บ่ายวันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัย กรณ๊ชิมไปบ่นไป ซึ่งอาจจะส่งผลให้นายสมัครพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และจะทำให้มีผลเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ในซีกรัฐบาล
ว่ากันว่า มีสัญญานส่งมาจากกลุ่มสมาชิสภาผู้แทนราษฏรในพรรคพลังประชาชนบางส่วน ว่าจะยังคงเลือกนายสมัครกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง แต่นั่นยังมิใช่มติพรรค เพราะยังไม่มีการประชุมพรรคเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเลย อีกทั้งการวินิจฉัยในครั้งนี้ ไม่มีบทลงโทษตามมาหลังจากให้พ้นตำแหน่ง นั่นหมายถึงนายสมัครไม่มีโทษทางการเมืองใดๆอีก นอกจากพ้นตำแหน่งที่มีอยู่ไปเท่านั้น
ในมุมของนายสมัคร นี่คือการวัดใจว่า เขาจะยังคุมอำนาจในพรรคพลังประชาชนได้หรือไม่ หากยังคุมได้ ก็ไม่ต้องทำอะไร ศาลตัดสินอย่างไรก็ช่างผลการตัดสิน แต่เมื่อเปิดสภาเลือกนายกรัฐมนตรี ก็ได้กลับมาอีกรอบ
แต่หากว่าเสียงในพรรคไม่แน่นอน การเสี่ยงเช่นนี้นายสมัครอาจจะหลุดจากขั้วการเมืองไปเลย และถูกลอยแพไปตายอย่างโดดเดี่ยว อีกทั้งยังเป็นการลดกระแสต่อต้านในตัวนายสมัครที่มีต่อพรรคอีกด้วย ถ้าสถานการณ์ย่ำแย่สำหรับนายสมัคร การยุบสภาน่าจะเป้นประโยชน์กับนายสมัครมากกว่า
แต่คดีที่รออยู่สำหรับนายสมัครนั้น ยังมีคดีหมิ่นประมาทอีกคดี ที่เชื่อกันว่าน่าจะไม่รอด นายสมัครอาจจะคำนึงถึงเรื่องดังกล่าว และเห็นว่าถึงจะยุบสภาหรือชิงอำนาจอย่างไร ก็ไม่รอดแล้ว น่าจะหาทางออกอื่น ที่ยังคงทำให้พรรคเห็นใจ โดยยอมสละชีพเพื่อเหลี่ยม พ้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรีไปเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแต่เพียงอย่างเดียว และรอความช่วยเหลือจากพรรคในกรณีต้องไปติดคุก
ส่วนพรรคพลังประชาชนเองนั้น คดียุบพรรคใกล้จะจบสิ้น ไม่ว่าอย่างไรพรรคนี้ต้องแตกแน่นอน การครองอำนาจในช่วงก่อนยุบพรรค ท่ามกลางกระแสต่อต้านที่รุนแรงหนักขึ้น ยากลำบากสำหรับทุกคนไม่ว่าใคร ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเองมีทางเลือกไม่มากนัก
หากจะดึงดันครองอำนาจต่อไปโดยไม่แยแสต่อการต่อต้าน ประเทศก็เสียหายหนักขึ้น และกลุ่มต่อต้านจะทวีจำนวนและแรงกดดันมากขึ้น
หากจะต่อสู้ ด้วยการใช้อำนาจรัฐเข้าปราบปราม นั่นหมายถึงจุดจบของทั้งพรรค ที่จะโดนต่อต้านอย่างหนักจากประชาชน เรียกได้ว่าพากันไปตายทั้งหมด เหมือนกรณ๊พรรคมารหลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ
หากจะต่อสู้ด้วยการใช้มวลชนเข้าชนมวลชน ก็ได้ทดลองทำมาแล้ว ด้วยการส่ง นปก.ติดอาวุธ เข้าโจมตีพันธมิตร นั้บตั้งแต่ที่อุดร มาจนถึงมัฆวาน ผลก็คือแนวร่วมของพันธมิตรมีมากขึ้น จนต้องยุติแผนนี้ไป ได้ไม่คุ้มเสีย อีกทั้งในช่วงแรกที่เข้าโจมตี ตำรวจทำเฉย ปล่อยให้ตีกันโดยเสรี แต่ขณะนี้มีทหารออกมาช่วยรักษาการ ซึ่งไม่แน่นักว่าทหารจะช่วยข้างไหน ดูแล้วไม่น่าเสี่ยง
อีกทั้งเมื่อนายสมัครพ้นเก้าอี้ไป แล้วขอพักดังกล่าว การเลือกตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะไม่พ้นคนสามคน คือ นายสุรพงษ์ นายสมชาย นายบรรหาร หรืออาจจะมีตาอยู่คนใดคนหนึ่ง โผล่มาขัดตาทัพ ซึ่งก็ยังเป็นคนในขั้วของรัฐบาล การต่อต้านก็จะยังไม่ยุติ อีกทั้งเป็นการเปลี่ยนโมเมนตั้มการกดดัน ซึ่งไม่แน่นักว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ อาจจะรับแรงกดดันนี้ได้ไม่ดีเท่านายสมัคร
ทางออกที่ผ่อนคลายที่สุด เห็นจะเป็นการเลือกตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่ต้องแน่ใจว่าจะอยู่ไปได้อีกหลายเดือน ไม่ต้องเสี่ยงคุกเช่นนายสมัคร โดยไม่ต้องสนใจความต้องการของนายสมัคร แล้วทำการยุบสภา หลังจากยื้อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อไปจัดกระบวนทัพ ย้ายพรรคกันใหม่ ลงเลือกตั้งกลับเข้ามาครองอำนาจ เพราะเมื่อยุบสภาแล้ว การต่อต้านของพันธมิตรย่อมอ่อนแรง เนื่องจากมีการคืนอำนาจให้ประชาชนไปแล้ว และไม่มีนายกรัฐมนตรีตัวจริงให้ไล่ ไม่มีสภาให้กดดัน ทางออกนี้น่าจะซื้อเวลาไปวัดพลังเงินกันใหม่ในสนามเลือกตั้ง
จึงสรุปทางออกได้เพียงสองทาง
สู้ตาย วัดดวง
ถอยก่อน ไปตั้งหลัก แต่ยังไม่ยอมแพ้
เลือกเอานะโยม
