ด้านการเมืองก็เคลื่อนไหวต้านรัฐบาลกันไป อีกทางหนึ่งคือกลุ่มอนุรักษ์
ก็ลุกขึ้นต้านนโยบายรัฐบาลที่จะเปิดอุทยานแห่งชาติให้เอกชนเช่า
แบบนี้แล้วค่อยเบาใจได้ว่ารัฐบาลจะฉวยโอกาสฝุ่นตลบทำอะไรไม่ได้ง่ายๆ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ยื่น4,500ชื่อค้านเปิดอุทยานเอกชนเช่าhttp://www.bangkokbiznews.com/2008/09/15/news_294687.php"กลุ่มคนรักษ์อุทยานฯ"ยื่น4,500 ชื่อค้านเปิดอุทยานให้เอกชนเช่าถึงมือ"อนงค์วรรณ"เจ้าตัวส่งปลัดทส.รับหนังสือแทน
อ้างแค่แนวคิด้องส่งให้คกก.อุทยานแห่งชาติ และเปิดประชาพิจารณ์
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : กลุ่มคนรักษ์อุทยานฯ นำโดย น.ส.เวทิดา พงษ์พานิช นายนิพัทธ์พงษ์ ชวนชื่น และตัวแทนจำนวน 15 คน
จากสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย มูลนิธิสืบนาคะเสถียร สมาชิกจากเว็บบอร์ดต่างๆ บนอินเตอร์เน็ต
เช่น เวบไซต์พันทิปดอทคอม ชมรมคนรักเกาะสุรินทร์ และชมรมนักดำน้ำ ที่คัดค้านการเปิดให้เอกชนเข้าหาประโยชน์ในอุทยานแห่งชาติ
ได้เดินทางมายื่นหนังสือให้กับนางอนงค์ วรรณ เทพสุทิน รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่บริเวณชั้น 2
อาคารกรมควบคุมมลพิษ แต่นางอนงค์วรรณ ซึ่งลงมาจากห้องทำงานที่ชั้น 20 พร้อมกับนายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดทส. นายวิวัฒน์
นิติกาญจนา เลขานุการรัฐมนตรี นายพิเชษฐ์ หวังเทพอนุเคราะห์ โฆษกทส. เพื่อเข้าร่วมประชุมผู้บริหารกระ ทรวงเกี่ยวกับปัญหา
สถานการณ์น้ำท่วม โดยอ้างว่าได้ลงมาประชุมช้าแล้ว ขอให้ตัวแทนยื่นหนังสือกับนายศักดิ์สิทธิ์ แทน
น.ส.เวทิดา กล่าวว่า ภายหลังจากมีข่าวว่า นางอนงค์วรรณ มีแนวคิดในการเปิดสัมปทานให้เอกชนเข้ามาดำเนินการโรงแรมและที่พัก
ในเขตอุทยานแห่งชาติชื่อดัง 10 แห่ง
อาทิ หมู่เกาะสุรินทร์ สิมิลัน เขาใหญ่ ดอยอินทนนท์ เป็นระยะเวลา 30 ปี ทางสมาชิกเว็บบอร์ดได้ตั้งกระทู้เกี่ยวกับประเด็นนี้ในเวปไซด์
พันทิบดอทคอม ในห้องบลูพาเน็ต ซึ่งส่วนใหญ่สมาชิกห้องจะเป็นนักท่องเที่ยว นักอนุรักษ์ และภาคประชาชนทั่วไป ปรากฎว่าเพียงแค่
3 สัปดาห์มีผู้แสดงความไม่เห็นด้วยจำนวนมาก จากนั้นจึงได้หารือร่วมกันว่าควรจะต้องแสดงจุดยืนว่าไม่เห็นด้วยกับกรณีนี้ จึงได้ร่วมกัน
ทำหนังสือคัดค้านการเปิดให้เอกชนเช่าพื้นที่ พร้อมกับรายชื่อผู้ไม่เห็นด้วยจำนวน 4 , 491 คนในเบื้องต้นมามอบให้กับทางทส.
เพื่อทบทวนแนวคิดแล้ว และจะมีการล่ารายชื่อคัดค้านต่อ ไปเรื่อยๆ และหวังว่าทางทส.จะรับฟังความเห็นของภาคประชาชน
ขณะที่ นายนิพัทธ์พงษ์ ตัวแทนกลุ่ม Trekkingthai.com กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นนักท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ มานานเกือบ 11 ปี
ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับแนวคิดนี้ ถ้ารัฐเปิดช่องให้เอกชนทำอย่างถูกต้องตามกฎ หมาย ก็ทำให้พื้นที่ถูกคุกคามมากขึ้น เพราะปัญหา
เอกชนเข้ารุกพื้นที่อนุรักษ์มีมานานแล้ว แต่รัฐยังไม่สามารถควบคุมหรือแก้ปัญหาได้ ขณะที่การอ้างว่าต้องการให้มีมืออาชีพมาบริหาร
จัดการนั้น ในต่างประเทศโดยเฉพาะแถบสแกนดินีเวีย และยุโรป เปิดให้เอกชนมาบริหาร แต่ก็ให้อยู่รอบนอกของอุทยาน ไม่ใช่อยู่ใน
เขตอุทยานอย่างที่กรมอุทยานฯกำลังมีนโยบายในตอนนี้
ด้านนายศักดิ์สิทธิ์ เผยภายหลังรับหนังสือคัดค้านว่า ยังยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นแค่แนวคิดที่นางอนงค์วรรณ ได้มอบให้นายวิชิต พัฒนโกศัย
รองอธิบดีกรมอุทยานฯประธานคณะทำงานการท่องเที่ยวและการลงทุนดำเนินกิจกรรมในอุทยานแห่งชาติ ศึกษาความเป็นไปได้เท่านั้น
เนื่องจากการดำเนินการต้องคำนึงถึงกรอบกฎหมายทั้งกฎหมายอุทยาน และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ในเชิงวิชาการที่จะมีข้อมูลสนับสนุนโดยยึดระบบนิเวศน์ และวัตถุประสงค์ของอุทยานเป็นอันดับแรก รวมทั้งข้อคิดเห็นจาก
ทุกภาคส่วนที่จะเข้ามาส่วนร่วม ไม่ใช่แค่เอกชนเท่านั้น แต่หมายถึงภาคประชาชนทุกฝ่าย ทั้งนี้ทางทส. พร้อมรับฟังข้อคิดเห็นจาก
ทุกกลุ่ม แต่เนื่องจากยังไม่ได้ไปถึงขั้นตอนที่จะเปิดกว้างประชาพิจารณ์ในประเด็นนี้
"ยืนยันว่าขณะนี้ยังเป็นแค่แนวคิดเท่านั้น ส่วนที่ระบุว่าจะใช้ตามระเบียบปี 2547 นั้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่คณะทำงานต้องนำมาประเมินผลดี
ผลเสียและความเป็นไปได้ในแง่ของกฎหมาย ซึ่งตามขั้นตอนคณะทำงานฯต้องส่งรายละเอียดให้กับอธิบดีกรมอุทยานฯ และนำเข้าพิจารณา
ในคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ที่ผมเป็นประธานอยู่ด้วย และคณะกรรมการกระทรวงตามลำดับ จากนั้นจึงจะเชิญทุกส่วนเข้ามารับฟัง
หากจะดำเนินการต้องมีผลดีมากกว่าผลเสีย และไม่เปิดทุกแห่งอย่างแน่นอน ซึ่งได้สอบต่อนายไพศาล กุวลัยรัตน์ อธิบดีกรมอุทยานฯ
แล้วว่าให้ลองสรุปรายละเอียดเบื้องต้นและความคืบหน้ามาให้ก่อน อย่างไรก็ตาม ถึงจะอ้างระเบียบอะไรก็ตาม แต่ตราบใด ผมยังไม่บอก
ว่าเยส ก็ยังทำอะไรไม่ได้เช่นกัน" นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าว
ส่วนนางอนงค์วรรณ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่ามีเอกชนและนักการเมืองในพรรคชาติไทย เช่าที่ราชพัสดุจำนวน 5 ไร่กว่าบนเกาะอาดัง
ของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล ก่อสร้างรีสอร์ทไปแล้วกว่า 70% ว่า เพิ่งทราบข้อมูลเบื้องต้น ทั้งนี้อยู่ระหว่างการตรวสอบรายละเอียด
โดยกรมอุทยานแห่งชาติ ซึ่งถ้ามีนักการเมืองเป็นเจ้าของรีสอร์ทดังกล่าวจริง ตนรับปากว่าจะต้องเชิญผู้ที่มีรายชื่อมาสอบถามข้อเท็จจริง
กันในเร็วๆนี้ หากพบว่าผิดระเบียบก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย แต่ขอตรวจสอบก่อน