70 / 30 ผมไม่สน ผมสนระบบที่เราจะควบคุมเงินภาษีของเราได้มากกว่า

[เพื่อนร่วมชาติ]

ฟัง สส. ฝ่ายรัฐบาลอภิปรายเมื่อวานนี้แล้ว

บอกตามตรงว่า

โคร่ดเสียดายเงินภาษีที่จ่ายไปจริง ๆ

โดยเฉพาะตอนที่ ส.ส. หญิงจังหวัดมุกดาหาร พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา

บอกว่าเธอได้เงินเดือนบวกเบี้ยประชุม เดือนละเก้าหมื่น

แล้วก็สรุปด้วยคำวิงวอนหมักเมถุนว่า อย่ายุบสภานะคร้า

หลังจากนั้น ส.ส. คุณภาพของฝ่ายรัฐบาล ก็ยังย่ำยีหัวใจประชาชนต่อ

ด้วยการจงใจโกหกและบิดเบือนกลางสภา สลับกับการพล่ามไม่เป็นสาระ

ผมนึกถึงภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ฯลฯ

ว่ามันต้องเอาไปจ่ายเป็นเงินเดือนแพง ๆ ให้คนพรรค์นี้

แล้วก็จ่ายให้รัฐบาลขายชาติ หาผลประโยชน์ให้พวกพ้อง

แล้วก็จ่ายให้ตำรวจที่กลับมาใช้ความรุนแรงกับประชาชน

แล้วก็จ่ายให้นักการเมืองขนคนมาร่วมงานของราชการ เพื่อฉวยโอกาสมาสร้างม็อบชนม็อบ

พูดตรง ๆ นะ ตอนนี้ผมแทบไม่รู้สึกผิดเลย ถ้าผมเลี่ยงภาษีได้

แต่ผมจะเต็มใจจ่ายภาษีครบถ้วน หรืออาจจะยอมจ่ายมากกว่าที่จ่ายอยู่ในปัจจุบันด้วยซ้ำ

ถ้าผมมั่นใจว่าเงินนั้นนำไปสู่ประโยชน์ของประเทศชาติจริง ๆ

นำไปจ่ายเป็นเงินเดือนของคนที่จริงใจต่อประเทศชาติ

ใครที่กำลังคิดการเมืองใหม่ ผมอยากเสนอให้พิจารณากลไกอันนี้ดู

กลไกที่ให้ประชาชนมีช่องทางควบคุมเงินภาษีของตน

กลไกที่เราสั่งได้ว่า อนุญาตหรือไม่อนุญาตให้เอาภาษีของเราไปจ่ายเป็นเงินเดือนรัฐมนตรี สส ฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน 

ส่วนเรื่องงบประมาณแผ่นดินที่ใช้ในการดำเนินงานราชการก็อยู่ตามปกติ

แต่แยกบัญชีเงินเดือนนักการเมืองออกมาเป็นชุด ๆ ของรัฐบาล ฝ่ายค้าน

ถ้าเงินเข้าบัญชีมากพอจะจ่ายได้ตามฐานเงินเดือนที่ตั้งไว้ ก็จ่ายไป

แต่ถ้าประชาชนไม่พอใจมาก ๆ จนเงินบัญชีนั้นร่อยหรอ ไม่เพียงพอจะจ่ายเต็ม ก็จ่ายให้เท่าทีมีในบัญชี

ผมเชื่อว่าระบบคอมพิวเตอร์ปัจจุบันสามารถทำได้ แม้ว่าอาจจะยุ่งยากหน่อย

และอาจเป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่ประชาชนจะควบคุมนักการเมืองในช่วงที่คนเหล่านั้นกำลังปฏิบัติหน้าที่

พูดง่าย ๆ ให้เจ้าของประเทศได้มีโอกาสตัดเงินเดือนลูกจ้างที่ทำงานไม่ถูกใจ