นักการเมืองเหล่านี้ อาศัยเสียงประชาชนส่วนหนึ่งที่ไม่เลือกพลังประชาชน หาเสียงทำนองว่า
ถ้าเลือกพวกเขาให้มาก จะได้จัดตั้งรัฐบาลโดยไม่เลือกพรรคพลังประชาชน
....แต่แล้ว
หลายคนเมื่อได้รับเลือกตั้งเข้ามา กลับทำการดูหมิ่น เหยียดหยาม เยาะเย้ยความรู้สึกประชาชน
-นายเสนาะ เทียนทอง ที่มีพฤติกรรม หน้าไหว้หลังหลอก ขึ้นเวทีพันธมิตร พูดอย่าง
แต่ครั้นได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง กลับพูดและทำอีกอย่าง ซ้ำยังด่าประชาชนที่มาร่วมเวทีพันธมิตร
ว่าเป็นตัวสร้างปัญหาก่อความวุ่นวายให้บ้านเมือง แต่ไม่เคยพิจารณาตนเองและความผิด
ของคนในพรรคพลังประชาชน
-นายบรรหาร ศิลปอาชา อาศัยหาเสียงกับคนที่ไม่เห็นด้วยกับพรรคพลังประชาชน
และเลือกพื้นที่หาเสียงที่ประชาธิปัตย์ไปไม่ถึง ออดอ้อนขอคะแนนเสียงจากประชาชน
ให้เลือกพรรคตนเอง เพื่อจะได้จัดต้องรัฐบาลโดยไม่มีพลังประชาชน แต่ครั้นได้รับเลือก
กลับทรยศหันหลัง ซ้ำยังบิดเบือนและตอแหลหลักการ 5 ข้อที่ตนเองตั้งมาเพื่อเป็นเงื่อนไขร่วมรัฐบาล
-นายสนั่น ขจนประศาสน์ นักการเมืองโหลยโท่ยหลงยุคตกยุค แต่ยังหลงละเมอว่าตนเองมีศักยภาพ
อยากกลับมาเป็นผู้จัดการรัฐบาลใหม่ ซ้ำยังหวังสูง ริอ่านคิดจะเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งๆที่ตนเอง
ความรู้ความสามารถไม่มีอะไรมากไปกว่าแค่ เปิดสนามไดร์กอล์ฟ ทำไวน์ ขายเนื้อนกกระจอกเทศลองเลือกครับ ว่าใครสมควรโดนมากที่สุด!