ผมเขียนคอลัมน์นี้ก่อนที่สองสภาจะเริ่มเปิดอภิปรายทั่วไป เพราะ นายกฯ สมัคร สุนทรเวช บอกว่า จะฟังความเห็นของผู้แทนฯ และสมาชิกวุฒิสภาเพื่อหาทางออกจากวิกฤติของประเทศ
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : แต่ฟังคุณสมัครพูดในรายการ "สนทนาประสาสมัคร" ตอนเช้าเมื่อวานแล้ว ก็รู้ว่านายกฯคนนี้ไม่ได้ต้องการจะฟังความเห็นของสมาชิกสภา เพื่อจะนำมาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองหรอก...เพราะยังไม่ทันจะเริ่มอภิปราย คุณสมัคร ก็พูดดักหน้าคนที่มีความเห็นแตกต่างกับเขาเสียแล้ว
ตอนหนึ่งในรายการ (ที่คอข่าวการเมืองคนหนึ่งเรียกว่าเป็นรายการ "ราดน้ำมันใส่กองไฟประจำสัปดาห์") นั้น คุณสมัคร บอกว่า
"...ผมต้องขอบคุณคุณบรรหาร ศิลปอาชา ที่คิดถึงเรื่องนี้ ท่านบอกว่ารัฐบาลก็เอาไม่อยู่ ศาลก็เอาไม่อยู่ สภา จะเอาบ่ายวันนี้ บ่ายโมงครึ่ง...ผมเซ็นหนังสือให้ทันที ขอเปิดทันที...วันนี้ ถ้าพูดกันตามสำนวนชาวบ้าน ทุกคนก็จะใส่ผ้าขะม้า ผู้หญิงก็จะนุ่งกระโจมอกมา...วันนี้จะได้ดูว่าใครนุ่งกางเกงชั้นในสีอะไร...ใครจะแสดงความคิดเห็นอย่างไรก็ได้รู้กันวันนี้ ใครจะเข้าข้างใครก็เชิญเลย...วุฒิสมาชิก 30 คนขึ้นเวทีไปแล้ว...สมาชิกพรรคฝ่ายค้านใหญ่บางคนก็ขึ้นไปปราศรัยแล้ว เมื่อคืนนี้ก็ขึ้นไปแล้ว..."
แค่พูดอย่างนี้ก็รู้แล้วว่าคุณสมัคร ยังยืนกรานอยู่ในความคิดของตัวเอง ไม่ได้ต้องการที่จะฟังความเห็นของสภาจริงๆ อย่างที่อ้างหรอก แต่ที่ทำจดหมายขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติตามข้อแนะนำของหัวหน้าพรรคชาติไทย นั้น ก็เป็นการซื้อเวลาเพื่อจะยื้อเพื่อตัวเองจะไม่ต้องลงจากตำแหน่งเท่านั้น
ฟังจากคุณสมัคร ตอนเช้าแล้ว ผมยิ่งเชื่อว่าเขาหมดสภาพแล้ว หมดทั้งความชอบธรรม และหมดทั้งความน่าเชื่อถือในฐานะผู้นำประเทศ
ประเทศไทยมีกรรมอะไรหรือจึงได้ผู้นำอย่างนี้ในวันนี้?
เพราะเขาด่าทุกคนนอกจากตัวเอง...ด่าแม้กระทั่งยามรักษาความปลอดภัยของสนามบินภูเก็ต ที่ไม่เข้าไปขัดขวางการเข้าไปที่สนามบินของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตลอดไปถึงการ์ตูนนิสต์การเมืองที่แสดงความเห็นอันเป็นอิสระของตนเอง
คุณสมัครใช้คำว่า "ช้ำใจ" และ "น่าร้องไห้" และ "เจ็บช้ำน้ำใจ" กับศาลปกครอง ผู้นำสหภาพแรงงาน และสื่อสารมวลชน
นายกฯ คนนี้ ดูถูกผู้เข้าร่วมชุมนุมประท้วงรัฐบาลนั้นเป็น "หุ่นยนต์" ประหนึ่งว่าคนเป็นเรือนหมื่นเรือนแสนที่รวมตัวกันมาเกือบ 100 วัน เพื่อเรียกร้องให้เขาลาออกและโค่นระบอบทักษิณนั้น เป็นคนไร้ความคิดหรือขาดสติปัญญา
ในฐานะที่คุณสมัครเป็นนายกฯ ของประเทศ แต่ไม่แสดงความเสียใจและเห็นใจผู้ที่ถูกตำรวจทุบตีทำร้ายแม้แต่คำเดียว ตรงกันข้ามกลับกล่าวร้ายป้ายสีอย่างมีคติรุนแรงนั้น เป็นการตอกย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าเขาไม่อาจจะเรียกตัวเองว่าเป็นผู้นำของประชาชนคนไทยได้อีกต่อไป
นายกฯ อ้างว่า ตำรวจไม่ได้ยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ประท้วง แต่ก็ไม่อาจจะกล่าวอ้างเหตุผลหรือหลักฐานอันใดที่จะยืนยันในคำพูดของตัวเองได้เลยแม้แต่น้อย
ในฐานะผู้นำประเทศ เมื่อมีผู้ถูกทำร้ายด้วยแก๊สน้ำตา ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายกระทำก็ตาม เขาจะต้องเดือดร้อนและต้องสืบหาผู้ก่อเหตุให้ได้...ไม่ใช่ว่าเมื่อถูกบาดเจ็บเป็นผู้ที่เขาไม่ชอบ คุณสมัคร ก็แค่อ้างว่าตำรวจไม่ได้ทำเท่านั้น เป็นผู้นำที่สิ้นไร้ไม้ตอกแล้วจริงๆ
ฟังสิ่งที่คุณสมัครพูดเมื่อวานนี้ให้ละเอียดจะเห็นว่าคุณสมัคร เห็นทุกคนในประเทศเป็นศัตรูของตัวเองหมดแล้ว ยกเว้นคุณบรรหาร สามพิธีกรของรายการ "ความจริงวันนี้" และคนทำข่าวบางคนของ NBT เท่านั้น
นอกนั้น คุณสมัคร ประกาศชัดว่าเป็นศัตรูของเขาหมดแล้ว
และคาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าได้เลยว่าการอภิปรายทั่วไปในสภาที่เริ่มตอบบ่ายโมงครึ่งเมื่อวานนี้ก็คงไม่อาจจะหาทางออกให้กับวิกฤติของบ้านเมืองได้
เพราะเหตุแห่งวิกฤติคนนี้กำลังชี้นิ้วด่ากราดทุกคนที่เห็นแย้งกับเขา
เขายืนยันว่าเขา "ไม่มีวันที่จะลาออก ไม่มีวันถอดใจ ไม่มีวันถอย..."
แปลว่าเขาประกาศจะลากเอาประเทศชาติลงเหวไปกับเขาด้วย
ทุกนาทีที่สมัครนั่งต่อในตำแหน่งนายกฯ คือ ดีกรีแห่งความหายนะของบ้านเมืองที่เพิ่มขึ้น
http://www.bangkokbiznews.com/2008/09/01/news_290335.php