร้างพรรคพลังประชาชน เราต่อสู้การเมืองตลอดภายหลังรัฐประหารและเราก็รักพรรคพลังประชน แต่เราเห็นว่ากรรมการบริหารรพรรคต้องฟังความเห็นของสมาชิกพรรคทุกคนด้วย" รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าว


นายทรงศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่าเอาเรื่องนี้ไปผูกนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย แต่เห็นว่านายเนวินห่วงประเทศและประชาชน หากคุยกันภายในพรรคจนเป็นที่เข้าใจแล้ว ผลที่ออกมาก็คงเป็นไปในแนวทางที่ดี นอกจากนี้ เห็นว่า หากพรรคยืนยันจะส่งนายสมชายตามมติเดิม และเกิดปัญหาตามมา คนที่มีส่วนร่วมในมตินั้นต้องรับผิดชอบ และยืนยันการกระทำครั้งนี้ไม่ได้เอาคืน หลังจากทางกลุ่มสนับสนุนให้เสนอชื่อนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี แล้วเกิดเหตุการณ์สภาล่ม 


 

"อนงค์วรรณ"แนะตกลงกันให้ได้ ก่อนโหวตเลือกนายกฯ


นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงกรณีการเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า อยากให้ทุกฝ่ายคิดร่วมมือกัน ช่วยกันทำเพื่อประเทศ

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลสามารถให้ความมั่นใจโหวตเลือกนายกฯ ได้แค่ไหน นางอนงค์วรรณ กล่าวว่า ใครก็คงให้ความมั่นใจไม่ได้ เพราะก่อนตัดสินใจทำอะไร จะต้องตกลงกติกากันให้ได้ก่อน จากนั้นจึงสามารถยอมรับการกระทำกันได้

 http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1221492475&grpid=00&catid=01
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #6 เมื่อ: 17-09-2008, 13:01 »

วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551

ทัศนะวิจารณ์
กาแฟดำ

17 กันยายน พ.ศ. 2551 05:00:00

Black September

แรกเริ่มมีคำเตือนถึง “5 วันอันตราย” หลังจาก “สภาล่ม” เมื่อวันศุกร์ก่อน

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : เพราะ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล และบางมุ้งในพลังประชาชน “บอยคอต” การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือก สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ

จากนั้นก็กลายเป็น “48 ชั่วโมงอันตราย” เพราะ “ กลุ่มเพื่อนเนวิน” ที่เป็น ส.ส.ภาคอีสาน 72 คน ขอให้กรรมการบริหารพรรค “ทบทวน” มติที่ให้โหวตให้กับ“สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ ในสภาวันนี้

เช้าเมื่อวานนี้ก็ยังเป็น ““24 ชั่วโมงอันตราย” เพราะการต่อรองระหว่างกลุ่มต่างๆ ในพรรคพลังประชาชนยังดำเนินต่อไปถึงนาทีสุดท้าย

สิ่งที่เราได้ยินตัวแทนของคนกลุ่มที่ต้องการให้ ““น้องเขยทักษิณ ” เป็นนายกฯ กับที่ต้องการให้ ““อดีตมือขวาทักษิณ ” เป็นผู้นำรัฐบาลคนใหม่นั้น เป็น "การเมืองน้ำเน่า" ที่วนเวียนอยู่ในบ่อน้ำครำเดิม

ทั้งสองฝ่ายบอกว่าความเห็นแตกต่างคือ ““สีสัน ” ของความเป็นประชาธิปไตยในพรรค แต่ความจริงก็คือการต่อรองผลประโยชน์ที่ยังไม่ลงตัว

ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง “ สีสัน ” เพื่อต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี หรือเป็นการแสดงพลังเพื่อส่งสารไปถึงคนที่ลอนดอน หรือเพื่อเพิ่มราคาของตนเอง นั่นก็คือเกมของ “ นักเลือกตั้ง ” ที่ทำให้มีเสียงเรียกร้องให้มี “ การเมืองใหม่ ” กันในหลายวงการขณะนี้นั่นเอง

เขาไม่ได้ต่อรองกันว่าใครจะเสนอตัวเป็นนายกฯ จะต้องแสดงจุดยืนเรื่องนโยบายของตนที่จะแก้ปัญหาบ้านเมือง

เขาไม่ได้เรียกร้องให้ทั้ง “ สาม ส.” ที่มีการเอ่ยขานว่ามีคุณสมบัติพร้อมจะเป็นนายกฯ คนต่อไป ออกมาตอบคำถามของประชาชนว่าหากได้เป็นผู้นำแล้ว จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรในบ้านเมืองบ้าง?

เขาไม่สนใจเลยว่าประชาชนมีคำถามในใจต่อผู้ที่เสนอตัวเป็นนายกฯ อย่างไร เพราะพวกเขาคิดแต่เพียงว่าเมื่อมีเสียงข้างมากในสภาแล้ว พวกเขายกมือให้ใคร คนนั้นก็เป็นนายกฯ โดยอัตโนมัติ

ทั้งๆ ที่พวกเขาก็รู้ว่าทั้ง “ สาม ส.” นั้น ไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นนายกฯ คนใหม่ ก็จะยังมีภาพของการเป็น “นอมินีทักษิณ” อยู่ไม่เสื่อมคลาย และพวกเขาก็ยังไม่สำเหนียก ว่านั่นคือหัวเชื้อแห่งความขัดแย้งในสังคม ที่เป็นต้นตอแห่งความสับสนปั่นป่วน ในประเทศชาติทุกวันนี้

เพราะพวกเขาคิดอย่าง “ นักเลือกตั้ง” ไม่ได้คิดอย่างคนที่มีความรับผิดชอบที่จะต้องแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ซึ่งหมายถึงการพร้อมที่จะเสียสละผลประโยชน์แห่งตนเพื่อพาประเทศชาติให้พ้นจากวิกฤติปัจจุบัน

หากเช้านี้ สภาผู้แทนราษฎรลงมติให้คุณสมชายเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้แก้วิกฤติของบ้านเมือง เพราะเรายังมองไม่เห็นวิสัยทัศน์ในฐานะผู้นำประเทศของคุณสมชายในอันที่จะสลัดภาพของการเป็นเพียงผู้แทนของ “ เจ้าของพรรคตัวจริง” เพื่อสืบทอดอำนาจต่อเท่านั้นเอง

วันนี้ ศาลอาญาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำวินิจฉัยหรือไม่ อย่างไรต่ออดีตนายกฯ ทักษิณ และภรรยา กรณีที่ดินรัชดาฯ ก็จะมีผลต่อความเป็น"ผู้นำประเทศ” ของคุณสมชายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

และความผูกพันระโยงระยางระหว่างนายกฯ คนใหม่ กับ นายกฯ คนเก่า (รวมไปถึงนายกฯ คนก่อนที่ชื่อสมัคร) ก็จะเป็นข้อต่อแห่งความน่าสงสัยคลางแคลงของคนไทยจำนวนไม่น้อยที่อยากจะรู้ว่าคุณสมชายจะกล้าทำอะไรในฐานะนายกรัฐมนตรีต่อคุณทักษิณและครอบครัว ในสิ่งที่คุณสมชายในฐานะน้องเขยคุณทักษิณไม่กล้าทำหรือไม่?

บุคลิกที่แตกต่างระหว่างคุณสมชายกับคุณสมัคร อาจจะทำให้เห็นว่าบรรยากาศการเผชิญหน้าระหว่างผู้นำประเทศกับคนกลุ่มต่างๆ ในสังคมจะลดความเครียดลง แต่นั่นเป็นเพียงส่วนเสี้ยวเดียวของปัญหาการเมืองที่เรากำลังเผชิญอยู่

แต่ปัญหาหลักยังไม่ได้รับการแก้ไข เพราะเรายังไม่หลุดพ้นจากบ่วงกรรมแห่งผลประโยชน์ของกลุ่มการเมืองตราบเท่าที่ “นักเลือกตั้ง” ที่เอาผลประโยชน์แห่งตนและพรรคของตนยังครองเมืองในคราบของ “นักประชาธิปไตย”

ยังไม่ทันจะเป็นนายกฯ คุณสมชายก็ถูกปรามาสโดยนักวิเคราะห์การเมือง (แม้ในซีกพวกเดียวกัน) ว่าจะอยู่ได้ไม่เกิน 3 ถึง 3 เดือน เพราะจะทนแรงเสียดทานของการเมืองไม่ไหว

แต่คำว่า “ทนแรงเสียดทานการเมือง” นั้น ความหมายดูเหมือนจะเป็นแรงกดดันจากข้างนอก

แต่ตัวละครเอกเองอย่าง “สาม ส.” นั้น ก็สร้างแรงทางด้านลบทางการเมืองไม่ใช่น้อย เพราะท่านยังไม่สามารถจะชี้แจงแสดงจุดยืนทางการเมืองของตัวเองว่ายืนอยู่ข้างไหนของ “ระบอบทักษิณ[/color][/b] ”?

สังคมไทยได้สรุปแล้วว่าท่านยืนอยู่ตรงไหน แต่ท่านไม่เคยบอกกับคนไทยทั้งประเทศว่าท่านยืนอยู่กับใครและจะทำงานให้กับใคร

ตราบเท่าที่ท่านยังหลบเลี่ยงที่จะตอบคำถามว่า “ท่านจะทำงานให้ประชาชน ขณะที่เป็นนอมินีของระบอบเก่าได้หรือ?”

ท่านก็ยังมีเครื่องหมาย ? ตัวเบ้อเร่ออยู่ตรงหน้าผากอยู่ดี

(เกาะติดการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในสภาผู้แทนราษฎรเช้านี้ และความเห็นหลากหลายได้ที่ www.suthichaiyoon.com <http://www.suthichaiyoon.com> ตลอด 24 ชั่วโมง...เร็ว ด่วน เข้มข้นและลุ่มลึกทั้งบทความ ภาพ เสียง และวีดิโอ)

http://www.bangkokbiznews.com/2008/09/17/news_295029.php
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2008, 13:05 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
หน้า: [1]
    กระโดดไป: