ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2024, 10:34
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ที่เมกา Lehman B กำลังจะเจ๊งแล้ว .. ที่ไทย อยากเห็น "อมเรศ ศิลาอ่อน" ติดคุกจริงๆ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ที่เมกา Lehman B กำลังจะเจ๊งแล้ว .. ที่ไทย อยากเห็น "อมเรศ ศิลาอ่อน" ติดคุกจริงๆ  (อ่าน 1635 ครั้ง)
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« เมื่อ: 15-09-2008, 09:37 »

ฟ้อง อมเรศ ศิลาอ่อน ทุจริตขายสินทรัพย์ ปรส.
http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=103511



         เมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายอมเรศ ศิลาอ่อน อายุ 74 ปี อดีตประธานคณะกรรมการองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) นายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ อายุ 61 ปี เลขาธิการ ปรส. บริษัทเลแมน บราเดอรร์ส โฮล์ดิ้ง อิ้งค ที่ตั้งประเทศฮ่องกง โดยนายชาร์ล เจสัน รูบิน สัญชาติอเมริกัน ผู้มีอำนาจทำการแทน  บริษัทเลแมน บราเดอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยนายชาร์ล รูบิน ผู้มีอำนาจทำการแทน กองทุนรวมโกลบอลไทย พร็อพเพอร์ตี้ โดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมวรรณ จำกัด โดยนายสมจิตน์ ศรไพศาล และนายสุริพล เข็มจินดา ผู้มีอำนาจกระทำการแทน และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมวรรณ จำกัด โดย นายสมจิตน์ ศรไพศาล และนายสุริพล เข็มจินดา ผู้มีอำนาจกระทำการแทน เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และโดยทุจริตเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและเป็นผู้สนับสนุนพนักงานใน การกระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11

          ฟ้องโจทก์สรุปว่า ระหว่างวันที่ 2 มิถุนายน ถึง 1 ตุลาคม 2541 จำเลยที่ 1-2 กับพวกวางแผนแบ่งหน้าที่กัน โดยจำเลยที่ 1 ในฐานะประธาน ปรส. มีอำนาจวางนโยบายและควบคุมดูแลกิจการของ ปรส.รวมทั้งกำหนดวิธีการชำระบัญชีและขายทรัพย์สินของ 56 สถาบันการเงินที่ถูกระงับการดำเนินกิจการตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การปฏิรูประบบสถาบันการเงิน พ.ศ.2540 ที่กำหนดให้มีการจัดตั้ง ปรส.ขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาของสถาบันการเงินฟื้นฟูฐานะของสถาบันการเงิน ส่วนจำเลยที่ 2 มีหน้าที่ดำเนินกิจการของ ปรส.ให้เป็นไปตามนโยบายและข้อบังคับที่องค์การกำหนด ส่วนจำเลยที่ 5-6 เป็นนิติบุคคลที่เข้ามาร่วมหลักเกณฑ์ขั้นตอนวิธีการประมูลทรัพย์สินของ ปรส. จำเลยที่ 4 เป็นนิติบุคคลที่เข้ารับการปรึกษาด้านวาณิชธนกิจ กับ ปรส.โดยมีจำเลยที่ 3 ถือหุ้นในจำเลยที่ 4 ด้วย

          เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2541 คณะกรรมการ ปรส.มีมติให้จำหน่ายสินทรัพย์หลักครั้งที่ 2 เช่าซื้อที่อยู่อาศัย ต่อมา เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2541 ปรส. และเลแมนบราเดอร์ ได้ออกข้อกำหนดในการจำหน่ายสินทรัพย์โดยมีการกำหนดนโยบายและขั้นตอนการ จำหน่ายพร้อมกำหนดวันประมูลในวันที่ 30 กรกฎาคม 2541 และปิดการจำหน่ายในวันที่ 1 กันยายน 2541 แต่คณะกรรมการ ปรส. มีมติเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2541 ให้เลื่อนการประมูลจากวันที่ 30 กรกฎาคม 2541 ไปเป็นวันที่ 13 สิงหาคม 2541 ขณะที่เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2541 ปรส.และ เลแมนบราเดอร์ส  ออกข้อกำหนดเพิ่มเติมอีกหลายประการโดยให้ผู้เสนอราคา สามารถเสนอราคาโดยให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เป็นตัวแทนผู้ซื้อได้ หากกองทุนดังกล่าวสามารถจัดตั้งได้ภายในวันปิดการจำหน่าย

          ต่อมาเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2541 จำเลยที่ 3 ได้ยื่นแบบฟอร์มข้อเสนอราคาซื้อในนามของตนเองเข้าประมูลร่วมกับผู้ประมูลราย อื่นอีก 3 รายโดยเสนอราคาที่ 11,520 ล้านบาทซึ่งได้วางหลักประกันแล้วเป็นเงิน 10 ล้านบาท และจำเลยที่ 3 เป็นผู้เสนอราคาประมูลสูงสุด คณะกรรมการการ ปรส.มีมติให้ จำเลยที่ 3 ต้องทำสัญญาซื้อขายกับ ปรส.ภายใน 7 วันนับจากวันที่ 20 สิงหาคม 2541 พร้อมทั้งต้องชำระเงินงวดแรกร้อยละ 20 ของราคาเสนอซื้อที่ชนะการประมูลเป็นเงิน 2,304 ล้านบาท ซึ่งหากจำเลยที่ 3 ทำสัญญาซื้อขายในวันดังกล่าวจะทำให้จำเลยที่ 3 ต้องมีภาระภาษีในกิจการดังกล่าว แต่เมื่อถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2541 เป็นวันครบกำหนดจำเลยที่ 3 กลับไม่เข้าทำสัญญาซื้อขายและไม่ชำระเงินงวดแรก โดยจำเลยที่ 3 เพียงแต่วางเงินประกันการชำระเงินงวดแรก จึงเป็นการไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย การประมูลดังกล่าวจึงไม่เกิดสัญญาขึ้น

          ต่อมาวันที่ 11 กันยายน 2541 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แจ้งข้อมูลว่าการปฏิบัติหน้าที่ของ ปรส.ไม่โปร่งใส มีความขัดแย้งผลประโยชน์ในกรณีที่จำเลยที่ 3 เป็นผู้ชนะการประมูล และเป็นบริษัทกลุ่มเดียวของจำเลยที่ 4 ที่ปรึกษา ปรส. โดยจำเลยที่ 1 ไม่ดำเนินการเพื่อตรวจสอบและปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายโดยในวันที่ 1 ตุลาคม 2541 ปรส.โดยจำเลยที่ 2 ในฐานะผู้ขาย ได้ทำสัญญาซื้อขายของ ปรส.กับจำเลยที่ 5 ซึ่งเป็น กองทุนผู้ถือหน่วยลงทุนทั้งหมดเป็นกลุ่มบุคคลที่มีผลประโยชน์ทั้งทางตรงและ ทางอ้อมกับกลุ่มเลห์แมน บราเดอร์ส

          การกระทำของจำเลยที่ 1 และ 2 กับพวกเป็นการร่วมกันปฏิบัติหน้าที่และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2541 จำเลยที่ 3 ผู้ชนะการประมูลไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายกับ ปรส.ซึ่งจำเลยที่ 1 และ 2 ควรยกเลิกการประมูลหรือจัดให้มีการประมูลใหม่ และริบเงินประกันจำนวน 10 ล้านบาท แต่กลับไม่ได้ดำเนินการเมื่อ รมว.คลัง แจ้งข้อมูลว่าการปฏิบัติหน้าที่ของ ปรส.ไม่โปร่งใสและมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ จำเลยที่ 3 เป็นกลุ่มบริษัทเดียวกับจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นที่ปรึกษา ปรส.ในการจำหน่ายสินทรัพย์ โดยจำเลยที่ 1-2 ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย แต่กลับให้ ปรส.เข้าทำสัญญาซื้อขายกับจำเลยที่ 5 ในวันที่ 1 ตุลาคม 2541 ทั้งที่จำเลยที่ 5 ไม่มีสิทธิเข้าทำสัญญาในฐานะผู้ซื้อเนื่องจากไม่ได้เป็นผู้ร่วมประมูลและไม่ ได้รับอนุมัติให้ชนะประมูลทั้งในนามตนเองและผู้อื่น

          การกระทำของจำเลยที่ 1-4 กับพวก จึงเป็นการดำเนินการให้จำเลยที่ 5 ซึ่งเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการยกเว้นภาษีตามประมวลรัษฎากร เข้าทำสัญญาซื้อขายเพื่อประโยชน์ทางภาษีอากร ทั้งนี้ จำเลยที่ 3-6, นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ และนายคาร์ลอส มานาแลค ชาวฟิลิปินส์ ที่หลบหนี กับพวก เป็นผู้ร่วมกันช่วยเหลือสนับสนุนในการกระทำผิดของจำเลยที่ 1-2 การกระทำของจำเลยทั้งหมดเพื่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง และ ปรส. เหตุเกิดที่แขวงลุมพินี แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน และแขวงสีลม เขตบางรัก กทม.เกี่ยวพันกัน ในชั้นสอบสวนจำเลยทั้ง 6 ให้การปฏิเสธ

          ศาลประทับรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.3344/2551 และสอบคำให้การจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ ศาลจึงนัดพร้อมคู่ความเพื่อตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 20 ตุลาคม นี้  เวลา 13.30 น. 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายความได้ยื่นขอประกันตัวนายอมเรศ และนายวิชรัตน์ โดยยื่นหลักทรัพย์เป็นสมุดบัญชีเงินฝาก ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด มูลค่า 3 ล้านบาทพร้อมโฉนดที่ดินกรุงเทพ ฯ ราคาประเมิน 7 ล้านบาท ตามลำดับ ศาลพิเคราะห์คำร้องและหลักทรัพย์แล้ว อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยทั้งสอง โดยตีราคาประกันคนละ 3 ล้านบาท


อยากเห็นมันติดคุกตอนแก่ แล้วตายในคุกไปเลย ไอ้วิชรัตน์ อีกตัว  ทั้งคู่เป็นพวกลูกพระยา ฐานะดี การศึกษาดี ทรัพย์สินเยอะแยะ แล้วยังไปรับใช้ต่างชาติมาปล้นคนไทยอีก ชั่วมาก

ไม่เข้าใจว่าเรื่องผ่านมาตั้ง 10 ปี แต่บรรดาคนที่ร่วมกันทุจริตยังอยู่ครบ แถมทำธุรกิจใหญ่โตรวยขึ้นกว่าเก่า โดยเฉพาะไอ้เฒ่านี่ ธุรกิจเชนร้านอาหารกับเค้กของมันขึ้นชื่ออันดับหนึ่งว่า โคตรงก ฟันกำไรโหด หน้าเลือด ไม่แพ้ไอ้หน้าเหลี่ยมเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2008, 09:39 โดย AsianNeocon » บันทึกการเข้า

Tuba ✿゚✎..✿.。.:。ღ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 660


ทักษิณที่ดี คือทักษิณที่.......ตายแล้ว


« ตอบ #1 เมื่อ: 15-09-2008, 09:42 »


อยากเห็นมันติดคุกตอนแก่ แล้วตายในคุกไปเลย ไอ้วิชรัตน์ อีกตัว  ทั้งคู่เป็นพวกลูกพระยา ฐานะดี การศึกษาดี ทรัพย์สินเยอะแยะ แล้วยังไปรับใช้ต่างชาติมาปล้นคนไทยอีก ชั่วมาก

ไม่เข้าใจว่าเรื่องผ่านมาตั้ง 10 ปี แต่บรรดาคนที่ร่วมกันทุจริตยังอยู่ครบ แถมทำธุรกิจใหญ่โตรวยขึ้นกว่าเก่า โดยเฉพาะไอ้เฒ่านี่ ธุรกิจเชนร้านอาหารกับเค้กของมันขึ้นชื่ออันดับหนึ่งว่า โคตรงก ฟันกำไรโหด หน้าเลือด ไม่แพ้ไอ้หน้าเหลี่ยมเลย


เห็นด้วยครับ ผมจะกินของ S&P ก็ต่อเมื่อมันฟรี เช่นเป็นของขวัญ หรือของเบรคหลังจบ 3 เท่านั้น
บันทึกการเข้า

ทหาร เป็นอะไรก็ไม่ได้ดี นอกจากเป็นทหาร

ตำรวจ เป็นอะไรก็ดีไม่ได้ แม้กระทั่งเป็นตำรวจ
ฟ้าประทานII
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 15-09-2008, 16:27 »

แบบนี้ภรรยามิต้องตั้งหน้าตั้งตาขายอาหารกับขนมอีกนานเท่าไหร่ถึงจะพอค่าทนาย


 

บันทึกการเข้า

. . . ผู้ที่เป็นเยาวชนที่จะต้องทำหน้าที่สำหรับรักษาบ้านเมืองต่อไปเมื่อเป็นผู้ใหญ่ เมื่ออายุถึงขั้นที่จะเรียกว่าเป็นผู้ใหญ่ ได้เล่าเรียนมาแล้วเพื่อให้ปฏิบัติงานของชาติได้ต่อไป ก็ต้องเตรียมตัวเพื่อปฏิบัติงานนั้น ในเวลานี้ก็จะต้องหาความรู้ใส่ตัว ฝึกฝนจิตใจ ฝึกฝนความคิดที่ดี เพื่อให้เข้าใจ ให้มีความคิดพิจารณา ให้มีเหตุผลที่แน่นแฟ้น มีเหตุผลที่จะใช้การได้ เพื่อแยกสิ่งที่ดีที่ควรทำจากสิ่งที่ไม่ดีที่ไม่ควรทำ ฉะนั้น หน้าที่ของเยาวชนก็คือเรียนรู้ แล้วก็นอกจากเรียนรู้คือเมื่อเรียนแล้ว ก็เริ่มช่วยกันสร้างความมั่นคงแก่บ้านเมือง โดยใช้ความรู้ที่ได้มาให้เป็นประโยชน์พัฒนาบ้านเมืองให้มั่นคง . . .
 
 
     
  พระบรมราโชวาท
พระราชทานแก่คณะเยาวชนจาก ๒๐ จังหวัด
วันที่ ๖ เมษายน ๒๕๑๒
หน้า: [1]
    กระโดดไป: