ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
18-04-2024, 09:50
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  Welcome back to the House ครับท่านนายกฯสมัคร สุนทรเวช!! 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] 2
Welcome back to the House ครับท่านนายกฯสมัคร สุนทรเวช!!  (อ่าน 5754 ครั้ง)
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« เมื่อ: 11-09-2008, 09:26 »

ตามนั้นแบบไม่ต้องสงสัยใดๆ!~
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #1 เมื่อ: 11-09-2008, 09:30 »

เผอิญว่าคำวินิจฉัยของศาลรธน.เกิดปัญหาด้านจริยธรรมในเรื่องการให้โทษต่อผู้ถูกกล่าวหาในเรื่องคำจำกัดความ 'ลูกจ้าง' ที่มีหลักฐานชัดเจนว่า 1 ใน 9 ตุลาการก็เป็นลูกจ้างเหมือนกัน กรณีจรัลที่เป็นอาจารย์พิเศษที่ม.รังสิต นี่ก็ชัดว่ารับเงินในฐานะวิชาชีพอิสระ จึงเป็นเหตุให้คุณสมัครก็กลับมาทำงานให้เสร็จสิ้นกระบวนการ!!
บันทึกการเข้า
THE THIRD WAY
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,821


Love looks not with eyes, but with the mind.


« ตอบ #2 เมื่อ: 11-09-2008, 10:00 »

Welcome back to the House

อะไรกันนักหนา
จะเอากันให้ตายรึไง?
กระเ .หี้ .ย .น.กระหือรือ

จะให้กลับมาอีก

กลับมาทำไม สัญญาหมดอายุแล้ว
ดีนะที่ศาลตัดสินแบบนี้
ไม่งั้นไม่รู้จะหาทางลงยังไง?
วันที่25ก.ย.ก็อีก
จะให้ไอ้กระผมต้องตายซ้ำซาก
ตายแล้วตายอีกแบบฮูลาฮูล่ารึไง...โธ่...
ถ้าผมไม่กลับบ้าน ไม่เป็นนายกฯ
จะมีคนตายรึไง?
ไม่อาว....ไม่เอา
ไม่เอาโว้ย
(ไม่แน่วุ้ย.เห็นฝุ่นตลบอยู่นู่น)
บันทึกการเข้า

ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้
************************
การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #3 เมื่อ: 11-09-2008, 10:01 »

ดีครับ...พลังชั่ว ช่วย ๆ กันโหวดหน่อย...

อย่าปล่อย ให้ กุเทพ กับ นิสิต สินธุไพร โดนตราหน้าว่า

เป็นพวกเห่าไปวัน ๆ ....เอาโลด.....

ผมชอบ เดี๋ยวตอนหมักติดคุก จะได้เป็นข่าวไปทั่วโลก...

" นายกรัฐมนตรี คนแรก ของโลก ติดคุกในขณะที่ดำรงตำแหน่ง"


 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2008, 10:09 โดย 55555 » บันทึกการเข้า
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #4 เมื่อ: 11-09-2008, 10:05 »

*  มาเลยยย  ให้ไว  มามะ ตัวเอง
    มาแล้วก็มีคดีความรออยู่ ..... ดีจ๊ะดี  จะได้ถูกเตะออกจากเก้าอี้รอบ 2
   
บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
ดอกไม้ดิน
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 39



« ตอบ #5 เมื่อ: 11-09-2008, 10:21 »

มาตรา ๒๑๖
องค์คณะของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในการนั่งพิจารณาและในการทำ คำวินิจฉัย ต้องประกอบด้วยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่น้อยกว่าห้าคน คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ให้ถือเสียงข้างมาก เว้นแต่จะมีบัญญัติเป็นอย่างอื่นในรัฐธรรมนูญนี้

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นองค์คณะทุกคนจะต้องทำความเห็นในการวินิจฉัย ในส่วนของตนพร้อมแถลงด้วยวาจาต่อที่ประชุมก่อนการลงมติ

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและความเห็นในการวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทุกคน ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างน้อยต้องประกอบด้วยความเป็นมาหรือคำกล่าวหา สรุปข้อเท็จจริงที่ได้มาจากการพิจารณา เหตุผลในการวินิจฉัยในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย และบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่ยกขึ้นอ้างอิง

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล และองค์กรอื่นของรัฐ
วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาล

.................................................................................................................

อย่าว่าแต่ภาษากฎหมายเราว่าคุณเริ่มจะฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องแล้วแหละ
จขกทพยายามจะทำให้ขำหรือเปล่า แต่ขอบอกว่าเราขำไม่ออกจริงๆ
บันทึกการเข้า

The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #6 เมื่อ: 11-09-2008, 10:56 »

Welcome back to the House

อะไรกันนักหนา
จะเอากันให้ตายรึไง?
กระเ .หี้ .ย .น.กระหือรือ

จะให้กลับมาอีก

กลับมาทำไม สัญญาหมดอายุแล้ว
ดีนะที่ศาลตัดสินแบบนี้
ไม่งั้นไม่รู้จะหาทางลงยังไง?
วันที่25ก.ย.ก็อีก
จะให้ไอ้กระผมต้องตายซ้ำซาก
ตายแล้วตายอีกแบบฮูลาฮูล่ารึไง...โธ่...
ถ้าผมไม่กลับบ้าน ไม่เป็นนายกฯ
จะมีคนตายรึไง?
ไม่อาว....ไม่เอา
ไม่เอาโว้ย
(ไม่แน่วุ้ย.เห็นฝุ่นตลบอยู่นู่น)


ขอบคุณครับที่สนับสนุนท่านนายกฯกลับทำเนียบ
บันทึกการเข้า
exzcute
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 221


« ตอบ #7 เมื่อ: 11-09-2008, 10:57 »

แค่นี่ฉาวโฉ่ไม่พอ ต้องตกเก้าอี้แล้วคะมำเข้าคุกเลย ฉาวโฉ่ทั่วโลกอับอายไปชั่วลูกชั่วหลานเหลนโหลน
แต่จะมีพวกสาวกไปรับใช้นักโทษชายไหมนะ  
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #8 เมื่อ: 11-09-2008, 11:00 »

ดีครับ...พลังชั่ว ช่วย ๆ กันโหวดหน่อย...

อย่าปล่อย ให้ กุเทพ กับ นิสิต สินธุไพร โดนตราหน้าว่า

เป็นพวกเห่าไปวัน ๆ ....เอาโลด.....

ผมชอบ เดี๋ยวตอนหมักติดคุก จะได้เป็นข่าวไปทั่วโลก...

" นายกรัฐมนตรี คนแรก ของโลก ติดคุกในขณะที่ดำรงตำแหน่ง"


 


ฮ่าๆๆๆๆ....เกรงว่าทั่วโลกเค้าจะหัวเราะเยาะกระบวนการยุติธรรมของไทยที่จ้องเล่นงานฝ่ายปชต.แบบน่าเกลียด โดยเฉพาะกรณีที่นายกฯสมัครทำกับข้าวแค่นี้ ตัดสินว่าผิด ไม่ว่าจะมองมุมไหน...คำตัดสินดังกล่าวถือว่าไร้ยางอาย!!
บันทึกการเข้า
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 11-09-2008, 11:01 »

กระทู้นี้สนับสนุนอ่ะ เพราะอยากเห็นหมักติดคุกคาตำแหน่งนายกฯ 
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #10 เมื่อ: 11-09-2008, 11:02 »

*  มาเลยยย  ให้ไว  มามะ ตัวเอง
    มาแล้วก็มีคดีความรออยู่ ..... ดีจ๊ะดี  จะได้ถูกเตะออกจากเก้าอี้รอบ 2
   

เรื่องคดีเรื่องเล็กเพราะเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าตุลาการรธน.คณะนี้จะถูกปลดออกไปอย่างน้อย 5 คน!!
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #11 เมื่อ: 11-09-2008, 11:07 »

กระทู้นี้สนับสนุนอ่ะ เพราะอยากเห็นหมักติดคุกคาตำแหน่งนายกฯ 


ขอบคุณอีก 1 เสียงที่ประกาศชัดว่าศรัทธาในท่านสมัคร!!
บันทึกการเข้า
ooo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #12 เมื่อ: 11-09-2008, 11:11 »

สมัครจะกลับ หรือไม่กลับ ไม่มีผลต่อคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่นัดอ่านวันที่ 25 กย.หรอกครับ

เพราะคำพิพากษาคงเสร็จมาไม่ต่ำกว่า 2 เดือนแล้ว ตอนนี้อยู่ในซองปิดผนึกไว้อย่างดี เมือ่ถึงวันนัด

ผ้พิพากษาศาลชั้นต้น ก็จะเปิดซองแล้วอ่านให้นายสมัครฟังครับ
บันทึกการเข้า
exzcute
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 221


« ตอบ #13 เมื่อ: 11-09-2008, 11:13 »


ฮ่าๆๆๆๆ....เกรงว่าทั่วโลกเค้าจะหัวเราะเยาะกระบวนการยุติธรรมของไทยที่จ้องเล่นงานฝ่ายปชต.แบบน่าเกลียด โดยเฉพาะกรณีที่นายกฯสมัครทำกับข้าวแค่นี้ ตัดสินว่าผิด ไม่ว่าจะมองมุมไหน...คำตัดสินดังกล่าวถือว่าไร้ยางอาย!!

นี่แหล่ะน้าาา ไปโชว์ทำกับข้าวให้เด็กก็ไม่ใครว่าหรอก ไปรับเงินโชว์ทำกับข้าวทำไม๊ ก็ผิดเต็มๆ ซิ สาวกก็พูดแค่ทำกับข้าว รับจ้างหายไปไหนน้า? มิน่าถึงเป็นอาจารย์ม.ชินวัตร ไปสอนที่อื่นเขาคงให้สนตะพายอย่างเดียวเป็นพ่อพันก็ไม่ได้ สมองเหลือซีกเดียว แต่อาจจะได้ไปเป็นเนื้อให้นักโทษชายทำอาหารในคุกด้วยนะ  
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #14 เมื่อ: 11-09-2008, 11:14 »

สมัครจะกลับ หรือไม่กลับ ไม่มีผลต่อคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่นัดอ่านวันที่ 25 กย.หรอกครับ

เพราะคำพิพากษาคงเสร็จมาไม่ต่ำกว่า 2 เดือนแล้ว ตอนนี้อยู่ในซองปิดผนึกไว้อย่างดี เมือ่ถึงวันนัด

ผ้พิพากษาศาลชั้นต้น ก็จะเปิดซองแล้วอ่านให้นายสมัครฟังครับ

คำตัดสินในคดีจิ๊บๆวันที่ 25 นี้ไม่มีผลใดๆเพราะเป็นแค่คดีหมิ่นประมาทถือว่าเป็นคดีลหุโทษที่ได้รับการยกเว้นจากรธน.ไม่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง...ไปอ่านซะ!!
บันทึกการเข้า
วิหค อัสนี
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 946



« ตอบ #15 เมื่อ: 11-09-2008, 11:16 »

Welcome back to our good ol' political whore house!!! 

บันทึกการเข้า

_______ดังนี้แล
__เปลวไฟจักลุกโชน
___หามีวันดับลงได้
_ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า
ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #16 เมื่อ: 11-09-2008, 11:20 »

Welcome back to the House ครับท่านนายกฯสมัคร สุนทรเวช!!



 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2008, 11:24 โดย ลูกหินฮะ๛ » บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #17 เมื่อ: 11-09-2008, 11:24 »

Welcome back to our good ol' political whore house!!! 



คิดแต่เรื่องใต้สะดือไปป่าว!?!
บันทึกการเข้า
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,131


กูรู้มึงต้องอ่าน ฮ่าๆ ขำขำนะจ๊ะ


เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 11-09-2008, 11:26 »


ฮ่าๆๆๆๆ....เกรงว่าทั่วโลกเค้าจะหัวเราะเยาะกระบวนการยุติธรรมของไทยที่จ้องเล่นงานฝ่ายปชต.แบบน่าเกลียด โดยเฉพาะกรณีที่นายกฯสมัครทำกับข้าวแค่นี้ ตัดสินว่าผิด ไม่ว่าจะมองมุมไหน...คำตัดสินดังกล่าวถือว่าไร้ยางอาย!!

เอกครับ นิสัยไม่ดีเลยนะครับ พุดใหครบๆ หน่อยครับ ว่าไม่ได้  โดนตัดสิน เพราะทำกับข้าวอย่างเดียว  แต่ว่า ไปทำหลักฐานเท็จ!   
บันทึกการเข้า

ขอมอบ เพลงนี้ให้กับพี่น้อง พันธมิตรทุกคนฮะ


http://www.imeem.com/sakujo/music/04_GaHIQ/09_avenged_sevenfold_strength_of_the_worldmp3/

strength of the world
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #19 เมื่อ: 11-09-2008, 11:26 »

คำตัดสินในคดีจิ๊บๆวันที่ 25 นี้ไม่มีผลใดๆเพราะเป็นแค่คดีหมิ่นประมาทถือว่าเป็นคดีลหุโทษที่ได้รับการยกเว้นจากรธน.ไม่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง...ไปอ่านซะ!!

ฮ่า ๆ ไปอ่านกฏหมาย ก่อน.....

 
บันทึกการเข้า
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #20 เมื่อ: 11-09-2008, 11:26 »

Welcome back to the House ครับท่านนายกฯสมัคร สุนทรเวช!!



 
บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #21 เมื่อ: 11-09-2008, 11:28 »

เอกครับ นิสัยไม่ดีเลยนะครับ พุดใหครบๆ หน่อยครับ ว่าไม่ได้  โดนตัดสิน เพราะทำกับข้าวอย่างเดียว  แต่ว่า ไปทำหลักฐานเท็จ!   


ถ้าทำเอกสารเท็จจริงอย่างที่กล่าวอ้าง....ทำไมไม่ฟ้องร้องดำเนินการอีก 1 คดีหล่ะ!?!
บันทึกการเข้า
exzcute
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 221


« ตอบ #22 เมื่อ: 11-09-2008, 11:33 »


ถ้าทำเอกสารเท็จจริงอย่างที่กล่าวอ้าง....ทำไมไม่ฟ้องร้องดำเนินการอีก 1 คดีหล่ะ!?!

กร๊ากๆๆ ศาลรัฐธรรมนูญนะไม่ใช่ศาลอาญา อย่าเดินไปแถวโรงฆ่าสัตว์นะ.....จ๊ะ
บันทึกการเข้า
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,131


กูรู้มึงต้องอ่าน ฮ่าๆ ขำขำนะจ๊ะ


เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: 11-09-2008, 11:36 »


ถ้าทำเอกสารเท็จจริงอย่างที่กล่าวอ้าง....ทำไมไม่ฟ้องร้องดำเนินการอีก 1 คดีหล่ะ!?!

เอกครับ บอกแล้ว ให้ฟังข่าวหลายๆ ด้าน อย่าไปฟังแต่พวกเดียวกันเอง
  ฟ้องแน่ครับ แต่ท่าน สว เค้าบอกให้ท่าน สมัครเค้าหายใจหายคอหน่อย  เพราะยังมี ตามมาอีกหลายคดี   
บันทึกการเข้า

ขอมอบ เพลงนี้ให้กับพี่น้อง พันธมิตรทุกคนฮะ


http://www.imeem.com/sakujo/music/04_GaHIQ/09_avenged_sevenfold_strength_of_the_worldmp3/

strength of the world
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #24 เมื่อ: 11-09-2008, 11:36 »

กร๊ากๆๆ ศาลรัฐธรรมนูญนะไม่ใช่ศาลอาญา อย่าเดินไปแถวโรงฆ่าสัตว์นะ.....จ๊ะ


กำลังมองไปที่เจ๊กเรืองไกรลูกน้องญ.เป็ดหง่ะ...เพราะปรกติมันไม่ปล่อยเรื่องแบบนี้แน่นอน
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #25 เมื่อ: 11-09-2008, 11:39 »

เอกครับ บอกแล้ว ให้ฟังข่าวหลายๆ ด้าน อย่าไปฟังแต่พวกเดียวกันเอง
  ฟ้องแน่ครับ แต่ท่าน สว เค้าบอกให้ท่าน สมัครเค้าหายใจหายคอหน่อย  เพราะยังมี ตามมาอีกหลายคดี   

เห็นไหม...พูดยังไม่ทันขาดคำ สวะรับใช้ญ.เป็ด เห่ารับลูกเป็นทอดๆแร๊ะ  แต่จริงๆน๊ะว่าหากคุสมัครปลอมแปลงเอกสารจริง...ขอสนับสนุนให้ดำเนินคดีต่อคุณสมัครด่วนเลย

แต่ประเด็นเรื่อง การรับจ๊อบของตุลาการรธน.นี่ซิ...จะต้องให้ชาวบ้านเค้าไปฟ้องร้องบังคับให้ลาออกหรือ? สามัญสำนึกน่าจะมีมากกว่าชาวบ้านเค้านะบอกกงๆ
บันทึกการเข้า
ooo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #26 เมื่อ: 11-09-2008, 11:42 »

ฮ่า ๆ ไปอ่านกฏหมาย ก่อน.....

 

ขอขำด้วยคน


ไปอ่านแล้ว อย่าลืมมาบอกเพื่อนๆด้วยน๊ะ ...จารย์:slime_bigsmile:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2008, 11:44 โดย ooo » บันทึกการเข้า
exzcute
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 221


« ตอบ #27 เมื่อ: 11-09-2008, 11:44 »


กำลังมองไปที่เจ๊กเรืองไกรลูกน้องญ.เป็ดหง่ะ...เพราะปรกติมันไม่ปล่อยเรื่องแบบนี้แน่นอน

กร๊ากๆๆ เป้าเล็กไม่คุ้มหรอกจ๊ะ ต้องแบบจ๊ะนี่เป้าใหญ่ หวังว่าจ๊ะคงไม่ได้ผอมแห้งเหลือแต่กระดูกนะ พ่อก็ขายสนามหญ้าไปแล้วหาที่กินลำบากขึ้นไหมจ๊ะ
บันทึกการเข้า
นายดอกเข็ม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 423



« ตอบ #28 เมื่อ: 11-09-2008, 11:46 »

ตามนั้นแบบไม่ต้องสงสัยใดๆ!~

House = Jail 

25 นี้ครับ
บันทึกการเข้า

...ความชอบธรรมต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม...
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #29 เมื่อ: 11-09-2008, 11:49 »

กร๊ากๆๆ เป้าเล็กไม่คุ้มหรอกจ๊ะ ต้องแบบจ๊ะนี่เป้าใหญ่ หวังว่าจ๊ะคงไม่ได้ผอมแห้งเหลือแต่กระดูกนะ พ่อก็ขายสนามหญ้าไปแล้วหาที่กินลำบากขึ้นไหมจ๊ะ


เป้าเล็กหรือเป้าใหญ่ไม่ทราบคร้า....ทราบแต่เพียงว่า 6 พรรคกอดคอกันเป็นรัฐบาลไปเรื่อยๆจนกว่าจะเบื่อ
บันทึกการเข้า
ooo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #30 เมื่อ: 11-09-2008, 11:51 »

ว่างัย จขกท. ไปอ่านกฎหมายมายัง เพื่อนๆรอฟังอยู่...
บันทึกการเข้า
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,131


กูรู้มึงต้องอ่าน ฮ่าๆ ขำขำนะจ๊ะ


เว็บไซต์
« ตอบ #31 เมื่อ: 11-09-2008, 11:52 »

เห็นไหม...พูดยังไม่ทันขาดคำ สวะรับใช้ญ.เป็ด เห่ารับลูกเป็นทอดๆแร๊ะ  แต่จริงๆน๊ะว่าหากคุสมัครปลอมแปลงเอกสารจริง...ขอสนับสนุนให้ดำเนินคดีต่อคุณสมัครด่วนเลย

แต่ประเด็นเรื่อง การรับจ๊อบของตุลาการรธน.นี่ซิ...จะต้องให้ชาวบ้านเค้าไปฟ้องร้องบังคับให้ลาออกหรือ? สามัญสำนึกน่าจะมีมากกว่าชาวบ้านเค้านะบอกกงๆ


เห้อ   เอาอีกคนละ   เอาเลยครับ ฟ้องเลย เต็มที่ หรือไม่กล้า  
บันทึกการเข้า

ขอมอบ เพลงนี้ให้กับพี่น้อง พันธมิตรทุกคนฮะ


http://www.imeem.com/sakujo/music/04_GaHIQ/09_avenged_sevenfold_strength_of_the_worldmp3/

strength of the world
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,131


กูรู้มึงต้องอ่าน ฮ่าๆ ขำขำนะจ๊ะ


เว็บไซต์
« ตอบ #32 เมื่อ: 11-09-2008, 11:55 »

คำตัดสินในคดีจิ๊บๆวันที่ 25 นี้ไม่มีผลใดๆเพราะเป็นแค่คดีหมิ่นประมาทถือว่าเป็นคดีลหุโทษที่ได้รับการยกเว้นจากรธน.ไม่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง...ไปอ่านซะ!!

มะแร่ง  หลงคุยกับเอกตั้งนาน นึกว่า มีความรู้มากที่สุดในเหล่า แก๊งเหลี่ยม แต่แม่งเอ๊ย ผิดหวังโครตๆ  สมองเท่าเม็ดถั่ว 
บันทึกการเข้า

ขอมอบ เพลงนี้ให้กับพี่น้อง พันธมิตรทุกคนฮะ


http://www.imeem.com/sakujo/music/04_GaHIQ/09_avenged_sevenfold_strength_of_the_worldmp3/

strength of the world
นายดอกเข็ม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 423



« ตอบ #33 เมื่อ: 11-09-2008, 12:03 »

คำตัดสินในคดีจิ๊บๆวันที่ 25 นี้ไม่มีผลใดๆเพราะเป็นแค่คดีหมิ่นประมาทถือว่าเป็นคดีลหุโทษที่ได้รับการยกเว้นจากรธน.ไม่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง...ไปอ่านซะ!!

ถ้าถึงวันนั้น สมัครถูก พรรคป่วนชาติ โหวตกลับมาเป็นนายกฯ อีก
ก็ติดคุกคาตำแหน่งนายกฯ ฉาวโฉ่ไปทั้งโลกเลยละคร้าบ 
บันทึกการเข้า

...ความชอบธรรมต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม...
exzcute
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 221


« ตอบ #34 เมื่อ: 11-09-2008, 12:04 »


เป้าเล็กหรือเป้าใหญ่ไม่ทราบคร้า....ทราบแต่เพียงว่า 6 พรรคกอดคอกันเป็นรัฐบาลไปเรื่อยๆจนกว่าจะเบื่อ

6 พรรค หรือ 3 พรรคน้า?

ปล.เปลี่ยนเป็นตัวเมียได้ฉับไวเหมือนว่าที่นักโทษชายเปลี่ยนคำพูดเลย
บันทึกการเข้า
ooo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #35 เมื่อ: 11-09-2008, 12:09 »

ถ้าถึงวันนั้น สมัครถูก พรรคป่วนชาติ โหวตกลับมาเป็นนายกฯ อีก
ก็ติดคุกคาตำแหน่งนายกฯ ฉาวโฉ่ไปทั้งโลกเลยละคร้าบ 


แล้วก็ไม่ต้องทวงคืนทำเนียบ เพราะต้องไปนั่งทำงานในคุก

ครม.ต้องสัญจรไปประชุมในคุก   
บันทึกการเข้า
sanskritshower
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 245



« ตอบ #36 เมื่อ: 11-09-2008, 12:18 »

ผมมีข้อสังเกตุอย่างนึงว่า

ถ้าเมื่อไหร่ฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายทักษิณถูกศาลตัดสิน  เช่นคดีคุณหญิง  หรือทักษิณหนีคดี

จ๊ะ  จะหายไปวันสองวัน  แล้วกลับมาฟาดงวงฟาดงาเรื่อยเปื่อย  ดังกระทู้นี้นั่นเอง

ปล.  รักและคิดถึงนะ  จุ๊ฟๆ
บันทึกการเข้า
เงินไหลกองทองไหลมา
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 107



« ตอบ #37 เมื่อ: 11-09-2008, 12:24 »

welcome. to the hell of a prime minister


นายกสุนัขจิ้งจอกหอกหัก เหรี้ย ตะกวด แลน แสรดนรก จกเป-รต ลูกเจ้าพระยาขายชาติอาบอบนวด

นรกยินดีต้อนรับ 55555

บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #38 เมื่อ: 11-09-2008, 12:37 »

เผอิญว่าคำวินิจฉัยของศาลรธน.เกิดปัญหาด้านจริยธรรมในเรื่องการให้โทษต่อผู้ถูกกล่าวหาในเรื่องคำจำกัดความ 'ลูกจ้าง' ที่มีหลักฐานชัดเจนว่า 1 ใน 9 ตุลาการก็เป็นลูกจ้างเหมือนกัน กรณีจรัลที่เป็นอาจารย์พิเศษที่ม.รังสิต นี่ก็ชัดว่ารับเงินในฐานะวิชาชีพอิสระ จึงเป็นเหตุให้คุณสมัครก็กลับมาทำงานให้เสร็จสิ้นกระบวนการ!!


นายเส-นียดจัน-ราย ทำให้สถาบัน'นายกรัฐมนตรีไทย'ตกต่ำ ไร้ค่า ไร้ยางอายที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
เอาตำแหน่ง'นายกฯนอมินี' ไปแลกกับ'แกงค์ข้างถนน'(ความเข้าใจของนายเส-นียดเอง) โดยไม่คำนึ่งศักดิ์ศรี ความเป็น'ผู้ใหญ่' และ 'ผู้นำประเทศทางการเมือง'
เพียงต้องการจะได้เป็น'นายกฯนอมินี'รับใช้'นายใหญ่'ต่อไป.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


พวกบัตรเติมเงิน อเวไนยสัตว์ หนอนในโถส้วม ก็ยุส่ง จะได้ไม่ลำบากไปหากินที่อื่นๆ......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #39 เมื่อ: 11-09-2008, 12:44 »

19นักวิชาการนิติศาสตร์ หนุนคำพิพากษาศาลรธน.ฟัน"สมัคร"

19 นักนิติศาสตร์ ชี้มาตรา ๒๖๗ เจตนารมณ์ไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองอยู่ใต้การครอบงำของธุรกิจเอกชน ไม่ว่าจะมีนิติสัมพันธ์ลักษณะใด การตีความของศาลรธน.จึงสอดคล้องกับเจตนารมณ์
แถลงการณ์ เรื่องการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสภาผู้แทนราษฎร

ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยโดยมติเป็นเอกฉันท์ว่า ผู้ถูกร้อง(นายสมัคร สุนทรเวช) กระทำการอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๖๗ มีผลให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๘๒ วรรคหนึ่ง (๗)

และเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นายกรัฐมนตรีผู้ถูกร้อง กระทำการอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๗ เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ซึ่งมีผลทำให้รัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีทั้งคณะพ้นจากตำแหน่ง ส่วนรัฐมนตรีที่เหลือในคณะรัฐมนตรีจึงอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา ๑๘๑ นั้น และโดยที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อมวลชนว่า พรรคที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลจะสนับสนุนให้นายสมัคร สุนทรเวช กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง นั้น
คณาจารย์ทางนิติศาสตร์ ดังมีรายนามข้างท้ายแถลงการณ์นี้เห็นว่ามาตรา ๒๖๗ ของรัฐธรรมนูญ เป็นบทบัญญัติที่มีเจตนารมณ์ไม่ต้องการให้ผู้ดำรงตำแหน่งในทางบริหารยอมตนอยู่ภายใต้การครอบงำของธุรกิจเอกชน ไม่ว่าจะมีนิติสัมพันธ์ในลักษณะใดๆ ก็ตาม ดังนั้น การตีความของศาลรัฐธรรมนูญจึงเป็นการสอดคล้องกับเจตนารมณ์ดังกล่าว

แต่อย่างไรก็ตาม คณาจารย์ทางนิติศาสตร์ดังมีรายนามข้างท้ายแถลงการณ์นี้ยังมีข้อห่วงกังวลต่อกระบวนการตัดสินใจทางการเมืองในการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี อันจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อหลักกฎหมายและกฎหมายรัฐธรรมนูญอย่างสำคัญยิ่ง กล่าวคือ การที่สภาผู้แทนราษฎรโดยมติของเสียงข้างมากสนับสนุนให้นายสมัคร สุนทรเวช กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีจะเป็นการกระทำที่ขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ ดังนี้


๑. การที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ารัฐมนตรีคนใดมีลักษณะต้องห้ามแล้ว ภายหลังจากการวินิจฉัยบุคคลนั้นสามารถกลับมาเป็นรัฐมนตรีได้ใหม่ ย่อมสะท้อนให้เห็นว่า การทำหน้าที่ควบคุมตรวจสอบของศาลรัฐธรรมนูญไม่มีผลในทางปฏิบัติแต่อย่างใด ดังนั้นการตีความหรือการใช้กฎหมายที่ทำให้องค์กรใดองค์กรหนึ่งสูญเสียการทำภาระหน้าที่ของตน การตีความเช่นนั้นย่อมไม่เป็นการขัดกับรัฐธรรมนูญ การวินิจฉัยในประเด็นที่เป็นเรื่องคุณสมบัติต้องห้ามนั้นผลของการวินิจฉัยควรมีผลเป็นการถาวรหรืออย่างน้อยที่สุดในวาระของสภาผู้แทนราษฎรชุดนั้นๆ

๒.การตีความที่ให้ผู้มีคุณสมบัติต้องห้ามกลับมาเป็นรัฐมนตรีใหม่ได้โดยทันที ย่อมส่งผลกระทบต่อการมีค่าบังคับหรือความศักดิ์สิทธิ์ของกฎเกณฑ์นั้นๆ เพราะหากตีความเช่นนั้นก็เท่ากับทำให้ความประสงค์ของกฎหมายที่ต้องการกำหนดพฤติกรรมหรือการกระทำของบุคคลโดยเฉพาะบุคคลที่จะเข้ามาเป็นผู้บริหารของบ้านเมืองย่อมไร้ความหมายหรือปราศจากผลบังคับใดๆในทางข้อเท็จจริง เพราะเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีลักษณะต้องห้ามแล้วก็พ้นจากตำแหน่ง และเช้าวันรุ่งขึ้นก็แต่งตั้งเข้าสู่ตำแหน่งเดิมได้ กฎหมายที่เป็นเครื่องมือในการกำหนดพฤติกรรมของบุคคลก็ปราศจากความหมายใด ๆ ทั้งสิ้น

๓.การตีความบทกฎหมายโดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ของนักการเมือง นอกจากจะต้องพิจารณาถึงเจตนารมณ์แห่งบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญดังกล่าวแล้ว ยังจะต้องตีความโดยคำนึงถึงจริยธรรมของนักการเมือง อันถือว่าเป็นหลักสำคัญของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในฐานะที่เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยที่จะต้องกระทำเพื่อตอบสนองต่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนโดยส่วนรวม

จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น คณาจารย์ทางนิติศาสตร์ผู้มีรายนามข้างท้ายนี้ จึงใคร่ขอเรียกร้องต่อบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่า ในเรื่องกระบวนการทางการเมืองเป็นสิทธิหรืออำนาจหน้าที่ของท่าน แต่อย่าให้การตัดสินใจในทางการเมืองของท่านไปทำลายหลักกฎหมายของบ้านเมือง อย่าให้การตัดสินใจของท่านทำลายคุณค่าของกฎหมายรัฐธรรมนูญ และอย่าให้การตัดสินใจของท่านทำให้สังคมการเมืองไทยห่างไกลจากสังคมคุณธรรมหรือจริยธรรมมากขึ้นเป็นลำดับ

ศ.แสวง บุญเฉลิมวิภาส คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ศ.ดร.ไพโรจน์ กัมพูสิริ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
รศ.ดร.ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
รศ.นพนิธิ สุริยะ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
รศ.ดร.สุรศักดิ์ มณีศร คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
รศ.ดร.วิจิตรา วิเชียรชม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
รศ.สหธน รัตนไพจิตร คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผศ.ดร.วีรวัฒน์ จันทรโชติ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
รศ.ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผศ.พิรุณา ติงศภัทิย์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อ.ดร.เขมภูมิ ภูมิถาวร คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อ.ดร.นนทวัชร์ นวตระกูลพิสุทธิ์ นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อ.จุมพล แดงสกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
รศ.ฐิติพันธุ์ เชื้อบุญชัย คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อ.คมสัน โพธิ์คง คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
ผศ.หริรักษ์ โล่พัฒนานนท์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
อ.นาถวดี ฟักคง คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
อ.นฤมล เสกธีระ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
อ.รัฐศักดิ์ บำรุงสุข คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร



http://special.bangkokbiznews.com/detail.php?id=4164&username=politic


ผมนำแถลงการณ์ของ 19 นักวิชาการ อาจารย์สอนกฏหมายในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ มาให้ศึกษา พิจารณาความเห็นด้วยกับการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างไรบ้าง แต่เป็นที่น่าเสียดาย คนที่เป็นนายกฯนอมินี และ บริวาร ไร้ยางอาย ไร้หิริโอตตัปปะ ยังใช้เสียงข้างมากในรัฐสภา ทำลายคุณธรรม จริยธรรม ศักดิ์ศรีของนักการเมืองไทยที่มีควรมี ทำให้สังคมและการเมืองไทยมีมลทิน โสโครก เป็นหน้าอัปยศหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทย.....!!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2008, 12:46 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #40 เมื่อ: 11-09-2008, 13:19 »

มะแร่ง  หลงคุยกับเอกตั้งนาน นึกว่า มีความรู้มากที่สุดในเหล่า แก๊งเหลี่ยม แต่แม่งเอ๊ย ผิดหวังโครตๆ  สมองเท่าเม็ดถั่ว 


"ตัวอย่างความเห็นสื่อต่างชาติ ...มองไทยเป็นตัวตลก ในคดีนายกฯสมัคร

โดย คุณ hectic101
ที่มา เวบบอร์ด ประชาไท
11 กันยายน 2551

ชื่อเสียงประเทศย่อยยับ ไม่เหลืออะไรให้ต้องอายอีกแล้ว สื่อต่างชาติละเลงเละ ที่มาให้ดูเป็นตัวอย่างนี่ แค่ข่าว กระทู้ความเห็นเขา มองเป็นประเทศโจ๊ก ศาลน่าจะขอให้ ก.ต่างประเทศ ช่วยชี้แจง

1. วันนี้ มีเรื่องพิลึกเกิดขึ้นใหม่ นายกฯสมัคร ถูกตัดสินว่า มีความผิดเพราะทำงานหลายแห่ง กล่าวคือขณะดำรงตำแหน่งราชการ ได้ไปปรากฏตัวในรายการทำอาหารโดยได้รับค่าตอบแทน .....

แต่เรื่องโง่ๆ ก็คือเรื่องโง่ๆ ถ้านายกฯทำงานหลายแห่งเพื่อจะโกยเงินมากๆ ก็ว่าไปอย่าง แต่นี่มันเรื่องจิ๊บจ๊อย เกินกว่าจะมาอ้างเป็นเหตุเพื่อไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งออกไป มันน่าสงสัยว่า ระบบยุติธรรมของไทยนี่มีความเป็นอิสระจริงหรือ ที่มารับดำเนินคดีกับเรื่องขี้ปะติ๋วพรรค์นี้

Yet today is a new milestone in weirdness. Prime Minister Samak Sundaravej was found guilty of moonlighting while in public office by being compensated for appearing on a television cooking program.........

But silly is silly. Unless the Prime Minister was moonlighting to make big bucks, this seems an awfully trifling matter to turf out an elected government. And it raises questions about the independence of the Thai judiciary to even hear such a piddling case.

http://democratizationpolicy.org/

2. จากที่เคยเหมือนหนังตลก บัดนี้การเมืองไทย เลี้ยวเข้าสู่ความพิลึกแบบประเดี๋ยวดีประเดี๋ยวร้าย สมัคร สุนทรเวช กลายเป็นนายกฯเพียงคนเดียว ที่ต้องพ้นจากตำแหน่ง ชนิดที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนเลยว่า นายกรัฐมนตรีต้องเสียตำแหน่งด้วยเหตุผล เนื่องจากไปทำครัว

Thai politics veers weirdly from comedy towards tragedy and then back again. Samak Sundaravej will surely go down as the only prime minister anywhere who has lost office for culinary reasons.

http://www.guardian.co.uk/commentisfree/2008/sep/10/thailand

3. “วงใน [ปรปักษ์ของรัฐบาลที่มีอิทธิพลและทรงอำนาจ] ได้ตัดสินใจว่า คุณสมัครจะต้องไป แม้ว่าเรื่องนี้จะต้องแลกกับการเป็นตัวตลกในสายตาของนานาชาติก็ตาม”

“The inner circle [of influential and powerful opponents of the government] has decided that [Mr] Samak has to go, even at the cost of international ridicule,”

http://www.ft.com/cms/s/0/a0791c8c-7e53-11dd-b1af-000077b07658.html

4. มีแต่ในเมืองไทยเท่านั้น ที่จะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น

Only in Thailand could this have happened. "
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #41 เมื่อ: 11-09-2008, 13:22 »

ถ้าถึงวันนั้น สมัครถูก พรรคป่วนชาติ โหวตกลับมาเป็นนายกฯ อีก
ก็ติดคุกคาตำแหน่งนายกฯ ฉาวโฉ่ไปทั้งโลกเลยละคร้าบ 



"รักระหว่างรบ:เรื่องอื้อฉาวคาวโลกีย์(ต่ำกว่า18ปีห้ามอ่าน)

โดย คุณอ่างขาง
ที่มา สถานีวิทยุออนไลน์www.pre-dawn.org
11 กันยายน 2551



กลิ่นคาวคุคลุ้งไปทั่วบริเวณ อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง ทั้งกางเกงใน ถุงยาง กระดาษทิชชู อยู่กองเต็มไปหมด จำลองถึงกับโกรธผมตั้ง ตะโกนด่าอย่างมีอารมณ์ไล่ออกไปทันที เรื่องกำลังจะบานปลายไปกันใหญ่ เมื่อจำลองจะเปลี่ยนการ์ดใหม่ สนธิลิ้ม ออกมาระงับศึก และต้องยอมกัดฟันตนเอง ประกาศบนเวทีอย่างไม่อายเมื่อบ่ายวันนี้ “ต่อไปนี้ห้ามเด็ดขาด ห้ามไม่ให้ใครไปที่ตึกสอง”...


“รักระหว่างรบ”(ตอนที่1): ลิ้มสนธิประกาศลั่นห้ามเข้าตึกกองบัญชาการสอง

หลัง จากจู๋จี๋กันบนท้องถนนกันแล้ว
เหล่าบรรดาสาวกลิ้ม ก็ชักชวนกันไป ดูดดื่มความรักต่อที่ริมคลอง
ป้าลุงคู่ไหนที่พอมีเงิน ก็เช่าแท็กซี่ไปหาความสำราญกันในที่ลับได้
แต่..คู่ไหนไม่มีเงินพอก็ ใช้วิธี ตาดูคนก้นติดดินแทน
หนังสดที่เหี่ยวๆมีให้ดูเป็นประจำแถวริมคลอง เมื่อเวลาย่างเข้าวันใหม่แล้ว
หลายคนเป็นผีขนุนคลองหลอดและสนามหลวง แอบมาทำมาหากินกลายเป็นนักประท้วงอาชีพไป มีเงินใช้มีอาหารกิน อยู่สบายเป็นล่ำเป็นสัน

เรื่องนี้เหล่าการ์ดใบกระท่อมรู้ดี และถือว่าเป็นโบนัสของการทำงานอีกส่วนหนึ่งไปด้วย
เด็กวัดสายมหาจำลองเห็นมาหลายครั้ง สุดทน รายงานเรื่องนี้ให้เจ้านายทราบ
มีเรื่องที่แย่กว่านั้นเข้าไปอีกเมื่อเหล่าคุณป้าผู้เคร่งธรรมะ เกิดใจแตกหนีบรรดาพระนอกรีดที่ไม่มีน้ำยา ไปหาบริการ ริมคลองแบบนี้บ้าง
และที่สุดก็ระเบิดกันออกมา นักรบใบกระท่อมกับเด็กวัดสายจำลอง ก็ตีกันเอง

หลังจากบุกยึดทำเนียบได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ตึกกองบัญชาการสอง ที่อยู่ไกลจากผู้ชุมนุม จึงกลายเป็นแดนสวรรค์ ของหนุ่มเฒ่าสาวชรา ไปโดยปริยาย
และแล้วเรื่องก็เกิดขึ้นมาจนได้
เมื่อเด็กวัด จูงมือพลตรีจำลองไปดูด้วยตาตนเอง
ป้าๆทั้งหลายที่ตามพระมา ทำอะไรกันบ้าง

กลิ่นคาวครุคลุ้งไปทั่วบริเวณ อย่างอื่นไมต้องพูดถึง ทั้งกางเกงใน ถุงยาง กระดาษทิชชู อยู่กองเต็มไปหมด จำลองถึงกับโกรธผมตั้ง ตะโกนด่าอย่างมีอารมณ์ไล่ออกไปทันที
เรื่องกำลังจะบานปลายไปกันใหญ่ เมื่อจำลองจะเปลี่ยนการ์ดใหม่
สนธิลิ้ม ออกมาระงับศึก และต้องยอมกัดฟันตนเอง ประกาศบนเวทีอย่างไม่อาย
เมื่อบ่ายวันนี้
“ต่อไปนี้ห้ามเด็ดขาด ห้ามไม่ให้ใครไปที่ตึกสอง”พร้อมชี้มือประกอบ

หลายคนหัวเราะกัน คิคิ หลายคู่แอบสบตากัน
เสียงป้าคนหนึ่งบ่นขึ้นมา เบาๆ “โธ่ไอ้ลิ้ม เอ็งนั่นแหละตัวดี เปิดห้องแอร์เลย”
เสียงคุณยายอีกคนหนึ่งบ่นขึ้นมาบ้าง “ทำอย่างนี้แล้ว จะมีคนเฝ้าม็อบเหรอ”
เสียงการ์ดใบกระท่อม บ่น “โห..เห็นแก่ตัวชิบ”

ครับก็ว่ากันไป “รักระหว่างรบ”
ทำเนียบรัฐบาลไทย คือที่ผลิตพลเมือง
เป็นเกียรติกับประเทศไทยดีแท้ๆครับ

รักระหว่างรบ(ตอนที่2):ปอง ตั้ว ม็อบกิเลสหนา ตัณหากลับ

เบื้องหลังผู้คนจากภูเก็ต ยกพลกลับบ้านกว่า300คน เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา
เกือบเป็นเหตุให้ มีเรื่องราวใหญ่โตเกิดขึ้น เมื่อการ์ดนักรบใบกระท่อม กระโดดเข้ามาขวางมิให้เดินทางกลับ พร้อมกล่าวหาว่าผู้นำพา เป็นคนของรัฐบาล

เช้าวันนั้น..
ป้าปอง ..พิธีกรปากกล้าบนเวที พูดที่ไรเป็นได้เฮ เพราะป้าแกเจาะถึงใต้กระโปง ใต้กางเกง ของดาราที่ไม่ให้ความร่วมมือกับพันธมิตร ได้ทุกครั้ง

ป้าปอง..ขึ้นเวทีเหมือนเช่นเคย แต่ครั้งนี้ ใบหน้าของแกถูกพอกไปด้วยแป้งที่หนาเตอะ ริ้วรอยที่เหี่ยวย่นหามีไม่ ขอบตาล่างที่มีถุงน้ำใต้ตาก็ไม่ปรากฏ ใบหูถูกแขวนด้วยต่างหูเพชรที่ยาวใหญ่ เปิดผมอันพะลุงพะลังของป้าแกรวบไว้ด้านหลัง เพื่อให้คนดูได้เห็นต่างหูอันยาวใหญ่นั้น

ด้วยใบหน้าที่หาคนปั้นได้ยาก
ป้าปอง ขึ้นเวทีมาแล้วยืน เกรี้ยวกราดไปที่ไมค์ ตะโกนอย่างคนเสียสติ
“พี่น้องคะ ห้องน้ำหญิงของเราโสโครกเหลือเกิน ต่อไปนี้ ให้ทุกคนช่วยทำความสะอาดด้วย” สายตาก็มองไปยังสตรีกลุ่มหนึ่งที่กระจุกตัวอยู่ริมอาคาร ทำเนียบ

“ถ่ายกันเองเลอะเทอะไปหมด เหม็นก็เหม็น ไม่ทำความสะอาดไม่รู้อยู่กันได้อย่างไร” ครั้งนี้ชี้มือไปยังสุภาพสตรีกลุ่มนั้นด้วย

เมื่อไม่เห็นเสียงตอบออกมา แถมยังมีบางคนเบือนหน้าหนี บางคนแบะปาก เมื่อป้าปองพูด
ป้าปองสุดทน คำพูดที่อดกลั้นจึงปรากฏ “ต่อไปนี้ ใครที่มาขอลายเซ็นไม่ต้องมากันแล้ว นอนอยู่กับบ้านเฉยๆ”

คำพูดป้าปองได้ผล คนกลุ่มนั้น ก็กลับบ้านจริงๆในบ่ายวันนั้นเอง

แท้จริงเป็นอย่างไร? ที่มาที่ไปเป็นอย่างไร?

ค่ำคืนวันศุกร์ วันแห่งการชุมนุมใหญ่ เหล่าสาวกต่างทยอยเดินทางเข้ามาร่วม ทั้งต่างจังหวัด และในกทม.เอง เป็นเช่นนี้มานานแล้ว
เป็นวันที่ สาวแก่แม่หม้าย ต่างแต่งตัวมาอวดโฉมประชันขันแข่งกัน หน้าเด้งบ้างหน้าเหี่ยวบ้างแล้วแต่อัตภาพของแต่ละคน
มีดารามาปรากฏกายในค่ำคืนวันศุกร์อย่างสม่ำเสมอ ดาราที่ขึ้นคานเหล่านั้นจะเป็นกันเองมากๆกับคุณป้าคุณยายทั้งหลาย แจกรายเซ็นกันอย่างทั่วถึง ไม่รู้จักเหน็ดรู้จักเหนื่อย มีคนถือ กล่องบริจาคเงินเดินตามหลัง
ใครอยากได้หน้า ให้ดาราสนใจ ก็ควักแบ็งค์พันกันออกมาเป็นปึกๆ หย่อนลงในกล่องบริจาค
แล้วก็ขอจับแก้มดาราคนนั้น ที่สนิทหน่อยก็ถือโอกาสหอมแก้มกันไปเลย
เหล่าไฮโซ โลโซ เหมือนกันหมด หรือ คุณยายศักดินาก็ไม่เว้นที่จะมาหาเศษหาเลย เรื่องนี้ด้วย

พระเอกหัวกลมแซ่ลิ้ม หมดสิทธิ์เพราะมีคุณป้าศักดินาหน้าเด้งท่านหนึ่งมานั่งเฝ้าทุกค่ำคืน ขืนพระเอกหัวกลมแซ่ลิ้มทำตัวเหลวไหล คุณป้าท่านนั้นเอาเรื่องแน่ เงินที่บริจาคอย่างสม่ำเสมอ ก็ จะอดไปด้วย


ลุงตั้ว..อดีตดาราดัง ล่าสุดเล่นหนังใหญ่ได้ซาดิสมากๆ ในบทไอ้***มเที่ยวข่มขืนหญิงสาวในห้องน้ำ ภายในโรงภาพยนตร์ บทนี้เป็นที่ประทับใจเหล่าพวกคุณป้าผัวหมดน้ำยาทั้งหลายเป็นอย่างมาก หลายคนอยากเป็นคนที่ลุงตั๋ว ข่มขืนบ้าง
ลุงตั๋ว มาปรากฏกายที่ม็อบได้ถูกที่ถูกเวลา ด้วยวัยของลุงตั๋วที่เหมาะสมกับคนในม็อบด้วย ด้วยอดีตที่เคยโด่งดังของลุงตั้ว ที่คุณป้าทั้งหลายยังเป็นวัยเอ๊าะๆกันอยู่ด้วย ลุงตั้วจึงกลายเป็นขวัญใจสาวๆในม็อบไปโดยปริยาย

คืนวันนั้น
ฝนตกหนัก เต้นพังพินาศ น้ำท่วมเต็มพื้นที่ กลิ่นเหม็นมากๆ ไปทางไหนก็มีแต่ขยะลอยฟ่องเต็มไปหมด
เหล่าบรรดาสาวกจำต้องหอบหิ้วเข้าไปในอาคาร ทำเนียบรัฐบาลเพื่อหลบฝนและเป็นที่พักอาศัยในค่ำคืนนั้น หลายคนไปแออัดอยู่รวมกัน

แน่นอนเบื้องต้นก็ด้วยอุดมการณ์ ทุกคนเสมอภาค มิวายที่ลุงตั้วกับป้าปอง ก็หลบอยู่ในที่นั้นด้วย
เพื่อเห็นใจผู้ที่มาชุมนุม ลุงตั้วก็ทำตัวสนิทชิดเชื้อ กลืนกับม็อบในคืนนั้นไป ป้าปองจากขวัญใจก็ถูกทิ้งให้เคว้งคว้าง อยู่คนเดียวขาดความสนใจ เพราะบรรดาผู้หลบฝนส่วนใหญ่มักเป็นสตรี

ป้าปองงีบหลับไป ลุงตั้วหายไปแล้ว และ กลุ่มผู้ชุมนุมสาวๆบางส่วนก็หายไปด้วย
“ตั้วๆ ๆ จ้า ตั้วอยู่ที่ไหน” เสียงป้าปองเรียกหา แต่ไม่มีเสียงตอบ

ป้าปองพยายามถามหาแต่ก็ไม่มีใครเห็น เป็นเช่นนี้จนกระทั้งเกือบรุ่งสาง จึงได้พบลุงตั้วนอนหลับ อิงกายอยู่กับบรรดาสาวๆเหล่านั้นในห้องชั้นบนที่เปิดแอร์ของ อาคารทำเนียบรัฐบาลนั่นเอง

ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าทำให้ป้าปอง สุดจะอดกลั้น
เสียงเกรี้ยวตวาดออกจากปากป้าปอง “ใครๆๆกันใช้ให้พวกหล่อนเข้ามาในห้องนี้ พวกหล่อนเข้ามาได้อย่าไร ไปลงไปให้หมด เดี๋ยวฉันจะเรียกยามมาไล่พวกหล่อน” จากนั้นป้าปองตรงเข้าไปกอดลุงตั๋วอย่างทนุถนอม ประคองลุงตั้วไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา

เมื่อเปิดเข้าไป ป้าปองแทบผงะห้องน้ำเลอะเทอะไปหมด ทั้งอึทั้งฉี่ เหม็นคลุ้งอบอวลอยู่ตรงนั้น เหตุเพราะน้ำประปาไม่ไหล และ ท่อระบายน้ำตัน

ป้าปองสุดทน เสียงเหลมลึกจากป้าปอง จึงเกิดขึ้นอีก “วันนี้เป็นไงเป็นกัน นางพวกนี้อยู่กับฉันไม่ได้”

และแล้วในเช้าวันนั้นที่เอเอสทีวี ถ่ายทอดสดให้คนได้ดูกันทั้งโลก
จึงปรากฏภาพที่ป้าปองเกรียวกราดออกมาแบบนั้น ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น

รักระหว่ารบ อีกแล้ว...
สาวๆในม็อบต่าง งงงวย ป้าปองธาตุแท้เป็นอย่างนี้เองหรือ
สาวหนึ่งพูดขึ้นมา “ถ้าอยู่ต่อ งานนี้มีตบแน่ กลับกันดีกว่าพวกเรา แล้วอย่าให้เห็นอีกนะไอ้พวกม็อบ บ้าตัณหา” อีกเสียงหนึ่งบ่นบ้างว่า “เชอะ!ปากนะเที่ยวด่าชาวบ้านเขา ตัวเองนะเป็นยังไงไม่พูดออกมาบ้าง”

ป้าปอง กับ ลุงตั้ว จะลงเอยกันหรือไม่ ต้องรอดูกันต่อไปครับ
แต่ที่แน่ๆ บ่ายแก่ๆวันนั้นเอง ที่ลานพระบรมรูปทรงม้าจึงได้เห็น
คนกว่า300 คนขึ้นรถบัสปรับอากาศกลับภูเก็ต ไป

รักระหว่างรบ(ตอนที่3):ปองแก้ตัว ถุงยางที่เกลื่อนบนพื้นในทำเนียบ

ข่าวคาวโลกีย์ ของม็อบผู้ชราปิดไม่มิด ได้ถูกนำออกมาเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง
เรื่องที่พูดไม่หยุดอยู่ในขณะนี้ ก็น่าจะเป็นเรื่องของถุงยางอนามัย ที่พบมากเหลือเกินและเมื่อครั้งที่น้ำท่วมในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล ถุงยางพวกนี้ก็เป็นเหตุให้เข้าไปอุดตันในท่อระบายน้ำ
หลังจากที่มีการล้างท่อแล้ว พบสิ่งนี้มากที่สุด

เช้าวันนี้ ป้าปองจึงบากหน้าออกมาแก้ตัวทาง เอเอสทีวี แก้ต่างให้ตนเองและเหล่าสาวก มักมาก

ตอนหนึ่งป้าปองกล่าว “ไม่เข้าใจตึกสันติไมตรี มีอะไรกันนักหนา ทำไมนักข่าวจึงสนใจกันนัก” ป้าปองทำหน้าเชิดขึ้นแล้วหันไปมองกล้องหลิ่วตาอย่างผู้ไม่แยแส

ป้าปองบรรยายต่อเพื่อให้เห็นภาพ พวกตำรวจลากเอาเก้าอี้ โต๊ะประชุม ที่ใช้ในการรับแขกบ้านแขกเมือง นำมาต่อเรียงๆกันแล้วขึ้นไปนอน รองเท้าก็ไม่ถอดย่ำไปบนพรมทั้งอย่างนั้น แต่ที่สะดุดตามากก็คือ มีกางเกงในผู้หญิงตากอยู่ที่นั้นด้วย ป้าปองยืนยันว่าตนเองมีภาพถ่าย และพร้อมที่จะโชว์ให้นักข่าวดู ว่า ในห้องงาช้างที่สง่างามไว้รับแขกบ้านแขกเมือง นั้น ใครกันแน่ที่ทำให้ห้องนั้นกลายเป็น ห้องมั่วสุมกันไป

“ถุงยางอนามัยที่เกลื่อนกราดพื้นเป็นฝีมือของใครกันแน่” ป้าปองกล่าวไปก็ขยับก้นไป ด้วยรูปร่างที่หนาอวบใหญ่จนสะโพกล้นออกมาจากเก้าอี้ แต่มิวายที่จะแอบชำเรืองกล้อง เพื่อมิให้กล้องโคลสภาพเข้ามาใกล้ๆตนเองและเห็นใบหน้าที่พอกด้วยแป้งเพื่อลบรอยตีนกา

จากคำพูดของป้าปอง แสดงให้เห็นว่า
เป็นเรื่องจริงทั้งหมด ที่มีการเสพกามกันในทำเนียบรัฐบาล และไม่ใช่แอบทำด้วย ทำกันอย่างเปิดเผยหลายคนรับรู้ สถานที่ป้าปองก็ระบุชัดเจนว่าที่ไหนในข้ออ้างของป้าปอง ว่าเป็นการกระทำของตำรวจ ทั้งที่ทุกคนก็รู้อยู่แก่ใจว่าตำรวจไม่ได้เข้าไปรักษาทำเนียบนานมากกว่าสองสัปดาห์แล้ว

ผู้เขียนเอง.. อยากเป็นนักข่าวจัง อยากไปถามป้าปองว่า

1.จากคำพูดป้าปอง ที่บอกว่าตำรวจมีแต่ผู้ชาย
ถามว่า..แล้วผู้หญิงที่ไปนอนกับตำรวจ มาจากไหน ?
2.มีคนปกติธรรมดาที่ไหนบ้างที่จะนำพาผู้หญิงเข้ามานอน เพื่ออวดโชว์ให้ผู้อื่นรับรู้ ทั้งที่โรงแรมม่านรูดก็มีเกลื่อนกรุง
3.ภาพถ่ายที่ป้าปองมี ถามว่าใครถ่าย ? พวกตำรวจถ่ายเองแล้วส่งให้ป้าปองอย่างนั้นหรือ
4.ทำไมก่อนหน้านี้ ป้าปองจึงไม่เปิดเผย ทั้งที่เรื่องที่กล่าวอ้างได้เกิดขึ้นมาเกินสองอาทิตย์แล้ว
5.จำภาพจาก เอเอสทีวีเองได้ไหม กลุ่มสาวๆของพวกม็อบเองใช่ไหม ที่วิ่งกรูเข้าไปยื้อยุดฉุดตำรวจขอลายเซ็นกัน หลังจากที่เข้าไปในทำเนียบแล้ว
ถามว่า..สาวๆพวกนั้นชื่นชมอะไรตำรวจนักหนา ถึงได้กระทำการฉีกหน้าผู้นำม็อบได้ถึงขนาดนั้น หรือ สาวๆพวกนั้น มองเห็นอะไรบางอย่างในตัวตำรวจกันแน่
6.เมื่อกลุ่มตำรวจพวกนั้นได้ออกไปแล้ว ใคร กลุ่มไหน เข้าไปยึดห้องงาช้างเป็นที่หลับนอน หลักฐานที่พบเป็นถุงยางอนามัยที่เกลื่อนกราด คนที่หลับนอนอยู่ขณะนี้ไม่รังเกียจบ้างหรือ ทำไมไม่เก็บกวาดออกไปให้หมดก่อน
และตำรวจทิ้งหลักฐานเอาไว้ทำไม

แต่พอมีเรื่องฉาวโฉ่เกิดขึ้น พวกม็อบจึงต้องออกมาโทษว่าเป็นของตำรวจ

อีกด้านหนึ่ง ของม็อบ
พล.ต. จำลองกับการ์ดใบกระท่อม ยังคาใจไม่เลิก
เย็นวาน จำลองเดินตรวจการ์ดด้วยตนเอง พร้อม ส่งปลดไปหลายคน ด้วยข้อหาพกพาอาวุธ
มันก็น่าแปลกตรงที่ว่า อาวุธที่การ์ดใบกระท่อมใช้อยู่ มันก็คืออุปกรณ์ส่วนใหญ่ ที่จำลองเอามาอวดนักข่าวนั่นเอง แต่ พวกยาเสพติด จำลองกลับไม่ใส่ใจที่จะเอามาเป็นข้ออ้างในการปลดการ์ด
แท้จริง จำลองไล่การ์ดใบกระท่อมบางคนออกเพราะเรื่องอะไรกันแน่ ใช่เรื่องที่การ์ดใบกระท่อมพาลูกเมียของสันติอโศกไปหลับนอนหรือไม่

ข่าวเรื่อง โลกีย์ในม็อบคงไม่จบสิ้นแค่นี้ ยังคงมีอีกหลายตอนให้พูดถึง

แต่..เหตุอาเพศได้เกิดขึ้นแล้วในทำเนียบ หลังจากพวกผู้ดีผสมไพร่ ใช้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เริงรมย์กันอย่างเมามัน
ฟ้าพิโรธจัด ผ่ามายังทำเนียบ ในค่ำคืนที่สุดโหดนั้น จนทำให้ผู้คนแตกตื่นไปทั่ว เวทีพังทลายลง

ลูกเห็บที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนก็ได้เกิดขึ้นแล้วในทำเนียบรัฐบาล
ตัวเงินตัวทอง ถึงกับกล้าขึ้นมานอน เคียงคู่กับผู้ชุมนุมอย่างหน้าตาเฉย เหมือนเป็นพวกเดียวกัน
ปลาที่เลี้ยงไว้ ถึงขนาดกลั้นใจตายกันเป็นทิวแถว

ฤา..สิ่งบอกเหตุเหล่านี้ เป็นอำนาจศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ในเมื่อบ้านเมืองมันกลับด้าน คนดีกลายเป็นเลว คนเลวกลับกลายเป็นคนดี
ในเมื่อคนทำอะไรกันเองไม่ได้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงช่วยจัดการให้"
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #42 เมื่อ: 11-09-2008, 13:24 »

6 พรรค หรือ 3 พรรคน้า?

ปล.เปลี่ยนเป็นตัวเมียได้ฉับไวเหมือนว่าที่นักโทษชายเปลี่ยนคำพูดเลย



"คนเน็ตตีแผ่ข้อมูล จรัญพันบาทก็เป็นลูกจ้าง กม.ให้ออกในสิบห้าวันหากดื้อแพ่ง 


ทีมข่าวไทยอีนิวส์
11 กันยายน 2551

คนบนเน็ตขุดคุ้ยข้อมูลกันยกใหญ่ หลังมีคนแจ้งว่า นายจรัญ ภักดีธนากุล หนึ่งในคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่เพิ่งตัดสินคดีนายสมัคร สุนทรเวช ว่าเป็นลูกจ้างในรายการชิมไปบ่นไปจนทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็นรมต. ก็กลับทำผิดรธน.เสียเอง เพราะไปรับจ้างให้กับคนอื่นอีกหลายกรณี

โดย มาตราที่เกี่ยวข้องได้แก่ มาตรา 207 ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้



มาตรา ๒๐๗ ประธานศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต้อง

(๑) ไม่เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ

(๒) ไม่เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือราชการส่วนท้องถิ่นหรือไม่เป็นกรรมการหรือที่ปรึกษาของรัฐวิสาหกิจหรือของหน่วยงานของรัฐ

(๓) ไม่ดำรงตำแหน่งใดในห้างหุ้นส่วน บริษัท หรือองค์การที่ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งหาผลกำไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน หรือเป็นลูกจ้างของบุคคลใด

(๔) ไม่ประกอบวิชาชีพอิสระอื่นใดในกรณีที่ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาหรือที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดเลือกบุคคลหรือวุฒิสภาให้ความเห็นชอบบุคคลตาม (๑) (๒) (๓) หรือ (๔) โดยได้รับความยินยอมของบุคคลนั้นผู้ได้รับเลือกจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อเมื่อตนได้ลาออกจากการเป็นบุคคลตาม (๑) (๒) หรือ (๓) หรือแสดงหลักฐานให้เป็นที่เชื่อได้ว่าตนได้เลิกประกอบวิชาชีพอิสระดังกล่าวแล้ว ซึ่งต้องกระทำภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับเลือกหรือได้รับความเห็นชอบ แต่ถ้าผู้นั้นมิได้ลาออกหรือเลิกประกอบวิชาชีพอิสระภายในเวลาที่กำหนด ให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยรับเลือกหรือได้รับความเห็นชอบให้เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และให้นำบทบัญญัติมาตรา ๒๐๔ และมาตรา ๒๐๖ แล้วแต่กรณี มาใช้บังคับ


คุณ Natawei ได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นที่คนบนเน็ตนำมาเปิดเผยผ่านกระทู้การเมืองหลายหัวข้อ และสะดวกต่อการอ้างอิงมีเนื้อหาทั้งหมดดังนี้

นายจรัล ภักดีธนากุล....เป็นอาจารย์พิเศษของคณะนิติศาสตร์ ม.หัวเฉียว
อยู่ในรายชื่ออาจารย์พิเศษลำดับที่ 17
http://law.hcu.ac.th/personal.htm

กรรมการสภามหาวิทยาลัยรังสิต ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 20 ท่าน ได้แก่ ศาสตราจารย์ (พิเศษ) จรัล ภักดีธนากุล
http://www.viphavadeecenter.com/news_detail.php?id=86

วิทยากรพิเศษ
ศ.พิเศษ จรัล ภักดีธนากุล
http://www.thaicounsel.com/aboutUs.htm

ถ้าเป็นอาจารย์สอนพิเศษ ชัดเจน เข้าประเด็น

จรัล ภักดีธนากุล
รายการเวทีความคิด วิทยุ fm 96.5 เวลา 20.00-21.00 น
ออกอากาศโดยสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ฟังย้อนหลังได้ที่
http://radio.mcot.net

อาจารย์พิเศษ คณะนิติศาตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

ศ.(พิเศษ)จรัญ ภักดีธนากุล
ประสบการณ์การสอนและการทำงาน
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ผู้บรรยายวิชา
LAW312 กฎหมายลักษณะพยาน
http://member.rsu-lawonline.com/content.php?ct_id=72

อาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่
ศ.(พิเศษ) จรัญ ภักดีธนากุล
สังกัด : ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
การศึกษา : น.บ. จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย
น.ม.ท. สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา
B.A. Cambridge U.
Barrist er-at-law Grey's Inn.
วิชาที่สอน : 300 - 306 กฎหมายลักษณะพยานหลักฐาน
http://eportfolio.hu.ac.th/law/index.php?option=com_content&task=categoryionid=9&id=54&Itemid=82

อาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยทักษิณ

ศ.(พิเศษ) จรัญ ภักดีธนากุล
สังกัด : ปลัดกระทรวงยุติธรรม
การศึกษา : น.บ. (เกียรตินิยมอันดับ1)น.ม.ท.
Bachelor of Arts จาก University of Cambridge
วิชาที่สอน : 0801236 พยาน
http://www.tsu.ac.th/law/lawtsu/person.php?cId=2

อาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิตhttp://www.dpu.ac.th/graduate/llm/page.php?id=2076

คณะกรรมการวิชาการ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกริก
http://www.krirk.ac.th/faculty/law/Page/teacher.html


อนึ่ง นอกจากนายจรัญแล้ว ยังมี ตุลาการศาลท่านอื่นที่เข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 207 ดังกล่าว อีกหลายท่าน ที่ประชาชนยังพยายามรวบรวมข้อมูลส่งขึ้นอินเตอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น ตุลาการศาลปกครองสูงสุด นายธีรยุทธ์ หล่อเลิศรัตน์ เป็นต้น"
 
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #43 เมื่อ: 11-09-2008, 13:27 »

แล้วก็ไม่ต้องทวงคืนทำเนียบ เพราะต้องไปนั่งทำงานในคุก

ครม.ต้องสัญจรไปประชุมในคุก   


"เครือข่ายสันติธรรมรณรงค์ "ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย บ้านเมืองต้องกลับสู่ภาวะปกติ"  


ที่มา RuleOfLawThailand
10 กันยายน 2551



“เครือข่ายสันติประชาธรรม” ร่วมรณรงค์สนับสนุนหลักการ

ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย บ้านเมืองต้องกลับสู่ภาวะปกติ
1. ผู้นำพันธมิตรต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
2. รัฐบาลต้องยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน


การชุมนุมเรียกร้องขับไล่รัฐบาลโดยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ดำเนินมานานกว่า 3 เดือน และยกระดับมาสู่การบุกยึดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีและทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา จนนำมาสู่การปะทะกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรและนปช. และการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดยรัฐบาลนี้ กล่าวได้ว่าได้ทำให้สังคมไทยกำลังเข้าสู่ทางตันและสภาวะสงครามการเมือง โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายพันธมิตรปฏิเสธที่จะประนีประนอมหรือยอมรับการเจรจาใดๆ และปฏิเสธที่จะเคารพต่อกฎหมายของบ้านเมือง เราเห็นว่าหนทางที่จะนำสังคมไทยออกจากความรุนแรงทางการเมืองในขณะนี้ คือต้องทำให้บ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติเสียก่อน เพื่อให้ฝ่ายต่างๆ สามารถช่วยกันแสวงหาแนวทางปฏิรูปทางการเมืองตามวิถีทางประชาธิปไตยและสันติได้อย่างแท้จริง แต่การจะกลับสู่ภาวะปกติได้ เราขอเรียกร้องให้

1. ผู้นำพันธมิตรเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อต่อสู้คดีในชั้นศาลตามกระบวนการยุติธรรม เฉกเช่นประชาชนธรรมดาทั่วไป เพื่อแสดงให้สังคมไทยเห็นว่าต้องไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และเพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้นำพันธมิตรเคารพอำนาจศาลและกระบวนการยุติธรรมซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานอันขาดไม่ได้ของระบบนิติรัฐ ในส่วนของมวลชนของพันธมิตรย่อมมีสิทธิที่จะชุมนุมต่อต้านรัฐบาลโดยสงบสันติได้ต่อไป โดยปราศจากอาวุธใดๆ

2. รัฐบาลต้องยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน อันเป็นกฎหมายที่จำกัดสิทธิเสรีภาพในการรวมกลุ่มและแสดงความคิดเห็นทางการเมืองของประชาชน และอาจเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ของรัฐละเมิดสิทธิของประชาชนได้

3. ประชาชนร่วมกันแสดงความคิดห็นทางการเมืองอย่างสงบสันติ ทั้งนี้ ขณะที่ทั้งฝ่ายพันธมิตรและรัฐบาลต่างอ้างประชาชนเพื่อสนับสนุนความชอบธรรมของตน แต่เราเชื่อว่ายังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ต้องการให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และเห็นการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองด้วยสันติวิธี รักษาหลักการประชาธิปไตย และความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายบ้านเมืองเอาไว้ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เลือกข้างยังขาดช่องทางการแสดงความคิดเห็นอย่างมีพลัง เราจึงต้องการเป็นเวทีกลางที่รวบรวมความเห็นของพลังเงียบเหล่านี้เพื่อแสดงให้ทั้งฝ่ายพันธมิตรฯและรัฐบาลตระหนักถึงความคิดเห็นของพวกเขา เราเชื่อว่าทางเลือกนี้ช่วยป้องกันการปะทะเผชิญหน้าระหว่างประชาชนฝ่ายต่างๆ และหลีกเลี่ยงความบาดเจ็บสูญเสียที่อาจจะเกิดจากการสลายการชุมนุม ทั้งยังไม่ต้องรอการจัดประชามติจากรัฐบาล ซึ่งอาจจะใช้เวลานานจนไม่ทันต่อเหตุการณ์

เราจึงอยากชักชวนให้ทุกคนมาร่วมแสดงออกทางการเมืองอย่างง่ายๆ ด้วยการรณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันเผยแพร่และสนับสนุนหลักการ:

ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย บ้านเมืองต้องกลับสู่ภาวะปกติ
1. ผู้นำพันธมิตรต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
2. รัฐบาลต้องยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
โดยส่งรายชื่อและสังกัดของท่านไปยัง
ruleoflawthailand@hotmail.com
หรือไปรษณียบัตรมายัง เครือข่ายสันติประชาธรรม ห้อง 9 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ 10200


ท่านสามารถดูรายชื่อผู้ร่วมลงนามได้ที่เว็บไซต์ http://ruleoflawthailand.wordpress.com/"
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #44 เมื่อ: 11-09-2008, 13:29 »

ผมมีข้อสังเกตุอย่างนึงว่า

ถ้าเมื่อไหร่ฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายทักษิณถูกศาลตัดสิน  เช่นคดีคุณหญิง  หรือทักษิณหนีคดี

จ๊ะ  จะหายไปวันสองวัน  แล้วกลับมาฟาดงวงฟาดงาเรื่อยเปื่อย  ดังกระทู้นี้นั่นเอง

ปล.  รักและคิดถึงนะ  จุ๊ฟๆ


แฟนพันธุ์แท้เจงๆงั๊บ
บันทึกการเข้า
THE BOLDEST
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10


« ตอบ #45 เมื่อ: 11-09-2008, 13:32 »

จขกท คงจะเป็นพวกเดียวกับไอ้หมักจมูกหมู ปาก*** ตา*** เป็นสัตว์ที่มีดีเอ็นเอเดียวกัน เลยเชียร์กันใหญ่
ไม่สนใจสังคมว่าเป็นอย่างไร คนจั*** ย่อมเข้าข้างพวกเดียวกันเสมอ  
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #46 เมื่อ: 11-09-2008, 13:33 »

welcome. to the hell of a prime minister


นายกสุนัขจิ้งจอกหอกหัก เหรี้ย ตะกวด แลน แสรดนรก จกเป-รต ลูกเจ้าพระยาขายชาติอาบอบนวด

นรกยินดีต้อนรับ 55555





อัดอั้นและท้อแท้ในชิวิตมากมายเลยใช่ไหม....สู้ๆน๊ะโจ หว่อง!!
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #47 เมื่อ: 11-09-2008, 13:34 »


นายเส-นียดจัน-ราย ทำให้สถาบัน'นายกรัฐมนตรีไทย'ตกต่ำ ไร้ค่า ไร้ยางอายที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
เอาตำแหน่ง'นายกฯนอมินี' ไปแลกกับ'แกงค์ข้างถนน'(ความเข้าใจของนายเส-นียดเอง) โดยไม่คำนึ่งศักดิ์ศรี ความเป็น'ผู้ใหญ่' และ 'ผู้นำประเทศทางการเมือง'
เพียงต้องการจะได้เป็น'นายกฯนอมินี'รับใช้'นายใหญ่'ต่อไป.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


พวกบัตรเติมเงิน อเวไนยสัตว์ หนอนในโถส้วม ก็ยุส่ง จะได้ไม่ลำบากไปหากินที่อื่นๆ......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า



คุณปุถุชนเพ้อหนักออกอาการเขวแบบนี้...น้องนุ่งในเว๊บนี้ก็ขวัญผวากันหมดซิคร้า
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #48 เมื่อ: 11-09-2008, 13:37 »

จขกท คงจะเป็นพวกเดียวกับไอ้หมักจมูกหมู ปาก*** ตา*** เป็นสัตว์ที่มีดีเอ็นเอเดียวกัน เลยเชียร์กันใหญ่
ไม่สนใจสังคมว่าเป็นอย่างไร คนจั*** ย่อมเข้าข้างพวกเดียวกันเสมอ  





"คำวินิจฉัยที่ไม่สุจริตของศาลรัฐธรรมนูญ กรณี สมัคร สุนทรเวช  



มีข้อพึงสังเกตบางประการเกี่ยวกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ผมเห็นว่าไม่ควรมองข้ามไป แม้จะเป็นเงื่อนงำเล็กๆ ที่ใครต่อใครก็มองข้าม แต่ผมเห็นว่าไม่อาจจะมองข้ามไปได้ เพราะผลของเงื่อนงำที่ถูกปิดบังไว้ด้วยความไม่สุจริตในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญประการนี้ มีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศชาติ และ ทุกองค์กร ในประเทศไทย หากวันหนึ่งข้างหน้ามีผู้ใดหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็น ในอนาคต

เงื่อนงำบางประการที่ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่กระทำให้มีความชัดเจนที่ผมกล่าวถึงนี้ก็คือ "นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรี ตั้งแต่วันใด"

ในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ระบุไว้ ซึ่งผมเข้าใจว่าเป็นความพยายามหลีกเลี่ยงที่จะระบุวันที่นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมีความไม่สุจริตใจ เป็นที่ตั้ง

ผู้คนส่วนใหญ่อาจจะเห็นว่าประเด็นที่ผมนำเสนอเป็นประเด็นเล็กๆ ที่ไม่มีความสำคัญต้องนำมาพิจารณา จึงไม่มีใครนำมาเสนอให้ได้พิจารณากัน แต่ในมุมมองของผมกลับเห็นว่าเป็นประเด็นใหญ่มาก

ใหญ่มากกว่าการพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช เสียอีก

เนื่องเพราะวันที่พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของนายสมัคร สุนทรเวช มีความสัมพันธ์กับความถูกต้องตามกฎหมายของการปฏิบัติราชการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของนายสมัคร สุนทรเวช ทุกๆ กรณี

กรณีการแต่งตั้งรัฐมนตรี

กรณีการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี

กรณีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ

กรณีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการพลเรือนทุกกระทรวง ทบวง กรม

กรณีการเจรจากับประเทศต่างๆ

กรณีการประชุมคณะรัฐมนตรี และ มติคณะรัฐมนตรีทุกมติ

กรณีการรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งบุคคลดำรงตำแหน่งสำคัญ

โดยเฉพาะ การรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายประสพสุข บุญเดช เป็นประธานวุฒิสภา เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2551 และ การรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายทหาร เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2551

ยังมีอีกหลายเรื่อง หลายกรณี หลายมติ หลายคณะกรรมการ ที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นประ ธาน และเป็นคณะกรรมการ ทำหน้าที่กำหนด ตัดสินใจ ลงมติ ในฐานะนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

เหล่านี้เป็นประเด็นสำคัญซึ่งผูกพันอยู่กับการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช ที่ศาลรัฐธรรมนูญ พยายามหลีกเลี่ยงเบี่ยงบ่ายที่จะไม่กล่าวถึง เพราะเกรงว่าหากมีการระบุวันสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช แล้วจะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง ใหญ่หลวง และ ก่อให้เกิดปัญหาติดตามอย่างมากมาย จนไม่อาจจะแก้ไขได้ เนื่องจากมีผลกระทบทั้งภายในประเทศและผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณี นายสมัคร สุนทรเวช จึงไม่แตกต่างจากที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ว่า เพียงเพื่อจะจับหนูหนึ่งตัว ทำไมต้องรื้อบ้านทั้งหลัง

เพียงเพื่อจะทำให้นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่คำนึงถึงผลกระทบ และความเสียหายที่จะติดตามมา

ถึงแม้ว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะไม่คำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับศาลรัฐธรรมนูญ กระบวนการยุติธรรม และภาพลักษณ์ของศาลไทย ว่าจะเป็นอย่างไร ในสายตาของชาวไทย และชาวต่างประเทศ แต่ก็ควรจะต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับบุคคล องค์กร และสถาบันอื่นๆ ที่จะต้องรับผลกระทบจากคำวินิจฉัยของตนบ้าง

ประเด็น "นายสมัคร สุนทรเวช สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรี วันใด" เป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญ ต้องทำให้มีความกระจ่างแจ้ง มิใช่คลุมเครือปล่อยให้ประชาชนไปตีความกันเอง โดยศาลรัฐธรรมนูญไม่รับผิดชอบไม่ได้

" ศาลรัฐธรรมนูญโดยมติเอกฉันท์ จึงวินิจฉัยว่าผู้ถูกร้องกระทำการอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 267 มีผลให้ความเป็นรัฐมนตรีของนาย สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 182 วรรคหนึ่ง(7) และเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายกรัฐมนตรีผู้ถูกร้องกระทำการอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 267 เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวเมื่อความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 182 จึงเป็นเหตุให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะพ้นจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 180 วรรคหนึ่ง(1) แต่ด้วยความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีเป็นการสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ทำให้รัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีที่เหลือ จึงอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 181"

จะเห็นได้ว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ บอกเพียงว่านายสมัคร สุนทรเวช สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี แต่ มิได้บอกว่าสิ้นสุดเมื่อใด ณ วันที่กระทำการอันเป็นเหตุให้คุณสมบัติ ขัดรัฐธรรมนูญ หรือ ณ วันที่ ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย

เหตุที่ผมยกประเด็นนี้ขึ้นมาเป็นประเด็นสำคัญก็เพราะว่า เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2551 หรือ ก่อนหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัยว่านายสมัคร สุนทรเวช สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี นั้น ศาลรัฐธรรมนูญ โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง 9 คนนี้ เพิ่งจะวินิจฉัยว่านายไชยา สะสมทรัพย์ สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี กรณีภรรยา มิได้จัดการหุ้นในบริษัท ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ โดยศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่านายไชยา สะสมทรัพย์ สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี นับตั้งแต่วันที่กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งหมายความว่านายไชยา สะสมทรัพย์ สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2551 (วันสุดท้ายครบกำหนดการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรีและคู่สมรส)

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณีนายไชยา สะสมทรัพย์ กำหนดวันสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีของนายไชยา สะสมทรัพย์ ไว้ชัดเจน และ ระบุด้วยว่าการกระทำใดๆ ของนายไชยา สะสมทรัพย์ ภายหลังวันที่ 6 มีนาคม 2551 ไม่ได้รับรับรองตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากความเป็นรัฐมนตรี สิ้นสุดลงไปแล้ว

ความแตกต่างระหว่างคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีนายสมัคร สุนทรเวช กับ นายไชยา สะสมทรัพย์ อยู่ที่การระบุวันสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีในกรณีของนายไชยา กับ การไม่ระบุในกรณีของนายสมัคร ซึ่งเป็นการวินิจฉัยแบบสองมาตรฐานของศาลรัฐธรรมนูญ อย่างเห็นได้ชัด และไม่อาจจะเข้าใจเป็นอื่นได้ นอกจากว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีเจตนาอันไม่สุจริต มีเจตนาที่จะปกปิด ไม่ทำความกระจ่างในคำวินิจฉัยของตนเอง

ในกรณีของนายไชยา สะสมทรัพย์ ศาลรัฐธรรมนูญ (ชุดเดียวกัน) มีคำวินิจฉัยว่า...

"ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังเป็นที่ยุติได้ว่า ผู้ถูกร้องได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2551 และได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบของตนเองและคู่สมรสต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2551 กรณีเข้ารับตำแหน่งดังกล่าว และไม่ปรากฏว่าผู้ถูกร้องได้แจ้งให้ประธานกรรมการ ป.ป.ช.ทราบว่าประสงค์จะได้รับประโยชน์จากการที่นางจุไร สะสมทรัพย์ คู่สมรสของผู้ถูกร้องถือหุ้นในบริษัท ทรัพย์ฮกเฮง จำกัด เกินกว่าร้อยละ 5 ของจำนวนหุ้น ที่จำหน่ายได้ในบริษัทภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ผู้ถูกร้องได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 269 แม้ว่าในปัจจุบันพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 ยังมิได้มีการบัญญัติให้รวบถึงการถือครองหุ้นและได้รับประโยชน์จากกรณีดังกล่าวของคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของรัฐมนตรี แต่เมื่อรัฐธรรมนูญ มาตร 269 บัญญัติให้เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีผู้นั้นที่จะต้องแจ้งให้ประธานกรรมการ ป.ป.ช.ทราบ ดังนั้น รัฐมนตรีจึงมีหน้าที่ต้องแจ้งความประสงค์จะรับประโยชน์จากกรณีดังกล่าวของคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วย กรณีจึงถือว่าการกระทำของผู้ถูกร้องในฐานะรัฐมนตรีเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 269 เป็นการกระทำการอันต้องห้ามตามมาตรา 182 วรรคหนึ่ง (7)ประกอบมาตรา 269

มีกรณีต้องวินิจฉัยต่อไปว่า ผู้ถูกร้องพ้นจากตำแหน่งเมื่อใด เห็นว่าความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 182 วรรคหนึ่ง(7) บัญญัติให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวเมื่อกระทำการอันต้องห้ามตามมาตรา 269 ซึ่งหมายถึงว่า เมื่อมีเหตุการใดเหตุการณ์หนึ่งตามที่กำหนดไว้เกิดขึ้น ความเป็นรัฐมนตรีย่อมต้องสิ้นสุดลงทันที ไม่ใช่สิ้นสุดลงในวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ส่วนมาตรา 92 นั้น เป็นการบัญญัติถึงการลาออกจากตำแหน่งไว้เพื่อแก้ปัญหาอันเกี่ยวกับกิจการที่รัฐมนตรีได้ทำไปหลังจากความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดแล้วถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ไม่ให้กระทบกระเทือนกิจการที่กระทำไปในระหว่างนั้น หากความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ย่อมไม่มีความจำเป็นต้องบัญญัติรับรองกิจการที่ทำไปก่อนการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

อาศัยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ศาลรัฐธรรมนูญจึงวินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 มาตรา 182 วรรคหนึ่ง(7) ประกอบมาตรา 269 ตั้งแต่วันที่พ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี

หากศาลรัฐธรรมนูญ มีมาตรฐานเดียวในการวินิจฉัยกรณีนายสมัคร สุนทรเวช กับกรณี นายไชยา สะสมทรัพย์ ศาลรัฐธรรมนูญ ก็ควรจะต้องกำหนดให้ชัดว่านายสมัคร สุนทรเวช สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี ตั้งแต่วันใด เพราะประเด็นนี้เป็นประเด็นสำคัญ ยิ่งเป็นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยิ่งต้องได้รับความสนใจ ใส่ใจ ที่จะพิจารณาวินิจฉัยมากกว่าตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แต่จากคำวินิจฉัยที่นำมาเสนอเปรียบเทียบ สองกรณีนี้ จะเห็นได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญ มีสองมาตรฐานในการวินิจฉัย อย่างชัดเจน และมิอาจจะปฏิเสธได้

หากศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีสองมาตรฐาน และใช้มาตรฐานเดียวกันในสองกรณีนี้ นายสมัคร สุนทรเวช ก็จะต้องสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่กระทำการอันเป็นเหตุให้มีคุณสม บัติขัดรัฐธรรมนูญ คือ ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2551 ซึ่งเป็นวันที่นายสมัคร สุนทรเวช ทำการบันทึกเทปรายการชิมไปบ่นไป เป็นครั้งแรก หลังจากดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

เป็นการสิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก่อนที่จะแถลงนโย บายบริหารราชการแผ่นดินต่อรัฐสภา ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2551

เป็นการสิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นัดที่หนึ่งจนถึงนัดสุดท้ายเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2551 ที่ผ่านมา

เป็นการสิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะลงนามรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายประสพสุข บุญเดช เป็นประธานวุฒิสภา เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2551

เป็นการสิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะลงนามรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหารประจำปี เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2551

เป็นการสิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี

พิจารณาเพียงเท่านี้ ก็ทำให้เกิดคำถามขึ้นมากมายแล้วว่า เมื่อนายสมัคร สุนทรเวช สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี ตามมาตรา 182 (7) แล้ว การบริหารราชการแผ่นดิน ในห้วงเวลาที่ผ่านมา 7 เดือน จะเป็นโมฆะหรือไม่

การลงนามในข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลนานาชาติ ยังมีผลสมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายหรือเป็นโมฆะทั้งหมด

การรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งประธานวุฒิสภา มีความถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และตำแหน่งประธานวุฒิสภา ของนายประสพสุข บุญเดช มีความถูกต้อง มีผลสมบูรณ์หรือไม่ หากว่าผู้รับสนองพระบรมราชโองการเป็นผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติ หรือ เป็นผู้ที่ไม่มีสถานะรับสนองพระบรมราชโองการ ได้

เช่นเดียวกับ การรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายทหารประจำปี มีความถูกต้องหรือไม่ ในเมื่อนายสมัคร สุนทรเวช สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2551

คำถามเหล่านี้ ศาลรัฐธรรมนูญต้องวินิจฉัยให้เกิดความกระจ่าง ก่อนที่จะมีการตีความแบบเข้าข้างตัวเอง ของฝ่ายต่างๆ คนต่างๆ อันจะก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายขึ้นมาอีก หลายร้อยพันเรื่อง

เช่นเดียวกันหากศาลรัฐธรรมนูญ ใช้มาตรฐานเดียวกับกรณีนายไชยา สะสมทรัพย์ ก็ต้องบอกว่าการกระทำใดๆ ของนายสมัคร ที่เกิดขึ้นหลังวันสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี ย่อมไม่มีผลตามกฎ หมาย เนื่องจากนายสมัคร ไม่มีสถานะเป็นนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตั้งแต่วันที่กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ แล้ว มิใช่ วันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

พอจะมองเห็นเค้าลางความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้นหลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายสมัคร สุนทรเวช สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี หรือยัง

พอจะมองเห็นความไม่สุจริตในคำวินิจฉัยแบบสองมาตรฐานของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือยัง

พอจะมองเห็นความไม่น่าเชื่อถือของศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีจุดมุ่งหมายทางการเมือง และ ใช้ศาล เป็นเครื่องมือกำจัดศัตรูทางการเมืองให้แก่ใครบางคนหรือยัง

พอจะมองเห็นหรือยังว่า ศาลรัฐธรรมนูญ มีเจตนาที่จะกำจัด นายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลที่มาจากประชาชน และพยายามจำกัดความเสียหายให้อยู่ในวงจำกัดเฉพาะรัฐบาล ป้องกันไม่ให้ลุกลามไปถึงองค์กร บุคคลอื่น ที่เป็นพวกพ้องของตนเอง

ลองตอบตัวเองว่า เราจะเชื่อถือศาลรัฐธรรมนูญ และ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 9 คนนี้ ได้อีกหรือไม่ ?"
บันทึกการเข้า
THE BOLDEST
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10


« ตอบ #49 เมื่อ: 11-09-2008, 13:56 »

ไอ้นี่ท่าจะบ้าเอามั่กๆ เข้าข้างไอ้สั ต ว์ น ร ก  อยู่ได้
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
    กระโดดไป: