ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 17:19
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  "แม้ว"เข้าใจคนจนย้ำอยากรวยต้องกู้สร้างฐานะ-มัวอดออมไม่ทันกิน 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
"แม้ว"เข้าใจคนจนย้ำอยากรวยต้องกู้สร้างฐานะ-มัวอดออมไม่ทันกิน  (อ่าน 3043 ครั้ง)
so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« เมื่อ: 23-06-2006, 18:37 »




โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 มิถุนายน 2549 18:28 น.

      "ทักษิณ" พร่ำพรรณาเข้าใจชีวิตคนจนฟังแล้วน้ำตาซึม เน้นย้ำแนวปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียง แต่หนุนรากหญ้าเข้าหาแหล่งทุน ระบุถ้าอยากสร้างฐานะต้องใจถึงต้องกู้เงิน มัวแต่ประหยัดอดออม ไม่ทันกิน ชี้มีกรอบเวลานั่งนายกฯแต่ถูกกลุ่มบุคคลเคลื่อนไหวต่อต้าน     
 
อ่านรายละเอียดได้ที่  http://www.thaiday.com/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000081702


เชิญออกความเห็นครับ    Mr. Green
บันทึกการเข้า
kingkong059
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 110


« ตอบ #1 เมื่อ: 23-06-2006, 18:42 »

เป็นความคิดที่ดีมาก hohohohohohohohohoho  จาได้ไปตกที่นายทุนหมด แล้วสุดทายก็จาไม่เหลืออาไร
บันทึกการเข้า
so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #2 เมื่อ: 23-06-2006, 18:50 »

อันนี้ของของผมเพิ่มเติมให้เองครับ   Mr. Green

ท่านนายกฯคงลืมแนะนำเทคนิครวยเร็วให้ชาวบ้านไปอีกสองสามข้อ

1) ถ้าเซ็นเช็คเด้งต้องสู้ให้ถึงศาลฎีกา โดยปฏิเสธหน้าตาเฉยว่า ม่ายช่ายลายเซ็นโผมมมม
2) เวลาไปของานจากเจ้าของงานให้ยืนกุมไข่ทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอย่างที่ผมสาธิตให้ดูแล้วกับพี่จ๊อด (ใครมีรูปช่วยอนุเคราะห์หน่อยครับ)
3) ถ้าใครมาขอยืมเงินให้บอกว่า ไปเอาที่เมียผมโน่น
4) ถ้ามีทรัย์สินมากๆให้เอาไปใส่ไว้เป็นชื่อคนอื่น หรือไม่ก็เอาไปซ่อนไว้ที่บริษัทที่จดทะเบียนในเกาะเคย์แมนหรือเกาะเวอร์จิ้น จะได้เสียภาษีน้อยๆ
บันทึกการเข้า
so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #3 เมื่อ: 23-06-2006, 20:58 »

ขอบคุณคังคิกคูที่เป็นห่วง ผมเป็นลูกจ้างเค้ากินเงินเดือนจริงๆ แต่ชีวิตมีความสุขดี
เพราะนายจ้างเค้าจ่ายให้มากจนเงินทองเหลือใช้ไม่ต้องด้านหน้าไปกู้ใคร
วันๆมีแต่แบงค์กับไฟแนนซ์แห่กันขนเงินมาอ้อนวอนให้กู้ ต้องบอกปัดไม่หวาดไม่ไหว
เคยรู้จักรึเปล่าลูกจ้างแบบทำงานปีเดียวซื้อบ้านได้หลังนึงแถมรถอีกคันน่ะ   Mr. Green
นี่กะว่าอายุซักสี่สิบปลายๆจะรีไทร์มานั่งเล่นเน็ทช่วยลุงแคนด่าไอ้เหลี่ยมอย่างเดียว
แต่ดูอาการไอ้เหลี่ยมแล้วมันคงรอผมรีไทร์มาด่ามันไม่ไหว จะถอดใจเผ่นไปซะก่อน
เลยต้องปลีกเวลามาด่าซะก่อนตอนนี้ไง

ว่าแต่คังคิกคูเถอะ ทำมาหากินอะไร หวังว่าคงไม่ได้รับจ้างไอ้เหลี่ยมมาด่าสนธิกับปชป.นะ
แต่ถ้าตกงานต้องหาลำไพ่ด้วยการรับจ้างปั่นกระทู้ละก็ จะช่วยสงเคราะห์หางานให้ทำ
ว่าแต่เรียนจบอะไรมา จบเมื่อไหร่ แล้วทำอะไรเป็นบ้างล่ะ ส่ง CV มาให้ผมหลังไมค์ได้นะ

                                         Mr. Green  Mr. Green  Mr. Green
บันทึกการเข้า
1ktip
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,457



« ตอบ #4 เมื่อ: 23-06-2006, 21:19 »

น้าแม้วแกลืมบอกว่า โอกาสรวยแค่ 1 ใน 1,000 นะจ๊ะ ที่เหลืออีก 999 คน จนลงๆๆ
บันทึกการเข้า
Limmy
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,346


« ตอบ #5 เมื่อ: 23-06-2006, 21:45 »

ประเด็นอยู่ที่ว่ากู้แล้วต้องมีศักยภาพที่จะชำระหนี้คืนด้วย

สิ่งที่ผมห่วงมากคือการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนโดยใช้ที่ดิน ที่ทำกินของเกษตรกรรายย่อยครับ ถ้าต้องสูญเสียที่ดินไปในกรณีที่การชำระหนี้มีปัญหา คงจะมีปัญหาตามอีกมาก
บันทึกการเข้า
so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #6 เมื่อ: 23-06-2006, 22:05 »

น้าแม้วแกลืมบอกว่า โอกาสรวยแค่ 1 ใน 1,000 นะจ๊ะ ที่เหลืออีก 999 คน จนลงๆๆ

ประเด็นอยู่ที่ว่ากู้แล้วต้องมีศักยภาพที่จะชำระหนี้คืนด้วย
[/color]

สองจุดนี้แหละครับ ที่คุณทักษิณไม่ยอมเอ่ยถึง เวลาที่ไปพูดให้ชาวบ้านฟัง
คุณทักษิณถนัดแต่การพูดด้านเดียว ขายฝันให้คนที่ด้อยปัญญาวุฒิภาวะกว่า
เคลิบเคลิ้มไปกับวิมานในอากาศที่วาดขึ้นมาจากน้ำลายไม่กี่หยด
ลองกลับไปดูซิครับ ว่าโครงการเหล้าไทยไวน์ไทยจากภูมิปัญญาท้องถิ่น
ที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดเมื่อสามสี่ปีก่อน มีเหลืออยู่ในตลาดกี่เจ้า
แล้วชาวบ้านที่ไปกู้เงินมาทำตอนนั้น เวลานี้ทำอะไรอยู่ ใช้หนี้คืนได้ไหม

โครงสร้างสังคมมันต้องมีความสมดุลครับ ไม่มีสังคมไหนหรอกที่ใครๆ
ก็เป็นเถ้าแก่กันหมด แล้วจะเอาลาที่ไหนมาเป็นลูกจ้าง เป็นคนงานครับ
บันทึกการเข้า
ตลก
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 686


ไปมาไร้ร่องรอย


« ตอบ #7 เมื่อ: 23-06-2006, 22:29 »

อ้าววววว แล้วหน้าขนตัวไหนที่ทำโฆษณา กินกี่ส่วนออมกี่ส่วน

แล้วเดี๋ยวนี้จะให้กู้เงินทำเต้าส่วน บัดซบจริง

เรื่องกู้เงิน ไม่ต้องมาพูดตอนนี้หรอก เขากู้กันจนหนี้บานตั้งแต่เงินล้านเข้าหมู่บ้านแล้ว
บันทึกการเข้า

ผ่านฟ้าแล้วเลยไปนรกเลยรึเปล่าครับ.........
กิ๊กบนเรือ บนเครื่องบิน กิ๊กบนรถ ทุกอาชีพกิ๊กกันหมดอนาคตจะเป็นไง?
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 23-06-2006, 23:28 »

เชื่อว่า คุณ meteorite เกือบทั้งหมดในเว็บเสรีไทยแห่งนี้ ยึดเศรษฐกิจพอเพียง ผมคนหนึ่งทำการค้า ก็ไม่ต้องกู้เงิน เพราะเราไม่หวังรวยเร็ว ไม่ต้องมีหน้าฉากโอ่อ่า แต่เรามีพอกิน ไม่ง้อใคร ไม่มีปัญญาซื้อเราก็ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องไปเสียดอกให้ใคร (ยกเว้น บ้าน ไว้ซุกหัวนอน ซึ่งเป็นปัจจัย 4 ถ้ามันไม่มีเงินก้อน ก็ต้องกู้)  วันก่อน Citibank ก็โทรมาชวนให้กู้เงิน personal loan อะไรของมัน ผมถามมันกลับว่า "คุณคิดว่าผมหมดท่าแล้วเหรอ ผมจะคุยอย่างเดียวคือดอกเบี้ยเงินฝาก"

ผมคิดว่า คุณ meteorite อย่าไปสงเคราะห์หางานให้ คังดิกคู เลย เพราะมันไปก่อหนี้ก่อสินตามที่ไอ้หน้าเหลี่ยมสนตะพายมัน  หน้ามืดไปลักขโมยนายจ้างเขาเข้า เสียชื่อหมด
บันทึกการเข้า

so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #9 เมื่อ: 24-06-2006, 00:58 »

[size=1/pt]ครับ ท่าน ThaiTruth ผมเพียงแต่ให้โอกาสเค้ากลับตัวกลับใจเท่านั้น
แต่ดูท่าทางแล้วคงฉุดไม่ขึ้นแล้วครับ โดนฝังชิปเข้าไปเต็มสมองแล้วอย่างงั้น[/size]
[/b]   Mr. Green
บันทึกการเข้า
นู๋เจ๋ง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,877



« ตอบ #10 เมื่อ: 24-06-2006, 06:40 »

ต้องรวยแบบ เอาทรัพย์สินสาธารณะ
สมบัติชาติ ไปขายให้ต่างชาติ น่ะเหรอ

รวยแบบโจร ขโมยเค้าน่ะ มันไม่ยั่งยืนค่ะ

อ้ายเวงนี่ สอนลูกหลาย คนรุ่นหลังให้บรรลัย แล้วไม๊ล่ะ
บันทึกการเข้า

~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
GN-001 Exia
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 809


Celestial Being...


« ตอบ #11 เมื่อ: 24-06-2006, 08:16 »

สังคังเอ้ย.....

กู้เงินน่ะ...ถ้ากู้แล้วต้องจ่ายคืนนะ...

ถ้ามันไม่คืน...มันก็ต้องเสียสิ่งที่เท่าเทียมกันออกไป....

เพราะงั้นกู้มาแล้วมันต้องเกิดผล....

การที่เงินจะงอกเงยได้ คนใช้ต้องมีความรู้...เพื่อให้เงินงอกเงย

แต่ถ้ายังความรู้ไม่พอแล้วยังมากู้ ก็เอาไปเล่นหวยซื้อมือถือ มอ'ไซค์ จะมีซักกี่คนที่เอาไปทำให้งอกเงย...

น้อยมากใช่มะ...เพราะงั้นมันก็เป็น NPL เกือบหมด...

ผลคือประเทศชาติเสียหาย...แต่มีไอ้บ้าคนหนึ่งได้เป็นพระเจ้าในหมู่คนไม่รู้...

อาศัยความโลภ...กิเลสของชาวบ้าน

มันไม่เคยฟังในหลวงเลย...

ที่ในหลวงพระราชทานเศรษฐกิจพอเพียง เป็นบุญของไทย...

เป็นเครื่องเตือนสติคนไทยทั้งหลาย ให้ใช้เท่าที่หาได้ ไม่ต้องรีบรวยไปใหน..

มันไม่รวยร้อก!!! มีแต่จะซวยกู้อันโน้นมาปิดอันนี้ทั้งชาติ หาความสุขไม่ได้...

บันทึกการเข้า


พวกที่เอาคำว่า "เสรีภาพ" มาบังหน้าเพื่อเบียดเบียนคนอื่นนี่มันเลวที่สุด
p
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,264


« ตอบ #12 เมื่อ: 24-06-2006, 11:00 »


หนูคังฯจะเลือกอันไหน
        ระหว่าง
1. "มีคนเอาปลาไปให้"
           กับ
2. "มีคนสอนวิธีจับปลาให้"

          Wink
บันทึกการเข้า

ถ้ามัวคิดแต่จะโกงและเอาเปรียบคนอื่น จะสอนลูกหลานให้เป็นคนดีได้อย่างไร
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #13 เมื่อ: 24-06-2006, 12:19 »

เอ๊า....คุณ P ไม่น่าถาม แฟนพันธ์แท้ ทักษิณต้องเลือก ข้อ 1. "คนเอาปลามาให้" เพราะมันเร็วดีไม่ต้องเหนื่อยไปจับ ปลาหมดแล้วก็นอนท้องแห้งรอคนเอามาให้อีก.....ฮูวววววววววววววววว
บันทึกการเข้า
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 24-06-2006, 14:52 »

ขัดกับแนวเศรษฐกิจพอเพียงแบบตรงกันข้ามเลย เพราะไม่เน้นให้กู้ หรือรวย แต่เน้นให้เอาตัวรอดเลี้ยงตัวเองได้ก่อน ส่วนเกินที่เหลือจะกินเก็บจะทำให้รวยได้เอง เป็นการเจริญเติบโตแบบยั่งยืนที่ไม่ได้พึ่งเงินกู้เป็นหลัก เพราะพลาดขึ้นมาจะทำให้หนี้สินล้นพ้นตัว ติดอยู่ในบ่วงแห่งความยากจนซ้ำซาก ตามหลักของการลงทุน ต้องเริ่มจากเงินตัวเองก่อนทั้งนั้น ใครหวังรวยจากเงินกู้ที่รวยมีแค่ 1 ในหมื่น 1 ในแสน ยิ่งรากหญ้ายิ่งแล้วใหญ่ เพราะเดิมทำเกษตรในสิ่งที่ตัวเองถนัดมีความรู้ พออยู่พอกิน หนี้สินไม่มาก แต่พอรัฐไปส่งเสริม ให้ทำโน่นทำนี่ บางอย่างชาวบ้านไม่มีความรู้เลย ทำตามนโยบาย กู้เงินมาทำ สุดท้ายเจ๊ง ต้องมาขอลดหนี้ ล้างหนี้ วนเวียนซ้ำซาก คนชนชั้นกลาง ก็หาว่าชาวบ้านเอาแต่เข้ามาประท้วงล้างหนี้ ไม่ทำมาหากิน โดนจ้างมาบ้าง โดยไม่รู้ว่า รากฐานของปัญหา เกิดจากการใช้นโยบายส่งเสริมที่ผิดพลาด เป็นวัฎจักร หลายสิบปี แก้ไม่หลุด แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง มีการพิสูจน์แล้ว นับสิบปี ว่าทำให้ชาวบ้านพึ่งตัวเองได้ หลุดพ้นจากบ่วง เพิ่มพูนและส่งเสริมภูมิปัญญาชาวบ้าน และยังอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วย  Very Happy
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
O_envi
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 495



« ตอบ #15 เมื่อ: 24-06-2006, 15:17 »

นอกเรื่องหน่อยนะครับคุณ Implulze ครับ
กันดั้มตัวนี้เท่ห์มากเลยชอบๆ
บันทึกการเข้า

The change musts come one by one.It has to start with you
นายเบียร์
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 997



« ตอบ #16 เมื่อ: 24-06-2006, 17:53 »

ความน่ารักอย่างหนึ่งของคุณทักษิณคือแกเป็นตัวอย่างของผู้ถูกเสพโดยลัทธิบริโภคนิยมอย่างชัดเจนดี ไม่หลุดไม่เฉไฉ ใครจะด่าจะว่ายังไง แกก็ไม่เคยหลุดประเด็น

ถ้าถามว่าแนวคิดแกผิดไหม? ไม่ผิดครับ เพียงแต่ปัญหาคือแกพูดแค่ด้านเดียวอย่างที่หลายท่านว่าๆไปแล้ว ปัญหาสำคัญที่ทำให้สิ่งที่แกทำให้ชาวบ้านเกิดปัญหาใหม่มากกว่าแก้ปัญหา อยู่ที่ขั้นตอนของกระบวนการทำงาน และคนปฏิบัติงาน สิ่งที่สวยงามมีแค่ตอนพูด ตอนแถลงข่าว การตลาดดี แต่ผลสัมฤทธิ์ไม่เป็นไปเช่นนั้น
บันทึกการเข้า

สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #17 เมื่อ: 24-06-2006, 22:46 »

กู้เงินมา แต่พ่อตาไม่ใช่ระดับ รอง อตร. นี่ก็หมดสิทธิ์ ครับ

อย่าพ่นเลยว่ะ ทักสิน เอ้ย แม่งฟังแล้วอุบาทว์

ตัวมรึงเองหน่ะถ้าพ่อเมียไม่ใหญ่ระดับนั้น จะมาได้ถึงขนาดนี้เหรอว่ะ

ถามหน่อย มรึงจะประมูล คอม กรม ตร. มูลค่าพันกว่าล้านได้เรอะ

กับ บ.กระจอกๆ อย่างมรึง อะ ถุยส์ ว่ะ
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 24-06-2006, 22:49 »

คนชนชั้นกลาง ก็หาว่าชาวบ้านเอาแต่เข้ามาประท้วงล้างหนี้ ไม่ทำมาหากิน โดนจ้างมาบ้าง โดยไม่รู้ว่า รากฐานของปัญหา เกิดจากการใช้นโยบายส่งเสริมที่ผิดพลาด เป็นวัฎจักร หลายสิบปี แก้ไม่หลุด

คุณแอ่นแอ๊น คงพูดถึงชนชั้นกลางสัก 6 ปีก่อนหน้านั้น แต่ชนชั้นกลางสมัยนี้คงไปว่าชาวบ้านร้านตลาดหรือบ้านนอกแบบนั้น ไม่ได้อีกต่อไป

คุณแอ่นแอ๊นต้องไปสังเกตการณ์ตามบริษัท พวกพนักงานบริษัทอะ สิ้นเดือนรับสลิปเงินเดือน พอต้นเดือนมีบิลทวงหนี้จาก โอเค อีซี่ อีอ้อน มาถึงบริษัท แล้วรีเซ็ปชั่นมันก็เอามาร่อนตามโต๊ะ

ตามตู้เอทีเอ็มในอาคารสำนักงานฟู่ฟ่าต่างๆ ต้นเดือนก็จะมีการต่อคิวยาวเหยียดกดเงิน เพื่อเอาเงินไปใช้หนี้ แต่ละคนก็แต่งตัวดีๆทั้งนั้น คุยกันแต่เรื่องดอกเบี้ยว่าที่ไหนถูกกว่า จะได้ไปกู้ ๆ ๆ ๆ ๆ ผ่อน ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

หรือสังเกตตามสถานี BTS สมัยนี้ก็จะมีบู๊ธของพวก อีซี โอเค จิปาถะไปเปิดให้บริการถึงที่ เรียกว่าออกจากขบวนรถไฟฟ้าก็กู้ได้ทันที จะเข้่าสถานีรถใต้ดินก็มีคนยืนแจกใบปลิวกู้นอกระบบ ระบุเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ
บันทึกการเข้า

so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #19 เมื่อ: 24-06-2006, 23:10 »

แต่ก่อนนานๆกลับเมืองไทยที ผมไปเดินห้าง
สงสัยจังว่าเค้าขายอะไรทำไมคิวคนมันถึงยาวจัง
พอเข้าไปถามคนต่อคิวเค้ามองหน้าเหมือนจะถามว่า
แล้วมรึงมาเศรือ_อะไรกับพวกตรูด้วยหวา
ที่แท้ก็อย่างที่ท่าน ThaiTruth ว่านี่เอง quick cash ๆๆๆ
Mr. Green
บันทึกการเข้า
engg
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 388


« ตอบ #20 เมื่อ: 24-06-2006, 23:55 »

Mr. Greenถ้ามีทุนก็สามารถขยายเดียว ซึ่งอยู่ที่ความสามารถเข้าหาแหล่งทุน Mr. Green

Mr. Greenโครงการนี้ เป็นการเพิ่มจำนวนคนที่มีสินทรัพย์ จะใช้หรือไม่ก็ได้ เป็นการเพิ่มโอกาสให้คนจน ให้คนที่เป็นหนี้เสียดอกเบี้ยถูกลง Mr. Green

Mr. Green คนที่ไม่เคยกู้ เพราะกลัวว่าจะเป็นหนี้ ถ้าประหยัดและอดออม แต่โตไม่ทันแน่นอน การกู้ไม่ใช่เรื่องที่น่ารังเกลียด หรือเสียหายอะไร แต่ต้องถามว่า กู้ไปทำอะไร Mr. Green

Mr. Greenเป็นวิธีคิด ทำให้จนน้อยลง ไม่ได้บอกว่าจะรวย Mr. Green

Mr. Greenถ้ากู้ไปค้าขายในสิ่งที่ตัวเองถนัด และทุ่มเท ไม่ใช้เงินผิดประเภท โอกาสที่จะหมดตัวไม่มีเลย

Mr. Greenเป็นข้อแนะนำ ทำตามนี้โอกาสที่จะล้มไม่มี

Mr. Greenพาดหัว กับเนื้อในไม่ตรงกัน Mr. Green
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 25-06-2006, 08:48 »

Mr. Greenถ้ามีทุนก็สามารถขยายเดียว ซึ่งอยู่ที่ความสามารถเข้าหาแหล่งทุน Mr. Green
ไม่ทราบว่า คุณ engg จะ "ตะแบง" ไปถึงไหน เศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้เน้นที่ต้องขยาย แต่ให้มีพอเพียง พอกิน พอใช้ก่อน ให้แน่ใจว่ามั่นคงก่อน

Mr. Greenโครงการนี้ เป็นการเพิ่มจำนวนคนที่มีสินทรัพย์ จะใช้หรือไม่ก็ได้ เป็นการเพิ่มโอกาสให้คนจน ให้คนที่เป็นหนี้เสียดอกเบี้ยถูกลง Mr. Green
คุณ engg เข้าใจผิดอย่างร้ายแรง "สินทรัพย์" ที่คุณ engg หมายถึงคืออะไร Question เป็นแค่มี "วัตถุ" เพิ่มขึ้นแล้วบอกว่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้น Question ถ้าวัตถุบางอย่างมันสร้างแต่ ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าน้ำมัน ไม่ได้สร้างรายได้อะไรที่มันงอกเงยขึ้นมาให้เกินค่าใช้จ่าย แบบนี้เขาเรียกว่า "ภาระ" ไม่ใช่ "สินทรัพย์"

ตรงกันข้าม "สินทรัพย" ไม่จำเป็นต้องเป็นวัตถุก็ได้ คนทำงานกินเงินเดือน หรือคนค้าขาย ถ้ารักษาความน่าเชื่อถือ ซื่อสัตย์ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นสินทรัพย์ขึ้นมาเอง มันสร้างรายได้งอกงามได้เอง เพียงแต่ต้องใช้เวลา

และการไม่เสียดอกเบี้ยเลยเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดสำหรับคนจนต่างหาก ปัจจุบันนี้คนจนไม่ได้เอาเงินกู้ไปขยายธุรกิจ แต่เอาไปใช้คืนหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นการกู้ไปแล้วหารายได้มาไม่พอที่กู้ไป ถึงดอกเบี้ยจะถูกกว่า ก็ไม่แตกต่าง เพราะตราบใดไม่มีรายได้เข้า ก็มีแต่จะถูกดอกทับตาย และการเอาเงินกู้ไปช่วยคนเป็นหนี้อยู่แล้ว ไม่มีเจ้าหนี้ที่ไหนทำกัน มีแต่เจ้าหนี้หน้าเหลี่ยม ที่เอา "เงินคนอื่น" มาให้กู้เท่านั้น ตัวเองไม่ต้องลงทุนอะไร

เป็นหนี้ ต้องชดใช้ด้วย "เงินสด" เท่านั้น ไม่ใช่ไปก่อหนี้ที่อื่นแล้วใช้คืนหนี้เก่า วนเวียนไม่จบ



Mr. Green คนที่ไม่เคยกู้ เพราะกลัวว่าจะเป็นหนี้ ถ้าประหยัดและอดออม แต่โตไม่ทันแน่นอน การกู้ไม่ใช่เรื่องที่น่ารังเกลียด หรือเสียหายอะไร แต่ต้องถามว่า กู้ไปทำอะไร Mr. Green
การเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจ พูดยังไงก็ถูก แต่ถ้าเริ่มมาถึงก็คิดจะกู้แล้ว ประมาณ 99.99% เจ๊งตั้งแต่คิดแล้ว

คนที่ทำกิจการที่เลี้ยงตัวเองได้จะรู้ดีว่า ต้องตัด (ประหยัด) ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นทุกอย่างก่อน อะไรที่พอนำมาใช้ประโยชน์ได้ก็คิดว่าจะใช้อะไร กระแสเงินสดที่เข้ามา(จากการค้า)มีเพียงพอกับค่าใช้จ่ายหรือเปล่า ไว้อยู่รอดแล้วค่อยมาคิดถึงเรื่องโต


Mr. Greenเป็นวิธีคิด ทำให้จนน้อยลง ไม่ได้บอกว่าจะรวย Mr. Green
คุณ engg อย่ามาศรีธนญSHINในนี้ พ่อของแผ่นดินไม่เคยบอกว่าให้กู้เงินแล้วจะทำให้จนน้อยลง คุณ engg จะเลือกเชื่อ พ่อของแผ่นดิน หรือ ทักษิณ ชินวัตร Question

Mr. Greenถ้ากู้ไปค้าขายในสิ่งที่ตัวเองถนัด และทุ่มเท ไม่ใช้เงินผิดประเภท โอกาสที่จะหมดตัวไม่มีเลย
Mr. Greenเป็นข้อแนะนำ ทำตามนี้โอกาสที่จะล้มไม่มี
ผิด คิดแบบนี้เจ๊งตั้งแต่คิด 99.99% ตัวอย่างมีให้เห็นเยอะแยะตั้งแต่ยุคฟองสบู่ หลายคนก็กู้ไปค้าขายในสิ่งที่ถนัด ทุ่มเท ไม่ใช่เงินผิดประเภท แต่เมื่อวิกฤตมาถึงเจ๊งระเนระนาด เพราะไม่มีภูมิคุ้มกัน ยกเว้นกู้ไปแล้วใช้วิธีโกงด้วยแบบท่านหน้าเหลี่ยมผู้เป็นที่เคารพบูชาของคุณ engg



Mr. Greenพาดหัว กับเนื้อในไม่ตรงกัน Mr. Green
ไม่ตรงกันจุดไหน ก็ยกตัวอย่างให้เจ้าของกระทู้เขารู้ อย่าทำแบบพวก "ใจตุ๊ด" แกล้งทิ้งให้เป็นประเด็น เหมือนกูรู้จริง แล้วชิ่งหนี

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-06-2006, 09:05 โดย ThaiTruth » บันทึกการเข้า

AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #22 เมื่อ: 25-06-2006, 09:42 »

engg อ่านซะ

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้แสดงความเป็นห่วงต่อการมุ่งเน้นการเติบโตของจีดีพีมากกว่าที่จะมุ่งในเรื่องความยั่งยืนของเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2549 ในงานของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โดยได้ยกตัวอย่างถึงมาตรการที่ ธปท.ไม่ส่งเสริมให้เกิดการใช้จ่ายเกินตัวในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเรื่องการกำกับดูแลการขยายตัวของบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ว่า ธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นช่องทางที่ทำให้ประชาชนใช้จ่ายเกินความจำเป็น และไม่รู้ว่าจะมีความสามารถในการชำระหนี้ได้หรือไม่ ตามปกติจะต้องส่งเสริมให้คนออมก่อนและใช้จ่ายทีหลัง แต่ในภาวะที่เป็นอยู่กลับตรงกันข้าม ให้ใช้จ่ายก่อนและออมทีหลัง
บันทึกการเข้า

p
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,264


« ตอบ #23 เมื่อ: 25-06-2006, 11:32 »

engg อ่านซะ

 ... ตามปกติจะต้องส่งเสริมให้คนออมก่อนและใช้จ่ายทีหลัง
แต่ในภาวะที่เป็นอยู่กลับตรงกันข้าม ให้ใช้จ่ายก่อนและออมทีหลัง[/color][/size]


คุณ ThaiTruth ครับ
เดี๋ยวนี้โลกมันเปลี่ยนไปเยอะ
ต้องทำใจครับ
สมัยก่อนเขาให้สาวๆซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์
แต่สมัยนี้เขาให้สาวๆนังข้างหน้า
สมัยก่อนเห็นแต่ไอ้หนุ่มไปจีบอีสาว
แต่สมัยนี้อีสาวไปจีบไอ้หนุ่ม
สมัยก่อนสุภาพสตรีจะตั้งท้องหลังแต่งงาน
แต่สมัยนี้หลายคนตั้งท้องก่อนแต่งงาน
บางคนไม่ได้แต่งงานก็มีลูกได้
ที่ฝรั่งเขาเรียกว่า Single mother ไงครับ
ผมเคยถามเขาว่า ... "แล้ว ... มีลูกได้อย่างไรวะ"
ได้รับคำตอบว่า ... "ง่ายนิดเดียว ไม่เห็นต้องยากเลย ทำเล่นๆก็ท้องได้"

ยอมแพ้ครับ
ยอมแพ้จริงๆ
คนรุ่นใหม่นี้เก่งจริงๆ
ทำเล่นๆก็ท้องได้
ทีญาติของผมทำจริงๆมาตั้งหลายปีแล้ว ไม่ยักกะท้องสักที

 Very Happy Smile Smile Very Happy

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-06-2006, 11:34 โดย p » บันทึกการเข้า

ถ้ามัวคิดแต่จะโกงและเอาเปรียบคนอื่น จะสอนลูกหลานให้เป็นคนดีได้อย่างไร
HILTON (ปาล์มาลี)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,310



« ตอบ #24 เมื่อ: 25-06-2006, 16:12 »




โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 มิถุนายน 2549 18:28 น.

      "ทักษิณ" พร่ำพรรณาเข้าใจชีวิตคนจนฟังแล้วน้ำตาซึม เน้นย้ำแนวปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียง แต่หนุนรากหญ้าเข้าหาแหล่งทุน ระบุถ้าอยากสร้างฐานะต้องใจถึงต้องกู้เงิน มัวแต่ประหยัดอดออม ไม่ทันกิน ชี้มีกรอบเวลานั่งนายกฯแต่ถูกกลุ่มบุคคลเคลื่อนไหวต่อต้าน     
 
อ่านรายละเอียดได้ที่  http://www.thaiday.com/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000081702


เชิญออกความเห็นครับ    Mr. Green

อ่านแล้ว นี้หรือคลื่นลูกทีสาม  ล้าสมัยแล้ว  หัวข่าวพรุ่งนี้เขาเขียนว่า
"ทักสิน" พร่ำพรรณาเข้าใจชีวิตคนจนฟังแล้วน้ำตาซึม เน้นย้ำแนวปฏิบัติเศรษฐกิจ  หนุนรากหญ้าเข้าหาแหล่งมีเงิน  ระบุถ้าอยากสร้างฐานะต้องใจถึง รู้จักอม  และโกง   มัวแต่กู้เงินจ่ายดอกให้นายธนาคารรวยอย่างเดียว  ไม่ทันกิน ชี้มีกรอบเวลาเอาเก้าอี้นายกติดตุดไปไหนมาไหน  เพราะกลัวถูกกลุ่มบุคคลเคลื่อนไหวต่อต้านให้ลาออก

บันทึกการเข้า
engg
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 388


« ตอบ #25 เมื่อ: 25-06-2006, 21:27 »

Mr. Greenที่ไม่ตรง เพราะคำกล่าวนายกไม่มี "รวย" Mr. Green

Mr. Greenหลักการเป็นการเพิ่มหรือให้โอกาสแก่คนที่เรียกได้ว่ารากหญ้า ไม่เคยได้รับ ย้ำเป็นการให้โอกาส เช่นสิทธิ์การเช่าที่ทรัพย์สิน สามารถนำมาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำต่อสถาบันการเงินที่ดอกถูกกว่า ย้ำเป็นการเพิ่ม ให้โอกาส ไม่ใช้ก็ได้

Mr. Greenแน่นอนการใช้โอกาส ต้องระวัง ต้องทำตามแนวทางพอเพียง Mr. Green

Mr. Greenคนที่ได้รับโอกาสอยู่แล้ว ย่อมไม่เห็นความสำคัญนี้ แต่รากหญ้าอาจน้ำตาซึม Mr. Green

Mr. Greenหลักการนี้ไม่เกี่ยวบัตรเครคิต ไม่เกี่ยวการบริหารรายได้ Mr. Green
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #26 เมื่อ: 25-06-2006, 22:27 »

ผมจะบอกคุณ engg ให้ ถ้าประชาชนในประเทศนี้คิดอ่าน "ศรีธนญSHIN" แบบคุณหรือแบบกะลาชน แปลว่าประเทศนี้ซวยแล้ว
บันทึกการเข้า

555555555555
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 309



« ตอบ #27 เมื่อ: 26-06-2006, 08:32 »

คือ แม้วมันไม่ได้เข้าใจอะไรหรอกคับ มันเข้าใจแค่ว่า นี่คือ หลักการตลาดที่มันต้องทำ  ส่วนคนจนเองก็ต้องการเงินอยุ่แล้วมันก้เลยบรรจบกันตรงเส้นตัดของความคิดไงคับ ต่างฝ่ายต่างก็เห็นแก่ตนเองมากกว่าส่วนรวมก็ยังงี้แหละ อย่างนี้แหละคับที่ทำให้ผมเกลียดแม้วมาตั้งแต่เมื่อ 6 ปีก่อน นโยบายแต่ละอย่างไม่ใช่นโยบายเพื่อพัฒนาประเทศชาติอย่างแท้จริง มันแค่การตลาดล้วนๆเท่านั้นเอง
บันทึกการเข้า
นู๋เจ๋ง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,877



« ตอบ #28 เมื่อ: 26-06-2006, 09:27 »

ระบบการจัดการ ระบบบริหารธุรกิจเป็นเรื่องดี
แต่ก่อนจะเรียน หรือใช้หลักพวกนี้
ต้องมี หน้าที่พลเมืองและวิชาศีลธรรม ที่ฝังไว้ในจิตสำนึก และรากฐานการศึกษาก่อน

อดออม คือสามัญสำนึก แต่ ร่ำรวยด้วยหลักบริหาร นั้นคือวิชาชีพ
บันทึกการเข้า

~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
O_envi
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 495



« ตอบ #29 เมื่อ: 26-06-2006, 15:52 »

ถ้าทักษิณเก่งจริงอย่างที่ปากบอกทำไมไม่ออกแบบระบบการกู้ยืมให้ดีๆ ล่ะครับ
ถ้าเป็นเจ้าของธนาคาร ธนาคารเจ๊งไปแล้วแบบนี้
บันทึกการเข้า

The change musts come one by one.It has to start with you
so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #30 เมื่อ: 26-06-2006, 16:27 »

เอามาแถมให้เหล่ากองชเลียร์แม้วอีกอัน
ผลพวงของนโยบาย กู้ไว้ก่อน พ่อเหลี่ยมสอนไว้
กำลังค่อยๆปรากฏให้เห็นเป็นรูปธรรมครับ   
Mr. Green Mr. Green


ยอดค้างชำระหนี้บัตรเครดิต-สินเชื่อบุคคลเริ่มขยับเพิ่มขึ้น

นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือเคทีซี กล่าวถึงสถานการณ์การขอสินเชื่อผ่านบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลของประชาชนขณะนี้ว่า จากการที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ทำให้ประชาชนมีความต้องการใช้บริการสินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของสินเชื่อเครดิต แต่บริษัทก็เพิ่มความระมัดระวังในการอนุมัติ เนื่องจากที่ผ่านมาเริ่มเห็นสัญญาณอัตราค้างชำระที่เพิ่มขึ้น โดยสินเชื่อบัตรเครดิตอัตราค้างชำระเพิ่มจากร้อยละ 2.85 เป็นร้อยละ 3 สินเชื่อบุคคล เพิ่มจากร้อยละ 8 เป็นร้อยละ 9 ซึ่งบริษัทได้ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามทวงถามก็สามารถหยุดตัวเลขอัตราค้างชำระไม่ให้เพิ่มขึ้นได้ ทำให้เห็นว่าในสถานการณ์ขณะนี้จะต้องเพิ่มความระมัดระวัง จึงอนุมัติสินเชื่อบุคคลในสัดส่วนประมาณร้อยละ 30 ของยอดขอสินเชื่อ ส่วนสินเชื่อบัตรเครดิตอนุมัติร้อยละ 50 ของจำนวนผู้ขอ

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาชมรมบัตรเครดิต สมาคมธนาคารไทยได้เสนอไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอให้พิจารณาผ่อนปรนให้ลูกค้าบัตรเครดิตสามารถผ่อนชำระขั้นต่ำร้อยละ 5 ต่อไปอีก ขณะเดียวกัน ก็ขอปรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบัตรเครดิต ซึ่งขณะนี้ ธปท.กำหนดเพดานไว้ที่ไม่เกินร้อยละ 18 ทำให้ผู้ให้บริการได้รับผลกระทบ เพราะอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตร (อาร์พี) ได้ปรับขึ้นไปมากแล้ว ทำให้ต้นทุนทางการเงินของผู้ให้บริการเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ เพดานร้อยละ 18 ธปท.กำหนดตั้งแต่ตอนที่อัตราดอกเบี้ยอาร์พีอยู่ที่ร้อยละ 2 แต่ขณะนี้ขยับไปที่ร้อยละ 5 อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ธปท.ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนออกมา

จาก http://www.bangkokbiznews.com/nws/scripts/hotnewskt.php?lang=th&newsid=200998&type=ktmo
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: