โดยทั่วไปทางออกของสมัคร สุนทรเวชนั้น จะต้องเลือกวิธีการลาออก หรือไม่ก็ยุบสภา
แล้วอะไร คือสิ่งที่ทำให้ตัวนายสมัคร ต้องเลือกการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาใช้ในการจัดการกับ พันธมิตร
สมัครต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ เพื่อต้องการยื้อเวลาเพื่อให้สิ่งที่ตนเองต้องจัดการ สำเร็จลุล่วงไปก่อน นั่นคือ
เหตุผลอันที่ 1 คือ เงินงบประมาณ โดยเฉพาะโครงการอุโมงค์ผันน้ำโขง ซึ่งก่อนหน้านี้เอง ที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสเตือน เกี่ยวกับเรื่องการใช้จ่ายเงินงบประมาณ
เหตุผลอันที่ 2 คือ การกำหนดพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ เพราะเมื่อมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกมาแล้วนั้น หากรัฐบาลจะทำการอะไร ใครก็ค้านไม่ได้ เนื่องจากอาจผิดข้อหา ฐานเป็นกบฎ ซึ่งโทษถึงประหารชีวิต
ประเด็นนี้ เป็นประเด็นที่สำคัญยิ่ง คือ การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะสามารถหยุดการทำงานของ กกต.และศาลปกครองได้
เพราะว่า การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะมีอำนาจเหนือศาลปกครองทั้งหมด
ที่สามารถหยุดได้ทุกคดีความ ไม่ว่า จะเป็นคดียุบพรรค หรือคดียึดทรัพย์ของนายทักษิณ ชินวัตร
โดยอำนาจการตัดสินใจทั้งหมด
จะอยู่ที่นายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว จนกว่า จะมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินหากพิจารณาตามจริงแล้ว ถ้าสมัครต้องการเพียงแค่ให้ พล.อ.อนุพงษ์ เข้ามาเจรจา ไกล่เกลี่ยกับฝ่ายพันธมิตร ก็ไม่มีเหตุจำเป็นอันใด ในการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เนื่องด้วยนายสมัคร สุนทรเวชเอง ก็เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงอยู่แล้ว
และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อได้มีการประกาศใช้แล้ว ก็ไม่ได้มีกำหนดระยะเวลาในการยกเลิก เนื่องจากขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว....
จึงแจ้งมาให้ทราบโดยทั่วกัน อีกครั้งหนึ่ง
ด้วยความสำนึกและตอบแทนบุญคุณประเทศชาติ