ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 16:30
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  “สามเกรียน”ฟูมฟาย“หมัก”ตกเก้าอี้นายกฯ-ไร้ยางป้ายผิด“พันธมิตรฯ” 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
“สามเกรียน”ฟูมฟาย“หมัก”ตกเก้าอี้นายกฯ-ไร้ยางป้ายผิด“พันธมิตรฯ”  (อ่าน 1768 ครั้ง)
LEOidentity
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 567


« เมื่อ: 13-09-2008, 14:42 »


น้ำตาท่วมจอ NBT หลัง “สามเกลอ” รู้แน่ “หมัก” อดเป็นนายกต่อ คลั่งจัด โบ้ยมั่วซั่ว เป็นเพราะมีนายทหารปล่อยข่าว ล็อบบี้ไม่ให้ ส.ส.เลือก “หอกหัก” เป็นนายกต่อ เหน็บ ประชาธิปัตย์ หวังให้ “อภิสิทธิ์” เป็นนายกโดยใช้ช่องโหว่ของกฎหมาย ป้ายสี “พันธมิตรฯ” ต้นเหตุปัญหาบ้านเมือง ฟาดฟันจน “หมัก” ตกเก้าอี้นายก
       
       วานนี้ (12 ก.ย.) รายการความจริงวันนี้ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ดำเนินรายการโดย นายวีระ มุสิกพงษ์ อดีตกรรมการบริหารไทยรักไทย โดยมีผู้ร่วมดำเนินรายการขาประจำคือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน
       
       ทั้งนี้เมื่อเริ่มรายการ ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวถึงกรณีนายสมัคร ได้ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชนแล้ว ดังนั้นจึงเป็นที่แน่นอนว่านายสมัคร จะไม่กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก พวกตนจึงอยากสอบถามความคิดเห็นของประชาชนว่า 7 “เดือนกับการบริหารงานของรัฐบาลนายสมัครนั้นท่านพอใจหรือไม่” ซึ่งหากพอใจให้พิมพ์ 1 ไม่พอใจให้พิมพ์ 2 นอกจากนี้ข้อความที่จะส่งมาแสดงความคิดเห็นในวันนี้ ก็อยากจะให้เป็นเพียงข้อความที่ต้องการฝากถึงนายสมัคร เท่านั้น เพื่อเป็นการแสดงความรู้สึก หรือให้กำลังใจนายสมัคร
       
       ต่อมาผู้ดำเนินรายการได้กล่าวย้ำถึงกรณีที่ 2 วันที่ผ่านมาพวกตนได้กล่าวโจมตีนาย จรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาล รธน. และคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ที่ไปรับจ้างสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยว่า ทั้งสองทำผิด รธน. เช่นเดียวกับการที่นายสมัคร ไปเป็นลูกจ้าง จัดรายการชิมไปบ่นไป ดังนั้นทั้ง 2 คนจึงไม่มีคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งตุลาการ รธน. และ ผู้ว่า สตง.อีกต่อไป
       
       ผู้ดำเนินรายการระบุด้วยว่า แม้พวกตนจะพยายามเรียกร้องอยู่ 2 วันแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่ยอมออกมาตอบคำถามของพวกตน โดยผู้ดำเนินรายการไม่ได้อธิบายว่า เพราะเหตุใดจึงไม่ยอมนำเรื่องดังกล่าวไปยื่นตรวจสอบ หรือล่ารายชื่อเพื่อให้ศาลพิจารณา แทนที่จะเอามากล่าวโจมตีผ่านรายการเท่านั้น
       
       ช่วงต่อมานายจตุพร ในฐานะของ ส.ส. พรรคพลังประชาชน ได้กล่าวถึงกรณีการประชุมสภาในวันนี้ว่า ไม่สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ เพราะองค์ประชุมไม่ครบ แต่กระนั้นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ก็หวังจะฉวยโอกาสเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าองค์ประชุมไม่ครบ เหมือนกับต้องการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเสียเอง โดยหวังจะใช่ช่องโหว่ของกฎหมายที่ว่า หากเกินกำหนด 30 วันแล้วองค์ประชุมในสภาที่โหวตเลือกนายกยังไม่ครบกึ่งหนึ่ง ผู้ที่เคยได้รับการเสนอชื่อไว้ก็สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ทันที ซึ่งตนก็ไม่คิดมาก่อนว่าพรรคประชาธิปัตย์ อยากจะให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกขนาดนี้ ถึงขนาดกระทำการราวกับเป็นการวิ่งราวชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
       
       นายจตุพร กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่องค์ประชุมไม่ครบจนนายสมัคร ไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้นั้นเป็นเพราะ มีกระแสข่าว ว่ามีนายทหารระดับสูง ได้แจ้งมายัง ส.ส. ในพรรคร่วมรัฐบาลว่าหากยังดึงดันเลือกนายสมัคร กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีจะเกิดเรื่องใหญ่ในบ้านเมือง ซึ่ง ส.ส. บางส่วนก็อาจจะเชื่อกับกระแสข่าวดังกล่าว จึงทำให้ไม่ยอมมาโหวตลงมติให้นายสมัคร ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้ทหารใช้นักการเมืองเป็นเครื่องมือ หรือไม่ก็เป็นการที่นักการเมืองบางคนกุข่าวโดยใช้ทหารเป็นเครื่องมือ แต่ท้ายที่สุดก็เพื่อต้องการทำลายนายสมัครนั่นเอง
       
       นายจตุพร กล่าวด้วยว่า โดยส่วนตัวแล้ว ตนรู้สึกเห็นใจนายสมัครเป็นอย่างยิ่ง เพราะวันนี้เมื่อนายสมัครรู้ว่าองค์ประชุมไม่ครบ ไม่สามารถเป็นนายรัฐมนตรีต่อไปได้ ตนได้เข้าไปถามนายสมัคร ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไ นายสมัครได้กล่าวว่า “ผมไม่เอาแล้ว มันน่าอาย” ซึ่งตนก็ไม่คิดมาก่อนว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับนายสมัคร ทั้งที่นายสมัครเป็นผู้นำที่ดีมาตลอด เหตุใดจึงต้องถูกกลั่นแกล้งเช่นนี้
       
       ด้านณัฐวุฒิได้กล่าวเสริมว่าในวันที่ประเทศชาติ ต้องประสบกับคลื่นลม นายสมัครผู้นี้ก็คอยถือหางเสือให้เรามาตลอด ดังนั้นไม่ว่าจากนี้นายสมัคร จะตัดสินใจทางการเมืองอย่างไร พรรคพลังประชาชนก็มีหน้าที่ต้องรักษาและปกป้องเกียรติของนายสมัครเอาไว้ เพราะนายสมัคร ได้เคยถือหางเสือพาบ้านเมืองผ่านพ้นวิกฤติจนถึงวันนี้
       
       ขณะที่นายวีระ ได้กล่าวเปรียบเทียบนายสมัคร ว่าเหมือนกับ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่เป็นคนดีมาโดยตลอด แต่พอมาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว กลับกลายเป็นเหยื่อ เจอแต่ข้อกล่าวหาที่เลวร้าย เหมือนเป็นคนดวงดีมาตลอด แต่มาดวงตกตอนเป็นนายกนี่เอง ซึ่งตนเชื่อว่าหลังจากวันนี้ที่นายสมัครออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว สังคมจะชื่นชม ว่านายสมัครเป็นคนดี มีความสามารถ เช่นเดียวกับ มรว.คึกฤทธิ์ ที่กลับมาได้รับคำชื่นชมอีกครั้งหลังออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
       
       นายวีระ กล่าวสรรเสริญ นายสมัครต่อไปว่า ตั้งแต่บริหารงานมา 7 เดือนตนไม่เคยเห็นว่านายสมัคร ทำผิดต่อชาติบ้านเมือง และกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ แม้แต่น้อย เพราะนายสมัคร สามารถรักษาประชาธิปไตยไว้ได้ โดยไม่เคยสั่งสลายม็อบให้คนบาดเจ็บล้มตาย ซ้ำยังสั่งถอยกำลังตำรวจไม่ให้ทำร้ายประชาชน แต่ปัญหาที่แท้จริงของประเทศในวันนี้คือ กลุ่มกบฎพันธมิตรฯ ทั้ง 9 และแนวร่วมอีกไม่เกิน 20,000 ที่ชุมนุมอยู่ในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งคนเหล่านี้เอง ที่เป็นผู้ระราน ฟาดฟันจนนายสมัคร ไม่สามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้
       
       ในช่วงท้ายรายการ ผู้ดำเนินรายการทั้งสามได้ทำหน้าซึ้ง พร้อมกับกล่าวว่า วันนี้พวกตนก็คงไม่สามารถพูดอะไรกับนายสมัครได้อีก นอกจากจะกล่าวว่า ขอบคุณที่ท่านสมัครรักษาระบอบประชาธิปไตยไว้ได้ แม้จะต้องเผชิญกับกลุ่มที่ชุมนุมเรียกร้องอย่างเกินขอบเขตของกฎหมาย แต่ท่านก็แก้ไขปัญหาด้วยความละมุนละม่อม ดังนั้นจากนี้ขอให้ท่านสมัครและครอบครัวมีความสุข และจะไม่มีใครไปรุกรานท่านและครอบครัวได้อีกแล้ว

__________________________________________________________________________
อีกไม่นานหรอกสามเกรียนเอ๋ย จะได้ตามเจ้านายมรึงไป

เกรียน เกรียน เกรียน
THE END OF TRIPLE KRIAN   
cOMING sOON

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-09-2008, 14:46 โดย LEOidentity » บันทึกการเข้า
Sweet Chin Music
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,613



« ตอบ #1 เมื่อ: 13-09-2008, 14:59 »

อำนาจของนายใหญ่นั้นไม่เที่ยง ยังจะไปยึดติดกับมันอีก พวกลิ่วล้อเหล่านี้ ไม่รู้สึกถึงความทุกข์นี้เลยหรือ?
บันทึกการเข้า


You'll Never Walk Alone
เข้าไปกันได้ค๊าป- - - >http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sweetchinmusic&group=1
\(^_^)/
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 617



« ตอบ #2 เมื่อ: 13-09-2008, 15:17 »

กู่..ไม่..กลับ..แร๊วว..จริงๆ..
สำหรับรายการ "ควายจริงวันนี้"   


 
บันทึกการเข้า

 
gabiNo
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 172


« ตอบ #3 เมื่อ: 13-09-2008, 16:13 »

เดี๋ยวนี้ไม่ต้องเอาส้นเท้าถีบโทรทัศน์แล้ว เพราะดูไปก็ขำไป ทำกันไปด๊ายย...สมแล้วที่เป็น

National Bullshit Television

 
บันทึกการเข้า
A-NOY
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 546


« ตอบ #4 เมื่อ: 13-09-2008, 16:33 »

ไอ้ 3ตัวนี่เตรียมโดนเช็คบิลได้  โดยเฉพาะไอ้วีระ วันนี้มันชื่นชมไอ้มัคร ทุเรศทั้งๆที่มันเคยด่าไอ้มัครเป็นคนเนรคุณ ทำไมไอ้พวกนี้มันสันดานแบบนี้นะ พวกมัน3ตัวสงสารไอ้มัครก็ตามไปรับใช้มันสิ
บันทึกการเข้า

A-NOY
ผา หล่มสัก
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 162



« ตอบ #5 เมื่อ: 13-09-2008, 16:47 »

"เข้าแก็งค์ไหน หัวหน้าแก็งค์ตายหมด"

คำๆ นี้ยังใช้ได้เสมอ สำหรับ 3 คนนี้...
[/color][/size]
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #6 เมื่อ: 13-09-2008, 17:31 »

เวรแล้วสิครับ....


อ้างถึง

วันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551 เวลา 21:42:40 น.  มติชนออนไลน์ อ่านล่าสุด 1498 คน


วิบากกรรมชายชราชื่อ"สมัคร"..โดย ประสงค์ วิสุทธิ์

นายสมัคร เมื่อมิได้เป็นนายกฯแล้วก็มีสภาพเป็นเพียงชายชราคนหนึ่งที่จู้จี้ขี้บ่น จุกจิกขี้โมโห ต้องผจญกับวิบากกรรมที่ตัวเองก่อไว้อีกหลายเรื่องคือ คดีหมิ่นประมาท นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ และคดีทุจริตการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิง กทม.มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท

การเลื่อนประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อเช้าวันที่ 12 กันยายน ออกไปเป็นเช้าวันพุธที่ 17 กันยายน 2551 เนื่องจาก ส.ส.พรรคพลังประชาชน(พปช.)บางกลุ่ม และพรรคร่วมรัฐบาลไม่เข้าร่วมประชุมทำให้องค์ประชุมไม่ครบนั้น มีข้อน่าสังเกตบางประการดังนี้

 

หนึ่ง เป็นการสอนบทเรียนแก่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีและ ส.ส.กลุ่มเพื่อเนวิน ซึ่งดื้อด้านเต็มไปด้วยมิจฉาทิฐิจะเสนอนายสมัครเป็นนายกฯอีกครั้งหนึ่งโดยไม่ฟังเสียงต่อต้านคัดค้านจากประชาชน นักวิชาการ นักธุรกิจและกลุ่มองค์กรต่างๆอย่างกว้างขวาง

 

กลุ่มที่คัดค้านเกรงว่า ถ้านายสมัครกลับมาเป็นนายกฯอีกจะสร้างความแตกแยกขัดแย้งทางสังคมอย่างรุนแรงและนำความหายนะมาสู่ระบบเศรษฐกิจและการเมืองได้

 

สอง เห็นธาตุแท้ของนักการเมืองบางกลุ่มบางพรรคโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทย

โดยพรรคประชาธิปัตย์ฉวยโอกาสเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ แม้จะรู้ว่าไม่มีทางได้เสียงมากกว่ากึ่งหนึ่ง(236 เสียงขึ้นไป) แต่ก็เพื่อฟลุ๊คว่า ถ้าภายใน 30 วันยังไม่สามารถลงมติเลือกบุคคลอื่นเป็นนายกฯได้ด้วยเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่ง นายอภิสิทธิ์ก็จะได้เป็นนายกฯทันที(รัฐธรรมนูญมาตรา 173)

 

ทั้งที่ๆก่อนหน้านี้ พรรคชาติไทยได้ตกลงกับแกนนำประชาธิปัตย์บางคนว่า จะไม่เข้าร่วมประชุมสภาเพื่อเพื่อสกัดมิให้นายสมัครกลับมาเป็นนายกฯอีก ทั้งๆที่พรรคชาติไทยอ้างว่า มีมติหนุนพปช.

 

แต่พรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนท่าทีในนาทีสุดท้าย โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาเป็นผู้ลงชื่อเข้าร่วมประชุมคนแรกๆของพรรค

 

การกระทำของประชาธิปัตย์ทำให้พรรคชาติไทยมองว่า ประชาธิปัตย์หักหลัง

 

"ส่วนอีกพรรคหนึ่งไม่ต้องพูด ถึงคิดว่าหวานคอแร้ง มั่นใจว่าจะได้เป็นนายกฯ แน่ เกมต่อเกมก็ต้องแก้เกมกัน แต่ตอนนี้มันก็จบแล้ว"เป็นหนึ่งในวลีของนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยที่กล่าวถึงประชาธิปัตย์แสดงให้เห็นความรู้สึกได้เป็นอย่างดี

 

อย่างไรก็ตามแกนนำประชาธิปัตย์อ้างว่า  ทำตามกติกาและหน้าที่และเสนอชื่อนายกฯตามสิทธิของพรรคฝ่ายค้าน

 

สำหรับนายสมัคร เมื่อมิได้เป็นนายกฯแล้วก็มีสภาพเป็นเพียงชายชราคนหนึ่งที่จู้จี้ขี้บ่น จุกจิกขี้โมโห ต้องผจญกับวิบากกรรมที่ตัวเองก่อไว้อีกหลายเรื่องคือ คดีหมิ่นประมาท นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการ กทม. และการไต่สวนของป.ป.ช.คดีทุจริตการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิง กทม.มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาทสมัยที่นายสมัคร เป็นผู้ว่าราชการ กทม.


แม้คดีหมิ่นประมาทเมื่อเทียบกับคดีทุจริตการจัดซื้อรถดับเพลิงฯแล้วเบากว่ามาก

 

แต่เป็นคดีที่นายสมัครต้องลุ้นตัวโก่งเพราะศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในวันที่ 25 กันยายนหรืออีกไม่ถึง 2 สัปดาห์

 

คดีดังกล่าว นายสมัครและนายดุสิต ศิริวรรณ  อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ คู่หูตกเป็นจำเลยเพราะกล่าวหาว่า นายสามารถ มีพฤติการณ์ทุจริตในการก่อสร้างโครงการสะพานของ กทม. 16 โครงการ ซึ่งศาลอาญาพิพากษาเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2550 ให้จำคุกจำเลยทั้งสอง รวม 4 กระทง กระทงละ 6 เดือน รวมจำคุกคนละ 24 เดือน โดยไม่รอลงอาญา 

 

ก่อนหน้านี้ นายสมัครได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนอ่านคำพิพากษาโดย อ้างว่า ต้องเดินทางไปประชุมสหประชาชาติที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกาในวันที่ 21 กันายนในฐานะนายกฯ 


แต่เมื่อนายสมัครต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯแล้ว  จึงไม่รู้ว่า ศาลอาญา จะยอมเลื่อนอ่านคำพิพากษาหรือไม่

ประเด็นที่น่าสนใจคือ ถ้าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกนายสมัคร 24 เดือน โอกาสที่นายสมัคร จะต้องถูกจำคุกมีอยู่สูง

 

แม้นายสมัครจะยืนยันว่า สามารถอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาโดยให้อัยการสูงสุดลงนามรับรองให้อุทธรณ์คดีต่อศาลฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้( ป.วิอาญา มาตรา 221บัญญัติว่า ในคดีซึ่งห้ามฎีกาไว้....อธิบดีกรมอัยการลงลายมือชื่อรับรองในฎีกาว่า มีเหตุอันควรที่ศาลสูงสุดจะได้วินิจฉัย ก็ให้รับฎีกานั้นไว้พิจารณาต่อไป)

 

อย่างไรก็ตามคดีนี้ เป็นคดีความผิดต่อส่วนตัวที่นายสามารถฟ้องนายสมัครโดยตรง  พนักงานอัยการมิได้เกี่ยวข้อง ถ้านายชัยเกษม นิติศิริ อัยการสูงสุดยอมลงนามรับรองให้ จะทำให้เกิดข้อครหาว่า อัยการสูงสุดต้องการช่วยเหลือนายสมัครเป็นการส่วนตัว

 

นอกจากนั้นที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ออกระเบียบที่ประชุมใหญ่ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2551 ว่า ให้ศาลฎีกาอาจไม่รับคดีที่อุทธรณ์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกาได้ ถ้าเห็นว่า การอุทธร์ดังกล่าวไม่เป็นสาระอันควรแก่แก่การพิจารณาไว้ในการพิจารณาพิพากษา(ระเบียบที่ประชุมใหญ่ว่าด้วยการไม่รับคดีซึ่งข้อกฎหมายหรือข้อเท็จจริงที่อุทธรณ์หรือฎีกาจะไม่เป็นสาระอันควรแก่การพิจารณาไว้พิจารณาพิพากษา พ.ศ.2551)

 

ดังนั้น ถ้าดูจากคดีหมิ่นประมาทของนายสมัครและนายดุสิตแล้วเห็นว่า ไม่มีความยุ่งยากซับซ้อนทั้งในเรื่องข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายแต่อย่างใด รวมทั้งคำพิพากษามีมีเหตุมีผลชัดเจน

 

การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนถึง 2 ศาล อาจเข้าเงื่อนไขที่ศาลฎีกาอาจไไม่รับคดีไว้พิจารณาได้

 

ดังนั้น ถ้าศาลฎีกาไม่รับอุทธรณ์ ก็หมายความว่า นายสมัครต้องถูกจำคุกทันที ต้องหลุดจากตำแหน่ง ส.ส.ด้วย

 

นับเป็นกรรมของชายชราที่ชอบสาบถสาบานจนติดเป็นนิสัยและอาจเห็นผลของคำสาบานในบั้นปลายของชีวิต

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1221227839&grpid=01&catid=01

บันทึกการเข้า
LEOidentity
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 567


« ตอบ #7 เมื่อ: 13-09-2008, 17:38 »

ช่วยเน้นประโยคสำคัญครับ

การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนถึง 2 ศาล
อาจเข้าเงื่อนไขที่ศาลฎีกาอาจไไม่รับคดีไว้พิจารณาได้

ดังนั้น ถ้าศาลฎีกาไม่รับอุทธรณ์ ก็หมายความว่า
นายสมัครต้องถูกจำคุกทันที ต้องหลุดจากตำแหน่ง ส.ส.ด้วย
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: