จับตา "การเมือง" ฝุ่นตลบ...กับจุดจบ "รัฐประหารเงียบ" !!!

* เอามาแปะให้แบบเต็ม ๆ จาก ลิงค์

นับเนื่องจากการจากไปของนายสมัคร สุนทรเวช ต่อตำแหน่ง "นายกรัฐมนตรี" ยังผลให้วงการ "การเมือง" ฝุ่นตลบขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แต่ทั้งนี้สิ่งที่น่าสนใจอีกทางหนึ่งนั้น น่าจะเป็นความเคลื่อไหวของผู้ที่อยู่วงนอกและคอยจับตาเพื่อช่วงชิงจังหวะจากสิ่งที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ "ทหาร"

การที่ "พรรคร่วมรัฐบาล" พยายามที่จะดันนายสมัคร สู่ตำแหน่ง "นายกรัฐมนตรี" อีกครั้งหนึ่งถือได้ว่าป็นดูแคลนเจตนารมณ์ของ "รัฐธรรมนูญ" ที่ต้องการกันคนที่มีมลทินออกจากสารบบโดยแท้ ดังนั้นต่อการณ์ดังกล่าว จึงน่าสนใจยิ่งว่า "กองทัพ" ที่มีบทบาท(ในทางปฏิบัติ)อย่างมากทาง "การเมือง" จะมองสิ่งดังกล่าวอย่างไร? เพราะที่ผ่านมา "ภาพ" ที่ฉายออกสู่สังคมเป็นไปในลักษณะที่ "กองทัพ" เพิกเฉยจนเกินไปเสียด้วยซ้ำ

โปรดพิจารณาถ้อยแถลงของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ต่อปัญหาการเมือง ดังนี้...

..."การจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติคงจะเป็นทางออกสุดท้าย หากไม่สามารถหาข้อยุติกันได้แต่ก็เป็นไปได้ยาก ซึ่งคิดว่าถึงเวลาแล้วที่นักการเมืองจะต้องเสียสละ"...

นี่คือซุ่มเสียงที่กล่าวถึง "รัฐบาลแห่งชาติ" และ "นักการเมืองจะต้องเสียสละ" อย่างชัดเจนและน่าสนใจ เพราะหากจะจำกันได้แล้ว ก่อนหน้านี้เพียง 10 วัน หลัง "การประกาศภาวะฉุกเฉิน" นั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอย่างชัดเจนว่าปัญหาการเมืองต้องเป็นหน้าที่ของ "รัฐสภา" ...คำถามคือ นี่คือท่าทีที่เปลี่ยนไปต่อนายสมัคร และ "รัฐบาล" ใช่หรือไม่?

น่าสนใจยิ่งขึ้นเมื่อการประชุมของ "สส. พรรคพลังประชาชน" กว่า 70 คน ซึ่งประกอบด้วยประกอบด้วย แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา กลุ่มขุนค้อน กลุ่มโคราช ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และ กทม. ที่ไม่เห็นด้วยในการเสนอให้นายสมัคร ดำรงตำแหน่ง "นายกรัฐมนตรี" ต่อไป ตอนหนึ่งของการแถลงข่าวมีการกล่าวว่า ..."สถานการณ์การเมืองเป็นอย่างนี้ หากจะให้นายสมัคร มาเป็นนายกฯ ต่อไปอย่างที่ ส.ส.ส่วนหนึ่งเห็นด้วย เราเห็นว่า จะเกิดปัญหาในเรื่องของวิกฤตบ้านเมือง ซึ่งเราเกรงว่าจะเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร"...

แม้สิ่งที่ปรากฏจะถูกมองว่าเป็นการ "ต่อรอง" ภายในกันเองของ "พรรคพลังประชาชน" แต่การนำเรื่องความเกรงกลัวที่ "ทหาร" จะทำ "รัฐประหาร" นั้น คงไม่ใช่สิ่งเลื่อนลอยอย่างไร้ฐานอย่างแน่นอน เพราะแม้ว่า "กองทัพ" เองจะยังไม่แสดงท่าทีที่แข็งกร้าวอย่างชัดเจนต่อ "ฝ่ายการเมือง" แต่หากจะประเมินกันแล้วก็ต้องยอมรับว่าสิ่งดังกล่าวมีความเป็นไปได้อยู่ไม่น้อยเช่นกัน

ดังกล่าวแล้วว่าความน่าสนใจหนึ่งนั้น ควรจะ "โฟกัส" ไปที่ "กองทัพ" ที่กำลังยึดแนวปฏิบัติแบบ "โลว์โปรไฟล์" ซึ่งยากยิ่งที่ปฏิบัติเสธว่าการเก็บตัวของ "กองทัพ" จะเป็นผลดีมากกว่าผลเสียอย่างแน่นอน

ด้วยเหตุนี้จึงต้องจับตาว่าเมื่อวันที่ "กองทัพ" ต้องออกมามีบทบาททาง "การเมือง" อีกครั้งหนึ่งซึ่งคงจะมิใช่การ "รัฐประหาร" ที่จะมีแต่การต่อต้าน ทางเลือกที่ "กองทัพ" ต้องเลือกก็น่าจะเป็นได้ทางเดียว คือ "การรัฐประหารเงียบ" ที่ "กองทัพ" สามารถ "คอนโทรล" "รัฐบาล" ได้อย่างเบ็ดเสร็จ และสังคมไม่สามารถแตะต้อง "กองทัพ" ได้อย่างเต็มไม้เต็มมือ

ดังนั้นจึงต้อวัดใจกันว่า มาถึงจุดนี้แล้ว "นักการเมือง" จะเดินหมากอย่างไร ...เพราะต้องไม่ลืมว่าหากพลาดเมื่อใด มิใช่เพียงแต่ "นักการเมือง" เอง แต่ "ประเทศไทย" ทั้งหมดจะมีแต่ "เสียกับเสีย" อย่างแน่นอน !!!