ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
30-11-2024, 17:19
378,182
กระทู้ ใน
21,926
หัวข้อ โดย
9,412
สมาชิก
สมาชิกล่าสุด:
MAN4U
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ปฏิทิน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)
|
ทั่วไป
|
ห้องสาธารณะ
|
ปิดทางอนารยะขัดขืน ต้องแก้กันด้วยปชต. ชมพู่ยิ้ม-ตีปีกระริกระรี้ แบบปลากระดี่ได้น้ำ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า:
[
1
]
ส่งหัวข้อนี้
พิมพ์
ปิดทางอนารยะขัดขืน ต้องแก้กันด้วยปชต. ชมพู่ยิ้ม-ตีปีกระริกระรี้ แบบปลากระดี่ได้น้ำ (อ่าน 1121 ครั้ง)
ไต่กอแฉเหตุ
บุคคลทั่วไป
ปิดทางอนารยะขัดขืน ต้องแก้กันด้วยปชต. ชมพู่ยิ้ม-ตีปีกระริกระรี้ แบบปลากระดี่ได้น้ำ
«
เมื่อ:
07-09-2008, 16:51 »
เปิดฉากเดือนก.ย.มาปุ๊บ...ก็เลือดสาดปั๊บ เล่นเอาพวกฮาร์ดคอร์ส่งเสียงซี๊ดซ๊าดกันใหญ่ เพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์ สลายม็อบ เมื่อปลายเดือนที่แล้ว จากที่เคยมี แต้มต่อ ก็กลายเป็นว่า เกือบจะสิ้นท่า
เพราะกระแสตีกลับ...แบบ 360 องศา ชนิดเป็นใครก็ตั้งหลักไม่ทัน เพราะอย่างที่บอก...การทุบตี-ปืนจ่อหัว...เป็นใครก็รับไม่ได้ แม้ว่าม็อบจะเป็นฝ่ายกระทำผิดกฎหมายก็ตามที
เรียกได้ว่า...จากที่ Gang Street 5+1 จวนจะสิ้นท่า...ก็กลับกลายมาฮึกเหิม...เดินหน้าไล่ต้อน จมูกบานปากมาก ชนิดที่เรียกว่า สงครามครั้งสุดท้าย ต้องเอาให้จบให้ได้ ไม่งั้นเหนื่อยแน่ๆ
จะเห็นได้ว่า...ช่วงเวลานั้น กระแส เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ จนค่ำคืนของวันเริ่มต้นเดือนก.ย. ก็กลายเป็น ก.ย.ทมิฬ สมใจใครต่อหลายคน...ที่อยากให้เป็น
เมื่ออยู่ๆ มี ใบสั่ง จาก จอมอำมหิต ให้ ก๊วนนรกป่วนกรุง เคลื่อนพลจากสนามหลวงมาที่มัฆวานฯ ซึ่งเป็นถิ่นที่ Gang Street 5+1 ครอบครองอยู่
เท่านั้นแหล่ะพี่น้อง...เหมือนฉายหนังเรื่อง 2499 อันธพาลครองเมือง ยังงัยอย่างงั้น!!!
เพียงแต่ว่า...ปีนี้-พ.ศ.นี้ ต้องเรียกว่า 2551 อันธพาล 2 ฟากขอป่วนเมือง มากกว่า...555
เพราะ ปืน-มีด-ดาบ-หนังสติ๊ก แบบย้อนยุค 2499 นั้น...ต้องมีแน่นอนอยู่แล้ว
เพียงแต่รอบนี้-พ.ศ.นี้...มันพัฒนาก้าวไกลไปอีกขั้น...เลยต้องมี ไม้กอลฟ์-เหล็กแป๊บ-หมวกกันน็อค เพิ่มเข้าไปอีก
เรียกได้ว่า...ใครพลาด...เป็นโดน!!!
แต่แล้ว...เมื่อมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด...พร้อมๆ กับที่สื่ออย่าง BBC สามารถจับภาพชายฉกรรจ์เสื้อสีขาว ที่ยิงปืนใส่กลุ่มฝูงชน...ก็เป็นเรื่องที่น่าเฝ้าติดตามต่อไปว่า ชายฉกรรจ์ คนนี้...อยู่ในฝ่ายใดกันแน่
เพราะไม่ใช่เรื่องยากเลยในการสอบสวน...สามารถสืบสาว-สอบถามได้จาก ช่างภาพของBBC ได้ว่า...เหตุการณ์ตอนนั้น...ถ่ายทำจากจุดใด ฟากไหนเป็นฝ่ายกระทำใส่อีกฟากหนึ่ง!!!
แต่ที่หนักไปกว่านั้นก็คือ...การที่มีผู้เสียชีวิตอันเกิดจากการถูก ของแข็ง ฟาดเข้าไปเต็มๆ ที่ใบหน้า...ซึ่งใครๆ ได้เห็นก็รู้สึกอเน็จอนาถใจ
และเมื่อเป็นจุดเริ่มต้นแห่ง ก.ย.ทมิฬ ที่ดูเหมือนจะเริ่มร้อนแรงเข้าไปเรื่อยๆ...เพราะงานนี้ประเดิมด้วย เลือดสาด พร้อมๆ กับมีคนตาย
ซึ่งใครหลายคนก็คิดกันว่า...ต่อไปก็คงเกิดรายการ นองเลือด หนักแน่ๆ เพื่อหวัง เปลี่ยน ตามที่ใจต้องการ
เพราะเช้าวันที่เกิดเหตุนั้น...จู่ๆ ก็มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน!!! ที่เรียกว่า ช็อค ผู้คนในบ้านนี้-เมืองนี้...โดยเฉพาะกับพวกแวดวงธุรกิจ
ก็ขนาด พี่ใหญ่-อ.ย. ลงจากเครื่องปุ๊บในช่วงบ่ายๆ...ยังใส่ ง 2 ตัวเลยว่า...มันเกิดอะไรขึ้นหว่า!!! 555
เพราะนั่นเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก
และที่สำคัญมีการมอบอำนาจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดให้กับ ป๊อกเด้ง แห่งกองทัพสีเขียว
ซึ่งเวลานั้น...ใครต่อใครก็คิดว่า...จมูกบานปากมาก หวังหยิบยืมมือ ป๊อกเด้ง ที่กุมอำนาจ...เพื่อจัดการบรรดาแก๊งค์ข้างถนนให้สิ้นซาก...โดยเฉพาะที่บังอาจมายึดสถานที่ทำงานของตัวเค้า...ต้องกลายเป็น สัมภเวสี และทำให้เสียหน้ายิ่งนัก
สถานการณ์ในวันนั้น...พลิกผันไป-มาตลอดทั้งวัน...
เพราะฟากหนึ่งก็คิดว่า จมูกบานปากมาก มีการไฟเขียวให้พวกนรกป่วนกรุง เคลื่อนพลจากสนามหลวงมาเพื่อให้เกิดเรื่องและหวังเป็นเงื่อนไขให้เกิดเรื่อง เพื่อนำไปสู่การประกาศภาวะฉุกเฉิน
อีกฟากหนึ่งก็มองว่า พวกแก๊งค์ข้างถนนจงใจและเตรียมการให้เกิดเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว...เพื่อหวังขุดหลุมล่อให้ ใครหลายคน ตกหลุม...เพื่อจะได้เผด็จศึกได้โดยง่าย
และจะว่าไปแล้ว...ณ เวลานั้น-วันนั้น...ดูเหมือนว่า สถานการณ์ของ จมูกบานปากมาก ตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ...ชนิดที่คอการเมืองทั้งหลายต่างก็คิดว่า...ตายหยังเขียด!!!
เพราะสุดท้ายกลายเป็น ทหารผูกเชือกนานเกิน เลยมีการเม้าท์กันว่า สงสัย พ.ร.ก.(ไม่)ฉุกเฉิน...555
แถมในวันอังคารนั้นเอง...มีการยื่นคำขาดของ ผู้ถืออำนาจ คนหนึ่ง...ที่ส่งตรงไปถึง จมูกบานปากมาก ว่า...3 ทุ่มคืนนี้ต้องจบ...ไม่เช่นนั้นมีเรื่องแน่
แต่เมื่อ คำขาด ที่ว่านี้รู้ไปถึงหู ชายจมูกบานปากมาก ที่ใครๆ ก็รู้ว่า ดื้อด้าน เชื่อมั่นตัวเองสุดๆ ก็เลยมีรายการ แข็งขืน ไม่ยอมทำตาม!!!
เพราะเหตุที่ว่า...เย็นวันเดียวกันนั้น...ก็มีการประชุมระดับสุดยอดของ ผู้คน ในแดนสยาม!!!
ชนิดที่ คนธรรมดาๆ อย่างเราๆ...ไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องได้เลย!!!
และ ลึกแต่ไม่ลับ ในวงประชุมระดับสุดยอดนั่นเอง...มี บางคน เสนอให้ รวบหัวรวบหาง จัดการแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดกับ ชายจมูกบานปากมาก ที่เป็นหนึ่งในปมแห่งความขัดแย้งในบ้านเมือง
พร้อมๆ กับการเสนอทางออกให้มี อัศวินม้าขาว มาช่วยกู้หน้าแทนที่
แต่แล้ว...ข้อเสนอที่ว่านี้ก็ถูกเบรกด้วยคำพูดนิ่มๆ แต่ ทรงพลัง ที่ว่า ทำไม...ไม่ทำตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ปล่อยให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย
เท่านั้นแหล่ะ...เล่นเอา...หลายคนที่คิด เตรียมการ อะไรไว้...ต้องสะดุดกึกลงโดยใช้เบรกเอบีเอส...เอี๊ยดๆๆๆๆ
และเมื่อ คำพูดอันมีความหมาย ที่ ทรงพลัง นี้...ล่วงรู้ไปถึงหูของ คนจมูกบาน...ก็เหมือนยิ่งไปเติมเชื้อไฟแห่งความฮึกเหิม...เปรียบเหมือนเพลง อัสนี-วสันต์ ที่ว่า ระริกระรี้...ปลากระดี่ได้น้ำ ที่ทำอย่างไรก็แล้วแต่ กู ก็ต้อง สู้ จนถึงที่สุด...
แม้ว่าในวันรุ่งขึ้นจะมีรายการ ตอกย้ำ จาก ใครบางคน ด้วยการลาออกตามเลขานุการ อันเหมือนเป็นภาพของ สงครามตัวแทน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ ชายจมูกบานปากมาก รู้สึกย่ำแย่แต่อย่างใด
เพราะ เขา ได้เตรียมแผน รุก แบบชนิดที่คอการเมืองคาดไม่ถึง...ด้วยการขุดเหยื่อล่อ...เพราะตอนเย็นวันพุธ...ทำทีเป็นแจ้งให้ กรมกร๊วก ทราบว่า เช้าวันรุ่งขึ้น (พฤหัสฯ) จะไปแถลงเรื่องสำคัญ...ที่ทำให้ผู้คนต่างคิดกันไปต่างๆ นานา
โดยเฉพาะกับผู้ชุมนุมกับพวกแก๊งค์ข้างถนน...ที่ต่างเชื่อกันไปเองว่า...สงสัยจะไปร้องเพลงของ บิลลี่ โอแกน ว่า อย่างนี้ต้องลาออก แน่ๆ
เพราะเป็นครั้งแรกที่ติดต่อ ขอ ไปออกรายการวิทยุตอนเช้า...ท่ามกลางกระแสการเมืองที่เดือด และ ชายจมูกบานปากมาก ก็ตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำอยู่ และโดนบีบจากหลายฝ่าย
ถึงขนาด...ในวงผู้ชุมนุมของแก๊งค์ข้างถนนคึกสุดขีด...บางคนลางานเพื่อหวังมาฉลองชัยชนะ พร้อมๆ กับเช้าวันนั้นบนเวทีปราศรัยก็มีการถ่ายทอด เสียง ของ ชายจมูกบานปากมาก ให้ได้ฟังกันถ้วนหน้า
แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ กับเจอรายการ หักดิบ ถึงกับมี หลายคน น้ำตานองหน้า...แบบเจ็บใจ...พร้อมกับคำเย้ยหยันแบบเจ็บแสบของ ชายจมูกบานปากมาก ที่ว่า
ขอแสดงความผิดหวังกับพวกที่เตรียมการคิดว่า ผมจะมาประกาศลาออก ผมขอประกาศให้ฟังเลยว่าผมไม่ลาออก ผมจำเป็นต้องอยู่รักษาประชาธิปไตย รักษาสถานการณ์ของบ้านเมืองนี้ไว้ เพราะเราไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อน ผู้คนทั้งโลกเขาเฝ้าดูอยู่ ประชาชนทั้งประเทศต้องฉุกคิด ใครต่อใครก็ตามแต่ที่จะแห่ห้อมล้อมเข้าไป อยากถามว่ามันลัทธิอะไรกัน ลัทธิไม่พอใจแล้วเข้ายึดทำเนียบฯ แล้วชี้หน้าว่าต้องออกอย่างเดียว อย่างนี้มันไม่ไหว
ไม่เท่านั้น ชายจมูกบานปากมาก ยังทิ้งปมเด็ดไว้อีกว่า เวลานี้สถานการณ์บ้านเมืองมันผิดปกติเพียงเพราะเราประกาศภาวะฉุกเฉินเท่านั้น ส่วนทหารก็ไม่ปฏิวัติ ไม่ยึดอำนาจ และจะทำอย่างนุ่มนวล แต่ผู้คนพวกนั้นต้องออกจากทำเนียบฯ ทั้งหมดในเวลาใดเวลาหนึ่ง เขาจะต้องจัดการให้ออก ส่วนแกนนำทั้ง 9 คนก็ให้ไปศาลเพื่อขอประกันตัว จะได้จบเรื่อง แล้วก็สู้คดีกัน ทุกอย่างมันต้องจบในลักษณะนี้ จะจบลักษณะอื่นไม่ได้ ผมมาพูดวันนี้เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศฉุกคิดว่าจุดหมายปลายทางสำหรับคนที่ปลุกระดมไม่มี ผมขอประกาศอีกครั้งว่าผมไม่ลาออก แล้วผมก็ยังไม่ยุบสภา ผมจะอยู่เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตยของบ้านเมืองนี้ มันจะเป็นอย่างไรก็ตามแต่ ผมจะต้องเป็นคนรักษาระบอบประชาธิปไตย ป้องกันสถาบันไม่ให้ใครมาดูหมิ่น ถ้าผมทำอย่างนี้แล้ว ดูซิใครจะมาทำอย่างไร (ขอย้ำ...เน้นตรงคำที่ขีดเส้นใต้...555)
ทั้งนี้หากใครยังไม่เข้าใจ...ก็โปรดย้อนกลับไปอ่านข้อความข้างบนก่อนหน้านี้...ที่ว่า ทำไม...ไม่ทำตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ปล่อยให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย
และไม่เท่านั้น...ชายจมูกบานปากมาก ยังเล่นบทให้ สื่อ ต้องตามติด เพื่อจะได้โปรโมทข่าวที่ตัวเองต้องการ สื่อ ด้วยการไปออกรายการกับ ชายปากจัด ที่มีแฟนๆ ติดกันตรึม
นี่ยังไม่นับการเรียกประชุม แก๊งค์ขี้เหร่ นัดพิเศษ...แบบต้องการ โชว์พาว แล้วออกพ.ร.ก.อีก 2 ฉบับ...เพื่อทำการ รวบอำนาจ แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด...
เสมือนเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปถึง ใครบางคน ที่ ถืออำนาจ ว่า...คุณคิดผิดหรือป่าว!!!
งานนี้หากจับสังเกตให้ดี...เสมือนหนึ่งเป็นการปิดประตู ปฏิวัติ กลายๆ...เพราะหากไม่มี ไฟเขียว ใครคิดซ่าส์...คิดจะทำ...สุดท้ายก็เป็นได้แค่ กบฏ...แน่ๆ
ที่สำคัญงานนี้...กลายเป็นว่า บูมเมอแรง ตีกลับไปสู่ฟาก Gang Street 5+1 ที่ก่อนหน้านี้หมายมั่นปั้นมือว่า...สงครามครั้งนี้ต้องจบ
แต่สุดท้ายกลับยืดเยื้อต่อไปอีก...และดูเหมือนว่าบรรดาแกนนำเอง...ก็ไม่สามารถตอบโจทย์ให้สังคมได้ว่า เป้าหมายสุดท้าย จะเป็นอย่างไร???
เพราะผลักดันเงื่อนไขสุดโต่ง ลาออกก็ไม่เลิก-ยุบสภาก็ไม่จบ
ยิ่งการนำเสนอ การเมืองใหม่ ด้วยระบบ 70-30 ดูเหมือนจะเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ตกเป็นฝ่ายตั้งรับชนิดที่ ใครบางคน ก็อยากเขกกบาลตัวเองว่า...กูไม่น่าพูดเลย!!!
เพราะขนาดถูกสื่อซักถามเรื่อง เป้าหมาย หรือ จุดหมาย ว่าแท้ที่สุดแล้วจะเป็นอย่างไร...ก็ไม่สามารถตอบได้...แถมบางคนยังมีอารมณ์บูดกลับใส่สื่อเสียอีก
เมื่อตอบโจทย์สังคมไม่ได้...แถมการกระทำของบรรดาแกนนำเองก็กลับกลายเป็น อนารยะขัดขืน มากกว่าจะเป็น อารยะขัดขืน เสียอีก
เพราะ อนารยะ คือความป่าเถื่อน ขณะที่ อารยะ คือความเจริญ-ความศิวิไลซ์
ล่าสุดจะเห็นว่าสมาคมผู้ขนส่งสินค้าส่งออก...ก็สุดจะทน เตรียมล่ารายชื่อผู้ประกอบการ ถวายฎีกา แล้ว...เหตุเพราะว่า พนักงานท่าเรือฯหยุดงาน 3 วันทำเจ๊งกันไปแล้ว 1.5 พันล้าน!!!
นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่า...วันศุกร์สุดสัปดาห์...ที่ผ่านมา...เล่นเอา แกนนำ 5+1 ไปกันไม่เป็นเลย...หลายคนหายหัวหนี...บางคนก็อ้างว่าป่วย...บางคนก็หายตัวลึกลับ...ไม่เหมือนกับ 10 กว่าวันก่อนหน้านี้...ที่บรรดาแกนนำจะผลัดเวียนเปลี่ยนหน้ากันขึ้นเวที...เรียกเรตติ้ง...กระชากใจคนฟัง-คนดู
เพราะรู้ว่า...เกมไม่ได้เป็นไปตามที่ ออกแบบ กันเอาไว้!!!
งานนี้ก็ไม่รู้ว่า...เป้าหมายของใครหลายคน...ที่วาดหวังจะได้นั่งเก้าอี้ เสนาบดี แบบสามล้อถูกหวย...แบบไม่ลงทุน ถึงขนาดบางคนขอจองคิวล่วงหน้า...จะเป็น มท.2-มท.3 อาจจะแห้วก็ได้
เพราะสุดท้ายอาจเป็นแค่ ฝันเปียก ก็ได้...
แต่ที่น่าจับตามองยิ่งคือ...สถานการณ์นี้จะผ่านช่วง เปลี่ยนผ่าน นี้อย่างไร...เพื่อไม่ให้ เสียหน้า-เสียฟอร์ม
เวลานี้อยากให้มองข้ามช็อตว่า...มีความพยายามจะจุดกระแส พลังบริสุทธิ์ จากรั้วมหาลัย มาเป็นตัวนำแทน
เพื่อให้สังคมได้ตื่นตัวว่า...ขนาดเด็กๆ ยังทนไม่ได้...
เพราะขณะนี้ ประเด็น ที่จะจุดให้กับผู้มาชุมนุมในทำเนียบฯนั้น ฝ่อ เต็มที่...ไม่มีเรื่อง-ไม่มีประเด็นอะไรใหม่ๆ
จะเห็นได้ว่า...คืนวันที่เด็กรามฯเดินไปบ้านจมูกบานปากมาก กลางดึก นั้น...ก็เป็นยุทธศาสตร์หนึ่งที่หวังจุดชนวน...เพื่อให้เป็นประเด็นในการ เดินเกม ใหม่ เพราะดูๆ แล้ว มันไม่มีเหตุมีผลที่จะไปเดินชุมนุมในตอนค่ำคืน
เพราะงานนี้มีใครบางคนคาดหวังจะให้เหมือนเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ-14 ตุลาฯ ที่หวังให้ นศ.ลุกฮือ
แต่จะเป็นได้หรือไม่ได้...คงต้องเฝ้าติดตามรอฉากต่อไป ว่าเกมจะพลิกผัน กลับไป-กลับมา อีกหรือไม่ เพราะอย่างน้อยในวันถัดมา...ก็มีการปลุกให้นักศึกษาตื่นตัว ไปรวมตัวกันโชว์พลังที่หน้าสำนักงานตร.
ต้องขอบอกว่า...เกมการต่อสู้นี้ พลิกไป-พลิกมา จริงๆ...ขอบอก
ก็คิดดูละกัน...ขนาดฟ้า-ฝน...ยังไม่เป็นใจ...สุดสัปดาห์วันศุกร์มีฝนถล่มหนัก...แถม ลูกเห็บ ยังหล่นใส่กลุ่มผู้ชุมนุมของฟาก Gang Street 5+1 อีกด้วย...
งานนี้ ขาเม้าท์ ก็ช่างคิดเหลือเกินว่า...สงสัยเป็นลางบอกเหตุ...แต่จะดีหรือร้าย...ก็ไปคิดกันเอาเอง
แต่ที่แน่ๆ ชายจมูกชมพู่...ตีปีก-ระริกระรี้...แบบปลากระดี่ได้น้ำ จริงๆ เพราะงานนี้ งบประมาณ ก็ผ่านฉลุยวาระ 2 วาระ 3 รวดเดียวไปแล้ว
แถมปมขัดแย้ง...หลายฝ่ายก็พยายามใช้วิถีทางทางการเมืองตามระบบรัฐสภาในการแก้ไขปัญหา
โดยมีความพยายามที่จะทำอย่างไร...ไม่ให้ทุกฝ่าย เสียหน้า ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้... ชายจมูกชมพู่ ก็คงรับได้
ยิ่งล่าสุด ประธานสภาล่าง ก็รับบทเป็น กาวใจ ให้กับปมขัดแย้งนี้แล้ว เพราะเชื่อว่า ปัญหาบ้านเมืองยังไม่ถึงทางตัน
และสังคมไทยจำเป็นต้องเข้าใจหลักการเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยเสียใหม่
ยิ่งคำพูดอันศักดิ์สิทธิ์ที่ว่า
ทำไม...ไม่ทำตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ปล่อยให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย
นั่นหมายความว่า...สุดท้ายแล้ว หากยอมถอย กันคนละก้าว...ก็อาจมีทางออกด้วยการ ยุบสภา ก็เป็นได้ เพราะเป็นไปตามวิถีประชาธิปไตย...เช่นกัน
ดังนั้น...บูมเมอแรงจึงดีดกลับไปสู่ Gang Street 5+1 ที่ยังดื้อ ไม่ขอเจรจา และยังด้านที่จะ ยึดทำเนียบฯ ต่อไป
แต่อย่างน้อย...ก็มีใครคนหนึ่ง Gang Street 5+1...เปิดไต๋ออกมาแล้วว่า หากศึกครั้งนี้ จบ ก็จะขอ บวช แบบไม่สึก!!!
งานนี้ก็ไม่รู้ว่า...เป็นเพราะ รู้ ชะตากรรมตัวเอง...หรือเพื่อหวังอาศัย ธรรม เข้าช่วยบังหน้ากันแน่
เพราะ คดีความ ต่างๆ จ่อคิวเพียบ...และหลายคดีนั้น ก็ส่อแวว อาการน่าเป็นห่วง อีกด้วย
งานนี้เสมือนมีสัญญาณว่า ฟ้าฝน(เริ่ม)ไม่เป็นใจ แล้ว...555
...............................
คอลัมน์...ซุบซิบไทยอินไซเดอร์
โดย...ไต่กอ
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,523
Re: ปิดทางอนารยะขัดขืน ต้องแก้กันด้วยปชต. ชมพู่ยิ้ม-ตีปีกระริกระรี้ แบบปลากระดี่
«
ตอบ #1 เมื่อ:
07-09-2008, 17:02 »
มาเจิม
ก็อปแปะ สนุกไหม
บันทึกการเข้า
หน้า:
[
1
]
ส่งหัวข้อนี้
พิมพ์
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
ทั่วไป
-----------------------------
=> ตะกร้าข่าว
=> ห้องสาธารณะ
=> สภากาแฟ
=> ชายคาพักใจ
=> ร้อยรักษ์กวีวรรณ
=> สโมสรริมน้ำ
-----------------------------
ด้านเทคนิค
-----------------------------
=> ปัญหาการใช้งาน
=> ห้องทดสอบ
===> ทดสอบบอร์ดย่อย
Powered by SMF 1.1.20
|
SMF © 2005, Simple Machines
|
Thai language by ThaiSMF
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.122 วินาที กับ 21 คำสั่ง