พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถือว่า วิกฤตการเมืองครั้งนี้ได้มาถึงทางตัน ไม่อาจจะแก้ไขได้ด้วยวิธีการเดิมๆ จึงขอเสนอทางออกด้วยการให้มี รัฐบาลประชาภิวัฒน์ ซึ่งมีหลักการดังต่อไปนี้
1.ส่งเสริมให้คนดีมาปกครองบ้านเมือง มิให้คนไม่ดีมีอำนาจ ขอให้นักการเมืองในรัฐสภายอมเสียสละพื้นที่ของตัวเอง ยอมให้บุคคลที่เป็นคนดี ซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีประวัติด่างพร้อย มีความสามารถ และมีความจริงใจในการแก้ไขวิกฤตของบ้านเมือง ให้เข้ามาบริหารประเทศชั่วคราวโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในทุกระดับ ปราศจากตัวแทนผลประโยชน์ของพรรคการเมือง ปราศจากตัวแทนผลประโยชน์ของ กลุ่มการเมือง และปราศจากตัวแทนกลุ่มผลประโยชน์ของกลุ่มทุน
2.ให้รัฐบาลประชาภิวัฒน์เข้ามาดำเนินการภารกิจเฉพาะกิจ เพื่อแก้ไขวิกฤตของบ้านเมืองตามแนวทางในแถลงการณ์ฉบับที่ 21/2551 ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สะสางความอยุติธรรมทั้งปวงและคืนความยุติธรรมกลับสู่สังคมไทย
3.รัฐบาลประชาภิวัฒน์ จะต้องเป็นกลุ่มคนที่พร้อมปฏิรูปการเมืองร่วมกับประชาชนด้วยความจริงใจ เป็นแกนกลางระดมความร่วมมือจากองค์กรประชาชนทุกภาคส่วน ทุกสาขาอาชีพ เพื่อกำหนดอนาคตและทิศทางของประเทศชาติร่วมกัน ช่วยกันพัฒนาสร้างสรรค์ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งเนื้อหา รูปแบบ โครงสร้างทางการเมืองและวัฒนธรรมทางการเมือง ที่อยู่บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางเพื่อความเป็นธรรมในสังคม และรับผิดชอบโดยให้ประชาชนมีอำนาจในการตรวจสอบได้อย่างแท้จริง
4.รัฐบาลประชาภิวัฒน์ จะร่วมกำหนด วาระแห่งชาติ ที่แท้จริง และครอบคลุมปัญหาและความเรียกร้องของประชาชนทุกภาคส่วน และทุกสาขาอาชีพ
5.รัฐบาลประชาภิวัฒน์ จะร่วมกับประชาชนเพื่อทำให้เกิด สภาประชาภิวัฒน์ ที่มีองค์ประกอบหลากหลาย กว้างขวาง เพื่อนำพาประเทศให้พ้นจากวิถีการเมืองแบบเดิม ที่เอื้อต่อการทุจริต คอร์รัปชัน ใช้เล่ห์เพทุบายเพื่อหลบเลี่ยงจากการตรวจสอบ และไม่ตอบสนองปัญหาและความต้องการของประชาชน
ผมอยากให้ พันธมิตรอธิบายให้ชัดเจนว่า ภายในรัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งพันธมิตรไม่ยอมให้ใครแก้ไข หรือ แตะต้อง เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมได้ดำเนินไปตามข้อกฎหมาย
รัฐบาลประชาภิวัฒน์และสภาประชาภิวัฒน์ จะใช้ข้อกฎหมาย และ วิธีการใด ภายในรัฐธรรมนูญ ปี 2550 เพื่อดำเนินการจัดตั้งตามข้อเรียกร้อง
ผมมองไม่เห็นแนวทางอะไรเลย ที่สามารถทำตามข้อเรียกร้องของพันธมิตร ได้ภายใต้กฎหมาย รัฐธรรมนูญปี 2550
ผมอยากให้ แกนนำ พันธมิตร และ พี่น้องประชาชนทุกคน ได้ ตระหนักถึงพระราชดำรัส เมื่อครั้งที่ พันธมิตร และ ประชาชนบางกลุ่มได้เรียกร้องให้ ในหลวง ใช้พระราชอำนาจตามมาตรา 7 อยากให้ทุกคนตระหนักว่า ทรงตรัสไว้ว่าอย่างไร
ทรงตรัสไว้ว่าวิธีการดังกล่าว นั่น
" มั่ว "และ ในหลวงได้ทรงใช้กระบวนการทางตุลาการ แก้ไข ปัญหาบ้านเมืองแทน นี่คือพระปรีชาญาณของพระองค์ท่าน
ดังนั้น ผมคิดว่า ประกาศและข้อเรียกร้องของพันธมิตร แต่ละฉบับนั้น ควร อ้างถึงวิธีการและรูปแบบที่เป็นไปได้ ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญด้วย เพราะ รัฐธรรมนูญชุดนี้ยังบังคับใช้อยู่ และ ผ่านการลงประชามติรับรองจากประชาชนทั่วประเทศมาแล้ว
แนวทางที่เป็นไปได้ แบบที่พันธมิตร เสนอ คือ
การจัดตั้งรัฐบาลแห่งขาติโดย เลือก บุคคลใด บุคคลหนึ่ง ที่ไม่ใช่บุคคลใน พรรคพลังประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรี อาจจะเป็นคนในพรรคร่วมรัฐบาล หรือ อาจจะเป็นคนของพรรคฝ่ายค้าน แต่มี่เงื่อนไขว่า
รัฐมนตรีที่เข้ามาดูแลบริหารประเทศนั้น จะต้องเป็น บุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และ เป็นที่ยอมรับ ไม่ใช้เข้ามาเพราะโควตาของพรรคการเมือง ซึ่งแน่นอนว่า ครม. ชุดใหม่ จะต้องประกอบด้วย คนนอก ที่ไม่ใช่นักการเมือง ซึ่งสังคมยอมรับได้เป็นส่วนใหญ่
ตรงนี้จึงจะเข้าข่ายคำว่า รัฐบาลประชาภิวัฒน์ ถูกต้องตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ส่วน สภาประชาภิวัตน์ นั้น คงเป็นการร่างระเบียบคัดเลือก สสร. ชุดใหม่เพื่อเข้ามาศึกษาแก้ไขระบบการเลือกตั้ง เพื่อ ปู ทางไปสู่ การเมืองใหม่
คงไม่ใช่การเข้าไปแทรกแซงอะไรกับ รัฐสภา ชุดเดิม ซึ่งมันทำไม่ได้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น ผมอยากให้พันธมิตร เสนอทางออกอะไรที่มันชัดเจน และ มีความเป็นได้ทางกฎหมาย มากกว่าการเสนออะไร คลุมเครือ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามนำไปบิดเบือนได้ตลอดเวลา