ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 13:08
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ทางออกวิกฤติ เอาประเทศไทยของเราคืนมา... อะไร คือ ปัญหา... ทางแก้เป็นอย่างไร... 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ทางออกวิกฤติ เอาประเทศไทยของเราคืนมา... อะไร คือ ปัญหา... ทางแก้เป็นอย่างไร...  (อ่าน 1687 ครั้ง)
bangkaa
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 407



« เมื่อ: 12-09-2008, 20:29 »

ต้อง นิยาม ก่อนว่า วิกฤติการเมือง ตอนนี้... คือ อะไร กันแน่.... เพื่อจะได้ระบุให้ชัดว่าปัญหาคืออะไร จะได้ไม่หลง

ตามความเห็น ของผม...

ประเด็นที่ แทบทุกคน ในประเทศ เห็นเป็นปัญหาเดียวกัน...คือ...


*** ความเห็นที่แตกต่าง ขัดแย้ง ของคนสองกลุ่มใหญ่ ที่เป็นคู่กรณีกัน..


แบ่งเป็น

กลุ่มข้างของ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย... มีเป้าหมายล้างระบอบแม้ว ขจัดการเมืองเก่า สู่ การเมืองใหม่...


กลุ่มข้างของ ระบอบแม้ว....  เป้าหมายคือ ความกินดีอยู่ดีของตนเป็นหลัก




ปัญหา คือ เป้าหมาย ความต้องการของแต่ละฝ่าย ต่างไป ขัดแย้งกับ เป้าหมาย ผลประโยชน์ของอีกฝ่าย (ซึ่งอาจจะจริง หรือ คิดไปเองก็ได้ เพราะความไม่เข้าใจ)

เช่น...  ถ้านักการเมืองเก่าๆ ยังโกง ยังไม่มีสำนึกต่อส่วนรวม ก็เป็นสิ่งที่ พันธมิตรฯ ไม่ต้องการ.... อันนี้คือปัญหาขัดแย้ง

          ถ้าพันธมิตรฯ ไล่ระบอบแม้ว... นักการเมืองฝ่ายแม้ว และมวลชนสาวกแม้ว ก็จะเสียผลประโยชน์ที่เขาจะได้.... อันนี้ก็คือปัญหาขัดแย้ง



การแก้ปัญหา ความเห็นต่าง ความขัดแย้งนี้..... จะมีทางใด...


หากกล่าวแบบเชิงเปรียบเทียบคือ... ต้องรีเซต ระบบ...
ทุกคน ทุกฝ่าย ที่ต่างที่มีความคิด ความเข้าใจของตนแบบน้ำเต็มแก้ว ล้นแก้วอยู่....  ต้อง เทน้ำนั้นออกไปบ้างก่อน (หรือเอาออกไปให้หมดเลยก็ได้)

จากนั้น จับมานั่งรวมกัน.... แล้วมีคน อธิบายว่า... ปัญหาความขัดแย้งที่มีอยู่นี้มันคืออะไร เป็นเพราะอะไร...
มันไม่ใช่เรื่องที่ใครจะทำลายใคร ใครจะฆ่าใคร... แต่เป็นเรื่อง มุมมอง ความต้องการที่ต่างกันเท่านั้น



มวลชนฝ่ายระบอบแม้ว ก็ต้องเข้าใจ ว่า พันธมิตรฯ ต้องการอะไร สิ่งที่พันธมิตรฯทำคืออะไร...
เพราะปัญหาตอนนี้คือ คนส่วนใหญ่ (พวกกลางกลวง) ทั้งรากหญ้า... ไม่เข้าใจอย่างแท้จริงว่า พันธมิตรฯต้องการอะไร...
กลับถูกปลุกปั่น เบี่ยงเบนว่า... พันธมิตรฯทำสิ่งไม่ดี...

ส่วนฝ่ายพันธมิตรฯ หลายคนเข้าใจ และไม่ได้รังเกียจฝ่ายรากหญ้าระบอบแม้ว... แต่หลายคนอาจจะมีอารมณ์เกินไป... ก้ต้องจับมานั่งสงบสติ ให้เข้าใจ รากหญ้า มากขึ้น...




เอาล่ะ... ทีนี้... ในความเป็นจริง...

ถามว่า... ใครจะเป็นคนรีเซตระบบ... ใครจะเป็นคนอธิบายความ ประสานความเข้าใจ...

ผมไม่รู้... แต่ที่รู้ คือ... ที่ดีที่สุด.... บุคคล หรือ กลุ่มคนเหล่านั้น... จำเป็นต้องมี "อำนาจรัฐ"  ถึงจะทำได้ดีที่สุด...




************************************************
 

ประเด็นปัญหาหลัก อีกอย่าง... ซึ่ง ผมคิดว่า... เป็นประเด็นที่ แทบจะไม่มีใคร ในแผ่นดินไทย คิดเลยว่า เป็นปัญหา และต้องแก้...


คือ


** ปัญหาระบบการเมือง การปกครอง รวมทั้งวัฒนธรรมทางการเมือง ของประเทศไทย


ที่พันธมิตรฯ เห็นว่า "การเมืองเก่า" นั่นล่ะ ที่ต้องเปลี่ยนเป็น "การเมืองใหม่"



สิ่งนี้ พันธมิตรฯต้องการเปลี่ยนแปลง...
แต่ปัญหา คือ คนส่วนใหญ่ ไม่รู้ ไม่เข้าใจ ว่านี่คือ สิ่งที่พันธมิตรฯจะทำ....

ก็อย่างที่กล่าวไป เป็นเพราะคนไทยส่วนใหญ่ ไม่เห็นว่าเป็นปัญหา หรือเห็นว่า ไม่ใช่เรื่องตน หรือ เห็นว่ายังไงก็เปลี่ยนไม่ได้...



แน่นอนอีกล่ะ..... "การเมืองใหม่" จะเกิดได้...  ต้องอาศัยกลุ่มบุคคลที่มี "อำนาจรัฐ" เช่นกัน


*****************************



ทั้งหมด ทั้งมวล... จะทำได้ ต้องอาศัย คนสองกลุ่มใหญ่ คือ...


1. ประชาชนมวลชนมหาศาล.... การแสดงตัวอย่างเช่น การชุมนุม ต้องระดับ 2 ล้านคน อย่างน้อย...
อย่างพันธมิตรฯ ต้องชุมนุมให้ได้ขนาดว่า.. ศูนย์กลางทำเนียบรัฐบาล...
คนต้องมากจนล้นออกไปเต็มลานพระรูป.... ล้นออกมาถึงสนามม้านางเลิ้ง... ล้นไปทางเทเวศน์...
ล้นราชดำเนิน... เลยไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย... เลยล้นไปเต็มสนามหลวง...

ถ้ามากันขนาดนี้....  บอกได้คำเดียวว่า... อยากได้ "การเมืองใหม่".... ได้แน่นอน.... โอกาสสูงมาก



2. Elite ชนชั้นนำของประเทศ... ซึ่งได้แก่ นักการเมือง นายทุน ข้าราชการพลเรือน ทหาร นักวิชาการ นักกฎหมาย ฯลฯ
กลุ่มคน ระดับบิ๊กเหล่านี้เท่านั้น ที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศได้...
เพราะคนเหล่านี้มีอำนาจ มีอิทธิพล มีบารมี มีเครือข่าย... ที่สามารถควบคุม ชี้นำ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้... ลำพังประชาชนทั่วไป ทำอะไรไม่ได้หรอก



หากทั้งมวลชนมหาศาล ทั้ง Elite ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ประเทศต้องแก้ปมปัญหาปัจจุบัน... การเมืองต้องเปลี่ยนกันใหม่...
ถ้าช่วยกันทำ... รับรอง ทุกอย่างสบายๆ....



ทั้งนี้ ก็ทิ้งท้ายว่า... Elite นั่นล่ะ ที่เป็นปัญหา ไม่ยอมทำอะไร ไม่ยอมแก้ ไม่ยอมเปลี่ยน...
เช่น คมช. รัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ไป ก็กลับไม่ทำอะไรที่ดีพอ ทิ้งโอกาสดีๆในการแก้ปัญหา ซ้ำยังเป็นคนเพิ่มปัญหาให้หนักกว่าเดิมอีก..
นักการเมืองแทบทุกคน หวงอำนาจ ไม่ยอมสูญเสียประโยชน์... ดังนั้นจึงไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น...
ฯลฯ



ปัญหาทั้งหมด อยู่ที่ Elite ครับ... ว่าจะมีสำนึกกันหรือไม่.. ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน... ควรลดทิฐิ ยอมหันหน้ามาหากัน เพื่อหาทางออก...


ประชาชนตาดำๆน่ะ... ยากครับ การจะให้ออกมาเยอะๆ...
อย่างที่เห็น... พันธมิตรฯก็ทำได้ตามสภาพที่ทำได้ แต่ยังคนที่มาแสดงออกยังไม่มากพอ..


 


ยังไงๆ ก็ต้องช่วยกัน ทุกคน...

เพื่อเอาประเทศไทยที่ดี ประเทศไทยที่สวยงาม ประเทศไทยที่ร่มเย็น สงบสุข
เอาประเทศไทยของเราทุกคนกลับคืนมาครับ




 
บันทึกการเข้า

มาทำหน้าที่... ใช้หนี้แผ่นดิน...และมาทำบุญ...
bangkaa
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 407



« ตอบ #1 เมื่อ: 13-09-2008, 13:12 »

ช่วงนี้... (ใกล้ 17 ก.ย. 2551)

ทางพันธมิตรฯ และ ตัวละครแนวร่วม... ออกมาพูดถึงบ่อยๆ



พลังพิเศษ...

รัฐบาลแห่งชาติ...

งดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา...

นายกฯ ไม่ต้องมาจาก ส.ส.




มาจับตากันดูว่า... อะไรจะเกิดขึ้น...

พลังของ Elite ทุกๆฝ่าย จะดันกันไปได้ขนาดไหน




 
บันทึกการเข้า

มาทำหน้าที่... ใช้หนี้แผ่นดิน...และมาทำบุญ...
คนไทยคนหนึ่ง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 744


« ตอบ #2 เมื่อ: 13-09-2008, 13:27 »

อีก แนว ถวายคืนพระราชอำนาจ

ได้รัฐบาลที่ทุกฝ่ายยอมรับ เข้ามาแก้ไขวิกฤต

รัฐบาลแห่งชาติมี2แบบ แบบแรก พรรค7พรรคในสภาตั้งรัฐบาล

ซึ่งหลายๆฝ่ายคิดว่าไม่น่าจะแก้ปัญหาได้ เนื่องจากต้นเหตุของปัญหามาจากนักการเมือง

จึงควรมีรัฐบาลแห่งชาติที่ไม่ได้มาจากนักการเมือง และอาจจะตั้งสภาประชาชนมาแก้ไข

และมาช่วยกันออกแบบการเมืองใหม่แก้ไขการเมืองปัจจุบัน ไม่มีนักการเมืองคนไหนจะออกกฎหมาย

ที่จะมาควบคุมตัวเองหรอก นักการเมืองทำผิดถึงไม่มีบทลงโทษให้ติดคุกเลย แค่ปลดออกจากตำแหน่งเท่านั้น

ซึ่งน้อยมากๆกับความผิดที่ทำความเสียหายให้กับประเทศ

จะแก้ปัญหา ต้องแก้ให้หมด ไม่ใช่ทำครึ่งๆกลางๆกล้าๆกลัว เหมือน ตอน 19 กันยาอีก

 เพราะไม่งั๊นปัญหามันก็กลับมาเหมือนเดิม เสียเวลาของชาติไปเปล่าๆ2ปี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-09-2008, 14:06 โดย คนไทยคนหนึ่ง » บันทึกการเข้า
ลูกนนทรี
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 222


เกษตรศาสตร์_ศาสตร์แห่งแผ่นดิน


« ตอบ #3 เมื่อ: 13-09-2008, 13:37 »

ง่ายๆเลย 1.ปัญหาหรือต้นเหตุคือนักการเมืองที่ยังวนloopอยุ่แบบเดิมๆมีแต่คนรุ่นเก่า(เกิดสมัยธรรมนูญฉบับแรก)มาบริหารประเทศ ยังมีการสมคบคิดกันที่จะโกงอยุ่ไม่เห็นประโยชน์แก้บ้านเมือง 2.ความรุ้ความสามารถของคนบริหารบ้านเมืองยังไม่ดีพอซะเป็นส่วนใหญ่ ทัศนะคติเลยแย่ตาม 3.ปัญหาของประชาชานทั้งรากหญ้าและไม่รากหญ้ายังเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนอยู่ด้วยการรับเงินจากนักการเมืองเพียงไม่กี่ร้อยบาทเพื่อยอมแลกสิทธิของตนเอง 4.ปัญหาการปลูกถ่ายของนัการเมืองจากรุ่นสู่รุ่นไปเรื่อยเช่น ไอ้ชัยโมเช่ ไปยัง ไอ้ห้อย 5.ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญที่ยังลอกจากประเทศอื่นเยอะ เช่นเอามาจากเยอรมัน อินเดีย ต้องร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นตัวของตัวเอง ผมว่าการที่มีข้อบัญญัติว่าถ้าสมาชิกในพรรคไปซื้อเสียงแล้วพรรคก็จะโดนยุบไปด้วยไม่เห็นมันจะไม่ยุติธรรมตรงไหนมันเป้นสันดานของนักการเมืองเอง 7.ผมว่าการทำรัฐบาลสมานฉันท์ทำได้ยากและจะเกิดปัญหาตามมาจากการบริหารงานที่มันไม่สะดวกไม่ลงตัวเนื่องจากเสียงที่ขัดแย้ง(แต่อะไรที่เป็นผลประโยช์ร่วมกันจะไม่ขัดแย้ง) 8.เห็นๆอยุ่ว่ามีผู้ร้ายหนีคดีออกไปนอกประเทศทั้งๆที่ไม่ใช่การหนีจากกรณีกบฏแต่ก็ไม่มีการดำเนินการตามกฏหมายกับผู้ที่หนีคดีเสียทีเลยทำให้นักการเมืองลอยตัวอยู่เหนือความผิดเช่นนี้ไปเรื่อย ยังมีอีกหลายคนที่หลบหนีคดี 9.ปัญหาสุดท้ายที่ใหญ่ที่สุดคือเงิน ถ้าประเทศไทยยังตัดจากอำนาจในการรับสินบนการสมคบคิดคอรัปชั่นไปได้ ไม่มีทางที่สถาณการณ์ จะสงบครับ คนที่หนีไปก็ได้ใจก็ยังลอยนวลต่อไป

แนวทางแก้ไข 1.ต้องเปลี่ยนโฉมหน้ากลุ่มบุคคลที่บริหารประเทศเสียใหม่ไม่เอาคนรุ่นเก่าไม่เอาเกมการเมือง ดูได้จากเมื่อวานที่เปิดประชุมสภาแต่ไม่เข้าประชุมกัน เสียเงินพวกเราไปเท่าไหร่จากเกมการเมืองเมื่อวาน  และต้องเอาคนรุ่นใหม่การศึกษาสูงๆมีทัศนคติที่ดีมาเป็นนักการเมืองบางคนจบป.4 -ม.6ก็มาเป็นนักการเมืองแล้ว ผมไม่ได้ดูถูกนะครับหากแต่การจะบริหารบ้านเมืองเป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชนจผมว่าต้องเป็นคนมีความรุ้หน่อยมาบริหารงานครับ2.การแก้ปัญหาระยะยาวต้องให้ความรู้การศึกษาแก่กลุ่มรากหญ้าให้มากๆเค้าจะได้เท่าทันคนที่จะมาหลอกพวกเค้า 3.สมควรจัดรัฐบาลแห่งชาติจากการสรรหาของผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีความรู้ความสามารถ และไม่มีประวัติด่างพร้อยไม่มีการปฏิสัมพันธ์กับขั้วอำนาจการเมืองเก่า 4.ประเทศจะต้องมีความแข็งของกฏหมายมากกว่านี้ กล่าวคือ มีการนำผู้กระทำผิดมาลงโทษจริงๆจังๆ 5. ตัดอำนาจเงินจากคนผิดเสียให้หมดนำคนผิดหนีคดีมาลงโทษหากไม่นำมาลงโทษปัญหานานวันเข้าก็จะยิ่งเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ...
ผมคิดว่ามันยากนครับสำหรับประเทศไทย แต่มันก็คงไม่มีอะไรที่คนไทยทำไม่ได้
บันทึกการเข้า

เกลียดพวกเลียไอ้เหลี่ยม ไม่นิยมบัตรเติมเงิน
bangkaa
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 407



« ตอบ #4 เมื่อ: 14-09-2008, 01:24 »

ทางออกตามที่ท่านๆว่า... ก็เป็นทางหนึ่ง ที่เบื้องหลังเขาออกแบบกันอยู่...


แต่ปัญหา ก็คือว่า...

มันจะติดกับ คำที่ฝ่ายที่ไม่ยอมสูญเสียอำนาจ สถานะ จะอ้างคือ...

ไม่เป็นประชาธิปไตย... ไม่เป็นไปตามระบบ...
ซึ่งจะเป็นข้ออ้างในการระดมมวลชน ขนมาลุย...



ทางที่สวยสุด... ซึ่งอาจจะเป็นแค่ ฝันลมๆแล้งๆ ก็คือ...


ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อนำไปสู่การเมืองใหม่... ที่มี ส.ส. ของ พลังแม้ว... ร่วมด้วยช่วยกัน...
ถ้าเป็นเช่นนี้ได้...
ประเทศไทย จะเปลี่ยนผ่านอย่างสงบ ราบเรียบ... สุ่มเสี่ยงทางการเมืองน้อย...


แต่คงจะ... ยากส์สสสสสสสสสสสส์



 
บันทึกการเข้า

มาทำหน้าที่... ใช้หนี้แผ่นดิน...และมาทำบุญ...
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #5 เมื่อ: 14-09-2008, 01:41 »

ถ้าคนไทยระดับรากหญ้ามีการรับรู้ ข่าวสารเท่าเทียมกัน

มีการศึกษาที่ไม่ด้อยมากน้อยต่างกัน

นักการเมืองเลวๆ คงมาหลอกและต้มตุ๋น ประชากรของเรา แบบที่เป็นและที่เห็นทุกวันนี้อย่างง่ายๆ


ปัญหามันสั่งสม มายาวนาน

Elite ที่กล่าวถึง คงแก้ปัญหาที่ฝังรากลึกไม่ได้ ในระยะเวลาอันสั้น หรือในเร็ววันนี้


สงสารประเทศไทย
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
moon
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 780


« ตอบ #6 เมื่อ: 14-09-2008, 01:46 »

ปัญหาคือ การที่ฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติมีที่มาจากแหล่งเดียวกัน ทำให้ระบบรัฐสภาไม่เป็นไปอย่างที่เราอยากจะให้เป็น ผิดชัดๆ แต่อาศัยพวกมากลากไป

แล้วฝ่ายตุลาการก็ต้องรอเขาชงเรื่องส่งเรื่องถึงจะตัดสินได้ ทั้งสามอำนาจในทางทฤษฎีบอกว่ามันคานกันอยู่ แต่ผมไม่รู้สึกว่ามันคานกันตรงไหน

ผมว่าเอาอย่างเดิมนี่แหละ แต่เปลี่ยนจากการที่ ส.ส. มีเอกสิทธิ์คุ้มครองต่างๆ ให้ยกเลิกให้หมด และจะต้องทำให้ระบบรัฐสภาสามารถตรวจสอบฝ่ายบริหารได้ง่ายขึ้น

ส.ส.ที่กล่าวหาฝ่ายบริหาร จะต้องมีขั้นตอนการกล่าวหา เช่น เรื่องของรถเมล์เมื่อเร็วๆ นี้ เมื่อมีผู้กล่าวหา รัฐบาลจะต้องหยุดโครงการนั้นทันที ฝ่ายตุลาการจะต้องตรวจสอบได้

เมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วถึงจะให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวหา ผู้ที่กล่าวหาจะต้องรับผิดชอบอย่างใดอย่างหนึ่ง

ฝ่ายตุลาการจะต้องได้ดูแลกระทรวงยุติธรรม ดีเอสไอ สตง. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฯลฯ ที่เป็นกระบวนการยุติธรรมทั้งหมดมาดูแลมาอยู่ในอำนาจของตน

แล้วมีหน้าที่ตั้งแต่เริ่มต้นหาข้อมูลตรวจสอบไปจนถึงพิพากษา ถ้าเราสามารถทำให้กระบวนการยุติธรรมทั้งหมดอยู่ในฝ่ายตุลาการ นั่นแหละทั้งสามอำนาจถึงจะคานกันโดยสมดุล

ถ้าได้แบบนี้ ใครจะโกงก็โกงไป ฝ่ายตุลาการมีอำนาจตรวจสอบเองหมด รับรองประเทศชาติไปได้สบาย
บันทึกการเข้า
cafein
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 96



« ตอบ #7 เมื่อ: 14-09-2008, 02:00 »

ศีลธรรมจรรยา ความสำนึกรับผิดชอบต่อส่วนรวมต่อประเทศชาติอย่างจริงใจเท่านั้น คือคำตอบ
บันทึกการเข้า
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #8 เมื่อ: 14-09-2008, 02:07 »

รอให้ "กระต่ายงอกเขา เต่ามีหนวด"

นักการเมืองบ้านเราถึงจะมีคุณธรรม สะกดคำว่าจริยธรรม สำนึกต่อส่วนรวมเป็น

สภาที่เราเห็น เป็นยิ่งกว่าสภาโจ๊ก
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
FireSatongNorth
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107



« ตอบ #9 เมื่อ: 14-09-2008, 02:15 »

ทั้งหมดทั้งมวล ปัญหาอยู่ในวังวนของ "สามัญสำนึกจริยธรรม" ซึ่งเป็นนามธรรมมาก
แก้ไขได้ครับ แต่ต้องใช้เวลานาน จัดทำเป็นระบบกระบวนการวาระแห่งชาติ

แต่ระยะสั้นนี้ที่จะรีเซตระบบได้ คือ การใช้กลไกฝ่ายตุลาการครับ
วัตถุดิบ ถูกป้อนเข้าไปแล้วครับ แต่ค้างอยู่ปากทาง ทำให้ปัญหายังคงสภาพอยู่เป็นเวลานาน

===========================================================

ปล. ผมเห็นว่าควรให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ภายใต้องกรอิสระ เช่น ปปช หรือตั้งขึ้นมาใหม่ เพื่อให้มีอิสระในการดำเนินคดีกับนักการเมือง
บันทึกการเข้า
cafein
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 96



« ตอบ #10 เมื่อ: 14-09-2008, 02:30 »

ตราบใดที่การใช้เงินและและอิทธิพล ยังมีผลต่อการลงคะแนนเลือกตั้ง มันก็เป็นแบบนี้ไปตลอดละครับ
อย่างพื้นๆเลยก็ทุนในการหาเสียง อันนี้โยงไปถึงการส่งเสริมและควบคุมจากภาครัฐ แล้วยังโยงไปถึงการเข้าถึงของประชาชน
มันป็นลูกโซ่หนีกันไม่พ้น ผมคิดเล่นๆว่าถ้ารัฐจำกัดการหาเสียงให้อยู่เฉพาะในสื่อและที่เฉพาะทางรัฐจัดสรรค์ให้อย่างที่สมควรจะเป็นธรรม
ห้ามปิดป้ายแนะนำตัวห้ามโฆษณาไม่ว่าในสื่อใดๆ และควบคุมดูแลกำหนดบทลงโทษอย่างจริงจัง อะไรจะเกิดขึ้น
บันทึกการเข้า
moon
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 780


« ตอบ #11 เมื่อ: 14-09-2008, 02:36 »

ทั้งหมดทั้งมวล ปัญหาอยู่ในวังวนของ "สามัญสำนึกจริยธรรม" ซึ่งเป็นนามธรรมมาก
แก้ไขได้ครับ แต่ต้องใช้เวลานาน จัดทำเป็นระบบกระบวนการวาระแห่งชาติ

แต่ระยะสั้นนี้ที่จะรีเซตระบบได้ คือ การใช้กลไกฝ่ายตุลาการครับ
วัตถุดิบ ถูกป้อนเข้าไปแล้วครับ แต่ค้างอยู่ปากทาง ทำให้ปัญหายังคงสภาพอยู่เป็นเวลานาน

===========================================================

ปล. ผมเห็นว่าควรให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ภายใต้องกรอิสระ เช่น ปปช หรือตั้งขึ้นมาใหม่ เพื่อให้มีอิสระในการดำเนินคดีกับนักการเมือง

อันนี้น่าสนใจมากครับ ส่วนการแต่งตั้ง ให้องค์กรอิสระต่างๆ มาแต่งตั้งกันเอง สตช.ถึงวาระต้องเปลี่ยนหัว ก็ให้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ประกอบด้วยองค์กรอิสระด้านกระบวนการยุติธรรม

ต่างๆ เป็นคนช่วยเลือก จะได้คานอำนาจกันในแต่ละองค์กรอิสระไปในตัวด้วย
บันทึกการเข้า
bangkaa
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 407



« ตอบ #12 เมื่อ: 14-09-2008, 03:43 »

ถ้าคนไทยระดับรากหญ้ามีการรับรู้ ข่าวสารเท่าเทียมกัน

มีการศึกษาที่ไม่ด้อยมากน้อยต่างกัน

นักการเมืองเลวๆ คงมาหลอกและต้มตุ๋น ประชากรของเรา แบบที่เป็นและที่เห็นทุกวันนี้อย่างง่ายๆ


ปัญหามันสั่งสม มายาวนาน

Elite ที่กล่าวถึง คงแก้ปัญหาที่ฝังรากลึกไม่ได้ ในระยะเวลาอันสั้น หรือในเร็ววันนี้


สงสารประเทศไทย





แน่นอนครับ... ปัญหาของ วัฒนธรรมทางการเมือง... ที่คนไทยมีอยู่ มันไม่มีคุณภาพเท่าใด...

เรื่องนี้เป็นประเด็นระยะยาวที่ต้องค่อยๆแก้ ค่อยๆเปลี่ยน...
สื่อสารมวลชน... เป็นตัวละครหลักในเรื่องนี้ครับ...



คำว่า ให้การศึกษา นั้น... มันจำกัดแค่สถาบันการศึกษา...
แต่ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในช่วงวัยศึกษาตามระบบแล้ว... เขารับรู้ เรียนรู้ ซึมซับได้จาก สื่อ....



ทว่าในระยะสั้น...ที่ต้องทำให้บรรลุเป้าหมาย คือ...

การสร้างการเมืองใหม่... ในทางนิตินัย... ซึ่งจำเป็นต้องแก้รัฐธรรมนูญ ต้องแก้กฎหมาย...


ยังไงก็ต้องอาศัยพลังของ Elite.... โดยเสริมจากพลังภาคประชาชนอย่าง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นต้น...

ส่วนกลุ่มคนอื่นๆ ไม่ว่าจะ พลังแม้ว พลังกลางแทงกั๊ก.. ฯลฯ ก็อยู่ที่ว่าจะเปิดใจแค่ไหน ตามคำเชื้อเชิญของ พันธมิตรฯ
เพื่อมาร่วมกันสร้าง การเมืองใหม่...



 
บันทึกการเข้า

มาทำหน้าที่... ใช้หนี้แผ่นดิน...และมาทำบุญ...
moon
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 780


« ตอบ #13 เมื่อ: 14-09-2008, 05:53 »

อ้างถึง

คำว่า ให้การศึกษา นั้น... มันจำกัดแค่สถาบันการศึกษา...
แต่ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในช่วงวัยศึกษาตามระบบแล้ว... เขารับรู้ เรียนรู้ ซึมซับได้จาก สื่อ....



คำว่าให้การศึกษา ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสถาบันการศึกษาเท่านั้นหรอกครับ ยังมีกระบวนการเรียนรู้อื่นๆ อีกมากมาย

เอาใกล้ตัว พ่อแม่ ผู้ปกครอง เพื่อนฝูง มีผลอย่างมากเหมือนกัน

ลูกชายผมเมื่อตอนอยู่ ป. 6 ได้ยินผมคุยเรื่องเหลี่ยมกับพันธมิตร ได้ยินบ่อยเข้า แต่เขาก็เก็บไว้โดยที่เราไม่รู้

วันนึงเขาไปได้ยินจากครูที่โรงเรียนยกย่องเชิดชูเหลี่ยม ทีนี้ในใจของเขาก็เกิดคำถามขึ้นมามากมาย

กลับถึงบ้านจึงถามว่า พ่อครูเขาบอกว่าเหลี่ยมเป็นคนดี แต่ทำไมพ่อกับคุณย่าแล้วก็พวกพันธมิตรถึงบอกว่าไม่ดีล่ะ

เราก็เลยต้องชี้แจง แต่ก็บอกว่าอย่าพึ่งเชื่อนะ ฟังไปเรื่อยๆ โตขึ้นค่อยตัดสินใจว่าจะเชื่อใคร แล้วทุกอย่างก็ผ่านไป


ลูกชายผม ม. 2 แล้ว ได้ยินพ่อกับคุณย่าคุยกันทุกวัน ดูข่าวทุกวัน ด่า NBT ทุกวัน จึงซึมซับไปโดยปริยาย

วันนี้ได้ยินครูบอกว่า พันธมิตรทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ถ้าไม่ประท้วงบ้านเมืองก็จะสงบ รัฐบาลก็จะได้บริหารประเทศได้ดี

เศรษฐกิจก็จะดี พี่ท่าน ลุกขึ้นเถียงคุณครู ว่าไม่จริงหรอก พ่อบอกว่า ถ้าพันธมิตรไม่ประท้วงเราก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลโกงยังไง

ครูถามกลับว่า รู้มั้ยพันธมิตรประท้วงเรื่องอะไร ลูกชายผมบอกว่า ที่ออกมาครั้งล่าสุด เพราะรัฐบาลจะแก้รัฐธรรมนูญช่วยเหลี่ยม

จบ ครูเปลี่ยนเรื่องคุยเลย กลับมาบ้านมาเล่าให้ฟัง เราตกใจเลย ไม่น่าไปเถียงครูเลย แถมยังบอกอีกว่า บางครั้งพ่อก็ไปประท้วงด้วย

ครูคนนี้เป็นครูสอนวิชาสังคม พึ่งจะถกกันเรื่องทำไมถึงไม่มีเรื่องของพุทธศาสนามาอยู่ในหลักสูตรด้วย

เพราะฉะนั้นเราจะต้องเริ่มจากที่บ้านนี่แหละ ดีที่สุดครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-09-2008, 05:54 โดย moon » บันทึกการเข้า
superager
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 152


Olivier@ขบวนการโจ๋เรนเจอร์


« ตอบ #14 เมื่อ: 14-09-2008, 06:34 »


คำว่าให้การศึกษา ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสถาบันการศึกษาเท่านั้นหรอกครับ ยังมีกระบวนการเรียนรู้อื่นๆ อีกมากมาย

เอาใกล้ตัว พ่อแม่ ผู้ปกครอง เพื่อนฝูง มีผลอย่างมากเหมือนกัน

ลูกชายผมเมื่อตอนอยู่ ป. 6 ได้ยินผมคุยเรื่องเหลี่ยมกับพันธมิตร ได้ยินบ่อยเข้า แต่เขาก็เก็บไว้โดยที่เราไม่รู้

วันนึงเขาไปได้ยินจากครูที่โรงเรียนยกย่องเชิดชูเหลี่ยม ทีนี้ในใจของเขาก็เกิดคำถามขึ้นมามากมาย

กลับถึงบ้านจึงถามว่า พ่อครูเขาบอกว่าเหลี่ยมเป็นคนดี แต่ทำไมพ่อกับคุณย่าแล้วก็พวกพันธมิตรถึงบอกว่าไม่ดีล่ะ

เราก็เลยต้องชี้แจง แต่ก็บอกว่าอย่าพึ่งเชื่อนะ ฟังไปเรื่อยๆ โตขึ้นค่อยตัดสินใจว่าจะเชื่อใคร แล้วทุกอย่างก็ผ่านไป


ลูกชายผม ม. 2 แล้ว ได้ยินพ่อกับคุณย่าคุยกันทุกวัน ดูข่าวทุกวัน ด่า NBT ทุกวัน จึงซึมซับไปโดยปริยาย

วันนี้ได้ยินครูบอกว่า พันธมิตรทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ถ้าไม่ประท้วงบ้านเมืองก็จะสงบ รัฐบาลก็จะได้บริหารประเทศได้ดี

เศรษฐกิจก็จะดี พี่ท่าน ลุกขึ้นเถียงคุณครู ว่าไม่จริงหรอก พ่อบอกว่า ถ้าพันธมิตรไม่ประท้วงเราก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลโกงยังไง

ครูถามกลับว่า รู้มั้ยพันธมิตรประท้วงเรื่องอะไร ลูกชายผมบอกว่า ที่ออกมาครั้งล่าสุด เพราะรัฐบาลจะแก้รัฐธรรมนูญช่วยเหลี่ยม

จบ ครูเปลี่ยนเรื่องคุยเลย กลับมาบ้านมาเล่าให้ฟัง เราตกใจเลย ไม่น่าไปเถียงครูเลย แถมยังบอกอีกว่า บางครั้งพ่อก็ไปประท้วงด้วย

ครูคนนี้เป็นครูสอนวิชาสังคม พึ่งจะถกกันเรื่องทำไมถึงไม่มีเรื่องของพุทธศาสนามาอยู่ในหลักสูตรด้วย

เพราะฉะนั้นเราจะต้องเริ่มจากที่บ้านนี่แหละ ดีที่สุดครับ

เยี่ยมครับ  
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: