........ ท่านทั้งหลายคงไม่ลืมว่า พรก.ฉุกเฉิน นี้ ได้สำเร็จเสร็จสิ้น เป็นมรดก "
อเวจี " ของ "ทักษิณ ชิณวัตร" ตั้งแต่ปี2548 พรก.ดังกล่าวนี้มีเนื้อหาระบุให้อำนาจนายกรัฐมนตรีแบบครอบจักรวาล และมีอำนาจเหนืออำนาจทั้งปวง แม้กระทั่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะต้องเรียกว่า "
พรก.ประธานาธิบดี " จึงจะถูกต้อง ได้มีการคัดค้านจากนักวิชาการ และประชาชนทั่วไป จนไม่อาจนำมาประกาศใช้ได้ในขณะนั้น จนกระทั่ง ทักษิณต้องหลบหนีออกนอกประเทศไปเนื่องจากรัฐประหาร ....และประชาชนก็พากันลืมเลือน
....ที่มาของ พรก.ฉุกเฉินฯ มีที่มาที่ชโลมด้วยเลือดของชนมุสลิมที่ "กรือเซะ" ที่เราเรียกว่า "ตากใบ" นั้นเป็นสถานการณ์ที่ถูกสร้างขึ้นให้เจือสม เพื่อให้ใช้อ้างออก พรก.ฉุกเฉินฯ เรื่องนี้ พัลลภ รู้ซึ้งดีกว่าใคร และ ผู้ที่ต้องกระเด็นออกไป เพราะเผลอพูดความนัยแห่ง พรก.ฉุกเฉิน ฯ นี้ ก็คือ จิ๋ว และที่น่าสังเกตุอย่างหนึ่งว่า เหตุการณ์ตากใบ ได้เกิดขึ้น ภายหลังที่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้เดินทางไปปักษ์ใต้ และแล้ว พรก.ฉุกเฉินฯ ก็ถูกเร่งร่างขึ้นและผ่านสภาอย่างง่ายดาย....
....และ ณ เวลาปัจจุบัน ตัวประธานาธิบดีสหรัฐ ได้เดินทางมายังประเทศไทย ในภาวะที่ประเทศไทยมีสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน และหลังจากนั้นก็เกิดการปะทะ ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ชุมนุม ลุกลามไปจนถึงการปะทะกันระหว่างม๊อบ จนทำให้นายสมัคร อ้างเป็นกรณีประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินฯ !!
..........มันเป็นเรื่องบังเอิญ.... หรือ ...คนละเรื่องเดียวกันหรือเปล่า ??? !!! ใจเย็น ๆ คิด ช้า ๆ ก็ได้... คำถามคือ นายบูช มาเมืองไทยเรื่องอะไร ? มีอะไรสำคัญขนาดไหน ที่ระดับผู้นำระดับโลกจึงต้องแวะมาหานายสมัคร ??? แล้วข้อราชการที่บินตรงมาปรึกษากับนายสมัครคืออะไร ??? ใครตอบได้บ้าง ??? ....ตามความเป็นจริง...ในการที่ได้เห็น ผบ.ทบ. กล่าวตอบนักข่าว ภายหลังมีการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินฯ จะเห็นว่า พลเอกอนุพงษ์ ฯ จะทำหน้าที่เพียง "
เจรจา" กับ พธม.ผู้ชุมนุม เท่านั้น ไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้น !!!!
....หากเป็นเพียงการจะให้ ผบ.ทบ.(พลเอก อนุพงษ์) ไปเจรจากับ พธม.ที่ชุมนุมนั้น นายสมัคร ก็สามารถสั่งการได้โดยตรง เพราะเป็นผู้บังคับบัญชา คือมีตำแหน่งเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บังคับบัญชาของทั้ง 3 เหล่าทัพอยู่แล้ว ทำไมไม่เลือกออกคำสั่งถึง ผบ.ทบ. แต่กลับเลือกประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินฯ ซึ่ง ผบ.ทบ.ก็จะทำหน้าที่เพียงการ "เจรจา" มันไม่สมเหตุสมผล และไม่ใช่สายงานปฏิบัติราชการอันควรเป็น
.....ดังนั้น เรื่องนี้จึงมีเบื้องหลัง ที่ซ่อนเร้น แอบแฝง อาศัยสถานการณ์ที่จงใจสร้าง (ต้องใช้คำว่าจงใจ เพราะจะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ เนื่องจาก สส.ในพรรค เป็นผู้นำ นปก.มาก่อเหตุกับพันธมิตร) เรามาดูตัวอย่าง เล็ก ๆ สัก 2 ตัวอย่างที่เห็นชัด ๆ ก่อน
...... 2ก.ย.2551 เป็นวันเดียวกับที่นายสมัคร สุนทรเวช ประกาศ พรก.ฉุกเฉินนั้น ...
ที่ประชุม กกต.มีมติเอกฉันท์ เสนอยุบพรรคพลังประชาชน จากกรณีที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีต รองหัวหน้าพรรคถูกเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง โดยที่ประชุมกกต.ลงมติเป็นเอกฉันท์ เสนอให้ยุบพรรคพลังประชาชน ..... แต่เมื่อ นายสมัคร ประกาศ พรก.ฉุกเฉินฯ ตัดหน้าเสียก่อน นั่นหมายถึงว่า อำนาจศาลใด ๆ ก็มิอาจใช้บังคับได้กับบุคคลในรัฐบาล ซึ่งได้ทราบว่าวันนี้ 3 กย.2551 ทางทนายพันธมิตร จะไปยื่นศาลปกครอง ให้มีคำสั่งระงับการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน ก็จะขอเรียนให้คณะทนายพันธมิตร ได้ทราบเสียตรงนี้เลยว่า "
พรก.ฉุกเฉินฯ เมื่อประกาศใช้แล้ว ย่อมอยู่เหนืออำนาจศาลใด ๆ ไม่เว้นแม้แต่ศาลปกครองสูงสุด และศาลรัฐธรรมนูญด้วย " จึงขอให้คณะทนายพันธมิตร โปรดได้ศึกษารายละเอียดใน พรก.ให้เรียบร้อยเสียก่อนที่จะ "
หน้าแตก " อันจะก่อให้เกิดความเสียขวัญของผู้ชุมนุมได้อีกด้วย
ดังนั้น การดำเนินคดีใด ๆ กับนายสมัคร มิอาจกระทำใด้โดยสิ้นเชิง เมื่ออยู่ในภาวะระยะเวลาของการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน
.....ยิ่งไปกว่านั้น ความฉ้อฉล ซับซ้อน ซ่อนกล ที่แฝงไว้ในการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินนี้ ยังส่งผลไปช่วยให้คดีศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งมีคำสั่งรับฟ้องกรณีที่อัยการสูงสุด ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในข้อหาทุจริตโดยออก ก.ม.แก้ไขค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือ-ดาวเทียม เป็นภาษีสรรพสามิต เอื้อประโยชน์ให้ บ.ชินคอร์ป ทำรัฐเสียหาย
66,000 ล้าน นั้น ซึ่งทักษิณจะต้องชดใช้แก่รัฐ เป็นอันต้องสดุดหยุดลง ไม่อาจดำเนินต่อไปตามคัลลองของกฏหมายได้ ตราบเท่าที่ยังอยู่ในภาวะการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน ...นี่คือ การช่วยเหลือ "
แทนคุณ นายใหญ่" ได้ทันตามTime Table ซึ่งได้วางไว้ โดยอาศัยการจัดฉาก ให้ สส.พปช.อุดรฯ , เสธ.แดง ฯลฯ นำกำลัง นปก.เข้าลุย พธม. อย่างไร้เหตุผล โดยไม่มีการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด ก็ด้วยเหตุผลว่า...ต้นทุนมันสูง..และเสี่ยงต่อการที่จะไม่เกิดเหตุปะทะกันในตอนดึก เพื่อเป็นเงื่อนไขในการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน ในตอนเช้า ดังปรากฏเป็นข่าวตามสื่อมวลชนดังทราบกันทั่วไปแล้ว
ยัง...ยังมีสิ่งสำคัญ ที่หากท่านทั้งหลายได้รับรู้ จะตกใจหงายท้องหล่นจากเก้าอี้...ว่าแผนการณ์ที่วางไว้ต่อจากนี้คืออะไร ...?